Article

บทความ จากบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอีสาน ทั้ง ISAN Outlook และข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ รวบรวมให้คุณรู้ทันทุกข้อมูล เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อีสาน

“ต้นทอง” เริ่ดคักหลาย เปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม กวาดรายได้กว่าคืนละ 10,000 – 20,000 บาท

เรื่องราวของเขียงหมูที่หันมาเปิดชอปขายหมู แบบ 24 ชั่วโมง มีให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งในย่านใกล้กรุงเทพฯ ในแทบปริมณฑล ได้เห็นชอปขายหมู 24 ชั่วโมงหลายแห่ง แต่ที่พามารู้จักวันนี้ เป็น “ชอปขายหมู 24 ชั่วโมง” จากจังหวัดสุรินทร์ คุณเจษฎาพรรณ ต้นทอง กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงเชือดสุกรต้นทอง จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า ครอบครัวทำธุระกิจเขียงหมูมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ทำมากว่า 30 ปี และได้มารับช่วงดูแลกิจการต่อ และเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาครอบครัวทำโรงเชือดหลังบ้านมาตลอด แต่หลังจากที่มีกฎหมายออกมาให้ทุกโรงเชือดต้องปฎิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการทำโรงเชือดสุกรจากหลังบ้านมาเป็นหน้าบ้าน และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โรงเชือดสุกรต้นทองต้องเข้ามาตรฐาน และได้มาตรฐาน GAP และ GMP ของกรมปศุสัตว์ โดยหลังจากได้ปรับมาเป็นโรงเชือดได้มาตรฐานหน้าบ้าน ทำให้เราได้ลูกค้าที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาติดต่อเพื่อส่งสุกรมาให้เชือด และได้ลูกค้าโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของการส่งหมูขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ได้มีการขยายพื้นที่การส่งออกไปในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน โดยมียอดการขายหมูต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 -15 ตัน หลายคนสงสัยว่าทำอย่างไรถึงจะได้ขายในโมเดิร์นเทรด? คุณเจษฎาพรรณ ได้ปรับวิฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงที่โควิดระบาด โรงเชือดหมูขนาดใหญ่หลายแห่งขาดแคลนแรงงาน ระบบการขนส่งมีปัญหา เพราะแรงงานติดโควิด ทำให้ต้องปิดโรงเชือดเพราะไม่มีแรงงาน ทางโมเดิร์นเทรดจึงมองหาซัพพรายเออร์คนใหม่ที่ได้รับมาตรฐานGMP ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์โควิดกลับมาปกติ โดยโรงเชือดอื่น ๆ กลับมาให้บริการเหมือนเดิม แต่ทางโมเดิร์นเทรดก็ยังคงเลือกสั่งหมูจากโรงเชือดของเรา เพราะด้วยบริการที่สามารถส่งหมูให้เขาได้ตรงตามเวลาและมีคุณภาพ คุณเจษฎาพรรณ เล่าว่า นอกจากโรงเชือดแล้ว ได้เปิดธุรกิจเกี่ยวกับหมูครบวงจร ตั้งแต่การเปิดร้านหมูกระทะ มาจนถึงการเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ซึ่งการเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ช่วยให้ลูกค้าจะมาซื้อหมูเวลาไหนก็สามารถซื้อหมูได้ และยังเป็นชอปขายหมู 24 ชั่วโมงแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์ อย่างไรก็ดี การเปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ยังเป็นเรื่องใหม่ของคนสุรินทร์ ในตอนแรกที่เปิดยอดขายในช่วงเวลากลางคืน อยู่ที่หลักร้อยหลักพันบาทต่อวัน ในช่วง 2-3 เดือนแรก แต่พอผ่านมาสักระยะมีคนรู้จักและบอกต่อ ทุกวันนี้ กลายเป็นว่ายอดขายกลางคืนเพิ่มเป็น 10,000 – 20,000 บาท และสาเหตุที่ยอดขายเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากพ่อค้า แม่ค้า ขายอาหาร หรือแม้แต่เขียงหมูก็จะมาซื้อกันตอนกลางคืน พอจ่ายตลาดซื้อของในตลาดสดเสร็จก็แวะมาซื้อหมู ทำให้ยอดขายในตอนกลางคืนเพิ่มขึ้น สำหรับภายในชอป 24 ชั่วโมง ไม่ได้มีแค่หมู แต่ทางเจ้าของยังได้มีไก่สดขายด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และทางร้านยังได้จัดเมนูหมูหมัก หมูกระทะมาขายในชอปด้วย เพราะหลายคนชื่นชอบเมนูหมูกระทะ และต้องการซื้อไปปิ้งกินเองที่บ้าน ก็สามารถมาซื้อที่ชอปของทางร้านได้ สำหรับชอปขายหมู 24 ชั่วโมงเป็นรูปแบบใหม่ของการยกระดับเขียงหมูหน้าโรงเชือด ออกมาในรูปแบบของชอป เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องของความสดและสะอาด การเปิด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ใช่พ่อค้า แม่ค้า ก็สามารถแวะมาซื้อได้ ในราคาที่ถูกกว่าทำให้ชอปขายหมู 24 …

“ต้นทอง” เริ่ดคักหลาย เปิดชอปขายหมู 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม กวาดรายได้กว่าคืนละ 10,000 – 20,000 บาท อ่านเพิ่มเติม »

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้

เคลื่อนทัพสร้างอาณาจักรมิกซ์ยูส “เซ็นทรัล อุบล” ที่มีเรือธงศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบล และ คอนโด ESCENT ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิต สำหรับยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร “เซ็นทรัลพัฒนา” เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” (Centara Ubon) จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์การพักผ่อนและท่องเที่ยว หนึ่งในแม่เหล็กและจิ๊กซอว์สำคัญของ Hub of Lifestyle แห่งอีสานตอนใต้ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Property บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การพัฒนาโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” เป็นการเปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวและพักผ่อนตอบโจทย์ทั้ง Business & Leisure ยกระดับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนด้วยห้องพักหรู เอ็นจอยไนท์ไลฟ์ที่บาร์ TEENS OF THAILAND พร้อมจับมือกับ “Local Hero” ร้านกาแฟ GODFATHER ยกคาเฟ่สุดคูลแห่งอีสานมาไว้ถึงที่ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างความสุขให้กับจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงนักเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และยโสธร และเพื่อนบ้านจากลาว และ เวียดนามอีกด้วย สุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Head of Hotel Development กล่าวเสริมว่า โรงแรมเซ็นทารา อุบล จะเป็น Top of Mind Destination ของจังหวัดและศูนย์กลางของอีสานตอนใต้ เป็น “ห้องรับแขก” รอต้อนรับผู้คนทั้งในจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดอุบลและภาคอีสานมาร้อยเรียงเรื่องราวผ่านงานดีไซน์และงานศิลปะที่นำเสนอในพื้นที่และมุมต่างๆ ของโรงแรม ซึ่งได้มีการจัดวางผลงาน Art Piece ดึง Local Essence มานำเสนออย่างมีเอกลักษณ์ โดยมีโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” จุดหมายปลายทางแบบ All-In-One ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทางทั้งสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนและติดต่อธุรกิจ เซ็นทารา อุบล ยังมีพื้นที่จัดงานในส่วนกลางของโรงแรม รวมถึงห้องประชุมและอบรมสัมนา และห้องแกรนด์บอลรูม รองรับการจัดงานประชุม สัมมนา งานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ อีกทั้งโดดเด่นและแตกต่างด้วยดีไซน์กลิ่นอายอุบลและอีสานซ่อนอยู่ในทุกมุม เริ่มจากการเลือกวัสดุและสีที่มีความเฉพาะตัวของ “ก้อนอิฐ” หนึ่งในวัสดุที่อยู่คู่กับสถาปัตยกรรมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในภาคอีสาน เกิดจากการนำดินแดงผสมกับแกลบเผาไฟเพื่อให้กลายเป็นก้อน เชื่อมประสานกันด้วยปูน มีความแข็งแรง และเรียงก่อเป็นรูปได้หลากหลาย ซึ่งก้อนอิฐทุกก้อนที่นำมาเรียงรังสรรค์เป็นเซ็นทารา อุบล ล้วนเป็นฝีมือของช่างพื้นเมืองทั้งสิ้น การตกแต่งโรงแรมเซ็นทารา อุบล เลือกใช้งานหัตถกรรมของชาวอุบลและชาวอีสาน อาทิ ผ้าฝ้ายและผ้าไหมลวดลายเฉพาะถิ่น โดยเฉพาะ “ลายกาบบัว” ลายผ้าเฉพาะของจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมงานจักรสานด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และงานประติมากรรมอันโดดเด่น ที่ออกแบบให้เป็น Masterpiece หนึ่งเดียวในโลก เพื่อให้โรงแรมแห่งนี้มีกลิ่นอายของความเป็นชุมชนท้องถิ่นอย่างลงตัว …

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม »

พร้อมช่วยหลาย ! บสย.โรดโชว์อุดรฯ ค้ำสินเชื่อ SMEs   10 จังหวัดอีสานบน

พร้อมช่วยหลาย ! บสย.โรดโชว์อุดรฯ ค้ำสินเชื่อ SMEs   10 จังหวัดอีสานบน   บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โรดโชว์อุดรธานี รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง โดยนายสิทธิกร  ดิเรกสุนทร  กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ปลุกธุรกิจรายเล็ก 10 จังหวัดอีสานตอนบน ร่วม SMEsเข้มแข็ง ลั่นพร้อมค้ำให้เข้าถึงสินเชื่อเต็มเม็ดเต็มหน่วย ค่าธรรมเนียมต่ำ รวดเร็วฉับไว   นายฐิตวัฒน์  พรหมทวีโชค  ผจก.สำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อุดรธานี  ซึ่งดูและพื้นที่ 10 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธ์ นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย  และจังหวัดเลย  ร่วมกันแถลงการเปิดตัวโครงการ “ บสย.SMEs เข้มแข็ง ” โครงการใหม่บสย.ประจำปี 2566   ช่วง 2564-2565 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดเชื้อโควิค-19  บสย.ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ ผ่านมาตรการค้ำประกันสินเชื่อไปเกือบ 5 แสนล้านบาท เป็นผู้ประกอบการ SMEs กว่า 3 แสนราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการรายย่อยมากถึง 270,000 รายเศษ       สำหรับ 3 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค. 2566 )  บสย. สำนักงานเขตอีสานตอนบน ได้ค้ำประกันเงินกู้ของผู้ประกอบการ SMEs ไปแล้วจำนวน  2,003.08  ล้านบาท มีผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อและอนุมัติการค้ำประกัน จำนวน 865  ราย สูงสุดคือ 1. กลุ่มผู้ประกอบการบริการทุกประเภท  2. กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 3. กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตสินค้าและการค้าอื่น ๆ และ 4. กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภค บริโภค   ในปี 2566 นี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ในกรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท โดย บสย.ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “โครงการบสย. SMEs เข้มแข็ง” ซึ่งมีข้อดีที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในรอบนี้ คือ  1.ในรอบนี้ บสย.จะให้การค้ำประกันตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 40 ล้านบาทต่อราย ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ SMEs  …

พร้อมช่วยหลาย ! บสย.โรดโชว์อุดรฯ ค้ำสินเชื่อ SMEs   10 จังหวัดอีสานบน อ่านเพิ่มเติม »

อีสานเริ่ดคักหลาย ศุภาลัยทุ่มเงิน 1,000 ล้าน ผุดปาล์มวิลล์ สันตพลชิงแชร์ จ.อุดรธานี

นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจของจ.อุดรธานีมีทิศทางดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีก่อน อุดรฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งในด้านการเป็นศูนย์การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอีสานตอนบน ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาไปสู่รถไฟความเร็วสูงสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวไปยังประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้อย่างสะดวก ขณะที่ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ของชาวอุดรฯและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังคงขยายตัวไปในแนวโน้มที่ดี บริษัทจึงเดินหน้าปักหมุดโครงการใหม่ มูลค่า 1,000 ล้านบาทภายใต้โครงการ “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ สันตพล” ซึ่งเป็นโครงการที่ 8 ในจ.อุดรธานี ที่ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Modern Tropical และบ้านแฝดรุ่นใหม่ ให้ลูกค้าได้เลือกสรรที่อยู่อาศัยได้ตรงใจกับการใช้ชีวิต “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ สันตพล” เชื่อมต่อทุกเส้นทางได้สะดวกสบายกว่าใคร ผ่านแนวคิด ‘Connect All Journeys Dignify All Perspective เชื่อมติดชีวิตทุกการเดินทาง สง่างามทุกมุมมอง’ กับทำเลศักยภาพใจกลางเมืองอุดรธานี ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา แหล่งชุมชน อาทิ บิ๊กซี สันตพล, UD TOWN, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล และทุ่งศรีเมือง พร้อมทั้งทางเข้า-ออกสะดวกได้ 2 ทาง จากถนนเลี่ยงเมือง และถนนนิตโย อีกพื้นที่สำหรับคนไม่ชอบเปียก กับการจัดกิจกรรมตามวิถีไทย โดยเปิดให้สรงน้ำพระพุทธรูปจาก 9 วัดดังทั่วประเทศไทย และกิจกรรมก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น ซึ่งประเมินจะมีกลุ่มคนเข้าร่วมงานกว่า 1 แสนคน สร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 100 ล้านบาทมากสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาร่วมงานทั้งคนไทย และกลุ่มลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านคือ ลาว เวียดนาม และจีน รวมถึงลูกค้าจากยุโรป ที่เดินทางข้ามประเทศมาร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้เช่นกัน เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตบนพื้นที่โครงการ 42 ไร่ ที่มาพร้อมแบบ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Modern Tropical ถึง 4 แบบ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 162 – 261 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ และบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 126-151 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน …

อีสานเริ่ดคักหลาย ศุภาลัยทุ่มเงิน 1,000 ล้าน ผุดปาล์มวิลล์ สันตพลชิงแชร์ จ.อุดรธานี อ่านเพิ่มเติม »

เตือนเด้อ  “พายุฤดูร้อน” ภาคอีสาน กระทบก่อน

เตือนเด้อ “พายุฤดูร้อน” ภาคอีสาน กระทบก่อน   ประกาศฉบับที่ 4 เตือน “พายุฤดูร้อน” อีสาน กระทบก่อน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 4 พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 23-26 เม.ย. 2566   ในช่วงวันที่ 23 – 26 เมษายน 2566  ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่   โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีผลกระทบ มีดังนี้ วันที่ 23 เมษายน 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี   วันที่ 24 เมษายน 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี   วันที่ 25 – 26 เมษายน 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:  จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี   อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี …

เตือนเด้อ  “พายุฤดูร้อน” ภาคอีสาน กระทบก่อน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่งศูนย์การค้า ยูดีทาวน์ จัด ‘สงกรานต์’ ที่ผ่านมาเล่นสาดน้ำในศูนย์การค้าสุดอะเมซิ่ง

สำรวจบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ 2566 ในพื้นที่ศูนย์การค้าต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้ประกอบการต่างจัดงานในรูปแบบที่เปิดพื้นที่ให้เล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมจัดกิจกรรมฟรีคอนเสิร์ตที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้ และคอนเสิร์ตที่ต้องจ่ายตั๋วในการเข้าชม เพื่อร่วมกระตุ้นกลุ่มลูกค้าเข้ามาทำกิจกรรมและใช้จ่ายในพื้นที่ ขณะเดียวกันได้มีการจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้าที่อยากหนีร้อนมาสัมผัสสงกรานต์ในศูนย์การค้าแบบไม่ต้องเปียก จึงมีการจัดให้มีพื้นที่สำหรับเสริมความมงคลสรงน้ำพระดังทั่วไทย เพิ่มความพลังความมูทุกพื้นที่ ทำให้บรรยากาศโดยรวมของศูนย์การค้าทั่วไทย ตั้งแต่การจัดงานวันที่ 13 เม.ย.จนถึงวันที่ 15 เม.ย. จึงมีความคึกคักมากสุดในรอบกว่า 3 ปี ศูนย์การค้า ยูดีทาวน์ จังหวัดอุดรธานี ไฮไลท์สำคัญของการจัดงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดสงกรานต์เฟสใหญ่สุด “UDON SONGKRAN FESTIVAL 2023” เป็นการจัดงานผสมวัฒนธรรมอีสานและเทศกาลดนตรีไว้ด้วยกัน มีการจัดเทศกาลดนตรี EDM ที่ใหญ่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมดึงดีเจระดับโลกมาร่วมงานอาทิ Mike William ดีเจชื่อดัง จากเนเธอร์แลนด์, Gammer จากสหราชอาณาจักร, Bonka จากโคลอมเบีย และดีเจชั้นนำระดับประเทศ กว่า 40 ชีวิต รวมถึงศิลปินจากไทยวง Paradise Bangkok หมอลำอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้น อีกพื้นที่สำหรับคนไม่ชอบเปียก กับการจัดกิจกรรมตามวิถีไทย โดยเปิดให้สรงน้ำพระพุทธรูปจาก 9 วัดดังทั่วประเทศไทย และกิจกรรมก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น ซึ่งประเมินจะมีกลุ่มคนเข้าร่วมงานกว่า 1 แสนคน สร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 100 ล้านบาทมากสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาร่วมงานทั้งคนไทย และกลุ่มลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านคือ ลาว เวียดนาม และจีน รวมถึงลูกค้าจากยุโรป ที่เดินทางข้ามประเทศมาร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้เช่นกัน “หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนคืออุดรธานี อยู่ใกล้กับจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมาขอพร โดยจะโดยสารเครื่องบินมาลงที่อุดรธานี ต่อไปที่บึงกาฬ ซึ่งกลุ่มชาวจีนให้ความสนใจเรื่องการไหว้ขอพรไม่แพ้คนไทย ทำให้สงกรานต์ในแต่ละปีที่อุดรธานีจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาร่วมงานเช่นกัน” ​​อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1063247 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#อุดร #ยูดีทาวน์ #สงกรานต์อุดร #สงกรานต์

ปังหลาย “ขอนแก่น” เป็นที่ 1 ปลายทางท่องเที่ยว คุ้มค่าที่สุดเอเชียแปซิฟิก

ปังหลาย “ขอนแก่น” เป็นที่ 1 ปลายทางท่องเที่ยว คุ้มค่าที่สุดเอเชียแปซิฟิก   Agoda จัดอันดับ “จ.ขอนแก่น” เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเมษายน 2566 พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์     จังหวัดขอนแก่น ติดอันดับ 1 จากทั้งหมด 10 แหล่งจุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 (10 Most Affordable Destinations in Asia Pacific 2023) จาก Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ตอกย้ำความนิยมในแหล่งท่องเที่ยวของไทย พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้   จากเว็บไซต์ Travel Daily News ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับดังกล่าว ซึ่ง Agoda ได้วิเคราะห์ราคาเฉลี่ยห้องพักของแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ราคาย่อมเยาที่สุดในช่วงเดือนเมษายน 2566 ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้รับอันดับ 1 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดในเดือนเมษายน 2566 นี้ ด้วยราคาเฉลี่ย คืนละ 1,030 บาท นอกจากนี้ เมื่อเทียบราคาเฉลี่ยห้องพักในประเทศไทยรองจากขอนแก่น 4 อำเภอ/จังหวัด ที่ราคาคุ้มค่าเช่นกัน ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุดรธานี และหาดใหญ่ ตามลำดับ   นอกจากนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดเทศกาลสงกรานต์ (วันปีใหม่ไทย) ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน 2566 นี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมบึงแก่นนครและเตรียมพร้อมกับการเล่นสาดน้ำอย่างสนุกสนานในช่วงเทศกาลที่ถือได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย อีกทั้ง จังหวัดขอนแก่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น Hidden gems อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ โดยจังหวัดขอนแก่นได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนไดโนเสาร์ของประเทศไทย แต่ยังมีความเป็นเมืองที่ทันสมัย เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟที่อยู่ในกระแสนิยมมากมาย รวมทั้งมีทะเลสาบประจำเมืองที่สามารถจัดงานเทศกาลได้ตลอดทั้งปี มีตลาดโต้รุ่งต้นตาล ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารหลากหลาย ซึ่งโฆษกรัฐบาลระบุว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่สามารถนำผลตอบรับดังกล่าวไปเป็นแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเพื่อยกระดับประเพณีพื้นเมืองของไทยให้เป็นที่รู้จัก กระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง   ทั้งนี้ 10 จุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 มีการจัดลำดับดังนี้  ขอนแก่น ประเทศไทย Sibu มาเลเซีย Surakarta อินโดนีเซีย Puri อินเดีย Bacolod ฟิลิปปินส์ Ninh Binh เวียดนาม Chiba ญี่ปุ่น Gwangju เกาหลีใต้ หมู่เกาะ Kinmen ไต้หวัน …

ปังหลาย “ขอนแก่น” เป็นที่ 1 ปลายทางท่องเที่ยว คุ้มค่าที่สุดเอเชียแปซิฟิก อ่านเพิ่มเติม »

ไอเดียสุดปัง สร้างอาชีพ โมบาย “ดอกสะแบง” สร้างรายได้เดือนละ 3 หมื่น

ผู้นำชุมชนและชาวบ้านหัวนา หมู่ที่ 3 ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น กำลังช่วยกันนำดอกสะแบงสดที่เก็บมาจากต้นสะแบงที่เกิดตามท้องทุ่งนา และผ่านการคัดเลือกดอกที่สวยและสมบูรณ์แล้ว มาร้อยเข้ากันเป็นพวงให้ได้ความยาวประมาณ 3 เมตร ก่อนจะนำไปตากแดดให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วจึงนำพวงดอกสะแบงไปเย็บเข้ากับหมวกที่ทำจากไม้ไผ่จักสาน กลายเป็นโมบายดอกสะแบงสำหรับแขวนตกแต่งตามอาคาร บ้านเรือน หรือตามสถานที่ต่างๆ ได้ตามใจชอบ ซึ่งโมบายดอกสะแบงที่กลุ่มชาวบ้านกำลังทำอยู่นี้ ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปประดับตกแต่งที่เฮือนโบราณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2566 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เก็บความประทับใจ และส่วนหนึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์และสินค้าใหม่ของชาวบ้าน ที่ทำไว้เพื่อจำหน่าย สร้างอาชีพและรายได้ให้ชุมชน แม้ว่าขณะนี้จะเพิ่งเริ่มต้นทำ แต่หลังจากที่ชาวบ้านมีการโพสต์ภาพโมบายดอกสะแบงลงในโลกโซเชียล ปรากฏว่า มีคนให้ความสนใจสั่งซื้อไปประดับตกแต่งตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก นายกองโทพิชัย วันตา นายอำเภอหนองเรือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ดอกสะแบง เป็นดอกของไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 8 – 30 เมตร เกิดขึ้นตามท้องทุ่งนาในพื้นที่ภาคอีสาน มีดอกเป็นสีแดงเข้ม โดยจะออกดอกในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งปกติเมื่อออกดอกก็จะปล่อยให้ร่วงหล่นไปตามธรรมชาติ แต่ปีนี้ จังหวัดขอนแก่น ได้กำหนดจัดงานเทศกรานต์สงกรานต์วิถีไทบ้าน ที่เฮือนโบราณอีสาน บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2566 ซึ่งจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของงานทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น จึงได้ให้แต่ละอำเภอนำดอกสะแบง ซึ่งเป็นต้นไม้พื้นถิ่น มีสีแดงสวยงามและหาได้ง่าย มาร้อยเรียงให้สวยงามและนำมาประดับตกแต่งในเฮือนโบราณ ของแต่ละอำเภอให้สวยงาม ทำให้เกิดเป็นไอเดียให้กับชาวบ้านนำไปต่อยอดความคิด สร้างรายได้และเป็นอาชีพใหม่ให้กับชุมชน โดยเฉพาะอำเภอหนองเรือขณะนี้ผลิตได้มากกว่า 3,000 เส้น และเมื่อรวมทั้งจังหวัดอาจจะมีมากถึง 1 แสนเส้น นั่นหมายถึงทั่วบริเวณจัดงานจะเต็มไปด้วยดอกสะแบงบานสะพรั่งทั้งงานให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามและเก็บภาพความประทับใจ หลังจากที่ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันผลิตโมบายดอกสะแบงแล้ว ได้มีผู้ที่สนใจอยากได้โมบายดอกสะแบงขนาดเล็ก เพื่อไปประดับตกแต่งบ้านพัก หรือร้านค้ากันเข้ามาจำนวนมากจนผลิตไม่ทัน โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่เส้นละ 300 บาท หรือขึ้นอยู่กับขนาดและความต้องการของลูกค้า ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ยคนละ 1,000 บาทต่อวัน ถือเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในช่วงหน้าแล้งได้อีกทางหนึ่ง อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1059491 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#ขอนแก่น #สงกรานต์ขอนแก่น #สงกรานต์ #โมบายดอกสะแบง #ดอกสะแบง

สงกรานต์ 2566 เล่นน้ำหม่องใด๋ดี ?  10 จุดใหญ่ ทั่วอีสานใกล้หม่องใด๋ ไปหม่องนั่น

สงกรานต์ 2566 เล่นน้ำหม่องใด๋ดี ?  10 จุดใหญ่ ทั่วอีสานใกล้หม่องใด๋ ไปหม่องนั่น   ประเพณีสงกรานต์ หนึ่งในประเพณีของประเทศไทยที่สืบทอด และมีประวัติมาอย่างยาวนาน เนื่องจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยตั้งแต่โบราณ ทำให้ประเพณีสงกรานต์นี้อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมาย สงกรานต์ หมายถึง การก้าวผ่าน และเปลี่ยนผ่าน ทำให้วันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยที่มีมาก่อนวันปีใหม่ในช่วงคริสต์ศักราช ประเพณีสงกรานต์มีกิจกรรมที่รู้จักทั่วโลก คือ การเล่นสาดน้ำคลายร้อน นอกจากประเทศไทยแล้วประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า กัมพูชา ก็มีประเพณีวันสงกรานต์เช่นเดียวกัน     วันนี้ ISAN Insight จะพามาเบิ่ง 10 จุดเล่นในภาคอีสานดังนี้  งานสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว สถานที่ : ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น วันที่ : 8-15 เมษายน 2566 ณ บึงแก่นนคร และถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น – ชมการประกวดเกวียนบุปผชาติ, ร่วมพิธีรดน้ำผู้สูงอายุ, กิจกรรมสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว (บริเวณถนนศรีจันทร์) และชมการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP Elephant Songkran Festival จังหวัดสุรินทร์ สถานที่ : คชอาณาจักร (สวนสัตว์จังหวัดสุรินทร์) อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ วันที่ : 10-17 เมษายน 2566 เล่นสงกรานต์กับช้างที่คชอาณาจักร (สวนสัตว์จังหวัดสุรินทร์) อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ – สาดน้ำกับเหล่าบรรดาน้องช้างแสนรู้กว่า 50 เชือก ตลอด 7 วัน 7 คืน งานมหาสงกรานต์อีสาน – หนองคาย สถานที่ : ณ วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย วันที่ : 12-17 เมษายน 2566 งานมหาสงกรานต์อีสาน จังหวัดหนองคาย ทำบุญตักบาตร พิธีอัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสประดิษฐานบนราชรถแห่งรอบอุโบสถแห่รอบเมืองหนองคาย ประเพณีสงกรานต์เมืองร้อยเอ็ด สถานที่ : ณ บึงพลาญชัยและสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ : 13-15 เมษายน 2566 ประเพณีสงกรานต์เมืองร้อยเอ็ดจัด ณ บึงพลาญชัยและสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ปล่อยปลา ทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ไทย ทำบุญตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในจังหวัด เพื่อเป็นสิริมงคลตลอดปีใหม่ไทย สงกรานต์บุรีรัมย์ 2566 สถานที่ …

สงกรานต์ 2566 เล่นน้ำหม่องใด๋ดี ?  10 จุดใหญ่ ทั่วอีสานใกล้หม่องใด๋ ไปหม่องนั่น อ่านเพิ่มเติม »

ไอเดียเริ่ดคักหลาย ว้าวกันทุกปี สีสันทุเรียน!! คาเฟ่บ้านทุเรียนเขาใหญ่ เมนูข้าวผัด-ผัดไทยทุเรียน

พอเข้าหน้าร้อน หลายคนรอการมาของผลไม้ออกมาให้ชิมกันมากมายหลายชนิด และที่พลาดไม่ได้ก็ต้องทุเรียน ราชาผลไม้ไทย ในแต่ละปีจะได้เห็นสีสันของทุเรียนออกมาในหลายรูปแบบ เพื่อกระตุ้นยอดขายของชาวสวน และในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันของทุเรียนที่นำมาฝากกัน เป็นผลผลิตทุเรียนหมอนทองเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา การันตีความอร่อยเอกลักษณ์ไม่เหมือนทุเรียนจากพื้นที่อื่นๆ ด้วยเครื่องหมาย GI จากกระทรวงพาณิชย์ สำหรับทุเรียนหมอนทองเขาใหญ่ ปากช่อง ที่พาไปรู้จักในวันนี้ เป็นของ “นายสมชาย เฮงทรัพย์กูล” เจ้าของสวนทุเรียนและคาเฟ่บ้านทุเรียนเขาใหญ่ ต้องบอกว่าร้านนี้ ไม่ธรรมดาเพราะจัดเต็มกับเมนูทุเรียนที่หลายคนเห็นแล้วต้องว้าวกับทุเรียนหมอนทอง ที่สามารถนำมาทำเมนูอาหารได้มากมายหลายอย่าง ทั้งอาหารคาวและหวาน นายสมชาย เฮงทรัพย์กูล เจ้าของ คาเฟ่ บ้านทุเรียนเขาใหญ่ เล่าว่า ได้ลงทุนไปกว่า 4 ล้านบาท เพื่อเปิดคาเฟ่ทุเรียน เอาใจคนที่ชื่นชอบทุเรียนพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านที่จัดแต่งมาให้มีความสวยงามตามธรรมชาติในแบบฉบับของเขาใหญ่ ร้านเปิดให้บริการเมื่อเดือน พฤษภาคม 2565 รวมเวลาก็ยังไม่ถึงหนึ่งปี แต่ผลตอบรับออกมาดีเกินคาด เพราะระยะเวลาสั้นๆที่ได้โปรโมทเมนูทุเรียน ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน อย่าง “ข้าวผัดทุเรียน และผัดไทยทุเรียน” ออกไปทางโซเชียลฯทุกคนที่ได้เห็นก็ตามมากินที่ร้านกันเป็นจำนวนมาก นายสมชาย เล่าถึงที่มาของคาเฟ่ทุเรียน ว่า จุดเริ่มต้นตนเอง ทำธุรกิจรถสิบล้อให้บริการขนส่งสินค้าให้กับลูกค้าทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี 2538 ถึงปัจจุบันก็ยังดำเนินธุรกิจขนส่งอยู่ โดยลูกค้าที่ใช้บริการรถสิบล้อ ได้แก่ โรงงานเหล็ก โรงงานน้ำตาล โรงงาน กระดาษ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานและตะวันออกเป็นส่วนใหญ่ ในอดีตเคยมีรถสิบล้อมากถึงกว่า 40 คัน แต่ปัจจุบันเหลือ แค่ 8 คัน เพราะพออายุเริ่มมากขึ้น ดูแลไม่ไหวประกอบกับต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างเพิ่มสูงขึ้นทั้งค่าแรงค่าพลังงานสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก หันมาทำธุรกิจอื่นๆ แทน รวมถึงการทำสวนทุเรียนและการเปิดคาเฟ่บ้านทุเรียนในครั้งนี้ด้วย “คาเฟ่บ้านทุเรียน เป็นร้านอาหารน้องใหม่ ย่านเขาใหญ่ ช่วงแรกตั้งใจเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว เป็นหลัก แต่ตอนนี้ ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ หันมาเจาะลูกค้าในพื้นที่ด้วย เพราะเราจะมารอแต่นักท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้เพราะรายจ่ายเกิดขึ้นทุกวัน นักท่องเที่ยวจะได้เยอะในช่วงวันหยุดหรือ เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น รวมถึงที่ตั้งของร้านนั้นอยู่ปากช่อง เส้นทางที่จะไปวังน้ำเขียวไม่ได้ตั้งอยู่ถนนหลักเส้นถนนธนะรัชต์ ก็จะมีความเสียเปรียบ เราจึงต้องปรับแผนเสนอราคาอาหารจานประหยัดเพียง 39 บาท เพื่อดึงลูกค้าคนในพื้นที่ปากช่องให้เข้ามารับประทานอาหารได้สัมผัสกับบรรยากาศกับร้านคาเฟ สวย ๆ ในสวนทุเรียน ซึ่งหลังจากได้นำเสนออาหารราคาประหยัดก็ได้ผลตอบรับจากคนในพื้นที่ เป็นอย่างดี” อย่างไรก็ดี การทำคาเฟ่ทุเรียนในครั้งนี้ จุดเริ่มต้นไม่ได้มาจากความตั้งใจตั้งแต่แรก แต่เกิดจากเหตุผลอื่น ๆ ประกอบด้วย เริ่มจากนายสมชายมาซื้อที่ดินที่เขาใหญ่ไว้สักระยะหนึ่ง ตั้งใจว่าจะปลูกบ้านไว้เป็นบ้านพักตากอากาศในวันพักผ่อนและได้ปลูกทุเรียนเอาไว้ด้วยกว่า 40 ต้น ผลผลิตทุเรียนที่ปลูกไว้ให้ผลค่อนข้างดี แต่ไม่ได้มากขนาดจะเอาไปขายเยอะแบบนั้นได้ และเห็นว่าหลาน ๆ ชอบทำอาหาร ก็เลยเอาทุเรียนมาลองทำอาหารดู รสชาติก็ไปได้ ก็เลยตัดสินใจถ้าอย่างนั้น เราก็เปิดร้านอาหารในสไตล์ของคาเฟ่ ใช้ชื่อว่า “บ้านทุเรียนเขาใหญ่” เพื่อให้จดจำได้ง่ายซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า บ้านทุเรียน เชื่อว่า ทุกคนที่มาตั้งใจจะมากินเมนูอาหารและเครื่องดื่มทำจากทุเรียน อ้างอิงจาก: https://mgronline.com/smes/detail/9660000032065 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#คาเฟ่ทุเรียน #ทุเรียน #นครราชสีมา …

ไอเดียเริ่ดคักหลาย ว้าวกันทุกปี สีสันทุเรียน!! คาเฟ่บ้านทุเรียนเขาใหญ่ เมนูข้าวผัด-ผัดไทยทุเรียน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top