Article

บทความ จากบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอีสาน ทั้ง ISAN Outlook และข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ รวบรวมให้คุณรู้ทันทุกข้อมูล เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อีสาน

ปังหลาย “ตำนัว” รุกตลาดเรดโอเชียน  ส่ง“น้ำปลาร้าปรุงรส” หนุน MUT 2023

ปังหลาย “ตำนัว” รุกตลาดเรดโอเชียน  ส่ง“น้ำปลาร้าปรุงรส” หนุน MUT 2023   “ตำนัว” รุกตลาดน้ำปลาร้าสำเร็จรูปส่ง 2 สูตรใหม่เสริมทัพชิงส่วนแบ่งตลาดเรดโอเชียน งัดกลยุทธิ์การตลาดหนุนส่งสาวงามจากจังหวัดสกลนครสู่เวทียูนิเวิร์สชิงมงกุฏนางงามระดับประเทศ Miss Universe Thailand 2023 นางสาวนิภารัตน์ สหเจริญพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทยโคริ โนมิโมโน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำปลาร้าปรุงรส “ตำนัว” เผยว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีในการดำเนินธุรกิจผลิตน้ำปลาร้าสำเร็จรูปแบรนด์ “ตำนัว” บริษัทสามารถสร้าการเติบโตและขยายตลาดออกไปได้ทั่วประเทศและต่างประเทศ สร้างยอดขายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านขวด สร้างมูลค่ารายได้กว่า 300 ล้านบาท ปัจจุบันแบรนด์น้ำปลาร้าตำนัวมีวางจำหน่าย 2 สูตรหลัก คือ สูตรดั้งเดิม มี 2 ขนาด คือ 350 มล. และ 1,500 มล. ซึ่งเป็นสูตรที่ขายดีที่สุด เนื่องจากรสชาติที่ถูกปาก นำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย และ สูตรกัญชา เป็นสูตรที่จัดทำพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลายแต่ยังคงรสชาติและกลิ่นปล้าร้าอยู่ ซึ่งแบรนด์ของเราสามารถขอใบอนุญาตได้เป็นเจ้าแรกในไทย ใส่ได้กับอาหารทุกอย่าง แกง ตำ ยำ ซึ่งจะมีความเข้มข้นและนัวถูกปากคนไทย   พร้อมกันนี้ยังได้ ฉบับปรับสูตรใหม่ล่าสุด ให้สอดรับความต้องการบริโภคจากลูกค้า คือ สูตรดับเบิ้ลโหน่ง สำหรับกลุ่มลูกค้าสายอีสานฮาร์ดคอร์ ชอบกลิ่นโหน่ง แรงๆ มีกลิ่นเท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลาที่ฉุน มีกลิ่นเฉพาะ ซึ่งเป็นสูตรที่ค่อนข้างผลิตยาก ด้วยความซับซ้อนของกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ความเข้มข้น และกลิ่นที่เป็นสูตรเฉพาะตามแบบฉบับของตำนัวเท่านั้น และ สูตรอโรมา กลิ่นไม่แรงมาก สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มลองทานปลาร้า แต่รับรองว่าได้รสนัวไม่แพ้รสอื่นๆ   นอกจากนี้ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคและสร้างประสบการณ์ร่วมกับผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ บริษัทฯ ได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดครอบคลุม 360 องศา และร่วมสนับสนุนเวทีการประกวดระดับโลกเพื่อแสดงถึงความเป็นสากลอย่างเวทีมิสยูนิเวิร์สไทย์แลนด์ โดยได้ร่วมเป็น City Director ในเวที MUT Sakon Nakhon ส่งตัวแทนสาวงามจากสกลนครสู้ศึกในระดับประเทศ และพร้อมเสิร์ฟน้ำปลาร้า “ตำนัว” ทุกสูตรทั่วโลกในปี 2566 นี้   สำหรับแผนการขยายธุรกิจแบรนด์น้ำปลาร้าตำนัวในระยะ 1-5 ปีจากนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายการขยายฐานการผลิตเตรียมลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานหมักปลาร้า ที่จังหวัดหนองคาย เพื่อควบคุมควบคุมมาตรฐานตั้งแต่ต้นน้ำไปยันปลายน้ำถึงมือผู้บริโภค รวมถึงเป็นการช่วยลดต้นทุนขาย ดันมาร์จินเพิ่มจากค่าขนส่งปลาร้าหมักจากเดิมเรามีพาร์ทเนอร์ที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนส่งมาที่โรงงานผลิต 2 แห่ง ที่จังหวัดหนองคายซึ่งเป็นโรงงานขนาดกลาง และที่จังหวัดสกลนครเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 120,000 ขวดต่อวัน เพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ตำนัวและช่องทาง OEM ซึ่งเป็นรายได้หลัก 2 ทางของบริษัทฯ …

ปังหลาย “ตำนัว” รุกตลาดเรดโอเชียน  ส่ง“น้ำปลาร้าปรุงรส” หนุน MUT 2023 อ่านเพิ่มเติม »

ปลอดภัยหลายกว่าเดิม ! ธปท. ประกาศ “โอนเงินเกิน 50000” ต้องสแกนใบหน้า เริ่ม มิ.ย.นี้

ปลอดภัยหลายกว่าเดิม ! ธปท. ประกาศ “โอนเงินเกิน 50000” ต้องสแกนใบหน้า เริ่ม มิ.ย.นี้   ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทยได้วางแผนการป้องกันการทุจริตเพิ่มเติม โดยให้ธนาคารต้องเพิ่มมาตรการการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (ไบโอแมตริกซ์) เมื่อทำธุรกรรมผ่าน mobile banking เมื่อมีรายการการโอนเงิน หรือเติมเงินพร้อมเพย์/G-Wallet ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ หรือยอดสะสมต่อวัน ครบทุก 200,000 บาท หรือต้องการปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน จ่ายเงินผ่านแอปฯ    ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารได้ออกมาตรการดังกล่าวและทำการแจ้งเตือนลูกค้าผู้ใช้บริการ mobile banking ให้สามารถนำบัตรประชาชนปอัปเดตข้อมูล และสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนที่ธนาคารสาขาใกล้บ้านได้ตั้งแต่วันนี้   ​ธปท. ประกาศ 3 ชุดมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินที่ดูแลตลอดเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงิน  โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ มาตรการป้องกัน ▪️ เพื่อปิดช่องทางที่มิจฉาชีพจะเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ให้ สถาบันการเงินงดการส่งลิงก์ทุกประเภทผ่าน SMS อีเมล ▪️ งดส่งลิงก์ขอข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน และเลขบัตรประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ▪️ จำกัดจำนวนบัญชีผู้ใช้งาน mobile banking (username) ของแต่ละ สถาบันการเงินให้ใช้ได้ใน 1 อุปกรณ์เท่านั้น ▪️ โดย สถาบันการเงินต้องจัดให้มีการแจ้งเตือนผู้ใช้บริการ mobile banking ก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง ▪️ พัฒนาระบบความปลอดภัยให้เท่าทันภัยการเงินรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเวลา ▪️ ยกระดับความเข้มงวดในกระบวนการยืนยันตัวตนขั้นต่ำด้วยการใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบข้อมูลอัตลักษณ์ทางกายภาพของลูกค้า (biometrics) โดยกำหนด 3 ธุรกรรม ที่จะต้องมีการยืนยันตัวตน ▪️ การโอนวงเงินเกิน 50,000 บาทต่อรายการ ▪️ โอนวงเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน ▪️ การปรับเพิ่มวงเงินเกิน 50,000 บาทต่อวัน มาตรการตรวจจับและติดตามบัญชี หรือธุรกรรมต้องสงสัย ▪️ กำหนดเงื่อนไขการตรวจจับและติดตามธุรกรรมเข้าข่ายผิดปกติ หรือกระทำความผิด เพื่อให้ สถาบันการเงินรายงานไปสำนักงาน ปปง. ▪️ สถาบันการเงินต้องมีระบบตรวจจับและติดตามบัญชี หรือธุรกรรมต้องสงสัยแบบ near real-time เพื่อให้สามารถระงับธุรกรรมได้ทันทีเป็นการชั่วคราวเมื่อตรวจพบ มาตรการตอบสนองและรับมือ ▪️ เพื่อจัดการปัญหาให้ผู้เสียหายได้เร็วขึ้น ให้สถาบันการเงินทุกแห่งต้องมีช่องทางติดต่อเร่งด่วน (hotline) ตลอด 24 ชั่วโมง แยกจากช่องทางให้บริการปกติ ▪️ เพื่อให้ผู้ใช้บริการแจ้งเหตุได้โดยเร็ว รวมทั้งให้ดูแลรับผิดชอบผู้ใช้บริการ หากพบว่าความเสียหายเกิดจากข้อบกพร่องของสถาบันการเงิน   อ้างอิงจาก: https://www.tba.or.th/transfers-over-50000-must-scan-faces-starting-this-june/  https://www.chillpainai.com/scoop/15285    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธนาคารแห่งประเทศไทย #โอนเงิน #ทำธุรกรรมทางการเงิน #พร้อมเพย์ …

ปลอดภัยหลายกว่าเดิม ! ธปท. ประกาศ “โอนเงินเกิน 50000” ต้องสแกนใบหน้า เริ่ม มิ.ย.นี้ อ่านเพิ่มเติม »

จับตาเบิ่ง “ระเบียงเศรษฐกิจ” หม่องใหม่ ตลาดอสังหาฯอุดรธานีมาแรง ผู้ประกอบการเจ้าถิ่น-ส่วนกลางลงสนามเพียบ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยภาคอีสาน นครราชสีมาและขอนแก่น ยังเป็นจ่าฝูงจังหวัดที่มีขนาดตลาดใหญ่สุดตามลำดับของภาค แต่ในแง่อัตราเพิ่มอุดรธานี โดยเฉพาะครึ่งหลังปี 2565 มีสัญญาณการเพิ่มขึ้นของหน่วยโครงการเปิดใหม่ ก้าวกระโดดถึง 114% มูลค่า 1,959 ล้านบาท กลายเป็นดาวเด่นอสังหาฯภาคอีสาน นายจตุรงค์ ธนะปุระ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อุดรธานีกำลังจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบ 3-4 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนการระบาดโควิด-19 โดยเวลานี้มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรทั้งเก่าและใหม่อยู่ประมาณ 40 กว่าโครงการ ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นของผู้ประกอบการใหญ่จากส่วนกลาง อาทิเช่น ศุภาลัย แสนสิริ ซี.พี.แลนด์ สิทธารมย์ ฯลฯ อีกกว่าครึ่งเป็นของนักลงทุนในท้องถิ่น และอีกส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตตามถูกกฎหมายอีกจำนวนหนึ่ง ธุรกิจคอนโดมิเนียม จะเป็นการลงทุนของนักลงทุนจากส่วนกลาง ซึ่งได้ก่อสร้างเสร็จและเปิดขายหรือให้เช่าหมดแล้ว โดยที่อุดรธานีไม่ใช่ตลาดของธุรกิจคอนโดมิเนียม อาจเป็นสาเหตุให้ยังไม่มีการลงทุนคอนโดมิเนียมใหม่ เวลานี้ ส่วนที่ขายไปแล้วผู้ครอบครองส่วนใหญ่เปิดให้เช่าอยู่เป็นรายเดือน ส่วนกรณีทุนจีนแห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น นายจตุรงค์ชี้ว่าต้องมองหลายมุม เพราะมีทั้งดีและข้อเสีย ใน เชิงธุรกิจหากคนจีนเข้ามาทำธุรกิจมีการลงทุนด้านต่างๆ ในพื้นที่ก็เป็นการดี จากที่ทุนจีนมีกำลังซื้อสูง เมื่อเข้ามาช่วยกระตุ้นท้องถิ่นให้เจริญเติบโต ช่วยให้ธุรกิจอสังริมทรัพย์ในพื้นที่ดีขึ้น ที่สำคัญปัจจุบันกฎหมายก็อนุญาตให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ ด้านนายณัฐวัชร สวนสุจริต ที่ปรึกษาอิสระโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ เปิดเผยว่า อสังหาฯอุดรธานีเวลานี้ประดังออกตลาด มีทั้งโครงการที่มีแผนลงทุนก่อนเกิดโควิค-19 ก็กลับมาเร่งลงมือ ขณะที่โครงการใหม่ที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2565 ต่อเนื่องถึงที่มีแผนจะเปิดในระยะต่อไป ทำให้มีซัพพลายออกมาทับซ้อนกันของโครงการเดิมและใหม่ และยังมีโครงการที่มีแผนจะขึ้นในระยะถัดไปอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันสูงมาก “เกิดจากปัจจัยด้านการเติบโตของพื้นที่และปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น อุดรธานี อยู่ในพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการลงทุนตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล เช่น ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) เขตเศรษฐกิจพิเศษ มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เป็นจังหวัดศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบน ที่สำคัญคือเป็นพื้นที่ที่จะเป็นเจ้าภาพมหกรรมงาน พืชสวนโลกปี พ.ศ. 2569” ในมุมผู้ซื้อถือเป็นโอกาสที่จะสามารถเลือกได้หลากหลายรูปแบบหลายทำเล เพราะโครงการจะมี กระจายออกไปยังพื้นที่ต่างๆ ของเมือง แต่การลงทุนช่วงนี้ต้องมีภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งวัสดุก่อสร้างปูน เหล็ก นํ้ามันที่เพงขึ้น ยังมีเรื่องค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น จนถึงราคาที่ดินที่ขยับขึ้น ทำให้ราคาบ้านต้นทุนใหม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม “บ้านทาวน์โฮมเดิมราคาล้านเศษๆ ที่เป็นโครงการของนักลงทุนท้องถิ่นเวลานี้ไม่มีเหลือแล้ว ส่วนโครงการของบริษัทมหาชนจากส่วนกลาง เปิดตัวที่ระดับราคา 3-3.5 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่นักลงทุนท้องถิ่นก็หันมาทำบ้านจัดสรรในราคาดังกล่าวด้วย” ส่วนปัจจัยลบปี 2566 เรื่องหลักคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง อีกประเด็นคือ มาตรการ LTV ที่ไม่มีการต่ออายุให้อีกแล้ว การขอกู้ 100% ไม่มีอีกแล้ว ทำให้การจะขอสินเชื่อจะผ่านการอนุมัติน้อยลง เนื่องจากระดับรายได้ของประชาชนทั่วไปยังเท่าเดิมไม่ได้เพิ่มขึ้น แม้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว ขณะที่การลงทุนโครงการอสังหาฯ อุดรธานี จะขยายตัวโซนทิศตะวันออกนอกเขตถนนสายรอบเมือง เริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกบ้านจั่น ไปตามถนนสายรอบเมืองด้านตะวันออก จนถึงสี่แยกทางออกไปจังหวัดหนองคาย พื้นที่ตำบลกุดสระและต่อเนื่องด้านทิศตะวันออกของถนนมิตรภาพอุดรธานี-หนองคาย เป็นโซนที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง มีบริษัทมหาชนจากส่วนกลางหา พื้นที่และปักหมุดเตรียมขึ้นโครงการมากที่สุด อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/real-estate/565725 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน …

จับตาเบิ่ง “ระเบียงเศรษฐกิจ” หม่องใหม่ ตลาดอสังหาฯอุดรธานีมาแรง ผู้ประกอบการเจ้าถิ่น-ส่วนกลางลงสนามเพียบ อ่านเพิ่มเติม »

UBE เริ่ดคักหลาย เดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร สู่เป้าหมายบริษัท Food Tech .

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า “ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2566 เป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ทั้งจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูง และอุปทานมันสำปะหลังที่ลดลงมาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียงในไตรมาสที่ 4/2565 ถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 43 ปี กระทบแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังโดยตรง ส่งผลให้อุปทานมันสำปะหลังในฤดูกาลนี้ลดลงกว่า 30% ซึ่งบริษัท ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธุรกิจเอทานอล ปริมาณยอดขายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงยังทรงตัว เนื่องจากได้อานิสงส์จากการเปิดเมือง และฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนเพิ่มปริมาณการขายด้วยการผลักดันการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน อีกทั้งคาดการณ์ได้ผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้าไทยประมาณ 30 ล้านคนในปี 2566 จะเป็นแรงหนุนอุปสงค์การใช้เอทานอลในช่วงที่เหลือของปี ส่วนเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม อุปสงค์ลดลงจากสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งบริษัทได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าผลักดันการเปิดเสรีเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อเพิ่มปริมาณขาย ด้านธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อนำเสนอฟลาวมันสำปะหลังไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของลูกค้า รวมถึงเพิ่มช่องทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในประเทศ โดยล่าสุดได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายแป้งทอดกรอบ ภายใต้แบรนด์ Tasuko ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเปิดรับความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและฟลาวมันสำปะหลัง เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่มีความหลากหลายในการนำไปใช้ รองรับเป้ากลยุทธ์การก้าวสู่บริษัท Food Tech ในอนาคต” ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2566 ของ UBE สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัท มีรายได้รวมที่ 1,499.2 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 26.2 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบมันสำปะหลัง และปริมาณขายที่ลดลงของเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม และแป้งมันสำปะหลัง สำหรับทิศทางการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2566 ยังคงเป็นช่วงที่ท้าทายจากปริมาณวัตถุดิบมันสำปะหลัง และราคามันสำปะหลังทรงตัวในระดับสูง อย่างไรก็ดี คาดการณ์สถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบจะคลี่คลายในไตรมาสที่ 3/2566 เมื่อผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มเก็บเกี่ยว ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จะหนุนอุปสงค์เอทานอล ทั้งนี้ บริษัท ยังคงสานต่อกลยุทธ์ด้านความร่วมมือเพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนปริมาณการขายสินค้ากลุ่มมูลค่าสูง ทั้งแป้งออร์แกนิคและฟลาวมันสำปะหลัง และยังอยู่ในระหว่างการศึกษา และแสวงหาโอกาสเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน และมุ่งเน้นกิจกรรมการตลาด ทั้งการเข้าสู่ตลาดใหม่ในต่างประเทศ และการขยายช่องทางการจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ในประเทศให้หลากหลายและต่อเนื่องมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในด้านวัตถุดิบ ด้วยการเดินหน้า “โครงการ อีสานล่าง 2 โมเดล” บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในเรื่องการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สามารถบริหารจัดการแปลงมันสำปะหลังอินทรีย์ได้อย่างยั่งยืน อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1067926 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#UBE #อุบลไบโอเอทานอล #FoodTech#Business …

UBE เริ่ดคักหลาย เดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร สู่เป้าหมายบริษัท Food Tech . อ่านเพิ่มเติม »

ขอนแก่น ปังหลาย ! Mark Tuan จัดเต็มคอนเสิร์ต 2 วันเต็ม อากาเซ่เต็มฮอล

ขอนแก่น ปังหลาย ! Mark Tuan จัดเต็มคอนเสิร์ต 2 วันเต็ม อากาเซ่เต็มฮอล เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่แฟนๆ อากาเซ่ชาวไทยตั้งตารอ มาร์ค ต้วน หรือว่า พี่จ๋าของหลายๆ คน กับเอเชียทัวร์ของเค้าเป็นครั้งแรก ในคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า Mark Tuan The Other Side Asia Tour 2023 โดยการนำเข้ามาของ ทางบริษัท ไบร์ท แพนเทอร์ จำกัด สิ้นสุดการรอคอยของเหล่าอากาเซ่ มาร์ค ต้วน เยือนขอนแก่นจัดเต็มคอนเสิร์ตถึงสองวัน ในวันที่ 12-13 พ.ค. 2566 ใน Mark Tuan ASIA TOUR 2023 ที่ KICE ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น -ไคซ์ อีกทั้งยังได้มาเที่ยวที่จังหวัดขอนแก่น ล่วงหน้าวันคอนเสิร์ตอีกด้วย ซึ่งพี่จ๋าได้ไปที่ ตลาดต้นตาล เตี๋ยวเซ้ง อีสานเลานจ์ E-SAN Lounge หรือจะทำเล็บตามพี่จ๋าจาก Maliblue420.studio โดยช่วงสุดสัปดาห์นี้ จ.ขอนแก่น การจราจรคึกคักอย่างมาก เนื่องจากอากาเซ่จากที่อื่น ๆ มากเยือนขอนแก่น และคาดว่ามีคนกลับบ้าน เพื่อมาเลือกตั้งเป็นจำนวนมากอีกด้วย ส่งผลให้เศรษฐกิจด้านบริการของขอนแก่น เติบโตขึ้นอย่างมาก จากงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ สอบถามข้อมูลคอนเสิร์ตเพิ่มเติม Brite Panther อ้างอิงรูปภาพ: Brite Panther #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ขอนแก่น #theothersidetour #MarkTuanAsiatour2023 #theothersideAsiaTour #MarkTuan

เลือกตั้ง 2566 ควรรู้อิหยังบ้าง ? ก่อนออกไปใช้สิทธิ ในวันที่ 14 พ.ค. 2566

เลือกตั้ง 2566 ควรรู้อิหยังบ้าง ? ก่อนออกไปใช้สิทธิ ในวันที่ 14 พ.ค. 2566   ข้อควรรู้ก่อนไปเลือกตั้ง  เลือกตั้ง 2566 ใช้บัตรอะไรได้บ้าง ▪️ บัตรประชาชนตัวจริง (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) ▪️ บัตรหรือหลักฐานที่ราชการหรือหน่วยงานรัฐออกให้ มีรูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวประชาขน เช่น ใบขับขี่, บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ, หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เลือกตั้ง 2566 วัน เวลาไหน ▪️ วันที่ 14 พฤษภาคม 2566: เป็นวันเลือกตั้ง 2566 โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องเดินทางไปใช้สิทธิในเขตพื้นที่ที่ตนเองมีรายชื่อตามทะเบียนบ้าน ▪️ ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. ⏱️ เลือกตั้ง 2566 กาบัตรกี่ใบ อะไรบ้าง บัตรเลือกตั้งที่จะใช้สำหรับการเลือกตั้ง 2566 มีทั้งหมด 2 ใบ: คือบัตรสีม่วงและสีเขียว 💜 บัตรเลือกตั้ง “สีม่วง” ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (เลือกเบอร์ผู้สมัคร ส.ส.): บัตรใบนี้จะมีหมายเลขผู้สมัครและช่องกากบาทให้เราเลือกกา แต่จะไม่มีสัญลักษณ์พรรคการเมืองและชื่อผู้สมัครปรากฏบนบัตร ต้องเช็กให้ดีว่าผู้สมัครในเขตที่เราต้องการเลือกนั้นหมายเลขอะไร 💚 บัตรเลือกตั้ง “สีเขียว” ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (เลือกเบอร์พรรคการเมือง): บัตรใบนี้จะหมายเลข สัญลักษณ์ และชื่อพรรคการเมืองปรากฏอยู่บนบัตร   เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ ได้ที่เว็บไซต์ : https://www.vote62.com/candidates/%e0%b8%aa.%e0%b8%aa.%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad/     สามารถตรวจสอบตรวจสอบรายละเอียดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ที่เว็บไซต์ : https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection/   แล้วอย่าลืมไปใช้สิทธิ์กัน!!   อ้างอิงจาก :  iLaw, คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) https://www.thairath.co.th/news/politic/2681730  https://www.thairath.co.th/news/politic/2691928    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เลือกตั้ง #เลือกตั้ง66 #เลือกตั้งอีสาน 

“ต้นทอง” เริ่ดคักหลาย เปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม กวาดรายได้กว่าคืนละ 10,000 – 20,000 บาท

เรื่องราวของเขียงหมูที่หันมาเปิดชอปขายหมู แบบ 24 ชั่วโมง มีให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งในย่านใกล้กรุงเทพฯ ในแทบปริมณฑล ได้เห็นชอปขายหมู 24 ชั่วโมงหลายแห่ง แต่ที่พามารู้จักวันนี้ เป็น “ชอปขายหมู 24 ชั่วโมง” จากจังหวัดสุรินทร์ คุณเจษฎาพรรณ ต้นทอง กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงเชือดสุกรต้นทอง จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า ครอบครัวทำธุระกิจเขียงหมูมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ทำมากว่า 30 ปี และได้มารับช่วงดูแลกิจการต่อ และเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาครอบครัวทำโรงเชือดหลังบ้านมาตลอด แต่หลังจากที่มีกฎหมายออกมาให้ทุกโรงเชือดต้องปฎิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการทำโรงเชือดสุกรจากหลังบ้านมาเป็นหน้าบ้าน และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โรงเชือดสุกรต้นทองต้องเข้ามาตรฐาน และได้มาตรฐาน GAP และ GMP ของกรมปศุสัตว์ โดยหลังจากได้ปรับมาเป็นโรงเชือดได้มาตรฐานหน้าบ้าน ทำให้เราได้ลูกค้าที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาติดต่อเพื่อส่งสุกรมาให้เชือด และได้ลูกค้าโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของการส่งหมูขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ได้มีการขยายพื้นที่การส่งออกไปในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน โดยมียอดการขายหมูต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 -15 ตัน หลายคนสงสัยว่าทำอย่างไรถึงจะได้ขายในโมเดิร์นเทรด? คุณเจษฎาพรรณ ได้ปรับวิฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงที่โควิดระบาด โรงเชือดหมูขนาดใหญ่หลายแห่งขาดแคลนแรงงาน ระบบการขนส่งมีปัญหา เพราะแรงงานติดโควิด ทำให้ต้องปิดโรงเชือดเพราะไม่มีแรงงาน ทางโมเดิร์นเทรดจึงมองหาซัพพรายเออร์คนใหม่ที่ได้รับมาตรฐานGMP ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์โควิดกลับมาปกติ โดยโรงเชือดอื่น ๆ กลับมาให้บริการเหมือนเดิม แต่ทางโมเดิร์นเทรดก็ยังคงเลือกสั่งหมูจากโรงเชือดของเรา เพราะด้วยบริการที่สามารถส่งหมูให้เขาได้ตรงตามเวลาและมีคุณภาพ คุณเจษฎาพรรณ เล่าว่า นอกจากโรงเชือดแล้ว ได้เปิดธุรกิจเกี่ยวกับหมูครบวงจร ตั้งแต่การเปิดร้านหมูกระทะ มาจนถึงการเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ซึ่งการเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ช่วยให้ลูกค้าจะมาซื้อหมูเวลาไหนก็สามารถซื้อหมูได้ และยังเป็นชอปขายหมู 24 ชั่วโมงแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์ อย่างไรก็ดี การเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ยังเป็นเรื่องใหม่ของคนสุรินทร์ ในตอนแรกที่เปิดยอดขายในช่วงเวลากลางคืน อยู่ที่หลักร้อยหลักพันบาทต่อวัน ในช่วง 2-3 เดือนแรก แต่พอผ่านมาสักระยะมีคนรู้จักและบอกต่อ ทุกวันนี้ กลายเป็นว่ายอดขายกลางคืนเพิ่มเป็น 10,000 – 20,000 บาท และสาเหตุที่ยอดขายเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากพ่อค้า แม่ค้า ขายอาหาร หรือแม้แต่เขียงหมูก็จะมาซื้อกันตอนกลางคืน พอจ่ายตลาดซื้อของในตลาดสดเสร็จก็แวะมาซื้อหมู ทำให้ยอดขายในตอนกลางคืนเพิ่มขึ้น สำหรับภายในชอป 24 ชั่วโมง ไม่ได้มีแค่หมู แต่ทางเจ้าของยังได้มีไก่สดขายด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และทางร้านยังได้จัดเมนูหมูหมัก หมูกระทะมาขายในชอปด้วย เพราะหลายคนชื่นชอบเมนูหมูกระทะ และต้องการซื้อไปปิ้งกินเองที่บ้าน ก็สามารถมาซื้อที่ชอปของทางร้านได้ สำหรับชอปขายหมู 24 ชั่วโมงเป็นรูปแบบใหม่ของการยกระดับเขียงหมูหน้าโรงเชือด ออกมาในรูปแบบของชอป เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องของความสดและสะอาด การเปิด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ใช่พ่อค้า แม่ค้า ก็สามารถแวะมาซื้อได้ ในราคาที่ถูกกว่าทำให้ชอปขายหมู 24 …

“ต้นทอง” เริ่ดคักหลาย เปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม กวาดรายได้กว่าคืนละ 10,000 – 20,000 บาท อ่านเพิ่มเติม »

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้

เคลื่อนทัพสร้างอาณาจักรมิกซ์ยูส “เซ็นทรัล อุบล” ที่มีเรือธงศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบล และ คอนโด ESCENT ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิต สำหรับยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร “เซ็นทรัลพัฒนา” เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” (Centara Ubon) จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์การพักผ่อนและท่องเที่ยว หนึ่งในแม่เหล็กและจิ๊กซอว์สำคัญของ Hub of Lifestyle แห่งอีสานตอนใต้ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Property บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การพัฒนาโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” เป็นการเปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวและพักผ่อนตอบโจทย์ทั้ง Business & Leisure ยกระดับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนด้วยห้องพักหรู เอ็นจอยไนท์ไลฟ์ที่บาร์ TEENS OF THAILAND พร้อมจับมือกับ “Local Hero” ร้านกาแฟ GODFATHER ยกคาเฟ่สุดคูลแห่งอีสานมาไว้ถึงที่ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างความสุขให้กับจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงนักเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และยโสธร และเพื่อนบ้านจากลาว และ เวียดนามอีกด้วย สุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Head of Hotel Development กล่าวเสริมว่า โรงแรมเซ็นทารา อุบล จะเป็น Top of Mind Destination ของจังหวัดและศูนย์กลางของอีสานตอนใต้ เป็น “ห้องรับแขก” รอต้อนรับผู้คนทั้งในจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดอุบลและภาคอีสานมาร้อยเรียงเรื่องราวผ่านงานดีไซน์และงานศิลปะที่นำเสนอในพื้นที่และมุมต่างๆ ของโรงแรม ซึ่งได้มีการจัดวางผลงาน Art Piece ดึง Local Essence มานำเสนออย่างมีเอกลักษณ์ โดยมีโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” จุดหมายปลายทางแบบ All-In-One ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทางทั้งสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนและติดต่อธุรกิจ เซ็นทารา อุบล ยังมีพื้นที่จัดงานในส่วนกลางของโรงแรม รวมถึงห้องประชุมและอบรมสัมนา และห้องแกรนด์บอลรูม รองรับการจัดงานประชุม สัมมนา งานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ อีกทั้งโดดเด่นและแตกต่างด้วยดีไซน์กลิ่นอายอุบลและอีสานซ่อนอยู่ในทุกมุม เริ่มจากการเลือกวัสดุและสีที่มีความเฉพาะตัวของ “ก้อนอิฐ” หนึ่งในวัสดุที่อยู่คู่กับสถาปัตยกรรมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในภาคอีสาน เกิดจากการนำดินแดงผสมกับแกลบเผาไฟเพื่อให้กลายเป็นก้อน เชื่อมประสานกันด้วยปูน มีความแข็งแรง และเรียงก่อเป็นรูปได้หลากหลาย ซึ่งก้อนอิฐทุกก้อนที่นำมาเรียงรังสรรค์เป็นเซ็นทารา อุบล ล้วนเป็นฝีมือของช่างพื้นเมืองทั้งสิ้น การตกแต่งโรงแรมเซ็นทารา อุบล เลือกใช้งานหัตถกรรมของชาวอุบลและชาวอีสาน อาทิ ผ้าฝ้ายและผ้าไหมลวดลายเฉพาะถิ่น โดยเฉพาะ “ลายกาบบัว” ลายผ้าเฉพาะของจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมงานจักรสานด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และงานประติมากรรมอันโดดเด่น ที่ออกแบบให้เป็น Masterpiece หนึ่งเดียวในโลก เพื่อให้โรงแรมแห่งนี้มีกลิ่นอายของความเป็นชุมชนท้องถิ่นอย่างลงตัว …

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม »

พร้อมช่วยหลาย ! บสย.โรดโชว์อุดรฯ ค้ำสินเชื่อ SMEs   10 จังหวัดอีสานบน

พร้อมช่วยหลาย ! บสย.โรดโชว์อุดรฯ ค้ำสินเชื่อ SMEs   10 จังหวัดอีสานบน   บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โรดโชว์อุดรธานี รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง โดยนายสิทธิกร  ดิเรกสุนทร  กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ปลุกธุรกิจรายเล็ก 10 จังหวัดอีสานตอนบน ร่วม SMEsเข้มแข็ง ลั่นพร้อมค้ำให้เข้าถึงสินเชื่อเต็มเม็ดเต็มหน่วย ค่าธรรมเนียมต่ำ รวดเร็วฉับไว   นายฐิตวัฒน์  พรหมทวีโชค  ผจก.สำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อุดรธานี  ซึ่งดูและพื้นที่ 10 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธ์ นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย  และจังหวัดเลย  ร่วมกันแถลงการเปิดตัวโครงการ “ บสย.SMEs เข้มแข็ง ” โครงการใหม่บสย.ประจำปี 2566   ช่วง 2564-2565 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดเชื้อโควิค-19  บสย.ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ ผ่านมาตรการค้ำประกันสินเชื่อไปเกือบ 5 แสนล้านบาท เป็นผู้ประกอบการ SMEs กว่า 3 แสนราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการรายย่อยมากถึง 270,000 รายเศษ       สำหรับ 3 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค. 2566 )  บสย. สำนักงานเขตอีสานตอนบน ได้ค้ำประกันเงินกู้ของผู้ประกอบการ SMEs ไปแล้วจำนวน  2,003.08  ล้านบาท มีผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อและอนุมัติการค้ำประกัน จำนวน 865  ราย สูงสุดคือ 1. กลุ่มผู้ประกอบการบริการทุกประเภท  2. กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 3. กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตสินค้าและการค้าอื่น ๆ และ 4. กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภค บริโภค   ในปี 2566 นี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ในกรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท โดย บสย.ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “โครงการบสย. SMEs เข้มแข็ง” ซึ่งมีข้อดีที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในรอบนี้ คือ  1.ในรอบนี้ บสย.จะให้การค้ำประกันตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 40 ล้านบาทต่อราย ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ SMEs  …

พร้อมช่วยหลาย ! บสย.โรดโชว์อุดรฯ ค้ำสินเชื่อ SMEs   10 จังหวัดอีสานบน อ่านเพิ่มเติม »

อีสานเริ่ดคักหลาย ศุภาลัยทุ่มเงิน 1,000 ล้าน ผุดปาล์มวิลล์ สันตพลชิงแชร์ จ.อุดรธานี

นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจของจ.อุดรธานีมีทิศทางดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีก่อน อุดรฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งในด้านการเป็นศูนย์การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอีสานตอนบน ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาไปสู่รถไฟความเร็วสูงสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวไปยังประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้อย่างสะดวก ขณะที่ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ของชาวอุดรฯและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังคงขยายตัวไปในแนวโน้มที่ดี บริษัทจึงเดินหน้าปักหมุดโครงการใหม่ มูลค่า 1,000 ล้านบาทภายใต้โครงการ “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ สันตพล” ซึ่งเป็นโครงการที่ 8 ในจ.อุดรธานี ที่ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Modern Tropical และบ้านแฝดรุ่นใหม่ ให้ลูกค้าได้เลือกสรรที่อยู่อาศัยได้ตรงใจกับการใช้ชีวิต “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ สันตพล” เชื่อมต่อทุกเส้นทางได้สะดวกสบายกว่าใคร ผ่านแนวคิด ‘Connect All Journeys Dignify All Perspective เชื่อมติดชีวิตทุกการเดินทาง สง่างามทุกมุมมอง’ กับทำเลศักยภาพใจกลางเมืองอุดรธานี ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา แหล่งชุมชน อาทิ บิ๊กซี สันตพล, UD TOWN, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล และทุ่งศรีเมือง พร้อมทั้งทางเข้า-ออกสะดวกได้ 2 ทาง จากถนนเลี่ยงเมือง และถนนนิตโย อีกพื้นที่สำหรับคนไม่ชอบเปียก กับการจัดกิจกรรมตามวิถีไทย โดยเปิดให้สรงน้ำพระพุทธรูปจาก 9 วัดดังทั่วประเทศไทย และกิจกรรมก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น ซึ่งประเมินจะมีกลุ่มคนเข้าร่วมงานกว่า 1 แสนคน สร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 100 ล้านบาทมากสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาร่วมงานทั้งคนไทย และกลุ่มลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านคือ ลาว เวียดนาม และจีน รวมถึงลูกค้าจากยุโรป ที่เดินทางข้ามประเทศมาร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้เช่นกัน เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตบนพื้นที่โครงการ 42 ไร่ ที่มาพร้อมแบบ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Modern Tropical ถึง 4 แบบ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 162 – 261 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ และบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 126-151 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน …

อีสานเริ่ดคักหลาย ศุภาลัยทุ่มเงิน 1,000 ล้าน ผุดปาล์มวิลล์ สันตพลชิงแชร์ จ.อุดรธานี อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top