Nanthawan Laithong

UBE เริ่ดคักหลาย เดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร สู่เป้าหมายบริษัท Food Tech .

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า “ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2566 เป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ทั้งจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูง และอุปทานมันสำปะหลังที่ลดลงมาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียงในไตรมาสที่ 4/2565 ถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 43 ปี กระทบแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังโดยตรง ส่งผลให้อุปทานมันสำปะหลังในฤดูกาลนี้ลดลงกว่า 30% ซึ่งบริษัท ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธุรกิจเอทานอล ปริมาณยอดขายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงยังทรงตัว เนื่องจากได้อานิสงส์จากการเปิดเมือง และฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนเพิ่มปริมาณการขายด้วยการผลักดันการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน อีกทั้งคาดการณ์ได้ผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้าไทยประมาณ 30 ล้านคนในปี 2566 จะเป็นแรงหนุนอุปสงค์การใช้เอทานอลในช่วงที่เหลือของปี ส่วนเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม อุปสงค์ลดลงจากสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งบริษัทได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าผลักดันการเปิดเสรีเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อเพิ่มปริมาณขาย ด้านธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อนำเสนอฟลาวมันสำปะหลังไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของลูกค้า รวมถึงเพิ่มช่องทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในประเทศ โดยล่าสุดได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายแป้งทอดกรอบ ภายใต้แบรนด์ Tasuko ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเปิดรับความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและฟลาวมันสำปะหลัง เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่มีความหลากหลายในการนำไปใช้ รองรับเป้ากลยุทธ์การก้าวสู่บริษัท Food Tech ในอนาคต” ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2566 ของ UBE สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัท มีรายได้รวมที่ 1,499.2 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 26.2 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบมันสำปะหลัง และปริมาณขายที่ลดลงของเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม และแป้งมันสำปะหลัง สำหรับทิศทางการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2566 ยังคงเป็นช่วงที่ท้าทายจากปริมาณวัตถุดิบมันสำปะหลัง และราคามันสำปะหลังทรงตัวในระดับสูง อย่างไรก็ดี คาดการณ์สถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบจะคลี่คลายในไตรมาสที่ 3/2566 เมื่อผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มเก็บเกี่ยว ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จะหนุนอุปสงค์เอทานอล ทั้งนี้ บริษัท ยังคงสานต่อกลยุทธ์ด้านความร่วมมือเพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนปริมาณการขายสินค้ากลุ่มมูลค่าสูง ทั้งแป้งออร์แกนิคและฟลาวมันสำปะหลัง และยังอยู่ในระหว่างการศึกษา และแสวงหาโอกาสเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน และมุ่งเน้นกิจกรรมการตลาด ทั้งการเข้าสู่ตลาดใหม่ในต่างประเทศ และการขยายช่องทางการจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ในประเทศให้หลากหลายและต่อเนื่องมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในด้านวัตถุดิบ ด้วยการเดินหน้า “โครงการ อีสานล่าง 2 โมเดล” บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในเรื่องการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สามารถบริหารจัดการแปลงมันสำปะหลังอินทรีย์ได้อย่างยั่งยืน อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1067926 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#UBE #อุบลไบโอเอทานอล #FoodTech#Business …

UBE เริ่ดคักหลาย เดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร สู่เป้าหมายบริษัท Food Tech . อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง อาณาจักรโรงสีข้าว รายใหญ่แห่งภาคอีสาน

ใกล้ถึงวันพืชมงคลแล้ว มื้อนี้ ISAN Insight & Outlook สิพามาเบิ่งธุรกิจโรงสีข้าวในภาคอีสาน ว่ามีบริษัทใด๋แหน่ อยู่จังหวัดใด๋ และมีรายได้ส่ำใด๋ อันดับที่ 1 เกษตรวิสัย ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด รายได้รวม 1,730 ล้านบาท อันดับที่ 2 กล้าทิพย์ จำกัด จังหวัดหนองบัวลำภู รายได้รวม 1,307 ล้านบาท อันดับที่ 3 โรงสีทรัพย์อนันต์ จำกัด จังหวัดสุรินทร์ รายได้รวม 1,139 ล้านบาท อันดับที่ 4 ย่งฮวดอินเตอร์ไรซ์ จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด รายได้รวม 1,090 ล้านบาท อันดับที่ 5 อีสเทิร์นไรซ์มิลล์ จำกัด จังหวัดกาฬสินธุ์ รายได้รวม 1,080 ล้านบาท อันดับที่ 6 โรงสีข้าว ป.ณัฐตพล จำกัด จังหวัดขอนแก่น รายได้รวม 1,046 ล้านบาท อันดับที่ 7 โรงสีแสงทองไรซ์กรุ๊ป จำกัด จังหวัดอุดรธานี รายได้รวม 965 ล้านบาท จังหวัดที่มีโรงสีข้าวมากที่สุดในภาคอีสาน คือ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีจำนวนโรงสีข้าว 27 แห่ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว อีกทั้งยังมีที่ดินและสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกข้าว ทำให้มีการผลิตข้าวอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณผลผลิตที่สูง ซึ่งข้าวที่ปลูกในร้อยเอ็ดมีคุณภาพที่ดีและแตกต่างจากพื้นที่อื่น โดยเฉพาะข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว ที่มีความนิยมในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร้อยเอ็ดยังมีการลงทุนในโรงสีข้าวอย่างต่อเนื่อง โรงสีข้าวในจังหวัดมีการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต ทำให้ข้าวที่ผลิตมีคุณภาพและมีความสามารถในการส่งออกข้าวในปริมาณมาก อีกทั้งโรงสีข้าวในพื้นที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีการสร้างรายได้สูงจากการส่งออกข้าว อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#โรงสีข้าว #ธุรกิจ #ร้อยเอ็ด

พามาเบิ่ง โรงสีข้าวแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน

ในปี 2564 ภาคอีสานมีรายได้รวมจากโรงสีข้าว อยู่ที่ 53,782 ล้านบาท และมีจำนวนโรงสีข้าว 320 แห่ง เรียกได้ว่า “ทั้งรายได้รวมและจำนวนโรงสีเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทยเลยทีเดียว” เนื่องจาก โรงสีข้าวในภาคอีสานมีการผลิตข้าวสีที่เป็นที่นิยม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ข้าวสีมักถูกนำมาใช้ในอาหารและสินค้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ขนม น้ำสี และเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้มีการนำข้าวไปแปรรูปในโรงสีข้าวมากขึ้น อีกทั้งโรงสีข้าวในภาคอีสานมีความสามารถในการผลิตข้าวได้อย่างมีคุณภาพ เช่น การเลือกใช้ข้าวพันธุ์ดี การควบคุมกระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์ และการตรวจสอบคุณภาพข้าว ซึ่งทำให้โรงสีข้าวเป็นที่นิยมในการทำธุรกิจและรับซื้อข้าว 5 อันดับจังหวัดที่มีรายได้รวมของโรงสีข้าวมากที่สุด อันดับที่ 1 ร้อยเอ็ด มีรายได้รวม 7,822 ล้านบาท อันดับที่ 2 สุรินทร์ มีรายได้รวม 7,520 ล้านบาท อันดับที่ 3 ศรีสะเกษ มีรายได้รวม 6,525 ล้านบาท อันดับที่ 4 ขอนแก่น มีรายได้รวม 5,474 ล้านบาท อันดับที่ 5 อุบลราชธานี มีรายได้รวม 5,231 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ร้อยเอ็ด มีรายได้รวมมากที่สุด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว อีกทั้งยังมีที่ดินที่อุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกข้าว ทำให้การผลิตข้าวมีคุณภาพและปริมาณผลผลิตที่สูง โดยโรงสีข้าวในร้อยเอ็ดมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตข้าว โดยมีการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของข้าวที่สีให้มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีการส่งออกข้าวที่กว้างขวางที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีความสามารถในการทำธุรกิจส่งออกข้าวในปริมาณมาก อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#โรงสีข้าว #ธุรกิจ

“ต้นทอง” เริ่ดคักหลาย เปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม กวาดรายได้กว่าคืนละ 10,000 – 20,000 บาท

เรื่องราวของเขียงหมูที่หันมาเปิดชอปขายหมู แบบ 24 ชั่วโมง มีให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งในย่านใกล้กรุงเทพฯ ในแทบปริมณฑล ได้เห็นชอปขายหมู 24 ชั่วโมงหลายแห่ง แต่ที่พามารู้จักวันนี้ เป็น “ชอปขายหมู 24 ชั่วโมง” จากจังหวัดสุรินทร์ คุณเจษฎาพรรณ ต้นทอง กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงเชือดสุกรต้นทอง จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า ครอบครัวทำธุระกิจเขียงหมูมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ทำมากว่า 30 ปี และได้มารับช่วงดูแลกิจการต่อ และเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาครอบครัวทำโรงเชือดหลังบ้านมาตลอด แต่หลังจากที่มีกฎหมายออกมาให้ทุกโรงเชือดต้องปฎิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการทำโรงเชือดสุกรจากหลังบ้านมาเป็นหน้าบ้าน และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โรงเชือดสุกรต้นทองต้องเข้ามาตรฐาน และได้มาตรฐาน GAP และ GMP ของกรมปศุสัตว์ โดยหลังจากได้ปรับมาเป็นโรงเชือดได้มาตรฐานหน้าบ้าน ทำให้เราได้ลูกค้าที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาติดต่อเพื่อส่งสุกรมาให้เชือด และได้ลูกค้าโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของการส่งหมูขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ได้มีการขยายพื้นที่การส่งออกไปในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน โดยมียอดการขายหมูต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 -15 ตัน หลายคนสงสัยว่าทำอย่างไรถึงจะได้ขายในโมเดิร์นเทรด? คุณเจษฎาพรรณ ได้ปรับวิฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงที่โควิดระบาด โรงเชือดหมูขนาดใหญ่หลายแห่งขาดแคลนแรงงาน ระบบการขนส่งมีปัญหา เพราะแรงงานติดโควิด ทำให้ต้องปิดโรงเชือดเพราะไม่มีแรงงาน ทางโมเดิร์นเทรดจึงมองหาซัพพรายเออร์คนใหม่ที่ได้รับมาตรฐานGMP ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์โควิดกลับมาปกติ โดยโรงเชือดอื่น ๆ กลับมาให้บริการเหมือนเดิม แต่ทางโมเดิร์นเทรดก็ยังคงเลือกสั่งหมูจากโรงเชือดของเรา เพราะด้วยบริการที่สามารถส่งหมูให้เขาได้ตรงตามเวลาและมีคุณภาพ คุณเจษฎาพรรณ เล่าว่า นอกจากโรงเชือดแล้ว ได้เปิดธุรกิจเกี่ยวกับหมูครบวงจร ตั้งแต่การเปิดร้านหมูกระทะ มาจนถึงการเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ซึ่งการเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ช่วยให้ลูกค้าจะมาซื้อหมูเวลาไหนก็สามารถซื้อหมูได้ และยังเป็นชอปขายหมู 24 ชั่วโมงแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์ อย่างไรก็ดี การเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ยังเป็นเรื่องใหม่ของคนสุรินทร์ ในตอนแรกที่เปิดยอดขายในช่วงเวลากลางคืน อยู่ที่หลักร้อยหลักพันบาทต่อวัน ในช่วง 2-3 เดือนแรก แต่พอผ่านมาสักระยะมีคนรู้จักและบอกต่อ ทุกวันนี้ กลายเป็นว่ายอดขายกลางคืนเพิ่มเป็น 10,000 – 20,000 บาท และสาเหตุที่ยอดขายเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากพ่อค้า แม่ค้า ขายอาหาร หรือแม้แต่เขียงหมูก็จะมาซื้อกันตอนกลางคืน พอจ่ายตลาดซื้อของในตลาดสดเสร็จก็แวะมาซื้อหมู ทำให้ยอดขายในตอนกลางคืนเพิ่มขึ้น สำหรับภายในชอป 24 ชั่วโมง ไม่ได้มีแค่หมู แต่ทางเจ้าของยังได้มีไก่สดขายด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และทางร้านยังได้จัดเมนูหมูหมัก หมูกระทะมาขายในชอปด้วย เพราะหลายคนชื่นชอบเมนูหมูกระทะ และต้องการซื้อไปปิ้งกินเองที่บ้าน ก็สามารถมาซื้อที่ชอปของทางร้านได้ สำหรับชอปขายหมู 24 ชั่วโมงเป็นรูปแบบใหม่ของการยกระดับเขียงหมูหน้าโรงเชือด ออกมาในรูปแบบของชอป เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องของความสดและสะอาด การเปิด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ใช่พ่อค้า แม่ค้า ก็สามารถแวะมาซื้อได้ ในราคาที่ถูกกว่าทำให้ชอปขายหมู 24 …

“ต้นทอง” เริ่ดคักหลาย เปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม กวาดรายได้กว่าคืนละ 10,000 – 20,000 บาท อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs เป็นจั่งใด๋แหน่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 53.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.8 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือกลุ่มไหน? กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอาหารทั้งผลิตอาหาร และร้านอาหารมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อในรูปแบบขายส่งของอาหารอีสานที่สามารถเก็บได้หลายวัน เช่น กุนเชียง แหนม และปลาร้า รวมถึงผลดีจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ภาคตะวันออก ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 53.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.5 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคตะวันออก เป็นอย่างไร? ภาคธุรกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการเริ่มมีการสต็อกสินค้าคงคลังเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับ การท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเป็นผลดีกับกลุ่มค้าส่งรวมถึงภาคการผลิตที่ส่งสินค้าขายให้กับผู้ค้ารายอื่น เช่น การผลิตไม้และเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโลหะ ภาคใต้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 59.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.4 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคใต้ เป็นอย่างไร? จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากรัสเซีย สิงคโปร์ และจีน อีกทั้งนักท่องเที่ยวไทยที่ได้อานิสงส์จากโครงการเราเกี่ยวด้วยกับเฟส 5 มากระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก ส่งผลดีกับธุรกิจภาคการผลิตทั้งกลุ่มอาหารและเสื้อผ้า รวมถึงกลุ่มบริการนวดและสปา กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 54.2 แนวโน้มธุรกิจ SME กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นอย่างไร? ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่องและมีการจองล่วงหน้าในช่วงเทศกาลในช่วงสงกรานต์รวมถึงธุรกิจก่อสร้างและร้านค้าวัสดุก่อสร้างขยายตัวจากความต้องการปรับปรุงและขยายสถานที่เพื่อรับรองการขยายตัวของการท่องเที่ยว ภาคเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 56.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า -1.5 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคเหนือ เป็นอย่างไร? จากปัจจัยฤดูกาลร้อนจัด รวมถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลลบต่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคนไทย และเศรษฐกิจในพื้นที่ อย่างไรก็ตามพื้นที่ยังมีกำลังซื้อเสริมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคนจีน ภาคกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 52.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า -1.9 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคกลาง เป็นอย่างไร? แม้ความเชื่อมั่นฯ จะปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากภาคการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มผลิตอาหารรวมถึงผลิตภัณฑ์จากโลหะและยาง ที่ชะลอตัวลงหลังจากที่ปรับตัวพุ่งสูงอย่างมากในเดือนก่อนหน้า แต่สถานการณ์ด้านต้นทุนในพื้นที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แม้จะยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #SMEs #ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการSMEs #ธุรกิจ #ดัชนีความเชื่อมั่น

พามาเบิ่ง ข้อมูลที่น่าสนใจของนิติบุคคล ในภาคอีสาน 

5 อันดับจังหวัดที่มีนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ อันดับที่ 1 นครราชสีมา 599 ราย อันดับที่ 2 ขอนแก่น 549 ราย อันดับที่ 3 อุบลราชธานี 335 ราย อันดับที่ 4 อุดรธานี 308 ราย อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 186 ราย   จะเห็นได้ว่า นครราชสีมา เป็นอันดับที่ 1 ของภาคอีสาน เนื่องจากนครราชสีมาเป็นเมืองหลักและศูนย์กลางของภาคอีสาน ซึ่งมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้าของภาคอีสาน    อีกทั้งยังเป็นทำเลทางธุรกิจที่ดี เนื่องจากนครราชสีมามีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อธุรกิจระหว่างภาคตะวันตกและภาคตะวันออก เป็นทางผ่านสำคัญระหว่างกรุงเทพฯ กับภาคอื่นๆ ทำให้ธุรกิจในนครราชสีมาสามารถเข้าถึงตลาดและลูกค้าได้ง่ายขึ้น และยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ธุรกิจและการค้าที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ศูนย์การค้า และตลาดส่งสินค้าต่างๆ ทำให้ธุรกิจสามารถทำการซื้อขายและการค้าส่งได้สะดวกและมีความสะดวกสบาย     5 อันดับจังหวัดที่มีนิติบุคคลที่เลิกกิจการ อันดับที่ 1 ขอนแก่น 127 ราย อันดับที่ 2 นครราชสีมา 92 ราย อันดับที่ 3 อุดรธานี 52 ราย อันดับที่ 4 นครพนม 50 ราย อันดับที่ 5 สกลนคร 46 ราย   จะเห็นได้ว่า ขอนแก่น เป็นอันดับที่ 1 ของภาคอีสาน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอาจส่งผลให้ธุรกิจบางกิจกรรมไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ อีกทั้งสภาพการแข่งขันในตลาดธุรกิจบางกลุ่มในขอนแก่นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ทำให้บางธุรกิจไม่สามารถทนทานและดำเนินกิจการต่อไปได้ อาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์หรือเลิกกิจการเพื่อลดความเสี่ยง     อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #นิติบุคคลที่เลิกกิจการ #นิติบุคคลจัดตั้งใหม่ #นิติบุคคล

พามาเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอีสาน เดือนมีนาคม

ภาคอีสาน มีดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ระดับ 103.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 100.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 104.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากระดับ 101.4 ในเดือนมกราคม โดยปัจจัยบวก เกิดจากอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง จาการบริโภคและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และกำลังซื้อในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของรายได้ภาคเกษตร ในขณะที่ปัจจัยลบ เกิดจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของ SMEs อุตสาหกรรมในภาคอีสานที่ส่งผลด้านบวก มีอะไรบ้าง?? 1. อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร (เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์ การเกษตร มียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ด้านการส่งออกมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากคลาก CLMV และ แอฟริกา) 2. อุตสาหกรรมน้ำตาล (ผลิตภัณฑ์น้ำตาลทราย มีคำสั่งซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัว ของอุปสงค์ในประเทศ และความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่ อุปสงค์ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะตลาดอาเซียน) 3. อุตสาหกรรมแกรนิตและหินอ่อน (ผลิตภัณฑ์แกรนิตและหินอ่อน มียอดขายในประเทศ เพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ในภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์) อ้างอิงจาก: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอีสาน #ดัชนีความเชื่อมั่น #ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม#อุตสาหกรรมภาคอีสาน

พามาเบิ่ง 5 อันดับธุรกิจในกลุ่มการขายปลีก ที่มีมูลค่าเงินทุนจดทะเบียนใหม่มากที่สุดในภาคอีสาน

อันดับที่ 1 ร้านขายปลีกวัสดุก่อสร้าง มีมูลค่าจดทะเบียน 35 ล้านบาท อันดับที่ 2 การขายปลีกสินค้าอื่นๆในร้าน มีมูลค่าจดทะเบียน 30 ล้านบาท อันดับที่ 3 ร้านขายเครื่องประดับ มีมูลค่าจดทะเบียน 29 ล้านบาท อันดับที่ 4 การขายปลีกทางอินเตอร์เน็ต มีมูลค่าจดทะเบียน 28 ล้านบาท อันดับที่ 5 การขายปลีกทางยานยนต์ใหม่ มีมูลค่าจดทะเบียน 27 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า อันดับที่ 1 คือ “ร้านขายปลีกวัสดุก่อสร้าง” เนื่องจากธุรกิจด้านการก่อสร้างต้องการเงินทุนในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างและเครื่องจักรอุปกรณ์ในการดำเนินงาน อีกทั้งวัสดุก่อสร้างเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและต้องมีการจัดซื้อมากกว่าธุรกิจอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของธุรกิจวัสดุก่อสร้างมักเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการใช้เงินทุนเพิ่มเติมที่มาก เพื่อเพิ่มกำลังซื้อวัสดุเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าพื้นที่ เช่าอาคาร ค่าเช่าเครื่องจักร ค่าจ้างพนักงาน ค่าบริการต่างๆ เป็นต้น ซึ่งทำให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างต้องมีเงินทุนที่เพียงพอ เพื่อรองรับการดำเนินงานต่างๆ อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจในกลุ่มการขายปลีก #การขายปลีก

พามาฮู้จัก “ชูวิทย์ฟาร์ม (2019)” อาณาจักรฟาร์มไก่เนื้อรายใหญ่แห่งอีสาน

บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อประเภทประกันราคาแบบมีสัญญาผูกพัน (Contract Farming) โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนสร้างและปรับปรุงโรงเรือน รวมทั้งอุปกรณ์การเลี้ยงตามคำแนะนำและเห็นชอบจากบริษัทคู่สัญญา ทั้งนี้เมื่อได้ผลผลิตที่เป็นไก่เนื้อก็ส่งขายให้กับโรงงานชำแหละของคู่สัญญา วัตถุดิบหลัก คือ ลูกไก่พันธ์เนื้อ สายพันธุ์เป็นที่นิยมของตลาดไก่เนื้อ เนื่องจากให้ผลผลิตที่ดี มีการเจริญเติบโตดี และมีอัตรากรแลกเนื้อต่ำ แล้วนำมาดำเนินการเลี้ยงในโรงเรือนด้วยระบบปิดปรับอากาศ (Evaporative Cooling System : EVAP) ซึ่งเป็นระบบที่เลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนปิด มีระบบการให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ จนอายุครบ 38ถึง 45วัน แล้วจึงจำหน่ายให้กับบริษัทคู่สัญญา เส้นทางของ “ชูวิทย์ฟาร์ม (2019)” เป็นอย่างไร? ปี 2543 ก่อตั้งบริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม จำกัด เพื่อประกอบกิจการทำฟาร์มเลี้ยงไก่ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ปี 2547 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 6 ล้านบาท ปี 2548 เพิ่มทุนจดทะเบียนในเดือนมิถุนายนเป็น 25 ล้านบาท หลังจากนั้นได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้งในเดือนตุลาคมเป็น 32 ล้านบาท ปี 2554 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 70 ล้านบาท ปี 2562 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 250 ล้านบาท หากพิจารณาจากข้อมูลการเพิ่มทุนจดทะเบียน จะพบว่า มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้อมูลการเพิ่มทุนจดทะเบียนในปี 2562 ที่ก้าวกระโดดไปถึงหลักร้อยล้านบาท อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ชูวิทย์ฟาร์ม#ฟาร์มไก่เนื้อ #ผลิตไก่เนื้อ #บุรีรัมย์

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้

เคลื่อนทัพสร้างอาณาจักรมิกซ์ยูส “เซ็นทรัล อุบล” ที่มีเรือธงศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบล และ คอนโด ESCENT ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิต สำหรับยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร “เซ็นทรัลพัฒนา” เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” (Centara Ubon) จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์การพักผ่อนและท่องเที่ยว หนึ่งในแม่เหล็กและจิ๊กซอว์สำคัญของ Hub of Lifestyle แห่งอีสานตอนใต้ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Property บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การพัฒนาโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” เป็นการเปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวและพักผ่อนตอบโจทย์ทั้ง Business & Leisure ยกระดับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนด้วยห้องพักหรู เอ็นจอยไนท์ไลฟ์ที่บาร์ TEENS OF THAILAND พร้อมจับมือกับ “Local Hero” ร้านกาแฟ GODFATHER ยกคาเฟ่สุดคูลแห่งอีสานมาไว้ถึงที่ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างความสุขให้กับจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงนักเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และยโสธร และเพื่อนบ้านจากลาว และ เวียดนามอีกด้วย สุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Head of Hotel Development กล่าวเสริมว่า โรงแรมเซ็นทารา อุบล จะเป็น Top of Mind Destination ของจังหวัดและศูนย์กลางของอีสานตอนใต้ เป็น “ห้องรับแขก” รอต้อนรับผู้คนทั้งในจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดอุบลและภาคอีสานมาร้อยเรียงเรื่องราวผ่านงานดีไซน์และงานศิลปะที่นำเสนอในพื้นที่และมุมต่างๆ ของโรงแรม ซึ่งได้มีการจัดวางผลงาน Art Piece ดึง Local Essence มานำเสนออย่างมีเอกลักษณ์ โดยมีโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” จุดหมายปลายทางแบบ All-In-One ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทางทั้งสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนและติดต่อธุรกิจ เซ็นทารา อุบล ยังมีพื้นที่จัดงานในส่วนกลางของโรงแรม รวมถึงห้องประชุมและอบรมสัมนา และห้องแกรนด์บอลรูม รองรับการจัดงานประชุม สัมมนา งานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ อีกทั้งโดดเด่นและแตกต่างด้วยดีไซน์กลิ่นอายอุบลและอีสานซ่อนอยู่ในทุกมุม เริ่มจากการเลือกวัสดุและสีที่มีความเฉพาะตัวของ “ก้อนอิฐ” หนึ่งในวัสดุที่อยู่คู่กับสถาปัตยกรรมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในภาคอีสาน เกิดจากการนำดินแดงผสมกับแกลบเผาไฟเพื่อให้กลายเป็นก้อน เชื่อมประสานกันด้วยปูน มีความแข็งแรง และเรียงก่อเป็นรูปได้หลากหลาย ซึ่งก้อนอิฐทุกก้อนที่นำมาเรียงรังสรรค์เป็นเซ็นทารา อุบล ล้วนเป็นฝีมือของช่างพื้นเมืองทั้งสิ้น การตกแต่งโรงแรมเซ็นทารา อุบล เลือกใช้งานหัตถกรรมของชาวอุบลและชาวอีสาน อาทิ ผ้าฝ้ายและผ้าไหมลวดลายเฉพาะถิ่น โดยเฉพาะ “ลายกาบบัว” ลายผ้าเฉพาะของจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมงานจักรสานด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และงานประติมากรรมอันโดดเด่น ที่ออกแบบให้เป็น Masterpiece หนึ่งเดียวในโลก เพื่อให้โรงแรมแห่งนี้มีกลิ่นอายของความเป็นชุมชนท้องถิ่นอย่างลงตัว …

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top