Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

⏰พาย้อนเบิ่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา “เมียฝรั่งป้ายแดง” แดนอีสานมีมากแค่ไหน👨🏼👩🏻💍

พาย้อนเบิ่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา “เมียฝรั่งป้ายแดง” แดนอีสานมีมากแค่ไหน..ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2556 – 2566 พบว่าในภาคอีสานมีจำนวนทะเบียนสมรสระหว่างหญิงไทยกับชาวต่างชาติกว่า 10,430 คู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีจํานวนที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสมากกว่าหลายเท่าตัวเลยทีเดียว.ในปัจจุบันผู้หญิงไทยได้สมรสกับชาวต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากสังคมในปัจจุบันมีการเปิดกว้างมากขึ้นจากในอดีต อีกทั้งสภาพสังคมในปัจจุบันมีรูปแบบของการสมรสที่หลากหลายทางเพศ.งานวิจัยของ ปรัชญานันท์ เวียงนนท์ (2548:4-5) ในงานวิจัยเรื่อง เขยฝรั่ง พบว่า หลังจากหญิงไทยแต่งงานกับชายต่างชาติแล้วได้รับการดูแลที่เหมาะสม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีที่อยู่อาศัยมั่นคง มีเครื่องอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน มีความคล่องตัวในด้านเศรษฐกิจและได้รับการยอมรับในสังคม. .อ้างอิงจาก:– สำนักบริหารการทะเบียนติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่https://linktr.ee/isan.insight#ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #เมียฝรั่ง #ทะเบียนสมรสระหว่างชาวไทยกับชาวต่างชาติ #ภรรยาฝรั่ง

พามาเบิ่ง🧐จังหวัดไหนในอีสานที่มี การกำจัดขยะเยอะที่สุด

ฮู้บ่ว่า❓ในแต่ละวันภาคอีสานมีปริมาณ🗑ขยะมากวันละ 9 พันตัน และกว่าครึ่งกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี♻ . ISAN Insight and Outlook พามาเบิ่ง🧐จังหวัดไหนในอีสานที่มี การกำจัดขยะเยอะที่สุด . 😷การจัดการขยะเป็นหนึ่งในปัญหาที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข โดยเฉพาะในภาคอีสานที่มีการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษแสดงให้เห็นถึงปริมาณขยะที่ถูกกำจัดในแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน ในรูปแบบของการที่ไม่ถูกกำจัดอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน และอย่างถูกต้องซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษ เช่น การปนเปื้อนของสารพิษในดินและน้ำ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . 🍂อย่างไรก็ตาม ขยะที่ถูกกำจัดอย่างไม่ถูกต้อง เช่น การทิ้งขยะในที่สาธารณะ การเผาขยะแบบไม่มีการควบคุม หรือการฝังกลบขยะในพื้นที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยังเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะการกำจัดขยะในลักษณะนี้จะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและน้ำที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการทิ้งขยะในแหล่งน้ำหรือพื้นที่เกษตรกรรม . การแก้ไขปัญหาขยะต้องเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของทุกคนในการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง การแยกขยะอย่างถูกต้อง การรีไซเคิล และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการจัดการขยะ การสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชนจะช่วยให้การจัดการขยะในภาคอีสานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากขยะได้อย่างยั่งยืนยืน . ที่มา สำนักงานสถิติ กรมควบคุมมลพิษ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน    

พามาฮู้จัก ตัวอย่าง 6 เมียฝรั่ง คนดังแดนอีสาน

พามาฮู้จักตัวอย่าง 6 เมียฝรั่ง คนดังแดนอีสาน . ยายนาง กินไปไทยหรั่ง 📍ขอนแก่น Facebook : ผู้ติดตาม 2.2 ล้านคน Youtube : Subscribe 1.79 ล้านคน ไลฟ์สไตล์ในเดนมาร์ก เช่น การกิน การทำอาหาร การเก็บเห็ดและหอย นางบี สุภาวดี ไลลานี 📍สุรินทร์ Facebook : ผู้ติดตาม 2.7 ล้านคน TikTok : ผู้ติดตาม 1.5 ผู้ติดตาม ไลฟ์สไตล์แบบสาวบ้านนา ขายความฮากับสามีหนุ่มชาวฝรั่งเศส คุณซอ สะใภ้เกาหลี 📍 หนองคาย Facebook : ผู้ติดตาม 4.8 ล้านคน Youtube : Subscribe 2.57 ล้านคน ไลฟ์สไตล์ในเกาหลี เช่น การทำอาหารไทย-เกาหลี ร้านอาหาร  และทำสวน ยายณี หนูนาสวีเดน 📍ขอนแก่น Facebook : ผู้ติดตาม 3.7 ล้านคน Youtube : Subscribe 6.58 แสนคน ไลฟ์สไตล์ของครอบครัว การกินอาหารอีสานคู่กับผักสด  ใยไหม ไหมไทยในฝรั่งเศส 📍ขอนแก่น Facebook : ผู้ติดตาม 1 ล้านคน Youtube : Subscribe 4.11 แสนคน ไลฟ์สไตล์ในฝรั่งเศส เช่น การทำและกินอาหารอีสาน และการทำอาหารขาย พี่ติ๋ว สาวกาฬสินธุ์พลัดถิ่นไกลบ้าน 📍กาฬสินธุ์ Facebook : ผู้ติดตาม 2.2 ล้านคน Youtube : Subscribe 1.88 แสนคน ไลฟ์สไตล์การกินและการเที่ยว . เหล่า 6 คนดังมีผู้ติดตามมีคอนเทนต์ในการ Vlog หรือ โชว์ไลฟ์สไตล์ ทั้งวัฒนธรรมอารหาร การกิน ภาษา และความสนุกสนานกับผู้ชม จนสามารถสร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์ได้นั่นเอง . . . อ้างอิงจาก: เว็บไซต์บริษัท และ เพจเจ้าของช่อง . . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ขอนแก่น #สุรินทร์ …

พามาฮู้จัก ตัวอย่าง 6 เมียฝรั่ง คนดังแดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

บริษัทผลิตยางพารา ทุนจดทะเบียนพันล้านในประเทศไทย

  ไทยเป็นผู้ส่งออกยางพาราที่สำคัญอันดับ 1 ของโลก โดยยางพาราหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในปี 2567 นี้ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมายาพาราเป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงเป็นดับ 4 รองจาก ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล และยานยนต์ โดยมูลค่ารวมของการส่งออกยางพาราของไทยในปีนี้อยู่ที่ 493,933 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 430,351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% โดยคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 และ 2 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และจีน ตามลำดับ ในปี 2566 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีผลผลิตจากต้นยางพารา 4.8 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ 2.77 ล้านตัน และภาคอีสาน 1.37 ล้านตัน สำหรับบริษัทที่เป็นผู้ผลิตยางพาราในประเทศไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายบริษัท อีกทั้งยังมีการยางแห่งประเทศไทย และสมาคมยางพาราไทย ที่คอยให้การสนับสนุนบริษัทต่างๆอยู่เบื้องหลัง โดยบริษัทที่ทาง ISAN Insight & Outlook เลือกมานำเสนอในวันนี้จะเป็นบริษัทผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 1,000 ล้านบาท ได้แก่   บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนสูงที่สุดในกลุ่มการผลิตยางแผ่นและยางแท่งและเกือบแตะ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องเป็นบริษัทของคนไทยที่มีการร่วมหุ้นลงทุนกับชาวต่างชาติจึงทำให้มูลค่าของทุนจดทะเบียนมาการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันทางบริษัทมีโรงงานอยู่ 17 โรงงานในทุกภูมิภาค โดยบริษัทไทยฮั้วยางพาราเป็นบริษัทที่กินส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 11.33% ลูกค้าและตลาดที่สำคัญของบริษัทไทยฮั้วยางพาราประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรป และบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สำคัญ เช่น กู๊ดเยียร์ มิชลิน คอนติเนนทอลเอจี พิเรลลี โยโกฮามารับเบอร์ ซูมิโตโม่คอร์ปอเรชั่น ฮันกุกไทร์เป็นต้น   บริษัท เซาท์แลนด์รีซอร์ซ จำกัด บริษัทผลิตยางรายใหญ่ในภาคใต้ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 มีโรงงานทั้งในภาคใต้หลายพื้นที่ และในต่างจังหวัด รวม 17 โรงงาน สร้างการจ้างงานให้คนในพื้นที่มากกว่า 3,000 คน โดยบริษัทเซาร์แลนด์รีซอร์ซนั้นกินส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 7.59% น้อยกว่าบริษัทอื่นแม้ว่ากำลังการผลิตจะสูงกว่าก็ตาม ลูกค้าของบริษัทคือผู้ผลิตยางรถยนต์และผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยางอื่นๆ โดยตลาดหลักประกอบด้วยประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย มาเลเซีย อเมริกา และประเทศต่างๆ ในยุโรป   บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผลิตยางรายใหญ่ในภาคอีสานที่ปี 2566 ที่ผ่านมายังคงสามารถทำกำไรได้มากถึง 1,545.6 ล้านบาท ขณะที่บริษัทอื่นนั้นขาดทุนกันหลายบริษัท โดยบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ กินส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในกลุ่ม 3 บริษัทที่ยกมา อยู่ที่ 11.66% …

บริษัทผลิตยางพารา ทุนจดทะเบียนพันล้านในประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง ตัวอย่าง ราคาที่ดินต่ำสุด อยู่ที่ไหนบ้างในภาคอีสาน

พาสำรวจเบิ่ง ตัวอย่าง ราคาที่ดินต่ำสุด อยู่ที่ไหนบ้างในภาคอีสาน . . จะเห็นได้ว่าที่ดินที่ราคาต่ำสุดส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ห่างจากตัวเมือง เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะยังไม่ครบครัน อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญนั้นก็คือ ที่ดินที่มีข้อจำกัด เช่น ที่ดินติดแม่น้ำ เพราะอาจจะกังวลในเรื่องของน้ำท่วมในอนาคต ที่ดินลาดชัน หรือว่าจะเป็นที่ดินที่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ จะมีราคาถูกกว่าที่ดินที่มีสภาพดี . อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ที่ดินมีราคาที่ต่ำก็คือ การเข้าออกแปลงที่ดิน ถ้าเป็นที่ดินตาบอด หรือยืมทางเข้าออกของคนอื่น ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาในด้านลบ ในทางกลับกันถ้าที่ดินอยู่ติดถนนใหญ่ สะดวกกับการเดินทางเข้าออก แน่นอนว่าก็จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีให้กับราคาที่ดิน  . ปัญหาที่ดินราคาต่ำเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและชุมชนเมืองบางแห่ง ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่มีปัจจัยหลายอย่างซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การว่างงานสูง ทำให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งก็สามารถส่งผลต่อราคาที่ดินเช่นกัน . อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินส่วนมากจะลดลงก็ต่อเมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น มีระยะเวลาการขายที่บีบคั้นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือที่เรียกกันว่า Forced Sale ทำให้ต้องลดราคาลง ยิ่งในช่วงสถานการณ์วิกฤติที่ผ่านมา แน่นอนว่าเจ้าของที่ดินบางรายตั้งราคาขายถูกลงถ้าต้องการขายในระยะเวลาที่กำหนด  . . อ้างอิงจาก: – กรมธนารักษ์ – CBRE   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ราคาที่ดิน #ราคาประเมินที่ดิน #ราคาที่ดินต่ำสุด

ฮู้บ่ว่า? การย่อยสลายของกระทงใช้เวลาปานใด๋ ?

ฮู้บ่ว่า  การย่อยสลายของกระทงใช้เวลาปานใด๋ ? . . ก่อนจะไปลอยกระทงปี 2567 กัน มีข้อมูลที่น่าสนใจจากสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) มาฝาก  . เนื่องจากปัจจุบันหลายคนหันไปใช้กระทงรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อหวังจะลดปริมาณขยะจากกระทง แต่กระทงแต่ละชนิดก็ใช้ระยะเวลาย่อยสลายแตกต่างกัน บางชนิดอาจย่อยสลายได้เร็ว บางชนิดอาจกลายเป็นอาหารปลาได้ แต่หากมีปริมาณที่มากเกินไปก็ย่อมส่งผลเสียเช่นกัน . กระทงที่ทำจากขนมปังเมื่อขนมปังยุ่ย จะทำให้น้ำมีค่าบีโอดี (Biochemical Oxygen Demand, BOD) หรือ ค่าสารอินทรีย์สูง หากปริมาณไม่มาก จะไม่ค่อยส่งผลเสีย แต่หากมากเกินไป จะทำให้แหล่งน้ำนั้นเน่าเสียได้  . อีกทั้งยังมีผลกระทบที่จะเกิดกับธรรมชาติ สัตว์น้ำ ที่อาจทั้งกินเอาขยะเข้าไป หรือก็ต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่เริ่มเน่า รวมถึงวัสดุอุปกรณ์บางอย่างในการทำกระทงเช่น ตะปู ลูกแม็กที่ใช้เย็บใบตอง ที่ไม่อาจย่อยสลายได้ . ในการจัดเก็บกระทง จึงมีการแยกกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ นำไปเป็นวัตถุดิบหมักทำปุ๋ย โดยส่งไปที่ศูนย์กำจัดมูลฝอย ส่วนกระทงที่ทำจากโฟมจะรวบรวมและประสานบริษัทนำไปรีไซเคิล เช่น การทำกล่องดินสอ ไม้บรรทัด และวัสดุในหมอนรองคอ ซึ่งคาดว่าในปีนี้กระทงโฟมจะมีปริมาณลดลง . เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาได้มีการรณรงค์ ลอยกระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง  อย่างต่อเนื่องให้ประชาชนหันมาใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดี ควบคู่กับการสืบสานประเพณีให้คงอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้กับคนที่ทำกระทงแบบรักสิ่งแวดล้อม ให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น  . . อ้างอิงจาก: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กรุงเทพธุรกิจ Springnews Thairath . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook  #อีสาน #ลอยกระทง #ลอยกระทง2567 #กระทงรักษ์โลก   https://www.springnews.co.th/news/817976  https://www.bangkokbiznews.com/social/905557  https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2246506  https://www.thairath.co.th/news/local/2547355 

สินค้า🇨🇳จีนทะลักครองสัดส่วนการนำเข้าสินค้าผ่านแดนอีสานสูงถึง 83%

ปัญหาสินค้าจีนทะลัก นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน ที่ผู้คนเริ่มมีการตื่นตัวและให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากก่อให้เกิดปัญหาในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขาดดุลทางการค้าที่รุนแรง การนำเข้าสินค้าที่มากจนกระทบกับตลาดภายในประเทศ หรือการนำเข้าสินค้าที่ราคาถูกแต่คุณภาพต่ำ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค และเกิดการแข่งขันด้านราคาที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ อีกทั้งประเทศไทยยังไม่มีมาตรการป้องกันที่แน่นหนาและครอบคลุมมากเพียงพอที่จะป้องกันการสร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคในประเทศจากการนำเข้าสินค้าที่มากเกินไป การทะลักของสินค้าจีนที่ระบาดในประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มขึ้นเมื่อมี สงครามทางการค้าของจีนและสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2561 เริ่มจากนโยบายการขึ้นภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีน 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สินค้าจีนจำนวนมากมีตลาดที่จะขายสินค้าน้อยลง และเริ่มนำสินค้ามาขายในประเทศใกล้เคียง รวมถึงประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้หลายประเทศเริ่มออกมาตอบโต้ด้วยมาตรการการค้า แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อมีการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมากเกินไป   รูปภาพ 1 : แสดงถึงการค้าระหว่างประเทศของไทย – จีนปี 2563 ถึง 2567 (ม.ค.- ก.ย.) ที่มา : กรมศุลกากร   เมื่อเปรียบเทียบการค้าของประเทศไทยกับประเทศอื่นๆ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีมูลค่าการค้ากับประเทศจีนมากที่สุด ในขณะเดียวกันในรูปที่ 1 ก็แสดงการขาดดุลทางการค้ากับจีนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่น่ากังวลถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของกระแสสินค้าอีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่มีโดนัลด์ ทรัมป์นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่ง และมีนโยบายที่จะกีดกันการนำเข้าสินค้าจีนอย่างรุนแรง จนคาดการณ์ว่าจะเกิดสงครามทางการค้ารอบที่ 2 ขึ้น   จากสงครามทางการค้าครั้งแรกในปี พ.ศ.2561 นำมาซึ่งการเสาะหาตลาดที่จะระบายสินค้าแห่งใหม่ของประเทศจีน ซึ่งมองตรงมาที่ประเทศที่มีการพึ่งพาสินค้าและมีการนำเข้าสินค้นจากจีนมากที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งก็คือประเทศไทย ทำให้เกิดกระแสการนำเข้าสินค้าจีนสูงขึ้น และทำให้เกิดความกังวลถึงปัญหาสินค้าจีนทะลักเนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน ซึ่งอาจกระทบกับธุรกิจรวมถึงผู้ประกอบการและผู้บริโภคในประเทศได้   รูปภาพ 2 : แสดงสัดส่วนการนำเข้าสินค้าผ่านแดนด้าน สปป.ลาว จากจีนต่อการนำเข้าผ่านแดนทั้งหมด                    ปี 2563 ถึง 2567 (ม.ค.- ก.ย.) ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ   เส้นทางสำคัญในการส่งออกของสินค้าจีนมาไทยอีกทางหนึ่งคือ การส่งออกสินค้าผ่านแดนจากฝั่ง สปป.ลาว และเข้ามาที่ด่านการค้าชายแดนในภาคอีสาน ซึ่งมีด่านการค้าสำคัญคือ ด่านศุลการกรมุกดาหาร ด่านศุลกากรหนองคาย และด่านศุลการกรนครพนม    หลังจากเกิดสงครามการค้าในปี พ.ศ.2561 ประเทศไทยเริ่มมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงสัดส่วนการนำเข้าผ่านแดนที่มายังภาคอีสานในรูปที่ 2 พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของสินค้าจากจีนอย่างมีมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นจาก 32 เปอร์เซ็นต์มาเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มด้านการพึ่งพาสินค้าจากจีนที่มีมากขึ้นและแสดงถึงมุมมองของประเทศจีนที่มีต่อประเทศไทยในด้านของการเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากเพียงพอที่จะรองรับสินค้าจากประเทศจีน   รูปภาพ 3 : แสดงถึง 5 อันดับสินค้านำเข้าจากจีนที่มีมูลค่ามากที่สุด ปี 2567 (ม.ค.- ก.ย.) ที่มา : สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)   รูปภาพ 4 : ส่วนแบ่งการตลาดและอัตราการเปลี่ยนแปลงของมูลค่า ของสสินค้านำเข้าจากประเทศจีน        5 อันดับแรก ปี 2567 (ม.ค.- ก.ย.) ที่มา : สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)   รูปที่ …

สินค้า🇨🇳จีนทะลักครองสัดส่วนการนำเข้าสินค้าผ่านแดนอีสานสูงถึง 83% อ่านเพิ่มเติม »

ซอมเบิ่ง งานลอยกระทง 2566 ไปเที่ยวอีสานหม่องใด๋ดี ? 

ซอมเบิ่ง งานลอยกระทง 2566 ไปเที่ยวอีสานหม่องใด๋ดี ?  . วันลอยกระทง 2567 ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 หลายสถานที่จัดงานเทศกาลลอยกระทง 2567 อย่างยิ่งใหญ่ ไม่เพียงสืบสานประเพณีดั้งเดิม อนุรักษ์ประเพณีไทยไปพร้อมสร้างสีสันบรรยากาศชวนเที่ยว ISAN Insight and Outlook รวมพิกัด สถานที่จัดงานลอยกระทง 2567 ไว้ให้แล้ว จ.กาฬสินธุ์ งานประเพณีลอยกระทง วันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2567 ณ สวนสาธารณะกุดน้ำกิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.นครราชสีมา  งานลอยกระทง เซ็นทรัลโคราช ลอยกระทง เฟสติวัล 2567 จัดเต็ม 12 วัน 12 คืน เริ่ม 6-17 พ.ย. 67 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป หน้าห้างเซ็นทรัลโคราช ชมฟรีคอนเสิร์ต ตรี ชัยณรงค์ (คืนวันลอยกระทง 15 พ.ย.67)   จ.ขอนแก่น สีฐานเฟสติวัล “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู” จัดขึ้นวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2566  ณ บึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น  งานประเพณีไต้ประทีปลอยกระทงออกพรรษา บูชาพระธาตุขามแก่น 2567 งานประเพณีลอยกระทงบ้านนามูล 14 – 15 พฤศจิกายน 2567  ณ บริเวณลำห้วยสายบาตร บ้านนามูล ตำบลดูนสาด อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด งานประเพณีสมมาน้ำ “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป”  จัดขึ้นวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2567 ณ บึงพลาญชัย และสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด  จ.สกลนคร งานประเพณีออกพรรษา แห่ปราสาทผึ้ง และ แข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ วันที่ 12 – 17 ตุลาคม 2567  ณ บริเวณศูนย์ราชการ จังหวัดสกลนคร หนองหาร และ วัดพระธาตุเชิงชุม งานประเพณีลอยกระทง – แข่งเรือคำตากล้า 2567 วันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2567  ณ สวนสาธารณะหนองสามขา อ.คำตากล้า จ.สกลนคร  วันที่ 16 …

ซอมเบิ่ง งานลอยกระทง 2566 ไปเที่ยวอีสานหม่องใด๋ดี ?  อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง “ชนกลุ่มน้อยในอีสาน” เกือบ 15,000 คน กระจายอยู่ไหนบ้าง

ชวนมาเบิ่ง “ชนกลุ่มน้อยในอีสาน” เกือบ 15,000 คน กระจายอยู่ไหนบ้าง . . สังคมไทยมีผู้คนหลากหลายอัตลักษณ์ “ชนเผ่าพื้นเมือง” หรือ “Indigenous People” คือ กลุ่มสังคมที่มีวัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี และภาษาสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มากกว่า 70 กลุ่มชาติพันธุ์ หรือประมาณ 6.1 ล้านคน  . ข้อมูลในปี 2567 มีการให้สัญชาติไทยแก่ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์รวมแล้วมีทั้งหมด 489,636 คน โดยในภาคอีสานมี 14,677 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 3% . “ชนเผ่าพื้นเมือง” มีทุกภูมิภาค แต่ส่วนมากจะอาศัยอยู่บนพื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทย และทางภาคใต้ พวกเขามีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ คือ อยู่ร่วมกับธรรมชาติด้วยความพอดี เช่น ทำไร่หมุนเวียน ที่คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นไร่เลื่อนลอย หรือทำประมงแบบพออยู่พอกิน . ปัญหาอคติทางวัฒนธรรมเหลายอย่าง ทำให้ “ชนเผ่าพื้นเมือง หรือ กลุ่มชาติพันธุ์” ถูกละเมิดสิทธิในด้านต่าง ๆ ทั้ง (1) ความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกิน เพราะถูกจำกัดการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติตามวิถีวัฒนธรรม (2) ปัญหาการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะพลเมือง เพราะยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อีกหลายกลุ่มที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย (3) ถิ่นฐานที่ตั้งในถิ่นทุรกันดาร ทำให้ “ชนเผ่าพื้นเมือง หรือ กลุ่มชาติพันธุ์” เข้าไม่ถึงสิทธิในบริการต่าง ๆ ของรัฐ และ (4) ปัญหาการสูญเสียอัตลักษณ์ และภูมิปัญญา อันเป็นต้นทุนสำคัญในการพึ่งพาตนเองของกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้ในปัจจุบันชาติพันธุ์ต้องสูญเสียศักยภาพของการพึ่งพาตนเอง . . อ้างอิงจาก: – สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง – ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) –  The Active Thai PBS   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ชาติพันธุ์ #คนอีสาน #ชนกลุ่มน้อย

พามาเบิ่ง🐟ทำไม? อุบล มีถึงผลผลิต ‘ปลานิล’ มากสุดในอีสาน แม้ไม่ได้มีจำนวนฟาร์มเยอะสุด🧐

พามาเบิ่งอุบล มีผลผลิต ‘ปลานิล’ มากสุดในอีสาน แม้ไม่ได้มีจำนวนฟาร์มเยอะสุด.ทุกคนคงรู้จัก “ปลานิล” ปลาน้ำจืดอันดับหนึ่งของไทย เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำจืดที่เลี้ยงง่ายเติบโตเร็ว เนื้อมีรสชาติดี ทำให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ในด้านของเกษตรกรผู้เลี้ยงในปี 2566 ภาคอีสานมีฟาร์มเลี้ยงปลานิลทั้งสิ้น 271,467 ฟาร์ม และมีเนื้อที่กว่า 245,630 ไร่ โดยขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีฟาร์มเลี้ยงปลานิลและเนื้อที่มากที่สุดในภาคอีสาน โดยมีจำนวน 21,343 ฟาร์ม มีเนื้อที่รวมกว่า 17,664 ไร่.แต่หากมาดูที่ปริมาณผลผลิตปลานิลในแต่ละจังหวัด ขอนแก่นกลับไม่ใช่จังหวัดที่มีผลผลิตมากที่สุดในอีสาน แต่กลับเป็น “อุบลราชธานี” ที่มีจำนวนฟาร์ม 8,820 ฟาร์ม ภายใต้เนื้อที่ 6,063 ไร่ คิดเป็นอันดับที่ 13 ของภาค ซึ่งมีเนื้อที่เลี้ยงปลานิลน้อยกว่าขอนแก่นเกือบ 3 เท่า แต่กลับมีผลผลิตที่มากที่สุดในภาคอย่างนัยยะสำคัญ โดยในปี 2566 อุบลฯ มีปริมาณผลผลิตปลานิล 10,744 ตัน คิดเป็น 15% ของทั้งภาค โดยคิดเป็นมูลค่า 644 ล้านบาท เฉลี่ย 73,043 บาท/ฟาร์ม โดยอำเภอที่มีจำนวนฟาร์มมากสุดในอุบล 3 อำเภอแรก ได้แก่ อำเภอเดชอุดม อำเภอม่วงสามสิบ และอำเภอนาจะหลวย.ซึ่งปัจจัยที่ทำให้อุบลฯ มีผลผลิตปลานิลมาก เนื่องจากอุบลฯถือได้ว่าเป็นจังหวัดปลายน้ำ มีแม่น้ำ ลำคลอง หลายสายไหลผ่านตัวจังหวัด เช่น แม่น้ำโขง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล ส่งผลให้มีสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การทำประมงน้ำจืด และอุบลยังเป็นจังหวัดที่มีการเลี้ยงปลานิลโดยใช้ ‘กระชัง’ มากที่สุดในอีสาน เป็นจำนวน 493 ฟาร์ม ซึ่งการที่มีน้ำไหลผ่านทำให้ปลาแข็งแรงและเนื้ออร่อย โดยการเลี้ยงปลานิลในกระชังก่อให้เกิดมูลค่าสูงถึง 517 ล้านบาท นอกจากนั้น การทำประมงของอุบลยังได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐในหลายๆด้านตั้งแต่อดีต ด้วยปัจจัยเหล่านี้รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ ส่งผลให้อุบลราชธานีกลายเป็นเมืองแห่งปลานิลในอีสาน.หมายเหตุ: ข้อมูลปี 2566.ที่มา– กรมประมง– สำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี– สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี– ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ อุตรดิตถ์– เทคโนโลยีชาวบ้าน..#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ปลานิล #ประมง #เกษตรอีสาน

Scroll to Top