SHARP ADMIN

พามาเบิ่ง มูลค่าการลงทุนของเอกชนในอีสานปี 2567

จังหวัด มูลค่าทุนจัดตั้ง (ล้านบาท) ร้อยละการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าการจดทะเบียน 2566 2567 นครราชสีมา 2,913 2,583 -11.3% ขอนแก่น 2,314 2,221 -4.0% อุดรธานี 1,311 2,046 56.1% อุบลราชธานี 1,203 1,331 10.6% บุรีรัมย์ 1,243 1,144 -8.0% สุรินทร์ 580 857 47.6% ร้อยเอ็ด 853 774 -9.3% มหาสารคาม 1,081 768 -29.0% กาฬสินธุ์ 524 593 13.1% ชัยภูมิ 743 562 -24.3% มุกดาหาร 243 555 128.4% สกลนคร 641 537 -16.2% ศรีสะเกษ 489 507 3.6% หนองคาย 336 324 -3.5% เลย 316 296 -6.3% นครพนม 324 294 -9.3% ยโสธร 370 290 -21.7% หนองบัวลำภู 210 226 7.8% อำนาจเจริญ 195 180 -7.7% บึงกาฬ 251 132 -47.3% กรุงเทพและปริมณฑล 409,986 156,697 -61.8% ภาคกลาง 64,395 58,020 -9.9% ภาคใต้ 32,821 27,464 -16.3% ภาคอีสาน 16,141 16,220 0.5% ภาคเหนือ 17,530 15,771 -10.0% ภาคอีสาน ธุรกิจที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด: การผลิตพลังงาน 384 ล้านบาท (+130.7%) ธุรกิจที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด: การผลิต 1,853 ล้านบาท (-31.3%) ธุรกิจที่มีมูลค่ามากที่สุด: การก่อสร้าง 9,275 ล้านบาท (+5.9) การลงทุนของภาคเอกชนนอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าและสร้างการขับเคลื่อนให้กับเศรษฐกิจแล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ตามมาคือการจ้างงานของคนในพื้นที่ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้พื้นที่สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน การมีงานทำในพื้นที่ไม่เพียงแต่ลดการย้ายถิ่นแรงงานออกจากพื้นที่เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระดับฐานพื้นที่อีกด้วย ในปี […]

พามาเบิ่ง มูลค่าการลงทุนของเอกชนในอีสานปี 2567 อ่านเพิ่มเติม »

อุดรธานี ศักยภาพเกินเมืองรอง ดึงดูดผู้เยี่ยมเยือนเกือบ 5 ล้านคน พร้อมครองแชมป์รายได้จากชาวต่างชาติสูงสุดในภาคอีสาน

อุดรธานี เป็นจังหวัดที่อยู่ในกลุ่มจังหวัด ‘สบายดี’ (ประกอบไปด้วย: บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) มีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP) ในปี 2566 อยู่ที่ 124,478 ล้านบาท โดยอุดรธานีนั้นขึ้นชื่อเรื่องการค้า และการท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวหลากสายหลากสไตล์ ยกตัวอย่างเช่น:  สายธรรมชาติ: ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี  สายประวัติศาสตร์: พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง สายธรรมะและสายมู: วังนาคินทร์คำชะโนด วัดป่าภูก้อน สายเมือง: เซนทรัลพลาซ่าอุดรธานี ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ Agoda เผย อุดรธานีคว้าอันดับ 1 จุดหมายท่องเที่ยวสุดคุ้ม   อุดรฯ เป็นหมุดหมายแรกในการลงทุนในอีสาน อุดรธานีตั้งอยู่ในภาคอีสานตอนบน และมีเขตติดต่อกับจังหวัดชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งถือว่าใกล้กับประเทศลาว อีกทั้งอุดรธานี ยังเป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งทางถนน ราง และทางเครื่องบิน จึงถือว่ามีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางคมนาคมเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะการลงทุนจากภาครัฐในโครงการ “รถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย กรุงเทพฯ – โคราช – หนองคาย” โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – หนองคาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง แบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ระยะด้วยกัน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 253 กิโลเมตร วงเงิน 179,413 ล้านบาท ระยะที่ 2 นครราชสีมา – หนองคาย ระยะทางประมาณ 357.12 กิโลเมตร วงเงินรวมกว่า 341,351 ล้านบาท โดยหากโครงการนี้แล้วเสร็จในอนาคตจะย่นระยะเวลาการเดินทาง 606.17 กิโลเมตร ให้เหลือเวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง 36 นาที เท่านั้น และจะทำให้การเดินทางข้ามจังหวัด และขจัดอุปสรรคในการเดินทางข้ามจังหวัดในภาคอีสานลดลง และจะกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวตลอดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้มากขึ้น . นอกจากนี้แล้ว อุดรธานียังมีโครงการศูนย์กลางการค้าและการขนส่งสินค้า (Logistic Park) และโครงการท่าเรือบก (Inland Container Deport) ที่จะจัดตั้งขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าและพร้อมเป็นศูนย์โลจิสติกส์ประจำอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย . ส่วนในด้านเศรษฐกิจนั้น ปี 2565 อุดรธานี มีมูลค่าเศรษฐกิจ (GPP) 120,539 ล้านบาท มากเป็นอันดับ 4 ของอีสาน และมีรายได้ต่อหัว (GPP per capita) 96,546 บาท สูงเป็นอันดับ 5 ของอีสาน ซึ่งมีการเติบโตจากปีก่อนหน้าทั้งมูลค่าเศรษฐกิจและรายได้ต่อหัว . โดยเศรษฐกิจของอุดรธานีพึ่งพาภาคบริการเป็นหลัก

อุดรธานี ศักยภาพเกินเมืองรอง ดึงดูดผู้เยี่ยมเยือนเกือบ 5 ล้านคน พร้อมครองแชมป์รายได้จากชาวต่างชาติสูงสุดในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

CEA แถลงข่าวจัดเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ผนึกกำลังพันธมิตรระดับประเทศ ปั้นอีสานสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคสู่สากล

ISAN Insight And Outlook ร่วมเป็นพันธมิตรเครือข่าย เทศกาล ‘อีสานสร้างสรรค์’ จากจุดเริ่มต้นสู่ความร่วมมือทุกภาคส่วนเป็นปีที่ 5 หลายๆ ท่านอาจจะรู้จักหรือ เคยได้ยินงานเทศกาลคุ้นหูอย่างเช่น Bangkok Design Week, Chiangmai Design Week, Pakk Taii Design Week, และ นี่คืองานที่ไม่ได้จำกันที่แค่ Design Week แต่อีสานคือดินแดนแห่งความสร้างสรรค์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นงานในชื่อ ISAN Creative Festival เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับประเทศ จัดงานแถลงข่าว ประกาศความพร้อมจัด “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568” หรือ “Isan Creative Festival 2025” (ISANCF2025) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้ธีม “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 บน 4 พื้นที่สำคัญในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ TCDC ขอนแก่น ย่านกังสดาล, ย่านชุมชนสร้างสรรค์โคลัมโบ, โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น, ชุมชนสาวะถี และพื้นที่อื่น ๆ ในภาคอีสาน นายสักก์สีห์ พลสันติกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘เทศกาล’ ไม่ใช่แค่กิจกรรม แต่คือเวทีที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,590 ล้านบาท และปีนี้เทศกาลฯ พร้อมก้าวสู่ปีที่ 5 อย่างเต็มรูปแบบ โดยยกระดับเทศกาลให้กลายเป็น Creative Business Platform ที่เชื่อมโยงนักสร้างสรรค์และชุมชนกับภาคอุตสาหกรรม พัฒนาทุนวัฒนธรรมให้เกิดการลงทุน การคืนถิ่นของคนรุ่นใหม่ และสร้างการเติบโตให้เมืองในอีสานกลายเป็น Creative City ที่กระจายโอกาสอย่างยั่งยืน” “ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ที่อยากชวนทุกคนมาต่อยอดโอกาสใหม่ของอีสาน ผ่านการใช้กระบวนการซอฟต์พาวเวอร์ทั้งในมิติของ ‘การโชว์โอกาส’ ผ่านต้นทุนวัฒนธรรมที่ต่อยอดได้ทางธุรกิจ และ ‘การโชว์ศักยภาพเชิงพื้นที่’ ที่พร้อมต้อนรับการลงทุน การท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ โดยปีนี้มีมากกว่า 200 โปรแกรมใน 7 รูปแบบกิจกรรม ทั่ว 4 พื้นที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น ซึ่ง CEA

CEA แถลงข่าวจัดเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” ผนึกกำลังพันธมิตรระดับประเทศ ปั้นอีสานสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคสู่สากล อ่านเพิ่มเติม »

🦉ยืนหนึ่งเรื่องภาษาและการติว🤓ขอนแก่น ศูนย์กลางการเรียนรู้ของอีสาน👨‍🏫

จังหวัด จำนวนธุรกิจ รายได้รวม กำไร ขอนแก่น 25 193 24 นครราชสีมา 14 72 3 อุดรธานี 10 17 2 อุบลราชธานี 14 29 4 สุรินทร์ 3 10 1 สถาบันกวดวิชา ธุรกิจที่คอยให้ความรู้แก่ผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมมากกว่าการเรียนที่โรงเรียน เปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดย่อมที่รวบรวมกลุ่มนักเรียนที่มีจุดประสงค์เดียวกันมาอยู่ ณ ที่เดียวกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ พัฒนาทักษะ และเตรียมความพร้อมในการสอบแข่งขันหรือการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยมีการจัดการเรียนการสอนอย่างเข้มข้นและเฉพาะทางมากกว่าห้องเรียนปกติ การแข่งขันด้านการศึกษามีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การแย่งชิงเข้าโรงเรียนชื่อดังไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ ในภาคอีสานเองก็มีทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยกระจายอยู่หลายแห่ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีโรงเรียนยอดนิยมที่มีอัตราการแข่งขันสูง รวมถึงมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในพื้นที่ ยิ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจกลุ่มนี้ จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีจำนวนการจดทะเบียนสถาบันกวดวิชามากที่สุดในอีสาน และยังมีรายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้สูงเป็นอันดับ 1 ปัจจัยสำคัญมาจากการที่ขอนแก่นมีโรงเรียนประจำจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสูงถึง 3 แห่ง รวมถึงโรงเรียนสาธิตซึ่งเป็นโรงเรียนในกำกับของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ จังหวัดขอนแก่นยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ที่มีการแข่งขันในการสอบเข้าค่อนข้างสูง และยังมีสถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และอีกหลายแห่งภายในจังหวัด เมื่อรวมกับจำนวนประชากรในพื้นที่ จึงส่งผลให้ธุรกิจสถาบันกวดวิชามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จังหวัดนครราชสีมามีจำนวนรองลงมา ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่และประชากรจำนวนมากติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยมีโรงเรียนประจำจังหวัดขนาดใหญ่ถึง 5 แห่ง และมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชมงคล และอื่นๆ ซึ่งมีความโดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์ จึงทำให้การแข่งขันด้านการศึกษาในจังหวัดนี้สูงเช่นเดียวกับขอนแก่น ส่งผลให้ธุรกิจกวดวิชาในพื้นที่มีความเคลื่อนไหวคึกคักไม่แพ้กัน หนึ่งในตัวชี้วัดที่สามารถสะท้อนถึงศักยภาพของนักเรียนในแต่ละจังหวัดได้อย่างชัดเจนคือ ผลคะแนนสอบ O-NET แม้ว่าบทบาทและความสำคัญของการสอบ O-NET จะลดลงจากอดีต แต่การสอบดังกล่าวก็ยังคงมีความจำเป็นและเป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่ใช้ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับพื้นที่ เมื่อพิจารณาคะแนนเฉลี่ย O-NET รายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มีจำนวนสถาบันกวดวิชามาก มักมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม คะแนนเฉลี่ยในจังหวัดเหล่านี้ยังคง ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระดับประเทศ ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างระหว่างส่วนกลางกับภูมิภาค แม้จะมีความพยายามจากภาคเอกชนในการส่งเสริมการเรียนรู้เพิ่มเติมผ่านสถาบันกวดวิชาก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจสถาบันกวดวิชา หลายแห่งจำเป็นต้องปิดสาขาชั่วคราวและปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์อย่างเร่งด่วน ผู้ประกอบการที่ไม่เคยวางระบบการเรียนการสอนออนไลน์มาก่อนเผชิญกับแรงเสียดทานอย่างหนัก ส่งผลให้บางรายต้องยุติกิจการ แม้จะไม่มีตัวเลขมูลค่าตลาดที่ชัดเจนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็พบว่า มีสถาบันกวดวิชาจำนวนมากทยอยล้มหายตายจาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย กลับกลายเป็นช่วงที่ความท้าทายทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากเกิด การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเดิมเน้นการสอบแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันนักเรียนสามารถยื่น Portfolio เพื่อขอรับการพิจารณาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยโดยตรงได้ ระบบการเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบหลัก ได้แก่ รอบ Portfolio รอบโควตา รอบ Admission กลาง และรอบรับตรงอิสระ (Direct Admission) ผลกระทบต่อธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาชัดเจนในรูปแบบของรอบ Portfolio ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4–5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 30% หันมาเลือกใช้วิธีการยื่นผลงาน แทนการสอบแข่งขันเพียงอย่างเดียว ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้เรียน และแรงจูงใจในการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยที่แตกต่างไปจากอดีต ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักเรียนสามารถใช้จุดแข็งเฉพาะตัวหรือประสบการณ์ที่โดดเด่นเป็นใบเบิกทางสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้

🦉ยืนหนึ่งเรื่องภาษาและการติว🤓ขอนแก่น ศูนย์กลางการเรียนรู้ของอีสาน👨‍🏫 อ่านเพิ่มเติม »

TCEB Isan Mice เผย “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” ติดอันดับ✈️ ‘เมืองจัดประชุมนานาชาติของโลก’ ใน ICCA Ranking แล้วอย่างเป็นทางการ!🤝

สมาคมการจัดประชุมนานาชาติเปิดผลรายงาน ICCA Ranking Report 2024 ซึ่งจัดอันดับประเทศและเมืองเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติทั่วโลก ไทยไต่ขึ้นสู่อันดับ 25 ของโลก ด้วยจำนวนงานประชุมนานาชาติรวม 158 งาน เพิ่มขึ้นจาก 143 งานในปีก่อน ส่งผลให้ไทยครอง อันดับ 5 ในเอเชีย และ ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน . ในระดับเมือง กรุงเทพมหานคร สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นสู่อันดับ 7 ของโลก และ อันดับ 3 ของเอเชีย ขณะที่ เชียงใหม่ (12 งาน), พัทยา (10 งาน) และภูเก็ต (8 งาน) ยังคงรักษาตำแหน่งเมืองเป้าหมายหลักในการจัดประชุมนานาชาติอย่างต่อเนื่อง รายงานยังเปิดเผยว่า ปีนี้มีอีก 9 เมืองในไทยที่สามารถผ่านเกณฑ์การจัดอันดับ ICCA เป็นครั้งแรกหรืออย่างต่อเนื่อง ได้แก่:  ชลบุรี (3 งาน)  เชียงราย (2 งาน)  ปทุมธานี (2 งาน)  หัวหิน (1 งาน)  ขอนแก่น (1 งาน) สมุย (1 งาน) นครราชสีมา (1 งาน) นนทบุรี (1 งาน) ปัตตานี (1 งาน) รวมแล้วในปี 2567 มีเมืองในประเทศไทยติดอันดับรวม 13 เมือง สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและศักยภาพของเมืองรองทั่วประเทศในฐานะเมืองไมซ์ .  ข่าวดีสำหรับชาวไมซ์อีสาน ‘ขอนแก่น’ และ ‘นครราชสีมา’ เป็น 2 ใน 9 เมืองในไทยที่สามารถผ่านเกณฑ์การจัดอันดับ ICCA เป็นครั้งแรกหรืออย่างต่อเนื่อง ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่ทำให้ขอนแก่นและนครราชสีมาก้าวขึ้นบนแผนที่โลกของเมืองไมซ์ระดับสากล ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/1DdfsF9n4R/?mibextid=wwXIfr _____ #ICCARanking #KhonKaenOnGlobalMap #TCEBISANMICE #MICEisMore ⸻ Thailand’s “New High” in Global Convention Destination Ranking Country Bouncing to 1st in ASEAN, 5th in Asia Pacific. Bangkok Rising to World’s 7th Spot and APAC’s Top 3 Chiang

TCEB Isan Mice เผย “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” ติดอันดับ✈️ ‘เมืองจัดประชุมนานาชาติของโลก’ ใน ICCA Ranking แล้วอย่างเป็นทางการ!🤝 อ่านเพิ่มเติม »

สุดล้ำ❗ทีมวิจัย มทส.โคราช พัฒนา CT-Scan พร้อม AI ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ รู้ผลใน 3 วิ

ไทยยังครองแชมป์ “ราชาทุเรียน” ส่งออกกว่า 800,000 ตัน/ปี สร้างรายได้ 150,000 ล้าน แต่ปัญหาทุเรียนอ่อน หนอนเจาะ เนื้อตกเกรด กำลังคุกคามความเชื่อมั่นของตลาด โดยเฉพาะ “จีน” ARDA จึงสนับสนุนทีมนักวิจัย ม.เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา พัฒนาเครื่อง CT-Scan ที่ตกรุ่นปลดระวางจากบริษัทเอกชนด้านเครื่องมือแพทย์ มาพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องต้นแบบ ร่วมกับ AI วิเคราะห์เนื้อทุเรียนแบบไม่ต้องผ่า… สแกนได้ 1,200 ลูก/ชม. แยกอ่อน-แก่ ตรวจหนอนได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดต้นทุน ลดแรงงาน และยกระดับคุณภาพผลผลิตสู่ตลาดโลก… นี่คือตัวอย่างจริงของ “เกษตรสมัยใหม่” ที่ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เกิดขึ้นแล้ว เพราะ “คุณภาพ” จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของเกษตรไทย. แม่นยำ 95% รู้ผลใน 3 วินาที! หรือ 1,200 ลูก/ชั่วโมงครั้งแรกในไทย! เครื่อง CT-Scan ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ ใช้งานจริงแล้วในล้งทุเรียน จ.จันทบุรี   ARDA โชว์ความเป็นเจ้าแห่งบัลลังก์ราชาหนาม สร้างเครื่อง CT-Scan ทุเรียนสุดล้ำประมวลผลด้วยระบบ AI คัดทุเรียน “ไม่อ่อน-ไม่หนอน” 1 ลูกใช้เวลาสแกน 3 วินาที ประเทศไทยถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งทุเรียน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดโลกปีละไม่ต่ำกว่า 800,000 ตันต่อปี อยู่ในภาคตะวันออกของไทย 300,000 ตัน ภาคใต้ประมาณ 500,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกหลักของไทยยังคงเป็นประเทศจีนที่มีการนำเข้าปีละไม่ต่ำกว่า 700,000 ตัน และถึงแม้ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย แต่การคัดแยกระดับความอ่อน-แก่และการตรวจสอบปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนยังคงเป็นความท้าทายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ซึ่งหากไทยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ นั่นไม่เพียงแต่จะเสียแชมป์ส่งออกทุเรียนเบอร์ 1 ของโลก แต่ยังเป็นการสูญรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความต้องการสูง แต่ปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยและกระทบต่อการตลาดส่งออกทุเรียน คือ ปัญหาหนอนในผลทุเรียนและการเก็บทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย อีกทั้งยังพบการลักลอบส่งออกทุเรียนอ่อนไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ และทำลายความเชื่อมั่นในคุณภาพทุเรียนไทยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นหากประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยคัดกรองทุเรียนที่แม่นยำก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและแก้ปัญหาดังกล่าวได้ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อดำเนินโครงการ “การออกแบบเครื่องคัดแยกความอ่อน-แก่ และหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนด้วยเทคนิค CT-Scan ร่วมกับการประมวลผลผ่านโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก” เพื่อออกแบบ และพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบความอ่อน – แก่ และหนอนในผลทุเรียนด้วยเทคนิค CT-Scan ระดับโรงคัดบรรจุ ที่มีความแม่นยำไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 “ปัจจุบันการประเมินทุเรียนอ่อนแก่จะใช้วิธีฟังเสียงเคาะ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเกษตรกร แต่ก็ไม่สามารถยืนยันผลได้ 100% ขณะที่หนอนมีวงจรชีวิตอยู่ข้างในและเติบโตพร้อมผลทุเรียนจึงไม่รู้ว่าทุเรียนแต่ละลูกมีหนอนหรือไม่ เพราะยังไม่มีวิธีตรวจสอบ แต่การใช้เทคนิค CT-Scan

สุดล้ำ❗ทีมวิจัย มทส.โคราช พัฒนา CT-Scan พร้อม AI ตรวจทุเรียน อ่อน-แก่-หนอนเจาะ รู้ผลใน 3 วิ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง แบงค์พาณิชย์อีสานยังเข้มงวด! ปล่อยกู้หดวูบต่อเนื่อง กระทบเป็นลูกโซ่หลายธุรกิจ

แบงค์พาณิชย์อีสานยังเข้มงวด! ปล่อยกู้หดวูบต่อเนื่อง   ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานปริมาณการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/2568 โดยพบว่า ภาพรวมทั่วประเทศยังคงชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า เช่นเดียวกับในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งมีมูลค่าสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2,823,141 ล้านบาท ลดลง 0.9% จากไตรมาสก่อน และลดลงกว่า 4.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหากมองย้อนปริมาณสินเชื่อและอัตราการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีก่อน(%YoY) ของภาคอีสาน มีตัวเลขดังนี้ ไตรมาส 1/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.94 ล้านล้านบาท หดตัว 0.8% ไตรมาส 2/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.91 ล้านล้านบาท หดตัว 1.4% ไตรมาส 3/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.87 ล้านล้านบาท หดตัว 2.4% ไตรมาส 4/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.84 ล้านล้านบาท หดตัว 3.4%   จะเห็นได้ว่าปริมาณสินเชื่อยังคงหดตัวลงต่อเนื่องในทุกไตรมาส โดยสาเหตุสำคัญคือ ความเสี่ยงด้านเครดิตของธุรกิจ SME ที่ยังอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในไตรมาส 1/2568 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ   ด้านภาพรวมการให้สินเชื่อไตรมาส1/2568 ของทั้งประเทศ เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  สินเชื่ออุปโภคบริโภค ภาพรวมหดตัว 2.2% แต่ละหมวดเปลี่ยนแปลงดังนี้ สินเชื่อส่วนบุคคล ขยายตัว 0.3% สินเชื่อที่อยู่อาศัย ขยายตัว 0.2% สินเชื่อบัตรเครดิต หดตัว 1.9% สินเชื่อรถยนต์ หดตัว 10.2% สินเชื่อธุรกิจ ภาพรวมหดตัว 0.8% สินเชื่อวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท หดตัว 5.5% สินเชื่อวงเงินมากกว่า500 ล้านบาท ขยายตัว 1.5% ผลจากการที่ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น หรือที่เรียกว่า “การหดตัวของสินเชื่อ” (Credit Crunch) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในวงกว้าง ดังนี้: ผลกระทบโดยรวม: เศรษฐกิจชะลอตัว: เมื่อสินเชื่อหายากขึ้น ภาคธุรกิจจะลงทุนน้อยลง ผู้บริโภคจะลดการใช้จ่าย ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง หรืออาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย สภาพคล่องตึงตัว: ธุรกิจและครัวเรือนจะมีเงินทุนหมุนเวียนน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาในการชำระหนี้ การบริหารจัดการกระแสเงินสด และการขยายธุรกิจ การลงทุนลดลง: ธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น ทำให้ไม่สามารถลงทุนในโครงการใหม่ๆ หรือขยายกิจการได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสร้างงานและการเติบโตในระยะยาว การบริโภคหดตัว: ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน รถยนต์ หรือสินค้าอื่นๆ ได้ยากขึ้น ทำให้การบริโภคโดยรวมลดลง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น: เมื่อธุรกิจไม่สามารถขยายตัวหรือแม้แต่รักษาระดับการดำเนินงานได้ ก็อาจต้องลดขนาดองค์กรหรือเลิกจ้างพนักงาน ทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น หนี้เสีย

พามาเบิ่ง แบงค์พาณิชย์อีสานยังเข้มงวด! ปล่อยกู้หดวูบต่อเนื่อง กระทบเป็นลูกโซ่หลายธุรกิจ อ่านเพิ่มเติม »

“บั้งไฟลายศรีภูมิ” ลวดลายแห่งฟ้า ศิลป์แห่งแผ่นดิน ถิ่นร้อยเอ็ดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ผลักดัน เศรษฐกิจชุมชน

“บุญบั้งไฟ ถือเป็นหนึ่งในประเพณีที่สำคัญของภาคอีสานที่จะขาดไปไม่ได้เลย ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวอีสานมีความเชื่อว่า ถ้าปีใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดความแห้งแล้ง ไม่มีน้ำทำนา แต่ถ้าปีใดจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะตกต้องตามฤดูกาล เกิดความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัย งานบุญบั้งไฟจึงถือเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญของชาวอีสาน พอใกล้ถึงวันงานชาวอีสานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะกลับบ้านไปร่วมงานบุญบั้งไฟ ซึ่งเป็นงานที่สร้างความรักความสามัคคีของคนท้องถิ่นเป็นอย่างดี  ภาพโดย คุณครูประภากร กลางคาร เผยแพร่โดย เพจ สุวรรณภูมิ .   ณ จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอ สุวรรณภูมิ ที่กำเนิดหนึ่งใน บั้งไฟที่มีการเอ้บั้งไฟที่งดงามมากที่สุดได้มีการจัดงานบุญบั้งไฟลายศรีภูมิ  โดยในปีนี้ ประเพณีบุญบังไฟลายศรีภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จะถูกจัดขึ้น วันที่ 4-8 เดือน มิถุนายน ปี 2568 ในงานประเพณีในปีนี้ ก็จะมีกิจกรรมตลอดทั้งงาน ไม่ว่าจะเป็น ขบวนมเหศักดิ์ สักการะและอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน, ขบวนฟ้อน วัฒนธรรมเมืองศรีภูมิ, การแสดงวัฒนธรรม, ประกวดขบวนฟ้อนสวยงาม, ประกวด บั้งไฟเอ้สวยงาม, และ จุดบั้งไฟถวยตามประเพณี และ ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายภายในงาน ภาพจาก: Sriphume  ในงานนี้ยังเป็นหนึ่งในงานที่ได้รับ โปรดเกล้าฯ พระราชทาน ถ้วยรางวัล การแข่งขันประเภท บั้งไฟเอ้สวยงาม และนอกจากนี้ ยังมีการประกวด “ขบวนฟ้อนสวยงาม” ขิงถ้วยรางวัลพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้วย ส่งผลให้ งานประเพณีบุญบั้งไฟลายศรีภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็น งานเดียวในประเทศไทย ที่มี การประกวดชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน ของทั้งสองพระองค์   ทำไมถึงว่าบั้งไฟลายศรีภูมิเป็นหนึ่งในบั้งไฟที่มีการเอ้บั้งไฟสวยมากที่สุด จากการศึกษาวิจัย ของ ดร.อำคา แสงงาม ปราชญ์แห่งท้องทุ่งกุลา เรื่องการตกแต่งบั้งไฟของชาวอำเภอสุวรรณภูมิ ในปี 2535 นั้น ได้ให้ข้อสังเกตในเบื้องต้นว่า การ “เอ้บั้งไฟ”หรือ การประดับตกแต่งบั้งไฟ  ของชาวสุวรรณภูมิ มีลักษณะที่เป็นแบบแผนเฉพาะถิ่น ในด้านการใช้วัสดุ วิธีการสร้าง รูปทรงวิธีการการเอ้ การใช้สีจากกระดาษ เอ้ตัวบั้งไฟ ประการที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ “การเอ้บั้งไฟ” ของสุวรรณภูมิ แตกต่างจากที่อื่นโดยชัดเจน คือ ลวดลายที่นำไปใช้ประดับตกแต่งนั้น จะเป็น ลวดลายที่เกิดจากการใช้ เทคนิคการตัดกรรไกรด้วยกระดาษ เท่านั้น ซึ่ง แตกต่างจากที่อื่นโดยสิ้นเชิง โดยลวดลาย มีพัฒนาการ โดยช่างในท้องถิ่น และมีการพัฒนาลวดลาย ไม่น้อยกว่า 100 ปี ในอีกประการหนึ่ง ของเอกลักษณ์การตกแต่งเอ้บั้งไฟ ของชาวสุวรรณภูมิ คือ รูปเศียรนาค ที่ใช้เอ้ ส่วนหัวบั้งไฟ โดย เสมือนเป็นการระลึกถึง ท้าวสุวรรณภังคี ซึ่งเป็นพยานาค

“บั้งไฟลายศรีภูมิ” ลวดลายแห่งฟ้า ศิลป์แห่งแผ่นดิน ถิ่นร้อยเอ็ดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ผลักดัน เศรษฐกิจชุมชน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 2 ผ้าไหม GI ผ้าไหมดี เมืองโคราช ที่สร้างมูลค่าปีละหลายพันล้าน

สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI (Geographical Indication) คือ เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจาก แหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจงซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่บอกคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า โดยจังหวัดนครราชสีมา มีผ้าไหมที่ถูกขึ้นทะเบียน เป็นสินค้า GI ได้แก่ ผ้าไหมปักธงชัย ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย โดยมีความหมายและการนิยามดังต่อไปนี้ 1. ผ้าไหมปักธงชัย       2. ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย   #เทคนิคและวัสดุการทอที่พัฒนา: มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ รวมถึงการทำลายมัดหมี่แบบโบราณ โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น เส้นใยสับปะรดและกาบกล้วยตากแห้งในการมัดลาย ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้เชือกพลาสติกแทน เนื่องจากปัญหาสีซึมถ้ามัดไม่แน่น เทคนิคการทอได้มีการพัฒนาจากกี่แบบดั้งเดิมไปเป็นกี่กระตุกที่มีรางกระสวย ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทออย่างเห็นได้ชัด ลายหางกระรอกเป็นลายดั้งเดิมของโคราชหรือของพื้นที่นี้ และถือเป็นผ้าประจำจังหวัดนครราชสีมา . ยอดขายผ้าและเครื่องแต่งกายในรูปแบบออฟไลน์ของจังหวัดนครราชสีมา 3 ปีย้อนหลัง ปักธงชัย อำเภอที่มีมีอิทธิพลต่อยอดขายรวมของจังหวัดมากที่สุด (คิดเป็นกว่า 90% ของยอดขาย) . จากการศึกษาแหล่งข้อมูลที่ให้มา การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI – Geographical Indication) ส่งผลกระทบในทางบวกต่อผ้าไหมและชุมชน ในหลายด้าน ดังนี้: • การสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันให้ผ้าไหมปักธงชัยเป็นสินค้า GI เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น การขึ้นทะเบียน GI เป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นของไทย การขึ้นทะเบียนนี้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่อำเภอปักธงชัยกว่า 40 ล้านบาทต่อปี การสร้างมูลค่าของสินค้าที่เป็นมาตรฐานชุมชนและภูมิปัญญาของท้องถิ่นนี้มีจุดประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก • การเป็นที่รู้จักและยอมรับ การขึ้นทะเบียน GI มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผ้าไหมปักธงชัยซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง GI ทำหน้าที่เสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า โดยคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นเป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่เฉพาะเจาะจงนั้น • การสร้างงานและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ การขึ้นทะเบียน GI นำมาสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน จากการนำจุดแข็งและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่นมาสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน การสร้าง GI ช่วยดูแลผู้ประกอบการ ผู้ผลิต พี่น้องเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าไหมปักธงชัย เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง กรมทรัพย์สินทางปัญญามีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ รวมถึงให้ความคุ้มครองและปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ • การขยายช่องทางการจำหน่าย มีการเดินหน้าสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้า GI ทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ โดยสรุปแล้ว การขึ้นทะเบียน GI สำหรับผ้าไหมปักธงชัย ได้ช่วยยกสถานะของผลิตภัณฑ์ เพิ่มรายได้ให้ชุมชน สร้างการยอมรับในตลาด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น . . #ISANInsightAndOutlook #ISANEcon #เศรษฐกิจอีสาน #ธุรกิจอีสาน #สินค้าGI #ผ้าไหมGI #ผ้าไหมคึมมะอุ #ผ้าไหมปักธงชัย #ผ้าไหมแท้

พามาเบิ่ง 2 ผ้าไหม GI ผ้าไหมดี เมืองโคราช ที่สร้างมูลค่าปีละหลายพันล้าน อ่านเพิ่มเติม »

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

“ทรู” เน็ตดับ โทรไม่ได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุดในอีสาน และ ทั่วไทย ผู้ใช้งานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน และ ทีมงาน ISAN Insight พบว่าเวลาช่วงสายวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ประมาณ 9 โมงเป็นต้นไป ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ค่าย “ทรู” ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุด ปัญหาสัญญาณ “ล่ม” ขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ X ในขณะที่📶เว็บไซต์ Downdetector รายงานเหตุ “True” ล่มทั้งเน็ต – สัญญาณมือถือ ไม่สามารถใช้งานได้ในหลายพื้นที่ 22 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Downdetector แพลตฟอร์มระบุข้อมูลสถานะบริการออนไลน์ รายงานเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ว่า เกิดเหตุสัญญาณอินเทอร์เน็ตของ True ล่มในหลายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ที่พบการล่มนั้นไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งบนพีซีและสมาร์ตโฟนได้ และยังพบการล่มใน DNS และ เซิร์ฟเวอร์ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงมีผู้ใช้งานหลายรายเปิดเผยบนโซเชียลมีเดียด้วยว่า สัญญาณโทรศัพท์ของ True ก็ไม่สามารถใช้งานโทรเข้า-ออกได้เช่นกัน . ทรู ชี้แจง ตอนนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขเหตุสัญญาณมือถือขัดข้องอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ใช้งานดีแทคนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว . #True #ทรู #ทรูล่ม #เน็ตทรูล่ม #สัญญาณล่ม ส่วนค่าย True แนะนำให้ รีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้ง เพื่อแก้ไขให้กลับมา โทรได้ 

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top