ไทม์ไลน์ข่าว: ธนาคารอายัดบัญชีมั่วและมาตรการสกัดกั้นภัยทางการเงิน
มาตรการจำกัดวงเงินโอนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวข้องโดยตรงกับข่าวการอายัดบัญชีมั่ว เนื่องจากทั้งสองเรื่องเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของภาครัฐและสถาบันการเงินในการปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน โดยเฉพาะ “บัญชีม้า” ที่ใช้ในการหลอกลวงประชาชน
จุดเริ่มต้น: มาตรการสกัดกั้นบัญชีม้า
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ที่ใช้ “บัญชีม้า” เป็นเครื่องมือในการรับและโอนเงินเพื่อฟอกเงิน ซึ่งนำไปสู่การออกกฎหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง
- มีนาคม 2566: มีการประกาศใช้ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 [1] โดยมีสาระสำคัญคือ การให้สถาบันการเงินสามารถระงับการทำธุรกรรมหรืออายัดบัญชีได้ทันที หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- ตุลาคม 2566: ธปท. ร่วมกับสถาบันการเงิน จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (ศปปง.) หรือที่เรียกว่าศูนย์ AOC (Anti-Online Scam Operation Center) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานระหว่างธนาคารและตำรวจ
ไทม์ไลน์เหตุการณ์สำคัญ
- มกราคม 2567: เริ่มมีประชาชนร้องเรียนมากขึ้นว่าบัญชีธนาคารถูกอายัดอย่างไม่เป็นธรรม โดยส่วนใหญ่เป็นกรณีที่โอนเงินหรือรับโอนเงินจากบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แม้ว่าตัวเองจะไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็ตาม [2]
- เมษายน 2567: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาชี้แจงว่า ธนาคารมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอายัดบัญชีที่มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ และยืนยันว่าการอายัดไม่ได้เป็นไปอย่าง “มั่วซั่ว” แต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดไว้ [3] อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนยังคงยืนยันว่ากระบวนการไม่โปร่งใสและขาดการตรวจสอบที่รัดกุมก่อนจะอายัด
- พฤษภาคม 2568: ปัญหาลุกลามจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างบนโลกออนไลน์ เมื่อมีข่าวว่ามีประชาชนหลายรายที่ได้รับผลกระทบจากการที่ บัญชีธนาคารถูกอายัดจาก “บัญชีม้า” ที่เป็นเครือข่ายยาว โดยอาจมีการโอนเงินที่เชื่อมโยงกันเป็นทอด ๆ ทำให้บัญชีของผู้บริสุทธิ์ถูกอายัดไปด้วย ทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็น [4]
- สิงหาคม 2568:
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการใหม่เพื่อป้องกันความเสียหายจากการถูกหลอกให้โอนเงิน โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์จำกัดวงเงินโอนเงินสำหรับ “กลุ่มเสี่ยง” ซึ่งได้แก่ กลุ่มลูกค้าใหม่ หรือบัญชีที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยไว้ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน [5]
- มาตรการดังกล่าวไม่ได้มีผลบังคับใช้กับทุกคน แต่จะพิจารณาจากพฤติกรรมการทำธุรกรรมของแต่ละบุคคลและแบ่งลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ S, M, และ L ตามความเสี่ยง [6]
 
 
- กันยายน 2568:
- เกิดกระแสความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนที่กลัวว่าบัญชีของตนจะถูกอายัดไปด้วย จึงทำให้มีรายงานข่าวว่า ประชาชนจำนวนมากแห่ไปถอนเงินสดออกจากธนาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีของตนได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ทำให้ธนาคารบางแห่งมีปัญหาเงินขาดมือ [7]
 
สถานการณ์ปัจจุบัน: ผลกระทบที่ลุกลามและข้อเรียกร้อง
- ความเดือดร้อนของประชาชน: ปัญหาการอายัดบัญชีลุกลามจนเป็นความเดือดร้อนในวงกว้างสำหรับประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายพันราย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และกลุ่มที่รับจ้างโอนเงิน เช่น รับโอนเงินจากผู้สูงอายุ หรือรับโอนเงินจากการขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกอายัดบัญชีโดยไม่ทันตั้งตัว
- ความชัดเจนของมาตรการ: แม้ว่ารัฐบาลและธนาคารจะยืนยันว่ามาตรการนี้มีความจำเป็นเพื่อป้องกันอาชญากรรม แต่กระบวนการที่ขาดความรัดกุมและขาดการสื่อสารกับผู้ใช้งานอย่างทันท่วงที ทำให้มาตรการที่หวังจะแก้ปัญหา กลับสร้างปัญหาใหม่ให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์
- อัพเดตล่าสุด 13 กันยายน 2568 นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า จากกรณีที่มีข่าวการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้านั้น บัญชีที่ได้รับผลกระทบจะเป็นบัญชีที่อยู่ในเส้นทางเงินที่รับโอนจากบัญชีม้าเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า โดยขยายขอบเขตการติดตามเส้นทางเงินให้กว้างขึ้น เพื่อกักเงินที่โยงกับบัญชีม้ามาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด จึงทำให้การระงับบัญชีที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากขึ้น [8]
 จากความกังวลที่เกิดขึ้น ธปท. ได้หารือกับ ศปอท. และ ธพ. แล้ว และเห็นชอบร่วมกันเบื้องต้นว่าจะเร่งปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต โดยจะมีการหารือร่วมกันพรุ่งนี้ (14 กันยายน) และจะเริ่มดำเนินการได้ทันที
สำหรับประชาชนสุจริตที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา ท่านสามารถติดต่อยกเลิกการระงับ โดยติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2 ได้ หากไม่สามารถติดต่อ AOC ได้ สามารถยื่นเรื่องผ่านเว็บไซต์ ธปท. คลิกที่นี่ เพื่อให้ ธปท. ช่วยประสานงานให้ท่านได้อีกช่องทางหนึ่ง
จากข่าวข้างต้นที่ประชาชนแห่ไปถอนเงินสดออกจากธนาคารเนื่องจากความกังวลเรื่องการอายัดบัญชี ถือเป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบอย่างมากทั้งในระดับจุลภาค (ต่อบุคคลและธนาคาร) และระดับมหภาค (ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม)
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากข่าวข้างต้น
- ความน่าเชื่อถือของระบบสถาบันการเงินลดลง:
- ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัยของเงินฝากในบัญชีธนาคารของตนเอง เพราะรู้สึกว่าเงินของตัวเองไม่ได้อยู่ในความควบคุม และอาจถูกอายัดได้ทุกเมื่อโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
- ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับลูกค้า ลูกค้าหลายรายเริ่มมองว่าธนาคารไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาได้ และกระบวนการแก้ไขปัญหาหลังการอายัดก็ล่าช้าและยุ่งยาก
 
- ปัญหาด้านสภาพคล่องของธนาคาร:
- การที่ประชาชนแห่ไปถอนเงินสดพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ธนาคารต้องเผชิญกับปัญหาด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) โดยเฉพาะในสาขาที่มีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก และต้องเร่งจัดหาเงินสดสำรองมาเติม
- แม้ธนาคารส่วนใหญ่จะมีเงินสดสำรองเพียงพอ แต่หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นและลุกลามไปยังธนาคารหลายแห่ง อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกในระบบการเงินทั้งระบบได้
 
- ผลกระทบต่อการค้าและการดำเนินธุรกิจ:
- พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และผู้ประกอบการรายย่อยหลายรายได้รับผลกระทบจากการที่บัญชีถูกอายัด ทำให้ไม่สามารถรับโอนเงินหรือจ่ายค่าสินค้าได้
- ความกังวลนี้ยังทำให้บางร้านค้าเริ่มปฏิเสธการรับโอนเงิน และหันมาเน้นการรับเงินสดแทน ซึ่งเป็นการย้อนกลับไปสู่ระบบการเงินแบบเก่า และลดประสิทธิภาพของการทำธุรกรรมในยุคดิจิทัล
 
วิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจหากคนแห่ถอนเงินพร้อมกันเยอะๆ (Bank Run)
หากสถานการณ์ “แห่ถอนเงิน” หรือที่เรียกว่า “Bank Run” เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและพร้อมเพรียงกันในหลายพื้นที่ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงและเป็นลูกโซ่ดังนี้:
- วิกฤตสภาพคล่องของธนาคาร:
- เมื่อธนาคารไม่สามารถจัดหาเงินสดมาให้ลูกค้าถอนได้เพียงพอตามความต้องการ จะส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกที่มากขึ้น ซึ่งอาจลุกลามไปสู่การถอนเงินจากธนาคารอื่น ๆ ทั่วทั้งประเทศ
- ธนาคารอาจต้องจำกัดวงเงินการถอนเงิน หรืออาจต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งจะทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเงินอย่างสิ้นเชิง
 
- การหยุดชะงักของระบบการปล่อยสินเชื่อ:
- เมื่อธนาคารต้องเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่อง จะไม่มีเงินทุนเหลือพอที่จะปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับประชาชนหรือธุรกิจได้
- ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่ต้องพึ่งพาเงินกู้จากธนาคารเพื่อการดำเนินงานจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาจนำไปสู่การปิดกิจการ การเลิกจ้างงาน และการหดตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
 
- ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค:
- การหดตัวของ GDP: เมื่อระบบการเงินไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ การลงทุนและการบริโภคจะหยุดชะงักอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หดตัวอย่างรุนแรง
- การว่างงานเพิ่มขึ้น: ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจะลดขนาดหรือปิดตัวลง ทำให้มีการเลิกจ้างงานจำนวนมาก ส่งผลให้คนตกงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ภาวะเงินฝืด: เมื่อประชาชนไม่มั่นใจในเงินฝากและระบบการเงิน พวกเขาจะเลือกเก็บเงินสดไว้กับตัวและลดการใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจซบเซา และอาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้
 
- การแทรกแซงของธนาคารกลาง:
- ในสถานการณ์เช่นนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องเข้ามาแทรกแซงโดยด่วน โดยอาจใช้มาตรการฉุกเฉิน เช่น การจัดหาสภาพคล่องฉุกเฉิน (Emergency Liquidity Assistance) ให้กับธนาคารพาณิชย์ หรือการประกาศมาตรการรับประกันเงินฝากทั้งหมด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา
 
โดยสรุปแล้ว แม้ว่าเหตุการณ์การแห่ถอนเงินจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ในตอนนี้ แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญถึงความเปราะบางของความเชื่อมั่นในระบบการเงิน และหากไม่ได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุอย่างรวดเร็ว ก็อาจนำไปสู่วิกฤตที่รุนแรงได้ในอนาคต
แหล่งอ้างอิง
- [1]: ราชกิจจานุเบกษา, พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566, https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/13019.pdf
- [2]: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, รายงานการร้องเรียนกรณีบัญชีธนาคารถูกอายัดโดยไม่เป็นธรรม, เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2567
- [3]: ธนาคารแห่งประเทศไทย, ข่าวแจก: ธปท.ชี้แจงการอายัดบัญชีธนาคารตามกฎหมายใหม่, https://www.bot.or.th/th/news-and-publications/news/news2567/news_256700.html
- [4]: สรุปประเด็นร้อนในโลกออนไลน์, บทวิเคราะห์ปัญหาบัญชีม้าและผลกระทบต่อบัญชีผู้บริสุทธิ์, เดือนพฤษภาคม 2568
- [5]: กรุงเทพธุรกิจ, ‘แบงก์ชาติ’ สั่งแบงก์คุมเข้ม ‘โอนเงิน’ จำกัดกลุ่มเสี่ยง โอนไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน, https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1195003
- [6]: MGR Online, แบงก์ชาติแจง! มาตรการจำกัดโอนเงินไม่ใช่ทุกกรณี ย้ำป้องกันมิจฉาชีพ-ยึดตามพฤติกรรมการใช้จ่าย, https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000079049
- [7]: มุมข่าว, รวมเพจดังจวกแรง! ประชาชนโดนอายัดบัญชีมั่ว แห่ถอนเงินสด-แม่ค้าไม่รับโอน รัฐยังเงียบ, https://today.line.me/th/v3/article/NvwYM6M
- [8]: ศปอท. ธปท. และธนาคารพาณิชย์ เร่งปรับแนวทางอายัดบัญชี, https://www.bot.or.th/th/news-and-media/news/news-20250913.html


 
								