December 2022

พามาเบิ่ง เส้นทาง “โอชิเน” ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังประดับประเทศ

“เชฟหนุ่ม-กิตติศักดิ์ ลีล้อม” เขาเป็นคนอุบลฯ แท้ ๆ เกิดและเติบโตที่บ้านหนองเม็ก ตำบลหนองช้างใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ หลังจากเรียนจบมัธยมต้น ด้วยความที่บ้านมีฐานะค่อนข้างยากจน เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อ แต่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำงานตามคำชักชวนของพี่ที่รู้จัก จุดหมายปลายทางคือร้านอาหารญี่ปุ่นเล็ก ๆ ย่านสุขุมวิท ณ เวลานั้น เด็กชายหนุ่มอายุ 17 ปี ตั้งเป้าหมายชีวิตเพียงว่าอยากมีหน้าที่การงานมั่นคง ส่งเสียตัวเองและครอบครัวได้ แต่หารู้ไม่ว่า อีกสิบกว่าปีต่อมา เขาจะกลายเป็นผู้บริหารร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีสาขาทั่วประเทศ ทำรายได้เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างงานสร้างรายได้ให้พี่น้องชาวอุบลฯ ตลอดจนคนหนุ่มสาวในภาคอีสาน รวมแล้วเฉียดพันชีวิต วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาดูจุดเริ่มต้นของ “โอชิเน” ว่าเป็นอย่างไร? หลังเรียนจบมัธยมต้น เชฟหนุ่มตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ มาทำงานที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ถนัดเรื่องการเรียนเท่าไหร่ อยากลองทำงานหาเงินแล้ว จึงตัดสินใจไปทำ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 11 มีเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่น พอไปถึงเขาก็สอนทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานอย่างการล้างผัก การเตรียมวัตถุดิบ การเก็บรักษาวัตถุดิบ ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ผมได้ฝึกกับเชฟคนญี่ปุ่นโดยตรง ทำให้ได้ซึมซับความเป็นระบบระเบียบมา อย่างที่ทราบว่าคนญี่ปุ่นเขาค่อนข้างเข้มงวด ทุกอย่างต้องเป๊ะตามมาตรฐานที่เขากำหนดไว้ เมื่อทำได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้น เชฟหนุ่มจึงเกิดความคิดว่า ถ้าเราเปลี่ยนร้านไปเรื่อย ๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากที่ใหม่ ๆ ก็น่าจะพัฒนาฝีมือตัวเองได้ พูดง่าย ๆ คือได้ทั้งประสบการณ์ ทั้งฝีมือ ทั้งเงินเดือน เชฟหนุ่มเลยตัดสินใจย้ายไปอีกที่หนึ่ง เป็นร้านที่ 2 ร้านนี้โดดเด่นเรื่องเส้นโซบะสด ทำจากแป้ง Buckweed ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็มีวัตถุดิบพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น เช่น ปลาฮามาจิ ปลาหายากหลายชนิด ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่เราไม่เคยเห็นที่ร้านเก่า ทำให้ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มอีกมากมาย หลังจากนั้นเชฟหนุ่มย้ายร้านอีกประมาณ 2 – 3 ที่ ทั้งร้านอิซากายะ ร้านเทปปันยากิ ร้านที่เน้นเสิร์ฟเซ็ตเบนโตะ เรียกว่าได้ทำครบเกือบทุกประเภทของอาหารญี่ปุ่น จนมีโอกาสได้ไปทำที่ร้าน Tensui ทำอยู่ประมาณ 2 ปีก็ย้ายไปอยู่ร้าน Honmono Sushi ของเชฟบุญธรรม ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ช่วงที่ทำอยู่กับเชฟบุญธรรและเชฟบรรณฑูร ทั้งสองคนเป็นทั้งหัวหน้างานและอาจารย์ที่เชฟหนุ่มเคารพ สิ่งที่เชฟทั้งสองสอนนอกเหนือไปจากเรื่องการทำอาหาร คือเรื่องความสม่ำเสมอ หมั่นฝึกฝน พูดง่าย ๆ ว่าเมนูเดิม ทำ 10 ครั้งต้องเหมือนเดิมทั้ง 10 ครั้ง ถ้าทำได้แบบนั้นถือว่าโอเค ซึ่งต้องเริ่มจากการรู้ทฤษฎีก่อน ต้องมีความรู้ก่อน เมื่อทฤษฎีแม่น ก็ลองปฏิบัติ ฝึกฝนจนชำนาญเพื่อลดการสูญเสียหรือผิดพลาดให้น้อยที่สุด พอทำที่ Honmono Sushi ได้ประมาณ 1 ปี มีงานที่ต่างประเทศติดต่อเข้ามา ให้เชฟหนุ่มไปเป็นเชฟประจำร้านอาหารที่อเมริกา …

พามาเบิ่ง เส้นทาง “โอชิเน” ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังประดับประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

ฮู้บ่ว่า การใช้เนื้อที่ดินทางการเกษตร ภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋?

ฮู้บ่ว่า การใช้เนื้อที่ดินทางการเกษตร ภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋?   การใช้ประโยชน์ที่ดินทางการเกษตร ในการปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับพืชไร่ ไม้ผลและไม้ยืนต้น  โดยการใช้ประโยชน์ของที่ดินส่งผลต่อปริมาณของผลผลิต ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่เป็นแนวทางการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ยกตัวอย่างเช่น โครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล โดยแรงโน้มถ่วงระยะที่ 1 ช่วงปากแม่น้ำเลย – เขื่อนอุบลรัตน์ เป็นการผันน้ำโขงมาเติมที่เขื่อนอุบลรัตน์ ในช่วงฤดูแล้ง หากดำเนินแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานเปิดใหม่ได้ 1.67 ล้านไร่ และมีน้ำไปเติมให้กับเขื่อนอุบลรัตน์ประมาณ 130 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี  ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้กับพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย   อ้างอิงจาก: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การเกษตร #การเกษตรอีสาน #ที่ดิน #ที่ดินอีสาน

พาส่องเบิ่ง “ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์” อาณาจักรขายปลีกวัสดุก่อสร้าง

บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2512 ที่จังหวัดขอนแก่น โดยเริ่มจากการเป็นธุรกิจครอบครัว มีหน้าร้านเป็นห้องแถว 2 ห้อง ก่อนจะขยายธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงสู่ปีที่ 53 โดยปัจจุบันมีหน้าร้านเป็นอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และมีการขยายสาขาไปจังหวัดอื่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย ด้วยความมุ่งมั่นในการบริการและเอาใจใส่ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง จึงได้ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือสำหรับช่าง งานเหล็กทุกชนิด วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ด้านงานโลจิสติกส์ โดยมุ่งเน้นสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม และยึดหลักในการอำนวยให้ความสะดวกลูกค้าว่า “มาที่นี่ได้ของครบจบในที่เดียว” (One Place Has All) แม้ปัจจุบันจะมีการเปิดสาขาใหม่ของกลุ่มทุนโมเดิร์นเทรดที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งจังหวัดหัวเมืองใหญ่อย่างขอนแก่น แต่ด้วยความที่บริษัทมีทีมงานคอยแนะนำและให้คำปรึกษากับลูกค้า รวมถึงการจัดสรรสินค้าให้อย่างรวดเร็ว เช่น หากมาที่ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์ลูกค้าจะได้รับบริการที่รวดเร็วและได้สินค้าครบภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดส่งหริการหาสินค้าตรงกับความต้องการลูกค้าอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือ ส่วนในกรณีที่ซื้อสินค้าไปแล้วมีปัญหาสามารถนำกลับมาให้ทีมงานช่วยแก้ไขได้ รวมทั้งสินค้าบางรายการที่ไม่สามารถหาซื้อตามออนไลน์หรือหาซื้อตามร้านอื่นไม่ได้ ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์สามารถจัดหาให้ได้ อีกทั้งบริษัทมีทีมพนักงานขายที่เชี่ยวชาญในการบริการกับลูกค้าในหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน โรงงานอุตสาหกรรม หรือกลุ่มลูกค้าตามหมู่บ้าน อีกทั้งยังมีระบบจัดส่งที่บริการลูกค้าได้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และอุดรธานี โดยทุกครั้งที่ทีมขายลงพื้นที่จะมีให้คำปรึกษาและสอบถามถึงความต้องการของลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ ทำให้ลูกค้าประทับใจและเลือกใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ช่วงนั้นร้าน Modern Trade ต่างๆ มียอดขายลดลงและหลายแห่งที่ต้องปิดกิจการ แต่ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์ยังสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการมี Long Term Relationship ที่ดีกับลูกค้า ทำให้ถูกนึกถึงเป็นเจ้าแรกเมื่อต้องการซื้อสินค้า ปัจจุบันไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์ มีการรวมทุกช่องทางที่ลูกค้าติดต่อแบรนด์ (Omni Channel) ได้ แม้รายได้หลักจะมาจากการขายผ่านหน้าร้านและการบริการลูกค้าถึงที่ แต่ก็ต้องมีช่องทางออนไลน์ด้วย เช่น Facebook, Shopee และ Line เพื่อส่งเสริมยอดขาย ทำให้เป็นที่รู้จัก ตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในการเข้าถึงสินค้า โดยสิ่งสำคัญที่บริษัทต้องมีก็คือ “ทีมงาน” ที่เข้าใจวัฒนธรรมและบริบทของคนในพื้นที่นั้นๆ เพื่อการวางแผนพัฒนาด้านการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เส้นทางธุรกิจของ “ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์” เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า แม้กระแสตลาดออนไลน์จะมาแรง แต่บางธุรกิจกลับเหมาะแบบออฟไลน์มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นทุกองค์กรก็ควรมีการตลาดแบบ Omni Channel โดยสิ่งที่ทุกบริษัทควรทำก็คือ การมีบริการที่ดี รวมถึงการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าไว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งสิ่งนี้ได้กลายเป็นจุดแข็งในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยาวนานกว่า 53 ปีของ “ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์” อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbanksme.com/…/local-hero-thaipipat… https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0405529000165 https://www.tpphw.co.th/about-tpphw #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์ #วัสดุก่อสร้าง #ขอนแก่น

พามาเบิ่ง 7 อันดับ สินค้ายอดฮิต ส่งออกชายแดนไทย – สปป.ลาว ปี 2565 (เดือน ตุลาคม)

พามาเบิ่ง 7 อันดับ สินค้ายอดฮิต  ส่งออกชายแดนไทย – สปป.ลาว  ปี 2565 (เดือน ตุลาคม)   ในเดือน มกราคม – ตุลาคม 2565 ภาคอีสานมีมูลค่าการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว 181,147 ล้านบาท   โดยมีการส่งออกมูลค่ากว่า 117,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดือนเดียวของปีก่อนหน้า 26.7% และมีมูลค่าการนำเข้ากว่า 63,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ในด้านประเภทรายกลุ่มสินค้าสำคัญสินค้าเกษตรกรรมมีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 2% สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 9% สินค้าแร่และเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 21% และสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 21% ในด้านสินค้าการส่งออกถึงแม้จะตัดน้ำมันและทองคำแล้วสินค้าส่งออกอีสานยังคงขยายตัวในเกือบทุกประเภทสินค้า และคาดว่าจะยังขยายตัวไปจนถึงสิ้นปีอีกด้วย   อ้างอิงจาก: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การค้าชายแดน #การค้าชายแดนไทยลาว #ลาว

พาส่องเบิ่ง “อาณาจักรณัฐกรุ๊ป”

“คุณวิชัย” เล่าให้ฟังว่า ปี 2565 จะครบ 20 ปีในการดำเนินธุรกิจ มีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง จากเดิมเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ในนาม“ณัฐ มอเตอร์เซลส์” มีการขยายสาขาไปตามอำเภอต่าง ๆ โดยการเช่าพื้นที่ ปัจจุบันกำลังเริ่มหาซื้อที่ดินในการสร้างโชว์รูปแห่งใหม่ เพื่อลดต้นทุนค่าเช่า ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ ทำคล้ายโชว์รูมรถยนต์ คือ มีที่จอดรถให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ มีจุดรับรถไว้บริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย เริ่มสาขาเปิดใหม่ในใจกลางเมือง คือ สาขาถนนทหาร และสาขาตลาดหนองบัว นอกจากนั้นได้เริ่มขยายสาขาออกต่างจังหวัด เริ่มต้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ การซื้อที่ดินสร้างโชว์รูมใหม่ในต่างอำเภอ และรีโนเวตสาขาเก่า คาดจะใช้งบประมาณรีโนเวตประมาณ 100 ล้านบาท “จากที่ลูกค้าต้องเข้าไปในเมือง เดี๋ยวนี้ลูกค้าต้องการความสะดวกมากขึ้น มีที่จอดรถมากขึ้น เราเห็นตัวอย่างจากเซเว่นอีเลฟเว่น ตรงไหนมีที่จอดรถ ก็จะขายดีขึ้น เราก็ตอบโจทย์ลูกค้าแนวทางเดียวกัน แต่ก็ต้องลงทุน เรามองศักยภาพระยะยาว รองรับคนมาอยู่ต่างจังหวัดมากขึ้น” ในส่วนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใหญ่ ในนาม “ณัฐ บิ๊กวิงค์” มองว่าตลาดรถจักรยานยนต์ใหญ่ยังไปได้ โดยณัฐ บิ๊กวิงค์ อุดรธานี ได้อันดับ 1 ของประเทศไทย รางวัลแข่งขันการขายดีลเลอร์ไซซ์ XXL จึงมีการขยายสาขาไปยังจังหวัดขอนแก่น ได้รับการตอบรับที่ดี “รถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ ยอดขายยังดีแม้จะลดลง เรามีโปรโมชั่นดึงกำลังซื้อ ตอนนี้ตลาดบิ๊กวิงค์เริ่มเต็ม เราสามารถรองรับลูกค้าได้อีกหลายปี ความต้องการใหม่ ๆ ไม่ได้เร็วขึ้น ตลาดมอเตอร์ไซค์มีการเปิดตัวทางออนไลน์มาตลอด ต้นปีหน้าก็จะมีโมเดลใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด” สำหรับธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์มือสอง มีเพียง 1 สาขา คือ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับณัฐ มอเตอร์เซลส์ สาขาตลาดหนองบัว (ข้างสนามเวสสุวรรณ) ในชื่อ “ณัฐ รถมือสอง” จะมีการรีโนเวตปลายปีนี้ “เท่าที่มอง ตลาดรถจักรยานยนต์มือสองโดยภาพรวมไม่ค่อยโต ตัวไหนที่ตลาดยังไม่ทำ เราก็เข้าไปทำเป็นช่องทางการตลาด เศรษฐกิจเป็นแบบนี้เราต้องเจาะเข้าไป มอเตอร์ไซค์ยอดขายเติบโตไม่ได้ลดลง รถครอบครัวเติบโต จากโรคระบาดคนย้ายกลับมาบ้านต่างจังหวัดกันมาก” “แนวโน้มการขายมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐาน การเดินทาง คนไม่อยากใช้รถสาธารณะเพราะกลัวติดโรคระบาด ในต่างจังหวัดรถมอเตอร์ไซค์ยังเป็นพาหนะที่สะดวกสบายอยู่ และตอบโจทย์ไม่ใกล้ชิดคน จึงมีแนวโน้มเติบโตในต่างจังหวัด” ในส่วนของธุรกิจรถยนต์นิสสันในนาม “ณัฐ ออโต้คาร์” ในช่วง 3 ปีนี้ มีการขยายสาขา โดยในจังหวัดอุดรธานี 2 แห่ง และ จ.หนองคาย 1 แห่ง รวมเป็น 3 แห่ง และกลับมาปรับปรุงสาขาใหญ่ใน จ.อุดรธานี คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ในนาม “ณัฐ บาวาเรียน มอเตอร์” มีการปรับพื้นที่ด้านข้าง เพื่อขยายและเปิดขายรถบีเอ็มดับเบิลยูมือสอง ครั้งแรกในจังหวัดอุดรธานี …

พาส่องเบิ่ง “อาณาจักรณัฐกรุ๊ป” อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “กลุ่มมิตรผล” จัด ISAN BCG Expo 2022 ยกระดับภาคเกษตร ที่ตึก Khon Kaen Innovation Center

พามาเบิ่ง “กลุ่มมิตรผล” จัด ISAN BCG Expo 2022 ยกระดับภาคเกษตร ที่ตึก Khon Kaen Innovation Center   ภาคเกษตรเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญของไทย โดยมีประชากรมากถึง 27 ล้านคนอยู่ในภาคเกษตร แต่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ยังขาดองค์ความรู้และการพัฒนาอย่างเหมาะสม โดยส่วนมากทำการเกษตรแบบดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกษตรกรไทยมีรายได้น้อย ขาดความมั่นคงในชีวิต นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางสังคมไทยในที่สุด “กลุ่มมิตรผล” ผู้นำในอุตสาหกรรมการเกษตร ผนึกพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน จัดงาน “ISAN BCG Expo 2022” งานมหกรรมนวัตกรรมยั่งยืนใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน 9-12 ธ.ค.65 ที่ ขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ (KKIC) ภายใต้แนวคิด Collaboration | “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ”  ผลักดันให้อีสานเป็นศูนย์กลางสร้างเศรษฐกิจไทยสู่ภูมิภาคอาเซียน หวังยกระดับเทคโนโลยีทางการเกษตรและอาหาร สร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอีสาน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดขอนแก่นสู่ Smart City รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาอีสานให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมของลุ่มน้ำโขงได้ในอนาคต โดยจัดแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ผ่านโซนต่างๆ เช่น Creative, Innovative และ Green เป็นการประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีหมุนเวียน และเทคโนโลยีสีเขียว เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ยกระดับเทคโนโลยีทางการเกษตรและอาหาร ตลอดจนการท่องเที่ยวและเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์   กลุ่มมิตรผลได้ดำเนินการพัฒนาชุมชนผ่านตำบลมิตรผล ร่วมพัฒนา 21 ตำบล ใน 7 จังหวัด โดยมีกรอบเป้าหมายการทำงานที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) มาโดยตลอด โดยมีเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1. การจัดการชุมชนอย่างยั่งยืน มุ่งส่งเสริมและปรับเปลี่ยนวิธีคิด การปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของคนในชุมชน รวมถึงมีการจ้างงานผู้พิการในชุมชน เพื่อสนับสนุนโอกาสในการสร้างอาชีพ และความภาคภูมิใจให้แก่ผู้พิการ 2. การพัฒนาระบบเกษตรชุมชนและอาหารปลอดภัย ที่ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตของชุมชนในหลายด้าน ทั้งการปลูกอยู่ปลูกกิน ลดการพึ่งพิงจากภายนอก มีอาหารที่ปลอดภัยบริโภค รวมถึงสนับสนุนให้ชุมชนมีรายได้เสริมจากการผลิตพืชผักปลอดภัยขายอีกด้วย 3. การพัฒนาระบบเศรษฐกิจชุมชน ที่ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าบนพื้นฐานของความถนัด ความสามารถ และทรัพยากรของชุมชนที่มีอยู่ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเงินหมุนเวียน 4. การพัฒนาด้านการศึกษา โดยเน้นหลักสูตรให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นการบ่มเพาะทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-Learning) และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) เน้นการลงมือทำ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินผ่านโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) จำนวน 8 แห่ง ใน 6 จังหวัด  มีการส่งเสริมให้นำแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ การสนับสนุนกลุ่มปลูกผัก ผ่านการรับรองมาตรฐานผักปลอดภัย (GAP) มีการใช้ปุ๋ยชีวภาพ เตาเผาถ่านน้ำส้มควันไม้เพื่อใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และอยู่ระหว่างพัฒนาสู่มาตรฐานผักอินทรีย์ …

พามาเบิ่ง “กลุ่มมิตรผล” จัด ISAN BCG Expo 2022 ยกระดับภาคเกษตร ที่ตึก Khon Kaen Innovation Center อ่านเพิ่มเติม »

ฉุดบ้อยู่ ! “พาณิชย์” ร่วมมือเชฟมิชลิน  โปรโมตอาหารใช้วัตถุดิบ GI จากอีสาน

ฉุดบ้อยู่ ! “พาณิชย์” ร่วมมือเชฟมิชลิน  โปรโมตอาหารใช้วัตถุดิบ GI จากอีสาน   นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เตรียมร่วมมือกับมิชลินไกด์ประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำการเปิดตัวอาหารที่ใช้วัตถุดิบได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากแหล่งผลิตในภาคอีสาน 4 สินค้า ใน 3 จังหวัด ได้แก่  – ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์  – หอมแดงศรีสะเกษ  – กระเทียมศรีสะเกษ – เนื้อโคขุนโพนยางคำ จังหวัดสกลนคร  ที่ได้เชฟระดับมิชลิน เชฟชาลี กาเดอร์ จากร้าน 100 Mahaseth (100 มหาเศรษฐ์) ร้านอาหารอีสานที่ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ประเทศไทย และเชฟเดวิด ฮาร์ตวิก จากร้าน IGNIV Bangkok ที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน ประจำปี 2565 ได้ไปลงพื้นที่ไปคัดเลือกวัตถุดิบก่อนหน้านี้ ทำการคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ทำอาหาร และจะทำการเปิดตัวให้ทดลองชิมในวันที่ 14 ธ.ค. 2565 นี้ โดยมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้สินค้า GI ที่เป็นวัตถุดิบทำอาหารเป็นที่รู้จักได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิตได้มากขึ้น และยังจะส่งผลดีต่อสินค้า GI อื่นๆ ที่จะเป็นที่ต้องการมาใช้เพื่อเป็นวัตถุดิบทำอาหารมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสินค้า GI ไทย 136 รายการ จากทั้งหมด 171 รายการ เป็นสินค้าประเภทอาหารและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นซอฟต์เพาเวอร์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ เป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนในแต่ละท้องถิ่น เมื่อนำมาผนวกกับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ นายวุฒิไกรกล่าวว่า สินค้า GI ประเภทอาหารและผลผลิตทางการเกษตร ล้วนเป็นสินค้าคุณภาพที่ขึ้นชื่อของจังหวัด มีกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ก่อนส่งขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ หากนำมาต่อยอดโดยเฉพาะด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย จะยิ่งช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มมากขึ้น สำหรับข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์มีปริมาณการผลิต 437,468 ตันต่อปี มูลค่า 6,343 ล้านบาท หอมแดงศรีสะเกษ มีปริมาณการผลิต 63,000 ตันต่อปี มูลค่า 2,292 ล้านบาท กระเทียมศรีสะเกษ มีปริมาณการผลิต 2,180 ตันต่อปี มูลค่า 218 ล้านบาท และเนื้อโคขุนโพนยางคำ มีปริมาณการผลิต 123 ตันต่อปี มูลค่า 30 ล้านบาท รวมสินค้าสินค้า GI ทั้ง 4 รายการ สร้างรายได้รวมกว่า 8,880 ล้านบาทเลยทีเดียว   อ้างอิงจาก:  ผู้จัดการออนไลน์ มติชน …

ฉุดบ้อยู่ ! “พาณิชย์” ร่วมมือเชฟมิชลิน  โปรโมตอาหารใช้วัตถุดิบ GI จากอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “EVEANDBOY” อาณาจักรเครื่องสำอางเจ้าดังระดับประเทศ

จุดเริ่มกำเนินของต้นของ EVEANDBOY EVEANDBOY เริ่มจากร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ชื่อ “สารคามซูเปอร์มาร์เก็ต” ในจังหวัดมหาสารคาม โดยทำธุรกิจมานานหลายสิบปีตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ พอความความเจริญเข้าไปต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดห้างร้านโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ เริ่มผุดกันเป็นดอกเห็ด ทำให้ธุรกิจต้องถึงเวลาปรับตัวแบบ 360 องศา ไม่อย่างนั้นก็จะสู้กับห้างไม่ได้ คุณ หิรัญ ตันมิตร เป็นหนึ่งในทายาทของสารคามซูเปอร์มาร์เก็ต ได้มีความคิดว่าถ้าขายสินค้าเครื่องสำอางน่ามีโอกาสไปรอดมากกว่า เพราะขายเครื่องสำอางมีกำไรส่วนต่างสูง จึงร่วมกับพี่สาวซึ่งได้เปิดและตั้งชื่อ EVEANDBOY ชื่อร้านมากจากชื่อเล่นของทั้งสองคน โดยร้านขายเครื่องสำอางเริ่มแรกปี พ.ศ.2548 เป็นจำหน่ายคอสเมติกหลากหลายยี่ห้อที่ได้นำแนวคิดจากต่างประเทศนำมาใช้ โดยมองว่าเป็นเทรนด์ของผู้หญิงยุคใหม่ชอบซื้อสินค้าจากร้านแบบนี้มากกว่าคอนเซาส์กับบีเอตามเคาน์เตอร์แบรนด์ห้างสรรพสินค้า เพราะลูกค้าสามารถเดินเลือกดูได้ตามความชอบ และจากการชักชวนปากต่อบากของลูกค้าทำให้ EVEANDBOY ขยายสาขาไปสู่กรุงเทพ และจังหวัดต่างๆในภาคอีสาน จำนวน 11 สาขา และมีแผนขยายเพิ่มอีกในเวลาอันใกล้ รูปแบบธุรกิจ การทำธุรกิจของ EVEANDBOY คือ การขายพร้อมขยายตลาดเชิงรุก โดยมีการขยายตลาดจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพฯ หรือ “ป่าล้อมเมือง” เลือกทำเลที่มีคนเป็นแหล่งผู้คนพลุกพล่าน เช่น สยาม รังสิต เมกาบางนา สยามสแควร์วัน เป็นต้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่และมีโอกาสเติบโตค่อนข้างมาก ปัจจุบันร้านมีเครื่องสำอางมากกว่า 900 แบรนด์ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5 หมื่นรายการ ทำให้ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือเป็นเครื่องสำอางของแท้ที่ราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดกว่าปกติประมาณ 30% สินค้าทุกชิ้นนำเข้าโดยดิสทริบิวเตอร์ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพแน่นอน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเครื่องสำอางของ EVEANDBOY ได้ทำให้เราได้เห็นว่า การเข้าใจลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในตลาดและมีคู่แข่งใหญ่อย่าง Watsons Boots แต่ EVEANDBOYสามารถขึ้นมาเป็นคู่แข่งได้ เพราะมีความแตกต่างที่จุดขาย โฟกัสกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ราคา โปรโมชั่น คุณภาพและการโฆษณา EVEANDBOY การสร้างความแตกต่างทางการตลาดทั้ง โดยฉีกกฎเดิม ๆ ไม่ว่าจะชนิดของสินค้าที่มีเฉพาะ ราคาที่จับต้องได้ การโฆษณาที่เข้าถึงได้ง่าย และโปรโมชั่นที่โดนใจ อ้างอิงจาก: https://taokaemai.com/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8…/ ​​https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0445559000295 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีฟแอนด์บอย #มหาสารคาม #เครื่องสำอาง #ธุรกิจเครื่องสำอาง #EVEANDBOY #สารคามซูเปอร์มาร์เก็ต

ชวนเบิ่ง “บ้านสาริน” อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เมืองอุบล

ด้วยวิสัยทัศน์การมองการณ์ไกลของผู้นำครอบครัว ที่เริ่มต้นทำธุรกิจซื้อขายที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 จนได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในการรับเหมาก่อสร้างในปี พ.ศ.2540 กับช่างฝีมือดี 10 คน และการสร้างบ้าน 2 หลัง ได้จุดประกายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับครอบครัวรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ ก้าวสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในนาม บริษัท มหาชัยอุบล แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด จากบ้านเพียง 2 หลัง เป็น 20 หลัง และมากขึ้นๆด้วยทีมช่างฝีมือคุณภาพเยี่ยมและประสบการณ์ที่สั่งสม บริษัทฯจึงได้เริ่มโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพในทำเลที่โดดเด่น ในนามโครงการบ้านสารินจากพลังความคิดสร้างสรรค์ ที่ขับเคลื่อนกับการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง บ้านสารินเริ่มโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียงในวงกว้าง ส่งผลให้บ้านสารินมีโครงการอีกถึง 12 โครงการติดตามมา อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจต้องมีการจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสม ซึ่งต้องทําการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการลงทุน โดยพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจที่เหมาะสมและสอดคล้องกับธุรกิจ พร้อมสํารวจพฤติกรรมและความต้องการสินค้าของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ ก่อน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0345557001473 https://www.baansarin.com/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0… #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บ้านสาริน #อุบลราชธานี #อสังหาริมทรัพย์ #ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ #สาริน #โครงการบ้านจัดสรร

6 จังหวัด การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2565 (ม.ค. – ต.ค.) เป็นจั้งใด๋ ?

6 จังหวัด การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2565 (ม.ค. – ต.ค.) เป็นจั้งใด๋ ?   ในเดือน มกราคม – ตุลาคม 2565 ภาคอีสานมีมูลค่าการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว 181,147 ล้านบาท   โดยมีการส่งออกมูลค่ากว่า 117,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดือนเดียวของปีก่อนหน้า 26.7% และมีมูลค่าการนำเข้ากว่า 63,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จะเห็นได้ว่า หนองคายมูลค่าการส่งออกมากกว่าทุกจังหวัด เนื่องจากเป็นด่านหลักในการส่งออกสินค้าจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไปยัง สปป. ลาว โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็น    อ้างอิงจาก: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การค้าชายแดน #การค้าชายแดนไทยลาว #ลาว

Scroll to Top