“หมอลำ” ขุมทรัพย์เงินสะพัด 6000 ล้าน ที่คนไทยดู 20 ล้านคน จัดแสดงกว่า 2,600 รอบ

คนไทยกับวัฒนธรรมความเป็นไทยเป็นอะไรที่อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว โดยเฉพาะทำนองลำกลอน หมอลำ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ เพลงลูกทุ่ง หมอลำ ยังคงเป็นอะไรที่ครองใจคนไทยตลอดมา ยืนยันได้จากจำนวนยอดวิวบน YouTube ที่แต่ละเพลงหลัก ร้อยล้านวิว และเมื่อเจาะลึกไปที่ วงหมอลำ แนวเพลงที่รู้จักกันดีในความสนุกสนานหรือม่วนจอยจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ และเป็นคนทำธุรกิจหากต้องการทำการตลาดผ่านหมอลำ จะต้องรู้อะไรบ้าง
.
มื้อนี้ ISAN Insight and Outlook พามาเบิ่ง ข้อมูลอินไซต์ตลาดธุรกิจหมอลำว่าเติบโตยิ่งใหญ่ สร้างเศรษฐกิจได้มากน้องเพียงใด

คนไทย 20 ล้านคน ดูหมอลำ กว่าครึ่งมีคนในภาคอีสานมากถึง 10 ล้านคนดูหมอลำและการแสดงคอนเสิร์ตหมอลำในภาคอีสานตลอดหนึ่งปีจัดมากถึง 332 วัน มีการแสดงรวมกันมากถึง 2,596 รอบ ที่สามารถดึงดูดผู้ชม 2,000-6,000 คนต่อครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของวงและพื้นที่จัดงาน  และคาดการณ์ว่า Eyeballs ผู้เข้าชมหมอลำตลอดปีอยู่ที่ 8,532,000 คน

MI GROUP ได้มีโปรเจกต์ MI LEARN LAB เพื่อแสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ สู่การทำการตลาดอย่างมีกลยุทธ์และเข้า-ถึง-ใจผู้บริโภค ผ่าน Entertainment & Cultural Marketing โดยล่าสุด ได้ทำการศึกษา การตลาดผ่านคอนเสิร์ตหมอลำ โดยพบว่า หลังการระบาดของโควิด คือ ยุคทอง ของวงหมอลำอย่างแท้จริง หลังจากที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 70 ปี

จากการสำรวจพบว่า คนไทยจำนวนกว่า 20 ล้านคนเลยดูหมอลำ เฉพาะภาคอีสานมีผู้ชมกว่า 10 ล้านคน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบ 80% เคยดูทั้งออนกราวด์และออนไลน์ และประมาณ 60% ดูออนกราวด์อย่างเดียว

สอดคล้องกับที่พบว่า การจัดแสดงส่วนใหญ่จะจัดในภาคอีสาน รองลงมาเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวอีสานทำงานอยู่จำนวนมาก และหลังจากการระบาดของโควิด จะเห็น การลงทุนอย่างสูง ของวงหมอลำ ไม่ว่าจะเป็นชุด แสง สี เสียง เพื่อ ยกระดับโชว์ ซึ่งส่งผลถึง ปริมาณจำนวนงานจ้าง เพิ่มขึ้นประมาณ 40-45%

สำหรับผลของการลงพื้นที่เพื่อศึกษาหาข้อมูลวิจัยเชิงลึกดังกล่าวมีรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

1. พลังของ Cultural Marketing

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นข้อมูลว่า 78.8% ของกลุ่มตัวอย่างในภาคอีสานเคยเข้าชมคอนเสิร์ตหมอลำ, จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่องานอยู่ที่ 2,000 – 6,000 คน, จำนวน eyeballs ตลอดทั้งปีสูงถึง 8,532,000 คน พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายของผู้ชมในอุตสาหกรรมนี้ในปี 2567 จะสูงถึง 5,998.91 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าในช่วงโควิด-19 ถึง 756 % และสูงกว่าระดับก่อนโควิด 127% เมื่อเทียบช่วงเดือนเดียวกัน

2. วงหมอลำ 10 อันดับ ครองใจคนอีสาน

วงหมอลำยอดนิยมของภาคอีสานนั้นส่วนใหญ่มีประวัติยาวนานหลายทศวรรษ จัดแสดงตั้งแต่รุ่นยายสู่รุ่นหลาน และมีสมาชิกร่วมวงขนาดใหญ่ โดยในส่วนของวงหมอลำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากใน Social Media จำนวน 10 อันดับ ซึ่งยึดตามข้อมูลอัปเดตล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2567 ได้แก่

  1. วงระเบียบวาทศิลป์
  2. วงประถมบันเทิงศิล
  3. วงสาวน้อยเพชรบ้านแพง
  4. หมอลำใจเกินร้อย
  5. เสียงอิสาน
  6. เสียงวิหก
  7. ศิลปินภูไท
  8. อีสานนครศิลป์
  9. คำผุนรวมมิตร
  10. รัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์

 

 

3. การแบ่งกลุ่มผู้ชมหมอลำ

ผลวิจัยแบ่งผู้ชมออกเป็น 4 กลุ่มตามลักษณะพฤติกรรมการเสพคอนเสิร์ตหมอลำแต่ละกลุ่มทำให้เห็นประสบการณ์การรับรู้ ( Consumer Experience) ที่แตกต่างกันสำหรับการสร้างการมีส่วนร่วมของแบรนด์ (Brand Engagement): ซึ่งตัวอย่าง IDEA FOR BRANDS ในการเข้าถึงแต่ละกลุ่ม มีดังนี้

3.1 กลุ่ม “เซามักบ่ได้” (แฟนคลับตัวยง) และ กลุ่ม”เป็นตาซังคักๆ” (ผู้ชื่นชอบหมอลำ) : เปิดโอกาสให้แบรนด์ร่วมมือกับวงหมอลำหรือศิลปินในการออกผลิตภัณฑ์พิเศษสำหรับแฟนๆ ภายในงานเนื่องจากคน 2 กลุ่มนี้มีกำลังจับจ่ายสูง พร้อมจะซื้อสินค้าเกี่ยวกับศิลปินที่ตนชื่นชอบ

3.2 กลุ่ม “ซุมมักม่วน” (กลุ่มเน้นสังสรรค์) และ กลุ่ม “ขอเบิ่งนำแหน่” (ผู้ชมความบันเทิงทั่วไป) : ควรผลักดันชื่อหรือโลโก้ของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำระหว่างกิจกรรม รวมถึงการตกแต่งบูธ หรือ มองหากิจกรรมที่เน้นย้ำการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ เนื่องจาก 2 กลุ่มนี้ชอบร่วมกิจกรรมกับแบรนด์ภายในงานแต่การจดจำแบรนด์ไม่สูงมากนัก การแบ่งกลุ่มเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์สามารถวางแนวทางเฉพาะเจาะจงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาด ตั้งแต่การร่วมมือกับศิลปินในการสร้างผลิตภัณฑ์ (Collaboration) ไปจนถึงการจัดกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ในงาน (Customer Experience)

 

 

4. Ecosystem ของคอนเสิร์ตหมอลำในมิติดิจิทัล

งานวิจัยยังเผยให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์ในระบบนิเวศของหมอลำ คือ 71% ของแฟนๆ มีส่วนร่วมกับเนื้อหาหมอลำออนไลน์ รวมถึงการถ่ายทอดสดและวิดีโอสั้น, 68% ติดตามศิลปินหรือวงที่ชื่นชอบบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มยอดนิยมในการรับชมหมอลำได้แก่ อันดับ 1 Facebook  (75%) ตามด้วย YouTube (47%) และ TikTok (35%) นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการชมคอนเสิร์ตแบบ LIVE ผ่านทางออนไลน์มากที่สุดคือกลุ่มที่รับชม 1-2 ชั่วโมง คิดเป็น 34% รองลงมาคือรอดูเฉพาะช่วงศิลปินที่ชอบขึ้นโชว์ 22% และอันดับ 3 คือ ดูแซ่บตั้งแต่เริ่มจนจบงาน 21%

 

 

5. การตลาดผ่านหมอลำ ‘ยิงปืนนัดเดียวได้นก 4 ตัว’

5.1 การจดจำแบรนด์ (Awareness) : 68.7% ของผู้เข้าชมสามารถจดจำผู้สนับสนุนงานได้ ดังนั้นการติดตั้งป้าย Static การเอ่ยชื่อแบรนด์ในวิทยุชุมชน รถแห่ ปากต่อปาก ป้ายกล่องไฟ หรือ Digital Screen จึงเป็นสิ่งสำคัญ

5.2 การมีส่วนร่วม (Engagement) : 31.3% เข้าร่วมกิจกรรมของแบรนด์ระหว่างงาน เช่นกิจกรรมแจกทอง เปิดเพลง Tie-in สินค้า

5.3 สร้างโอกาสในการขาย (Sale) : 12.6% ซื้อสินค้าของแบรนด์จากบูธในงาน เพราะฉะนั้นแบรนด์ควรจัดบูธกิจกรรม ร่วมกับการขายสินค้าที่เหมาะกับบรรยากาศงาน

5.4 ขยายการเข้าถึง (Opportunity Expansion) : 54.7% เคยรับชมคอนเสิร์ตหมอลำผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ ชี้ให้เห็นว่า โอกาสการเข้าถึงไม่เพียงเกิดขึ้น ณ ลานจัดงานเท่านั้น แต่แบรนด์สามารถสร้างการจดจำผ่านการรับชมออนไลน์ได้อีกด้วย

 

พลังของหมอลำสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายมิติและต่อเนื่อง จากคอนเสิร์ตหมอลำเป็นคอนเสิร์ตที่เล่นทุกวันตามพื้นที่ต่าง ๆ ในช่วงระหว่าง เดือน กันยายน-มิถุนายน ของอีกปี ผ่านวงหมอลำที่หลากหลาย โดยทั่วภาคอีสานการแสดงส่วนใหญ่จะอยู่ในวัด ลานอเนกประสงค์ในชุมชม โรงเรียน ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างงาน

แต่ในปัจจุบันหมอลำยังเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรม TPOP หรือ Thai Popular Culture ที่ไม่ได้อยู่เฉพาะในผู้เสพสื่อเฉพาะกลุ่มหรือพี่น้องชาวอีสานเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวเพลงที่โด่งดังไกล โดยเฉพาะสื่อใน TIKTOK และแผ่นเสียงต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เป็นไวรัล ทั้งด้วยความสนุกสนาน และการสร้างส่วนร่วมได้อย่างดีร่วมกับผู้ชม ตัวอย่าง เช่น รายการ หมอลำไอดอล

ภาพ: รายการหมอลำไอดอล

ภาพ หมอลำใน TikTok

ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการจัดงานในรูปแบบเปิดวิก หรือหมอลำออนทัวร์ และมีการจัดคอนเสิร์ตหมอลำในภาคอื่น ๆ ของประเทศไทยและต่างประเทศในบางครั้ง จากการมองเห็นผู้ฟังมีอยู่ทั่วโลก ไม่รวมการเปิดคอนเสิร์ตผ่านทางออนไลน์

สิ่งเหล่านี้ทำให้หมอลำกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดให้กับแบรนด์ในการสร้างปฏิสัมพันธ์ในด้านของ Brand Awareness, Engagement, Sale และ Opportunity Expansion ที่สามารถเข้าถึงได้ผู้คนที่เสพคอนเทนต์เพลง และชื่นชอบความสนุกสนาน

 

ที่มา :

 

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top