AgriTech พลิกโฉมอนาคต ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรไทย
คำกล่าวที่ว่า “เกษตรกรรมคือวิถีชีวิตแห่งสังคมไทย” โดยเฉพาะคนอีสานที่กว่า 3.57 ล้านครัวเรือนประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภาพต่ำ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภัยคุกคามทางธรรมชาติ รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต่างมองว่าการก้าวเข้าสู่ธุรกิจเกษตรเป็นเรื่องยากและอาจไม่คุ้มค่า . เทคโนโลยี IoT ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่เข้ามาช่วยปลดล็อกปัญหาและสร้างความ ท้าทายหลายประการให้กับธุรกิจเกษตร รวมท้ังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีเกษตร (Agritech: Agricultural Technology) . AgriTech คืออะไร ? . Agritech คือ การนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน จากเดิมที่ใช้องค์ความรู้และประสบการณ์เดิม (Knowhow) ในการจัดการผลิตและพึ่งพาการใช้แรงงานแต่เพียงอย่างเดียวมาเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเพาะปลูก (Precision Farming) ในการเพิ่มผลิตภาพให้กับธุรกิจเกษตรซึ่งถือเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน รวมทั้งลดการพึ่งพาแรงงานซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง . IoT สำหรับธุรกิจเกษตรเริ่มต้นจากการใช้เทคโนโลยี “เซ็นเซอร์” ติดตามและตรวจสอบ สถานะข้อมูลที่จำเป็นในการเพาะปลูกแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการในการตัดสินใจและการบริหารจัดการ การผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ความเข้มของแสง อุณหภูมิ ความชื้นในดิน สภาพอากาศ เป็นต้น โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกเชื่อมโยงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และเก็บเข้าไปอยู่ในระบบคลาวด์ (Cloud) . ก่อนจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์และประมวลผลส่งกลับไปยังผู้ใช้งาน ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นจุดตั้งต้นสำคัญ ที่จะนำมาใช้พัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ที่จะทำหน้าที่คิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจในกระบวนการเพาะปลูกแทนมนุษย์มากยิ่งขึ้น . . 5 เหตุผลที่ธุรกิจเกษตรควรปรับตัวมาใช้ IoT . 1. เทคโนโลยี IoT จะเป็นตัวช่วยให้เกษตรรุ่นใหม่ (Young Farmer) ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น . ในลักษณะ Decentralized โดยจะทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถบริหารจัดการผลิตได้ด้วยตนเองจากการใช้ฐานข้อมูลที่มีแบบเรียลไทม์ และมีความเฉพาะเจาะจงกับพื้นที่ผลิตจริง อีกทั้งรับมือความท้าทายของผู้ประกอบการ ในยุคสินค้าออร์แกนิคกำลังเป็นที่นิยม . 2. ช่วยลดความเสียหายของผลผลิตจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว . ปรากฏการณ์เอลนิโญ่มีความถี่มากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกโดยรวมมีความแปรปรวน และส่งผลกระทบมากขึ้นเป็นลำดับ สะท้อนจากดัชนีชี้วัดปรากฏการณ์เอลนิโญ่ (El Niño) และลานิญ่า (La Nina) หรือ Oceanic Niño Index (ONI) ซึ่งอุณหภูมิพื้นผิวโลกที่สูงขึ้น ยิ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรมในภูมิภาคเขตร้อน . สำหรับตัวอย่างบริษัทที่มีการนำเทคโนโลยี IoT ในกลุ่ม Soil Sensors มาช่วยลดความเสี่ยงจาก Climate Change กล่าวคือรัฐบาลท้องถิ่นเมือง Oregon ได้ร่วมสนับสนุนให้แก่ชาวสวนฟารม์บลูเบอรี่ นำอุปกรณ์ HydraProbe มาใช้เพื่อวัดความชื้นในดิน ในแต่ละระดับความลึก เนื่องจากพืชสวนอย่างบลูเบอรี่ ค่อนข้างอ่อนไหวต่อการขาดน้ำอย่างมาก . โดย HydraProbe จะประเมินการใช้น้ำและการใส่ปุ๋ยได้อย่างแม่นยำ ให้สอดคล้องกับช่วงการดูดซับอาหารของรากพืช และยังช่วยลดการใช้สารกำจัดเชื้อราที่เป็นไปตามกฎระเบียบในการควบคุมคุณภาพน้ำ รวมไปถึงยังมีฟังก์ชัน […]
AgriTech พลิกโฉมอนาคต ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรไทย อ่านเพิ่มเติม »










