ISAN News

อัพเดตข่าวสาร และเหตุการณ์ ในภาคอีสาน

“ไทย-กัมพูชา” เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง🤝จับมือลงนามผลประชุม GBC เปิด 13 ข้อตกลงมีอะไรบ้าง?

ผลประชุม GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ทั้ง 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ผู้แทน 2 ชาติ ลงนามบันทึกผลการประชุม หวังคลี่คลาย สถานการณ์ชายแดน นำมาซึ่งสันติภาพ วันนี้ (7 ส.ค.2568) ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ฝ่ายไทยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามี พลเอกเตีย เซ ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะ อีกทั้งมีผู้แทนของประเทศผู้ร่วมสังเกตการณ์ ได้แก่ มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน เข้าร่วมด้วย โดยไทยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนคนไทย และนำกัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาสองฝ่าย ร่วมพิจารณาข้อปฏิบัติตาม ข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.43 น.ตามเวลาประเทศไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ เสร็จสิ้นไปแล้ว สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพร้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมี สาระสำคัญ ดังนี้ . 1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี 2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย 3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา 4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ […]

“ไทย-กัมพูชา” เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง🤝จับมือลงนามผลประชุม GBC เปิด 13 ข้อตกลงมีอะไรบ้าง? อ่านเพิ่มเติม »

🇹🇭ทบ.เปิดไทม์ไลน์ ฟ้องคณะทูต! แฉกัมพูชาโกหกอะไรบ้าง🇰🇭 พร้อมงัดหลักฐานการละเมิดอนุสัญญา และก่ออาชญากรรมสงคราม ให้โลกรู้

วันนี้ (1 ส.ค.2568) เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยนำให้เอกอัครราชทูต อุปทูต ผู้แทนรวม 11 ประเทศ ผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ สื่อต่างประเทศ 39 คนและสื่อไทย 110 คน ลงพื้นที่ ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน วันนี้ (1 ส.ค.) ที่มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ กองทัพบก ได้ชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อคณะนักการทูต คณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประจำประเทศไทย สื่อมวลชน ระบุว่า การดำเนินงานของกองทัพ ในการรักษาอธิปไตย และยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และย้ำถึงความมุ่งมั่งของกองทัพที่จะแก้ปัญหา ด้วยทวิภาคีที่ไทย และกัมพูชามีอยู่ ด้วยความจริงใจและโดยสันติวิธีมาโดยตลอด ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการยั่วยุ เพื่อสร้างความตึงเครียด ด้วยกิจกรรมทางทหาร และพลเรือน โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้ 13 ก.พ. 68 การพานักท่องเที่ยวขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม 28 ก.พ. 68 การเผาศาลาตรีมุข สัญลักษณ์ความร่วมมือ ไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว มี.ค. ถึง เม.ย.68 ทหารกัมพูชา ดัดแปลงภูมิประเทศแนวชายแดน เพื่อทางการทหาร เสริมความแข็งแรงของที่มั่น ปรับปรุงเส้นทาง และการขยายแนวเขตคูเลตเข้ามาในเขตประเทศไทย เม.ย. ถึง พ.ค. 68 ฝ่ายกัมพูชา ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลเพิ่มเติม และอาวุธยุทโธปกรณ์ประชิดชายแดนไทย – กัมพูชาเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่มีหลักฐานการพิสูจน์ ทราบจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของนักวิจัยชาวออสเตรเลีย ต่อมาฝ่ายกัมพูชา ได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทย โดยเข้ามาขุดคูเลตติดต่อ 28 พ.ค. กัมพูชาเริ่มเปิดฉากการยิง (Skirmish) ระหว่างหน่วยในพื้นที่ โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ เพื่อเป็นการป้องกันตัว บริเวณช่องบก กองทัพ และรัฐบาลไทยพยายามใช้แก้ไขปัญหาแบบทวิภาคี ซึ่งไม่เป็นผล ห้วงเดือน ก.ค.68 ทหารกัมพูชา ได้รุกล้ำเข้ามาลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหลายพื้นที่ ในเขตแดนไทย จนทำให้ทหารไทยลาดตระเวน บาดเจ็บสูญเสียขาจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ถึง 2 ครั้ง ทำให้เกิดการสูญเสีย ขาขาด 2 นาย และมีบางส่วนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่ายกัมพูชาจงใจละเมิดหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง อีกทั้งเป็นการจงใจ ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่ทั้งไทย และกัมพูชาให้สัตยาบรรณ นอกจากนั้น ในพื้นที่ดังกล่าว ได้ดำเนินการเก็บกู้วัตถุระเบิด ภายใต้ความร่วมมือของนานาชาติ จนมีความปลอดภัยเป็นที่ประจักษ์แล้ว พาเปิดเบิ่ง  สรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา   ในขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชา พยายามแสดงการยั่วยุ

🇹🇭ทบ.เปิดไทม์ไลน์ ฟ้องคณะทูต! แฉกัมพูชาโกหกอะไรบ้าง🇰🇭 พร้อมงัดหลักฐานการละเมิดอนุสัญญา และก่ออาชญากรรมสงคราม ให้โลกรู้ อ่านเพิ่มเติม »

CEA แถลงข่าวจัดเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ผนึกกำลังพันธมิตรระดับประเทศ ปั้นอีสานสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคสู่สากล

ISAN Insight And Outlook ร่วมเป็นพันธมิตรเครือข่าย เทศกาล ‘อีสานสร้างสรรค์’ จากจุดเริ่มต้นสู่ความร่วมมือทุกภาคส่วนเป็นปีที่ 5 หลายๆ ท่านอาจจะรู้จักหรือ เคยได้ยินงานเทศกาลคุ้นหูอย่างเช่น Bangkok Design Week, Chiangmai Design Week, Pakk Taii Design Week, และ นี่คืองานที่ไม่ได้จำกันที่แค่ Design Week แต่อีสานคือดินแดนแห่งความสร้างสรรค์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นงานในชื่อ ISAN Creative Festival เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับประเทศ จัดงานแถลงข่าว ประกาศความพร้อมจัด “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568” หรือ “Isan Creative Festival 2025” (ISANCF2025) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้ธีม “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 บน 4 พื้นที่สำคัญในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ TCDC ขอนแก่น ย่านกังสดาล, ย่านชุมชนสร้างสรรค์โคลัมโบ, โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น, ชุมชนสาวะถี และพื้นที่อื่น ๆ ในภาคอีสาน นายสักก์สีห์ พลสันติกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘เทศกาล’ ไม่ใช่แค่กิจกรรม แต่คือเวทีที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,590 ล้านบาท และปีนี้เทศกาลฯ พร้อมก้าวสู่ปีที่ 5 อย่างเต็มรูปแบบ โดยยกระดับเทศกาลให้กลายเป็น Creative Business Platform ที่เชื่อมโยงนักสร้างสรรค์และชุมชนกับภาคอุตสาหกรรม พัฒนาทุนวัฒนธรรมให้เกิดการลงทุน การคืนถิ่นของคนรุ่นใหม่ และสร้างการเติบโตให้เมืองในอีสานกลายเป็น Creative City ที่กระจายโอกาสอย่างยั่งยืน” “ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ที่อยากชวนทุกคนมาต่อยอดโอกาสใหม่ของอีสาน ผ่านการใช้กระบวนการซอฟต์พาวเวอร์ทั้งในมิติของ ‘การโชว์โอกาส’ ผ่านต้นทุนวัฒนธรรมที่ต่อยอดได้ทางธุรกิจ และ ‘การโชว์ศักยภาพเชิงพื้นที่’ ที่พร้อมต้อนรับการลงทุน การท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ โดยปีนี้มีมากกว่า 200 โปรแกรมใน 7 รูปแบบกิจกรรม ทั่ว 4 พื้นที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น ซึ่ง CEA

CEA แถลงข่าวจัดเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ผนึกกำลังพันธมิตรระดับประเทศ ปั้นอีสานสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคสู่สากล อ่านเพิ่มเติม »

TCEB Isan Mice เผย “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” ติดอันดับ✈️ ‘เมืองจัดประชุมนานาชาติของโลก’ ใน ICCA Ranking แล้วอย่างเป็นทางการ!🤝

สมาคมการจัดประชุมนานาชาติเปิดผลรายงาน ICCA Ranking Report 2024 ซึ่งจัดอันดับประเทศและเมืองเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติทั่วโลก ไทยไต่ขึ้นสู่อันดับ 25 ของโลก ด้วยจำนวนงานประชุมนานาชาติรวม 158 งาน เพิ่มขึ้นจาก 143 งานในปีก่อน ส่งผลให้ไทยครอง อันดับ 5 ในเอเชีย และ ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน . ในระดับเมือง กรุงเทพมหานคร สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นสู่อันดับ 7 ของโลก และ อันดับ 3 ของเอเชีย ขณะที่ เชียงใหม่ (12 งาน), พัทยา (10 งาน) และภูเก็ต (8 งาน) ยังคงรักษาตำแหน่งเมืองเป้าหมายหลักในการจัดประชุมนานาชาติอย่างต่อเนื่อง รายงานยังเปิดเผยว่า ปีนี้มีอีก 9 เมืองในไทยที่สามารถผ่านเกณฑ์การจัดอันดับ ICCA เป็นครั้งแรกหรืออย่างต่อเนื่อง ได้แก่:  ชลบุรี (3 งาน)  เชียงราย (2 งาน)  ปทุมธานี (2 งาน)  หัวหิน (1 งาน)  ขอนแก่น (1 งาน) สมุย (1 งาน) นครราชสีมา (1 งาน) นนทบุรี (1 งาน) ปัตตานี (1 งาน) รวมแล้วในปี 2567 มีเมืองในประเทศไทยติดอันดับรวม 13 เมือง สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและศักยภาพของเมืองรองทั่วประเทศในฐานะเมืองไมซ์ .  ข่าวดีสำหรับชาวไมซ์อีสาน ‘ขอนแก่น’ และ ‘นครราชสีมา’ เป็น 2 ใน 9 เมืองในไทยที่สามารถผ่านเกณฑ์การจัดอันดับ ICCA เป็นครั้งแรกหรืออย่างต่อเนื่อง ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่ทำให้ขอนแก่นและนครราชสีมาก้าวขึ้นบนแผนที่โลกของเมืองไมซ์ระดับสากล ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/1DdfsF9n4R/?mibextid=wwXIfr _____ #ICCARanking #KhonKaenOnGlobalMap #TCEBISANMICE #MICEisMore ⸻ Thailand’s “New High” in Global Convention Destination Ranking Country Bouncing to 1st in ASEAN, 5th in Asia Pacific. Bangkok Rising to World’s 7th Spot and APAC’s Top 3 Chiang

TCEB Isan Mice เผย “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” ติดอันดับ✈️ ‘เมืองจัดประชุมนานาชาติของโลก’ ใน ICCA Ranking แล้วอย่างเป็นทางการ!🤝 อ่านเพิ่มเติม »

สุดล้ำ❗ทีมวิจัย มทส.โคราช พัฒนา CT-Scan พร้อม AI ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ รู้ผลใน 3 วิ

ไทยยังครองแชมป์ “ราชาทุเรียน” ส่งออกกว่า 800,000 ตัน/ปี สร้างรายได้ 150,000 ล้าน แต่ปัญหาทุเรียนอ่อน หนอนเจาะ เนื้อตกเกรด กำลังคุกคามความเชื่อมั่นของตลาด โดยเฉพาะ “จีน” ARDA จึงสนับสนุนทีมนักวิจัย ม.เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา พัฒนาเครื่อง CT-Scan ที่ตกรุ่นปลดระวางจากบริษัทเอกชนด้านเครื่องมือแพทย์ มาพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องต้นแบบ ร่วมกับ AI วิเคราะห์เนื้อทุเรียนแบบไม่ต้องผ่า… สแกนได้ 1,200 ลูก/ชม. แยกอ่อน-แก่ ตรวจหนอนได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดต้นทุน ลดแรงงาน และยกระดับคุณภาพผลผลิตสู่ตลาดโลก… นี่คือตัวอย่างจริงของ “เกษตรสมัยใหม่” ที่ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เกิดขึ้นแล้ว เพราะ “คุณภาพ” จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของเกษตรไทย. แม่นยำ 95% รู้ผลใน 3 วินาที! หรือ 1,200 ลูก/ชั่วโมงครั้งแรกในไทย! เครื่อง CT-Scan ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ ใช้งานจริงแล้วในล้งทุเรียน จ.จันทบุรี   ARDA โชว์ความเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ราชาหนาม สร้างเครื่อง CT-Scan ทุเรียนสุดล้ำประมวลผลด้วยระบบ AI คัดทุเรียน “ไม่อ่อน-ไม่หนอน” 1 ลูกใช้เวลาสแกน 3 วินาที ประเทศไทยถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งทุเรียน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดโลกปีละไม่ต่ำกว่า 800,000 ตันต่อปี อยู่ในภาคตะวันออกของไทย 300,000 ตัน ภาคใต้ประมาณ 500,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกหลักของไทยยังคงเป็นประเทศจีนที่มีการนำเข้าปีละไม่ต่ำกว่า 700,000 ตัน และถึงแม้ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย แต่การคัดแยกระดับความอ่อน-แก่และการตรวจสอบปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนยังคงเป็นความท้าทายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ซึ่งหากไทยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ นั่นไม่เพียงแต่จะเสียแชมป์ส่งออกทุเรียนเบอร์ 1 ของโลก แต่ยังเป็นการสูญรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความต้องการสูง แต่ปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยและกระทบต่อการตลาดส่งออกทุเรียน คือ ปัญหาหนอนในผลทุเรียนและการเก็บทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย อีกทั้งยังพบการลักลอบส่งออกทุเรียนอ่อนไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ และทำลายความเชื่อมั่นในคุณภาพทุเรียนไทยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นหากประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยคัดกรองทุเรียนที่แม่นยำก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและแก้ปัญหาดังกล่าวได้ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อดำเนินโครงการ “การออกแบบเครื่องคัดแยกความอ่อน-แก่ และหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนด้วยเทคนิค CT-Scan ร่วมกับการประมวลผลผ่านโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก” เพื่อออกแบบ และพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบความอ่อน – แก่ และหนอนในผลทุเรียนด้วยเทคนิค CT-Scan ระดับโรงคัดบรรจุ ที่มีความแม่นยำไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 “ปัจจุบันการประเมินทุเรียนอ่อนแก่จะใช้วิธีฟังเสียงเคาะ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเกษตรกร แต่ก็ไม่สามารถยืนยันผลได้ 100% ขณะที่หนอนมีวงจรชีวิตอยู่ข้างในและเติบโตพร้อมผลทุเรียนจึงไม่รู้ว่าทุเรียนแต่ละลูกมีหนอนหรือไม่ เพราะยังไม่มีวิธีตรวจสอบ แต่การใช้เทคนิค CT-Scan

สุดล้ำ❗ทีมวิจัย มทส.โคราช พัฒนา CT-Scan พร้อม AI ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ รู้ผลใน 3 วิ อ่านเพิ่มเติม »

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

“ทรู” เน็ตดับ โทรไม่ได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุดในอีสาน และ ทั่วไทย ผู้ใช้งานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน และ ทีมงาน ISAN Insight พบว่าเวลาช่วงสายวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ประมาณ 9 โมงเป็นต้นไป ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ค่าย “ทรู” ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุด ปัญหาสัญญาณ “ล่ม” ขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ X ในขณะที่📶เว็บไซต์ Downdetector รายงานเหตุ “True” ล่มทั้งเน็ต – สัญญาณมือถือ ไม่สามารถใช้งานได้ในหลายพื้นที่ 22 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Downdetector แพลตฟอร์มระบุข้อมูลสถานะบริการออนไลน์ รายงานเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ว่า เกิดเหตุสัญญาณอินเทอร์เน็ตของ True ล่มในหลายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ที่พบการล่มนั้นไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งบนพีซีและสมาร์ตโฟนได้ และยังพบการล่มใน DNS และ เซิร์ฟเวอร์ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงมีผู้ใช้งานหลายรายเปิดเผยบนโซเชียลมีเดียด้วยว่า สัญญาณโทรศัพท์ของ True ก็ไม่สามารถใช้งานโทรเข้า-ออกได้เช่นกัน . ทรู ชี้แจง ตอนนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขเหตุสัญญาณมือถือขัดข้องอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ใช้งานดีแทคนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว . #True #ทรู #ทรูล่ม #เน็ตทรูล่ม #สัญญาณล่ม ส่วนค่าย True แนะนำให้ รีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้ง เพื่อแก้ไขให้กลับมา โทรได้ 

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

🗨️Typhoon; โมเดล AI สัญชาติไทย รองรับ ‘เลขไทย’ เอกสาร ‘ราชการ’ ก็ไม่กลัว ดึงข้อมูลจาก-PDF OCR โปรเจคภายใต้ยานแม่ SCB-X

[เปิดให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้งานได้แล้ววันนี้ “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่บน Samba-1]   กลุ่ม SCBX นำโดย เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ AI ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI-First Organization ล่าสุด ผนึกกำลัง SambaNova Systems บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้าน Generative AI ที่รวบรวมโมเดลที่เร็วที่สุด และ Chips ที่ทันสมัยที่สุด นำ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) เปิดให้บริการบนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts (CoE) เพื่อให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้ต่อยอดและพัฒนาแอปพลิเคชันด้าน AI บนแพลตฟอร์ม Samba-1 ได้แล้ววันนี้ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะ (Large Language Model optimized for Thai) ซึ่งนับเป็นโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดในปัจจุบันและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPT-3.5 และ GPT-4 ในภาษาไทย โดยวัดจาก Benchmark ที่รวบรวมและจัดเตรียมมาจากข้อสอบภาษาไทยความยากเทียบเท่าข้อสอบมัธยมปลายและข้อสอบมาตรฐานอื่นๆ ในประเทศไทย โดย “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางภาษาที่โมเดลส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกฝึกฝนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก รวมถึงข้อจำกัดด้านทรัพยากรของภาษาไทยที่ไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ (Low Resource Language) ผู้สนใจและนักพัฒนาทดลองสามารถดาวน์โหลด Typhoon Model เพื่อต่อยอดในการพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://opentyphoon.ai/ [ทำไมไทยต้องมี AI ที่มี LLM เป็นของตนเอง?] . ประหยัดต้นทุนต่อ Token: ในเชิงเทคนิค หากใครจ่ายเงินใช้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini หรือ แบรนด์ใดๆ อยู่จะทราบว่าการใช้งานของคุณ จำกัด token ตามแพ็คเกจที่จ่ายเงิน สมมติเช่น Hi = 1 คำ 2 token, แต่พอเป็น สวัสดี อาจจะใช้มากถึง 4-5 token เพื่อให้ Ai เข้าใจคำที่มีความหมายเดียวกันในต่างภาษา เพราะ LM หรือ

🗨️Typhoon; โมเดล AI สัญชาติไทย รองรับ ‘เลขไทย’ เอกสาร ‘ราชการ’ ก็ไม่กลัว ดึงข้อมูลจาก-PDF OCR โปรเจคภายใต้ยานแม่ SCB-X อ่านเพิ่มเติม »

สำนักเลขาพระสังฆราช แถลงปม เพจเผยแพร่❌ข้อมูลเท็จ ‘แอบอ้าง’ พระดำรัส สั่งงดถวายเงินพระ

จากกรณี การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส โดยเนื้อหาที่เผยแพร่และถูกแชร์อย่างแพร่หลายใน social media ระบุว่า “สมเด็จพระสังฆราชรับสั่งให้ประชาชนงดเอาเงินถวายพระโดยเด็ดขาดแม้กระทั่งงานศพงดใส่ซองขาวถวายพระ สาธุ🙏” หรือมีการก็อปวางแพร่ข่าว อื่น ๆ   สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แถลงแจงว่าเป็นข่าวเท็จ ข้อมูลเท็จ ‘แอบอ้าง’ พระดำรัส สั่งงดถวายเงินพระ โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เพจเฟสบุ๊คของ สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส โดยมีเนื้อหา ดังต่อไปนี้ “ด้วย ปรากฏว่ามีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘”

สำนักเลขาพระสังฆราช แถลงปม เพจเผยแพร่❌ข้อมูลเท็จ ‘แอบอ้าง’ พระดำรัส สั่งงดถวายเงินพระ อ่านเพิ่มเติม »

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เซ็นคำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง ‘ชายชาวจีน’ เป็นที่ปรึกษา หลังถูกเพจดังแฉ

เมื่อ 29 เมษายน เพจ CSI LA แฉ ผู้ว่าฯ ปราจีนลงนามตั้ง ‘ชายชาวจีน’ เป็นที่ปรึกษา ถามแรงไม่มีคนไทยที่มีความสามารถ เหตุใดให้คนจีนนั่งใกล้ใจกลางอำนาจท้องถิ่น . เมื่อวานนี้ (29 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจดังเผยภาพหนังสือราชการของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี เรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลงวันที่ 21 เมษายน 2568 ระบุว่า ด้วยจังหวัดปราจีนบุรีได้มีคำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 1327/2568 ได้แต่งตั้ง Mr.Juncheng Zhu เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมในประเด็นต่างๆ ที่เห็นว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร และการขับเคลื่อนงานของจังหวัดปราจีนบุรี โดยมี วีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีเป็นผู้ลงนาม Mr.Juncheng Zhu เป็นใคร ทำธุรกิจอะไร? ครั้งแรกจดทะเบียน 24 กรกฎาคม 2558 ในชื่อ “ตี้ไท้ รับเบอร์ จำกัด” / ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ”ปราจีน ลาเท็กซ์ จำกัด“ เมื่อ 21 มกราคม 2561 / และปัจจุบันเปลี่ยนเป็น “ฮอตเชน เทคโนโลยี จำกัด” เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งปัจจุบันประกอบธุรกิจประเภทการผลิตและจำหน่วยชุดเครื่องนอนเพื่อสุขภาพที่ทำจากยางพาราทุกชนิด ทุนจดทะเบียนสูงถึง 125 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เลขที่ 612/19 หมู่ที่ 9 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเมื่อมาดูรายชื่อกรรมการบริษัทฮอตเชน เทคโนโลยี จำกัด คือ นางสาว ”จิ้ง เหวิน“ โดยไม่ปรากฏชื่อ Mr.Juncheng Zhu เป็นกรรมการบริษัท ส่วนประวัติของนายจู จวินเฉิง อายุ 37 ปี จบการศึกษา Central South Uhiversity Of Human (คณะวิศวกรรมศาสตร์) เมื่อปี 2016 มีการลงทุนและก่อสร้าง บริษัท ปราจีน ลาเท็กซ์ จำกัด ได้มีการเริ่มประกอบกิจการ ผลิตและจำหน่าย หมอน,ที่นอน,ชุดชั้นใน ยางพารา วัตถุดิบน้ำยาง ได้มีการนำสินค้าจัดส่งออกไปยังประเทศจีน ประกอบกิจการมาเป็นระยะเวลา 8 ปี จนถึงปี 2024 มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท ปราจีน ลาเท็ก จำกัด เป็น บริษัท ฮอตเชน เทคโนโลยี

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เซ็นคำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง ‘ชายชาวจีน’ เป็นที่ปรึกษา หลังถูกเพจดังแฉ อ่านเพิ่มเติม »

ไม่เอาแล้วทำฟันปีละ ฿900 ประกันสังคม🦷 เตรียมขยายสิทธิ “ทำฟัน รพ.รัฐและคลินิกเอกชน ฟรี!“🪥 ไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่จำกัดวงเงิน ไม่จำกัดครั้ง

#สิทธิ์ทันตกรรมใหม่ ประกันสังคม จ่อขยายสิทธิผู้ประกันตน ทำฟันใน รพ.รัฐ ฟรี! ไม่จำกัดวงเงิน วันนี้ (17 พฤษภาคม 2568) ทพ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี ประธานคณะทำงานประสานและดูแลมาตรฐานชุดสิทธิประโยชน์ทันตกรรมสำหรับผู้ประกันตน ให้สัมภาษณ์ว่า คณะทำงานชุดนี้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยมีผู้แทนจากสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมอยู่ในคณะทำงาน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนไม่ด้อยไปกว่าสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) หรือ สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ นอกจากนั้น ยังช่วยดูสิทธิประโยชน์ในภาพรวมทั้ง 3 กองทุนด้วย รมว.แรงงาน ร่วมทันตแพทยสภา ตั้งคณะทำงานประสานดูแลมาตรฐานสิทธิประโยชน์ทันตกรรม “ผู้ประกันตน” ล่าสุดมีแนวโน้มขยายบริการ “อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน” รพ.รัฐที่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่จำกัดวงเงิน นอกเหนือจาก 900 บาทต่อปีรับบริการที่คลินิกทำฟันเอกชน ยังเหมือนเดิม ทพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่าน มา ทันตแพทยสภาได้เข้าพบกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเสนอแนวทางปรับระบบดูแลผู้ประกันตน ซึ่งครั้งนั้นมีการเสนอไป 3 ทางเลือก จากนั้นมี การตั้งคณะทำงานฯ ชุดดังกล่าวขึ้นมา แล้วได้ ประชุมกันเมื่อวันที่ 25 เมษายน โดย สปส. รับ 1 ข้อเสนอที่มีความเป็นไปได้ที่สุดในตอนนี้ คือ การให้ผู้ประกันตนเข้ารับบริการทันตกรรม ดูแลช่องปาก ได้แก่ อุดฟัน ขูดหินปูน และถอน ฟันในโรงพยาบาลของรัฐที่ไหนก็ได้ไม่จำกัด จำนวนครั้ง ไม่จำกัดวงเงิน และไม่ต้องสำรอง จ่าย ซึ่งประกันสังคมจะเป็นผู้จัดการเรื่องการ เคลมเอง โดยราคาการให้บริการนั้น จะเบิกจ่าย ตามอัตราของกรมบัญชีกลาง ดังนั้น ความรู้สึก ของผู้ประกันตน คือ ไม่ด้อยกว่าสิทธิข้าราชการและสิทธิบัตรทองอย่างแน่นอน “ส่วนความกังวลว่าไปทำฟันใน รพ.ของรัฐ แล้วคิวจะยาว ถ้าทำแบบนี้คนไทยทุกคน ทุกสิทธิ จะเท่ากัน คิวจะยาวก็เท่ากัน ฉะนั้นทุกคนจะได้สิทธิเหมือนคนอื่น แต่ผู้ประกันตนจะมีวงเงินในกระเป๋า 900 บาทต่อปี ที่จะสามารถนำไปรับบริการที่คลินิกทำฟันเอกชน โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ส่วนนี้ก็ยังต้องคงมีอยู่ไม่ได้ตัดออก เพียงแต่ขยายการให้บริการไปยัง รพ.ของรัฐ ซึ่งจะเหมือนกับผู้ที่มีสิทธิบัตรทองและสิทธิข้าราชการ ทั้งนี้จะมีการประชุมคณะทำงานฯ ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อหารือ เรื่องนี้อีกครั้ง” ทพ.วีระศักดิ์กล่าว สรุป ✅ รับบริการโดยตรงที่ รพ.รัฐ ✅ ไม่ต้องสำรองจ่าย ✅ ไม่จำกัดวงเงิน ✅ เพิ่มการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น ⭐️ ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ เตรียมเสนอเข้า ครม.เร็ว ๆ นี้ทาง ISAN

ไม่เอาแล้วทำฟันปีละ ฿900 ประกันสังคม🦷 เตรียมขยายสิทธิ “ทำฟัน รพ.รัฐและคลินิกเอกชน ฟรี!“🪥 ไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่จำกัดวงเงิน ไม่จำกัดครั้ง อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top