SHARP ADMIN

พามาเบิ่ง🧐 “อีสาน” ครองแชมป์มีข้าราชการมากสุด🏦 ชวนมาเบิ่ง จังหวัดไหน “ข้าราชการ” แน่นที่สุด.

ภูมิภาค จำนวนข้าราชการ สัดส่วนข้าราชการ ต่างประเทศ 917 คน 0.1% กรุงเทพมหานคร 179,262 คน 13.0% ภาคเหนือ 242,990 คน 17.7% ภาคกลาง 296,633 คน 21.6% ภาคตะวันออก 60,652 คน 4.4% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 390,560 คน 28.4% ภาคใต้ 203,893 คน 14.8%   นครราชสีมา 41,254 คน ขอนแก่น 36,427 คน อุบลราชธานี 28,466 คน อุดรธานี 26,471 คน บุรีรัมย์ 24,281 คน สุรินทร์ 22,297 คน ศรีสะเกษ 21,310 คน สกลนคร  20,221 คน ชัยภูมิ 19,620 คน กาฬสินธุ์ 19,252 คน ร้อยเอ็ด 18,572 คน หนองคาย 17,324 คน นครพนม 16,902 คน ยโสธร 15,421 คน มหาสารคาม 14,323 คน อำนาจเจริญ 11,955 คน เลย 10,691 คน มุกดาหาร 9,550 คน หนองบัวลำภู 8,526 คน บึงกาฬ 7,697 คน หมายเหตุ: เป็นข้อมูลข้าราชการที่ไม่นับรวมข้าราชการทหารและทหารกองประจำการ ปี 2566   “อีสาน” ขุมพลังข้าราชการไทย  จากข้อมูลล่าสุด ปี 2566 พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนข้าราชการมากถึง 390,560 คน คิดเป็นสัดส่วน 28.4%ของข้าราชการทั่วประเทศทั้งหมด ตัวเลขนี้สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ภาคอีสาน รองลงมาคือ ภาคกลาง ที่มีจำนวนข้าราชการ 296,633 คน คิดเป็น 21.6% ตามด้วย ภาคเหนือ ที่มี 242,990 คน (17.7%) และ ภาคใต้ ที่มี 203,893 คน […]

พามาเบิ่ง🧐 “อีสาน” ครองแชมป์มีข้าราชการมากสุด🏦 ชวนมาเบิ่ง จังหวัดไหน “ข้าราชการ” แน่นที่สุด. อ่านเพิ่มเติม »

🙌🏻🌱พามาเบิ่ง “มหาวิทยาลัยสีเขียว” ในอีสานบ้านเฮา – ความยั่งยืนที่วัดได้♻️

ปัจจุบันแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นสำคัญในระดับสากล หลายมหาวิทยาลัยทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่มาของ UI GreenMetric ระบบการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่คำนึงถึงความยั่งยืนและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม . การประเมินของ UI GreenMetric มีทั้งหมด 1,477 สภาบัน 95 ประเทศทั่วโลกและครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างพื้นฐาน (SI) ที่สะท้อนถึงพื้นที่สีเขียวและการออกแบบอาคารให้รองรับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานและการจัดการภาวะโลกร้อน (EC) ซึ่งพิจารณาการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการขยะ (WS) ที่เน้นระบบคัดแยกและการลดขยะพลาสติก การบริหารจัดการน้ำ (WR) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าและการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ระบบขนส่งที่ยั่งยืน (TR) ที่มุ่งลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัวและสนับสนุนระบบขนส่งมวลชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ การศึกษาและวิจัยเพื่อความยั่งยืน (ED) ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสร้างความรู้และตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม . การจัดอันดับนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเปรียบเทียบว่าใครทำได้ดีกว่ากันเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มหาวิทยาลัยเห็นแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น การได้รับคะแนนสูงในการจัดอันดับจึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการพัฒนาอย่างยั่งยืน . ปัจจุบันมหาวิทยาลัยหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยได้รับการจัดอันดับใน UI GreenMetric ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและการดำเนินงานที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงตัวเลขในการจัดอันดับ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนภายในมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา ตลอดจนบุคลากรทุกฝ่าย เพื่อให้แนวทางด้านความยั่งยืนเกิดขึ้นอย่างแท้จริงและส่งผลดีในระยะยาว . ที่มา: UI GreenMetric #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Environment #Earthday #วันคุ้มครองโลก #Social #GreenUniversity #UIGreenMetric #อีสานยั่งยืน

🙌🏻🌱พามาเบิ่ง “มหาวิทยาลัยสีเขียว” ในอีสานบ้านเฮา – ความยั่งยืนที่วัดได้♻️ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐 “ตติเวชกุล” สกุลทองคำแห่งอีสาน ตระกูลค้าทอง 4 บริษัทยักษ์ใหญ่

ตระกูล ตติเวชกุล มีรายได้รวมกันราว 32,555.5 ล้านบาท คิดเป็น 53.0% ของทั้งภูมิภาค ชื่อบริษัท: บริษัท ห้างทองทองสวย จำกัด ที่ตั้ง: ขอนแก่น ปีที่จดทะเบียน: 2539 รายได้รวม (ล้านบาท): 18,611 (-13.7%) กำไร (ล้านบาท): 11 (25.5%) จำนวนสาขา: 13 สาขา รายชื่อกรรมการ นาย อุดม ตติเวชกุล นาง นัสริน ตติเวชกุล นาย วิศวพร ตติเวชกุล นาย วิชย ตติเวชกุล นางสาว วิรากานต์ ตติเวชกุล นาย วิชญ์พล ตติเวชกุล   ชื่อบริษัท: บริษัท ห้างทองแม่ทองพูล จำกัด ที่ตั้ง: ขอนแก่น ปีที่จดทะเบียน: 2543 รายได้รวม (ล้านบาท): 6,293 (+16.6%) กำไร (ล้านบาท): 2.8 (+36.6%) จำนวนสาขา: 13 สาขา รายชื่อกรรมการ นาย พิชัย ตติเวชกุล นางสาว พิมพ์พรรณ ตติเวชกุล นางสาว พิมพ์พร ตติเวชกุล   ชื่อบริษัท: บริษัท เอ็มทีพี โกลด์ จำกัด ที่ตั้ง: ขอนแก่น ปีที่จดทะเบียน: 2563 รายได้รวม (ล้านบาท): 1,113 (-0.4%) กำไร (ล้านบาท): 1.7 (+104.1%) รายชื่อกรรมการ นางสาว พิมพ์พรรณ ตติเวชกุล นาย พิชัย ตติเวชกุล นางสาว พิมพ์พร ตติเวชกุล   ชื่อบริษัท: บริษัท เอ็มทีพี บูลเลี่ยน จำกัด ที่ตั้ง: ขอนแก่น ปีที่จดทะเบียน: 2558 รายได้รวม (ล้านบาท): 6,539 (-27.6%) กำไร (ล้านบาท): 0.8 (-67.6%) รายชื่อกรรมการ นางสาว พิมพ์พรรณ ตติเวชกุล นาย พิชัย ตติเวชกุล นางสาว

พามาเบิ่ง🧐 “ตติเวชกุล” สกุลทองคำแห่งอีสาน ตระกูลค้าทอง 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ อ่านเพิ่มเติม »

10 ปีข้างหน้า ‘หนองคาย’ จะกลายเป็น ‘ประตูสู่ยูนนาน’ สำรวจโอกาสของจังหวัด จากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมลาว-จีน

หนองคาย เป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนบน ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นเอกลักษณ์คือมีทอดยาวตามแม่น้ำโขงกว่า 210.6 กิโลเมตร  มีอาณาเขตติดตอกับประเทศลาว คือ แขวงเวียงจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงบอลิคําไซ โดยมีจุดผ่านแดนได้แก่ 1. ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 2. ด่านพรมแดนทาเรือหนองคาย 3. ด่านตรวจคนเขาเมือง ณ สถานีรถไฟหนองคาย นอกจากนั้นยังมีจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 4 แห่ง  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จังหวัดหนองคาย มีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดนเป็นอย่างมาก ทำไมหนองคายจึงเป็นจังหวัดที่มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว? ปัจจัยที่ทำให้หนองคายดูน่าดึงดูดที่จะลงทุน คือการที่ในอนาคต หนองคายกำลังจะมี รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – หนองคาย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างในระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) และเพิ่งมีการอนุมัติจาก ครม. ในการเริ่มโครงการระยะที่ 2 (นครราชสีมา – หนองคาย) รวมระยะทางทั้ง 2 โครงการ 606.17 กิโลเมตร แม้ว่าการก่อสร้างในระยะที่ 1 จะมีความล่าช้า แต่คาดการณ์ว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2575 หรืออีก 10 ปีต่อจากนี้ การเดินทางโดยใช้รถไฟความเร็วสูงจากระหว่างหนองคายไปกรุงเทพฯ จะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเศษๆ เพิ่มตัวเลือกด้านการคมนาคมนอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน สร้างความสะดวกสบายแก่ชาวหนองคายและผู้เยี่ยมเยือน รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – หนองคาย เชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รถไฟกรุงเทพฯ – หนองคายมีความพิเศษที่สำคัญต่อประเทศไทยอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของไทย จะสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟลาว-จีน ที่ได้เปิดให้บริการไปแล้วในปี 2564 มีสถานีต้นทาง-ปลายทางคือ สถานีคุนหมิงใต้ของจีน และสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ ของ สปป. ลาว มีสถานีรวม 32 สถานี ที่มารูปภาพ: กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม โดยการเชื่อมรถไฟความเร็วสูงจากไทย-ลาว-จีนนั้น จะถูกเชื่อมโยงโดย สะพานมิตรภาพสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) แห่งที่ 2 เป็นสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3 ปี 2569 และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2572 โดยสถานีรถไฟหนองคาย จะเป็นจุดตรวจหนังสือเดินทางของประเทศไทย ซึ่งในแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง จะมีจุดตรวจ 4 แห่ง ดังนี้ สถานีรถไฟหนองคาย ประเทศไทย สถานีรถไฟเวียงจันทน์ สปป.ลาว สถานีรถไฟบ่อเต็น สปป.ลาว สถานีรถไฟโม่ฮาน ประเทศจีน ที่มารูปภาพ: Shutterstocks และจากคนจีนที่เดินทางเข้าในภาคอีสานของไทย ปี 2567 พบว่าจุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพ 1 จังหวัดหนองคาย เป็นจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเดินทางเข้ามาทางบกของชาวจีน โดยมีจำนวนกว่า 24,000 ราย (ข้อมูล

10 ปีข้างหน้า ‘หนองคาย’ จะกลายเป็น ‘ประตูสู่ยูนนาน’ สำรวจโอกาสของจังหวัด จากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมลาว-จีน อ่านเพิ่มเติม »

จากคดี ร่วมกันยักยอกทรัพย์ สู่ผลตัดสิน ‘เอกราช ช่างเหลา’ และการถูกขับออกจาก ภูมิใจไทย

เอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น และอีกบทบาทหนึ่งคือ พ่อนายก อบจ. ป้ายแดงของชาว #ขอนแก่น ถูกศาลสั่งจำคุก 5 ปี คดีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่น 431 ล้านบาท ที่ยีดเยื้อมานาน ศาลพิพากษาตัดสินแล้วศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย ขอนแก่น 17 เม.ย.-ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท ที่ห้องพิจารณาคดี 6 ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ และนายสุธน สอนคำแก้ว ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลยในฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันปลอมเอกสาร และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม กรณีทุจริตเงิน 1,275 ล้านบาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ระหว่างปี 2554-2563 ขณะดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการสหกรณ์ฯ โดยนายเอกราช เคยเซ็นหนังสือรับสภาพหนี้ และให้การรับสารภาพมาตลอด เพิ่งขอยื่นกลับคำให้การ วันที่ 7 ตุลาคม 2567 หลังสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว ให้เหตุผลว่า ทนายความชุดเก่าหลอกให้รับสารภาพ โดยเงินที่นำออกไป ได้ซื้อที่ดินมาจดจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้จากการซื้อลอตเตอรี่ให้สหกรณ์ฯ แต่ศาลไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การใหม่ เชื่อว่า เป็นการประวิงคดี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทำผิดตามฟ้องจริง โดยปลอมเอกสารยืนยันยอดเงินฝาก เงินคงเหลือ ทั้งฉบับ และบางส่วนรวม 35 ครั้ง เพื่อให้ ผู้พบเห็นชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคาร ผู้สอบ ผู้ตรวจบัญชีและประชาชนทั่วไป รวมจำนวน เงินยักยอก 1275 ล้านบาทชดใช้คืนแล้วเกือบ 900 ล้านบาทคงเหลือกว่า 405 ล้านบาท โดยจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน พิพากษาจำคุก ข้อหายักยอก 5 กระทง กระทงละ 3 ปี ข้อหาใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม 21 กระทง กระทงละ 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกข้อหายักยอก 5 ปี 30 เดือน ข้อหาใช้เอกสารสิทธิปลอม 63 เดือน รวมจำคุก 5 ปี 93

จากคดี ร่วมกันยักยอกทรัพย์ สู่ผลตัดสิน ‘เอกราช ช่างเหลา’ และการถูกขับออกจาก ภูมิใจไทย อ่านเพิ่มเติม »

หนี้ข้าราชการไทย 1 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือน ยอดกู้กว่า 5 ล้านล้านบาท เสี่ยงถูกยื่นล้มละลาย 1.4 หมื่นคน

ฮู้บ่ว่าข้าราชการไทย กู้รวมกันกว่า 5 ล้านล้าน เป็นหนี้ในระบบ 3 ล้านล้าน และกู้สหกรณ์อีก 2 ล้านล้านเสี่ยงล้มละลายพุ่ง 1.4 หมื่นคน, ‘ครู’ ครองแชมป์มากที่สุด วิกฤตหนี้ครัวเรือนไทย’ จากข้อมูลบัญชีลูกหนี้ที่ไม่สามารถระบุตัวตนมากกว่า 84 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้คงค้างกว่า 13.6 ล้านล้านบาท พบคนไทยก่อหนี้วนลูป จนกลายเป็นหนี้พอกเรื้อรังไปตลอดชีวิต ที่น่ากังวลไม่ต่างกันคือ มากกว่า 1 ใน 3 หรือมากกว่า 5 ล้านล้านบาท นั้นเป็นหนี้ครัวเรือนของข้าราชการไทย . ด้าน ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า “ตัวเลขข้าราชการ’ล้มละลายพุ่ง 1.4 หมื่น ‘ครู’ ครองแชมป์เสี่ยงถูกให้ออกมากสุด” . ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 14,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่า และในจำนวนนี้เป็นข้าราชการครูกว่า 5,000 คน ซึ่งหากถูกฟ้องล้มละลายก็จะถูกให้ออกจากราชการ ไม่มีอาชีพทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาจึงมีการเร่งถก’ก.พ.’เปิดช่องให้โอกาสทำงานต่อ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ถูกฟ้องล้มละลาย ไม่ต้องออกจากราชการ เนื่องจากเป็น ‘คดีทางแพ่ง’ ไม่ใช่การทุจริตหรือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เพราะหากถูกบังคับออกจากราชการก็จะเสียช่องทางการหารายได้เป็นการสร้างภาระเพิ่ม“จากนี้จะต้องหารือกับทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)ซึ่งเป็นผู้แลภาพรวมของข้าราชการทั่วประเทศ รวมไปถึงหารือกับคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ปยป.) เพื่อยกก่อนจะนำเรื่องนี้เข้าเสนอที่ประชุมครม.ต่อไปซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของการผลักดันร่างกฎหมาย ส่วนสหกรณ์ที่เข้าระบบมีเพียง 7 แห่งเท่านั้น ทำให้เกิดการกู้ทั้งซ้ำซ้อน จนไม่สามารถใช้คืนหนี้ได้ โดยรายชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ที่สมัครเข้าร่วมเครดิตบูโรแล้ว ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำกัด (สอ.สป.) สหกรณ์อิสลามอิบนูอัฟฟาน จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยมหิดล จำกัด   พามาเบิ่ง🧐 “อีสาน” ครองแชมป์มีข้าราชการมากสุด🏦 ชวนมาเบิ่ง จังหวัดไหน “ข้าราชการ” แน่นที่สุด. เวียดนามจ่อลดขนาดหน่วยงานรัฐ ท่ามกลางเป้าหมายในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น

หนี้ข้าราชการไทย 1 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือน ยอดกู้กว่า 5 ล้านล้านบาท เสี่ยงถูกยื่นล้มละลาย 1.4 หมื่นคน อ่านเพิ่มเติม »

พาไปฮู้จัก🧐 6 บริษัทรุ่นใหญ่ในอีสาน อยู่มายาวนานกว่า 60 ปี🏢

ชื่อบริษัท: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฮียบหงวนมิลเลอร์ จังหวัด: อุดรธานี ปีที่จดทะเบียน: 2500 อายุบริษัท: 68 ทุนจดทะเบียน (ล้านบาท): 10 ธุรกิจที่ทำตอนจดทะเบียน: จำหน่ายรถยนต์ ขายอะไหล่ ธุรกิจที่ทำปัจจุบัน: จำหน่ายรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รายได้รวม (ล้านบาท): 1,918.5 (-28.8%) กำไร (ล้านบาท): 34.9 (-25%)   ชื่อบริษัท: บริษัท เมรัยชัยภูมิ จำกัด จังหวัด: ชัยภูมิ ปีที่จดทะเบียน: 2503 อายุบริษัท: 65 ทุนจดทะเบียน (ล้านบาท): 21 ธุรกิจที่ทำตอนจดทะเบียน: ขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ธุรกิจที่ทำปัจจุบัน: ขายส่ง สุรา เบียร์ รายได้รวม (ล้านบาท): 1,279.2 (-2.3%) กำไร (ล้านบาท): 6.0 (+2,123.9%)   ชื่อบริษัท: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอี๊ยะฮั้วอุบล จังหวัด: อุบลราชธานี ปีที่จดทะเบียน: 2504 อายุบริษัท: 64 ทุนจดทะเบียน (ล้านบาท): 6 ธุรกิจที่ทำตอนจดทะเบียน: ขายปลีกเบียร์ และสินค้าเบ็ดเตล็ด ธุรกิจที่ทำปัจจุบัน: ขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รายได้รวม (ล้านบาท): 1,309.1 (-7.1%) กำไร (ล้านบาท): 6.1 (-1.2%)   ชื่อบริษัท: บริษัท สหเรือง จำกัด จังหวัด: มุกดาหาร ปีที่จดทะเบียน: 2506 อายุบริษัท: 62 ทุนจดทะเบียน (ล้านบาท): 774 ธุรกิจที่ทำตอนจดทะเบียน: ผลิตและขายส่งน้ำตาลทราย ธุรกิจที่ทำปัจจุบัน: โรงงานน้ำตาล รายได้รวม (ล้านบาท): 3,074.7 (+2.0%) กำไร (ล้านบาท): 462.1 (+6.1%)   ชื่อบริษัท: บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด จังหวัด: ขอนแก่น ปีที่จดทะเบียน: 2507 อายุบริษัท: 61 ทุนจดทะเบียน (ล้านบาท): 2,000 ธุรกิจที่ทำตอนจดทะเบียน: เข้าซื้อหุ้นในบริษัทอื่นและกิจการอื่น (บริษัทโฮลดิ้ง) ธุรกิจที่ทำปัจจุบัน: ขายยานยนต์ รายได้รวม (ล้านบาท): 5,330.8 (-33.6%) กำไร

พาไปฮู้จัก🧐 6 บริษัทรุ่นใหญ่ในอีสาน อยู่มายาวนานกว่า 60 ปี🏢 อ่านเพิ่มเติม »

Big 4 อีสานติดโผ! 15 จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทย

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึง 2567 รวม 31 ปี และโดยเฉพาะในจังหวัดภูมิภาค ทั้งหมด 40 หลักจังหวัดที่มีโครงการทั่วประเทศ ซึ่งได้คัด 15 จังหวัดหลักที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยไม่นับ6 จังหวัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อันดับ 1 และอันดับ 2 คือจังหวัดชลบุรีและระยอง ซึ่งเติบโตด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยมาก เนื่องจากเป็นจังหวัดหลักในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ โดยจังหวัดชลบุรี ณ ปี 2567 ยังมีหน่วยขายรอผู้มาซื้ออยู่ 45,470 หน่วย หรือเหลืออยู่ 15% มีมูลค่ารวม 159,738 ล้านบาท ในส่วนของจังหวัดระยอง ยังมีหน่วยที่อยู่อาศัยรอขายอยู่  23,092 หน่วย หรือ 25% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด รวมมูลค่า 58,563 ล้านบาท อันดับที่ 3 เป็นจังหวัดใหญ่ของภาคเหนือ นั่นคือ จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีหน่วยขายรอขายอยู่ 11,900 หน่วย ถือเป็นเพียง 14% ของหน่วยขายทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมกัน 54,218 ล้านบาท และอันดับที่ 4 เป็นอีกเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและจังหวัดสำคัญของภาคใต้ คือจังหวัดภูเก็ต มีหน่วยที่อยู่อาศัยรอขายอยู่ 11,607 หน่วย คิดเป็น 15% ของปริมาณทั้งหมด มีมูลค่ารวมสูงถึง 142,796 ล้านบาท ข้ามฝั่งมายังอีสาน พบว่ามีจังหวัดในภาคอีสานติดอยู่ในลำดับจังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุด ซึ่งได้แก่จังหวัดกลุ่ม Big 4 อย่าง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และ อุบลราชธานี โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้ นครราชสีมา หน่วยขายรอขาย: 8,336 หน่วย คิดเป็น 21% ของหน่วยขายทั้งหมด มูลค่าที่รอขายรวม 26,458 ล้านบาท   ขอนแก่น หน่วยขายรอขาย: 5,642   หน่วย คิดเป็น 95% ของหน่วยขายทั้งหมด มูลค่าที่รอขายรวม 19,484  ล้านบาท   อุดรธานี หน่วยขายรอขาย: 2,530 หน่วย คิดเป็น 16% ของหน่วยขายทั้งหมด มูลค่าที่รอขายรวม 9,229 ล้านบาท   อุบลราชธานี หน่วยขายรอขาย:

Big 4 อีสานติดโผ! 15 จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง KUBOTA ผู้นำเบอร์ 1 รถเพื่อการเกษตรในไทย

ผู้ก่อตั้ง: Gonshiro Kubota ชื่อบริษัท: บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ปีที่ก่อตั้ง: พ.ศ. 2521 ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: ปทุมธานี รายได้: 54,347 ล้านบาท (-7.6% YoY) กำไร (ขาดทุน): 4,838 ล้านบาท (-13.9% YoY) ยอดรถแทรกเตอร์จดทะเบียนครั้งแรกปี 2567: ทั่วประเทศ 40,222 คัน / ภาคอีสาน 19,606 คัน   จังหวัด จำนวนศูนย์บริการ (แห่ง) จำนวนตัวแทนจำหน่าย (แห่ง) รายได้จากตัวแทนจำหน่าย (ล้านบาท) จำนวนรถรถแทรกเตอร์คูโบต้าจดทะเบียนครั้งแรก ปี 2567 (คัน) ชัยภูมิ ศูนย์บริการเทคนิค 1 8 1,335.7 1,876 ยโสธร ศูนย์บริการเทคนิค 1 5 540.9 452 อุบลราชธานี ศูนย์บริการเทคนิค 1 16 4,334.6 1,430 ศรีสะเกษ – 14 1,188.7 919 บุรีรัมย์ – 11 1,132.2 1,125 นครราชสีมา ศูนย์บริการเทคนิค 1 ศูนย์กระจายอะไหล่ 2 คลังสินค้า 8 28 3,165.3 3,153 สุรินทร์ ศูนย์บริการเทคนิค 1 11 1,806.1 869 อำนาจเจริญ – 4 259.8 336 หนองบัวลำภู – 5 977.3 729 บึงกาฬ – 7 3.2 216 หนองคาย – 4 722.9 353 เลย ศูนย์บริการเทคนิค 1 7 735.4 682 อุดรธานี ศูนย์บริการเทคนิค 1 15 3,552.8 1,754 นครพนม ศูนย์บริการเทคนิค 1 7 401.1 426 สกลนคร ศูนย์บริการเทคนิค 1 10

พามาเบิ่ง KUBOTA ผู้นำเบอร์ 1 รถเพื่อการเกษตรในไทย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทนทุกประเภทในอีสาน

พามาเบิ่ง “โรงไฟฟ้า” พลังงานทดแทนทุกประเภทในอีสาน . ภาคอีสานของเรา เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีศักยภาพด้านพลังงานทดแทนสูง ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวม 2,842 เมกะวัตต์ (MW) เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากภาคกลางที่มีกำลังการผลิต 4,143 MW และสูงกว่าภาคเหนือ (2,387 MW) และภาคใต้ (989 MW) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในภาคอีสานมีหลายประเภท โดยลมเป็นแหล่งพลังงานหลัก รองลงมาคือชีวะมวลและ พลังงานแสงอาทิตย์   โดยสามารถจำแนกศักยภาพพลังงานหมุนเวียนในภาคอีสานได้ดังนี้ – โรงไฟฟ้าพลังงานลม (Wind Power Plants) – 1,266 MW พลังงานลมกลายเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดของภาคอีสาน ด้วยศักยภาพกระแสลมที่เหมาะสมในบางพื้นที่ ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง – โรงไฟฟ้าชีวมวล (Biomass Power Plants) – 691 MW ภาคอีสานมีวัตถุดิบชีวมวลที่อุดมสมบูรณ์ เช่น เศษวัสดุจากการเกษตร อ้อย ข้าว และมันสำปะหลัง ทำให้ชีวมวลเป็นพลังงานที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างยั่งยืน – โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power Plants) – 551 MW ด้วยปริมาณแสงแดดที่มีตลอดปี ทำให้ภาคอีสานเหมาะสมต่อการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว – โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ (Large Hydro Power Plants) – 238 MW แม้ว่าภาคอีสานจะไม่มีเขื่อนขนาดใหญ่เท่าภาคเหนือ แต่ยังสามารถใช้ศักยภาพของแม่น้ำสายสำคัญเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ – โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (Biogas Power Plants) – 80 MW โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพใช้ของเสียจากฟาร์มปศุสัตว์และโรงงานอุตสาหกรรมเป็นแหล่งเชื้อเพลิง ช่วยลดปัญหามลพิษและสร้างพลังงานสะอาด – โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก (Mini-Hydro Power Plants) – 6 MW แม้กำลังการผลิตจะไม่สูงมาก แต่โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กยังสามารถช่วยกระจายพลังงานไฟฟ้าไปยังพื้นที่ห่างไกลได้ – โรงไฟฟ้าขยะ (Waste Power Plants) – 10 MW การนำขยะมาใช้ผลิตไฟฟ้าช่วยลดปริมาณขยะในชุมชนและเป็นอีกแนวทางในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน – โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Power Plants) – 0 MW ยังไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานนี้   ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ เหมาะสำหรับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลมและแสงอาทิตย์ซึ่งต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หรือกังหันลมหากได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี การลงทุน และนโยบายที่ส่งเสริมพลังงานทดแทน ภาคอีสานสามารถเป็นศูนย์กลางพลังงานสะอาดที่สำคัญของไทยที่จะนำไปสู่ความมั่นคงทางพลังงานได้ในอนาคต . ที่มา: กระทรวงพลังงาน   หมายเหตุ: 1. ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2567 2.ไม่รวมกำลังการผลิตไฟฟ้านอกระบบ

พามาเบิ่ง🧐โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทนทุกประเภทในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top