เงินเฟ้อภาคอีสาน 5.92%
องค์ประกอบอิหยังเพิ่มขึ้นหลายที่สุด ?
สถานการณ์ “เงินเฟ้อ” ประจำเดือน ตุลาคม 2565 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข้อมูลการปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อถึง 5.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ต.ค. 64)
ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า มีการขยายตัวสูงสุด คือ กรุงเทพฯและปริมณฑล 6.19% รองลงมาเป็น ภาคกลาง 5.94% ในส่วน ภาคเหนือ อยู่ที่ 5.93% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ๆ อยู่ที่ 5.92% และภาคใต้ 5.82% มีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำที่สุด
เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และอาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) และกับข้าวสำเร็จรูป ส้าหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาคได้แก่ ผักกาดขาว ชิง และผักชี เป็นต้น
แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน ปี 2565
คาดว่าจะชะลอตัว ตามราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จ้าเป็นต่อการครองชีพหลายรายการที่ชะลอตัวลง และบางรายการราคาทรงตัวแม้ว่าต้นทุนจะสูงขึ้น เนื่องจากมาตรการดูแลค่าครองชีพของภาครัฐ สถานการณ์น้้าท่วมในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย
ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อของไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่อุปทานยังตึงตัว อุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออก การท่องเที่ยว และราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ยังอยู่ในระดับดี รวมถึงเงินบาทที่ยังอ่อนค่า ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อยู่ที่ระหว่างร้อยละ 5.5 – 6.5 (ค่ากลางร้อยละ 6.0) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของไทย
อ้างอิงจาก:
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)
กระทรวงพาณิชย์
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เงินเฟ้อ #ดัชนีราคาผู้บริโภค #เงินเฟ้อเดือนตุลาคม