โค้วยู่ฮะ อีซูซุ กับความท้าทาย ในตลาดรถกระบะ ปี 2567

รถกระบะเป็นยานพาหนะสำคัญสำหรับภาคธุรกิจและอาชีพต่างๆในประเทศไทย เนื่องจากเป็นรถที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมีตัวเลือกที่หลากหลายในแต่ละกลุ่มราคา รูปแบบเหมาะสำหรับการนำมาขนของหรือนำไปต่อเติมเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น สำหรับในภาคอีสานนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีเกษตรกรมากที่สุดในประเทศ อีกทั้งด้านการขนส่งนั้นก็มีความสำคัญในภาคอีสานมากเช่นกัน สามารถพูดได้ว่าการมีรถกระบะนั้นเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ทำมาหากินที่สำคัญ สามารถช่วยสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนมากกว่ารถประเภทอื่นก็คงจะไม่ผิดอะไร โดยหากไม่นับกรุงเทพมหานครที่มีประชากรทำธุรกิจอยู่เยอะ ภาคอีสานนับเป็นภาคที่มีการจดทะเบียนรถกระบะใหม่สูงกว่าภาคอื่น ผลจากในด้านของประชากรที่มีมากกว่าภาคอื่น และการประกอบอาชีพที่จพเป็นต้องใช้รถกระบะมากกว่าภาคอื่น

 

บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด บริษัทขายรถยนต์อีซูซุรายใหญ่ในภาคอีสานที่มีสาขาในภาคอีสานมากถึง 20 สาขา และในกรุงเทพมหานครอีก 8 สาขา โดยโค้วยู่ฮะนั้นอยู่คู่ภาคอีสานมายาวนานนับ 60 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 จากจุดเริ่มต้นของ ดร.วิญญู คุวานันท์ และภรรยาคู่ชีวิตคนสำคัญ คุณมาลิน คุวานันท์ ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญ ให้คำปรึกษาและเป็นแรงผลักดันในการ ดำเนินธุรกิจแก่ ดร.วิญญู โดยในปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดในด้านของรายได้รวมในภาคอีสานอยู่ที่ 4.83% หากมองในด้านของผลประกอบการจะพบว่ารายได้รวมในปัจจุบันของบริษัทนั้นมีปริมาณที่ลดลงเป็นอย่างมากจากปีก่อนหน้า โดยตารางที่ 1 แสดงให้เห็นถึงรายได้รวมในช่วงปี พ.ศ. 2558 – 2566 จะเห็นได้ว่าในปี พ.ศ. 2566 รายได้รวมของทางบริษัทลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2565 ลดลงประมาณ 33.55% และยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งต่อบริษัท เพราะหากรายได้ของบริษัทลดลงย่อมส่งผลต่อกำไรของทางบริษัทที่ย่อมลดลงตามไปด้วยเช่นกัน

 

ตารางที่ 1 รายได้รวม และกำไรสุทธิ บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด ปี 2558 – 2566

2558 2559 2560 2561 2562 2563 2564 2565 2566
รายได้รวม 7,382.16 7,024.63 6,850.06 7,142.50 7,493.45 8,781.53 8,507.64 8,022.49 5,330.83
กำไรสุทธิ 111 170.3 143.71 176.58 146.9 160.75 193.32 211.31 122.65

หน่วย: ล้านบาท

ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

 

ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อบริษัทคือความหลากหลายของสินค้าที่มีจำหน่ายของทางโค้วยู่ฮะเอง เนื่องจากความหลากหลายของสินค้านั้นมีไม่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง หากเรามองไปที่คู่แข่งอย่างโตโยต้าจะมีสินค้าตั้งแต่รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ MPV และ SUV ซึ่งมีความหลากหลายมากกว่าโค้วยู่ฮะที่มีเพียงรถกระบะ SUV และรถบรรทุกขนาดใหญ่ เท่านั้น อีกทั้งในด้านศูนย์บริการที่ทางโตโยต้าได้เปรียบมากกว่า ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในการตัดสินใจซื้อ และหากเรามาดูสินค้าในตลาดของทั้งสองเจ้าโดยอ้างอิงจากสินค้าที่ทางโค้วยู่ฮะมีเป็นหลักเราจะพบว่าในกลุ่มของรถกระบะนั้นทางอีซูซุยังคงครองส่วนแบ่งในสัดส่วนที่มากกว่าหากมองในด้านของความหลากหลายของตัวรถกระบะที่มีให้เลือกนั้นจะมีคล้ายกันอยู่มาก แต่จุดเด่นหนึ่งของทางโตโยต้าที่ได้เปรียบอีซูซุในตอนนี้คือการเข้ามาของ Toyota Champ ซึ่งเจาะกลุ่มตลาดของเกษตรกร ค้าขายที่จำเป็นต้องขนของได้เป็นอย่างดี ในราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่ารุ่นอื่นในตลาด อีกทั้งยังมีตัวเลือกในการแต่งเติมเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมาให้เลยจากโรงงาน เป็นจุดเด่นที่แบรนด์อื่นในท้องตลาดยากที่จะสู้ด้วย เพราะโดยปกติแล้วนั้นหากเราซื้อรถกระบะมาจากศูนย์หากเราต้องการนำไปบรรทุกของ หรือนำไปทำเป็นรถขายอาหารเราจำเป็นต้องไปให้ร้านข้างนอกทำให้ ซึ่งบางคนอาจจะมีความกังวลต่อมาตรฐานของร้านนอก และความเชี่ยวชาญในการทำที่ไม่เหมือนศูนย์ทำให้ ในส่วนนี้ทางผู้จัดทำจึงมองว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายของโค้วยู่ฮะที่จะสามารถแก้เกมในส่วนนี้ได้อย่างไร แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบในรถกระบะแต่ง ที่จะนำรถกระบะเดิมๆมาแต่งหรือปรับเปลี่ยนจุดต่างๆให้ตรงกับความชอบของตนเอง โดยคนในกลุ่มนี้ค่อนข้างที่จะมีความชื่นชอบในรถกระบะของทางอีซูซุในการนำไปปรับแต่งมากกว่าเจ้าอื่น เพราะหากเรามองไปตามท้องถนนนั้นจะพบว่ารถกระบะแต่งส่วนใหญ่จะเป็นของทางอีซูซุซะมากกว่า และในรถกลุ่มที่สองได้แก่รถ SUV ที่ในปัจจุบันที่ทางโค้วยู่ฮะขายจะเป็นรุ่น Isuzu MU-X ขณะที่ทางคู่แข่งนั้นนอกจากจะมี Toyota Fortuner แล้วยังคงมี Ford Everest  Mitsubishi Pajero Sport และ Nissan Terra ที่เป็นคู่แข่งในตลาดนี้ แต่หากมองในด้านของส่วนแบ่งการตลาดนั้นต้องยอมรับว่า Toyota Fortuner นั้นครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด รองลงมาเป็น Isuzu MU-X และ Ford Everest ตามลำดับ นับว่าการแข่งขันในตลาดนี้นั้นมีสูงมาก หากทางอีซูซุสร้างจุดเด่นของรถในกลุ่มนี้ได้น่าสนใจกว่าเจ้าอื่นในตลาด หรือทางโค้วยู่ฮะจัดแคมเปญที่น่าสนใจคงจะสามารถดึงดูดลูกค้าจากแบรนด์อื่นมาหาตนเองได้ไม่น้อย

แต่แม้ว่าเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นนั้นเหมือนจะส่งผลให้ทางโค้วยู่ฮะดูเสียเปรียบก็จริง แต่ในความจริงแล้วนั้นโค้วยู่ฮะมีฐานลูกค้าที่มีความมั่นใจในประสิทธิภาพของรถกระบะมากกว่าเจ้าอื่นในตลาด จากกราฟที่ 1 แสดงให้เห็นถึงยอดจดทะเบียนรถกระบะสะสมในภาคอีสานซึ่งมีเพียงอีซูซุและโตโยต้าเท่านั้นที่ครองสัดส่วนการจดทะเบียนในระดับที่สูงกว่าแบรนด์อื่นในท้องตลาดเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในแบรนด์ แต่หากมองจากกราฟก็จะพบว่าในปี พ.ศ. 2567 นั้นยอดสะสมของรถกระบะมีความเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง


กราฟที่ 1 ปริมาณรถกระบะจดทะเบียนสะสมในภาคอีสานปี 2567

ที่มา: กรมการขนส่งทางบก

 

ปัจจัยต่อมากน้อยจากตัวแบรนด์หรือผู้จัดจำหน่ายแล้วนั้นยังคงมีปัจจัยอื่นๆอีกได้แก่

  • สถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากความกังวลของทางธนาคารต่อผู้กู้ในด้านของความสามารถในการชำระหนี้ จากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีประเด็นเรื่องหนี้ครัวเรืองสูง และเป็นหนี้เสียเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ และหนี้บัตรเครดิต
  • กำลังซื้อของประชาชนยังคงอ่อนแอ หากมองในด้านของการซื้อรถกระบะไปใช้งานโดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกลุ่มผู้ที่อยู่ในภาคเกษตรกรรม และการขนส่ง เหตุผลส่วนหนึ่งสอดคล้องกับข้อก่อนหน้าในด้านของหนี้สิน และอีกส่วนหนึ่งเป็นปัจจัยในด้านของราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ผันผวน ส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร

 

จากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นไม่ได้ส่งผลต่อรถกระบะเท่านั้น แต่ส่งผลต่อรถจดทะเบียนใหม่ในภาพรวมทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะภาคอีสานเท่านั้น จากกราฟที่ 2 แสดงให้เห็นว่าภาพรวมของรถจดทะเบียนใหม่ในภาพอีสานเริ่มมียอดจดทะเบียนใหม่ต่ำลงตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจดทะเบียนใหม่รถกระบะนั้นลดลงหนักกว่ารถประเภทอื่น และฟื้นตัวช้ากว่ารถประเภทอื่นเช่นกัน โดยคาดว่าจะคงเป็นแบบนี้ไปจนถึงช่วงปีหน้า แต่ทั้งนี้ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 0.25% และคาดว่าในช่วงต้นปีหน้าจะมีการปรับลดอีครั้งหนึ่ง จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve System: FED) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ 0.25% หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนกันยามีการปรับลดรอบแรก 0.5% และปัจจัยอีกส่วนหนึ่งคือการที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อนโยบายของไทยจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม

กราฟที่ 2 สัดส่วนการเปลี่ยนแปลการจัดทะเบียนรถใหม่ในภาคอีสาน

ที่มา: กรมการขนส่งทางบก

 

จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวไปในข้างต้น บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด กับความท้าทายในปี 2567 นี้ ในด้านของรายได้บริษัทนั้นคาดว่าจะมีรายได้รวมพอๆกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากกราฟที่ 3 เมื่อเทียบจำนวนรถกระบะจดทะเบียนใหม่ในภาคอีสานเทียบกับปีก่อนหน้าแล้วนั้นยังคงมีการปรับตัวลดลงมากขึ้น อีกทั้งในด้านของคู่แข่งก็ยังคงมีความท้าทายใหม่อย่าง Toyota Champ ที่ทำให้กลุ่มคนที่ทำธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในราคาที่มีความย่อมเยามากขึ้น แต่ทั้งนี้แม้จะมีความท้าทายใหม่ลูกค้าเก่าของโค้วยู่ฮะที่เชื่อมั่นในแบรนด์อีซูซุก็ยังคงอยู่ไม่ได้จากไปไหน จากการที่โค้วยู่ฮะ และอีซูซุสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคที่ใช้ระกระบะมานานหลายทศวรรษ ไม่เพียงแค่ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อรถกระบะไปเพื่อใช้ในด้านการขนของหรือการทำธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะมากกว่ารถเก๋งหรือรถในรูปแบบอื่นๆเพื่อนำมาใช้ในครัวเรือนเช่นกัน อีกทั้งคาดว่าในปีหน้าอาจจะมีแนวโน้มการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้หันมาจับจ่ายใช้สอย และธนาคารให้มีการปรับเกณฑ์ในการปล่อยกู้ได้ดีขึ้นมากกว่าในปีนี้


กราฟที่ 3 จำนวนรถจดทะเบียนใหม่ในภาคอีสานปี 2562 – 2567

ที่มา: กรมการขนส่งทางบก

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top