Nanthawan Laithong

พาจอบเบิ่ง “อาณาจักรฟาร์มสุกร” เจ้าใหญ่แห่งภาคอีสาน

จุดเริ่มต้นของ “อาร์เอ็มซี ฟาร์ม” บริษัท อาร์เอ็มซี ฟาร์ม จำกัด มีผู้ร่วมกันก่อตั้งอยู่ 2 ท่าน คือ คุณมงคล และคุณชูศักดิ์ สองพี่น้องตระกูลรัตนวนิชย์วิโรจน์ โดยเริ่มแรกทำธุรกิจจากการขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเกษตร ภายใต้ชื่อร้านเจริญกิจเกษตรภัณฑ์ หลังจากนั้นได้เริ่มต้นธุรกิจ ฟาร์มหมู มีพ่อพันธุ์เพียง 4 ตัว และแม่พันธุ์ 60 ตัว ซึ่งฟาร์มได้มีการพัฒนาสายพันธุ์สุกรเอง จนเกิดผลผลิตในปริมาณที่มากพอ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในแถบภาคอีสานได้ ทั้งในด้านคุณภาพ โดยมีสายพันธุ์ที่ดี และคุณภาพซากที่สวย เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ในปัจจุบันทาง ฟาร์มหมู มีสุกรแม่พันธุ์ 5,500 แม่ จากรากฐานที่มั่นคงในการทำธุรกิจสุกรมาแล้ว 37 ปี มีการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ ด้าน โดยการทำงานร่วมกันของคุณชูศักดิ์ และคุณศราวุฒิ จากการซึมซับการเลี้ยงหมู ตั้งแต่เล็กถึงแม้จะไม่ได้จบด้านปศุสัตว์โดยตรง แต่ก็ได้เข้าฟาร์มดูการทำคลอด คลุกแป้งลูกหมู อุ้มลูกหมู ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต RMC Farm เป็นฟาร์มหมูที่อยู่ใกล้กับชุมชนมาก ดังนั้นต้องมีการจัดการที่ดี มีการพัฒนารูปแบบการ เลี้ยงหมูเป็นระบบอีแวป (Evap) มาหลายสิบปี ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างใหม่ และบางส่วนมีการดัดแปลงจากโครงสร้างเก่า การจัดการในแต่ละวันจะเริ่มต้นด้วยการให้อาหาร ทำความสะอาด และเดินตรวจสุขภาพ ขณะที่สุกรกำลังกินอาหารเพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติจะได้จัดการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถ้าสุกรป่วยเป็นระยะเวลานานจะทำให้การรักษานั้นยากมากขึ้น ในขณะที่จุดเริ่มต้นของ “ณัฐพงษ์ ฟาร์ม” บริษัทฯ ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2545 ฟาร์มหมูขนาดใหญ่ 4 ฟาร์ม แม่พันธุ 3,000 แม่ ที่เลี้ยงตั้งแต่นำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์มาผสมพันธุ์ เมื่อคลอดลูกหมูก็จะเลี้ยงจนกระทั่งเป็นหมูขุน โดยลงทุนในรูปแบบการเลี้ยงที่ทันสมัย ระบบปิดทั้งหมด อีกทั้งยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งเป็นบริษัทตั้งต้น และได้ต่อยอดบริษัทที่ 2 คือ บริษัท พีแอนด์เจ มีท โปรดักส์ จำกัด โรงชำแหละและตัดแต่งเนื้อหมู มาตรฐาน GMP/HACCP กลุ่มลูกค้าหลัก คือ ลูกค้าโมเดิร์นเทรด จากนั้นจึงมี บริษัท หมูณัฐ จำกัด เป็นบริษัทที่ 3 ที่เป็นร้านเนื้อหมูสะดวกซื้อ ซึ่งเปิดกิจการมาย่างเข้าปีที่ 8 แล้ว กับ 10 สาขาในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ในการทำธุรกิจฟาร์มสุกรนั้น การทำธุรกิจทุกอย่างที่ทำออกมาต้องมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ค่อยเป็นค่อยไป และประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีจรรยาบรรณ มีศีลธรรมอันดีในการประกอบธุรกิจ ซื่อตรงต่อตัวเองและลูกค้า อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ฟาร์มสุกร #ฟาร์มหมู #หมู #ณัฐพงษ์ฟาร์ม …

พาจอบเบิ่ง “อาณาจักรฟาร์มสุกร” เจ้าใหญ่แห่งภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง “แมงแคง” เมนูสุดแซ่บที่สร้างรายได้งามให้แก่ชาวอีสาน

ชาวบ้าน บ้านโนนขี้ตุ่น หมู่ 9 ต.ตลาดเเร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ใช้เวลาว่าง พากันออกหาเก็บแมงแคง ที่มาหากินและอาศัยตามต้นผักบุ้งที่เกิดตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ในชุมชน มาปรุงเป็นอาหารและเป็นของฝากญาติ ๆ หรือขายสร้างรายได้ โดยแมงแคง ตัวเป็น ๆ จะมีกลิ่นฉุนคล้ายแมงดา แต่เมื่อปรุงเป็นอาหารจะมีกลิ่นหอมอร่อยมาก ซึ่งชาวบ้านจะนิยมทำเมนู น้ำพริกแมงแคง คั่ว ทอด ซึ่งแมงแคงจะมีรสชาติหอมมันอร่อยยิ่งกว่าแมงดาหรือแมงจี้ซอนมาก เป็นที่ชื่นชอบของชาวอีสาน หากนำไปขายส่วนใหญ่จะทำเป็นกองหรือใส่ถุงขายราคา กองหรือถุงล่ะ 20-50 บาท สามารถทำเงินให้กับผู้ที่หาของป่าได้ วันล่ะ 300-500 บาทเลยที่เดียวในระยะนี้ ด้าน คุณวรรณวิลัย โลมะบุตร ชาวบ้าน บ้านโนนขี้ตุ่น หมู่ 9 ต.ตลาดเเร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ เผยว่าตนเองและครอบครัวจะใช้เวลาว่างในช่วงเย็น พากันขับจักรยานยนต์นำถุงหรือขวดน้ำเปล่า ตระเวนออกหาเก็บ แมงแคง ตามแหล่งน้ำ โดยเฉพาะที่บริเวณริมห้วยหรือหนองฉิม ซึ่งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของหมู่บ้านเป็นแหล่งน้ำที่เริ่มแห้งขอด มีต้นผักบุ้งเกิดขึ้นเยอะ และมีแมงแคงออกมาหากินเป็นจำนวนมาก คุณวรรณวิลัยและครอบครัวจึงได้นำเอาขวดน้ำเปล่าหรือถุงพลาสติดออกเดินหาเก็บแมงแคงที่หากินตามต้นผักบุ้ง เพื่อนำไปปรุงเป็นอาหาร ซึ่งเป็นเมนูเด็ดหากินยาก นาน ๆ จะมีให้กินครั้งหนึ่ง ซึ่งในการออกหาแมงแคงแต่ล่ะครั้งจะได้ประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อครั้ง หากนำไปขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าหรือเพื่อนบ้านจะได้ประมาณ 200-300 บาท แต่สำหรับคุณวรรณวิลัยและครอบครัว จะนำมาปรุงเป็นอาหารและนำเป็นของฝากแก่ญาติ ๆ ให้ได้กินเสียก่อน เพราะเป็นเมนูที่หากินได้ยากนานปีจะมีให้กินครั้งหนึ่ง โดยแมงแคงที่หามาได้คุณวรรณวิลัยจะนำมาล้างน้ำให้สะอาด จากน้ำก็นำมาคั่วใส่เกลือ หรือรสดี และตำน้ำพริก จิ้มกับมะขามเทศ นำกินกับข้าวเหนียวอร่อยสุด ๆ ไปเลย อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1050660 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #แมงแคง #ชัยภูมิ #เมนูแซ่บอีสาน

พาซอมเบิ่ง “อุบล ไบโอ เอทานอล” อาณาจักรผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลัง รายใหญ่ของประเทศ

บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “UBE”) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศ โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เอทานอล และแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งบริษัทจำหน่ายทั้งแป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Starch) และฟลาวมันสำปะหลัง (Cassava Flour) แบบทั่วไปและแบบออร์แกนิก บริษัทถือเป็นผู้ผลิตและแปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจร (Well-integrated Tapioca Player) รายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จากการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบในการผลิตทั้งเอทานอล แป้งมันสำปะหลังและแป้งฟลาว ซึ่งมีการนำวัตถุดิบมันสำปะหลังเข้าสู่กระบวนการผลิตมากถึง 1,200,000 ตันต่อปี บริษัทมีการนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต เช่น น้ำใช้จากกระบวนการผลิตและกากมันสำปะหลัง มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตก๊าซชีวภาพ เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนในโรงงานผลิตเอทานอลและแป้งมันสำปะหลัง นอกจากนี้ ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ส่วนหนึ่งจะนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้หมุนเวียนในโรงงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต และจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง นอกจากการผลิตและจำหน่ายเอทานอล แป้งมันสำปะหลัง และการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่อง บริษัทได้ขยายสู่การพัฒนาสินค้าทางการเกษตรชนิดอื่นที่มีมูลค่าสูง (High Value Product หรือ HVP) หรือมีศักยภาพในการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปี 2563 บริษัทได้ริเริ่มธุรกิจเกษตรอินทรีย์ โดยมีแผนที่จะปลูกกาแฟอินทรีย์ (Organic Coffee) และข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) เพื่อจำหน่าย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรประเภทอื่นๆ เช่น อาหารผสมเสร็จที่ผลิตจากหญ้าเนเปียร์ สำหรับการเลี้ยงโคเนื้อ เป็นต้น อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อุบลไบโอเอทานอล #มันสำปะหลัง #เอทานอล #อุบลราชธานี

พามาเบิ่ง “กลุ่มบริษัทต้องบุญ” ที่อยู่ในภาคอีสาน ผลประกอบการแต่ละบริษัทเป็นจังใด๋แหน่??

บริษัทต้องบุญปิโตรเลียมจำกัด เดิมจดทะเบียนในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัดปักธงชัย ปิโตรเลียม ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา และบริการค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ต่อมาธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในนามของ หจก.ปักธงชัยปิโตรเลียม มีการขยายตัวและเติบโตในอัตราที่สูงมาก ผู้บริหารจึงมีความเห็นให้แยกธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ใน ชื่อ บริษัท ต้องบุญปิโตรเลียม จำกัด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2540 โดย บริษัทต้องบุญปิโตรเลียม ก็ได้ปรับแกนของธุรกิจหลัก โดยมีจุดมุ่งหมายดำเนินธุรกิจ บริการขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ภายใต้นโยบายที่มุ่งหวังจะเป็นเลิศด้านการให้บริการค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันแก่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นฐานเติบโตมาจากผู้รับบริการ เมื่อเป็นผู้ให้บริการทำให้เรามีจุดเด่นการให้บริการที่ใส่ใจ เข้าใจความต้องการของลูกค้า จึงมุ่งมั่นให้สิ่งที่ดีที่สุด คุณภาพที่ดีที่สุดสู่ผู้รับบริการและลูกค้า ทำให้ บริษัท ต้องบุญปิโตรเลียม จำกัด เติบโตขยายขอบเขตธุรกิจตลอดมา ในปัจจุบัน เป็นบริษัทชั้นนำในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน และน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมให้บริการด้านการขนส่งที่เป็นหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มบริษัทต้องบุญ ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้่งในราชอาณาจักรและนอกราชอาณาจักรไทย ทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ให้บริการทุกพื้นที่ทั่วไทย โดยมีรถบรรทุกน้ำมันให้บริการกว่า 200 คัน รวมถึงบริการขนส่งน้ำมันให้กับแบรนด์น้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำของไทย อีกด้วย ดังนั้น บริษัทฯจึงเป็นผู้นำในธุรกิจ ที่พร้อมก้าวและเติบโตไปกับลูกค้าในธุรกิจจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเชื้อเพลิงและขนส่งน้ำมันเชื้อพลิง ที่ลูกค้าไว้วางใจเพราะบริษัทฯบริการด้วยคุณภาพและมาตรฐานสูงสุด “เพราะบริษัทฯเป็นหนึ่งด้านการค้าส่ง และบริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม “ อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทต้องบุญ #ต้องบุญปิโตรเลียม #ต้องบุญแอทเสท #ทีบีแทงค์แอนด์เทรลเลอร์ #ทีเอสเคโลจิสติกส์ #ที9

ชวนมาเบิ่ง 4 ยักษ์ใหญ่แห่งอาณาจักรรับเหมาก่อสร้าง

ผลประกอบการเป็นจังใด๋แหน่ อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ #ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ #ไทยวัฒน์วิศวการทาง #โชคชัยการโยธา #ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง #รับเหมาก่อสร้าง

ชวนเบิ่ง 5 สินค้าสุดคราฟต์จากวัตถุดิบของดีทั่วอีสานบ้านเฮา มีอิหยังแหน่??

1.เสื่อกกทอมือลายโมเดิร์น จังหวัด : อำนาจเจริญ เสื่อกกในความทรงจำของคนที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ Thorr คงไม่พ้นภาพอุปกรณ์ปูรองนั่งสามัญประจำบ้าน แต่คุณอุ๋งอิ๋ง-ธัญญ์นภัส กิ่งสุวรรณ เจ้าของแบรนด์ พิถีพิถันผัดแป้งเสื่อกกบ้าน ๆ แปลงโฉมเป็นโฮมแวร์ที่น่ารัก เพื่อถ่ายทอดความงดงามจากถิ่นอีสาน “ของบ้าน ๆ ที่ดูถ่อมตัวแต่มีรสนิยม วูบวาบฉาบฉวยแต่ไม่รุนแรงก้าวร้าว ไม่จำเป็นต้องเหนือกว่าคนอื่นหรือดูฟุ่มเฟือยตลอดเวลา” คือ นิยามคาแรกเตอร์อันย่นย่อแต่ชัดเจนของ Thorr จากคุณอุ๋งอิ๋ง    แบรนด์นี้มีสินค้ามากมาย ยกตัวอย่างเข่น เสื่อทอลายมินิมอล เจือสีครามไว้อย่างมีจังหวะ เพียงหางตาสัมผัสก็รู้ทันทีว่านี่แหละลายเซ็นซึ่งเจ้าของแบรนด์ฝากเอาไว้ หัตถศิลป์สไตล์โมเดิร์นเกิดจากสองมือของพี่น้องชาวอำนาจเจริญ     2.เซ็ตกาน้ำชาปั้นมือ จังหวัด : สกลนคร เครื่องเคลือบรูปทรงแปลกตา ลวดลายจากดินธรรมชาติไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ คือผลิตผลจากผืนดินแห่งบ้านดอนหมู จังหวัดสกลนคร   ดอนหมูดิน เป็นแบรนด์เทเบิลแวร์เนื้อเซรามิกชั้นดี เกิดจากความดิบแท้ดั้งเดิมวัถตุดิบขึ้นชื่ออย่างดินเหนียวในนา แร่ฟันม้า ดินเหนียวสีเหลือง เปลือกหอย และครามธรรมชาติ โดยมีจินตนาการของ คุณเปิ้ล-วัลย์ริยา เพ็งสว่างนักปั้น (เซรามิก) มือทอง และเอกลักษณ์ความเป็นสกลนคร    อีกทั้งยัง มีส่วนผสมสำคัญที่ถูกนำมาทำเป็นงานปั้นฟรีฟอร์ม ไม่รับปั้นรูปทรงตามใจ ไม่ใช้สีตามสั่ง ไม่ออกบูธตามงานแฟร์ใหญ่ ๆ เพราะดอนหมูดินบรรจงทำทุกขั้นตอนด้วยมือ ขอบข่ายงานสุดจิ๋วเพียงระดับชุมชนชาวบ้านเท่านั้น เอกลักษณ์ของสโตนแวร์จากดอนหมูดินคือทุกกระบวนการผลิตล้วนเป็นธรรมชาติ วิถี งานทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ของตัวเอง     3.ดิฟฟิวเซอร์หินทราย จังหวัด : นครราชสีมา หินทรายแผ่นแบนหน้ากลมสีพาสเทล ล้อมรอบด้วยไม้โอ๊กลายสวย เรียกว่า Sandstone Diffuser หรือหินทรายกระจายกลิ่นทรงแปลกตาจากนวยนาด (Nuaynard) แบรนด์ของคู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาทำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เครื่องหอมจากวัตถุดิบอีสาน    นวยนาดเปลี่ยนหินทราย วัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นชื่อแห่ง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ที่นิยมนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป เอาเศษเหลือใช้มาทำเป็นดิฟฟิวเซอร์สุดเก๋ ผ่านการร่วมงานกับดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น โคคิเอะ อะสึชิ (Koike Atsushi) ผสานเข้ากับฝีมืออัตลักษณ์ของกลุ่มช่างหินทรายท้องถิ่นแห่งบ้านซับศรีจันทร์ ฐานที่มั่นของนวยนาดในอำเภอสีคิ้ว แห่งเมืองโคราชบ้านเอ็ง กลายมาเป็นคอลเลกชัน Isan Material     4.เก้าอี้หวาย จังหวัด : มหาสารคาม หวาย นอกจากเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อในชุมชน ยังเพียบพร้อมไปด้วยความยืดหยุ่นทนทาน บิดตัดดัดงอได้อย่างอิสระ อย่างที่วัสดุชนิดอื่น ๆ ทำไม่ได้   คุณลิตเติ้ล-สมฤทัย บุญใหญ่ แห่งแบรนด์ LITIN จึงหันมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์โดยใช้หวายเป็นหลัก ผสมกับลวดลายกราฟิกร่วมสมัย ยิ่งได้ฝีมือการจักสานของพี่น้องชาวสารคามสูผู้สูคน งานที่ได้ จึงยังมีกลิ่นอีสานแฝงอยู่กับความประณีตสวยงามอย่างแนบเนียน เป็นลายเซ็นของแบรนด์ไปโดยปริยาย   LITIN พาฝีมือท้องถิ่นไปอยู่ตามโรงแรมและห้างร้านต่าง ๆ ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ยกตัวอย่างเช่น เก้าอี้สตูลสีสด แรงบันดาลใจจากรูปทรงตะโพน เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ความเจ๋ง คือ คุณลิตเติ้ลนำวัสดุผิวหวายเหลือใช้จากขั้นตอนการผลิตอื่น …

ชวนเบิ่ง 5 สินค้าสุดคราฟต์จากวัตถุดิบของดีทั่วอีสานบ้านเฮา มีอิหยังแหน่?? อ่านเพิ่มเติม »

พาจอบเบิ่ง ศึกชิงโชห่วยเดือดสมรภูมิ “อีสาน” เป็นแนวใด๋แน่

สำหรับการเปิดศึกเพื่อแย่งชิงร้านค้าโชห่วยมาเป็นเครือข่ายของบรรดาซัพพลายเออร์-ค้าปลีกรายใหญ่ที่ลั่นกลองรบกันมาเกือบ 1 ปีเต็มๆ หากย้อนกลับไปจะพบว่า ทั้ง “บัดดี้มาร์ท” (สยามแม็คโคร)-“โดนใจ” (เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) ที่พร้อมใจก้าวเข้ามาท้ารบกับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” (ทีดี ตะวันแดง) เจ้าแรกที่ประกาศตัวช่วยชุบชีวิตบรรดาโชห่วยที่ว่ากันว่ามีอยู่ไม่ต่ำกว่า 4 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ให้กลับมาเติบโตได้อย่างมืออาชีพ “บีเจซี” ประกาศพร้อมรบ ล่าสุด กลางเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บีเจซี ได้ประกาศเปิดตัว “โดนใจ” บุกตลาดอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เริ่มมีการทำโครงการแบบซอฟต์ลอนช์ ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เบื้องต้นตั้งเป้าดึงร้านโชห่วยเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจ ประมาณ 4,000 ร้านค้า จากขณะนี้ที่ร้านค้าโชห่วยที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายแล้วประมาณ 1,000 ราย และในระยะยาวคาดว่าจะมี 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 ด้วยการใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีสาขาขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ในการป้อนสินค้าเข้าสู่ร้าน นอกจากนี้ยังมีแผนว่าในต้นปี 2566 จะมีการเปิดตัวพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าที่จะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ โดนใจ โฟกัสไปที่ร้านค้าปลีกในชุมชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านั้นมีจุดอ่อนในเรื่องของการบริหารจัดการ “บัดดี้มาร์ท” บุกอีสาน จากก่อนหน้านี้ (31ตุลาคม 2565) ที่ยักษ์ธุรกิจค้าส่ง “สยามแม็คโคร” ได้ฤกษ์เปิดตัว ร้านบัดดี้มาร์ท โมเดลธุรกิจที่มุ่งปรับปรุงร้านโชห่วยให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หลังจากที่เริ่มนำร่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยโฟกัสฐานลูกค้าสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการร้านโชห่วยในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน ซึ่งมีร้านโชห่วยหนาแน่น นอกจากนี้บริษัทยังมีการผนึกพันธมิตรที่เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ อาทิ ยูนิลีเวอร์ โอสถสภา เนสท์เล่ ไทยน้ำทิพย์ พีแอนด์จี มาจัดโปรโมชั่น แชร์ข้อมูลอินไซต์ลูกค้า จัดคอร์สอบรมด้านการบริการ-บริหารสต๊อกสินค้า รวมไปถึงดึงสถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงเทพ มาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโมเดลบัดดี้มาร์ทในเงื่อนไขพิเศษ เช่น สามารถกู้เต็มวงเงินลงทุน ผ่อนนาน 5 ปี ดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องและขาดความสามารถในการขอกู้เงินเพื่อปรับปรุงร้าน ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการโชห่วยและผู้ที่สนใจลงทุนร้านบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโคร ยังลดค่าลงทุนเริ่มต้นร้านบัดดี้มาร์ท 50% ฟรีค่าปรับปรุงร้าน 2 แสนบาท จากปกติที่ต้องใช้งบฯลงทุนเริ่มต้น 400,000 บาท (เงินค่าค้ำประกัน 200,000 บาท และค่าปรับปรุงร้าน 200,000 บาท) ถึง 31 ธ.ค. 2565 (จำกัดสิทธิ 300 ร้านค้าแรก) “ยอมรับว่า ในภาคอีสานจะเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มั่นใจว่า ด้วยความที่แม็คโครนั้นอยู่คู่กับร้านโชห่วย บวกกับจุดแข็ง เช่น เรื่องของอาหารสด ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากรายอื่น ๆ จะทำให้มีความได้เปรียบและเป็นที่ต้องการของร้านค้าในชุมชน” ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโครกล่าว “ถูกดี” ออนทัวร์ดึงลูกค้าข้ามปี ด้านต้นตำรับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” …

พาจอบเบิ่ง ศึกชิงโชห่วยเดือดสมรภูมิ “อีสาน” เป็นแนวใด๋แน่ อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “แฟรี่พลาซ่า” ห้างสรรพสินค้าดังเก่าแก่ในภาคอีสาน

“ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า” ผู้บุกเบิกธุรกิจห้างสรรพสินค้าของจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลายาวนานถึง 50 ปี ความภูมิใจอันยาวนาน คู่ตำนานนครขอนแก่น คุณวรพงษ์ พัฒนพีระเดช หรือ คุณวรพงษ์ แซ่โง้ว เป็นคนจังหวัดขอนแก่นโดยกำเนิด นับตั้งแต่ปี 2504 เริ่มต้นสร้างรากฐานและความก้าวหน้าจากมรดกคุณพ่อเป็นเงินสด 315 บาท กับ บ้านเช่าและจักรเก่าอย่างละ 1 หลัง ตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า “ฮั่วหลี” เป็นห้องแถวเล็กๆ ขนาด 1 คูหาเป็นร้านค้าตัดเสื้อผ้ากับการค้าขายเบ็ดเตล็ด คุณวรพงษ์ เริ่มต้นวงการค้าตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยที่ช่วงที่เคยทำที่ร้านของเขาซึ่งเป็นร้าน “ยี่ปั๊ว” ใหญ่ที่สุดในจังหวัดขอนแก่น ขณะนั้นด้วยวัยหนุ่มจึงพยายามเรียนรู้ พยายามจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาตรงหน้า เมื่อร้านของพี่เลยถูกไฟไหม้ เมื่อคราวไฟไหม้ตลาดขอนแก่นครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งนั้นพวกเขาไม่อยากทำการค้าต่อไปอีกจึงเซ้งกิจการทั้งหมดให้กับเถ้าแก่และภายใต้เงื่อนไขที่ว่า คุณวรพงษ์จะต้องอยู่ช่วยงานเขาด้วย คุณวรพงษ์อยู่ช่วยงานเถ้าแก่กิมสูงอยู่ 4 ปี ก็ออกมารับช่วงงาน ที่บ้านของตัวเอง ต่อมาเถ้าแก่ก็คิดขยายไปที่ทำเลใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม คุณวรพงษ์จึงคิดเอาบ้านไว้เอง เมื่อเถ้าแก่ย้ายไปแล้วคุณวรพงษ์จึงไปขอเช่า โดยตั้งชื่อร้านใหม่ว่า “ห้างแฟรี่” เมื่อปลายปี 2509 ต่อมาปี 2521 ได้ซื้อตึกแถว 3 ชั้น 9 คูหา เพิ่มที่จะทำห้างสรรพสินค้า แต่มีผู้ใหญ่และเพื่อนหลายคน เตือนว่าทำมาไกลเกินไป คุณวรพงษ์จึงทำการสำรวจตลาด โดยการจัดรายการขายสินค้าลดราคา 50% ทุกชิ้น ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับจากลูกค้า จนถึงกับต้องปิดร้านขายเมื่อเห็นว่าประสบความสำเร็จ จึงได้เปิด ห้างสรรพสินค้าแฟรี่ทาวน์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่น เมื่อกิจการเริ่มใหญ่ขึ้นก็ต้องมีงานที่ต้องควบคุมมากขึ้นในตอนนี้เองที่ คุณวรพงษ์ ได้นำการบริหารงานอย่างมีระบบมาใช้ในการดำเนินกิจการในช่วงนี้ โดยให้ลูกสาวคนโตคือ คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ เข้ามาดูแลกิจการก่อนต่อจากนั้นลูกสาวคนที่ 2 คุณโฉมสุรีย์ อนุพรรณสว่าง ก็เข้ามาช่วยดูแล ประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นลูกชายคนโต คุณพีระพล พัฒนพีระเดช ก็ได้เข้ามาช่วยอีกคนหนึ่งจนกิจการ สามารถขยายออกไปได้ถึง 17 คูหา เมื่อแฟรี่ทาวน์บริหารเริ่มคล่องตัวแล้ว คุณวรพงษ์ ก็กลับมาบริหารปรับปรุงแฟรี่ เดิมทำเป็น ศูนย์กิ๊ฟช็อปจัดสินค้า เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นโดยเฉพาะใช้ชื่อว่า “ห้างจูวีไนล์” ขยายจากเดิม 2 คูหาเป็น 3 คูหา โดยให้ลูกสาวคนที่ 2 คุณโฉมสุรีย์ อนุพรรณสว่าง เป็นผู้ดูแล จูวีไนล์เปิดตัว อย่างเป็นทางการในปี 2530 หลังจากจูวีไนล์ดำเนินกิจการได้ปีเศษ คุณวรพงษ์ใต้ซื้อที่ดินบริเวณถนนศรีจันทร์ เนื้อที่กว่า 9 ไร่ โดยมีโครงการที่จะสร้างศูนย์สรรพสินค้า ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ในปี 2530 โครงการศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายโครงการ ของบริษัทบนเนื้อที่ดังกล่าวได้เปิดดำเนินการขึ้นให้ชื่อว่า “ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า” ซึ่งเป็นการเปิดตัวอย่างสง่างามในความภูมิใจของชาวขอนแก่นที่มีศูนย์สรรพสินค้าที่ใหญ่สมบูรณ์และทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน แต่เปิดดำเนินการได้ไม่นาน …

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “แฟรี่พลาซ่า” ห้างสรรพสินค้าดังเก่าแก่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง 7 อันดับบริษัทที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในภาคอีสาน

เปลี่ยนไปส่ำใด๋แหน่ . . . อ้างอิงจาก: – CredenData #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุด #มูลค่าบริษัทมากที่สุด #บริษัทในภาคอีสาน

Scroll to Top