Article

บทความ จากบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอีสาน ทั้ง ISAN Outlook และข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ รวบรวมให้คุณรู้ทันทุกข้อมูล เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อีสาน

ช่วยโหวตให้หนูหน่อย หนูชื่ออะไรดีคะ #เตรียมโหวต 5 ชื่อน้องฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ ศรีสะเกษ

พี่ๆ ช่วยโหวตให้หนูหน่อย หนูชื่ออะไรดีคะ #เตรียมโหวตตั้งชื่อน้องฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ โดยจะเปิดให้ประชาชนร่วมโหวตทางสื่อโซเชียล ผ่านเพจสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ โดยจะเปิดให้โหวต จำนวน 4 วันระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม จนถึงเวลา 24.00 น. ใน 5 รายชื่อ ประกอบด้วย 1. น้องลำดวน ความหมาย มาจากชื่อต้นไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ 2. น้องศรีเกษ ความหมาย มาจากพ่อชื่อสมศรี แม่ชื่อเกษริน และชื่อจังหวัดศรีสะเกษ 3. น้องสาวศรี ความหมาย สาว มาจาก สาวสวย เป็นการกลบเสียงบลูลี่ว่าน้องน่าเกลียด ส่วนคำว่า ศรี คือ ศรีสะเกษ เมืองที่น้องเกิด 4. น้องหอมแดง ความหมาย คือพืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ น้องตัวสีน้ำตาลแดงเหมือนหอมแดง 5. น้องหมูกระเทียม ความหมาย คือ พืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ และหมูกระเทียมอร่อย โดยผู้ที่ร่วมโหวตทุกคนมีสิทธิ์ได้รับรางวัล เป็นเสื้อน้องฮิปโปศรีสะเกษ จำนวน 150 รางวัล และผู้ที่ร่วมโหวต 3 ลำดับแรกของรายชื่อที่ได้รับคัดเลือก จะได้รับรางวัลใหญ่จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ (ททท.) ไปโหวตที่เพจนี้กัน https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0267jZ4o9oknXnX7xf1HqCbBn6GTe3AiscNqtUeX6gSFimaoPrsNbijaA5QqG27LYgl&id=61555721168549 อัพเดตล่าสุด หลังเป็นประเด็นดราม่าถูกเปรียบเทียบความน่ารักกับเจ้าหมูเด้ง ดาราดังจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไปเมื่อหลายวันก่อน วันนี้ ‘ศรีสะเกษ’ น้องฮิปโปฯ เบบี๋จากสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ลูกสาวของพ่อสมศรีและแม่เกศริน ที่ตอนนี้คนหันมาเอ็นดูกันมากขึ้นก็ได้รับชื่อใหม่แล้ว ! ทางสวนสัตว์เลยเปิดให้มีการโหวตชื่อ ประกอบด้วย 5 ชื่อด้วยกันคือ ลำดวน ศรีเกษ สาวศรี หอมแดง และหมูกระเทียม โดยแทบทุกชื่อจะเป็นของดีจังหวัดศรีสะเกษแทบทั้งนั้น สุดท้ายน้องได้ชื่อว่า “หอมแดง” ด้วยคะแนนโหวตถล่มทลายถึง 52,045 คะแนน นำชื่ออื่นแบบขาดลอย ที่สำคัญน้องหอมแดงยังมีชื่อพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์อีกด้วยว่า “สาวศรี” อีกด้วย  ประกาศอย่างเป็นทางการ!! ผลการโหวตชื่อลูกฮิปโปศรีสะเกษ ยอดโหวต 4 วัน ทั้งหมด 83,931 โหวต ชื่อที่มีผู้โหวตให้มากที่สุดกว่า 52,045 โหวต ได้แก่ชื่อ  “#น้องหอมแดง” ใครโหวตชื่อนี้บ้างครับ  อันดับ 1 : น้องหอมแดง อันดับ 2 : น้องลำดวน อันดับ 3 : น้องหมูกระเทียม  “น้องหอมแดง” เป็นลูกตัวแรกของ แม่ฮิปโปชื่อ “เกดสิริน” กับ พ่อชื่อ “สมศรี” เกิดเมื่อวันที่ 13 ต.ค. […]

ช่วยโหวตให้หนูหน่อย หนูชื่ออะไรดีคะ #เตรียมโหวต 5 ชื่อน้องฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ ศรีสะเกษ อ่านเพิ่มเติม »

มหาสารคาม สะดืออีสาน สู่ความท้าทาย ในการเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาของภาคอีสาน

มหาสารคาม สะดืออีสาน สู่ความท้าทาย ในการเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาของภาคอีสาน . . เมื่อพูดถึงจังหวัดมหาสารคามแล้วหลายๆ คนคงคิดถึง 3 อย่างนั่น คือ มหาวิทยาลัย มันแกวบรบือ และ    พระธาตุนาดูน แต่ที่จริงแล้วจังหวัดมหาสารคามมีทั้งความท้าทาย และโอกาสในการพัฒนาอีกมาก รวมทั้งยังเป็นจังหวัดที่มูลค่าเศรษฐกิจจังหวัดเติบโตต่อเนื่องในตลอด ทศวรรษที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการลงทุนใน ภาคอสังหาฯ ที่เติบโตกว่า 33% ซึ่งถือว่าสูงสุดในภูมิภาคอีกด้วย . นอกจากนั้นแล้วจังหวัดมหาสารคามยังนับเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของชาวอีสาน มีชุมชนโบราณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุมชนบ้านเชียงเหียน หมู่บ้านปั้นหม้อของชาวบ้านหม้อ ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคามแหล่งโบราณสถาน และสถานที่สำคัญทางศาสนาก็มี พระธาตุนาดูน กู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน กู่บ้านแดง อำเภอวาปีปทุม ปรางค์กู่ ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม ที่น่ามาศึกษาหาความรู้ทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง . เพราะเหตุใด จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดสะดืออีสาน ใจกลางภูมิภาค ถึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีก   อีสานอินไซต์ จะพามาเบิ่ง   . 1. โครงสร้างเศรษฐกิจจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคามมีขนาดพื้นที่ประมาณ 5,292 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 944,605 คน ในปี 2564  มีขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด อยู่ที่ 66,024 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวของจังหวัดอยู่ที่ 85,228 บาท/ปี   . มีโครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจ SME ดังนี้ ภาคการบริการ คิดเป็น 51% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร อยู่ที่ 3,195 ราย 2.ภาคการเกษตร คิดเป็น 21% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ อยู่ที่ 588 ราย 3.ภาคการผลิต คิดเป็น 17% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การสีข้าว อยู่ที่ 2,276 ราย 4.ภาคการค้า คิดเป็น 10% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ ร้านขายของชำ อยู่ที่ 6,072 ราย สินค้า GI ของจังหวัดก็คือ มันแกวบรบือ และข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้    . จากโครงสร้างเศรษฐกิจพบว่า GPP ของมหาสารคาม มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วง

มหาสารคาม สะดืออีสาน สู่ความท้าทาย ในการเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาของภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

อู่เชิดชัย-โคราช ผลิตบัสไฟฟ้า สัญชาติไทย ลุยตลาดอีวี รองรับดีมานด์ทั่วเอเชียแปซิฟิก 4 หมื่นล้านเหรียญ

การเดินทางของบริษัท เชิดชัยมอเตอร์เซลส์ จำกัด – พ.ศ. 2506 เริ่มผลิตโครงสร้างรถบัสด้วยไม้ – พ.ศ. 2508 เราคือผู้ผลิตโครงเหล็กรายแรกในประเทศไทย – พ.ศ. 2518 เราเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของอีซูซุในการผลิตตัวรถบัสบนแชสซีโมโนค็อกของอีซูซุในประเทศไทย – พ.ศ. 2530 เราเฉลิมฉลองให้กับตัวถังรถบัสจำนวน 1,200 คันบนตัวถังอีซูซุ – พ.ศ. 2531 ส่งออกรถโดยสาร 25 คันไปยังประเทศมาเลเซีย เชิดชัย เพื่อผลิตตัวถังรถบรรทุก (ตัวไม้) บริษัทให้บริการรถโดยสารระหว่างจังหวัด บริการรถนำเที่ยวและเพื่อความบันเทิง เพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์ มากว่า 65 ปี เชิดชัยมอเตอร์เซลส์ เริ่มต้นธุรกิจด้วยบริการรถโดยสารประจำทางและโรงงานผลิตตัวถังรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด ก่อนจะขยายไปสู่พื้นที่อื่นๆ ธุรกิจเชิดชัยประกอบด้วยบริการรถโดยสารระหว่างจังหวัด โรงงานผลิตตัวถังรถบัส ตัวแทนจำหน่ายรถบัสวอลโว่ที่ได้รับอนุญาต และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมีรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดกว่า 1,200 คัน ภายใต้สัมปทาน จาก บริษัท ขนส่ง จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม บริการส่วนใหญ่เป็นเส้นทางระยะไกล ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เชิดชัยทัวร์ยังให้บริการระยะกลางระหว่างกรุงเทพฯและนครราชสีมาและจุดหมายปลายทางทางตะวันออกบางแห่ง มรสุมโควิด-19 ฉุดบริษัทขาดทุน เดือนละล้าน ทางเชิดชัย ในตอนนี้ทำกิจการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเป็นผู้ให้บริการรถทัวร์เส้นทางสายอีสาน หรือบางสาย คือ การรับประกอบตัวถังรถทัวร์และบริการซ่อมรถทัวร์ด้วยตัวเอง ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ผู้ให้บริการรถทัวร์หลายเจ้าประสบปัญหาขาดทุน ซึ่งมีบางเจ้าถึงขั้นล้มละลาย ส่วนทางเชิดชัยประสบปัญหาอย่างเดียวกัน คือ ไม่มีผู้ใช้บริการ ส่งผลให้เกิดการขาดทุนเดือนละล้าน หมายความว่าภายใน 1 ปี จะขาดทุนเท่ากับ 12 ล้าน แต่ทางเชิดชัยยังคงดำเนินการให้บริการถึงปัจจุบัน มีสาเหตุที่สามารถเปลี่ยนแปลงจากสภาวะทางการเงินที่ขาดทุน จนสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจแบบปกติ คือ การรีโนเวทการให้บริการลูกค้าและให้อนาคตจะมีการพัฒนาสร้าง รถบัสไฟฟ้า โดยการบริการที่มีมาตรฐานที่ดีขึ้นเป็นการเรียกให้ลูกค้าเริ่มกลับมา   ภาพจาก: Creden data โดยในปี 2564 ถือเป็นการขาดทุนในรอบทศวรรษของบริษัทเลยกว่าว่าได้ แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็เริ่มมองเทรนด์อนาคต และเตรียมพร้อมในการพัฒนาทั้งการผลิตรถบัส และปรับปรุงบริการธุรกิจขนส่งในการเดินทาง รถบัสไฟฟ้า เชิดชัย: ก้าวสู่การเดินทางที่ยั่งยืน เชิดชัยกรุ๊ป เป็นอีกหนึ่งบริษัทขนส่งที่ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน และได้หันมาให้ความสำคัญกับการนำรถบัสไฟฟ้ามาให้บริการ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดมลพิษทางอากาศ   เหตุผลที่เชิดชัยเลือกใช้รถบัสไฟฟ้า ลดต้นทุนระยะยาว: แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้อรถบัสไฟฟ้าจะสูงกว่ารถบัสดีเซล แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้ว ต้นทุนการดำเนินงานของรถบัสไฟฟ้าจะต่ำกว่า เนื่องจากค่าไฟฟ้าถูกกว่าราคาน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: รถบัสไฟฟ้าไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษอื่นๆ ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 และภาวะโลกร้อน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การนำรถบัสไฟฟ้ามาใช้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทในฐานะองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร: ผู้โดยสารส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเดินทางที่สะอาดและปลอดภัย รถบัสไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ   จุดเด่นของรถบัสไฟฟ้าเชิดชัย เทคโนโลยีทันสมัย: รถบัสไฟฟ้าของเชิดชัยมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบปรับอากาศที่ประหยัดพลังงาน ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ออกแบบโดยคนไทย:

อู่เชิดชัย-โคราช ผลิตบัสไฟฟ้า สัญชาติไทย ลุยตลาดอีวี รองรับดีมานด์ทั่วเอเชียแปซิฟิก 4 หมื่นล้านเหรียญ อ่านเพิ่มเติม »

แชร์ลูกโซ่ โมเดลพีระมิดในหน้ากากของธุรกิจเครือข่าย กลโกงหลอกผู้ลงทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในไทย

แชร์ลูกโซ่ โมเดลพีระมิดในหน้ากากของธุรกิจเครือข่าย กลโกงหลอกผู้ลงทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในไทย   . “แชร์ลูกโซ่” ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ ยกตัวอย่างกรณีของไทยในอดีต ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เช่นคดี แชร์แม่ชม้อย แชร์แม่มณี และ forex-3D ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนัก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่สร้างความเสียหายให้กับผู้คน ธุรกิจ รวมไปถึงเศรษฐกิจอย่างรุนแรง    มูลค่าความเสียหายที่ประเมินได้นั้นส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก กรณีแชร์แม่ชม้อยในอดีตเมื่อปี พ.ศ. 2528 มีมูลค่าความเสียหาย 500 ล้านบาท ต่อมาที่แชร์แม่มณีในปี 2562 มูลค่าความเสียหาย 1,376 ล้านบาท และ forex-3D ในปี 2564 ที่สร้างมูลค่าความเสียหายมากถึง 2,500 ล้านบาท รวมถึงผลกระทบต่อผู้เสียหายอีกนับไม่ถ้วนที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้   รูปแบบของการแชร์ลูกโซ่มีความเหมือนกันคือ การเสนอผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงผิดปกติ ในระยะเวลาอันสั้น เช่น ลงทุนมาเป็นหุ้นส่วนกับเราวันนี้รับประกันผลตอบแทน 7 เปอร์เซ็นในทุกๆ เดือน และสร้างภาพลักษณ์ให้ดูประสบความสำเร็จ มีความมั่งคั่ง เพื่อให้ผู้ลงทุนรู้สึกไว้วางใจ โดยมีธุรกิจที่ใช้ในการอ้างอิงที่มาของผลตอบแทนนั้น เช่น การเทรด forex โดยใช้เอไอ การลงทุนเป็นหุ้นส่วนธุรกิจน้ำมัน หรือ การออมเงินร่วม ธุรกิจที่ใช้อ้างอิงเหล่านี้มักจะเสนอผลตอบแทนที่สูง โดยที่ไม่ได้มีสินค้าหรือไม่ได้มีการดำเนินกิจการจริง    วิธีที่ธุรกิจมิจฉาชีพเหล่านี้ใช้ในการจ่ายผลตอบแทนนั้นมักจะมาจาก การนำเงินของนักลงทุนใหม่ไปจ่ายให้กับนักลงทุนเดิม ซึ่งนักลงทุนที่เข้ามาแรกๆก็จะได้รับผลตอบแทนจริง แต่ระบบจะพังลงมาทันทีเมื่อไม่มีนักลงทุนใหม่ๆเข้ามา เนื่องจากไม่มีเงินหมุนในระบบอีกต่อไป และผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆก็คือนักลงทุนใหม่ที่พึ่งเข้ามาในระบบ เนื่องจากไม่มีเงินหมุนเวียนมาเพื่อจ่ายผลตอบแทน ซึ่งรูปแบบของการลงทุนนี้จะเรียกได้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ในรูปแบบ Ponzi scheme   แต่ยังมีแชร์ลูกโซ่ในอีกรูปแบบนึงที่มักจะถูกบังหน้าด้วยธุรกิจเครือข่าย และกำลังมีธุรกิจเครือข่ายขนาดใหญ่ของไทยในปัจจุบันกำลังถูกตั้งข้อสงสัยว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ รูปแบบของแชร์ลูกโซ่ดังกล่าวก็คือ ธุรกิจแบบพีระมิด หรือ Pyramid scheme ที่เป็นการเสนอผลตอบแทนที่สูง จากโอกาสที่ธุรกิจหรือสินค้านั้นๆสามารถทำได้ และผู้ลงทุนยังได้รับประโยชน์จากการสร้างเครือข่ายหรือที่เรียกว่า ”ตัวแทนจำหน่าย” ที่ต่อขาลงไปด้วยการชวนคนใหม่ๆเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมอีกด้วย รูปแบบของการหมุนเงินจะค่อนข้างคล้ายกันคือ การนำเงินลงทุนของคนใหม่ๆ เข้ามาจ่ายให้กับคนเดิม ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และเมื่อไม่มีคนเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้นอีกต่อไป ระบบก็จะพังลงในที่สุด   ปัญหาและผลกระทบจากแชร์ลูกโซ่ที่เกิดขึ้นสามารถสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจในระดับประเทศ จากผลกระทบที่ไปรบกวนกลไกของตลาด เนื่องจากธุรกิจหรือสินค้านั้นๆไม่ได้มีอยู่จริง และผู้ที่ได้รับประโยชน์มีเพียงแค่ผู้เริ่มกลโกงแชร์ลูกโซ่หรือกลุ่มที่อยู่ด้านบนของพิรามิดเท่านั้น ทำให้เศรษฐกิจสามารถหยุดชะงัก จากการโยกย้ายเงินทุนที่ไม่ได้สร้างมูลค่าอะไรให้ระบบเศรษฐกิจเลย . หากมองเจาะลึกลงมาที่ภาคอีสานก็จะพบว่า มีผู้เสียหายจำนวนไม้น้อยในภาคอีสานที่ได้รับผลกระทบ โดยในกรณีคดีแชร์แม่มณีที่เคยเกิดขึ้น ที่พื้นเพเป็นคนในภาคอีสาน ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า ณ จุดเริ่มต้นของธุรกิจแชร์ลูกโซ่นี้ มีคนในพื้นที่ได้รับผลกระทบไปเป็นจำนวนไม่น้อย แต่เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของตลาดแบบออนไลน์ ทำให้ผู้เสียหายกระจายตัวไปทั่วประเทศมากขึ้น ไม่ได้กระจุกตัวในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเหมือนครั้งของแชร์แม่ชม้อยแล้ว แน่นอนว่าผลกระทบต่อผู้คนและมูลค่าความเสียหายย่อมรุนแรงขึ้นตามไปด้วย . สถานการณ์ปัญหาของแชร์ลูกโซ่ในรูปแบบพีระมิด ในปัจจุบันที่ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบภายในประเทศเพียงเท่านั้น เนื่องจากการผันตัวเข้าสู่โลกออนไลน์ทำให้วงของผลกระทบมีความกว้างมากยิ่งขึ้นจนถึงประเทศใกล้เคียง จากรายงานข่าวของ The nation พบว่าได้มีการเผยแพร่คลิปวิดิโอที่บริษัทธุรกิจเครือข่ายที่กำลังต้องสงสัยในประเทศไทย ได้โปรโมตการลงทุนและสินค้าอยู่ที่ประเทศลาว โดยทางบริษัทดังกล่าวได้มีการรับตัวแทนจำหน่ายหลายคน รวมถึงดาราและนักแสดงในประเทศลาว และยังมีรายงานเพิ่มเติมถึงการโปรโมตธุรกิจที่ประเทศอื่นๆ เช่น กัมพูชา เมียนมาร์ อีกด้วย   จากปัญหาที่เกิดขึ้น

แชร์ลูกโซ่ โมเดลพีระมิดในหน้ากากของธุรกิจเครือข่าย กลโกงหลอกผู้ลงทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในไทย อ่านเพิ่มเติม »

หนองบัวลำภู ความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม ความเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดในภาคอีสาน

หนองบัวลำภู ความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม ความเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดในภาคอีสาน หากพูดถึงเศรษฐกิจ ย่อมมีทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ดี และไม่ดีแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ที่ผ่านมา อีสาน อินไซต์ นำเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่ดีในหลายด้านของแต่ละจังหวัด แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ว่ายังมีคนจน กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย โดย รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2566 เปิดเผย จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงสุด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส แม่ฮ่องสอน พัทลุง สตูล หนองบัวลำภู ตาก ประจวบครีรีขันธ์ ยะลา และตรัง วันนี้ ISAN Insight and Outlook สิพามาวิเคราะห์เบิ่ง สถานการณ์เศรษฐกิจและรายได้ต่อหัวของประชากร หนองบัวลำภู ดังนี้ 1. หนองบัวลำภู จังหวัดเล็กๆแห่งอีสานตอนบน มีประชากร 507,021 คน มีขนาดพื้นที่ ประมาณ 3,859 ตารางกิโลเมตร (2.4 ล้านไร่) ประกอบด้วย 6 อำเภอ คือ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู อำเภอนากลาง อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอสุวรรคูหา อำเภอโนนสัง และอำเภอนาวัง มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดอื่น ดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดอุดรธานี ทิศใต้ ติดกับจังหวัดขอนแก่น ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดเลย 2. แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนองบัวลำภูมีความโดดเด่นในเชิงธรรมะที่ผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ยกตัวอย่างเช่น ถ้ำเอราวัณ เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่อันเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระพุทธชัยศรีมุนีศรีโลกนาถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง อีกหนึ่งสถานที่เชิงธรรมมะที่ถือว่าเป็น unseen ของจังหวัดที่ควรค่าแก่การไปเยือนเมื่อไปหนองบัวลำภูคือ ถ้ำผาเจาะ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ โดยถ้ำแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่งดงามทั้งในถ้ำและนอกถ้ำ 3. ในด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ ในปี 2565 จังหวัดหนองบัวลำภูมีขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด(GPP) อยู่ที่ 31,696 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวของจังหวัดอยู่ที่ 67,363 บาท โดยโครงสร้างเศรษฐกิจของหนองบัวลำภู เป็นดังนี้ – ภาคการบริการ คิดเป็น 42% ของ GPP – ภาคการผลิต คิดเป็น 22% ของ GPP – ภาคการเกษตร คิดเป็น 21% ของ GPP – ภาคการค้า คิดเป็น 15% ของ GPP ภาคการเกษตรเป็นส่วนที่สำคัญของหนองบัวลำภู จากการที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งสิ้น 1,686,938 ล้านไร่ หรือคิดเป็นประมาณ 70% ของพื้นที่ทั้งหมด ตัวอย่างพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด เช่น ข้าวนาปี

หนองบัวลำภู ความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม ความเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ไทย-ลาว เซ็นร่วมมือ MOU 6 ฉบับ สถาปนา “เมืองมิตรภาพ” พร้อมถก 5 ประเด็นสำคัญระหว่างประเทศ

“แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี เยือนประเทศลาว หารือกับนายกรัฐมนตรีลาว ยก 5 ประเด็นสำคัญไทย-ลาวร่วมแก้ปมแก๊งคอลเซนเตอร์-การจัดการน้ำโขง ยาเสพติด หมอกควันข้ามแดนและค้ามนุษย์ ร่วมลง MOU 6 ฉบับ วันนี้ (8 ต.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนประเทศลาวอย่างเป็นทางการ และร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง พร้อมหารือกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว ภายหลังเสร็จสิ้นนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า น.ส.แพทองธาร และนายสอนไซ หารือแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และปัญหาข้ามแดนที่สำคัญ 5 ประเด็นคือยาเสพติด Online Scams การค้ามนุษย์ หมอกควันข้ามแดน และการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง สำหรับปัญหายาเสพติด หน่วยงานไทย และลาว ได้ร่วมกันจัดทำกรอบแนวทางเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาตามชายแดน ซึ่งเป็นผลจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กับนายกรัฐมนตรีนายสอนไซ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทย เสนอจัดการประชุมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับเจ้าแขวงชายแดน และหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศในต้นปี 2568 เพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินการตามกรอบแนวทางดังกล่าว ไทย-ลาว MOU 6 ฉบับ นอกจากนี้ ไทยและประเทศลาว จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุนการท่องเที่ยว ภายใต้แผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไทย-ลาว ระยะ 3 ปี (ค.ศ.2022-2025) ความร่วมมือด้านแรงงาน ยืนยันไทยต้องการให้แรงงานต่างชาติทุกคนได้เข้าถึงสิทธิ และบริการต่าง ๆ ในระหว่างที่ทำงานในไทย ขอให้ไทยและลาว ร่วมกันส่งเสริมให้แรงงานลาวเข้ามาทำงานในไทย สะพานน้ำโขงเชียงแมน-หลวงพระบาง จากนั้นผู้นำทั้ง 2 ประเทศร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงระหว่างไทย-ลาว จำนวน 6 ฉบับ และการส่งมอบผลการศึกษา และรายละเอียดการออกแบบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขงเชียงแมน-หลวงพระบาง ดังนี้ 1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ 2.บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองมิตรภาพ จ.ขอนแก่น กับนครหลวงเวียงจันทน์ 3.บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือในการบริหารทรัพยากรบุคคล 4. บันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการค้าภายใน กับ กรมมาตรฐานและวัดแทก 5. บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และ 6.หนังสือแสดงเจตจำนง ระหว่างกรมทางหลวง และกรมขัวทาง ที่มา: สำนักข่าว ThaiPBS หนุนไทยสู่ฮับอาเซียน ไทย-ลาว เซ็นร่วมมือขนส่งสินค้าทางรางแบบไร้รอยต่อ คาดเพิ่มมูลค่ากว่า 26 ลบ.ต่อปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นประธานในพิธีลงนาม “บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ” ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย

ไทย-ลาว เซ็นร่วมมือ MOU 6 ฉบับ สถาปนา “เมืองมิตรภาพ” พร้อมถก 5 ประเด็นสำคัญระหว่างประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เชิญเที่ยวชมงาน อุโมงค์ไฟ ทะเลธุง “เทศกาลแห่งศรัทธา แห่ธุงพญานาค”

ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเข้าร่วมงานเทศกาลแห่งศรัทธา แห่ธุงพญานาค ภายใต้โครงการวิจัย แต่งกายพื้นถิ่น กินของพื้นบ้าน ร่วมสืบสานเทศกาลแห่ธุงพญานาค วันที่ 18-19 ตุลาคม 2567 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพันทา (ลานวัฒนธรรม) วัดประชามิตร (ลานแห่งศรัทธา) และพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต (ลานศิลปะร่วมสมัย)    

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เชิญเที่ยวชมงาน อุโมงค์ไฟ ทะเลธุง “เทศกาลแห่งศรัทธา แห่ธุงพญานาค” อ่านเพิ่มเติม »

ขอนแก่น แดนไดโนเสาร์ Khon Kaen Geopark ปล่อยกางเกงลายใหม่ “กางเกงอุทยานธรณีขอนแก่น” ส่งเสริมอัตลักษณ์ทางธรณีวิทยา

มาแล้วจ้า “กางเกงอุทยานธรณีขอนแก่น” เชิญชวนให้หาไว้สวมใส่ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ทางธรณีวิทยาในพื้นที่อุทยานธรณีขอนแก่น ดีไซน์สวยเก๋ ไม่เหมือนใคร มีให้เลือก 2 ลาย ได้แก่ Geo-Rock สีน้ำตาล-ส้ม Fossilla สีน้ำตาลและฟ้าพาสเทล กางเกงผ้าไหมอิตาลี เอวยางยืด Free Size มีกระเป๋า 2 ข้าง ราคาตัวละ 200 บาท ค่าส่งเริ่มต้น 50 บาท (1-2 ตัว) สามารถสั่งซื้อผ่าน inbox ของเพจนี้ได้เลยจ้า คลิก การโอนเงินค่ากางเกงและค่าส่ง กรุณาโอนผ่านบัญชี “กองทุนกิจกรรมอุทยานธรณีขอนแก่น” KTB ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 664-1-16176-5 (รายได้หลักหักค่าใช้จ่าย ใช้จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในพื้นที่อุทยานธรณีีขอนแก่น) ปล : สถานที่วางจำหน่าย (เริ่มวันที่ 9 ต.ค.67) จำนวนจำกัด  อบจ.ขอนแก่น (อาคารสำนักช่าง) ถ.หน้าเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น  ร้านเฮือนภูเวียง (ข้างโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม) อ.ภูเวียง ทาสแมวยิ้ม Soft Power “กางเกงแมว” อัตลักษณ์เมืองโคราช ตาฮักหลาย

ขอนแก่น แดนไดโนเสาร์ Khon Kaen Geopark ปล่อยกางเกงลายใหม่ “กางเกงอุทยานธรณีขอนแก่น” ส่งเสริมอัตลักษณ์ทางธรณีวิทยา อ่านเพิ่มเติม »

เมื่อรายได้ต่อหัวของคนอีสานเพิ่มขึ้น 1 บาท ปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้น 8 ตัน

คำเตือน: บทความนี้เป็นการศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเท่านั้น บนสมมติฐานที่ว่า “หากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลต่อการบริโภคที่มากขึ้น จะส่งผลต่อปริมาณขยะมูลฝอยที่เพิ่มขึ้น” ลดปริมาณ “ขยะอาหาร” เป็นเป้าหมายโลก การลดขยะอาหารเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ซึ่ง UN ได้ตั้งเป้า ให้ในปี ค.ศ. 2030 ขยะอาหารที่เกิดจากการจำหน่ายและการบริโภคทั่วโลกต้องลดลง 50% ฝรั่งเศส ออกกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านขยะอาหาร สหรัฐอเมริกา เน้นมาตรการสร้างแรงจูงใจในการลดขยะอาหาร มากกว่าการลงโทษ เกาหลีใต้ ให้ความสำคัญกับการลด ปริมาณขยะอาหารในภาคครัวเรือนด้วยเทคโนโลยี สำหรับประเทศไทย ค่านิยม “เหลือ…ดีกว่าขาด” ทำให้อาหารส่วนเกินจำนวนมาก กลายเป็นขยะอาหาร แล้วส่วนใหญ่ได้รับการจัดการอย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา ขยะอาหารของไทยมีมาก และยังจัดการไม่ดีพอ ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าในปี 2560 มีขยะอาหารคิดเป็นร้อยละ 64 ของปริมาณทั้งหมด หรือ 254 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แต่ไทยมีการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์น้อยมาก เนื่องจากเทศบาลส่วนมากไม่มีการแยกขยะ และในส่วนของ กทม. สามารถรีไซเคิลขยะอาหารได้เพียง 2 % เท่านั้น ISAN Insight and Outlook สิ พามาเบิ่ง สถานการณ์ขยะในภาคอีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน ถือเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุด คิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ ซึ่งย่อมตามมาด้วยการบริโภคสูงที่สุดในประเทศเช่นกัน ขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจตั้งแต่ในระดับประเทศ จนไปถึงระดับจังหวัด แสดงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้น แต่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ส่งผลกระทบในเชิงลบภายนอกเช่นกัน โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ปริมาณขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นจากบรรจุภัณฑ์ จากการบริโภคที่มากขึ้น โดยปัญหาขยะมูลฝอย เป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทย จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษรายงานว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีปริมาณขยะเกิดขึ้น 26.95 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 5% เฉพาะในภาคอีสานมีปริมาณขยะตลอดทั้งปี 6.52 ล้านตัน หรือ 24% ของทั้งประเทศ ซึ่งปริมาณขยะที่มากจะทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น การสะสมของเชื้อโรคหรือต้นทุนในการกำจัดที่เพิ่มขึ้น โดยงานศึกษานี้ต้องการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวและปัจจัยอื่น ๆ ว่ามีผลต่อปริมาณขยะในแต่ละจังหวัดในภาคอีสานอย่างไร  การศึกษาครั้งนี้ได้อ้างอิงวิธีการศึกษาและการคัดเลือกตัวแปรจากงานศึกษาของ Blagoeva (2023) ที่ได้ศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ต่อหัวและสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม และปริมาณขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลในบัลแกเรียเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป การศึกษาครั้งนี้วิเคราะห์ว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและสังคมในบัลแกเรียและประเทศอื่นๆ ส่งผลต่อปริมาณขยะมูลฝอย  โดยในการศึกษาครั้งนี้ต้องการที่จะเจาะจงในพื้นที่ภาคอีสานของประเทศไทย โดยจะใช้แบบจำลองถดถอยเชิงพหุคูณหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยตัวแปรอิสระที่ใช้ศึกษา ได้แก่  ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวรายจังหวัด(GPP per capita) เฉลี่ย 10 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2565 ของทุกจังหวัดในภาคอีสาน (ที่มา: สภาพัฒน์) จำนวนประชากรแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน ปี 2565 (ที่มา: สภาพัฒน์) ดัชนีผสม มิติสิ่งแวดล้อม

เมื่อรายได้ต่อหัวของคนอีสานเพิ่มขึ้น 1 บาท ปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้น 8 ตัน อ่านเพิ่มเติม »

5 กุญแจไขรหัสความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” : เจาะลึกเบื้องหลังความประทับใจ กับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หนังไทยวิถีไทบ้านอีสาน 700 ล้าน และ 7 รางวัลสุพรรณหงส์

สัปเหร่อ (อังกฤษ: The Undertaker) เป็นภาพยนตร์ไทยภาษาอีสานแนวตลก ดราม่า สยองขวัญเหนือธรรมชาติ ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2566 และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ภาคแยกในจักรวาลไทบ้าน เดอะซีรีส์ กำกับโดยธิติ ศรีนวล นำแสดงโดย ชาติชาย ชินศรี นฤพล ใยอิ้ม อัจฉริยะ ศรีทา สุธิดา บัวติก ภาพยนตร์ได้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของความเชื่อพื้นถิ่น วิถีชีวิตของอาชีพสัปเหร่อและพิธีกรรมเกี่ยวกับคนตายที่สัมพันธ์กับคติธรรมเรื่องของการปล่อยวาง ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนของภาพยนตร์ไทยท้องถิ่นอีสาน[1] เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทยในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ภาพยนตร์ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ที่เข้าฉายเมื่อปี พ.ศ. 2557[2] รวมถึงเป็นหนึ่งในสิบอันดับภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินสูงสุด ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากบริษัทผู้สร้างอิสระเรื่องเดียวที่ติดอันดับดังกล่าว ทำเงินเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ 244.95 ล้านบาท (ทำเงินรวมทั่วประเทศ 729.6 ล้านบาท) จากทุนสร้าง 15 ล้านบาท เป็นภาพยนตร์จากจักรวาลไทบ้านที่ทำเงินเปิดตัวได้สูงสุดและทำรายได้สูงสุด[3] ภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมชาวไทยเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อหาที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยที่ผูกพันกับความตายได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ลองมาวิเคราะห์กันว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นและประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ “สัปเหร่อ” คว้าไป 7 รางวัล #สุพรรณหงส์ครั้งที่32[4]   ได้แก่ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่ ธิติ ศรีนวล จาก สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ ชาติชาย ชินศรี จาก สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ 🏆 รางวัลภาพยนตร์ไทยรายได้สูงสุดประจำปี 2566 ได้แก่ สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ เพลงยื้อ – ปรีชา ปัดภัย จาก สัปเหร่อ 🏆รางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ

5 กุญแจไขรหัสความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” : เจาะลึกเบื้องหลังความประทับใจ กับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หนังไทยวิถีไทบ้านอีสาน 700 ล้าน และ 7 รางวัลสุพรรณหงส์ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top