ISAN News

อัพเดตข่าวสาร และเหตุการณ์ ในภาคอีสาน

สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัด ขอนแก่น ผนึกกำลังผู้ประกอบการ จัดงาน 🏠มหกรรมบ้านและคอนโด ขอนแก่น 2025

สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัด ขอนแก่น ผนึกกำลังผู้ประกอบการ จัดงาน 🏠มหกรรมบ้านและคอนโด ขอนแก่น 2025🏡🏘️ 📆ระหว่างวันที่ 1-6 ตุลาคม 2025 📌ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ศูนย์การค้าไลฟ์ สไตล์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ภายใต้แนวความคิด 🏘️“ลดยกเมือง” ที่เน้นยกระดับคุณภาพ โดยยังคงมีราคาที่เข้าถึงได้กับทุก กลุ่มลูกค้า 👍 นอกจากนี้นั้นทางสมาคมฯ เล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมุ่งเน้นการนำเสนอที่อยู่อาศัยและโครงการ อสังหาริมทรัพย์ที่มีมาตรฐานคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการปรับราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่น เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ แลกเปลี่ยนมุมมอง และร่วมกันกำหนดทิศทางที่ยั่งยืนของจังหวัดขอนแก่น ทางสมาคมฯ เชื่อมั่นว่าแนวความคิด “ลดยกเมือง” จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยยกระดับ มหกรรมบ้านและคอนโด ขอนแก่น 2025 “ลดยกเมือง” ลดราคา เพิ่มโปรโมชั่นสุดพิเศษ และ ความคุ้มค่า ของทุกโครงการไว้ในที่เดียว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านที่อยู่อาศัย “ราคาลดลง แต่ยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้น” โดยภายในงานครั้งนี้ทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ ชั้นนำที่มารวมตัวกัน เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษของทุกโครงการไม่ว่าจะเป็นส่วนลดพิเศษ การผ่อนชำระ หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น ถือเป็นโอกาสทองของผู้ที่กำลังมอง หาบ้านและคอนโดคุณภาพ ในราคาที่ลดลงเข้าถึงได้ และเหมาะกับทุกกลุ่มลูกค้า สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น เชื่อมั่นว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโด ขอนแก่น 2025 ภายใต้แนวคิด “ลดยกเมือง” จะช่วยสร้างประโยชน์ให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ ประกอบการ พร้อมขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่นสู่การเป็นมหานครแห่งอนาคตอย่างมั่นคง ประมวลภาพจาก🧐งานแถลงข่าวมหกรรมบ้านและคอนโด ขอนแก่น 2025 (House and Condo Expo Khon Kaen 2025) ณ หอการค้า จังหวัดขอนแก่น วันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น.     #บ้านและคอนโด2025 #สมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น #ขอนแก่น #บ้านและคอนโดขอนแก่น

สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัด ขอนแก่น ผนึกกำลังผู้ประกอบการ จัดงาน 🏠มหกรรมบ้านและคอนโด ขอนแก่น 2025 อ่านเพิ่มเติม »

งานสัมมนาการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ของอีสาน เพื่อผู้ประกอบ นักธุรกิจ นักการตลาด Thailand Marketing Day On Tour 2025 @ Khon Kaen

“Thailand Marketing Day On Tour” หรือ “วันนักการตลาดสัญจร” เป็นกิจกรรมประจำปีของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ที่จัดขึ้นเพื่อกระจายองค์ความรู้ด้านการตลาดสมัยใหม่สู่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของนักการตลาดไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ในปี 2568 นี้ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และมูลนิธิเพื่อการศึกษาของสมาคมการตลาดฯ โดยความร่วมมือกับคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมจัดงานขึ้น ณ จังหวัดขอนแก่น เพื่อเปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้ การสร้างแรงบันดาลใจ และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และคนรุ่นใหม่ 📣 Agenda งาน Thailand Marketing Day On Tour 2025 @ Khon Kaen The Awakening Momentum ปลุกพลังความคิด พิชิตความเปลี่ยนแปลง งานสัมมนาการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ของภาคอีสาน  ที่จะปลุกไอเดีย มอบแนวคิด เพื่อพิชิตความเปลี่ยนแปลงให้กับคุณ!   📌 3 Seminars | 13 Sessions | 15+ Speakers เวทีเดียวที่จะยกระดับ “ความรู้ – แรงบันดาลใจ – โอกาส” ให้กับอาจารย์ นักศึกษา ผู้ประกอบการ นักการตลาด และทุกภาคธุรกิจอย่างแท้จริง   📅 26 กันยายน 2568 The Class of Change: พลิกโฉมคลาสสู่การเปลี่ยนแปลง สำหรับอาจารย์ (Train the Trainers สัญจร) เวลา 08:30 – 12:00 น. 📍 ลงทะเบียนฟรี: 1 ส.ค. – 15 ก.ย. 2568   Shortcut to Success?: ทางลัดสู่ความสำเร็จ… เส้นทางนี้ไม่มีสูตรตายตัว สำหรับนักศึกษา (J-MAT สู่เส้นทางการตลาดสัญจร) เวลา 13:00 – 16:30 น. 📍 ลงทะเบียนฟรี: 1 ส.ค. – 15 ก.ย. 2568   📅 27 กันยายน 2568 The Awakening Momentum: ปลุกพลังความคิด พิชิตความเปลี่ยนแปลง

งานสัมมนาการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ของอีสาน เพื่อผู้ประกอบ นักธุรกิจ นักการตลาด Thailand Marketing Day On Tour 2025 @ Khon Kaen อ่านเพิ่มเติม »

👮ตำรวจ ไทย-เวียดนาม จับมือเสริมทัพปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชาที่ย้ายทัพจาก ปอยเปต ไป สวายเรียง📲

จเรตำรวจแห่งชาติยกระดับความสัมพันธ์ตำรวจไทย-เวียดนาม ร่วมเสริมทัพวอร์รูม IAC ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปร่วมพิธีวันสถาปนาครบรอบ 80 ปี กระทรวงความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หารือความร่วมมือด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ระหว่างไทย – เวียดนาม และพบปะหารือเชื่อมความสัมพันธ์ตำรวจฮานอย เมื่อวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตามคำเชิญของกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้มี พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พ.ต.อ.สัญญา เนียมประดิษฐ์ รองผู้บังคับการกองการต่างประเทศ และคณะ ร่วมเดินทาง พล.ต.อ.ธัชชัยฯ และคณะ ได้เข้าร่วมพิธีสถาปนาครบรอบ 80 ปี กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติเวียดนาม (National Convention Center )โดยมีผู้แทนจาก 17 ประเทศเข้าร่วม   ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจไทยและตำรวจเวียดนาม, พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวียดนาม อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะ อธิบดีกรมป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครฮานอย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้ขอบคุณตำรวจเวียดนามที่ได้ร่วมดำเนินการจับกุมและประสานงานให้กับตำรวจไทยเป็นอย่างดี และทางด้านตำรวจเวียดนามขอบคุณฝ่ายไทยที่ได้ประสานงานและจับกุมคนที่ทางการเวียดนามต้องการตัว มีการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีตลอดมา ทั้งนี้ ได้มีการหารือถึงความเคลื่อนไหวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือ Scam Center ที่มีการเคลื่อนไหวย้ายฐานปฏิบัติการจากฝั่งตะวันตกของประเทศกัมพูชา เช่น ปอยเปต ออกไปทางฝั่งตะวันออกมากขึ้น เช่น สวายเรียง ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศเวียดนาม อาศัยสาธารณูปโภคของเวียดนามไปใช้ในการหลอกลวงคนเวียดนาม ไทยและเวียดนามได้ยกระดับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล เช่น พิกัดสถานที่ของแก๊ง การปราบปราม และการประสานในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับระหว่างประเทศ ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) หรือ “วอร์รูม IAC” มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนานาประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง โอกาสนี้จึงได้เชิญเจ้าหน้าที่จากเวียดนามมาปฏิบัติงานในวอร์รูมดังกล่าว ซึ่งอธิบดีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามแสดงความยินดีและพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ประเทศเวียดนามให้ความสำคัญต่อการเชิญผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วมในโอกาสสำคัญครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและเวียดนามในด้านความมั่นคงและการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติให้มีประสิทธิภาพและก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายต่างมีความพึงพอใจและประทับใจในความร่วมมือที่ผ่านมาในทุกระดับ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะปฏิบัติงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มข้นต่อไป #ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #Royalthaipolice   ที่มา: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

👮ตำรวจ ไทย-เวียดนาม จับมือเสริมทัพปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชาที่ย้ายทัพจาก ปอยเปต ไป สวายเรียง📲 อ่านเพิ่มเติม »

“ไทย-กัมพูชา” เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง🤝จับมือลงนามผลประชุม GBC เปิด 13 ข้อตกลงมีอะไรบ้าง?

ผลประชุม GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ทั้ง 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ผู้แทน 2 ชาติ ลงนามบันทึกผลการประชุม หวังคลี่คลาย สถานการณ์ชายแดน นำมาซึ่งสันติภาพ วันนี้ (7 ส.ค.2568) ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ฝ่ายไทยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามี พลเอกเตีย เซ ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะ อีกทั้งมีผู้แทนของประเทศผู้ร่วมสังเกตการณ์ ได้แก่ มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน เข้าร่วมด้วย โดยไทยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนคนไทย และนำกัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาสองฝ่าย ร่วมพิจารณาข้อปฏิบัติตาม ข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.43 น.ตามเวลาประเทศไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ เสร็จสิ้นไปแล้ว สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพร้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมี สาระสำคัญ ดังนี้ . 1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี 2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย 3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา 4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่

“ไทย-กัมพูชา” เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง🤝จับมือลงนามผลประชุม GBC เปิด 13 ข้อตกลงมีอะไรบ้าง? อ่านเพิ่มเติม »

🇹🇭ทบ.เปิดไทม์ไลน์ ฟ้องคณะทูต! แฉกัมพูชาโกหกอะไรบ้าง🇰🇭 พร้อมงัดหลักฐานการละเมิดอนุสัญญา และก่ออาชญากรรมสงคราม ให้โลกรู้

วันนี้ (1 ส.ค.2568) เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยนำให้เอกอัครราชทูต อุปทูต ผู้แทนรวม 11 ประเทศ ผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ สื่อต่างประเทศ 39 คนและสื่อไทย 110 คน ลงพื้นที่ ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน วันนี้ (1 ส.ค.) ที่มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ กองทัพบก ได้ชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อคณะนักการทูต คณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประจำประเทศไทย สื่อมวลชน ระบุว่า การดำเนินงานของกองทัพ ในการรักษาอธิปไตย และยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และย้ำถึงความมุ่งมั่งของกองทัพที่จะแก้ปัญหา ด้วยทวิภาคีที่ไทย และกัมพูชามีอยู่ ด้วยความจริงใจและโดยสันติวิธีมาโดยตลอด ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการยั่วยุ เพื่อสร้างความตึงเครียด ด้วยกิจกรรมทางทหาร และพลเรือน โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้ 13 ก.พ. 68 การพานักท่องเที่ยวขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม 28 ก.พ. 68 การเผาศาลาตรีมุข สัญลักษณ์ความร่วมมือ ไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว มี.ค. ถึง เม.ย.68 ทหารกัมพูชา ดัดแปลงภูมิประเทศแนวชายแดน เพื่อทางการทหาร เสริมความแข็งแรงของที่มั่น ปรับปรุงเส้นทาง และการขยายแนวเขตคูเลตเข้ามาในเขตประเทศไทย เม.ย. ถึง พ.ค. 68 ฝ่ายกัมพูชา ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลเพิ่มเติม และอาวุธยุทโธปกรณ์ประชิดชายแดนไทย – กัมพูชาเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่มีหลักฐานการพิสูจน์ ทราบจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของนักวิจัยชาวออสเตรเลีย ต่อมาฝ่ายกัมพูชา ได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทย โดยเข้ามาขุดคูเลตติดต่อ 28 พ.ค. กัมพูชาเริ่มเปิดฉากการยิง (Skirmish) ระหว่างหน่วยในพื้นที่ โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ เพื่อเป็นการป้องกันตัว บริเวณช่องบก กองทัพ และรัฐบาลไทยพยายามใช้แก้ไขปัญหาแบบทวิภาคี ซึ่งไม่เป็นผล ห้วงเดือน ก.ค.68 ทหารกัมพูชา ได้รุกล้ำเข้ามาลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหลายพื้นที่ ในเขตแดนไทย จนทำให้ทหารไทยลาดตระเวน บาดเจ็บสูญเสียขาจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ถึง 2 ครั้ง ทำให้เกิดการสูญเสีย ขาขาด 2 นาย และมีบางส่วนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่ายกัมพูชาจงใจละเมิดหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง อีกทั้งเป็นการจงใจ ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่ทั้งไทย และกัมพูชาให้สัตยาบรรณ นอกจากนั้น ในพื้นที่ดังกล่าว ได้ดำเนินการเก็บกู้วัตถุระเบิด ภายใต้ความร่วมมือของนานาชาติ จนมีความปลอดภัยเป็นที่ประจักษ์แล้ว พาเปิดเบิ่ง  สรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา   ในขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชา พยายามแสดงการยั่วยุ

🇹🇭ทบ.เปิดไทม์ไลน์ ฟ้องคณะทูต! แฉกัมพูชาโกหกอะไรบ้าง🇰🇭 พร้อมงัดหลักฐานการละเมิดอนุสัญญา และก่ออาชญากรรมสงคราม ให้โลกรู้ อ่านเพิ่มเติม »

CEA แถลงข่าวจัดเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ผนึกกำลังพันธมิตรระดับประเทศ ปั้นอีสานสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคสู่สากล

ISAN Insight And Outlook ร่วมเป็นพันธมิตรเครือข่าย เทศกาล ‘อีสานสร้างสรรค์’ จากจุดเริ่มต้นสู่ความร่วมมือทุกภาคส่วนเป็นปีที่ 5 หลายๆ ท่านอาจจะรู้จักหรือ เคยได้ยินงานเทศกาลคุ้นหูอย่างเช่น Bangkok Design Week, Chiangmai Design Week, Pakk Taii Design Week, และ นี่คืองานที่ไม่ได้จำกันที่แค่ Design Week แต่อีสานคือดินแดนแห่งความสร้างสรรค์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นงานในชื่อ ISAN Creative Festival เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับประเทศ จัดงานแถลงข่าว ประกาศความพร้อมจัด “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568” หรือ “Isan Creative Festival 2025” (ISANCF2025) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้ธีม “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 บน 4 พื้นที่สำคัญในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ TCDC ขอนแก่น ย่านกังสดาล, ย่านชุมชนสร้างสรรค์โคลัมโบ, โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น, ชุมชนสาวะถี และพื้นที่อื่น ๆ ในภาคอีสาน นายสักก์สีห์ พลสันติกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘เทศกาล’ ไม่ใช่แค่กิจกรรม แต่คือเวทีที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,590 ล้านบาท และปีนี้เทศกาลฯ พร้อมก้าวสู่ปีที่ 5 อย่างเต็มรูปแบบ โดยยกระดับเทศกาลให้กลายเป็น Creative Business Platform ที่เชื่อมโยงนักสร้างสรรค์และชุมชนกับภาคอุตสาหกรรม พัฒนาทุนวัฒนธรรมให้เกิดการลงทุน การคืนถิ่นของคนรุ่นใหม่ และสร้างการเติบโตให้เมืองในอีสานกลายเป็น Creative City ที่กระจายโอกาสอย่างยั่งยืน” “ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ที่อยากชวนทุกคนมาต่อยอดโอกาสใหม่ของอีสาน ผ่านการใช้กระบวนการซอฟต์พาวเวอร์ทั้งในมิติของ ‘การโชว์โอกาส’ ผ่านต้นทุนวัฒนธรรมที่ต่อยอดได้ทางธุรกิจ และ ‘การโชว์ศักยภาพเชิงพื้นที่’ ที่พร้อมต้อนรับการลงทุน การท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ โดยปีนี้มีมากกว่า 200 โปรแกรมใน 7 รูปแบบกิจกรรม ทั่ว 4 พื้นที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น ซึ่ง CEA

CEA แถลงข่าวจัดเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ผนึกกำลังพันธมิตรระดับประเทศ ปั้นอีสานสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคสู่สากล อ่านเพิ่มเติม »

TCEB Isan Mice เผย “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” ติดอันดับ✈️ ‘เมืองจัดประชุมนานาชาติของโลก’ ใน ICCA Ranking แล้วอย่างเป็นทางการ!🤝

สมาคมการจัดประชุมนานาชาติเปิดผลรายงาน ICCA Ranking Report 2024 ซึ่งจัดอันดับประเทศและเมืองเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติทั่วโลก ไทยไต่ขึ้นสู่อันดับ 25 ของโลก ด้วยจำนวนงานประชุมนานาชาติรวม 158 งาน เพิ่มขึ้นจาก 143 งานในปีก่อน ส่งผลให้ไทยครอง อันดับ 5 ในเอเชีย และ ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน . ในระดับเมือง กรุงเทพมหานคร สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นสู่อันดับ 7 ของโลก และ อันดับ 3 ของเอเชีย ขณะที่ เชียงใหม่ (12 งาน), พัทยา (10 งาน) และภูเก็ต (8 งาน) ยังคงรักษาตำแหน่งเมืองเป้าหมายหลักในการจัดประชุมนานาชาติอย่างต่อเนื่อง รายงานยังเปิดเผยว่า ปีนี้มีอีก 9 เมืองในไทยที่สามารถผ่านเกณฑ์การจัดอันดับ ICCA เป็นครั้งแรกหรืออย่างต่อเนื่อง ได้แก่:  ชลบุรี (3 งาน)  เชียงราย (2 งาน)  ปทุมธานี (2 งาน)  หัวหิน (1 งาน)  ขอนแก่น (1 งาน) สมุย (1 งาน) นครราชสีมา (1 งาน) นนทบุรี (1 งาน) ปัตตานี (1 งาน) รวมแล้วในปี 2567 มีเมืองในประเทศไทยติดอันดับรวม 13 เมือง สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและศักยภาพของเมืองรองทั่วประเทศในฐานะเมืองไมซ์ .  ข่าวดีสำหรับชาวไมซ์อีสาน ‘ขอนแก่น’ และ ‘นครราชสีมา’ เป็น 2 ใน 9 เมืองในไทยที่สามารถผ่านเกณฑ์การจัดอันดับ ICCA เป็นครั้งแรกหรืออย่างต่อเนื่อง ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่ทำให้ขอนแก่นและนครราชสีมาก้าวขึ้นบนแผนที่โลกของเมืองไมซ์ระดับสากล ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/1DdfsF9n4R/?mibextid=wwXIfr _____ #ICCARanking #KhonKaenOnGlobalMap #TCEBISANMICE #MICEisMore ⸻ Thailand’s “New High” in Global Convention Destination Ranking Country Bouncing to 1st in ASEAN, 5th in Asia Pacific. Bangkok Rising to World’s 7th Spot and APAC’s Top 3 Chiang

TCEB Isan Mice เผย “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” ติดอันดับ✈️ ‘เมืองจัดประชุมนานาชาติของโลก’ ใน ICCA Ranking แล้วอย่างเป็นทางการ!🤝 อ่านเพิ่มเติม »

สุดล้ำ❗ทีมวิจัย มทส.โคราช พัฒนา CT-Scan พร้อม AI ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ รู้ผลใน 3 วิ

ไทยยังครองแชมป์ “ราชาทุเรียน” ส่งออกกว่า 800,000 ตัน/ปี สร้างรายได้ 150,000 ล้าน แต่ปัญหาทุเรียนอ่อน หนอนเจาะ เนื้อตกเกรด กำลังคุกคามความเชื่อมั่นของตลาด โดยเฉพาะ “จีน” ARDA จึงสนับสนุนทีมนักวิจัย ม.เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา พัฒนาเครื่อง CT-Scan ที่ตกรุ่นปลดระวางจากบริษัทเอกชนด้านเครื่องมือแพทย์ มาพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องต้นแบบ ร่วมกับ AI วิเคราะห์เนื้อทุเรียนแบบไม่ต้องผ่า… สแกนได้ 1,200 ลูก/ชม. แยกอ่อน-แก่ ตรวจหนอนได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดต้นทุน ลดแรงงาน และยกระดับคุณภาพผลผลิตสู่ตลาดโลก… นี่คือตัวอย่างจริงของ “เกษตรสมัยใหม่” ที่ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เกิดขึ้นแล้ว เพราะ “คุณภาพ” จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของเกษตรไทย. แม่นยำ 95% รู้ผลใน 3 วินาที! หรือ 1,200 ลูก/ชั่วโมงครั้งแรกในไทย! เครื่อง CT-Scan ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ ใช้งานจริงแล้วในล้งทุเรียน จ.จันทบุรี   ARDA โชว์ความเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ราชาหนาม สร้างเครื่อง CT-Scan ทุเรียนสุดล้ำประมวลผลด้วยระบบ AI คัดทุเรียน “ไม่อ่อน-ไม่หนอน” 1 ลูกใช้เวลาสแกน 3 วินาที ประเทศไทยถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งทุเรียน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดโลกปีละไม่ต่ำกว่า 800,000 ตันต่อปี อยู่ในภาคตะวันออกของไทย 300,000 ตัน ภาคใต้ประมาณ 500,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกหลักของไทยยังคงเป็นประเทศจีนที่มีการนำเข้าปีละไม่ต่ำกว่า 700,000 ตัน และถึงแม้ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย แต่การคัดแยกระดับความอ่อน-แก่และการตรวจสอบปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนยังคงเป็นความท้าทายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ซึ่งหากไทยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ นั่นไม่เพียงแต่จะเสียแชมป์ส่งออกทุเรียนเบอร์ 1 ของโลก แต่ยังเป็นการสูญรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความต้องการสูง แต่ปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยและกระทบต่อการตลาดส่งออกทุเรียน คือ ปัญหาหนอนในผลทุเรียนและการเก็บทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย อีกทั้งยังพบการลักลอบส่งออกทุเรียนอ่อนไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ และทำลายความเชื่อมั่นในคุณภาพทุเรียนไทยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นหากประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยคัดกรองทุเรียนที่แม่นยำก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและแก้ปัญหาดังกล่าวได้ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อดำเนินโครงการ “การออกแบบเครื่องคัดแยกความอ่อน-แก่ และหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนด้วยเทคนิค CT-Scan ร่วมกับการประมวลผลผ่านโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก” เพื่อออกแบบ และพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบความอ่อน – แก่ และหนอนในผลทุเรียนด้วยเทคนิค CT-Scan ระดับโรงคัดบรรจุ ที่มีความแม่นยำไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 “ปัจจุบันการประเมินทุเรียนอ่อนแก่จะใช้วิธีฟังเสียงเคาะ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเกษตรกร แต่ก็ไม่สามารถยืนยันผลได้ 100% ขณะที่หนอนมีวงจรชีวิตอยู่ข้างในและเติบโตพร้อมผลทุเรียนจึงไม่รู้ว่าทุเรียนแต่ละลูกมีหนอนหรือไม่ เพราะยังไม่มีวิธีตรวจสอบ แต่การใช้เทคนิค CT-Scan

สุดล้ำ❗ทีมวิจัย มทส.โคราช พัฒนา CT-Scan พร้อม AI ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ รู้ผลใน 3 วิ อ่านเพิ่มเติม »

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

“ทรู” เน็ตดับ โทรไม่ได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุดในอีสาน และ ทั่วไทย ผู้ใช้งานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน และ ทีมงาน ISAN Insight พบว่าเวลาช่วงสายวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ประมาณ 9 โมงเป็นต้นไป ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ค่าย “ทรู” ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุด ปัญหาสัญญาณ “ล่ม” ขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ X ในขณะที่📶เว็บไซต์ Downdetector รายงานเหตุ “True” ล่มทั้งเน็ต – สัญญาณมือถือ ไม่สามารถใช้งานได้ในหลายพื้นที่ 22 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Downdetector แพลตฟอร์มระบุข้อมูลสถานะบริการออนไลน์ รายงานเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ว่า เกิดเหตุสัญญาณอินเทอร์เน็ตของ True ล่มในหลายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ที่พบการล่มนั้นไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งบนพีซีและสมาร์ตโฟนได้ และยังพบการล่มใน DNS และ เซิร์ฟเวอร์ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงมีผู้ใช้งานหลายรายเปิดเผยบนโซเชียลมีเดียด้วยว่า สัญญาณโทรศัพท์ของ True ก็ไม่สามารถใช้งานโทรเข้า-ออกได้เช่นกัน . ทรู ชี้แจง ตอนนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขเหตุสัญญาณมือถือขัดข้องอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ใช้งานดีแทคนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว . #True #ทรู #ทรูล่ม #เน็ตทรูล่ม #สัญญาณล่ม ส่วนค่าย True แนะนำให้ รีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้ง เพื่อแก้ไขให้กลับมา โทรได้ 

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

🗨️Typhoon; โมเดล AI สัญชาติไทย รองรับ ‘เลขไทย’ เอกสาร ‘ราชการ’ ก็ไม่กลัว ดึงข้อมูลจาก-PDF OCR โปรเจคภายใต้ยานแม่ SCB-X

[เปิดให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้งานได้แล้ววันนี้ “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่บน Samba-1]   กลุ่ม SCBX นำโดย เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ AI ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI-First Organization ล่าสุด ผนึกกำลัง SambaNova Systems บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้าน Generative AI ที่รวบรวมโมเดลที่เร็วที่สุด และ Chips ที่ทันสมัยที่สุด นำ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) เปิดให้บริการบนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts (CoE) เพื่อให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้ต่อยอดและพัฒนาแอปพลิเคชันด้าน AI บนแพลตฟอร์ม Samba-1 ได้แล้ววันนี้ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะ (Large Language Model optimized for Thai) ซึ่งนับเป็นโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดในปัจจุบันและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPT-3.5 และ GPT-4 ในภาษาไทย โดยวัดจาก Benchmark ที่รวบรวมและจัดเตรียมมาจากข้อสอบภาษาไทยความยากเทียบเท่าข้อสอบมัธยมปลายและข้อสอบมาตรฐานอื่นๆ ในประเทศไทย โดย “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางภาษาที่โมเดลส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกฝึกฝนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก รวมถึงข้อจำกัดด้านทรัพยากรของภาษาไทยที่ไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ (Low Resource Language) ผู้สนใจและนักพัฒนาทดลองสามารถดาวน์โหลด Typhoon Model เพื่อต่อยอดในการพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://opentyphoon.ai/ [ทำไมไทยต้องมี AI ที่มี LLM เป็นของตนเอง?] . ประหยัดต้นทุนต่อ Token: ในเชิงเทคนิค หากใครจ่ายเงินใช้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini หรือ แบรนด์ใดๆ อยู่จะทราบว่าการใช้งานของคุณ จำกัด token ตามแพ็คเกจที่จ่ายเงิน สมมติเช่น Hi = 1 คำ 2 token, แต่พอเป็น สวัสดี อาจจะใช้มากถึง 4-5 token เพื่อให้ Ai เข้าใจคำที่มีความหมายเดียวกันในต่างภาษา เพราะ LM หรือ

🗨️Typhoon; โมเดล AI สัญชาติไทย รองรับ ‘เลขไทย’ เอกสาร ‘ราชการ’ ก็ไม่กลัว ดึงข้อมูลจาก-PDF OCR โปรเจคภายใต้ยานแม่ SCB-X อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top