SHARP ADMIN

มัดรวมให้อ่าน 5 คลิปบทสัมภาษณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น

มัดรวมให้อ่าน บทสัมภาษณ์ 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น . #KKTCityupdate ชวนเจาะลึก บทสัมภาษณ์ กับ 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น โดย DOC.KK และ Khon Kaen Let’s Go ขอนแก่นแล่นโลด ได้คุยกับทั้ง 5 ผู้สมัคร พร้อมด้วย 3 คำถามสำคัญของแนวนโยบาย วิสัยทัศน์ต่อการเข้ามาบริหารเทศบาลนครขอนแก่น . #ISANInsightAndOutlook #บ้านเมืองอีสาน #เทศบาลนคร #เทศบาลนครขอนแก่น   เบอร์ 1 คุณวสันต์ ชูชัย คลิปสัมภาษณ์ จาก ขอนแก่นแล่นโลด https://www.facebook.com/share/v/19hWuDSM7y/ คลิปสัมภาษณ์ จาก DOC.KK https://www.facebook.com/share/v/1Ad8WeVQQF/     เบอร์ 2 คุณเต๊าะ นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ คลิปสัมภาษณ์ จาก ขอนแก่นแล่นโลด https://www.facebook.com/share/v/16LR4uM7pT/ คลิปสัมภาษณ์ DOC.KK https://www.facebook.com/share/v/1AhyUpjhNN/     เบอร์ 3 คุณแนน วรินทร์ เอกบุรินทร์ คลิปสัมภาษณ์ จาก ขอนแก่นแล่นโลด https://www.facebook.com/share/v/1HbUJ1q1cZ/ คลิปสัมภาษณ์ DOC.KK https://www.facebook.com/share/v/194WL9XBvp/ เบอร์ 4 คุณอ๊อฟ เบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร คลิปสัมภาษณ์ จาก ขอนแก่นแล่นโลด https://www.facebook.com/share/v/1CL2zV36p4/ คลิปสัมภาษณ์ DOC.KK https://www.facebook.com/share/v/16BzMcxBEq/   เบอร์ 5 คุณฤทธิ์ ประสิทธิ์ ทองแท่งไท คลิปสัมภาษณ์ จาก ขอนแก่นแล่นโลด https://www.facebook.com/share/v/19K6sNhPR4/ คลิปสัมภาษณ์ DOC.KK https://www.facebook.com/share/v/195eJAYRvL/ มัดรวมให้อ่าน บทสัมภาษณ์ 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น นอกจากนั้น ISAN Insight เผยข้อมูล น่าฮู้ เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัด ขอนแก่น อำเภอ เมืองขอนแก่น ขนาดพื้นที่ 46 ตร.กม. ประชากร 105,020 คน งบประมาณประจำปี 2566 ฿1.55 พันล้านบาท ประกอบไปด้วย จัดเก็บเอง: 466.20 ล้านบาท รัฐจัดสรร: 699.30 […]

มัดรวมให้อ่าน 5 คลิปบทสัมภาษณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

หนองบัวลำภู เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 4 กม. กลางดึก ยันส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน

หนองบัวลำภู เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 4 กม. ตีหนึ่ง ไม่รุนแรงหรือส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 4 กิโลเมตร ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ขณะที่ แผ่นดินไหว ขนาด 2.6 ประเทศเมียนมา ห่าง อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 157 กิโลเมตร วันนี้ (6 พ.ค.2568) เวลา 01.36 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 4 กิโลเมตร ในพื้นที่ของ ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน ที่มา:กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยันไม่กระทบสิ่งปลูกสร้าง เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบ จุดศูนย์กลาง #แผ่นดินไหว ที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง รวมทั้งฝายน้ำล้นและสะพาน ในพื้นที่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู หลังเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (6 พ.ค. 68) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 โดยประชาชนรับรู้ถึงแรงสั่นไหวได้

หนองบัวลำภู เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 4 กม. กลางดึก ยันส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน อ่านเพิ่มเติม »

ขอนแก่นกับโอกาสในการเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับนักทำงานออนไลน์ (Digital Nomads) จากทั่วโลก

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพัฒนาอย่างรวดเร็ว วิถีการทำงานของผู้คนทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คือการทำงานในรูปแบบ “Digital Nomads” หรือ “นักเดินทางดิจิทัล” โดยเพื่อความง่ายในการเข้าใจ บทความนี้จะใช้คำแปลว่า ”นักทำงานออนไลน์” ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่ใช้เทคโนโลยีในการทำงานจากระยะไกล โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับสถานที่ทำงานแบบดั้งเดิม และจากสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 ก็ได้ส่งผลให้จำนวนนักทำงานออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปี 2567 มีกลุ่มคนอเมริกันที่นิยามตัวเองว่าเป็นนักทำงานออนไลน์เพิ่มขึ้นจากปี 2562 กว่า 147% (MBO partners, 2024) ซึ่งพวกเขาสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ในเมืองใหญ่ ชายหาดในต่างประเทศ หรือพื้นที่ชนบทที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหล่านักทำงานออนไลน์เหล่านี้ก็ได้กระจายตัวอยู่ทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายยอดนิยมของกลุ่มคนเหล่านี้ จากการสำรวจของ Flatino (2023) พบว่านักทำงานออนไลน์ มีลักษณะโดยทั่วไปดังนี้ ลักษณะประชากรศาสตร์: นักทำงานออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย อายุระหว่าง 30 ถึง 39 ปี หรือกลุ่ม Gen Y และมาจากหลากหลายประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตกผิวขาวหรือก็คือฝรั่งนั่นเอง  กว่า 40% มาจากสหรัฐอเมริกา รองลงมาเป็นประเทศต่างๆ ในยุโรป การทำงานและรายได้: 32% ของนักทำงานออนไลน์มีงานประจำ และ 35% ทำงานเป็นฟรีแลนซ์ อุตสาหกรรมหลักที่นักทำงานออนไลน์ทำงานอยู่ ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีทั่วไป สื่อ การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการตลาด โดยนักทำงานออนไลน์ประมาณ 40% มีรายได้ 1.5 – 2.6 ล้านบาท/ปี และ 20% มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท/ปี วิถีชีวิตและการอยู่อาศัย: ชาวนักทำงานออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหัวก้าวหน้า โดย 43% ชอบที่จะเดินทางคนเดียว และ 24% มีเพื่อนหรือคู่หูร่วมเดินทางด้วย โดยในการอยู่อาศัยต่างถิ่นจะอยู่ช่วงสั้นๆ แล้วแต่ความต้องการ โดยประมาณ 55% จะอยู่ที่ใดที่หนึ่งไม่เกิน 4 เดือน ซึ่งการหาที่พักเป็นสิ่งที่เหล่านักเดินทางออนไลน์กังวลใจที่สุด โดยนอกจากการทำงานแล้ว พวกเขาก็ชอบที่จะมีกิจกรรมที่หลากหลายทำ เช่น เล่นกีฬา หรือ ปาร์ตี้ เป็นต้น ตามที่เกริ่นไปว่าประเทศไทย โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ  และเชียงใหม่ เป็นเมืองยอดนิยมอันดับต้นๆ สำหรับพวกเขา เนื่องจากค่าครองชีพที่ถูก มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุม มีสถานที่ท่องเที่ยวและหลากวัฒนธรรมน่าดึงดูด นอกจากนั้นสังคมไทยยังค่านิยมที่ฝังรากลึกอย่าง “White privilege” หรือเอกสิทธ์คนขาว ที่คนมักจะปฏิบัติต่อฝรั่งผิวขาวในทางที่ดีกว่า ส่งผลให้ชาวตะวันตกสามารถใช้ชีวิตในเมืองไทยได้ค่อนข้างสะดวกสบาย และทางรัฐบาลไทยก็ได้ส่งเสริมกลุ่มนักทำงานออนไลน์เช่นกัน ผ่านการให้วีซ่า DTV (Destination Thailand Visa) เพื่อให้ชาวต่างชาติที่ทำงานระยะไกลสามารถพำนักและทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกกฎหมาย นักทำงานออนไลน์ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีแนวโน้มใช้จ่ายในท้องถิ่น ส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็ก

ขอนแก่นกับโอกาสในการเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับนักทำงานออนไลน์ (Digital Nomads) จากทั่วโลก อ่านเพิ่มเติม »

ทำไม ขอนแก่น ถึงถูกวางให้เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน?

ทำไม ขอนแก่น ถึงถูกวางให้เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน . . ขอนแก่นมักจะเป็นจังหวัดแรกๆที่คนนึกถึง เมื่อพูดถึงอีสาน จากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ตรงกลางของภาคอีสาน . แต่ขอนแก่นไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางของอีสานในด้านภูมิศาสตร์เท่านั้น เพราะจังหวัดแห่งนี้ ยังถือว่าเป็นศูนย์กลางในหลายๆด้านของภาคอีสานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การแพทย์ การคมนาคม และศูนย์ราชการ ทำให้มีผู้เกิดผู้คนสัญจรและเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้าจังหวัดจำนวนมากและต่อเนื่อง . ขอนแก่น น่าสนใจอย่างไร ทำไม ถึงจึงถูกวางให้เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน ? อีสานอินไซต์ จะพามาเบิ่ง . . 1. ขอนแก่น มีพื้นที่ประมาณ 10,880 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของภาคอีสาน โดยมีเขตติดต่อกับหลายจังหวัด . – ทิศเหนือ ติดกับอุดรธานี เลย และหนองบัวลำภู – ทิศใต้ ติดกับนครราชสีมา และบุรีรัมย์ – ทิศตะวันออก ติดกับกาฬสินธุ์ และมหาสารคาม – ทิศตะวันตก ติดกับชัยภูมิ และเพชรบูรณ์ . จะเห็นว่าขอนแก่นตั้งอยู่ในภาคอีสานตอนกลาง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างภาคอีสานตอนบน และภาคอีสานตอนล่าง หลายคนจึงเรียกจังหวัดนี้ว่าเป็น ศูนย์กลางของภาคอีสาน . อีกทั้งขอนแก่น ยังเป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และทางเครื่องบิน ถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของภาคอีสาน โดยสนามบินขอนแก่นเองก็มีศักยภาพในการรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน และมีเส้นทางการบิน ขอนแก่น-กทม (16 เที่ยวต่อวัน) และบินตรงระหว่างภูมิภาค ขอนแก่น-ภูเก็ต (3 วันต่อสัปดาห์) ขอนแก่น-เชียงใหม่ (ทุกวัน) อีกทั้ง สนามบินขอนแก่นยังเป็นสนามบินนานาชาติ (รองรับสายการบินระหว่างประเทศได้ เมื่อมีความต้องการ) . 2. ส่วนในด้านเศรษฐกิจนั้น ปี 2565 ขอนแก่น มีมูลค่าเศรษฐกิจ (GPP) 216,367 ล้านบาท มากเป็นอันดับ 2 ของอีสาน (เป็นรองจังหวัดโคราช) และอันดับที่ 16 ของประเทศ และมีรายได้ต่อหัว (GPP per capita) 126,636 บาท มากเป็นอันดับ 2 ของอีสาน ซึ่งทางด้านเศรษฐศาสตร์รายได้ต่อหัวสะท้อนถึงคนมีเงินมากน้อยแค่ไหน ยิ่งตัวเลขมากก็หมายถึงคนมีกำลังซื้อสูงนั่นเอง โดยเศรษฐกิจของขอนแก่นพึ่งพารายได้จากภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก สะท้อนได้จากข้อมูลสัดส่วนโครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่น ในปี 2565 มาจาก – ภาคบริการ 56% – ภาคอุตสาหกรรม 34% – ภาคเกษตรกรรม 10% . ซึ่งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

ทำไม ขอนแก่น ถึงถูกวางให้เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน? อ่านเพิ่มเติม »

มัดรวมให้อ่าน บทสัมภาษณ์ 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น

#KKTCityupdate ชวนเจาะลึก บทสัมภาษณ์ กับ 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น โดย #KhonkaenTalk ได้คุยกับทั้ง 5 ผู้สมัคร พร้อมด้วย 3 คำถามสำคัญของแนวนโยบาย วิสัยทัศน์ต่อการเข้ามาบริหารเทศบาลนครขอนแก่น เบอร์ 1 คุณวสันต์ ชูชัย อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/1V4jFiVWUJ/ เบอร์ 2 คุณเต๊าะ นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/1UQ1Hzumhv/ เบอร์ 3 คุณแนน วรินทร์ เอกบุรินทร์ อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/1AS1r3KZiw/ เบอร์ 4 คุณอ๊อฟ เบญจมาภรณ์  ศรีละบุตร อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/1aBGC8xbbM/ เบอร์ 5 คุณฤทธิ์ ประสิทธิ์ ทองแท่งไท อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/19K99rkWh6/     นอกจากนั้น ISAN Insight เผย ข้อมูล น่าฮู้ เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัด ขอนแก่น อำเภอ เมืองขอนแก่น ขนาดพื้นที่ 46 ตร.กม. ประชากร 105,020 คน งบประมาณประจำปี 2566 ฿1.55 พันล้านบาท ประกอบไปด้วย จัดเก็บเอง: 466.20 ล้านบาท รัฐจัดสรร: 699.30 ล้านบาท เงินอุดหนุน: 388.50 ล้านบาท พามาเบิ่ง เทศบาล ทั้งประเทศผ่าน เทศบาลใกล้ฉัน.site/ และเตรียมพบกับแคมเปญครั้งยิ่งใหญ่ 𝗞𝗵𝗼𝗻 𝗞𝗮𝗲𝗻 𝗡𝗲𝘅𝘁 𝟮𝟬𝟮𝟱 โดย กลุ่ม 𝙆𝙝𝙤𝙣 𝙆𝙖𝙚𝙣 𝘾𝙧𝙚𝙖𝙩𝙤𝙧𝙨 𝘾𝙤𝙡𝙡𝙚𝙘𝙩𝙞𝙫𝙚 และ 15 เพจพันธมิตร ผู้ติดตามกว่า 4 ล้าน ร่วมถ่ายทอด ดีเบตครั้งใหญ่! “เมืองขอนแก่นจะไปทางไหนต่อ?” 𝗞𝗵𝗼𝗻 𝗞𝗮𝗲𝗻 𝗡𝗲𝘅𝘁 𝟮𝟬𝟮𝟱: เลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น 2568     แหล่งข้อมูล: งบประมาณปี 2566 ของเทศบาลทั้งหมด 2472 แห่ง ขอบเขตของเทศบาลทั้งหมด 2472 แห่ง

มัดรวมให้อ่าน บทสัมภาษณ์ 5 ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

ไขรหัส แผนพัฒนา กาฬสินธุ์ จากโมเดลแก้จน สู่จังหวัดที่การลงทุนจากจีนเป็นอันดับ 2 ของอีสาน

“มั่งคั่งด้วยเกษตรปลอดภัย ท่องเที่ยววิถีใหม่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” คำขวัญเชิงนโยบายนี้สะท้อนภาพการพัฒนาอย่างสมดุลของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างทั่วถึง สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด ที่วางเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุม . “เมื่อกาฬสินธุ์กลายเป็นจุดสนใจของทุนต่างชาติ: ศักยภาพที่ยังรอการปลดล็อก” แม้จะไม่ได้เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวหรือศูนย์กลางเศรษฐกิจใหญ่ในภาคอีสาน แต่กาฬสินธุ์กำลังกลายเป็นพื้นที่ศักยภาพสูงที่ได้รับความสนใจจากการลงทุน โดยเฉพาะจากต่างประเทศ ตัวอย่างชัดเจนคือ การที่กาฬสินธุ์มีมูลค่าการลงทุนจากประเทศจีนสูงเป็นอันดับ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็นมูลค่าร่วมกว่า 828 ล้านบาท การลงทุนจากจีนในด้านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรอาจเป็นจุดพลิกของเศรษฐกิจท้องถิ่น หากมีการยกระดับห่วงโซ่อุปทาน เช่น การพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ หรือ อุตสาหกรรมอาหารปลอดภัย ก็สามารถเปลี่ยนจังหวัดนี้จากพื้นที่วัตถุดิบให้เป็นศูนย์กลางแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มได้ แต่ความเสี่ยงที่ตามมาคือการกระจุกตัวของประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการขาดความสามารถในการต่อรองของเกษตรกรรายย่อย หากไม่มีระบบกำกับดูแลหรือกลไกตรวจสอบร่วมระหว่างรัฐและชุมชน . . โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ก็มีบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 774 ล้านบาท อย่างบริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน จำกัด ซึ่งทำธุรกิจการผลิตน้ำตาลบริสุทธิ์ โดยมีมูลค่าการลงทุนของชาวจีนมากกว่า  14.3 ล้านบาทเลยทีเดียว และนอกเหนือจากการลงทุนในน้ำตาลบริษุทธิ์ ก็จะมีดังนี้ตามภาพ และเมื่อดูสัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนชาวจีน จะพบว่า มีการลงทุนกระจุกตัวในพื้นที่ NeEC (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคอีสาน) เป็นหลัก มีมูลค่ารวมกันทั้ง 4 จังหวัดมากกว่า 588 ล้านบาท หรือหรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% เลยทีเดียว ซึ่งในพื้นที่ NeEC เป็นเส้นเชื่อมระหว่างเขตขยายแนวทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับจีน โดยส่วนใหญ่นักลงทุนชาวจีนนิยมลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด และภาคการผลิตที่เกี่ยวกับยาง   . .   กาฬสินธุ์จะสามารถ “มั่งคั่งด้วยเกษตรปลอดภัย” ได้อย่างไร? ภาคเกษตรกรรมยังคงเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์ ข้าว GAP และข้าว GIอย่างข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ ที่มีการรับรองมาตรฐาน ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร การรวมกลุ่มของเกษตรกร การสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ และการเป็นที่รู้จักของแบรนด์ข้าวกาฬสินธุ์ในตลาดพรีเมียมคือจุดแข็งสำคัญ แต่ยังมีข้อจำกัด เช่น การเข้าถึงตลาดของเกษตรกรรายย่อยยังจำกัด และยังขาดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ การสร้างแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระดับจังหวัดและการพัฒนาเครือข่ายระบบชลประทานขนาดเล็ก จะช่วยแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ และยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้าง “ตราสินค้าจังหวัด” ผ่านการเชื่อมโยงเกษตรปลอดภัยกับวัฒนธรรม เช่น ผ้าไหมแพรวา+ข้าวอินทรีย์+วิถีอีสาน ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากประสบการณ์มากกว่าการผลิตที่เพิ่มปริมาณ   . .   ท่องเที่ยววิถีใหม่: ผสานวัฒนธรรมและความยั่งยืน กาฬสินธุ์มีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งแหล่งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการพัฒนา “การท่องเที่ยววิถีใหม่” ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเฉพาะแนวคิด slow tourism และ soft power ท้องถิ่น เช่น การสาธิตการทอผ้าแพรวาโดยชาวบ้านดั้งเดิม หรือการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปทำอาหารอีสานที่ใช้วัตถุดิบปลอดภัยจากชุมชน การวางแผนเชิงพื้นที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาคนในพื้นที่ให้สามารถทำหน้าที่เป็นไกด์ที่มีความเชี่ยวชาญในโซนท้องถิ่น จะช่วยสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ขณะเดียวกัน การร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ในการวิจัยพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เช่น เส้นทางตามรอยไดโนเสาร์  หรือเส้นทางวิถีเกษตร จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง   . กาฬสินธุ์ ถิ่นน้ำดำ

ไขรหัส แผนพัฒนา กาฬสินธุ์ จากโมเดลแก้จน สู่จังหวัดที่การลงทุนจากจีนเป็นอันดับ 2 ของอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง แรงงานนอกระบบในอีสานมีจำนวนเยอะแค่ไหน

พามาเบิ่ง อีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุด แม้เกษียณก็ยังต้องทำงาน? แรงงานในภาคอีสานทำอาชีพในกลุ่มไหน ในระบบ นอกระบบ ภาคการเกษตร 2.8% 97.2% ภาคการค้า 39.3% 60.7% ภาคบริการ 56.0% 44.0% ภาคการผลิต 59.0% 41.0% ปัจจุบันประเทศไทยมีแรงงานรวมประมาณ 40 ล้านคน แต่มีเพียง 19 ล้านคนเท่านั้นที่เป็นแรงงานในระบบ ส่วนอีกกว่า 21 ล้านคนยังคงเป็นแรงงานนอกระบบ ซึ่งหมายความว่าแรงงานในกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการทางสังคมเทียบเท่ากับแรงงานในระบบ เมื่อเจาะลึกไปยังภาคอีสานซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีจำนวนแรงงานมากเป็นอันดับสองของประเทศ กลับพบว่าภาคที่มีแรงงานนอกระบบมากที่สุด คิดเป็น 7.4 ล้านคน หรือ 35.4% ของแรงงานนอกระบบทั้งประเทศ ขณะที่แรงงานในระบบในภาคอีสานมีเพียง 2.3 ล้านคน หรือ 12.0% ของแรงงานในระบบทั่วประเทศ ซึ่งนับว่าน้อยเกือบที่สุด เป็นรองเพียงภาคเหนือ หากพิจารณาภายในภูมิภาคเอง จะพบว่า แรงงานกว่า 76.4% ในภาคอีสานเป็นแรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างด้านแรงงานที่ฝังรากลึก และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน แรงงานนอกระบบในภาคอีสานกว่า 72.7% กระจุกตัวอยู่ในภาคเกษตรกรรม หากพิจารณาภาพรวมทั้งประเทศ ซึ่งมีแรงงานภาคเกษตรประมาณ 12.6 ล้านคน พบว่าแรงงานนอกระบบในอีสานมีจำนวนสูงถึง 5.4 ล้านคน หรือ คิดเป็น 42.6% ของแรงงานภาคเกษตรทั่วประเทศ แม้ว่าภาคอีสานจะมีแรงงานภาคเกษตรมากที่สุดในประเทศ แต่กลับสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในภาคการเกษตรได้เพียง 21.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาค (GRP) ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมดุลระหว่าง “ปริมาณแรงงาน” กับ “มูลค่าผลิตภัณฑ์” ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการที่แรงงานจำนวนมากยังคงอยู่นอกระบบ สะท้อนถึงแนวโน้มที่ธุรกิจภาคเกษตในอีสานจำนวนไม่น้อยยังคงอยู่นอกระบบเศรษฐกิจเช่นกัน หากภาครัฐสามารถผลักดันให้ทั้งแรงงานและธุรกิจในกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบได้มากขึ้น ก็จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มจำนวนแรงงานในระบบ และยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานได้ แนวโน้มแรงงานนอกระบบในช่วงวัยทอง (Silver/ Gold Age 50 ปีขึ้นไป) ที่ทำงานนอกระบบ จะกลายเป็นแรงงานสูงวัยนอกระบบ ผนวกกับแรงงานในระบบที่ต้องทำงานหลังเกษียณจากระบบ ยิ่งทำให้ตัวเลขนี้มีแต่จะเติบโตขึ้น ดังนั้น ปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งแรงงานนอกระบบที่มีมากกว่าในระบบ สังคมสูงวัย จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต รวมทั้งจะเกิดปัญหา “แก่ก่อนรวย” แรงงานในระบบไม่มีแผนเกษียณหรือการวางแผนทางการเงินซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในเชิงครอบครัว สังคม และเศรษฐกิจตามมา จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด จึงต้องการการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งการขยายวัยเกษียณการทำงานในระบบสำหรับคนที่สมัครใจอยากทำงาน และมีศักยภาพ เพื่อไม่ให้ตัวเลขแรงงานนอกระบบเพิ่มขึ้น การสร้างงานและการนำเทคโนโลยีทดแทนแรงงาน แรงงานนอกระบบส่วนใหญ่ในอีสานเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี และลดหลั่นลงมาตาช่วงอายุ ส่วนหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าแม้จะแก่แล้วก็ยังต้องทำงานอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นคือ แม้แต่แรงงานในระบบเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณก็ยังต้องทำงานและไม่สามารถทำงานในระบบได้อีก จึงต้องมาทำงานนอกระบบมากขึ้น แรงงานในระบบทั่วประเทศจะมีมากกว่า 19 ล้านคน แต่มีเพียง 14 ล้านคน เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงสวัสดิการสังคม แม้ว่าแรงงานในระบบทั่วประเทศจะมีมากกว่า 19 ล้านคน แต่มีเพียง 14 ล้านคน เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงสวัสดิการสังคม เช่น ประกันสังคม

พามาเบิ่ง แรงงานนอกระบบในอีสานมีจำนวนเยอะแค่ไหน อ่านเพิ่มเติม »

ครม. ไฟเขียว 400 ลบ. พัฒนากลุ่มจังหวัด “สนุก” มุ่งสู่เป้าหมาย “เชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขง”

ครม. ไฟเขียว 400 ลบ. พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 มุ่งสู่เป้าหมาย “เชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขง” . ครม.(29เม.ย.68) รับทราบผลการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) ตามที่ สศช. เสนอ พร้อม เห็นชอบในหลักการโครงการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวน 4 โครงการ กรอบวงเงิน 200 ล้านบาท โดยให้ขอรับจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 งบกลาง และให้ สำนักงบประมาณพิจารณาความพร้อม ความคุ้มค่า และความเหมาะสมตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด . เห็นชอบในหลักการของโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) 5 โครงการ กรอบวงเงิน 200 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการขอรับจัดสรร และเร่งทำข้อเสนอโครงการโดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ จากการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ . มอบ สศช. รับไปพิจารณาโครงการที่เป็นข้อเสนอของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) ที่เหลือ 21 โครงการ เพื่อบรรจุในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป . มอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และ รายงานผลการดำเนินงานให้ สศช. . สนับสนุนการพัฒนากลุ่มจังหวัดสู่เป้าหมาย “เชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขง” โดยพัฒนาการท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงเชื่อมโยงวัฒนธรรมชุมชน ยกระดับการเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน พัฒนาขีดความสามารถโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เสริมสร้างทักษะแรงงานและความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน และยกระดับการบริหารจัดการน้ำและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น @thaigov ครม. เดินหน้ายกระดับ พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 มุ่งสู่เป้าหมาย “เชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขง” #เทรนด์วันนี้້ #ไทยคู่ฟ้า #สื่อสารรัฐบาลไทย #ครมสัญจร #นครพนม #บริหารจัดการน้ํา #สกลนคร #นายกรัฐมนตรี #นายกแพทองธารชินวัตร ♬ epicmusicei – 北昼 สำหรับโครงการเร่งด่วนและข้อเสนอเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบน 2 ทั้ง 3 จังหวัดนั้น ที่ผ่านมาได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.กลุ่มจังหวัด) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีด้วยกัน 9 โครงการ แบ่งเป็นโครงการต่าง ๆ ดังนี้ กลุ่มแรก : โครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มีโครงการของกลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 2 และข้อเสนอโครงการของ 3 จังหวัด (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) รวม 4 โครงการ วงเงินรวม 200 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 2  โครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงเหนือเมืองนครพนมและพื้นที่ต่อเนื่อง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

ครม. ไฟเขียว 400 ลบ. พัฒนากลุ่มจังหวัด “สนุก” มุ่งสู่เป้าหมาย “เชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขง” อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตลอด 20 ปี จังหวัดในอีสานเชี่ยวชาญสาขาเศรษฐกิจด้านไหนบ้าง

ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยมีความแตกต่างกันทางภูมิศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดลักษณะการใช้ชีวิต การประกอบอาชีพและความชำนาญที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ โดยรวมแล้วจะก่อให้เกิด “ความชำนาญ” ทางสาขาเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น การเกษตร อุตสาหกรรม หรือการท่องเที่ยว ที่แตกต่างกันไปกัน โดยในภาคอีสาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำการเกษตรมากที่สุด หลายๆคนคงคิดว่าหลาย ๆ เศรษฐกิจของจังหวัดในอีสานคงจะมี ‘ความเชี่ยวชาญ’ ทางด้านการเกษตรสูงสุด แต่เมื่อมาวิเคราะห์ดูจริงๆแล้ว อาจจะไม่ใช่เสมอไป ซึ่งแต่ละจังหวัดในอีสานจะเชี่ยวชาญในสาขาเศรษฐกิจใดบ้าง ติดตามได้ในส่วนถัดไป การจะพิจารณาว่าเศรษฐกิจรายสาขา ว่าสาขาใดบ้างที่แต่ละจังหวัดมีความเชี่ยวชาญนั้น ผู้เขียน “เศรษฐกิจอีสาน 2 ทศวรรษ” ได้ใช้ดัชนี Location Quotient หรือ LQ เป็นวิธีการคำนวณทางเศรษฐศาสตร์เพื่อใช้วัดความชํานาญของเศรษฐกิจเฉพาะถิ่นเพือเปรียบเทียบกับพื้นที่โดยรวม นอกจากนั้นได้ใช้การวิเคราะห์ที่เปรียบเทียบการเติบโตในระดับภูมิภาคกับการเติบโตในระดับประเทศเพื่อให้ครอบคลุมการวิเคราะห์ ผ่านเครื่องมือ D-shift โดยเป็นค่าที่อธิบายว่าเศรษฐกิจรายสาขาของจังหวัดหนึงมีความเติบโตเพิ่มขึนหรือลดลง ผลการวิเคราะห์คือ สาขาเกษตรกรรมมีเพียง 3 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร เท่านั้น ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขานี้มากกว่าจังหวัดอื่นๆ อาจเป็นจังหวัดดังกล่าวมีพื้นทีติดริมน้ำโขงและเหมาะกับการปลูกพืชผักในฤดูน้ำลด เนื่องจากดินจะมีสารอาหารมาก และบางพื้นที่ยังเหมาะกับการปลูกผลไม้อื่น นอกจากนั้นในสาขาเศรษฐกิจอื่นๆ พบว่า จังหวัดเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี มีความเชี่ยวชาญในสาขาเศรษฐกิจที่หลากหลาย เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น มีความเชี่ยวชาญสาขาการผลิต และ อุดรธานี และอุบลราชธานี เชี่ยวชาญสาขาการขายส่งและขายปลีก กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม กลับพบว่าหลายจังหวัดในภาคอีสาน ไม่ปรากฏความเชี่ยวชาญและโดดเด่นในสาขาเศรษฐกิจใดเลย นำไปสู่ข้อสังเกตเชิงพัฒนา เช่น บางจังหวัดวางแผนการพัฒนาเป็นเกษตรทันสมัย แต่ไม่ปรากฏความเชี่ยวชาญและเติบโตด้านเกษตรเลย โดยประเด็นเหล่านี้ควรนำไปสู่การทำนโยบายและการวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดให้เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญในพื้นที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า หมายเหตุ: เป็นการวิเคราะห์ความเชี่ยวชาญและการเติบโตของสาขาเศรษฐกิจแต่ละจังหวัดผ่านเครื่องมือ Location Quotient Index และ Differential Shift ตัวอย่างนี้เป็นเพียงบางประเด็นที่หยิบยกซึ่งเป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ “เศรษฐกิจอีสาน 2 ทศวรรษ” เขียนโดย ผศ.ดร.จักรกฤช เจียวิริยบุญญา และ รศ.ดร.นรชิต จิรสัทธรรม ภายใต้คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเล่าถึงประเด็นทางเศรษฐกิจ ประเด็นทางสังคม แรงงาน และการเงินของภาคอีสานในช่วงพ.ศ. 2540 – 2560 เป็นหนังสือที่นักธุรกิจในอีสาน ผู้ที่สนใจด้านเศรษฐกิจสังคม นักศึกษา ไม่ควรพลาดแม้แต่ประการทั้งปวง หรือ บุคคลทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเศรษฐศาสตร์มาก่อน ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาและได้ความรู้จากของหนังสือเล่มนี้ได้อย่างง่ายๆ โดยสามารถเข้าไปอ่านได้ฟรี! ทางเว็บไซต์ของอีสาน อินไซต์ หรือคลิกที่ที่ลิงก์ ที่มา: หนังสือ เศรษฐกิจอีสาน 2 ทศวรรษ หนังสือ “เศรษฐกิจอีสาน 2 ทศวรรษ” E-Book ฟรี เพื่อสาธารณะ

พามาเบิ่ง ตลอด 20 ปี จังหวัดในอีสานเชี่ยวชาญสาขาเศรษฐกิจด้านไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

พาเปิดเบิ่ง🥵สถิติภัยร้ายหน้าร้อน 🌡️”ฮีทสโตรก” คร่าชีวิตคนอีสานสูงสุดในประเทศ โดยเดือนเมษาฯ หนักสุด

⏰พาย้อนเบิ่ง ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา อีสาน เคยร้อนสุด กี่องศา🥵🔥 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567 24 ราย 18 ราย 57 ราย 12 ราย 7 ราย 8 ราย 37 ราย 63 ราย สถานการณ์ผู้เสียชีวิตในปี 2567 มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 63 ราย เพศชาย 54 ราย เพศหญิง 9 ราย   อายุระหว่าง 30 – 95 ปี (เฉลี่ย 62 ปี) ประกอบอาชีพรับจ้าง คิดเป็น 25%   ผู้เสียชีวิตอยู่ใน 31 จังหวัด อุดรธานี = 9 ราย ชัยภูมิ นครราชสีมา และศรีสะเกษ = จังหวัดละ 4 ราย ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ และสมุทรสงคราม = จังหวัดละ 3 ราย ชลบุรี ชัยนาท ปราจีนบุรี แพร่ ลำปาง ลำพูน และสุราษฎร์ธานี = จังหวัดละ 2 ราย ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ นครนายก นครศรีธรรมราช น่าน ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา พะเยา มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ระยอง สมุทรปราการ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี = จังหวัดละ 1 ราย   สถานการณ์ในปี 2568 พบผู้ป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อน “กลุ่มฮีทสโตรก” แล้วจำนวน 34 ราย โดยจังหวัดตราดมีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาคือ สระแก้ว ปราจีนบุรี เลย นครราชสีมา และแพร่

พาเปิดเบิ่ง🥵สถิติภัยร้ายหน้าร้อน 🌡️”ฮีทสโตรก” คร่าชีวิตคนอีสานสูงสุดในประเทศ โดยเดือนเมษาฯ หนักสุด อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top