ฮู้บ่ว่า
ไทยห้ามนำเข้าเนื้อหมู
หมูลักลอบเข้า = หมูเถื่อน ภาคอีสานเป็นแหล่งผลิตอันดับ 2 ของไทย เพราะปัจจุบันการบริโภคหมูในไทยโตแค่ปีละ 0.5% ซึ่งหมายความว่า การผลิต(Supply) เพียงพอต่อ การบริโภคในประเทศ(Demand)
ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าของตลาดสุกรในประเทศไทย
- การผลิตสุกรในประเทศไทย: การผลิตสุกรของไทยส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยงในพื้นที่บ้านเพื่อการบริโภคและสร้างรายได้เสริมสำหรับชาวนา โดยใช้ผลผลิตเหลือใช้ทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากฟาร์มในหมู่บ้านไปสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของประชากร การท่องเที่ยว และระดับรายได้ ทำให้ความต้องการเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น การเลี้ยงสุกรขนาดใหญ่หรือเชิงอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคกลาง (ประมาณ 36-40% ของการผลิตทั้งหมดของประเทศไทย) ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตหมูต่อปีอยู่ที่ 890,736 ตัน จุดแข็งของการมีฟาร์มขนาดกลางและขนาดใหญ่คือการควบคุมโรคทำได้ดีกว่า และฟาร์มเหล่านี้ต้องทำมาตรฐานฟาร์ม GAP ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการส่งออกสุกรมีชีวิต
- ผู้เล่นในห่วงโซ่: ห่วงโซ่อุตสาหกรรมสุกรไทยประกอบด้วยผู้เล่นหลายราย ตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู (รายย่อย รายกลาง รายใหญ่/กลุ่มทุนใหญ่) โบรกเกอร์หรือพ่อค้าคนกลาง โรงชำแหละ แผงขายหมู/ร้านค้า ไปจนถึงผู้บริโภค
- การขนส่งและการกระจายสินค้า: สมบัติ เจ้าของฟาร์มขนาดกลาง ได้ฉายภาพกระบวนการซื้อขายหมูขุน โดยโบรกเกอร์จะส่งรถมารับหมูที่หน้าฟาร์ม ชั่งน้ำหนัก แล้วนำไปขายต่อ โบรกเกอร์หรือพ่อค้าคนกลางนี้จะเป็นผู้ดำเนินการในแต่ละช่วงตั้งแต่ฟาร์มไปจนถึงช่องทางจำหน่าย หมูที่ผ่านโรงชำแหละจะถูกแปรรูปเป็นซาก (Carcass) ที่แยกชิ้นส่วนแล้ว ก่อนจะส่งไปที่เขียงเพื่อตัดแบ่งเป็นชิ้นส่วนย่อยตามความต้องการของผู้บริโภค
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่
- โรคระบาด (ASF): การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ทำให้หมูล้มตายจำนวนมากและผลิตลูกหมูได้น้อยลง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาหมูสูงขึ้น รัฐบาลไทยมีการประกาศโรคระบาดล่าช้า ซึ่งมีส่วนให้ปัญหาบานปลาย ความไม่แน่นอนเรื่องโรคระบาดทำให้เกษตรกรไม่กล้าลงทุนเพิ่ม
- หมูเถื่อน: การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่บ่อนทำลายเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไทย หมูเถื่อนคือหมูราคาถูกจากต่างประเทศที่นำเข้าโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ผ่านการตรวจโรค ไม่เสียภาษีศุลกากร ปัญหาหมูเถื่อนเกี่ยวข้องกับการปั่นราคาและเป็นภัยต่อความมั่นคงทางอาหาร (ไม่รู้คุณภาพและความปลอดภัย) เชื่อว่ากระบวนการนำเข้าหมูเถื่อนเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจและเป็นขบวนการขนาดใหญ่
- สถานการณ์วัตถุดิบอาหารสัตว์: สงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาการผลิตในประเทศผู้ผลิตสำคัญ (สหรัฐฯ อาร์เจนตินา บราซิล) เนื่องจากต้นทุนน้ำมันและปุ๋ยแพง ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การแทรกแซงของรัฐและข้อเสนอแนะ
- มาตรการของรัฐ: รัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆ เช่น ห้ามส่งออกหมูมีชีวิตชั่วคราว ช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ และเพิ่มกำลังผลิตโดยกระจายลูกสุกรให้เกษตรกรรายย่อย และมีการขอความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดง อย่างไรก็ตาม การตรึงราคาเป็นการทำลายแรงจูงใจของเกษตรกรที่จะลงทุนเพิ่มและอาจทำให้ปัญหายืดเยื้อ รัฐไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต้นทางเรื่องการจัดการต้นทุนวัตถุดิบได้
- ข้อเสนอแนะจากสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.): เสนอ 5 แนวทาง ได้แก่:
- นำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งชั่วคราวแบบมีเงื่อนไข (ปลอดสารเร่งเนื้อแดง)
- ปรับโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board)
- ผลักดันท้องถิ่นสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ
- ผู้บริโภคร่วมมีบทบาทสนับสนุนการเลี้ยงหมูแบบธรรมชาติ/หมูหลุม เพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะ
- สนับสนุนการวิจัยลดการบริโภคเนื้อสัตว์และเพิ่มการผลิตโปรตีนจากพืช
โดยสรุป ห่วงโซ่อุปทานของสุกรไทยมีการเปลี่ยนผ่านจากการผลิตรายย่อยไปสู่เชิงพาณิชย์มากขึ้น ต้นทุนการผลิตที่สูง โรคระบาด และหมูเถื่อน เป็นปัจจัยกดดันสำคัญ ขณะที่กลไกการกำหนดราคาถูกอิทธิพลโดยกลุ่มทุนใหญ่ผ่านระบบโบรกเกอร์ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างราคาหน้าฟาร์มและหน้าเขียง และส่งผลให้เกษตรกรรายย่อย/กลางจำนวนมากอยู่รอดได้ยาก
ฮู้บ่ว่า
ฟิลิปปินส์
และ เวียดนาม
ปัจจุบันราคาเนื้อหมู
ในประเทศแพงกว่าไทย(โดยเฉลี่ย) เหตุเพราะ การระบาด ของโรคอหิวาแอฟริกาในสุกร(ASF) ทำให้ประเทศเปิดรับนำเข้าหมูจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนำเข้าจากจีน
ซึ่งมีราคาเนื้อหมูที่ถูกกว่าผลิตเองภายในประเทศ เป็นผลดีต่อผู้บริโภค แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง เกษตรกรและผู้เลี้ยงสุกรในประเทศประสบปัญหาภาวะการแข่งขันไม่สามารถแข่งขันกับเนื้อหมูนำเข้าจากต่างประเทศได้ ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรรายเล็กและเกษตรกรในประเทศเลิกเลี้ยงหมู และทำให้ประเทศต้องพึ่งพิงการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศเป็นหลัก ส่งผลต่อ “ความมั่นคงทางอาหาร” และเสถียรภาพด้านราคาหากเนื้อหมูต่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นก็จะทำให้ผู้บริโภคภายในประเทศบริโภคเนื้อหมูแพงหรืออาจจะแพงกว่าที่เคยผลิตเองในประเทศได้
ทำไมจีน
ถึง ผลิตหมู จนล้นตลาดภายในประเทศ?
เรียกได้ว่าจุดเริ่มต้นมาจาก ทำการค้าสหรัฐฯและจีน ซึ่งจีนตระหนักรู้ถึงการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ว่าจะเกิดการขึ้นภาษีในหมวดหมู่สินค้าต่างๆ ก่อนเหตุการณ์ Trump Tariffs เนื่องจากจีนมีการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐฯ ในปริมาณพอสมควร ทำให้ฝั่งรัฐบาลจีนส่งเสริมการเลี้ยงสุกรภายในประเทศ ซึ่งการเลี้ยงเป็นการเลี้ยงแบบเชิงอุตสาหกรรมและมีมาตรฐาน เมื่อตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
หลังจากทำประกาศขึ้นภาษีจีน จีนก็ตอบโต้ด้วยกันงดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ เนื่องจากมั่นใจในเสถียรภาพในการผลิตเนื้อหมูภายในประเทศ แต่ระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา การผลิตเนื้อหมูที่มากขึ้นก่อนที่จีนจะงดการนำเข้าจากสหรัฐฯ นั้น เนื้อหมูในฟาร์มจากจีนปริมาณมหาศาลที่ผลิตได้นั้นเกินต่อการบริโภคทำให้ราคาเนื้อหมูในตลาดจีนนั้นปรับตัวลดลง ประกอบกับช่วงระบาดของโรคอหิวาแอฟริกาในสุกรในประเทศกลุ่มอาเซียน ทำให้มีบริษัทและผู้นำเข้าในประเทศเหล่านี้เริ่มมีการนำเข้าเนื้อสุกรจากอเมริกาใต้และจากจีนที่มีราคาถูกกว่าในประเทศ ซึ่งตอนนั้นเนื้อหมูราคาแพงจากการระบาดและทำให้ผลผลิตในประเทศนั้นๆ ไม่เพียงพอต่อการบริโภคและราคาปรับตัวสูงขึ้น บริษัทที่ลักลอบนำเข้าเล็งเห็นช่องว่างตรงนี้จึงเริ่มเกิด การนำเข้า “หมูเถื่อน” จากจีนนั่นเอง
แม้ว่าหมูเถื่อนเหล่านี้จะมีกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐาน แต่เนื่องจากเป็นหมูเถื่อนไม่ได้ผ่านการนำเข้าอย่างมาตรฐานทำให้การแช่แข็งและการขนส่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานเช่นกัน ทำให้เกิดการปนเปื้อนและเนื้อไม่ได้มาตรฐาน ล่าสุดที่มีข่าวคือไส้หมูลักลอบนำเข้าจากจีน ที่นำมาขายในร้านอาหารทั่วไทย
สรุปจับ หมูเถื่อน อวสานไส้หมู จาก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
@cibpolice อวสานคนชอบไส้หมู . ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. เปิดปฏิบัติการ “ลากไส้หมูเถื่อน” พบจีนเทาเช่าโกดังเก็บ/หมักไส้หมูสุดโทรม ส่งกลิ่นเหม็นเน่า คาดส่งขายทั่วไทย ยึดไส้หมูเถื่อน รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท . ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน . #รวบโกดัง #ยึดไส้หมูเถื่อน ตำรวจสอบสวนกลาง #CIB
สรุปประเด็นสำคัญ: สถานการณ์อุตสาหกรรมสุกรไทย
เอกสารฉบับนี้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมสุกรในประเทศไทย โดยเน้นประเด็นหลักเรื่องราคาที่สูงขึ้น ปัญหาหมูเถื่อน และผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย
1. ปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสุกรสูงขึ้นและราคาสุกรแพง:
- ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์แพง: แหล่งข่าวจาก “ต้นทุนหมูแพงจาก 4 ปัจจัย รัฐแก้ปัญหาวัตถุดิบไม่ได้ ควรปล่อยตามกลไกตลาด – ฐานเศรษฐกิจ” ระบุว่า “เนื่องจากสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครนยังคงยืดเยื้อ และกำลังการผลิตของผู้ผลิตถั่วเหลืองและข้าวโพดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา บราซิล น่าจะมีปัญหาในปีการผลิตปัจจุบันเนื่องจากต้นทุนน้ำมันและปุ๋ยแพง เหล่านี้จะทำให้ราคาต้นทุนการผลิตสุกรไม่น่าจะลดลงได้ นั่นหมายถึงราคาเนื้อสุกรคงต้องแพงขึ้นอีก” แหล่งข่าว “ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus” ยืนยันว่าต้นทุนอาหารสัตว์ต่อกิโลกรัมเฉลี่ยสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับอดีต โดยระบุตัวเลข “ปัจจุบัน ต้นทุนอาหารหมูต่อ 1 กก. อยู่ที่ 15 บาท ซึ่งสูงขึ้น 40% นับจากปีแรก ๆ ที่สมบัติเริ่มกิจการเลี้ยงหมู”
- โรคระบาด ASF: การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตั้งแต่ปี 2564-2565 เป็นต้นตอของปัญหาใหญ่ที่ทำให้จำนวนสุกรในระบบลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการและดันราคาให้สูงขึ้น (“ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus”, “ปัญหาหมูแพง กับแนวทางแก้ไขที่ไม่หมู – The Momentum”). แหล่งข่าว “เข้าใจปรากฎการณ์ ‘หมูแพง-หมูเถื่อน-หมูทรัมป์’ จับตา ‘หมูนำเข้า’ ทำลายตลาด | HEADLINE | TODAY” โดย ผศ.ดร. สุวรรณา สายรวมญาติ ระบุว่า “มันมาเกิดวิกฤตจริง ๆ หลัก ๆ เนี่ย เมื่อตอนปี 6465 ที่เราเจอโรคที่เรียกว่า แอฟริกา อหิวา ใน สุกร AF ASF” และว่าโรคนี้ “ทำให้อุปทานส่วนใหญ่ของหมูมันหาย”
- กลไกตลาดและการผูกขาด: แหล่งข่าว “ต้นทุนหมูแพงจาก 4 ปัจจัย รัฐแก้ปัญหาวัตถุดิบไม่ได้ ควรปล่อยตามกลไกตลาด – ฐานเศรษฐกิจ” เสนอว่าเมื่อรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบได้ ควรปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน แต่แหล่งข่าวอื่นชี้ให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่กลไกตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการที่ “กลุ่มทุนใหญ่มีแต่จะขยายพื้นที่ในตลาดมากยิ่งขึ้น” ในขณะที่เกษตรกรรายเล็กและรายย่อยจำนวนมากต้องออกจากระบบ ทำให้ราคาขายที่ถูกกำหนดโดยกลุ่มทุนใหญ่กลายเป็นราคาอ้างอิงในตลาด (“ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus”, “สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 5 ทางแก้ ‘หมูแพง'”). ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าในปี 2566 ผู้เลี้ยงรายย่อยและรายเล็กคิดเป็น 97% แต่ผลิตเพียง 26% ของตลาด ขณะที่รายกลางและใหญ่ 3% ผลิตถึง 74% (“ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus”, “แนวโน้มอุตสาหกรรมเนื้อสุกรไทย – Settrade”).
2. ปัญหาหมูเถื่อน:
- สาเหตุของการลักลอบนำเข้า: แหล่งข่าว “ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus” และ “เข้าใจปรากฎการณ์ ‘หมูแพง-หมูเถื่อน-หมูทรัมป์’ จับตา ‘หมูนำเข้า’ ทำลายตลาด | HEADLINE | TODAY” อธิบายว่าเมื่อราคาหมูในประเทศสูงขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างในการทำกำไรจากการลักลอบนำเข้าหมูราคาถูกจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการระบาดของ ASF ที่ทำให้ผลผลิตในประเทศลดลงอย่างมาก
- ความเสี่ยงต่อผู้บริโภคและเกษตรกร: หมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามักไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการตรวจสอบโรคและสารตกค้าง ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ยังบ่อนทำลายเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไทย ทำให้เกษตรกรรายย่อยต้องทนขาดทุนและอาจต้องเลิกกิจการไปในที่สุด (“ต้นทุนหมูแพงจาก 4 ปัจจัย รัฐแก้ปัญหาวัตถุดิบไม่ได้ ควรปล่อยตามกลไกตลาด – ฐานเศรษฐกิจ”, “ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus”). ผศ.ดร. สุวรรณา สายรวมญาติ อธิบายว่า “มันเกิดจากคนแห่งแก่ตัวที่ที่อยากจะได้กำไรอีกเกินปกติตรงเนี้ย สุดท้ายมันก็เป็นอันตรายกับผู้บริโภค”
- การจัดการของภาครัฐ: แม้หมูจะเป็นสินค้าควบคุม แต่แหล่งข่าว “ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus” ชี้ว่าภาครัฐไม่มีอำนาจในการกำหนดราคาโดยตรง ส่วนใหญ่ทำได้เพียงขอความร่วมมือในการตรึงราคา นอกจากนี้ ปัญหาหมูเถื่อนเป็นขบวนการที่มีผู้มีอำนาจหลายส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้การแก้ไขเป็นไปได้ยาก
3. ผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย:
- การลดลงของจำนวนเกษตรกร: จำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการระบาดของ ASF ทำให้กิจการของเกษตรกรรายย่อยจำนวนมากต้องปิดตัวลง (“ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus”). ในปี 2565 มีเกษตรกรเลี้ยงหมูเหลือเพียง 107,157 ราย จาก 317,564 รายในปี 2546
- การขาดทุนจากการเลี้ยงหมู: เกษตรกรรายย่อยจำนวนมากต้องทนขายหมูในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขาดทุนอย่างหนัก (“ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus”). สมบัติ จตุรภาคภิญโญ เจ้าของทรัพย์สมบัติฟาร์ม กล่าวว่า “ในการขุนสุกรให้มีน้ำหนักราว 100 กิโลกรัม ปัจจุบันการขายหมูหนึ่งตัวของเกษตรกรไทยจะขาดทุนอยู่ที่ 700 บาท/ตัว เป็นอย่างต่ำ”
- ความยากลำบากในการฟื้นตัว: แม้จะมีการฟื้นฟูหลัง ASF แต่เกษตรกรรายย่อยบางส่วนยังคงเผชิญภาวะขาดทุนสะสมและต้องเลิกกิจการไป ทำให้ผู้เลี้ยงรายกลาง-ใหญ่มีสัดส่วนในการผลิตเพิ่มขึ้น (“แนวโน้มอุตสาหกรรมเนื้อสุกรไทย – Settrade”). สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอว่ารัฐควรหาแนวทางทำให้เกิดโครงสร้างการเลี้ยงหมูของเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการผูกขาด (“สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 5 ทางแก้ ‘หมูแพง'”).
4. บทบาทของโบรกเกอร์:
- ผู้มีบทบาทในการกำหนดราคา: แหล่งข่าว “ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู – Decode.plus” ระบุว่าโบรกเกอร์ หรือพ่อค้าคนกลาง มีบทบาทสำคัญในการซื้อขายสุกร โดยเป็นผู้นำราคาจากฟาร์มกลุ่มทุนใหญ่ไปใช้ในการซื้อขายกับฟาร์มรายเล็กและรายย่อย ซึ่งทำให้ราคาที่เกษตรกรรายย่อยได้รับต่ำกว่าต้นทุน
- ช่องว่างในห่วงโซ่อุปทาน: ผศ.ดร. สุวรรณา สายรวมญาติ ชี้ว่ากลไกของโบรกเกอร์ที่เกิดขึ้นมาหลัง ASF ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างราคาหน้าฟาร์มกับราคาหน้าเขียงมากขึ้น และเป็นศูนย์ยากาศที่ภาครัฐยังเข้าไปดูแลได้ไม่เต็มที่ (“เข้าใจปรากฎการณ์ ‘หมูแพง-หมูเถื่อน-หมูทรัมป์’ จับตา ‘หมูนำเข้า’ ทำลายตลาด | HEADLINE | TODAY”).
5. แนวทางแก้ไขปัญหาที่เสนอ:
- ปล่อยราคาตามกลไกตลาด: แหล่งข่าว “ต้นทุนหมูแพงจาก 4 ปัจจัย รัฐแก้ปัญหาวัตถุดิบไม่ได้ ควรปล่อยตามกลไกตลาด – ฐานเศรษฐกิจ” เสนอให้รัฐปล่อยราคาตามกลไกตลาดเพื่อไม่ให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นจนต้องเลิกกิจการ
- จัดการหมูเถื่อนอย่างเข้มงวด: รัฐควรเข้มงวดกวดขันการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนซึ่งบ่อนทำลายเกษตรกรไทย (“ต้นทุนหมูแพงจาก 4 ปัจจัย รัฐแก้ปัญหาวัตถุดิบไม่ได้ ควรปล่อยตามกลไกตลาด – ฐานเศรษฐกิจ”).
- ส่งเสริมเกษตรกรรายย่อย: สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอแนวทางระยะยาวให้รัฐส่งเสริมโครงสร้างการเลี้ยงหมูของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการผูกขาดและเพิ่มทางเลือกในการผลิตหมูที่ปลอดภัย (“สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 5 ทางแก้ ‘หมูแพง'”). นอกจากนี้ยังมีแนวคิดส่งเสริมการเลี้ยงหมูแบบธรรมชาติ (หมูหลุม)
- การรับมือกับการนำเข้า: แหล่งข่าว “เข้าใจปรากฎการณ์ ‘หมูแพง-หมูเถื่อน-หมูทรัมป์’ จับตา ‘หมูนำเข้า’ ทำลายตลาด | HEADLINE | TODAY” แนะนำว่าหากจำเป็นต้องนำเข้าหมูจากต่างประเทศ ควรดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดโควต้าและมาตรการตรวจสอบที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ โดยเรียนรู้จากบทเรียนของประเทศเพื่อนบ้านเช่น ฟิลิปปินส์ ที่การนำเข้าไม่ได้ช่วยให้ราคาถูกลงในระยะยาวและทำให้เกษตรกรในประเทศฟื้นตัวได้ยาก
โดยสรุป อุตสาหกรรมสุกรไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้น ปัญหาหมูเถื่อน และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนใหญ่มากกว่าเกษตรกรรายย่อย การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เกษตรกร และผู้บริโภค เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมและความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับคนไทย
เกษตรกรขอบคุณหลายๆ “รมว.เกษตรฯ-กรมปศุสัตว์” ปราบหมูเถื่อนต่อเนื่อง
ที่มา:
- Decode.plus
- สภาองค์กรของผู้บริโภค
- เข้าใจปรากฎการณ์ ‘หมูแพง-หมูเถื่อน-หมูทรัมป์’ จับตา ‘หมูนำเข้า’ ทำลายตลาด | HEADLINE | TODAY
- แนวโน้มอุตสาหกรรมเนื้อสุกรไทย – Settrade
- ปริศนาหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ใครคุมราคาหมู, Decode.plus
- ต้นทุนหมูแพงจาก 4 ปัจจัย รัฐแก้ปัญหาวัตถุดิบไม่ได้ ควรปล่อยตามกลไกตลาด – ฐานเศรษฐกิจ
- บทความจากนิตยสาร Livestock Production E-Magazine ฉบับเดือนมกราคม 2568 วิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมสุกรไทย โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 ผู้บริโภคอาจต้องเผชิญกับราคาหมูที่สูงขึ้น