SHARP ADMIN

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน ทำอย่างไร? จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน ถอดบทเรียนธุรกิจ ฟรี!! 22 พ.ย.67 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน . หากพูดถึงร้านอาหารออร์แกนิกในเวลา คงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน “โอ้กะจู๋” ธุรกิจที่เริ่มจากแปลงผักหลังบ้าน ที่ปัจจุบันก้าวเข้าสู่บริษัทยอดขายกว่า 1000 ล้าน และเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ISAN Insight and Outlookสิพามาเบิ่ง เส้นทางธุรกิจ จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน และ อะไรทำให้ “โอ้กะจู๋” เลือก ‘ขอนแก่น’ เป็นสาขาแรกในการบุกอีสาน . มาฮู้จัก “โอ้กะจู๋” เริ่มจากปลูกผักสวนครัวทั่วไป และผักสลัดบางชนิด บนพื้นที่ปลูกที่มีไม่มากนัก โรงเรือนขนาด 180 ตารางเมตร ซึ่งผลผลิตที่ได้ก็นำไปประกอบอาหารรับประทานในครอบครัว ด้วยเหตุผลที่ว่า “อยากให้คนในครอบครัวมีสุขภาพดี ทานผักที่ไร้สารพิษและสารเคมีตกค้าง” จึงเป็นที่มาของสโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่” เพราะแม่เปรียบเสมือนตัวแทนความรักของครอบครัว ส่วนชื่อของแบรนด์ “โอ้กะจู๋” ก็มาจากการผวน “อู๋” กับ “โจ้” นั่นเอง . สำหรับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ปัจจุบันได้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อลงทุนการขยายสาขาแบรนด์ “โอ้กะจู๋“, ขยายแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ , พัฒนาแฟลตฟอร์มรองรับการขาย และขยายฟาร์มเพื่อให้เพียงพอกับการเติบโต . ณ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม ปี 2567) โอ้กะจู๋ มีทั้งหมด 34 สาขา โดยอยู่ภายใต้บริษัทจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทต่างๆ เช่น สลัด สเต๊ก ซุป สปาเกตตี อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำผักผลไม้ เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น . รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก ผลไม้สด แซนวิช แร็พ ได้มีการนำไปวางขายยังช่องทางต่างๆ รวมถึงการให้บริการจัดเลี้ยง โดยธุรกิจบริการและจำหน่ายของบริษัทฯ สามารถแบ่งรูปแบบและช่องทางการจำหน่ายได้เป็น 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.Full-service Restaurant 2.Delivery and Kiosk 3.Cafe Amazon และ 4.Supermarket ด้วยผลผลิตจากสวน 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวมประมาณ 380 ไร่ . หากดูในแง่ของผลประกอบการจะพบว่า ปี 64 บริษัทมีรายได้ 803 ล้านบาท ปี 65 บริษัทมีรายได้ 1,215 …

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน ทำอย่างไร? จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน ถอดบทเรียนธุรกิจ ฟรี!! 22 พ.ย.67 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน . . ราคาที่ดินที่แพงสุดส่วนใหญ่ราคาที่ดินในอำเภอเมืองมักจะสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่ง มีถนนหนทางที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้สะดวก มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรคมนาคม) ทำให้มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจำนวนมากขึ้น ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้น ยิ่งในปัจจุบันคนต้องการมีพื้นที่ส่วนตัวและต้องการมีครอบครัวเดี่ยวด้วยแล้ว ราคาที่ดินจึงลดลงได้ยาก เมื่อ Demand กับ Supply มาเจอกัน ราคาที่ดินย่อมดีดตัวสูงขึ้น เนื่องจากทรัพยากรมีจำกัด . สังคมเมืองมีการขยายตัว มีห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า และการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ราคาที่ดินในละแวกนั้นย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งใกล้สถานที่ที่เป็นทำเลทองมากเท่าไร แปลว่าคนที่อาศัยอยู่บนที่ดินนั้นจะสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ที่ดินบริเวณนั้นจึงแพงและมิอาจประเมินราคาที่ดินได้ โดยส่วนมากคนที่ซื้อต่อจึงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ . ในขณะที่ดินที่ถูกสุดส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ห่างจากตัวเมือง เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะยังไม่ครบครัน อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญนั้นก็คือ ที่ดินที่มีข้อจำกัด เช่น ที่ดินติดลำธาร ที่ดินลาดชัน หรือที่ดินที่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ จะมีราคาถูกกว่าที่ดินที่มีสภาพดี . . อ้างอิงจาก: – DDproperty – Bangkok CitiSmart – กรมธนารักษ์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ราคาที่ดิน #ราคาประเมินที่ดิน

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด

“ฮู้บ่ว่า?โอโซนในอีสานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลต่อสุขภาพเรามากกว่าที่คิด จากปัญหาระบบทางเดินหายใจสู่โรคร้ายแรง . โอโซน เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั้งในชั้นบรรยากาศและใกล้พื้นผิวโลก แต่โอโซนที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพคือโอโซนใกล้พื้นดิน (Ground-level ozone) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารมลพิษที่ปล่อยออกจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งเผาไหม้อื่น ๆ กับแสงแดด โอโซนใกล้พื้นดินมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทยที่พบว่าปริมาณโอโซนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี . ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศทั้งจากการขนส่งทางบกและการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม เมื่อโอโซนสะสมมากขึ้นในบรรยากาศ มันสามารถส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอดหรือโรคหัวใจอยู่แล้ว การสัมผัสกับโอโซนในระดับสูงเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ อาการหายใจถี่ แน่นหน้าอก หรืออาการไออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โอโซนยังสามารถทำให้การทำงานของปอดลดลงและทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และหืด . เมื่อดูปริมาณก๊าซโอโซนในรายจังหวัดจะพบว่าจังหวัด มุกดาหารที่มีค่าก๊าซโอโซนมากที่สุด มีเพียง 42 PPB ที่เทียบเป็นรายปี ซึ่งถือได้ว่ามีค่าไม่ได้สูงมากนัก ตามมาตราฐานที่ประเทศไทยกำหนดที่อยู่ในระดับอันตรายนั้นจะต้องมีค่าใกล้กับ 70 PPB เทียบรายเฉลี่ย8ชั่วโมง . โดยสามารถตรวจสอบค่าก๊าซและฝุ่นละออง ด้วยตัวเองได้ทาง ลิงก์เว็บไซต์ Click . ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แวดล้อมอีสาน

ผู้ประกอบการ นักธุรกิจห้ามพลาด ตลาดหลักทรัพย์จัดใหญ่ Unlocking Opportunities for Business Growth – เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่

อีเวนต์สำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่คิดการใหญ่ ! Unlock Your Business Growth : เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่   ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร จังหวัดขอนแก่น งานสัมมนาสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET-mai-LiVEx) สัมมนาสุด Exclusive ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุน (SET-mai-LiVEx) พบกับผู้เชี่ยวชาญจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และ CEO นักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านประสบการณ์ IPO มาแล้ว พิเศษสุดๆ !! Clinic ให้คำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และทุนสนับสนุนการเตรียมพร้อมธุรกิจ เพื่อการเติบโตสำหรับนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท  Unlocking Opportunities for Business Growth – เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร จังหวัดขอนแก่น งานสัมมนาสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET-mai-LiVEx) และองค์กรพันธมิตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำโดย หอการค้าจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด พบกับวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญตัวจริงที่จะมาแชร์เส้นทางการระดมทุนผ่านตลาดทุน และประสบการณ์ insight ที่ผู้ประกอบการห้ามพลาด พิเศษภายในงาน ! กับบริการ Clinic ให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโอกาสรับทุนสนับสนุนการเตรียมความพร้อมธุรกิจเพื่อการเติบโต มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท พบกันวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 – 18.00 น ณ ห้อง Orchid Ballroom 1 ชั้น 2 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://set-event-registration.setgroup.or.th/…/unlocki… ร่วมงานฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 – 18.00 น.  ณ ห้อง Orchid Ballroom 1 ชั้น 2 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น   กำหนดการ 13.00 น.    ลงทะเบียน 13.30 น.    กล่าวต้อนรับ …

ผู้ประกอบการ นักธุรกิจห้ามพลาด ตลาดหลักทรัพย์จัดใหญ่ Unlocking Opportunities for Business Growth – เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่ อ่านเพิ่มเติม »

ภูเวียงพบฟอสซิล”ไดโนเสาร์ตัวใหม่” ลุ้นขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ใหม่ของโลก! และ ไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ 14 ของไทย

ปัจจุบัน ไทย มีสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบเฉพาะในไทยมากถึง 13 สายพันธุ์ ลุ้นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งขุดเจอ ไดโนเสาร์ไทย 13 สายพันธุ์ 1) ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน (Phuwiangosaurus sirindhornae) 2) สยามโมซอรัส สุธีธรนิ (Siamosaurus suteethorni) 3) สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส (Siamotyrannus isanensis) 4) ซิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กิ (Psittacosaurus sattayaraki) 5) อีสานโนซอรัส อรรถวิภัชน์ชิ (Isanosaurus attavipachi) 6) กินรีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส (Kinnareemimus khomkaenensis) 7) สยามโมดอน นิ่มงามมิ (Siamodon nimngami) 8 ราชสีมาซอรัส สุรนารีเอ (Ratchasimasaurus suranareae) 9) สิรินธรนา โคราชเอนซิส (Sirindhorna khoratensis) 10) ภูเวียงเวเนเตอร์ แย้มนิยมมิ (Phuwiangvenator yaemniyomi) 11) วายุแรปเตอร์ หนองบัวลำภูเอนซิส (Vayuraptor nongbualamphuensis) 12) สยามแรปเตอร์ สุวัจน์ติ (Siamraptor suwati) 13) มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส (Minimocursor phunoiensis)   หัวข้อที่น่าสนใจ 🕰️ เริ่มขุดค้นฟอสซิลใหม่หลังหยุดไป 30 ปี 🦴 พบชิ้นส่วนกระดูกใหญ่กว่าภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ 🌍 คาดว่าเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยพบ  🔬 ทีมนักวิจัยเร่งค้นคว้าในหลุมขุดที่ 3 💪 โครงกระดูกน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทีมนักวิจัยเร่งขุดฟอสซิลไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 6 ของภูเวียง ซึ่งทราบชัดเจนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา อาจจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลกด้วย เพราะมีความแตกต่างหลายอย่างจากที่มีการค้นพบทั่วโลก ตัวใหญ่กว่า ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ กระดูกใหญ่กว่าถึง 2 เท่า ความยาวไม่น้อยกว่า 20 เมตร  (Video) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ต.ค.2567 ที่อาคารคลุมหลุมขุดที่ 3 ตั้งอยู่บริเวณห้วยประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ดร.วราวุธ สุธีธรผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดฟอสซิล และเป็นคนแรกของประเทศไทยที่เริ่มต้นขุดฟอสซิล พร้อมด้วย นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง และทีมนักวิจัยเรื่องฟอสซิลไดโนเสาร์ เร่งขุดหาฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นส่วนต่างๆหลังพบว่าเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของภูเวียงตัวที่ 6 และลุ้นที่จะพบเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลกด้วย โดยการขุดฟอสซิลไดโนเสาร์ในหลุมขุดที่ 3 นี้มีการเริ่มต้นขุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาหลังจากหยุดขุดไป 30 ปี หลังจากขุดพบและคาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ ที่เคยขุดพบตัวแรกของภูเวียงและเป็นไดโนเสาร์ในคำขวัญประจำจังหวัดขอนแก่นด้วย ซึ่งความคืบหน้าในการขุดฟอสซิลไดโนเสาร์นั้น พบชิ้นส่วนกระดูกสันหลังส่วนกลางตัว กระดูกสันหลังส่วนคอ กระดูกซี่โครง ฟัน แต่ยังไม่พบชิ้นส่วนขาหน้าและขาหลัง คาดว่าจะอยู่ลงลึกไปอีก แต่ด้วยอุปสรรคเป็นหินที่แข็งจึงต้องใช้ความพยายามและความอดทนในการขุดอย่างต่อเนื่อง และหลุมขุดที่ 3 นี้ อยู่ห่างจากจุดที่นักสำรวจเเร่ ยูเรเนี่ยม เข้ามาเจอกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกของประเทศไทยในปี พ.ศ.2519 ไม่ถึง 200 เมตร ดร.วราวุธ สุธีธร อายุ 76 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดฟอสซิล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ไดโนเสาร์ตัวที่อยู่ในหลุมขุดที่ 3 นี้ เราทราบชัดเจนว่าเป็นไดโนเสาร์ซอโรพอด จำพวกกินพืช โดยคาดว่าจะเป็นกลุ่ม ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ ที่เคยขุดพบ จึงได้หยุดขุดไป 30 ปี กระทั่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ดร.สุรเวช สุธีธร ซึ่งเป็นลูกชายและมีความสนใจเช่นเดียวกัน ได้ไปศึกษาเรียนจบกลับมา และพอมาดูรายละเอียดกระดูกบางชิ้นพบว่ามีความต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ เราจึงได้เริ่มโปรเจคอีกครั้ง โดยได้งบประมาณจากกองทุนซากดึกดำบรรพ์มาเริ่มต้นขุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากหยุดขุดไป 30 ปี โดยมีนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาช่วยกันขุด แต่อุปสรรคเนื่องจากสภาพหินแข็งมาก แต่ก็ยังพอที่จะขุดลงลึกไปได้จนขณะนี้พบกระดูกหลายๆชิ้นโผล่ขึ้นมามีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจากที่ปีแรกเราสงสัยว่าตัวนี้ไม่น่าจะใช่ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ เนื่องจากกระดูกหลายๆชิ้นที่ขุดพบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก กระทั่งเป็นคนละกลุ่มกับสายพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ และมีความใกล้เคียงกับกลุ่มอื่นๆ และก็มีส่วนคล้ายกับแบรคิโอซอรัส ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่และรูปร่างต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่อย่างมาก โดยกระดูกที่ค้นพบนั้นจะมีลักษณะเด่นเฉพาะหลายๆอย่าง ทั้งขนาดที่ใหญ่กว่าถึง 2 เท่า ลักษณะกระดูกซึ่งมีขนาดใหญ่มีการลดน้ำหนักต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่คือ จะมีโพรงในกระดูกสูงมาก เพื่อที่จะทำให้กระดูกมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ในการจะเป็นกระดูกขนาดใหญ่และน้ำหนักไม่มากเกินไป และก็เจอจากกระดูกหลายชิ้นที่ขุดพบ ณ ขณะนี้ จึงมั่นใจว่าจะเป็นไดโนเสาร์ที่ขุดพบสายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 6 ของภูเวียง และจากชิ้นส่วนหลายๆชิ้นที่เราพบนั้นก็จะนำไปศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบในกลุ่มแบรคิโอซอรัสว่าจะอยู่ตรงไหนในกลุ่มเดียวกัน และมีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราก็จะสามารถสรุปได้ว่าเป็นตระกูลใหม่ หรือชนิดใหม่ของโลกด้วยหรือไม่ ตอนนี้ความเป็นไปได้สูงที่ไดโนเสาร์ตัวนี้จะเป็นสายพันธุ์ใหม่และเป็นกลุ่มใหม่ของโลกด้วย แต่จะต้องมีการศึกษารายละเอียดที่มีการค้นพบอยู่แล้วในโลกนี้ ซึ่งรายละเอียดแตกต่างมากน้อยแค่ไหน หากมีความแตกต่างมากก็จะเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลกได้ ตอนนี้ที่เราขุดพบนั้น มองเห็นเกินครึ่งของแต่ละชิ้นแล้ว และมีโอกาสที่จะเพียงพอในการศึกษา แต่เราก็ยังอยากได้ในหลายๆส่วนที่สำคัญเช่นหัวกะโหลก ตอนนี้เราได้ฟันของตัวนี้มาแล้วหลายชิ้น ซึ่งมีนัยยะสำคัญอย่างมาก ซึ่งที่เรามีอยู่นี้ก็มากพอสมควร ซึ่งตอนนี้เราพบชิ้นส่วนกระดูกสันหลังส่วนกลางตัว กระดูกสันหลังส่วนคอ กระดูกซี่โครงที่มีขนาดใหญ่มาก โดยเราเปรียบเทียบกับชิ้นส่วนที่เราเคยขุดพบมาแล้วจะใหญ่มากกว่า 2 เท่า ซึ่งยืนยันแล้วว่าต่างจากที่เราพบมาแล้วทั้งหมด และมีลักษณะโครงสร้างที่มีโพรงในกระดูกแตกต่างกันชัดเจน ส่วนความยาวของตัวไม่น้อยกว่า 20 เมตร จากขนาดของกระดูก ขาหน้าสูงใหญ่ต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่อย่างมาก ตอนนี้เรายังไม่เจอกระดูกขาหน้าขาหลังถ้ามีพวกนี้ประกอบก็จะทำให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้าน นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งเเต่การพบฟอสซิลชิ้นเเรกในปีพ.ศ. 2519 มาจนถึงปัจจุบัน เทือกเขาภูเวียงมีการค้นพบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลกถึง 5 ชนิด และในหลุมขุดที่ 3 นี้รอลุ้นว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 6 ของโลกด้วยหรือไม่ โดยฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ทีมนักวิจัยขุดพบทั้งหมดถูกนำมาจัดเเสดงอยู่ที่ ศูนย์ศึกษาวิจัยเเละพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ภายใต้การดูเเลของกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งการขุดค้นเเละศึกษาวิจัย ยังดำเนินต่อไป ภายใต้ความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากกรมทรัพยากรธรณี กรมอุทยานฯ สถาบันการศึกษา รวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนเเก่น ที่ร่วมกับภาคีเครือข่าย พยายามผลักดันให้พื้นที่อุทยานธรณีขอนเเก่น หรือ “ขอนเเก่น จีโอพาร์ค” ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานธรณีโลก โดยการรับรองจากองค์การยูเนสโก ซึ่งรอการประกาศในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ ซึ่งจะสอดรับกับฟอสซิลที่ขุดพบพอดี และในทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวมาชมการขุดฟอสซิลศึกษาเส้นทางธรรมชาติทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นนี้ก็ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาศึกษาชมธรรมชาติได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง ซึ่งจะมีลานกางเต็นท์และจุดชมวิวที่ผาชมตะวันรวมทั้งมีน้ำตกให้เล่นอีกด้วย ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติภูเวียง ขอนแก่น มีซากฟอสซิล ไดโนเสาร์ “ 5 ตัว 5 สายพันธุ์” ได้แก่ 1. ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน (น้องโย่ง) 2. สยามโมซอรัส สุธีธรนิ …

ภูเวียงพบฟอสซิล”ไดโนเสาร์ตัวใหม่” ลุ้นขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ใหม่ของโลก! และ ไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ 14 ของไทย อ่านเพิ่มเติม »

“ISAN WINTER” วันเดอร์แลนด์ หนองคาย ขอนแก่น อุดรธานี ททท. จัดใหญ่ กิน เที่ยว ช้อป ชมคอนเสิร์ตฟรี!!

อุดรธานี หนาวนี้ปล่อยใจม่วน ชวนหมู่มามันส์ปิดท้ายกับงาน “ISAN Winter Wonderland อีสานวินเทอร์วันเดอร์แลนด์” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มความม่วนพื้นที่ที่ 3 จังหวัดอุดรธานี ภายใต้แนวคิด โดดดิด่งอุดร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 ณ ลานทุ่งศรีเมือง . ภายในงานพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย ได้แก่ Paradox, Lomosonic, getsunova, SEASON FIVE, Fellow Fellow, Paper planes, Mirrr, Whal&Dolph และ SERIOUS BACON โซนกิจกรรม PLAYGROUND ZONE ลานเครื่องเล่นยักษ์ ในธีม WINTER WONDERLAND ที่ผสมผสานความสนุกของเครื่องเล่นขนาดใหญ่ให้เข้ากับวัฒนธรรมอีสานพื้นถิ่น การจัดแสดง Arts Installation ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอีสานให้เข้ากับความแฟนตาซีของโลก Wonderland อาทิ ISAN Bus Station และ ISAN Heritafe Gateway ที่เล่าเรื่องราวความงดงามของวัฒนธรรมอีสานผ่านศิลปะและเสียงดนตรีพื้นบ้าน พร้อมอิ่มอร่อยกับบูธร้านค้าและ Food truck กว่า 40 ร้าน . งานนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ISAN Winter Wonderland, Facebook : TAT Contact Center หรือ โทร. 1672 . #isanwinterwonderland #AmazingThailand ขอนแก่น หนาวนี้ปล่อยใจม่วน ชวนหมู่มามันส์กันต่อในงาน “ISAN Winter Wonderland อีสานวินเทอร์วันเดอร์แลนด์” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกทัพความม่วนพื้นที่ที่ 2 จังหวัดขอนแก่น ภายใต้แนวคิด โฮแซวหรรษา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ณ ตลาดศรีวิไล (ตรงข้ามบึงสีฐาน ถนนมะลิวัลย์) . ภายในงานพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ Pop Pongkool, หญิงลี, WANYAi, Musketeers, MVL, Pause, YourMOOD, Slapkiss และ Earth Patravee โซนกิจกรรม PLAYGROUND ZONE ลานเครื่องเล่นยักษ์ ในธีม WINTER WONDERLAND ที่ผสมผสานความสนุกของเครื่องเล่นขนาดใหญ่ให้เข้ากับวัฒนธรรมอีสานพื้นถิ่น …

“ISAN WINTER” วันเดอร์แลนด์ หนองคาย ขอนแก่น อุดรธานี ททท. จัดใหญ่ กิน เที่ยว ช้อป ชมคอนเสิร์ตฟรี!! อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 . . ในการตั้งชื่อหมู่บ้านของคนโบราณส่วนใหญ่นิยมเลือกเป็นที่อยู่อาศัยในอดีต ได้แก่ เนิน โนน โพน โคก ดอน ควน . หมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน พบกระจายตัวอยู่ประปรายในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปางและน่าน ส่วนที่กระจุกตัวกันอย่างหนาแน่นพบบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบลุ่มภาคกลาง ประชิดแนวเทือกเขาถนนธงชัย และอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ คือ พื้นที่ระหว่างแม่น้ำมูลตอนบนและแม่น้ำชีตอนล่างของภาคอีสาน รวมไปถึงตลอดแนวภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ก็พบหมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน เช่นกัน โดยเฉพาะแถบจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา . หมู่บ้านที่ใช้คำว่า “ดอน”  มีลักษณะเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง และอาจมีเพียงเนินเล็กๆ เตี้ยๆ เป็นศูนย์กลางของพื้นที่หมู่บ้าน . ธรณีวิทยา “ดอน”  . ผลจากการชนและบีบอัดกันของแผ่นเปลือกโลกในอดีตนานมากแล้ว ทำให้พื้นแผ่นดินอีสานซึ่งประกอบไปด้วยชั้นหินทรายเป็นส่วนใหญ่เกิด การคดโค้งโก่งงอของหิน (folding) ทำให้ภาคอีสานมีภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นแบบที่เรียกว่าที่ ราบลูกฟูก หรือ เนินลูกระนาด ซึ่งแนวเทือกเขาภูพาน แถบสกลนคร เป็นตัวอย่างชัดเจนที่เกิดและยกตัวเป็นภูเขาขึ้นมาได้จากการคดโค้งโก่งงของหินเช่นกัน กลายเป็นภูมิประเทศโดยส่วนใหญ่ทั่วภาคอีสาน . อย่างไรก็ตาม จากกระบวนการกวัดแกว่งโค้งตวัดของทางแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของพื้นที่ โดยธรรมชาติของกระบวนการทางน้ำ จะทำให้เกิดการปรับราบพื้นที่ กลายเป็น ที่ราบน้ำท่วมถึง (floodplain) ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” จึงกระจายตัวอยู่ในภาคอีสาน ตามลักษณะภูมิประเทศดั้งเดิมที่เกิดจากการคดโค้งโก่งงอของหิน ยกเว้นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง ที่ได้รับการปรับพื้นที่ราบ จากกระบวนการทางน้ำของแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี . . ตัวอย่างชื่อหมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” – บ้านดอนกอย ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร – บ้านดอนน้อย ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ – บ้านดอนมัน ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม – บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น – บ้านดอนหมู ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.ดอุบลราชธานี – บ้านดอนยาวน้อย ต.วังหิน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา – บ้านดอนแดง ต.เชียงขวัญ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด – บ้านดอนนาดี ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู  . . อ้างอิงจาก: – มิตรเอิร์ธ – mitrearth   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook …

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙 . 🤕จากสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละจังหวัด ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พบว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก และยังสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ไม่เพียงแต่เพื่อรักษาชีวิตของประชาชน แต่ยังเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย . ภาคอีสานมีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 139,000 ราย และผู้เสียชีวิต 2,824 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในบรรดาภูมิภาคอื่นๆ อาจเนื่องมาจากเป็นภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นและสภาพการจราจรที่ซับซ้อนจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่สูงขึ้น . และจังหวัดที่มีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดในภาคอีสานคือ จังหวัดนครราชสีมา ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิต 343 ราย และผู้บาดเจ็บมากถึง 24,563 ราย และนอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 236 ราย และ จังหวัดอุบลราชธานี ถึงแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพียง 177 ราย แต่มีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 14,605 ราย ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงปัญหาในการใช้รถใช้ถนนในภาคอีสานที่ยังคงมีอยู่สูง . 🚨🚘อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในภาคอีสานคือ การขับขี่โดยประมาท รวมไปถึงการขับรถเร็วเกินกำหนด การไม่สวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัย และการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือขณะขับขี่ แม้ว่าทางภาครัฐจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่พฤติกรรมเหล่านี้ยังพบเห็นได้บ่อย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก . ทั้งนี้เราขอให้ทุกท่านขับขี่ปลอดภัย ปราศจากแอลกอฮอล์ และสวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น . หมายเหตุ : เป็นข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 . ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #อุบัติเหตุ #การจราจร

“หมอลำ” ขุมทรัพย์เงินสะพัด 6000 ล้าน ที่คนไทยดู 20 ล้านคน จัดแสดงกว่า 2,600 รอบ

คนไทยกับวัฒนธรรมความเป็นไทยเป็นอะไรที่อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว โดยเฉพาะทำนองลำกลอน หมอลำ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ เพลงลูกทุ่ง หมอลำ ยังคงเป็นอะไรที่ครองใจคนไทยตลอดมา ยืนยันได้จากจำนวนยอดวิวบน YouTube ที่แต่ละเพลงหลัก ร้อยล้านวิว และเมื่อเจาะลึกไปที่ วงหมอลำ แนวเพลงที่รู้จักกันดีในความสนุกสนานหรือม่วนจอยจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ และเป็นคนทำธุรกิจหากต้องการทำการตลาดผ่านหมอลำ จะต้องรู้อะไรบ้าง . มื้อนี้ ISAN Insight and Outlook พามาเบิ่ง ข้อมูลอินไซต์ตลาดธุรกิจหมอลำว่าเติบโตยิ่งใหญ่ สร้างเศรษฐกิจได้มากน้องเพียงใด คนไทย 20 ล้านคน ดูหมอลำ กว่าครึ่งมีคนในภาคอีสานมากถึง 10 ล้านคนดูหมอลำและการแสดงคอนเสิร์ตหมอลำในภาคอีสานตลอดหนึ่งปีจัดมากถึง 332 วัน มีการแสดงรวมกันมากถึง 2,596 รอบ ที่สามารถดึงดูดผู้ชม 2,000-6,000 คนต่อครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของวงและพื้นที่จัดงาน  และคาดการณ์ว่า Eyeballs ผู้เข้าชมหมอลำตลอดปีอยู่ที่ 8,532,000 คน MI GROUP ได้มีโปรเจกต์ MI LEARN LAB เพื่อแสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ สู่การทำการตลาดอย่างมีกลยุทธ์และเข้า-ถึง-ใจผู้บริโภค ผ่าน Entertainment & Cultural Marketing โดยล่าสุด ได้ทำการศึกษา การตลาดผ่านคอนเสิร์ตหมอลำ โดยพบว่า หลังการระบาดของโควิด คือ ยุคทอง ของวงหมอลำอย่างแท้จริง หลังจากที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 70 ปี จากการสำรวจพบว่า คนไทยจำนวนกว่า 20 ล้านคนเลยดูหมอลำ เฉพาะภาคอีสานมีผู้ชมกว่า 10 ล้านคน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบ 80% เคยดูทั้งออนกราวด์และออนไลน์ และประมาณ 60% ดูออนกราวด์อย่างเดียว สอดคล้องกับที่พบว่า การจัดแสดงส่วนใหญ่จะจัดในภาคอีสาน รองลงมาเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวอีสานทำงานอยู่จำนวนมาก และหลังจากการระบาดของโควิด จะเห็น การลงทุนอย่างสูง ของวงหมอลำ ไม่ว่าจะเป็นชุด แสง สี เสียง เพื่อ ยกระดับโชว์ ซึ่งส่งผลถึง ปริมาณจำนวนงานจ้าง เพิ่มขึ้นประมาณ 40-45% สำหรับผลของการลงพื้นที่เพื่อศึกษาหาข้อมูลวิจัยเชิงลึกดังกล่าวมีรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้ 1. พลังของ Cultural Marketing ผลการวิจัยแสดงให้เห็นข้อมูลว่า 78.8% ของกลุ่มตัวอย่างในภาคอีสานเคยเข้าชมคอนเสิร์ตหมอลำ, จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่องานอยู่ที่ 2,000 – 6,000 คน, จำนวน eyeballs ตลอดทั้งปีสูงถึง 8,532,000 คน พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายของผู้ชมในอุตสาหกรรมนี้ในปี 2567 จะสูงถึง 5,998.91 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าในช่วงโควิด-19 ถึง 756 % และสูงกว่าระดับก่อนโควิด 127% เมื่อเทียบช่วงเดือนเดียวกัน 2. วงหมอลำ 10 อันดับ ครองใจคนอีสาน วงหมอลำยอดนิยมของภาคอีสานนั้นส่วนใหญ่มีประวัติยาวนานหลายทศวรรษ จัดแสดงตั้งแต่รุ่นยายสู่รุ่นหลาน และมีสมาชิกร่วมวงขนาดใหญ่ โดยในส่วนของวงหมอลำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากใน Social Media จำนวน 10 อันดับ ซึ่งยึดตามข้อมูลอัปเดตล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2567 ได้แก่ วงระเบียบวาทศิลป์ วงประถมบันเทิงศิล วงสาวน้อยเพชรบ้านแพง …

“หมอลำ” ขุมทรัพย์เงินสะพัด 6000 ล้าน ที่คนไทยดู 20 ล้านคน จัดแสดงกว่า 2,600 รอบ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา . 👷ค่าแรงขั้นต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เช่น ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน จากตารางแสดงให้เห็นว่า 🇨🇳ประเทศจีนมีค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 401.75 บาทต่อวัน หรือ 12,454.20 บาทต่อเดือน 🇹🇭ในขณะที่ประเทศไทย (ภาคอีสาน) มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 343.45 บาทต่อวัน ซึ่งเทียบเป็นรายเดือนแล้วประมาณ 10,646.95 บาท 🇲🇲ส่วนประเทศเมียนมามีค่าแรงขั้นต่ำต่ำสุดในกลุ่มนี้ที่ 109.02 บาทต่อวัน หรือประมาณ 3,379.62 บาทต่อเดือน เด้อ . ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของค่าแรงในแต่ละประเทศซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานค่าครองชีพและสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แต่ละประเทศใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและรักษาสิทธิของแรงงาน ในระดับปัจเจกบุคคล: คุณค่าของแรงงาน: ค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่ตลาดให้กับทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ยิ่งมีทักษะที่ตลาดต้องการมากเท่าไหร่ ค่าจ้างก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเท่านั้น มาตรฐานการครองชีพ: ค่าจ้างเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดมาตรฐานการครองชีพของคนเรา ว่าสามารถซื้อสินค้าและบริการอะไรได้บ้าง รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม แรงจูงใจในการทำงาน: ค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้คนเราอยากทำงานและพัฒนาตนเอง ในระดับองค์กร: ประสิทธิภาพการผลิต: ค่าจ้างที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ต้นทุนการผลิต: ค่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิต หากค่าจ้างสูงขึ้น ก็อาจส่งผลต่อราคาขายสินค้าหรือบริการ ความสามารถในการแข่งขัน: ค่าจ้างที่สูงเกินไปอาจทำให้บริษัทขาดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่ค่าจ้างที่ต่ำเกินไปอาจทำให้ขาดแรงงานที่มีคุณภาพ ในระดับสังคม: ความเหลื่อมล้ำทางรายได้: การกระจายตัวของค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม สถานการณ์เศรษฐกิจ: การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างโดยเฉลี่ยสามารถบ่งบอกถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เช่น ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว ค่าจ้างโดยเฉลี่ยมักจะเพิ่มขึ้น นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เช่น การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ หรือมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน จะมีผลต่อระดับและการกระจายตัวของค่าจ้าง ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าจ้าง ทักษะและประสบการณ์: ยิ่งมีทักษะและประสบการณ์สูง ค่าจ้างก็ยิ่งสูงขึ้น อุปสงค์และอุปทานของแรงงาน: หากอุปสงค์ของแรงงานในสาขาใดสาขาหนึ่งสูง แต่ปริมาณแรงงานมีจำกัด ค่าจ้างในสาขานั้นก็จะมีแนวโน้มสูงขึ้น ค่าครองชีพ: ค่าจ้างมักจะปรับตัวตามค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายแรงงานและนโยบายของรัฐบาลมีผลต่อการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและสวัสดิการต่างๆ ที่ลูกจ้างได้รับ อำนาจต่อรอง: อำนาจต่อรองของลูกจ้างและนายจ้างมีผลต่อการกำหนดระดับค่าจ้าง สรุป ค่าจ้างแรงงานเป็นตัวแปรที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง การวิเคราะห์ค่าจ้างจึงต้องพิจารณาในบริบทที่หลากหลาย ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล องค์กร และสังคม . ที่มา เว็ปไซต์ vdb-loi,prd.co.th,vietnam.incorp,b2b-cambodia,atlashxm,chinalegalexperts . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #ISANxGMS #เพื่อนบ้านอีสาน

Scroll to Top