Gripen E/F ดีลฟ้าผ่า สะเทือนสมดุลอำนาจและการทูตในภูมิภาค
บทวิเคราะห์: Gripen E/F ดีลฟ้าผ่า สะเทือนสมดุลอำนาจและการทูตในภูมิภาค บทนำ ท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนระอุ ประเทศไทยได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการความมั่นคงและการทูตในอาเซียน เมื่อกองทัพอากาศไทย นำโดย พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้ลงนามในสัญญาจัดหาเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ Gripen E/F จำนวน 4 เครื่องแรกจากประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา [1] แต่ดีลครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การซื้อขายยุทโธปกรณ์ แต่ยังพ่วงมาด้วยข้อตกลงการลงทุนด้าน R&D และการถ่ายทอดเทคโนโลยี AI ขั้นสูงจากบริษัท Saab ซึ่งเป็นผู้ผลิต และท่าทีทางการทูตที่แข็งกร้าวร่วมกับสวีเดนต่อกรณีพิพาทชายแดนกับกัมพูชา ทำให้ข้อตกลงนี้กลายเป็นหมุดหมายใหม่ที่สะท้อนยุทธศาสตร์ “การทูตนำการทหาร” ของไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน มากกว่าเครื่องบินรบ: ดีลชดเชยทางเศรษฐกิจและการลงทุนแห่งอนาคต การจัดหา Gripen E/F ในเฟสแรกจำนวน 4 เครื่อง (เครื่องนั่งเดี่ยว 3 เครื่อง และสองที่นั่ง 1 เครื่อง) มีมูลค่าประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท [6] ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดหาทั้งหมด 12 เครื่อง เพื่อทดแทนฝูงบิน F-16 ที่กำลังจะปลดประจำการ [5] แต่หัวใจสำคัญของข้อตกลงนี้ที่ทำให้แตกต่างจากการจัดซื้อในอดีต คือ นโยบายชดเชยทางเศรษฐกิจ (Defence Offset Policy) ที่ไทยจะได้รับประโยชน์กลับคืนสู่ประเทศมูลค่ามหาศาล นาย Micael Johansson ประธานและ CEO ของ Saab กล่าวว่า “เรายินดีต้อนรับประเทศไทยในฐานะลูกค้าล่าสุดของ Gripen E/F ไทยเป็นผู้ใช้งาน Gripen ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว และคุ้นเคยกับจุดแข็งที่ Gripen มอบให้กับกองทัพไทยเป็นอย่างดี” [6] คำกล่าวนี้สะท้อนความร่วมมือที่ลึกซึ้ง โดยข้อตกลง Offset Policy ที่ลงนามควบคู่กันไปนั้น ระบุชัดเจนถึงการที่ Saab และหน่วยงานสวีเดนจะเข้ามาลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีในประเทศไทย [4] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง: การวิจัยและพัฒนาร่วม (R&D): Saab จะตั้งศูนย์ R&D ในประเทศไทย เพื่อร่วมพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการบินและอวกาศ ซึ่งรวมถึง ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นหัวใจของระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์และระบบช่วยนักบินใน Gripen E/F การลงทุนในภาคอุตสาหกรรม: ข้อตกลงยังครอบคลุมถึงการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมไซเบอร์และการบินของไทย ซึ่งจะช่วยสร้างงานทักษะสูงและยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ [4] มิติใหม่ทางการทูต: เมื่อสวีเดนหนุนไทยในเวทีโลก นอกเหนือจากความร่วมมือทางทหารและเศรษฐกิจ การเยือนสวีเดนของคณะนายทหารระดับสูงและ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้สร้างมิติใหม่ทางการทูตที่น่าจับตาอย่างยิ่ง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีรายงานข่าวว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้พลเรือนเป็น […]
Gripen E/F ดีลฟ้าผ่า สะเทือนสมดุลอำนาจและการทูตในภูมิภาค อ่านเพิ่มเติม »