SHARP ADMIN

ขอนแก่น แดนไดโนเสาร์ Khon Kaen Geopark ปล่อยกางเกงลายใหม่ “กางเกงอุทยานธรณีขอนแก่น” ส่งเสริมอัตลักษณ์ทางธรณีวิทยา

มาแล้วจ้า “กางเกงอุทยานธรณีขอนแก่น” เชิญชวนให้หาไว้สวมใส่ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ทางธรณีวิทยาในพื้นที่อุทยานธรณีขอนแก่น ดีไซน์สวยเก๋ ไม่เหมือนใคร มีให้เลือก 2 ลาย ได้แก่ Geo-Rock สีน้ำตาล-ส้ม Fossilla สีน้ำตาลและฟ้าพาสเทล กางเกงผ้าไหมอิตาลี เอวยางยืด Free Size มีกระเป๋า 2 ข้าง ราคาตัวละ 200 บาท ค่าส่งเริ่มต้น 50 บาท (1-2 ตัว) สามารถสั่งซื้อผ่าน inbox ของเพจนี้ได้เลยจ้า คลิก การโอนเงินค่ากางเกงและค่าส่ง กรุณาโอนผ่านบัญชี “กองทุนกิจกรรมอุทยานธรณีขอนแก่น” KTB ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 664-1-16176-5 (รายได้หลักหักค่าใช้จ่าย ใช้จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในพื้นที่อุทยานธรณีีขอนแก่น) ปล : สถานที่วางจำหน่าย (เริ่มวันที่ 9 ต.ค.67) จำนวนจำกัด  อบจ.ขอนแก่น (อาคารสำนักช่าง) ถ.หน้าเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น  ร้านเฮือนภูเวียง (ข้างโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม) อ.ภูเวียง

พามาเบิ่ง อีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุด แม้เกษียณก็ยังต้องทำงาน?

พามาเบิ่ง อีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุด แม้เกษียณก็ยังต้องทำงาน? . “สถานการณ์แรงงานนอกระบบในปี 2566 ประมาณครึ่งหนึ่งทำงานในภาคเกษตรกรรม  และลูกจ้างที่เป็นแรงงานนอกระบบได้รับค่าจ้างตำกว่าแรงงานในระบบ” ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำปี 2566 เปิดเผยให้เห็น ถึงภาพรวมว่าแรงงานในไทยทั้งหมดกว่า  40.1 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบจำนวน 21.0 ล้านคน (ร้อยละ 52.3) ซึ่งมากกว่าแรงงานในระบบที่มีจำนวน 19.1 ลานคน (ร้อยละ 47.7) โดยครึ่งหนึ่งของแรงงานนอกระบบอยในชวง 40-59 ปี และที่น่าสนใจคือ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ยังทำงานอยู่ประมาณ 5.1 ล้านคนนั้น เป็นแรงงานนอกระบบมากถึง 4.4 ล้านคน แรงงานนอกระบบของทั้งประเทศ กว่าร้อยละ 55.4 ทำงานอยู่ ในภาคเกษตรกรรม โดยมีชั่วโมงทำงานเฉลี่ยต่อสปดาห์ของแรงงานนอกระบบมีแนวโนมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  . หากดูตัวเลขรายภูมิภาค จะพบว่าแรงงาน 40.1 ล้านคน ภาคอีสานมีแรงงานรวมเป็นรองแค่ภาคกลางเท่านั้น ซึ่งในจำนวนแรงงานของภาคกลางก็เป็นคนที่ย้ายภูมิลำเนาเพื่อมาทำงาน โดยยังมีคนจากภาคอีสานมากที่สุด เช่นกัน โดยเทียบจำนวนเป็นสัดส่วนต่อแรงงานทั้งประเทศได้ ดังนี้ ภาคกลาง 13,208,476 คน (32.9%) อีสาน 9,712,273 คน (24.2%) เหนือ 6,221,813 คน (15.5%) กทม 5,652,257 คน (14.1%) ใต้ 5,296,507 คน (13.2%) . และเมื่อเจาะลึกตัวเลข จำนวนแรงงานในตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 9,712,273 คน โดยมีแรงงานในระบบ 2,290,872 คน แต่กลับมีแรงงานนอกระบบสูงถึง 7,421,401 คน จะพบว่าภาคอีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุดอันดับ 1 ของประเทศ โดยเมื่อนำมาคิดสัดส่วนแรงงานนอกระบบในแต่ละภูมิภาคเทียบกับจำนวนแรงงานนอกระบบทั้งประเทศที่ 20,957,666 คน จะได้ ดังนี้ อีสาน 7,421,401 คน (35.4%) กลาง 4,918,196 คน (23.5%) เหนือ 4,295,682 คน (20.5%) ใต้ 2,937,453 คน (14.0%) กทม. 1,384,934 คน (6.6%) ยิ่งไปกว่านั้น หากเจาะลึกลงไปในช่วงอายุของแรงงานนอกระบบในภาคอีสาน ทั้ง 7,421,401 คน จะยิ่งพบข้อมูลกว่า 22.5% หรือ มากกว่า 1 ใน 5 ของแรงงานนอกระบบในภาคอีสาน เป็นแรงงานสูงวัยที่มีอายุตั้ง 60 …

พามาเบิ่ง อีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุด แม้เกษียณก็ยังต้องทำงาน? อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง : อัตราการเกิดอาชญากรรมทางร่างกายของภาคอีสาน

ชวนมาเบิ่ง : อัตราการเกิดอาชญากรรมทางร่างกายของภาคอีสาน อาชญากรรมทางร่างกาย นับว่าเป็นความผิดรุนแรงที่สร้างความเดือดร้อน ความทุกข์ ให้กับเหยื่อรวมถึงคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางกายและทางใจ จึงส่งผลให้การกระทำดังกล่าวถูกจัดอยู่ในการกระทำผิดร้ายแรง ที่มีไม่อยากให้มีการก่อคดีในลักษณะนี้กับตนเองหรือคนใกล้ตัว   โดยสถิติการก่ออาชญากรรมสามารถแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมได้หลายอย่าง เช่น ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาด้านโครงสร้างทางสังคม ปัญหายาเสพติด ปัญหาด้านการขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานเป็นต้น   ในวันนี้เราสิพามาเบิ่งว่าที่ไหนบ้างในภาคอีสานที่มีสถิติการก่ออาชญากรรมทางร่างกายมากที่สุดโดยใช้ข้อมูลจากการจับกุมผู้ต้องหาในคดีความผิดเกี่ยวกับ ชีวิต ร่างกาย และเพศของแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน ว่าในประชากร 100,000 คน จะมีการเกิดอาชญากรรมทางร่างกายกี่ครั้ง   จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2565 จะพบว่าภายในภาคอีสานมีอัตราการเกิดอาชญากรรมทางร่างกาย 19.3 ที่ลดลงจากปีก่อนหน้า 1.7% นับว่าน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆของประเทศ โดยอัตราการเกิดอาชญากรรมของทั้งประเทศจะอยู่ที่ 26.98 มากที่สุดที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่อัตราการเกิดอาชญากรรมอยู่ที่ 43.4 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 10.6%   เมื่อเจาะลึกเข้ามาดูข้อมูลของจังหวัดในภาคอีสานจะพบว่าจังหวัดที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมทางร่างกายมากที่สุดคือ จังหวัดมุกดาหาร ที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมอยู่ที่ 33.3 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 14.8% ตามด้วยจังหวัดขอนแก่น 25 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 14.1% และจังหวัดที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมทางร่างกายน้อยที่สุดในภาคอีสานคือจังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมทางร่างกายแค่ 9.3 ลดลงจากปีก่อนหน้า 55.6% ตามด้วยจังหวัดสกลนคร 11.7 ลดลงจากปีก่อนหน้า 27.5% **** ข้อมูลสถิติคดีอาญาความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ ประกอบด้วยคดีเกี่ยวกับ การฆ่าผู้อื่น, ทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่า, ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนกระทำชำเรา และ อื่นๆ

เมื่อรายได้ต่อหัวของคนอีสานเพิ่มขึ้น 1 บาท ปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้น 8 ตัน

คำเตือน: บทความนี้เป็นการศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเท่านั้น บนสมมติฐานที่ว่า “หากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลต่อการบริโภคที่มากขึ้น จะส่งผลต่อปริมาณขยะมูลฝอยที่เพิ่มขึ้น” ลดปริมาณ “ขยะอาหาร” เป็นเป้าหมายโลก การลดขยะอาหารเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ซึ่ง UN ได้ตั้งเป้า ให้ในปี ค.ศ. 2030 ขยะอาหารที่เกิดจากการจำหน่ายและการบริโภคทั่วโลกต้องลดลง 50% ฝรั่งเศส ออกกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านขยะอาหาร สหรัฐอเมริกา เน้นมาตรการสร้างแรงจูงใจในการลดขยะอาหาร มากกว่าการลงโทษ เกาหลีใต้ ให้ความสำคัญกับการลด ปริมาณขยะอาหารในภาคครัวเรือนด้วยเทคโนโลยี สำหรับประเทศไทย ค่านิยม “เหลือ…ดีกว่าขาด” ทำให้อาหารส่วนเกินจำนวนมาก กลายเป็นขยะอาหาร แล้วส่วนใหญ่ได้รับการจัดการอย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา ขยะอาหารของไทยมีมาก และยังจัดการไม่ดีพอ ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าในปี 2560 มีขยะอาหารคิดเป็นร้อยละ 64 ของปริมาณทั้งหมด หรือ 254 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แต่ไทยมีการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์น้อยมาก เนื่องจากเทศบาลส่วนมากไม่มีการแยกขยะ และในส่วนของ กทม. สามารถรีไซเคิลขยะอาหารได้เพียง 2 % เท่านั้น ISAN Insight and Outlook สิ พามาเบิ่ง สถานการณ์ขยะในภาคอีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน ถือเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุด คิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ ซึ่งย่อมตามมาด้วยการบริโภคสูงที่สุดในประเทศเช่นกัน ขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจตั้งแต่ในระดับประเทศ จนไปถึงระดับจังหวัด แสดงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้น แต่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ส่งผลกระทบในเชิงลบภายนอกเช่นกัน โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ปริมาณขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นจากบรรจุภัณฑ์ จากการบริโภคที่มากขึ้น โดยปัญหาขยะมูลฝอย เป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทย จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษรายงานว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีปริมาณขยะเกิดขึ้น 26.95 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 5% เฉพาะในภาคอีสานมีปริมาณขยะตลอดทั้งปี 6.52 ล้านตัน หรือ 24% ของทั้งประเทศ ซึ่งปริมาณขยะที่มากจะทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น การสะสมของเชื้อโรคหรือต้นทุนในการกำจัดที่เพิ่มขึ้น โดยงานศึกษานี้ต้องการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวและปัจจัยอื่น ๆ ว่ามีผลต่อปริมาณขยะในแต่ละจังหวัดในภาคอีสานอย่างไร  การศึกษาครั้งนี้ได้อ้างอิงวิธีการศึกษาและการคัดเลือกตัวแปรจากงานศึกษาของ Blagoeva (2023) ที่ได้ศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ต่อหัวและสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม และปริมาณขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลในบัลแกเรียเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป การศึกษาครั้งนี้วิเคราะห์ว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและสังคมในบัลแกเรียและประเทศอื่นๆ ส่งผลต่อปริมาณขยะมูลฝอย  โดยในการศึกษาครั้งนี้ต้องการที่จะเจาะจงในพื้นที่ภาคอีสานของประเทศไทย โดยจะใช้แบบจำลองถดถอยเชิงพหุคูณหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยตัวแปรอิสระที่ใช้ศึกษา ได้แก่  ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวรายจังหวัด(GPP per capita) เฉลี่ย 10 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2565 ของทุกจังหวัดในภาคอีสาน (ที่มา: สภาพัฒน์) จำนวนประชากรแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน ปี 2565 (ที่มา: สภาพัฒน์) ดัชนีผสม มิติสิ่งแวดล้อม …

เมื่อรายได้ต่อหัวของคนอีสานเพิ่มขึ้น 1 บาท ปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้น 8 ตัน อ่านเพิ่มเติม »

5 กุญแจไขรหัสความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” : เจาะลึกเบื้องหลังความประทับใจ กับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หนังไทยวิถีไทบ้านอีสาน 700 ล้าน และ 7 รางวัลสุพรรณหงส์

สัปเหร่อ (อังกฤษ: The Undertaker) เป็นภาพยนตร์ไทยภาษาอีสานแนวตลก ดราม่า สยองขวัญเหนือธรรมชาติ ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2566 และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ภาคแยกในจักรวาลไทบ้าน เดอะซีรีส์ กำกับโดยธิติ ศรีนวล นำแสดงโดย ชาติชาย ชินศรี นฤพล ใยอิ้ม อัจฉริยะ ศรีทา สุธิดา บัวติก ภาพยนตร์ได้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของความเชื่อพื้นถิ่น วิถีชีวิตของอาชีพสัปเหร่อและพิธีกรรมเกี่ยวกับคนตายที่สัมพันธ์กับคติธรรมเรื่องของการปล่อยวาง ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนของภาพยนตร์ไทยท้องถิ่นอีสาน[1] เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทยในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ภาพยนตร์ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ที่เข้าฉายเมื่อปี พ.ศ. 2557[2] รวมถึงเป็นหนึ่งในสิบอันดับภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินสูงสุด ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากบริษัทผู้สร้างอิสระเรื่องเดียวที่ติดอันดับดังกล่าว ทำเงินเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ 244.95 ล้านบาท (ทำเงินรวมทั่วประเทศ 729.6 ล้านบาท) จากทุนสร้าง 15 ล้านบาท เป็นภาพยนตร์จากจักรวาลไทบ้านที่ทำเงินเปิดตัวได้สูงสุดและทำรายได้สูงสุด[3] ภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมชาวไทยเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อหาที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยที่ผูกพันกับความตายได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ลองมาวิเคราะห์กันว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นและประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ “สัปเหร่อ” คว้าไป 7 รางวัล #สุพรรณหงส์ครั้งที่32[4]   ได้แก่ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่ ธิติ ศรีนวล จาก สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ ชาติชาย ชินศรี จาก สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ 🏆 รางวัลภาพยนตร์ไทยรายได้สูงสุดประจำปี 2566 ได้แก่ สัปเหร่อ 🏆 รางวัลสุพรรณหงส์ เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ เพลงยื้อ – ปรีชา ปัดภัย จาก สัปเหร่อ 🏆รางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม ได้แก่ สัปเหร่อ

อสังหาฯ อีสาน ลงทุนเพิ่ม แต่ยอดขายไม่พุ่ง คนอยากมีบ้าน ติดกับดักหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยสูง

REIC เผย อสังหาอีสานปี 67 คาดฟื้นตัว  ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)ของประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยมีจังหวัดหลักที่มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน 5จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และมหาสารคาม เราจะพบว่าการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงเวลานี้จะช่วยให้เรานั้นเห็นภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคอีสาน และสามารถคาดการณ์แนวโน้มในปี 2567 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพรวมของ ธุรกิจอสังหา(ในอีสาน) เศรษฐกิจในภาพรวมที่ชะลอตัวลง และปัจจัยลบต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะของตลาดที่อยู่ อาศัยของประเทศไทย ทั้งด้านอุปสงค์ที่มีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง และในด้านอุปทานที่มีการชะลอตัวลง ของอุปทานตามการชะลอตัวของอุปสงค์ จึงส่งผลต่อธุรกิจภาค อสังหาริมทรัพย์ ในภาคอีสานเป็นอย่างมาก 1.1) สถานการณ์ด้านอุปทานที่อยู่อาศัย(ไตรมาสที่1 ปี 2567) ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ รวมจำนวน 141 โครงการ จำนวน 16,362 หน่วย โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินจำนวน 8 โครงการ จำนวน 803 หน่วย โดยมีสัดส่วนร้อยละ 4.9 ซึ่งลดลงร้อยละ 55.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกันของจำนวนโครงการ และเมื่อเปรียบจำนวนของโครงการ และหน่วยของการสร้างที่อยู่อาศัยของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็น YoY% จะพบว่ามีการลดลง 75% และ 55.3% ตามลำดับ ซึ่งสามารถสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ว่านักลงทุนนั้นยังไม่กล้าที่จะลงทุนใน ภาคอสังหาริมทรัพย์มากนัก เนื่องจากหลายปัจจัย ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของ อสังหาริมทรัพย์ ในอีสานนั้นยังแสดงทีท่าที่ชะลอตัวลงอยู่เมื่อเปรียบเทียบYoY กับปี2566 ในไตรมาสที่1 1.2) พื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 มีพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั่วประเทศประมาณ 8,878,735 ตารางเมตร ทั้งนี้ สามารถแบ่งออกเป็นพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบประมาณ 8,288,604 ตารางเมตร และอาคารชุด ประมาณ 590,131 ตารางเมตร  ในส่วนของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนพื้นที่ประมาณ 1,515,879 ตารางเมตร ที่มีการอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.1ของทั้งประเทศ ซึ่งลดลงร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว2566 ในส่วนของที่อยู่อาศัยแนวราบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง ร้อยละ 2.8 ซึ่งไม่พบพื้นที่อนุญาตก่อสร้างอาคารชุดในไตรมาสนี้ และทั่วประเทศนั้นที่อยู่อาศัยแนวราบหรือบ้านเดียว,บ้าน,แฝด มีการก่อสร้างลดลงมาเรื่อยๆตั้งแต่ปี2566 Q1 แสดงให้เห็นดังกราฟด้านล่างนี้ เมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 1 ปี 2567 นครราชสีมา มีสัดส่วนจำนวนพื้นที่ร้อยละ 4.1 ลดลงร้อยละ 17.1 ซึ่งไม่พบพื้นที่อนุญาตก่อสร้างอาคารชุดในไตรมาสนี้ และขอนแก่น มีสัดส่วนจำนวนพื้นที่ร้อยละ 2.6 …

อสังหาฯ อีสาน ลงทุนเพิ่ม แต่ยอดขายไม่พุ่ง คนอยากมีบ้าน ติดกับดักหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยสูง อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง เศรษฐีหุ้นคนอีสานที่ได้รับเงินปันผลมากกว่า 100 ล้านบาท

พามาเบิ่งเศรษฐีหุ้นคนอีสานที่ได้รับเงินปันผลมากกว่า 100 ล้านบาท..มงคล ประกิตชัยวัฒนานักลงทุนจังหวัด อุบลราชธานีหุ้นที่ถือครองมูลค่าสูงที่สุด KTC 10.0%ธุรกิจบัตรเครดิตมูลค่าเงินปันผลรวมที่ได้ 304 ล้านบาท.ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์จังหวัด บุรีรัมย์หุ้นที่ถือครองมูลค่าสูงที่สุด NER 27.3%ธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสมมูลค่าเงินปันผลรวมที่ได้ 184 ล้านบาท.ฉันทนา จิรัฐิติภัทร์นักลงทุนจังหวัด อุบลราชธานีหุ้นที่ถือครองมูลค่าสูงที่สุด KTC 4.4%ธุรกิจบัตรเครดิตมูลค่าเงินปันผลรวมที่ได้ 150 ล้านบาท.กุณฑี สุริยวนากุลผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 บริษัท Global Houseจังหวัด ร้อยเอ็ดหุ้นที่ถือครองมูลค่าสูงที่สุด GLOBAL 11.3%ธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างมูลค่าเงินปันผลรวมที่ได้ 139 ล้านบาท.เกรียงไกร สุริยวนากุลรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Global Houseจังหวัด ร้อยเอ็ดหุ้นที่ถือครองมูลค่าสูงที่สุด GLOBAL 11.1%ธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างมูลค่าเงินปันผลรวมที่ได้ 136 ล้านบาท.ฮู้บ่ว่าบุคคลทั้ง 5 คนนี้ มีมูลค่าพอร์ตหุ้นของแต่ละคน มากกว่า 1 พันล้านบาท. และ คุณ มงคล ประกิตชัยวัฒนาติดลำดับเศรษฐี ลำดับที่ 42 ของมหาเศรษฐีในประเทศไทยที่จัดอันดับโดย Forbes ปี 2023ไม่ต้องเป็นเซียนหุ้นคุณก็เริ่มเรียนรู้การลงทุนได้ งานฟรีเพื่อชาวอีสานบ้านเฮา“ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร ขอนแก่น” พบกันวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 9.00 – 16.00 น. (เริ่มลงทะเบียน เวลา 08.30 น.) โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่นลงทะเบียนสำรองที่นั่งและรับของที่ระลึกฟรีที่https://setga.page.link/3tx7.อ้างอิงจาก:– วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2566– www.set.or.thติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่https://linktr.ee/isan.insight..#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #การเงินอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เศรษฐีหุ้น #IsanWealth #เงินทองอีสาน

พามาเบิ่ง🥁งานดนตรี โคราช-ขอนแก่น🎵ปลายปีที่ห้ามพลาด

พามาเบิ่งงานดนตรีปลายปี โคราช-ขอนแก่นที่ห้ามห้ามพลาด . ปัจจุบัน เทศกาลดนตรีในไทยมีมากกว่า 20 งานต่อปี! และถ้าพูดถึงเทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดในเอเชีย ไทยจัดอยู่ใน Top 5 และยังนำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลให้กับพื้นที่ . ยุคนี้ การท่องเที่ยว ไม่ได้ไป ‘เก็บ’ เป้าหมายปลายทาง – แต่คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ สำหรับนักเดินทางมือใหม่ หลายคนออกเดินทางไปตามสถานที่ที่เป็นปลายทางยอดนิยมเพื่อ ‘เก็บ’ สถิติของตัวเอง ว่าเคยเดินทางไปที่ไหนมาแล้วบ้าง • “เศรษฐกิจเทศกาล” หรือ “Festival Economy” เครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ผ่านการจัดงานเทศกาลหลากหลายรูปแบบ เช่น งานเทศกาลดนตรี งานเทศกาลอาหาร งานเทศกาลวัฒนธรรม ซึ่งมีศักยภาพดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่น • “Festival Economy” สามารถต่อยอดไปสู่การเป็น “Festival Tourism” ได้ในอนาคตได้ เนื่องจากนักเดินทางยุคใหม่ต้องการมากกว่าแค่การเที่ยวชมสถานที่ แต่พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประสบการณ์ท้องถิ่นผ่านงานเทศกาลที่มีเอกลักษณ์ เพราะนอกจาก งานดนตรี เหล่านี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวอีสานแล้ว ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาติไทยได้จำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ โคราช เป็นจังหวัดที่มี “ผู้เยี่ยมเยือน” อันดับ 1 ของภาคอีสานตลอดมา • การจัดคอนเสิร์ตระดับโลกกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านช่องทางไหนบ้าง? 1. รายได้โดยตรงจากการจัดคอนเสิร์ต 2. ภาคการท่องเที่ยว ขนส่ง และบริการ 3. บริการทางการเงิน 4. ความร่วมมือระหว่างแบรนด์ 5. ภาพลักษณ์ของจังหวัดและประเทศ ดังนั้น สิ้นปีนี้ ใครอยากไปเก็บประสบการณ์ดนตรีที่ไหน ไปตามกันได้ที่ 8 งานนี้ หรือหากมีที่ไหนจัดอีกมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของคุณร่วมกันนะ ติดเศร้า CONCERT บอกตัวเองในวันที่เธอไม่อยู่ 3 คอนเสิร์ตที่เป็นพื้นที่เยียวยาจิตใจ จาก Wanyai และ tinn วันที่: 28 ก.ย. 67 สถานที่: อาคาร 50 ปี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น __________________________________ Knock Knock Knock : BUS 1st THAILAND FANCON TOUR KHON KAEN แฟนคอนเสิร์ตจากศิลปินน้องใหม่ชื่อดังแห่งปี “BUS” ที่มาเสิร์ฟความฟินกันถึงขอนแก่น วันที่: 29 ก.ย. 67 สถานที่: ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น __________________________________ Khao Lun …

พามาเบิ่ง🥁งานดนตรี โคราช-ขอนแก่น🎵ปลายปีที่ห้ามพลาด อ่านเพิ่มเติม »

ททท. จัดใหญ่ แสง สี เสียง ฟรี คอนเสิร์ต มหกรรมเสน่ห์ไทย “เสน่ห์อีสานม่วนซื่น” กิน เที่ยว ช้อป ณ ลาน บขส.3 ขอนแก่น

บขส.3 ขอนแก่น Zone คอนเสิร์ตมันส์อีหลี จาก 2 เวทีใหญ่ ขนทัพศิลปินมาม่วน 5 วันเต็ม พบกับ หมอลำวงประถม บันเทิงศิลป์ หมอลำใจเกินร้อยร่วมกับแอน อรดี หมอลำวงสาวน้อย เพชรบ้านแพง หมอลำวงอีสานนครศิลป์ หมอลำวงระเบียบ วาทะศิลป์ พร้อมศิลปินรุ่นใหม่มาร่วมทัพ พบกับ มีนตรา อินทิรา น้ำอ้อย สมใจรักษ์ ต้นฮัก ประธานฮ่าง ฝ้าย เมฆะ เต้ ตระกูลตอ ก๊อตซิลล่า ปิยวัฒน์ แจ๊คกี้ ณัฐวุฒิ ไข่มุก อาทิตตา ต้า ตจว คะแนน นัจนันท์ ทิดแอม โซน ธนกาญจน์ ฟุ๊กกี้ ศิริลักษณ์ ไอดิน อภินันท์ มินตรา น่านเจ้า ออย แสงศิลป์ ออมดาว เอ ณภัทร์ สายแนน โพธิ์งาม วงฮันแนว ศาล ศาลศิลป์ ไข่มุก พิชญา บิว สรรชัย วี พนมภูไท บุ๋ม กนกพร วงอ้ายมีผัวแล้ว ออยเลอร์ เป็นต้น Zone ตลาดแซ่บอีหลี เอาใจสายกินช๊อปที่รวบรวม ร้านอาหาร ของฝาก ของที่ระลึกกว่า 100 ร้านค้าในงาน ที่คัดสรรพิเศษมาสำหรับงานม่วนแบบนี้โดยเฉพาะ Zone “KhonKraft Showcase” จากอัตลักษณ์ที่โดดเด่นงาน Craft ของภาคอีสาน พร้อมร่วมสนุก กิจกรรมworkshop ที่น่าสนใจ กิจกรรม เสน่ห์ม่วนซื่น ฟรีทัวร์ พร้อมกับการลุ้นรางวัล voucher ฟรี!!! มูลค่า 1.5 ล้านบาท ที่ทำให้ลุ้นให้ตัวโก่ง ม่วนกันคักๆ ขอเชิญกันมาม่วนหลาย ให้ซื่นอกซื่นใจ กับ เสน่ห์อีสานม่วนซื่น ณ ขอนแก่น ถ่ายภาพอวดลงโซเชียล ถึงเสน่ห์บ้านเฮา ตามสไตล์คนมักม่วน เจอกัน ณ ลาน บขส. 3 จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 14:00 – 24:00 น. งานนี้ขอย้ำเลยว่า ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เสน่ห์อีสานม่วนซื่นที่ขอนแก่น #แต่ละมื่อแต่ละเดย์ จะม่วนซื่นแค่ไหน พบกันที่ บขส.3 วันที่  25-29 กันยายน 2567 นี้ …

ททท. จัดใหญ่ แสง สี เสียง ฟรี คอนเสิร์ต มหกรรมเสน่ห์ไทย “เสน่ห์อีสานม่วนซื่น” กิน เที่ยว ช้อป ณ ลาน บขส.3 ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

วิวัฒนาการ “แชร์ลูกโซ่” อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กลโกงไส้ในเดิม ที่เพิ่มเติมรูปแบบใหม่

มีคำกล่าวไว้ว่า “คนเราเรียนรู้จากอดีต” วันนี้มาเผือกเรื่องของคนอยากรวย ว่าเราได้เรียนรู้อะไรกันจากอดีต #แชร์ลูกโซ่ ที่อ้างและแฝงตัวมาในรูป ✓การระดมทุน ✓ขายตรง ✓ออมทอง ✓ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ✓ธุรกิจท่องเที่ยว ✓Bitcoin จนมาถึง ✓StartUp ที่ระดมทุนโดย Venture Capitalists โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ เมื่อ 11 กรกฎาคม 2017   #คำเตือนโพสต์นี้มีไว้เพียงเรียกสติก่อนลงทุนเท่านั้น ปี พ.ศ.2520 “นางชม้อย ทิพย์โส” ได้ชักชวนคนนับหมื่นคน มาร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนมากกว่า 4,000 ล้านบาท เธอบอกว่าให้มาร่วมทุนบริษัทนํ้ามัน โดยจะให้ผลตอบแทนอย่างดีเป็น “รายเดือน” โดยที่ไม่มีธุรกิจนี้อยู่จริงๆ แค่มโนขึ้นมา สุดท้ายนางชม้อยกลายเป็นหัวแชร์กว่า 8,000 ล้านบาท และเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงกว่า 4,000 ล้าน โทษจำคุกกว่า 154,005 ปี ที่เรารู้จักกันดีในนาม #แชร์แม่ชม้อย =================================== ปี พ.ศ.2527 “นายเอกยุทธ อัญชันบุตร” เจ้าของบริษัท ชาร์เตอร์ อินเวสต์เมนท์ จำกัด ชักชวนให้คนนำเงินไปลงทุนซื้อสินค้าโภคภัณฑ์และเงินตราต่างประเทศมาเก็งกำไร ให้ผลตอบแทนถึงเดือนละ 9% สูงกว่าแชร์แม่ชม้อยถึง 2.5 % ทำให้มีคนแห่นำเงินมาลงทุน “ทำธุรกิจ” กับนายเอกยุทธจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นนายทหารกับนักการเมือง ก่อนที่จะกลายเป็นคดีดัง #แชร์ชาร์เตอร์ และนายเอกยุทธหนีคดีไปต่างประเทศในปี พ.ศ.2528 และกลับมา พ.ศ.2547 หลังจากคดีหมดอายุความ และถูกฆ่าในปี พ.ศ.2556 =================================== ปลายปี พ.ศ 2529 พรชัย สิงหเสมานนท์ เจ้าของหมู่บ้านเสมาฟ้าคราม โครงการบ้านจัดสรรราคาถูก 700 ยูนิต บนเนื้อที่ 320 ไร่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จัดระดมเงินทุนนอกระบบขึ้น หลังธนาคารระงับการให้สินเชื่อกับโครงการ โดยผู้ลงทุนต้อง “ลงทุน” 12,000 บาท รอ 2 ปี ได้เงิน 36,000 บาท การได้เงินไม่ใช่ได้ก้อนเดียว…ครั้งเดียว ลงทุนไปแล้วทุกเดือน จะได้ผลตอบแทนเดือนละ 1,500 บาท จนครบ 24 เดือน คิดเป็นผลกำไร 12.5% ต่อเดือน หรือ 150% ต่อปี เท่ากับว่า จ่ายเงิน 12,000 บาท รอ 2 ปี จะได้กำไรถึง 2 เท่าตัวคือ 24,000 บาท แต่ต่อมาเพียง 2 …

วิวัฒนาการ “แชร์ลูกโซ่” อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กลโกงไส้ในเดิม ที่เพิ่มเติมรูปแบบใหม่ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top