SHARP ADMIN

“ISAN WINTER” วันเดอร์แลนด์ หนองคาย ขอนแก่น อุดรธานี ททท. จัดใหญ่ กิน เที่ยว ช้อป ชมคอนเสิร์ตฟรี!!

อุดรธานี หนาวนี้ปล่อยใจม่วน ชวนหมู่มามันส์ปิดท้ายกับงาน “ISAN Winter Wonderland อีสานวินเทอร์วันเดอร์แลนด์” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มความม่วนพื้นที่ที่ 3 จังหวัดอุดรธานี ภายใต้แนวคิด โดดดิด่งอุดร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 ณ ลานทุ่งศรีเมือง . ภายในงานพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย ได้แก่ Paradox, Lomosonic, getsunova, SEASON FIVE, Fellow Fellow, Paper planes, Mirrr, Whal&Dolph และ SERIOUS BACON โซนกิจกรรม PLAYGROUND ZONE ลานเครื่องเล่นยักษ์ ในธีม WINTER WONDERLAND ที่ผสมผสานความสนุกของเครื่องเล่นขนาดใหญ่ให้เข้ากับวัฒนธรรมอีสานพื้นถิ่น การจัดแสดง Arts Installation ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอีสานให้เข้ากับความแฟนตาซีของโลก Wonderland อาทิ ISAN Bus Station และ ISAN Heritafe Gateway ที่เล่าเรื่องราวความงดงามของวัฒนธรรมอีสานผ่านศิลปะและเสียงดนตรีพื้นบ้าน พร้อมอิ่มอร่อยกับบูธร้านค้าและ Food truck กว่า 40 ร้าน . งานนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ISAN Winter Wonderland, Facebook : TAT Contact Center หรือ โทร. 1672 . #isanwinterwonderland #AmazingThailand ขอนแก่น หนาวนี้ปล่อยใจม่วน ชวนหมู่มามันส์กันต่อในงาน “ISAN Winter Wonderland อีสานวินเทอร์วันเดอร์แลนด์” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกทัพความม่วนพื้นที่ที่ 2 จังหวัดขอนแก่น ภายใต้แนวคิด โฮแซวหรรษา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ณ ตลาดศรีวิไล (ตรงข้ามบึงสีฐาน ถนนมะลิวัลย์) . ภายในงานพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ Pop Pongkool, หญิงลี, WANYAi, Musketeers, MVL, Pause, YourMOOD, Slapkiss และ Earth Patravee โซนกิจกรรม PLAYGROUND ZONE ลานเครื่องเล่นยักษ์ ในธีม WINTER WONDERLAND ที่ผสมผสานความสนุกของเครื่องเล่นขนาดใหญ่ให้เข้ากับวัฒนธรรมอีสานพื้นถิ่น …

“ISAN WINTER” วันเดอร์แลนด์ หนองคาย ขอนแก่น อุดรธานี ททท. จัดใหญ่ กิน เที่ยว ช้อป ชมคอนเสิร์ตฟรี!! อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 . . ในการตั้งชื่อหมู่บ้านของคนโบราณส่วนใหญ่นิยมเลือกเป็นที่อยู่อาศัยในอดีต ได้แก่ เนิน โนน โพน โคก ดอน ควน . หมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน พบกระจายตัวอยู่ประปรายในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปางและน่าน ส่วนที่กระจุกตัวกันอย่างหนาแน่นพบบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบลุ่มภาคกลาง ประชิดแนวเทือกเขาถนนธงชัย และอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ คือ พื้นที่ระหว่างแม่น้ำมูลตอนบนและแม่น้ำชีตอนล่างของภาคอีสาน รวมไปถึงตลอดแนวภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ก็พบหมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน เช่นกัน โดยเฉพาะแถบจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา . หมู่บ้านที่ใช้คำว่า “ดอน”  มีลักษณะเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง และอาจมีเพียงเนินเล็กๆ เตี้ยๆ เป็นศูนย์กลางของพื้นที่หมู่บ้าน . ธรณีวิทยา “ดอน”  . ผลจากการชนและบีบอัดกันของแผ่นเปลือกโลกในอดีตนานมากแล้ว ทำให้พื้นแผ่นดินอีสานซึ่งประกอบไปด้วยชั้นหินทรายเป็นส่วนใหญ่เกิด การคดโค้งโก่งงอของหิน (folding) ทำให้ภาคอีสานมีภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นแบบที่เรียกว่าที่ ราบลูกฟูก หรือ เนินลูกระนาด ซึ่งแนวเทือกเขาภูพาน แถบสกลนคร เป็นตัวอย่างชัดเจนที่เกิดและยกตัวเป็นภูเขาขึ้นมาได้จากการคดโค้งโก่งงของหินเช่นกัน กลายเป็นภูมิประเทศโดยส่วนใหญ่ทั่วภาคอีสาน . อย่างไรก็ตาม จากกระบวนการกวัดแกว่งโค้งตวัดของทางแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของพื้นที่ โดยธรรมชาติของกระบวนการทางน้ำ จะทำให้เกิดการปรับราบพื้นที่ กลายเป็น ที่ราบน้ำท่วมถึง (floodplain) ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” จึงกระจายตัวอยู่ในภาคอีสาน ตามลักษณะภูมิประเทศดั้งเดิมที่เกิดจากการคดโค้งโก่งงอของหิน ยกเว้นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง ที่ได้รับการปรับพื้นที่ราบ จากกระบวนการทางน้ำของแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี . . ตัวอย่างชื่อหมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” – บ้านดอนกอย ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร – บ้านดอนน้อย ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ – บ้านดอนมัน ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม – บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น – บ้านดอนหมู ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.ดอุบลราชธานี – บ้านดอนยาวน้อย ต.วังหิน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา – บ้านดอนแดง ต.เชียงขวัญ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด – บ้านดอนนาดี ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู  . . อ้างอิงจาก: – มิตรเอิร์ธ – mitrearth   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook …

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙 . 🤕จากสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละจังหวัด ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พบว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก และยังสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ไม่เพียงแต่เพื่อรักษาชีวิตของประชาชน แต่ยังเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย . ภาคอีสานมีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 139,000 ราย และผู้เสียชีวิต 2,824 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในบรรดาภูมิภาคอื่นๆ อาจเนื่องมาจากเป็นภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นและสภาพการจราจรที่ซับซ้อนจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่สูงขึ้น . และจังหวัดที่มีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดในภาคอีสานคือ จังหวัดนครราชสีมา ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิต 343 ราย และผู้บาดเจ็บมากถึง 24,563 ราย และนอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 236 ราย และ จังหวัดอุบลราชธานี ถึงแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพียง 177 ราย แต่มีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 14,605 ราย ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงปัญหาในการใช้รถใช้ถนนในภาคอีสานที่ยังคงมีอยู่สูง . 🚨🚘อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในภาคอีสานคือ การขับขี่โดยประมาท รวมไปถึงการขับรถเร็วเกินกำหนด การไม่สวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัย และการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือขณะขับขี่ แม้ว่าทางภาครัฐจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่พฤติกรรมเหล่านี้ยังพบเห็นได้บ่อย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก . ทั้งนี้เราขอให้ทุกท่านขับขี่ปลอดภัย ปราศจากแอลกอฮอล์ และสวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น . หมายเหตุ : เป็นข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 . ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #อุบัติเหตุ #การจราจร

“หมอลำ” ขุมทรัพย์เงินสะพัด 6000 ล้าน ที่คนไทยดู 20 ล้านคน จัดแสดงกว่า 2,600 รอบ

คนไทยกับวัฒนธรรมความเป็นไทยเป็นอะไรที่อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว โดยเฉพาะทำนองลำกลอน หมอลำ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ เพลงลูกทุ่ง หมอลำ ยังคงเป็นอะไรที่ครองใจคนไทยตลอดมา ยืนยันได้จากจำนวนยอดวิวบน YouTube ที่แต่ละเพลงหลัก ร้อยล้านวิว และเมื่อเจาะลึกไปที่ วงหมอลำ แนวเพลงที่รู้จักกันดีในความสนุกสนานหรือม่วนจอยจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ และเป็นคนทำธุรกิจหากต้องการทำการตลาดผ่านหมอลำ จะต้องรู้อะไรบ้าง . มื้อนี้ ISAN Insight and Outlook พามาเบิ่ง ข้อมูลอินไซต์ตลาดธุรกิจหมอลำว่าเติบโตยิ่งใหญ่ สร้างเศรษฐกิจได้มากน้องเพียงใด คนไทย 20 ล้านคน ดูหมอลำ กว่าครึ่งมีคนในภาคอีสานมากถึง 10 ล้านคนดูหมอลำและการแสดงคอนเสิร์ตหมอลำในภาคอีสานตลอดหนึ่งปีจัดมากถึง 332 วัน มีการแสดงรวมกันมากถึง 2,596 รอบ ที่สามารถดึงดูดผู้ชม 2,000-6,000 คนต่อครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของวงและพื้นที่จัดงาน  และคาดการณ์ว่า Eyeballs ผู้เข้าชมหมอลำตลอดปีอยู่ที่ 8,532,000 คน MI GROUP ได้มีโปรเจกต์ MI LEARN LAB เพื่อแสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ สู่การทำการตลาดอย่างมีกลยุทธ์และเข้า-ถึง-ใจผู้บริโภค ผ่าน Entertainment & Cultural Marketing โดยล่าสุด ได้ทำการศึกษา การตลาดผ่านคอนเสิร์ตหมอลำ โดยพบว่า หลังการระบาดของโควิด คือ ยุคทอง ของวงหมอลำอย่างแท้จริง หลังจากที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 70 ปี จากการสำรวจพบว่า คนไทยจำนวนกว่า 20 ล้านคนเลยดูหมอลำ เฉพาะภาคอีสานมีผู้ชมกว่า 10 ล้านคน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบ 80% เคยดูทั้งออนกราวด์และออนไลน์ และประมาณ 60% ดูออนกราวด์อย่างเดียว สอดคล้องกับที่พบว่า การจัดแสดงส่วนใหญ่จะจัดในภาคอีสาน รองลงมาเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวอีสานทำงานอยู่จำนวนมาก และหลังจากการระบาดของโควิด จะเห็น การลงทุนอย่างสูง ของวงหมอลำ ไม่ว่าจะเป็นชุด แสง สี เสียง เพื่อ ยกระดับโชว์ ซึ่งส่งผลถึง ปริมาณจำนวนงานจ้าง เพิ่มขึ้นประมาณ 40-45% สำหรับผลของการลงพื้นที่เพื่อศึกษาหาข้อมูลวิจัยเชิงลึกดังกล่าวมีรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้ 1. พลังของ Cultural Marketing ผลการวิจัยแสดงให้เห็นข้อมูลว่า 78.8% ของกลุ่มตัวอย่างในภาคอีสานเคยเข้าชมคอนเสิร์ตหมอลำ, จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่องานอยู่ที่ 2,000 – 6,000 คน, จำนวน eyeballs ตลอดทั้งปีสูงถึง 8,532,000 คน พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายของผู้ชมในอุตสาหกรรมนี้ในปี 2567 จะสูงถึง 5,998.91 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าในช่วงโควิด-19 ถึง 756 % และสูงกว่าระดับก่อนโควิด 127% เมื่อเทียบช่วงเดือนเดียวกัน 2. วงหมอลำ 10 อันดับ ครองใจคนอีสาน วงหมอลำยอดนิยมของภาคอีสานนั้นส่วนใหญ่มีประวัติยาวนานหลายทศวรรษ จัดแสดงตั้งแต่รุ่นยายสู่รุ่นหลาน และมีสมาชิกร่วมวงขนาดใหญ่ โดยในส่วนของวงหมอลำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากใน Social Media จำนวน 10 อันดับ ซึ่งยึดตามข้อมูลอัปเดตล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2567 ได้แก่ วงระเบียบวาทศิลป์ วงประถมบันเทิงศิล วงสาวน้อยเพชรบ้านแพง …

“หมอลำ” ขุมทรัพย์เงินสะพัด 6000 ล้าน ที่คนไทยดู 20 ล้านคน จัดแสดงกว่า 2,600 รอบ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา . 👷ค่าแรงขั้นต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เช่น ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน จากตารางแสดงให้เห็นว่า 🇨🇳ประเทศจีนมีค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 401.75 บาทต่อวัน หรือ 12,454.20 บาทต่อเดือน 🇹🇭ในขณะที่ประเทศไทย (ภาคอีสาน) มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 343.45 บาทต่อวัน ซึ่งเทียบเป็นรายเดือนแล้วประมาณ 10,646.95 บาท 🇲🇲ส่วนประเทศเมียนมามีค่าแรงขั้นต่ำต่ำสุดในกลุ่มนี้ที่ 109.02 บาทต่อวัน หรือประมาณ 3,379.62 บาทต่อเดือน เด้อ . ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของค่าแรงในแต่ละประเทศซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานค่าครองชีพและสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แต่ละประเทศใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและรักษาสิทธิของแรงงาน ในระดับปัจเจกบุคคล: คุณค่าของแรงงาน: ค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่ตลาดให้กับทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ยิ่งมีทักษะที่ตลาดต้องการมากเท่าไหร่ ค่าจ้างก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเท่านั้น มาตรฐานการครองชีพ: ค่าจ้างเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดมาตรฐานการครองชีพของคนเรา ว่าสามารถซื้อสินค้าและบริการอะไรได้บ้าง รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม แรงจูงใจในการทำงาน: ค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้คนเราอยากทำงานและพัฒนาตนเอง ในระดับองค์กร: ประสิทธิภาพการผลิต: ค่าจ้างที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ต้นทุนการผลิต: ค่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิต หากค่าจ้างสูงขึ้น ก็อาจส่งผลต่อราคาขายสินค้าหรือบริการ ความสามารถในการแข่งขัน: ค่าจ้างที่สูงเกินไปอาจทำให้บริษัทขาดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่ค่าจ้างที่ต่ำเกินไปอาจทำให้ขาดแรงงานที่มีคุณภาพ ในระดับสังคม: ความเหลื่อมล้ำทางรายได้: การกระจายตัวของค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม สถานการณ์เศรษฐกิจ: การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างโดยเฉลี่ยสามารถบ่งบอกถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เช่น ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว ค่าจ้างโดยเฉลี่ยมักจะเพิ่มขึ้น นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เช่น การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ หรือมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน จะมีผลต่อระดับและการกระจายตัวของค่าจ้าง ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าจ้าง ทักษะและประสบการณ์: ยิ่งมีทักษะและประสบการณ์สูง ค่าจ้างก็ยิ่งสูงขึ้น อุปสงค์และอุปทานของแรงงาน: หากอุปสงค์ของแรงงานในสาขาใดสาขาหนึ่งสูง แต่ปริมาณแรงงานมีจำกัด ค่าจ้างในสาขานั้นก็จะมีแนวโน้มสูงขึ้น ค่าครองชีพ: ค่าจ้างมักจะปรับตัวตามค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายแรงงานและนโยบายของรัฐบาลมีผลต่อการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและสวัสดิการต่างๆ ที่ลูกจ้างได้รับ อำนาจต่อรอง: อำนาจต่อรองของลูกจ้างและนายจ้างมีผลต่อการกำหนดระดับค่าจ้าง สรุป ค่าจ้างแรงงานเป็นตัวแปรที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง การวิเคราะห์ค่าจ้างจึงต้องพิจารณาในบริบทที่หลากหลาย ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล องค์กร และสังคม . ที่มา เว็ปไซต์ vdb-loi,prd.co.th,vietnam.incorp,b2b-cambodia,atlashxm,chinalegalexperts . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #ISANxGMS #เพื่อนบ้านอีสาน

ใครว่าภาคอีสานจนสุด เมื่อภาพจำไม่ตรงกับสถิติ ภาคอีสานภูมิภาคที่มีการลดลงของความเหลื่อมล้ำมากที่สุด และยังมีสัดส่วนคนจนน้อยกว่าภาคใต้

ภาคใต้ ภาคอีสาน Top 2 ภูมิภาคที่มีสัดส่วนคนจนสูงสุด แต่ภาคอีสานกลับมีการลดลงของความเหลื่อมล้ำมากที่สุด ในปี 2566 ทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ออกรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความอยากจน และความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย 2566 ออกมา ซึ่งเป็นรายงานที่ออกเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว โดยในปี 2566 นี้ภาพรวมสถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยในด้านของจำนวนคนจนลดลงจาก 3.79 ล้านคน ในปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนคนจนร้อยละ 5.43 ลดลงมาอยู่ที่ 2.39 ล้านคน ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนคนจนร้อยละ 3.41 ผลจากการขยายตัวต่อเนื่องของภาคเกษตรกรรมซึ่งเป็นภาคที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดในประเทศ สอดคล้องกับค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคทางด้านรายได้ที่ลดลงจาก 0.43 ในปี 2564 มาอยู่ที่ 0.42 ในปี 2566 แสดงถึงความเหลื่อมล้ำทางด้านรายจ่ายที่ลดลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคทางด้านรายได้ที่ลดลงจาก 0.343 ในปี 2565 มาอยู่ที่ 0.335 ในปี 2566 แสดงให้เห็ยความไม่เสมอภาคทางด้านรายจ่ายนั้นลดลงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม  แต่ก็ยังคงมีจุดที่น่าเป็นกังวลอยู่ในด้านของกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงจะกลายเป็นคนจนที่ต้องเผชิญกับปัจจัยเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมในมิติต่างๆ ทั้งด้านการประกอบอาชีพ การศึกษา ที่อยู่อาศัย เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในพื้นที่นอกเขตเทศบาลจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่อยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลอย่างชัดเจน โดยในปี 2566 นี้เส้นความยากจนได้มีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2,997 บาท/คน/เดือน ในปี 2565 ขึ้นเป็น 3,043 บาท/คน/เดือน อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อครัวเรือนยากจนนั้นคือขนาดขางครัวเรือนที่ยิ่งครัวเรือนนาดใหญ่จะยิ่งมีความยากจนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากครัวเรือนนั้นเป็นครัวเรือนแหว่งกลางที่ขาดบุคคลในครอบครัวที่ต้องออกไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัว ทั้งนี้อัตราการพึ่งพิงของครัวเรือนยากจนจะมีสูงกว่าครัวเรือนปกติอยู่ที่ร้อยละ 103.39 เมื่อเทียบกับครัวเรือนปกติที่ร้อยละ 62.34 กราฟที่ 1 เส้นความยากจน สัดส่วนคนจน และจำนวนคนจน ปี 2555 – 2566 ที่มา : ข้อมูลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประมวลผลโดย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   เส้นความยากจน เป็นเครื่องมือสำหรับใช้วัดภาวะความยากจน โดยคำนวณจากค่าใช้จ่ายสำหรับอาหาร สินค้าและบริการอื่นที่ไม่ใช่อาหารที่ปัจเจกบุคคลจำเป็นต้องใช้ในการดำรงค์ชีวิตขั้นพื้นฐาน อัตราการพึ่ง อัตราส่วนของประชากรที่อยู่ในกลุ่มอายุนอกวัยแรงงานต่อประชากรในวัยแรงงาน โดยมีข้อสมมติว่า ประชากรที่อยู่ในกลุ่มอายุนอกวัยแรงงานนั้นต้องพึ่งพิงทางเศรษฐกิจ ครัวเรือนแหว่งกลาง ครัวเรือนที่มีสมาชิกรุ่นปู่ย่า หรือตายาย อาศัยอยู่กับรุ่นหลานในวัยเด็ก โดยขาดสมาชิกรุ่นพ่อแม่ ซึ่งมักย้ายถิ่นฐานไปทำงาน   สำหรับสถานการณ์ในภาคอีสานนั้นจะเห็นได้ว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศที่ร้อยละ 4.16 เป็นรองภาคใต้ที่ร้อยละ 7.48 แต่เมื่อพิจารณาเป็นจำนวนคนจะพบว่าภาคอีสานนั้นเป็นภาคที่มีจำนวนคนจนมากที่สุดในประเทศที่ประมาณ 7.58 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.71 ของคนจนทั้งหมด รองลงมาคือภาคใต้ที่ประมาณ 7.33 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 30.65 ห่างจากภาคอีสานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กราฟที่ 2 สัดส่วนคนจน จำแนกรายภาค ปี 2555 – 2566 ที่มา : …

ใครว่าภาคอีสานจนสุด เมื่อภาพจำไม่ตรงกับสถิติ ภาคอีสานภูมิภาคที่มีการลดลงของความเหลื่อมล้ำมากที่สุด และยังมีสัดส่วนคนจนน้อยกว่าภาคใต้ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ . . การเกษตรของไทยก้าวหน้าไปไกลมาก ด้วยแนวทาง เกษตรทฤษฎีใหม่ ที่เกิดขึ้นในแต่ละตำบลทั่วประเทศ โครงการนี้เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการเกษตรที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตของประเทศไทย . ในภาคภาคอีสาน ของเราเป็นแหล่งสำคัญของเกษตรกรไทย เรามีการดำเนินโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในหลายจังหวัด ข้อมูลล่าสุดจากโครงการนี้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน เช่น . 1⃣.จังหวัดนครราชสีมา: มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการถึง 3,307 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 11,768.5 ไร่ โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละครัวเรือนมีพื้นที่การเกษตรประมาณ 3.6 ไร่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ 2⃣.จังหวัดอุดรธานี: ก็ไม่แพ้กัน โดยมีเกษตรกรถึง 3,929 ครัวเรือน ทำการเกษตรบนพื้นที่ทั้งหมด 15,540 ไร่ พื้นที่เฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 4.0 ไร่ แสดงถึงการขยายตัวของการทำเกษตรที่ยั่งยืนในพื้นที่นี้ 3⃣.สกลนคร: อีกหนึ่งจังหวัดที่โดดเด่น มีเกษตรกร 2,311 ครัวเรือน ใช้พื้นที่ทำเกษตรกว่า 8,567 ไร่ พื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 3.7 ไร่ต่อครัวเรือน . โครงการนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังขยายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เช่น 🌳 ภาคกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญของการเกษตรไทย มีเกษตรกรเข้าร่วมถึง 2,741 ครัวเรือน ใช้พื้นที่การเกษตรถึง 10,003 ไร่ เฉลี่ย 3.6 ไร่ต่อครัวเรือน 🌳 ภาคใต้ มีพื้นที่การเกษตร 5,966 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วม 1,816 ครัวเรือน โดยแต่ละครัวเรือนมีพื้นที่เฉลี่ย 3.3 ไร่ . โครงการนี้มุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงชีพได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่จึงเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย   หมายเหตุ: ข้อมูลถึง มีนาคม 2567 . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เกษตรยั่งยืน #เกษตรอีสาน #พัฒนาท้องถิ่น #1ตำบล1กลุ่ม #เกษตรกรอีสาน

พามาเบิ่ง🧐 18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่🪙

พามาเบิ่ง18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่.รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ของทั้ง 18 สาขาอาชีพในภาคอีสาน มีดังต่อไปนี้การศึกษา ฿23,897กิจกรรมด้านสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ ฿18,167ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ฿17,923กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย ฿17,323การบริหารราชการ การป้องกันประเทศ ฿15,380ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ ฿14,353การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ฿13,851การจัดหาน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย ฿13,182กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ ฿12,323กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค ฿11,523การทำเหมืองแร่ และเหมืองหิน ฿11,305การผลิต ฿10,877การขายส่งและขายปลีก ฿10,384กิจกรรมการบริหารและการบริการสนับสนุน ฿10,335ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ ฿9,761โรงแรมและร้านอาหาร ฿9,302การก่อสร้าง ฿8,721เกษตรกรรม ฿6,996.จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่าสาขาอาชีพ ที่มีแหล่งรายได้จากทางราชการจะมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เช่น ภาคการศึกษา, กิจกรรมด้านสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ ที่มีความแตกต่างด้านรายได้อย่างมาก เพราะในฝั่งเอกชนจะมีรายได้สูง กว่าค่าจ้างจากทางภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น วิชาชีพแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ ที่มีรายได้เฉลี่ยหลักหมื่น หรือ แสนบาทต่อเดือน ในขณะที่ รายได้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอยู่ในหลักพัน.ส่วนอาชีพที่รับรายได้ในภาคเอกชน การค้า และบริการ ในภาคอีสานยังใกล้เคียงกับค่าแรงเฉลี่ยขั้นต่ำที่ 400 บาท/วัน แต่ก็ยังมีอาชีพที่น่ากังวลคือ อาชีพด้านงานศิลป์ การบริการโรงแรมและอาหาร การก่อสร้าง ที่มีรายได้ต่ำที่สุด.สุดท้ายเกษตรกรที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุด อาจพิจารณาได้จากหลายสาเหตุ เช่น รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาสินค้าทางการเกษตรในช่วงเวลานั้นๆ, จำนวนเกษตรมีจำนวนมากถึง 4.1 ล้านคน ทำให้ค่าเฉลี่ยต่ำ, และสุดท้ายเพราะรายได้เกษตรกรเป็นรายได้ที่ส่วนใหญ่ได้รับการละเว้นการเสียภาษี หรือเกษตรก็ไม่ได้นำส่งรายได้เข้าสู่ระบบ ทำให้ไม่มีตัวเลขรายได้ที่แท้จริงปรากฏในระบบฐานข้อมูล..หมายเหตุ: ข้อมูลปี ไตรมาสที่ 1 ปี 2567ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่https://linktr.ee/isan.insight.#ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แรงงาน #ค่าจ้างเฉลี่ย #ค่าจ้างเฉลี่ยอีสาน

พามาเบิ่ง อัตราค่าจ้างรายอาชีพในภาคอีสาน

สถิติค่าจ้างรายอาชีพของกรมจัดหางาน พบว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีสถิติค่าจ้างสูงสุดโดยแบ่งเป็น รายชั่วโมง 160 บาท รายวัน 850 บาท รายเดือน 300,000 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 8,550 บาทต่อเดือน ในส่วนของภาคอีสานนั้นในเป็นภาคที่มีรายได้สูงสุดต่ำที่สุดในประเทศอยู่ที่ 120,000 บาทต่อเดือน และหากมองเป็นรายได้เฉลี่ยต่อเดือนภาคอีสานก็ยังคงเป็นภาคที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกภาคเช่นกันอยู่ที่ 12,510 บาทต่อเดือน   ถ้าเรามาดูในส่วนของรายได้เฉลี่ยตามหมวดอาชีพในภาคอีสาน 3 อันดับแรกที่มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดในภาคอีสาน ได้แก่ ผู้จัดการ/เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส ≈ 16,601 บาทต่อเดือน ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ ≈ 14,767 บาทต่อเดือน ช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ≈ 12,294 บาทต่อเดือน จะเห็นได้ว่าแม้รายได้สูงสุดของกลุ่มอาชีพนี้จะสูงมากแค่ไหนในส่วนของรายได้เฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ที่ได้นั้นก็ยังคงอยู่เพียงแค่หลักหมื่นต้นๆเท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นกลุ่มผู้มีประสบการณ์และความชำนาญสูงเท่านั้นที่จะได้ค่าจ้างสูงตามเพดานของอาชีพนั้นๆ   สำหรับอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดในประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ นักวิเคราะห์การเงิน ≈ 47,225 บาทต่อเดือน ผู้บริหารระบบงานคอมพิวเตอร์ ≈ 37,588 บาทต่อเดือน นักวิเคราะห์และพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์  ≈30,225 บาทต่อเดือน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ≈ 29,110 บาทต่อเดือน นักวิเคราะห์ด้านการบริหารและองค์การ ≈ 27,337 บาทต่อเดือน เมื่อเรามองดูกลุ่มอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงนั้นจะพบว่า ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นอาชีพเฉพาะทางที่อาศัยประสบการณ์ในการทำงานสูง โดยอาชีพ 3 ใน 5 นั้นเป็นอาชีพที่อยู่ในความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอาชีพที่มีกระแสมาแรงและความต้องการของทั่วโลกในบริษัทใหญ่ๆ มีสูงเช่นกัน   ในส่วนของอาชีพที่มีความต้องการมากที่สุดในประเทศไทย 5 อันดับแรกนั้น ได้แก่ พนักงานขายในศูย์บริการลูกค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 13,975 บาท เสมียนทั่วไป มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 14,470 บาท ตัวแทนขายด้านการค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,405 บาท ผู้ประกอบวิชาชีพด้านโฆษณาและการตลาด มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,929 บาท เสมียนด้านบัญชี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 15,107 บาท จะเห็นได้ว่าอาชีพส่วนใหญ่ที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงานนั้น 3 ใน 5 จะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าและการตลาด จะไม่ใช่อาชีพที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเหมือนกลุ่มอาชีพที่ค่าจ้างสูง แต่เป็นอาชีพที่มีความต้องการของตลอดแรงงานสูง ขณะที่รายได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป จากรายงานพบว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุดในประเทศ แม้ว่าจะมีจำนวนแรงงานมากเป็นอันดับสองของประเทศก็ตาม อย่างไรก็ตาม แรงงานส่วนใหญ่ในภาคอีสานทำงานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นภาคการผลิตที่มีรายได้ไม่สูง เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายและรายได้ของกลุ่มคนในภาคเกษตรกรรม จะเห็นได้ว่ารายได้จากการทำเกษตรกรรมไม่สูงนัก เนื่องจากต้องรอผลผลิตตามฤดูกาล ในระหว่างนั้น แรงงานเกษตรต้องหารายได้เสริมจากอาชีพอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ นอกจากนี้ เมื่อมีรายได้จากการขายผลผลิตเกษตร ส่วนใหญ่จะต้องนำไปชำระหนี้สินที่เกิดจากต้นทุนการผลิต ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ รายได้เฉลี่ยของภาคอีสานจึงไม่สูงนัก หากพิจารณาด้านความหลากหลายของอาชีพที่เป็นงานประจำ จะพบว่าไม่เพียงแต่ภาคอีสานเท่านั้น แต่ภาคอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็มีความหลากหลายทางอาชีพน้อยเช่นกัน เมื่อดูจากเว็บไซต์หางานต่างๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัด …

พามาเบิ่ง อัตราค่าจ้างรายอาชีพในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ช่วยโหวตให้หนูหน่อย หนูชื่ออะไรดีคะ #เตรียมโหวต 5 ชื่อน้องฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ ศรีสะเกษ

พี่ๆ ช่วยโหวตให้หนูหน่อย หนูชื่ออะไรดีคะ #เตรียมโหวตตั้งชื่อน้องฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ โดยจะเปิดให้ประชาชนร่วมโหวตทางสื่อโซเชียล ผ่านเพจสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ โดยจะเปิดให้โหวต จำนวน 4 วันระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม จนถึงเวลา 24.00 น. ใน 5 รายชื่อ ประกอบด้วย 1. น้องลำดวน ความหมาย มาจากชื่อต้นไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ 2. น้องศรีเกษ ความหมาย มาจากพ่อชื่อสมศรี แม่ชื่อเกษริน และชื่อจังหวัดศรีสะเกษ 3. น้องสาวศรี ความหมาย สาว มาจาก สาวสวย เป็นการกลบเสียงบลูลี่ว่าน้องน่าเกลียด ส่วนคำว่า ศรี คือ ศรีสะเกษ เมืองที่น้องเกิด 4. น้องหอมแดง ความหมาย คือพืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ น้องตัวสีน้ำตาลแดงเหมือนหอมแดง 5. น้องหมูกระเทียม ความหมาย คือ พืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ และหมูกระเทียมอร่อย โดยผู้ที่ร่วมโหวตทุกคนมีสิทธิ์ได้รับรางวัล เป็นเสื้อน้องฮิปโปศรีสะเกษ จำนวน 150 รางวัล และผู้ที่ร่วมโหวต 3 ลำดับแรกของรายชื่อที่ได้รับคัดเลือก จะได้รับรางวัลใหญ่จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ (ททท.) ไปโหวตที่เพจนี้กัน https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0267jZ4o9oknXnX7xf1HqCbBn6GTe3AiscNqtUeX6gSFimaoPrsNbijaA5QqG27LYgl&id=61555721168549 อัพเดตล่าสุด หลังเป็นประเด็นดราม่าถูกเปรียบเทียบความน่ารักกับเจ้าหมูเด้ง ดาราดังจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไปเมื่อหลายวันก่อน วันนี้ ‘ศรีสะเกษ’ น้องฮิปโปฯ เบบี๋จากสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ลูกสาวของพ่อสมศรีและแม่เกศริน ที่ตอนนี้คนหันมาเอ็นดูกันมากขึ้นก็ได้รับชื่อใหม่แล้ว ! ทางสวนสัตว์เลยเปิดให้มีการโหวตชื่อ ประกอบด้วย 5 ชื่อด้วยกันคือ ลำดวน ศรีเกษ สาวศรี หอมแดง และหมูกระเทียม โดยแทบทุกชื่อจะเป็นของดีจังหวัดศรีสะเกษแทบทั้งนั้น สุดท้ายน้องได้ชื่อว่า “หอมแดง” ด้วยคะแนนโหวตถล่มทลายถึง 52,045 คะแนน นำชื่ออื่นแบบขาดลอย ที่สำคัญน้องหอมแดงยังมีชื่อพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์อีกด้วยว่า “สาวศรี” อีกด้วย  ประกาศอย่างเป็นทางการ!! ผลการโหวตชื่อลูกฮิปโปศรีสะเกษ ยอดโหวต 4 วัน ทั้งหมด 83,931 โหวต ชื่อที่มีผู้โหวตให้มากที่สุดกว่า 52,045 โหวต ได้แก่ชื่อ  “#น้องหอมแดง” ใครโหวตชื่อนี้บ้างครับ  อันดับ 1 : น้องหอมแดง อันดับ 2 : น้องลำดวน อันดับ 3 : น้องหมูกระเทียม  “น้องหอมแดง” เป็นลูกตัวแรกของ แม่ฮิปโปชื่อ “เกดสิริน” กับ พ่อชื่อ “สมศรี” เกิดเมื่อวันที่ 13 ต.ค. …

ช่วยโหวตให้หนูหน่อย หนูชื่ออะไรดีคะ #เตรียมโหวต 5 ชื่อน้องฮิปโปโปเตมัสเกิดใหม่ ศรีสะเกษ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top