Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

แรงงานอีสาน ไปทำงานต่างประเทศ  ที่ประเทศไหนมากที่สุด ตั้งแต่ต้นปี 2565

แรงงานอีสาน ไปทำงานต่างประเทศ  ที่ประเทศไหนมากที่สุด ตั้งแต่ต้นปี 2565 (มกราคม – มิถุนายน 2565)   ตั้งแต่ เดือนมกราคม – มิถุนายน พ.ศ. 2565 แรงงานภาคอีสานที่ไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นจำนวนทั้งหมด 19,946 คน โดยประเทศที่แรงงานภาคอีสานเดินทางไปทำงานมีทั้งหมด 71 ประเทศ  โดยมี 5 อันดับแรกคือ ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, อิสราเอล, สวีเดน และ สาธารณรัฐเกาหลี   อ้างอิงจาก:  https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/overseas_th/e8a65d34d256eaa5599a4a95cce273ef.pdf  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #แรงงานอีสาน

แรงงานอีสาน ไปทำงานต่างประเทศ  ที่ประเทศไหนมากที่สุด ตั้งแต่ต้นปี 2565 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สำรวจแรงงานอีสานที่ไปทำงานต่างประเทศ ในครึ่งปีแรก 2565 

พามาเบิ่ง สำรวจแรงงานอีสานที่ไปทำงานต่างประเทศ ในครึ่งปีแรก 2565    ในครึ่งปีแรก (มกราคม – มิถุนายน) แรงงานภาคอีสานที่ไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นจำนวน 19,946 คน โดยจังหวัด (ตามภูมิลำเนา) ของแรงงานที่ไปทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ อุดรธานี, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, ขอนแก่น และ บุรีรัมย์ ตามลำดับ   สาเหตุที่ทำให้แรงงานรุ่นใหม่ ออกไปทำงานในต่างประเทศจำนวนมาก เนื่องจากปัจจัยความต้องการแรงงานของหลายประเทศ ที่มีค่าแรงค่อนข้างสูง และบางประเทศประสบปัญหาสังคมผู้สูงอายุ ทำให้ขาดแคลนแรงงาน เช่น เกาหลี และหลายประเทศในยุโรป    อีกทั้ง เนื่องจากสภาวะทางการเมืองในประเทศ และสถานการณ์โควิด ทำเด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ เลยทำให้หลายคนต้องดิ้นรนไปหางานในต่างประเทศ โดยเฉพาะคนที่จบการศึกษาสูง ในระดับปริญญาตรีขึ้นไป ซึ่งทำให้ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศของไทย   ดังนั้นหน่วยงานรัฐ และกระทรวงแรงงาน ควรมีมาตรการสนับสนุนแรงงานรุ่นใหม่ ด้านการเติบโตทางตำแหน่งงาน และเงินเดือน ในด้านแรงงานที่ไปเรียนต่างประเทศ ควรมีการสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้คนที่มีความถนัดเฉพาะทางกลับมาทำงานที่ไทย ในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพมากขึ้น   อ้างอิงจาก: https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/overseas_th/e8a65d34d256eaa5599a4a95cce273ef.pdf  https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/overseas_th/be8fae18f661917168e92fcbc2c1459b.pdf  https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2380467  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #แรงงานอีสาน

พามาเบิ่ง สำรวจแรงงานอีสานที่ไปทำงานต่างประเทศ ในครึ่งปีแรก 2565  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง  แนวทางพัฒนาและยกระดับของการเกษตรกรรมของภาคอีสาน ปี 2566-2570

เศรษฐกิจอีสานยังเผชิญความเปราะบางจากหลายปัจจัย ทั้งแผลเศรษฐกิจที่ลากยาวจาก COVID-19 รวมถึงเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกระทบต่อค่าครองชีพและปัญหาหนี้ครัวเรือน รวมถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แนวทางพัฒนาภูมิภาคจึงเป็นสิ่งสำคัญในการวางรูปแบบและเป้าหมายของภูมิภาค โดยอีสานมุ่งเป้าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง ผ่านการยกระดับการเกษตร (Green) ส่งเสริมคุณภาพชีวิตพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว (Growth) และการวางตัวเป็นฐานหลักของการค้าลุ่มแม่น้ำโขง (Gate) วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาดูการยกระดับการเกษตร (Green) ว่าเป็นอย่างไร? จากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ภาคเกษตรกรรมกำลังมีบทบาทกับชีวิตของคนในอีสานมากขึ้น อีกทั้งจากแรงงานที่ไหลเข้าสู่การเกษตรเป็นจำนวนมาก และอีสานยังถือครองพื้นที่เพาะปลูกการเกษตรสูงที่สุดในประเทศ อย่างไรก็ตามอีสานยังเผชิญปัญหาในด้านการเกษตรอยู่หลายด้าน ทั้งผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ที่ต่ำ รวมถึงส่วนใหญ่ยังเป็นการทำเกษตรที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยน้อย ดังนั้นการมุ่งเป้าให้อีสานเป็นแหล่งผลิตเกษตรอินทรีย์ที่มีมูลค่าสูง จึงเป็นแนวทางที่ถูกเลือกเพื่อให้พัฒนาและยกระดับการเกษตรกรรมของอีสาน ภาคการเกษตรกำลังมีบทบาทกับแรงงานมากขึ้น แต่ค่าจ้างที่ต่ำอาจสะท้อนความไม่มั่นคงทางการเงินของแรงงานที่จะสูงขึ้น แรงงานเกือบครึ่งในอีสานอยู่ในภาคเกษตรกรรม และจากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้แรงงานมีการไหลเข้าสู่ภาคเกษตรกรรมมากขึ้น แต่แรงงานในภาคเกษตรกรรมยังเผชิญปัญหาค่าจ้างที่ต่ำซึ่งสะท้อนประเด็นพัฒนาสำคัญที่ต้องมี “การยกระดับภาคเกษตร” เพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้กับโครงสร้างแรงงานหลักของภาค #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #แนวทางพัฒนาและยกระดับของการเกษตรกรรมของภาคอีสาน #การเกษตรกรรมของภาคอีสาน

พามาเบิ่ง  แนวทางพัฒนาและยกระดับของการเกษตรกรรมของภาคอีสาน ปี 2566-2570 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สินค้าส่งออกหลักของผู้ประกอบการ SMEs ชายแดนอีสาน-สปป.ลาว

การค้าชายแดนของรายย่อย มีสินค้าส่งออกหลักเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่จำเป็น ทำให้ชะลอตัวไวกว่าและมีแนวโน้มหดตัวลงชัดเจน การส่งออกชายแดนกับ สปป.ลาว ส่วนใหญ่ยังเป็นการส่งออกสินค้าจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเข้มข้น โดยกลุ่มผู้ส่งออก SMEs มีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 20% สินค้าส่งออกหลักของผู้ประกอบการ SMEs คือกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ โดยมีปริมาณการนำเข้าอย่างมากในช่วงก่อนที่จะเกิดเงินเฟ้อ แต่ทันทีที่ปัญหาเงินเฟ้อใน สปป.ลาว เริ่มรุนแรง การนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นจึงหยุดชะงักและเริ่มหดตัว อ้างอิงจาก: สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #สินค้าส่งออกชายแดน #SMEs

พามาเบิ่ง สินค้าส่งออกหลักของผู้ประกอบการ SMEs ชายแดนอีสาน-สปป.ลาว อ่านเพิ่มเติม »

ส่องยอดขาย 10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน ครึ่งปีแรก ทำรายได้เท่าไหร่ ?

ส่องยอดขาย 10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน ครึ่งปีแรก ทำรายได้เท่าไหร่ ? สินค้า OTOP (One Tambon One Product) เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในท้องถิ่น ในแต่ละตำบล สะท้อนเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีละ 10-20% ตั้งแต่ปี 2546 ในอนาคต สินค้าโอทอปหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับสถานการณ์ของโลก โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ซึ่งผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยั่งยืน ความเท่าเทียม ความแท้จริง ความหลากหลาย และสุขภาพที่ดี คุณค่าเหล่านี้จะต้องเข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์โอทอปยุคใหม่ นอกจากนี้ โลกได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ช่องทางออนไลน์และการชำระเงินแบบ cashless มีความสะดวกง่ายดาย โอกาสจึงเปิดขึ้นมาก โดยเฉพาะหากได้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และคล่องเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ ได้มีโอกาสกลับบ้านเกิด ภาครัฐจึงควรมีโครงการจูงใจให้คนกลับบ้าน สร้าง OTOP Academy เพื่อให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้กลับเข้าไปชุบชีวิตผลิตภัณฑ์เดิม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หมายเหตุ : รายได้รวม เป็นรายได้จากทางยอดขายออนไลน์ และประเภทสินค้าที่ทำรายได้สูงสุด เป็นรายได้รวมจากการขายออนไลน์และหน้าร้าน อ้างอิงจาก: http://logi.cdd.go.th/otop/ https://www.bangkokbiznews.com/columnist/1013822 http://logi.cdd.go.th/otop/cdd_report/otop_r10.php… #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #OTOP #สินค้าOTOP #นครราชสีมา #อุดรธานี #ศรีสะเกษ #อุบลราชธานี #ขอนแก่น #ร้อยเอ็ด #สกลนคร #สุรินทร์ #บุรีรัมย์ #อำนาจเจริญ

ส่องยอดขาย 10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน ครึ่งปีแรก ทำรายได้เท่าไหร่ ? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนในภาคอีสาน เป็นจังใด๋แหน่

จากผลการสํารวจ ในปี 2564 ครัวเรือนภาคอีสานมีรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 21,587 บาท โดยพบว่ารายได้เพิ่มขึ้นจาก 20,600 บาท ในปี 2562 เพิ่มขึ้น 4.8% โดยพบว่ารายได้ครัวเรือนภาคอีสาน ส่วนใหญ่มีรายได้จากการทํางาน 11,934 บาท ซึ่งได้แก่ ค่าจ้างและเงินเดือน 6,378 บาท กําไรสุทธิจากการทําธุรกิจ 3,211 บาท และกําไรสุทธิจากการทําการเกษตร 2,345 บาท ส่วนรายได้ที่ไม่เป็นตัวเงินซึ่งอยู่ ในรูปสวัสดิการ/สินค้า บริการต่าง ๆ ที่ได้รับมาโดยไม่ต้องซื้อ (รวมประเมินค่าเช่าบ้าน/ บ้านของตนเอง) 4,267 บาท รายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการทํางาน เช่น รายได้จากเงิน ที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐหรือบุคคลอื่นนอกครัวเรือน 4,838 บาท ส่วนรายได้ไม่ประจําและจากทรัพย์สิน 415 บาท และ 134 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้หากพิจารณารายได้ของครัวเรือนภาคอีสานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้ ปี 2554 อยู่ที่ 18,217 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ปี 2556 อยู่ที่ 19,181 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ปี 2558 อยู่ที่ 21,094 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ปี 2560 อยู่ที่ 20,271 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ปี 2562 อยู่ที่ 20,600 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ปี 2564 อยู่ที่ 21,587 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน จะเห็นได้ว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาเฉพาะในช่วงปี 2564 ครัวเรือนภาคอีสานมีรายได้ทั้งสิ้นสูงสุด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่รัฐอุดหนุน ท้ังที่รัฐจ่ายเงินเข้าบัญชี ให้แก่ประชาชน และการอุดหนุนในรูปแบบที่ไม่เป็นตัวเงินผ่านแอปพลิเคชัน คูปอง หรือในรูปแบบการลดค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ําประปา ค่าไฟฟ้า ฯลฯ) 5 อันดับจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนมากที่สุด มหาสารคาม 26,542 บาท เพิ่มขึ้น 19.6% เลย 26,532 บาท เพิ่มขึ้น 4.4% นครราชสีมา 24,779 บาท ลดลง -3.7% บึงกาฬ 24,345 บาท เพิ่มขึ้น 6.8% สุรินทร์ 24,009 บาท เพิ่มขึ้น 18.6% จะเห็นได้ว่าจังหวัดมหาสารคามมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนมากที่สุดในภาคอีสาน เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตพืช

พามาเบิ่ง รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนในภาคอีสาน เป็นจังใด๋แหน่ อ่านเพิ่มเติม »

การพัฒนาสู่ความเป็นเมืองไมซ์ (MICE City) ของภาคอีสาน

การพัฒนาสู่ความเป็นเมืองไมซ์ (MICE City) ของภาคอีสาน   เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สำคัญภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศไทยให้ก้าวผ่านพ้นกับดักรายได้ปานกลาง สู่การเป็นประเทศที่มีความพร้อมและมีเสถียรภาพ ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม   สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ประเมินจังหวัดที่มีศักยภาพรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ หรือนักธุรกิจกลุ่มนี้ ซึ่งปัจจุบันมี MICE City ในภาคอีสาน คือ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา เมืองที่มีศักยภาพ ได้แก่ อุบลราชธานี และ บุรีรัมย์     อ้างอิงจาก:  สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) https://dtc.ac.th/what-is-mice/  https://www.businesseventsthailand.com/th/support-solution/regional-office/northeasternregionoffice/detail/mice-city  https://www.businesseventsthailand.com/th/support-solution/regional-office/northeasternregionoffice/detail/potential-city http://www.dsdw2016.dsdw.go.th/doc_pr/ndc_2560-2561/PDF/8376s/8376%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8A%20%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4.pdf    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #MICECITY #เมืองไมซ์ #ขอนแก่น #อุดรธานี #นครราชสีมา #อุบลราชธานี #บุรีรัมย์

การพัฒนาสู่ความเป็นเมืองไมซ์ (MICE City) ของภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สวนสัตว์ใหญ่ในภาคอีสาน

ผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนับตั้งแต่รอบแรกมาจนถึงขณะนี้ หลายองค์กรต่างได้รับผลกระทบและต้องปรับตัว เช่นเดียวกับสวนสัตว์ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับหลายองค์กร เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติถือเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของธุรกิจนี้ จากสถานการณ์โควิด19 ระบาดรอบแรก หลายสวนสัตว์ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ ต้องปิดบริการ กระทบต่อรายได้ ในปี 2563 อยู่ที่ 980 ล้านบาท ซึ่งในปี 2564 เหลือเพียง 915 ล้านบาท (ลดลง 6.6%) และเมื่อกลับมาเปิดให้บริการเหมือนเดิม ก็พบว่าสวนสัตว์หลายแห่ง จำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดน้อยลงไปมาก ขณะที่รายจ่ายต่างๆ ยังคงมีเช่นเดิม โดยในปี 2564 สวนสัตว์ขาดทุน 365 ล้านบาท การท่องเที่ยวในสวนสัตว์ ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นสถานที่กลางแจ้ง เปิดโล่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และยังมีมาตรการต่างๆ ที่สวนสัตว์ปฎิบัติตามนโยบายของภาครัฐในเรื่องโควิด 19 อย่างเข้มงวด เช่น ให้ผู้เข้าเที่ยวชมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาที่เข้าชมสวนสัตว์ การสแกนไทยชนะ วัดอุณหภูมิ มีเจลแอลกอฮอล์ การรักษาระยะห่าง มีมาตรการเข้มข้นในการทำความสะอาดทุกสวน เป็นต้น จุดเด่นของทั้ง 3 สวนสัตว์ในภาคอีสาน 1. สวนสัตว์นครราชสีมา Top Secret Mystery Nature of Thailand ความลับธรรมชาติของประเทศไทยแห่งภาคอีสาน ชมการจัดแสดงสัตว์จากแอฟริกาหรือ “บิ๊กไฟว์” ไปดูช้างแอฟริกาตัวเดียวในประเทศไทย และนกกะเรียนพันธุ์ไทยที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งเปิดมายาวนานกว่า 20 ปี บนพื้นที่ทั้งหมด 545 ไร่ มีสัตว์นานาชนิดกว่า 1,889 ตัว บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีโซนต่างๆที่เป็นสัดส่วน พร้อมเดินชมบรรยากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาและสัตว์จากแอฟริกา และมีสวนน้ำที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบให้สนุกกันได้ทั้งวัน 2. สวนสัตว์ขอนแก่น The Good Adventure Park & Camping สวนแห่งการผจญภัยในดินแดนแห่งความสุข บนที่ราบสูงทุ่งแสนกวาง ไปชมกวางจำนวนมาก มีผาเรียงหนึ่งให้ท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นสวนสัตว์ที่เสริมสร้างความรู้และความเพลิดเพลิน มีสัตว์มากกว่า 100 ชนิด ทั้งสัตว์ป่าหายากและสัตว์ป่าที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ มีกิจกรรมหลากหลายแบบ โดยเฉพาะสัตว์ในตระกูลกวางซึ่งนำมาจัดแสดง และรวมกันอยู่เป็นฝูงขนาดใหญ่ อย่างธรรมชาติให้สอดคล้องกับประวัติความเป็นมาของภูเขาแสนกวาง ภายใต้อัตลักษณ์ของสวนสัตว์ขอนแก่น หรือ The Land of deer 3. สวนสัตว์อุบลราชธานี City Education Jungle Park ศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติและสัตว์ป่า กลางเมืองอุบลราชธานี เราจะเห็นป่ายางขนาดใหญ่ที่แสนร่มรื่น ภายในสวนสัตว์เป็นลักษณะเป็นป่าโปร่ง เต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีการจัดแสดงสัตว์ในรูปแบบ Jungle Park ให้สัตว์ได้อยู่กับป่าไม้ โดยสัตว์ถูกเลี้ยงในพื้นที่อย่างเป็นอิสระ และให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเที่ยวชมอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จนนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาที่สวนสัตว์มากขึ้น วันนั้นสวนสัตว์แต่ละแห่งก็คงจะไปเต็มไปด้วยความสุข ความสนุกและเสียงหัวเราะ จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เหมือนที่ผ่านมา อ้างอิงจาก:

พามาเบิ่ง สวนสัตว์ใหญ่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

แนวทางการยกระดับการท่องเที่ยวตามแผนพัฒนาปี 2566-2570

พามาเบิ่ง แนวทางการยกระดับการท่องเที่ยวตามแผนพัฒนาปี 2566-2570   เศรษฐกิจอีสานในระยะสั้นมีความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการที่ผู้บริโภคต้องการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้บริโภคหยุดหรือลดการใช้จ่ายในช่วงเหตุการณ์ COVID-19 (Pent-up demand) สิ่งนี้จะกระตุ้นให้การท่องเที่ยวอีสานได้   แต่สำหรับระยะยาว จากโครงสร้างเศรษฐกิจของอีสาน ที่ไม่ได้พึ่งพาการท่องเที่ยวมากนัก การยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จึงเป็นการแก้จุดอ่อนหนึ่งของอีสาน เพื่อสร้างมูลค่าการท่องเที่ยวให้มากขึ้นรวมถึงยกระดับรายจ่ายเฉลี่ยในการท่องเที่ยวของภูมิภาค     #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การท่องเที่ยว 

แนวทางการยกระดับการท่องเที่ยวตามแผนพัฒนาปี 2566-2570 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ราคาน้ำมันแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน เป็นหยังคือบ่ส่ำกัน

หลังจากที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวขึ้นไม่มีหยุดไปแล้วหลายครั้งตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา “ราคาน้ำมัน” เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงบ่อยมากในช่วงนี้ วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาดูสาเหตุที่ราคาน้ำมันแต่ละจังหวัดไม่เท่ากันและโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทยทุก 1 ลิตรประกอบด้วยอะไรบ้าง สาเหตุหลักที่ราคาน้ำมันแต่ละจังหวัดไม่เท่ากันนั้น เนื่องจากมีค่าขนส่งน้ำมัน จังหวัดที่มีระยะทางที่ไกลและมีพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน ทำให้มีค่าขนส่งที่แพงกว่าจังหวัดอื่น และมาจากภาษีบำรุงท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสาเหุต คือ สถานีบริการน้ำมันแต่ละแห่งมีข้อตกลงที่แตกต่างกันไปกับแต่ละบริษัทเจ้าของยี่ห้อน้ำมันที่ส่งมาให้ขาย ส่งผลเกี่ยวเนื่องกับต้นทุนของน้ำมันสำเร็จรูปที่เปลี่ยนไปในแต่ละครั้ง ซึ่งหมายความว่าจะมีระยะห่างของเวลานับจากวันที่โรงกลั่นจ่ายค่าน้ำมันดิบ จนถึงวันที่ได้รับเงินจากผู้ที่รับน้ำมันสำเร็จรูปไปขาย ระยะเวลาที่ต่างนี้จึงส่งผลกับการปรับราคาน้ำมัน โครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทยในน้ำมันทุก 1 ลิตรนั้น จะประกอบด้วยดังนี้ 1. ต้นทุนเนื้อน้ำมัน ( 40 –60%) คือ ต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย 2. ภาษีต่างๆ ( 30 –40%) ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น โดยภาษีที่จัดเก็บ ได้แก่ – ภาษีสรรพสามิต : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต นำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ – ภาษีเทศบาล : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต มาตรา 150 และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น – ภาษีมูลค่าเพิ่ม : จัดเก็บ 7% ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีก 7% ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด 3. กองทุนต่างๆ (5 –20%) เช่น – กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน – กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน 4. ค่าการตลาด (10 –18%) คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการคลังน้ำมัน การขนส่งน้ำมันมายังสถานีบริการ รวมถึงการให้บริการของสถานีบริการที่เติมน้ำมันแต่ละลิตรให้กับประชาชน โครงสร้างราคาน้ำมันของไทยในปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เป็นส่วนประกอบและปัจจัยที่มีผลต่อการปรับขึ้นและลงราคาน้ำมันภายในประเทศ ส่งผลให้ราคาน้ำมันของไทยแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีความผันผวนตลอดเวลา ซึ่งองค์ประกอบราคาน้ำมันเป็นเหมือนภาระที่ประชาชนต้องแบกรับ ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ภาครัฐกำหนดขึ้น แนวโน้มราคาน้ำมันหลังจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในปีหน้า เนื่องจากคาดว่าจะมีปริมาณน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดมากขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก(โอเปก) เตรียมทยอยปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือนละ 6 แสนบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้จนถึงสิ้นปี จะมีปริมาณน้ำมันดิบป้อนเข้าสู่ตลาดอีก 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจโลกไม่ได้เติบโตมากนัก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันมีปริมาณน้อย

พามาเบิ่ง ราคาน้ำมันแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน เป็นหยังคือบ่ส่ำกัน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top