SHARP ADMIN

พามาเบิ่ง ลายผ้าพื้นเมือง อัตลักษณ์ประจำจังหวัด 

พามาเบิ่ง ลายผ้าพื้นเมือง อัตลักษณ์ประจำจังหวัด ..กาฬสินธุ์ : ผ้าไหมแพรวาลายนาค ๑๒ แขน เป็นลายที่มีชื่อสัตว์ที่เป็นมงคลตามความเชื่อของคนอีสานลุ่มน้ำโขง และ 12 หมายความตามฮีค 12 ของคนอีสาน.ขอนแก่น : ผ้าลายแคนแก่นคูณแคน (KAN) King of Music สัญลักษณ์แทนความเจริญและสนุกสนาน เมืองแห่งหมอแคนแก่น (KAEN) King of Esan หมายถึงมหานครขอนแก่นคูน (Koon) King of Tree and Flower สัญลักษณ์ดอกไม้ประจำจังหวัดขอนแก่น ดอกคูน.ชัยภูมิ : ผ้าลายหมี่คั่นขอนารี เดิมเป็น ลายขอนารี จากนั้นชาวบ้านเขว้านำลายคั่นมาเสริมเพิ่มเข้าไปจึงได้ชื่อว่า ลายหมี่คั่นขอนารี.นครพนม : ผ้ามุก ผ้าทอลายยกมุก มาจากคนในพื้นที่คล้ายนำเอาหอยมุกมาเจียรนัยเข้าไปในเนื้อผ้า เป็นเอกลักษณ์จนถึงปัจจุบัน.นครราชสีมา : ผ้าหางกระรอกสีแสด “เส้นหางกระรอก” ใช้อุปกรณ์ในการตี คือ ไนและโบก และ “สีแสด”เป็นสีของธงประจำกองเสือป่านครราชสีมา ซึ่ง ร.6 พระราชทานให้แก่จังหวัดนครราชสีมา.บึงกาฬ : ผ้าลายหมากเบ็ง (เบญจลักษณ์แห่งบึงกาฬ) สีม่วง-ขาว คือ สีของจังหวัดบึงกาฬ ประกอบไปด้วยแม่น้ำโขง พญานาค ขันหมากเบ็ง ดอกสิรินธรวัลลี และหินสามวาฬ.บุรีรัมย์ : ผ้าหางกระรอกคู่ เป็นลายผ้าลายริ้วที่เกิดจากการสร้างลวดลายด้วยเส้นไหมต่างสี หรือเส้นไหมพิเศษทางเส้นพุ่งควบ 2 เส้น ในเนื้อผ้าดูคล้ายจะมีปุยขนอ่อนขึ้นมาเหมือนกับเส้นขนของหางกระรอก.มหาสารคาม : ผ้าลายสร้อยดอกหมาก มาจากสิ่งใกล้ตัว ดอกหมากหรือพวงของดอกหมาก โดยลายผ้าเกิดจากการมัดหมี่ นำลายโคมเก้าและโคมห้ามามัดซ้อนกัน.มุกดาหาร : ผ้าไหมลายแก้วมุกดา มีลักษณะเป็นดอกสีขาวหรือเรียกว่าลายตุ้ม แก้วมุกดาซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู๋เมืองของชาวมุกดาหาร.ยโสธร : ผ้าลายยศสุนทร (ลายลูกหวาย) เป็นสีฟ้า สีประจำ จ. ยโสธร และลูกหวาย คือต้นหวายที่มีลำต้นอ่อนโยน เหนียว ไม่หักง่าย เป็นตัวแทนของความหนักแน่น มั่นคง สามัคคี.ร้อยเอ็ด : ผ้าไหมลายสาเกต มีสีดอกอินทนิลบก (สีชมพูอมม่วง) เริ่มต้นจากลายโคมเจ็ด นาคน้อย คองเอี้ย ค้ำเพ้า และหมากจับ.เลย : ผ้าลายดอกฝ้ายเมืองเลย ดอกฝ้ายสะท้อนถึงภาพในอดีตของ จ.เลย ที่เคยเป็นแหล่งปลูกฝ้ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเป็นลวดลายของต้นดอกฝ้ายทั้งดอกตูม ดอกเล็ก และกวักฝ้าย.ศรีสะเกษ : ผ้าเหยียบลายลูกแก้ว มาจากลวดลายของหวายป่า ลักษณะคล้ายผลระกำหรือสละ มีรูปร่างเป็นช่อคล้ายลูกแก้วในปัจจุบัน.สกลนคร : ผ้าลายนครธรรม ประกอบด้วย 5 ลวดลายที่มาเชื่อมโยงกัน ลายดอกไม้ป่า (ดอกมณีเทวา) อยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูพาน, นครธรรม สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา, ลายหัวใจ …

พามาเบิ่ง ลายผ้าพื้นเมือง อัตลักษณ์ประจำจังหวัด  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ผ้า GI จาก 8 จังหวัดในอีสาน

พามาเบิ่ง ผ้า GI จาก 8 จังหวัดในอีสาน . . ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2550 เป็นผ้าทอที่ประดิษฐ์ลายด้วยการขิด และ การจก ใช้เส้นไหมตีเกลียวเป็นทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่ง รวมทั้งเส้นไหมเพิ่มพิเศษ ทำให้เกิดลวดลายตามกรรมวิธีของชาวผู้ไทยจังหวัดกาฬสินธุ์ . ผ้าไหมมัดหมี่ชนบท จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2552 สร้างลวดลายและสีสันด้วยการค้นลำหมี่และมัดย้อมอย่างประณีตตามกรรมวิธีที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เอกลักษณ์ของผ้าไหมมัดหมี่ชนบท เป็นผ้าไหมมัดหมี่ที่สร้างลวดลายและสีสันโดยการมัดและย้อมเส้นไหมที่แบ่งเป็นปอยเล็กๆ เนื้อผ้าแน่นนุ่ม เป็นมันวาว มีปุ่มปมลวดลายละเอียดชัดเจน มีการกำหนดขนาดของผ้าและขั้นตอนในการทอที่มีระเบียบวิธี มีทั้งผ้าหน้านาง ผ้าชุด ผ้าถุง หรือผ้าซิ่น ผ้าสไบ ผ้าพันคอ และผ้าคลุมไหล่ . ผ้าไหมมัดหมี่ซิ่นตีนแดงบุรีรัมย์ จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2563 ทอลวดลายให้เด่นบนผืนผ้าด้วยการมัดหมี่และทอเรียงเส้นตามลักษณะลายต่อเนื่องกัน การทอผ้าไหมมัดหมี่ซิ่นตีนแดงถือเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากคนรุ่นเก่าไปสู่คนรุ่นใหม่ นิยมสวมใส่เฉพาะงานพิธีกรรมทางศาสนา งานบุญประเพณี พิธีการสำคัญ ซึ่งหลอมรวมความเชื่อ และความผูกพันของคนในชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน . ผ้าหมักโคลนหนองสูง จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2559 เนื้อผ้านุ่ม สีไม่ตก มีกลิ่นหอมละมุนของดิน ชาวผู้ไทมีภูมิปัญญาในการปั่นใยฝ้ายเป็นเส้นเพื่อนำมาทอผ้า และสกัดสีจากพืชตามธรรมชาติเพื่อนำมาย้อมผ้า เมื่อพบว่าโคลนในพื้นที่อ.หนองสูง ปละพื้นที่ใกล้เคียงเป็นโคลนที่มีเนื้อละเอียด ชาวผู้ไทจึงได้ทดลองนำเส้นใยผ้าที่ผ่านการย้อมสีจากพืชธรรมชาตินำไปหมักในโคลนก่อนนำไปทอ ทำให้เกิดเป็นผ้าที่มีโทนสีนุ่มนวลสดใส ให้สัมผัสนิ่มนวลและซับเหงื่อได้เป็นอย่างดี . ผ้าไหมเก็บบ้านเมืองหลวง จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2557 ผ้าไหมทอมือด้วยทอ ผ้าแบบพื้นบ้านให้เกิดลวดลายจากผ้า เรียกว่าลายลูกแก้ว ย้อมสีดำด้วยผลมะเกลือ อบด้วยสมุนไพรทำให้ ผ้าไหมมีกลิ่นหอม และมีการปักลวดลายด้วยเส้นไหมสีสันต่างๆ หรือการปักแซวให้มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ . ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2549 มีสีน้ำเงินเข้มเป็นมันวาว ไม่ตกสี มีกลิ่นเฉพาะตัว สร้างชื่อเสียงให้กับตัวจังหวัดเป็นเวลานาน ด้วยคุณภาพและการผลิตที่พิถีพิถันมีจุดเด่นจาก 2 ส่วน คือ สีคราม แม้จะย้อมให้เข้มหรือจางก็ให้สีสดใสเป็นเงางาม ติดเนื้อผ้า ทนทาน และความเด่นของเส้นใยฝ้ายที่มีคุณสมบัติระบายอากาศและซึมซับน้ำได้ดี . ผ้าไหมสาเกต จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2559 ประดิษฐ์ขึ้นด้วยลายผ้ามัดหมี่โบราณพื้นบ้าน 5 ลาย มาทอต่อกันในผ้าผืนเดียวกัน โดยมีลายโคมเจ็ด ลายนาคน้อย ลายคองเอี้ย ลายค้ำเพ้า และลายหมากจับ โดยมีเอกลักษณ์สำคัญคือลายนาคน้อย 12 ตัว อยู่ตรงกลางและลายหมากจับ 3 ลำ . ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย จดทะเบียนขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2549 ผ้าไหมทอมือชนิด 2 …

พามาเบิ่ง ผ้า GI จาก 8 จังหวัดในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง อีสานจังหวัดไหน ใช้สินค้าไอทีมากที่สุด?

พามาเบิ่งอีสานจังหวัดไหนใช้สินค้าไอทีมากสุด.ในปัจจุบันเรียกได้ว่า ไม่มีบ้านหลังไหน หรือ ครัวเรือนไหนไม่มี อุปกรณ์ดิจิทัลประเภทคอมพิวเตอร์ เพราะ คอมพิวเตอร์ ถือเป็นอุปกรณ์ด้านไอทีที่มีความสำคัญในการสร้างงาน สร้างความบันเทิง เช่น เกม ภาพยนตร์ ตลอดจนเข้าถึงข้อมูล ค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต.สรุป ประเด็นน่าสนใจ ครัวเรือนอีสานมีคอมพิวเตอร์ เพียง 14% แต่กว่า 95% ของคนอีสานมีโทรศัพท์ โดยที่ผู้สูงอายุ(อายุ 60 ปีขึ้นไป)ในอีสานกว่า 67% ไม่รู้วิธีใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล.สัดส่วนครัวเรือนที่ถือครอง คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เทียบเท่าคอมพิวเตอร์ในไทยจะพบว่า อีสาน มีสัดส่วนอุปกรณ์คอมฯ เมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือนในรายภูมิภาคต่ำที่สุด โดยแจกแจงได้ ดังนี้กรุงเทพมหานคร 39%ภาคกลาง 23%ภาคเหนือ 20%ภาคใต้ 19%ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14%.และหากเรียงลำดับสัดส่วนครัวเรือนที่ถือครองคอมพิวเตอร์มากไปน้อย จะได้ดังนี้มหาสารคาม 26.5%นครราชสีมา 19.6%ขอนแก่น 19.5%ชัยภูมิ 17.1%อุบลราชธานี 16.1%ศรีสะเกษ 14.7%หนองคาย 13.6%นครพนม 13.5%สุรินทร์ 12.9%หนองบัวลำภู 12.7%มุกดาหาร 11.8%อำนาจเจริญ 11.6%เลย 10.0%บุรีรัมย์ 9.7%อุดรธานี 9.4%บึงกาฬ 8.8%สกลนคร 8.45%ร้อยเอ็ด 7.97%กาฬสินธุ์ 7.22%ยโสธร 5.10%แต่หากเรียงลำดับสัดส่วนครัวเรือนที่ถือครองโทรศัพท์มือถือมากไปน้อย จะได้ดังนี้ขอนแก่น 98.6%อุบลราชธานี 98.1%อุดรธานี 97.4%บึงกาฬ 97.2%หนองบัวลำภู 96.8%หนองคาย 96.8%มหาสารคาม 96.7%กาฬสินธุ์ 96.3%ร้อยเอ็ด 96.2%ชัยภูมิ 95.6%นครราชสีมา 95.3%ศรีสะเกษ 95.3%สกลนคร 95.0%บุรีรัมย์ 94.8%ยโสธร 94.7%นครพนม 94.3%อำนาจเจริญ 93.5%มุกดาหาร 93.1%เลย 92.8%สุรินทร์ 90.7% ซึ่งการที่ประชากรอีสานมีอุปกรณ์ดิจิตัลมากขึ้น ก็ย่อมส่งผลต่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต มากตามขึ้นไปด้วยนั่นเอง โดยสัดส่วนประชากรอีสานตั้งแต่อายุ 6 ขวบขึ้นไปที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถอ่านต่อได้ที่ลิงก์ https://isaninsight.kku.ac.th/3q9c..หน่วย: สัดส่วนต่อครัวเรือนที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่https://linktr.ee/isan.insight.#ISANInsightandOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #คอมพิวเตอร์ #มือถือ

พามาเบิ่ง  “EVEANDBOY” อาณาจักรเครื่องสำอางเจ้าดังระดับประเทศ

พามาเบิ่ง “EVEANDBOY” อาณาจักรเครื่องสำอางเจ้าดังระดับประเทศ..จุดเริ่มกำเนิดของต้นของ EVEANDBOY.EVEANDBOY เริ่มจากร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ชื่อ “สารคามซูเปอร์มาร์เก็ต” ในจังหวัดมหาสารคาม โดยทำธุรกิจมานานหลายสิบปีตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ พอความความเจริญเข้าไปต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดห้างร้านโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ เริ่มผุดกันเป็นดอกเห็ด ทำให้ธุรกิจต้องถึงเวลาปรับตัวแบบ 360 องศา ไม่อย่างนั้นก็จะสู้กับห้างไม่ได้.คุณ หิรัญ ตันมิตร เป็นหนึ่งในทายาทของสารคามซูเปอร์มาร์เก็ต ได้มีความคิดว่าถ้าขายสินค้าเครื่องสำอางน่ามีโอกาสไปรอดมากกว่า เพราะขายเครื่องสำอางมีกำไรส่วนต่างสูง จึงร่วมกับพี่สาวซึ่งได้เปิดและตั้งชื่อ EVEANDBOY ชื่อร้านมากจากชื่อเล่นของทั้งสองคน โดยร้านขายเครื่องสำอางเริ่มแรกปี พ.ศ.2548 เป็นจำหน่ายคอสเมติกหลากหลายยี่ห้อที่ได้นำแนวคิดจากต่างประเทศนำมาใช้.โดยมองว่าเป็นเทรนด์ของผู้หญิงยุคใหม่ชอบซื้อสินค้าจากร้านแบบนี้มากกว่าคอนเซาส์กับบีเอตามเคาน์เตอร์แบรนด์ห้างสรรพสินค้า เพราะลูกค้าสามารถเดินเลือกดูได้ตามความชอบ และจากการชักชวนปากต่อบากของลูกค้าทำให้ EVEANDBOY ขยายสาขาไปสู่กรุงเทพ และจังหวัดต่างๆในภาคอีสาน จำนวน 11 สาขา และมีแผนขยายเพิ่มอีกในเวลาอันใกล้.รูปแบบธุรกิจ.การทำธุรกิจของ EVEANDBOY คือ การขายพร้อมขยายตลาดเชิงรุก โดยมีการขยายตลาดจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพฯ หรือ “ป่าล้อมเมือง” เลือกทำเลที่มีคนเป็นแหล่งผู้คนพลุกพล่าน เช่น สยาม รังสิต เมกาบางนา สยามสแควร์วัน เป็นต้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่และมีโอกาสเติบโตค่อนข้างมาก.ปัจจุบันร้านมีเครื่องสำอางมากกว่า 900 แบรนด์ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5 หมื่นรายการ ทำให้ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือเป็นเครื่องสำอางของแท้ที่ราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดกว่าปกติประมาณ 30% สินค้าทุกชิ้นนำเข้าโดยดิสทริบิวเตอร์ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพแน่นอน..อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเครื่องสำอางของ EVEANDBOY ได้ทำให้เราได้เห็นว่า การเข้าใจลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในตลาดและมีคู่แข่งใหญ่อย่าง Watsons Boots แต่ EVEANDBOYสามารถขึ้นมาเป็นคู่แข่งได้ เพราะมีความแตกต่างที่จุดขาย โฟกัสกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ราคา โปรโมชั่น คุณภาพและการโฆษณา EVEANDBOY การสร้างความแตกต่างทางการตลาดทั้ง โดยฉีกกฎเดิม ๆ ไม่ว่าจะชนิดของสินค้าที่มีเฉพาะ ราคาที่จับต้องได้ การโฆษณาที่เข้าถึงได้ง่าย และโปรโมชั่นที่โดนใจ. ข้อมูลพื้นฐานบริษัท ชื่อธุรกิจ    บริษัท อีฟ แอนด์ บอย จำกัด CEO คุณ หิรัญ ตันมิตร ปีก่อตั้ง 2548  สาขาทั้งหมด 24 สาขา สาขาในภาคอีสาน 3 สาขา เริ่มก่อตั้ง จังหวัด มหาสารคาม มูลค่าบริษัท 1,223 ล้านบาท จุดเริ่มต้น EVEANDBOY เริ่มจากร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ชื่อ “สารคามซูเปอร์มาร์เก็ต” ในจังหวัดมหาสารคาม โดยทำธุรกิจมานานหลายสิบปีตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ พอความความเจริญเข้าไปต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดห้างร้านโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ เริ่มผุดกันเป็นดอกเห็ด ทำให้ธุรกิจต้องถึงเวลาปรับตัว คุณหิรัญได้มีความคิดว่าถ้าขายสินค้าเครื่องสำอางน่ามีโอกาสไปรอดมากกว่า จึงร่วมกับพี่สาวซึ่งได้เปิดและตั้งชื่อ EVEANDBOY ชื่อร้านมากจากชื่อเล่นของทั้งสองคน    งบการเงิน ปี 2560 รายได้รวม 1,636 ล้านบาท                                                                                                                                                                                                                                         …

พามาเบิ่ง  “EVEANDBOY” อาณาจักรเครื่องสำอางเจ้าดังระดับประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่งคนอีสานใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขนาดไหน

พามาเบิ่งคนอีสานใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขนาดไหน . โดยเทียบสัดส่วนประชากรอายุ 6 ปี ขึ้นไป ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ต แบ่งรายจังหวัด ดังนี้ บุรีรัมย์ 97% มหาสารคาม 95% ขอนแก่น 94% อุดรธานี 91% ยโสธร 90% หนองคาย 90% มุกดาหาร 88% ศรีสะเกษ 88% บึงกาฬ 88% นครราชสีมา 88% หนองบัวลำภู 87% นครพนม 87% สกลนคร 86% กาฬสินธุ์ 85% ร้อยเอ็ด 85% อุบลราชธานี 84% ชัยภูมิ 83% อานาจเจริญ 79% สุรินทร์ 78% เลย 75% . นอกจากนั้นจะเห็นได้ว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งสอดคล้องกับสถิติการถือครองมือถือของประชากรอีสานที่เพิ่มขึ้นทุกปี ในโพสต์นี้ https://www.facebook.com/100068779069701/posts/762774172691878/ . นอกจากนั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้น เพราะพื้นที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตในไทย มีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีความเร็วติดอันดับโลก ดังที่ปรากฏใน โพสต์นี้ . ดังนั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจึงเป็นทั้งโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร เข้าถึงบริการ ติดต่อสื่อสาร และส่งเสริมให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีกด้วย https://www.facebook.com/share/p/8karCe3wzrWvAfUh/?mibextid=oFDknk . การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet Access) หมายถึงการเชื่อมต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือคอมพิวเตอร์ใด ๆ หรืออุปกรณ์มือถือ หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ . ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ . ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #5G #สัญญาณ5G #คนใช้งานอินเตอร์เน็ต #การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต #internetaccess

อัพเดตความคืบหน้า ‘แทรม’ ต้นแบบรถไฟฟ้ารางเบาสายแรกของอีสาน เข้าสู่กระบวนการผลิตแล้ว

. ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายเมืองในต่างจังหวัดได้มีการประกาศแผนก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาเพื่อยกระดับขนส่งสาธารณะในท้องถิ่น แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วยังไม่มีจังหวัดไหนสร้างเสร็จพร้อมใช้งาน . สำหรับรถแทรม (Tram) ขอนแก่น ยังมีการอัปเดตความเคลื่อนไหวของโปรเจกต์นี้อยู่ โดยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Isan Creative Festival 2022 มหกรรมแสดงศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ของภาคอีสาน ได้มีการนำเอาแทรม ซึ่งเป็นต้นแบบรถไฟฟ้ารางเบามาจัดแสดงบริเวณป้ายรถเมล์ หน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ในนิทรรศการที่มีชื่อว่า ‘Khon Kaen Urban Transit: ขนส่งสาธารณะเชื่อมเมือง’ . เพื่อให้ประชาชนได้รู้ความเป็นไปของระบบขนส่งสาธารณะเมืองขอนแก่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต . รถต้นแบบคันนี้ ถูกพัฒนามาจากรถแทรมของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยและพัฒนาต้นแบบรถไฟฟ้ารางเบาที่ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ โดยมี ดร.ไพวรรณ เกิดตรวจ และ มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ภายใต้การสนับสนุนของ สอวช. และ บพข. . คาดว่า กลางปี 2565 จะสามารถนำมาทดสอบวิ่งในพื้นที่จริง (มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และรอบบึงแก่นนคร) ได้ . ทั้งนี้ Road Map ไม่ใช่เพียงการทำระบบราง เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร แต่ต้องการต่อยอดไปสู่การผลิตในภาคอุตสาหกรรม เพื่อความแข็งแกร่งด้านการศึกษาวิศวกรรม หนุนการพัฒนาเมืองให้เป็น Smart City ตลอดจนสร้างงาน สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้คนท้องถิ่น . อย่างไรก็ตาม ในรอบเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เมืองขอนแก่นก็ได้ขับเคลื่อนมาแล้วหลายโปรเจกต์ . เมื่อปี 2550 หรือ 15 ปีที่แล้ว ที่ Smart City ยังไม่เกิด เมืองขอนแก่นเคยทำกิจกรรม Experiment บนถนน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเห็นว่า รถยนต์ส่วนบุคคลกินพื้นที่ผิวจราจรมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับขนส่งสาธารณะ . หรือเมื่อปี 2559 กลุ่มขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด (KKTT) ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เริ่มโครงการ ‘ขอนแก่นซิตี้บัส’ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมขอนแก่นเข้ากับสถานีขนส่งหลักของเมือง โดยมีทั้งระบบติดตาม จีพีเอส ระบบวัดสถิติผู้ใช้งานในแต่ละวัน เพื่อในอนาคตจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้ารางเบาและการขนส่งจากกรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายช่วยกระตุ้นการลงทุนในจังหวัดและภูมิภาค . แน่นอนว่า ขอนแก่นไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ แต่จะมีอะไรอีกบ้าง ปูสาด (เสื่อ) รอโลด! เมื่อพิจารณาแผนการปรับปรุงสิ่งที่อยู่รอบๆ บึงแก่นนครที่อยู่ตามเส้นทางวิ่งรถแทรมก็เหมือนว่าการสร้างรถแทรมที่ขอนแก่นไม่ใช่แค่ทดลองสร้างทดลองวิ่งแต่เป็นการทดลองทำแผนธุรกิจด้วยว่าทำยังไงให้รถแทรมมันอยู่รอดได้ และต้องวางแผนพัฒนาอย่างองค์รวม โดยเรื่องความคุ้มค่าได้มีการศึกษาความคุ้มค่าในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบบึงแก่นนคร ไม่ใช่เพียงความคุ้มค่าจากเงินที่นำมาลงทุนแต่เป็นความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ รวมถึงการมี Knowledge และ know-how ด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมรถไฟรางเบา และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ผ่านการทำ วิศวกรรมย้อนกลับ(Reverse Engineering) จากเทคโนโลยีญี่ปุ่น โครงการรอบๆ บึงแก่นนครที่มีรถแทรมวิ่ง …

อัพเดตความคืบหน้า ‘แทรม’ ต้นแบบรถไฟฟ้ารางเบาสายแรกของอีสาน เข้าสู่กระบวนการผลิตแล้ว อ่านเพิ่มเติม »

อวดโฉมเด่น “ลายมรดกโลกบ้านเชียง” จากอัตลักษณ์ท้องถิ่น อุดรฯ สู่แฟชั่นในชุดนักกีฬาทีมชาติไทย Olympic games 2024 ณ กรุงปารีส

𝐁𝐄 𝐎𝐔𝐑 𝐒𝐏𝐈𝐑𝐈𝐓 𝐎𝐋𝐘𝐌𝐏𝐈𝐂 𝐆𝐀𝐌𝐄𝐒 𝟐𝟎𝟐𝟒 𝐓𝐇𝐀𝐈𝐋𝐀𝐍𝐃 𝐍𝐀𝐓𝐈𝐎𝐍𝐀𝐋 𝐓𝐄𝐀𝐌 𝐂𝐎𝐋𝐋𝐄𝐂𝐓𝐈𝐎𝐍 ชุดแข่งขันและชุดเดินทางนักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 33 ภายใต้แรงบันดาลใจ “Be Our Spirit” สปิริตของคนไทยหลอมรวมเป็นหนึ่งถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นแรงผลักดันให้เรามีความมุ่งมั่น ไปสู่ชัยชนะและความสำเร็จ นำเสนอสปิริตของคนไทยผ่านลวดลายไทยประยุกต์จากมรดกโลกบ้านเชียง มรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของไทยที่ได้รับการยอมรับจากเวทีโลก ประยุกต์กับลวดลายจากการทอผ้าของชุมชน เทคนิคการทำผ้าย้อมครามแบบดั้งเดิม และอัตลักษณ์ของชุมชนบ้านเชียงที่ยังคงสืบสานต่อกันมาถึงปัจจุบัน ให้นักกีฬาได้สวมใส่เพื่อถ่ายทอดความภาคภูมิใจนี้สู่ปารีสเมืองแฟชั่น ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ทั้งยังให้ความสำคัญเรื่องของนวัตกรรมเสื้อโปโลรีไซเคิลจากขวดพลาสติกช่วยลดปัญหาโลกร้อนอย่างยั่งยืน รู้จักลาย ‘มรดกโลกบ้านเชียง’ ที่ใช้ในชุดนักกีฬาทีมชาติไทย Olympics Paris 2024 . ปีนี้ ‘แกรนด์สปอร์ต’ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแบบและผลิตชุดให้นักกีฬาทีมชาติไทย ภายใต้แรงบันดาลใจว่า “Be Our Spirit” โดยมีจุดเด่นที่สำคัญคือการใช้ ลวดลาย “มรดกโลกบ้านเชียง” . ภาพจาก วิกิชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เรามาทำความรู้จัก ‘แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง’ 1 ใน 7 มรดกโลกของไทยกันก่อน . เมื่อปี พ.ศ. 2535 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนให้ ‘แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง’ เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ‘บ้านเชียง’ ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มีการค้นพบว่า บริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของที่ฝังศพของคนก่อนประวัติศาสตร์ คือยุคโลหะ เมื่อราว 5,000 กว่าปีมาแล้ว . เป็นที่ตั้งถิ่นฐานยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมสังคม และเทคโนโลยีของมนุษย์ ทั้งเรื่องการเกษตร การผลิต และการใช้โลหะ โดยศิลปะเครื่องปั้นดินเผาของบ้านเชียงที่ค้นพบ มีทั้งภาชนะดินเผาสมัยต้น สมัยกลาง และสมัยปลาย ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่น . เลือกลวดลายสะท้อนมรดกไทย ที่คนทั่วโลกยอมรับ . นายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม รองประธานอำนวยการ บริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ต กล่าวถึงลวดลายที่นำมาใช้ในการออกแบบชุดนักกีฬาทีมชาติไทย ในโอลิมปิกปารีส 2024ว่า เพื่อสะท้อนถึงความเป็นไทยและมรดกไทย ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั้งโลก คือ ‘มรดกโลกบ้านเชียง’ เป็นการส่งต่อจิตวิญญาณ จากบรรพบุรุษผสมผสานกับความเป็นสากลในปัจจุบัน . โดย ‘แกรนด์สปอร์ต’ ได้วิจัยค้นคว้า และประชุมร่วมกับผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบสร้างสรรค์ผ้าและสิ่งทอ (FTCDC) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี รวมทั้งได้ขอข้อมูลและคำแนะนำจากพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง กรมศิลปากร และไปคุยกับชุมชนชาวบ้านเชียง ที่ยังคงสืบสานเรื่องของการทอผ้า การย้อมผ้าคราม และทำเครื่องปั้นลายบ้านเชียง ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ และมีชื่อเสียงเป็นที่น่าจดจำ จึงนำลวดลายสีผ้าครามและความรู้ต่างๆ เหล่านี้มาประยุกต์ออกแบบชุดแข่งขันและชุดเดินทางให้สวยงามในมหกรรมเวทีระดับโลก ทั้งยังให้ความสำคัญเรื่องของนวัตกรรมเสื้อโปโลรีไซเคิลจากขวดพลาสติก ช่วยลดปัญหาโลกร้อนอย่างยั่งยืน . นอกจากนี้ ทีมงานของแกรนด์สปอร์ตได้พูดคุยกับนักกีฬารวมถึงเจ้าหน้าที่ทีม …

อวดโฉมเด่น “ลายมรดกโลกบ้านเชียง” จากอัตลักษณ์ท้องถิ่น อุดรฯ สู่แฟชั่นในชุดนักกีฬาทีมชาติไทย Olympic games 2024 ณ กรุงปารีส อ่านเพิ่มเติม »

เผย คนไทยมีเงินติดบัญชี ไม่ถึง 5 หมื่นบาท กว่า 116 ล้านบัญชี (คิดเป็น 88%) และ 93 ล้านราย มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5,000 บาท

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เผยบัญชีเงินฝากต่ำกว่า 1 ล้านบาท ลดลง เหตุค่าครองชีพสูง คนต้องนำเงินออมออกมาใช้ ตะลึง ! พบบัญชีเงินฝากกว่า 80% มีเงินน้อยกว่า 5,000 บาท . . ขณะที่จำนวนเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง อยู่ที่ 15.96 ล้านล้านบาท ลดลง 1.32% ซึ่งเกิดจากปัจจัยความผันผวนทางเศรษฐกิจโดยในรายละเอียด พบว่า จำนวนผู้ฝากเงินที่มีเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาท หรือส่วนมากไม่เกิน 5,000 บาท ในเดือน ส.ค. 2566 อยู่ที่ 81 ล้านราย จากทั้งหมด 93.46 ล้านราย เติบโต 4.45% ซึ่งในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีเงินฝากไม่ถึง 5,000 บาท แต่จำนวนเงินฝากกลับเริ่มมีการหดตัวตั้งแต่ปี 2565 ที่ ติดลบ 0.63% และในเดือน ส.ค. 2566 ติดลบ 3.61% . ทั้งนี้ ผู้มีเงินฝากมากกว่า 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท มีการปรับตัวลดลง ทั้งจำนวนเงินฝากและจำนวนผู้ฝากตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ฝากที่มีเงินฝากไม่มากนักจึงต้องนำเงินออมมาใช้จ่าย จนอาจทำให้สุขภาวะที่ดีทางการเงินอ่อนแอลงได้ . คนไทย 88% มีเงินติดบัญชีไม่ถึง 50,000 อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย แบ่งจำนวนบัญชีเงินฝากในกลุ่มต่างๆ พบว่ากลุ่มไม่เกิน 50,000 บาท เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด มีถึง 116 ล้านบัญชี เมื่อเทียบสัดส่วนกับจำนวนทั้งหมดราวๆ 130 ล้านบัญชี กลุ่มนี้มีมากถึง 88% นอกจากนี้ รายงานข่าวในช่วงปลายปีที่แล้ว พบว่าในกว่าร้อยล้านบัญชีที่ไม่ถึง 50,000 นั้น เฉลี่ยส่วนใหญ่ประชาชนมีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนด้วย โดยแบ่งจำนวนเงินฝากของคนไทยได้ดังนี้… ไม่เกิน 50,000 บาท มี 116 ล้านบัญชี 50,000 – 100,000 บาท มี 4.2 ล้านบัญชี 100,000 – 200,000 บาท มี 3.4 ล้านบัญชี 200,000 – 500,000 บาท มี 3.2 ล้านบัญชี 500,000 – 1,000,000 บาท มี 1.6 …

เผย คนไทยมีเงินติดบัญชี ไม่ถึง 5 หมื่นบาท กว่า 116 ล้านบัญชี (คิดเป็น 88%) และ 93 ล้านราย มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5,000 บาท อ่านเพิ่มเติม »

8 เรื่องที่จะเกิดขึ้น เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่าน

วันที่ 18 มิถุนายน 2567 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ในเรื่องความหลากหลายทางเพศของไทย เพราะเป็นวันที่วุฒิสภามีมติให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือที่เรียกกันลำลองว่า ‘ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม’ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสภาชั้นแรก ได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา   จากนี้ไปกระบวนการก็จะเดินต่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 145 กล่าวคือ รัฐสภาก็จะส่งร่างกฎหมายที่เสร็จเรียบร้อยนี้ไปยังนายกรัฐมนตรี และเมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับแล้วก็จะรอไว้ 5 วัน เผื่อจะมีประเด็นหยิบยกไปศาลรัฐธรรมนูญ หากมีการตีประเด็นว่า การร่างกฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหาตัวบทหรือกระบวนการพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และถ้าไม่มีการชงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีก็จะมีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อที่ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งนี้ เมื่อประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้วถึงใช้บังคับเป็นกฎหมายได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 81   เพื่อประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจและเตรียมต้อนรับกฎหมายฉบับนี้ จึงขอกล่าวถึงประเด็นสำคัญของกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมทั้งผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับ ดังนี้   1. หมั้นและสมรสได้โดยไม่จำกัดเพศ แต่เดิมการหมั้นและการสมรสต้องเป็นการกระทำระหว่างชายโดยกำเนิดและหญิงโดยกำเนิดเท่านั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องหมั้น แต่เดิมอนุญาตให้ชายโดยกำเนิดเป็นฝ่ายเข้าไปหมั้นหญิงโดยกำเนิด หญิงจึงเป็นฝ่ายรับหมั้น บัดนี้กฎหมายจะอนุญาตให้บุคคลสองคนไม่ว่าเพศใดก็สามารถหมั้นและสมรสได้ เป็นการปลดล็อกเงื่อนไขเรื่องเพศในการหมั้นและการสมรส   นอกจากนั้นในมุมมองเรื่องหมั้น ที่แต่เดิมให้ชายโดยกำเนิดเท่านั้นที่จะเป็นผู้รุกเริ่มนำของหมั้นไปหมั้นหญิง ก็กลับกลายเป็นว่าใครใคร่หมั้นก็หมั้น ไม่มีข้อที่จะต้องบังคับกะเกณฑ์ว่าเพศชายต้องเป็นฝ่ายรุกเริ่ม ซึ่งหมายความว่า กฎหมายให้อิสระในการกำหนดชีวิตเป็นสถาบันครอบครัวของบุคคลโดยไม่คำนึงเพศ แม้กระทั่งเรื่องฝ่ายเริ่มต้นเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อการมอบของหมั้น ก็ไม่มีการกำหนดเจาะจงเพศอีกต่อไป   2. ปรับคำในกฎหมายครอบครัวให้ครอบคลุมโดยไม่จำกัดเพศ ตามที่กฎหมายเดิมใช้คำว่า ‘ชาย’, ‘หญิง’ ซึ่งเป็นการใช้คำที่ระบุถึงเพศกำเนิด นอกจากนั้นยังมีการใช้คำว่า ‘สามี’, ‘ภริยา’ และ ‘สามีและภริยา’ ซึ่งก็เป็นการกำหนดสถานะในกฎหมายครอบครัวที่ขึ้นอยู่กับเพศกำเนิด ดังนั้นเมื่อหลักการต้องการสลายประเด็นเรื่องเงื่อนไขทางเพศกำเนิดให้หมดไป จึงนำไปสู่การปรับใช้คำว่า ‘บุคคล’, ‘ผู้หมั้น’, ‘ผู้รับหมั้น’ และ ‘คู่สมรส’ เข้าไปแทนที่ เพื่อให้ครอบคลุมบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคู่หมั้นหรือคู่สมรส โดยไม่ตีกรอบว่าต้องเป็นเพศใดเพศหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้มาตราต่างๆ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ต้องถูกปรับไปทั้งสิ้น 60 กว่ามาตรา   3. ขยายเหตุเรียกค่าทดแทนและเหตุฟ้องหย่าไปถึงกรณีมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นเพศใด เดิมเรื่องเหตุเรียกค่าทดแทนและเหตุหย่า กฎหมายกำหนดเฉพาะกรณีที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่หมั้นหรือคู่สมรสของตน ในลักษณะจำกัดกรอบว่าเกิดจากกิจกรรมทางเพศที่เรียกว่า ‘การร่วมประเวณี’ หรือความสัมพันธ์ ‘ทำนองชู้สาว’ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการครอบคลุม จึงขยายถ้อยคำไปให้รวมถึงกิจกรรมทางเพศที่ไม่จำกัดเฉพาะแต่เรื่องการร่วมประเวณี ที่อาจถูกตีความว่าเป็นการร่วมเพศกันระหว่างชายและหญิงกันโดยมีการสอดใส่เท่านั้น หากแต่เพิ่มเติมถ้อยคำเพื่อให้รวมถึงกิจกรรมทางเพศที่มุ่งสนองความใคร่ไม่ว่ากระทำกับบุคคลเพศใดด้วย และคำที่ใช้ว่า ‘ทำนองชู้สาว’ ก็ตัดคำว่า ‘สาว’ ออก เป็นคำว่า ‘ทำนองชู้’ เพื่อตัดประเด็นคู่ความสัมพันธ์ในทางเพศ   4. เพิ่มเหตุหย่าให้ชัดเจนสำหรับเรื่องกิจกรรมทางเพศระหว่างคู่สมรสเพศเดียวกัน เหตุหย่าประการหนึ่งที่ให้สิทธิแก่คู่สมรสที่จะใช้สิทธิหย่าหรือไม่ก็ได้ นั่นคือ เมื่อเกิดสถานการณ์ที่อีกฝ่าย ‘ไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล’ ดังนั้นเมื่อกฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้เพศใดก็สามารถสมรสได้ จึงเพิ่มเติมถ้อยคำให้เป็นเงื่อนไขที่ชัดเจนขึ้นคือ ‘ไม่อาจกระทำหรือยอมรับการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของอีกฝ่ายได้ตลอดกาล’ เป็นเหตุฟ้องหย่าเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนและป้องกันการตีความคำว่า ‘ไม่อาจร่วมประเวณี’ ที่อาจถูกตีความว่าเป็นเรื่องกิจกรรมทางเพศระหว่างชายและหญิงที่มีการสอดใส่เท่านั้น   5. คู่สมรสผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้ การรับบุตรบุญธรรมร่วมกันเป็นสิทธิที่ได้มาโดยอัตโนมัติอยู่แล้วมาแต่เดิมสำหรับบุคคลที่เป็นคู่สมรสกัน ดังนั้นเมื่อบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นคู่สมรสกันตามกฎหมายได้แล้ว บทบัญญัติในส่วนการรับบุตรบุญธรรมจึงเปิดช่องให้เข้ามามีสิทธินี้โดยไม่ต้องสงสัย กล่าวได้ว่า ต่อไปนี้คู่สมรสในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นเพศใด ย่อมใช้สิทธิรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้อย่างเสมอภาค   6. อายุขั้นต่ำในการหมั้นและสมรสขยับเป็น 18 ปี …

8 เรื่องที่จะเกิดขึ้น เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่าน อ่านเพิ่มเติม »

อาหารเหนือ บุก อีสาน กับ งาน Northern Thailand Food Valley Road Show ครัวเหนือสู่ตลาดโลก ยกทัพสินค้าระดับพรีเมี่ยม บินลัดฟ้าจากเชียงใหม่สู่อุดรธานี

. จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมบูรณาการจัดงาน Northern Thailand Food Valley Road Show ณ จังหวัดอุดรธานี ขอเชิญชวนพี่น้องชาวอุดรและจังหวัดใกล้เคียง มาเที่ยวงาน Northern Thailand Food Valley Road Show งาน Road Show สุดยิ่งใหญ่ สุดยอดนวัตกรรมอาหารจากครัวเหนือสู่ตลาดโลก ยกทัพสินค้าระดับพรีเมี่ยม บินลัดฟ้าจากเชียงใหม่สู่อุดรธานี ระหว่าง วันที่ 20 – 24 มิถุนายน 2567 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุดร จังหวัดอุดรธานี ภายในงานพบกับกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น . 1.การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้านวัตกรรมอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป มากกว่า 40 คูหา 2.พร้อมเพลิดเพลินกับการแสดงศิลปวัฒนธรรม และกิจกรรมภาคบันเทิงตลอดการจัดงาน . 3.มาร่วมสนุกกับกิจกรรมสาธิตการทำเมนูพิเศษร่วมกับคนพิเศษ . 4.ทั้งยังมีการจัดเจรจาทางธุรกิจ (BusinessMatching) จาก Buyer กลุ่มประเทศ CLMV+จีน อีกด้วย . ยังไม่หมดเพียงเท่านี้….เตรียมพร้อมพบกับ Special Guest สุดพิเศษก่อนใคร..กับ 1.น้องแมทธิว เดวิด แมทธิว โรเบิร์ตส นักแสดงนำซีรีส์ “เดือนพราง“ 2.น้องมีมี กัลย์สุดา ชนาคีรี นักแสดงนำซีรีส์ “เดือนพราง” 3.คุณหมอมินน่า พญ.แก้วทิพย์ นรนิธิวรรณ นางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2567 4.น้องฟ้า จิณณ์พัชญ์ชา กนกรัตนาธรรม รองอันดับ 1 นางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2567#ISANEvent #ISANInsight    

Scroll to Top