SHARP ADMIN

พามาเบิ่ง แบงค์พาณิชย์อีสานยังเข้มงวด! ปล่อยกู้หดวูบต่อเนื่อง กระทบเป็นลูกโซ่หลายธุรกิจ

แบงค์พาณิชย์อีสานยังเข้มงวด! ปล่อยกู้หดวูบต่อเนื่อง   ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานปริมาณการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/2568 โดยพบว่า ภาพรวมทั่วประเทศยังคงชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า เช่นเดียวกับในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งมีมูลค่าสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2,823,141 ล้านบาท ลดลง 0.9% จากไตรมาสก่อน และลดลงกว่า 4.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหากมองย้อนปริมาณสินเชื่อและอัตราการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีก่อน(%YoY) ของภาคอีสาน มีตัวเลขดังนี้ ไตรมาส 1/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.94 ล้านล้านบาท หดตัว 0.8% ไตรมาส 2/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.91 ล้านล้านบาท หดตัว 1.4% ไตรมาส 3/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.87 ล้านล้านบาท หดตัว 2.4% ไตรมาส 4/2567: ปล่อยสินเชื่อ 2.84 ล้านล้านบาท หดตัว 3.4%   จะเห็นได้ว่าปริมาณสินเชื่อยังคงหดตัวลงต่อเนื่องในทุกไตรมาส โดยสาเหตุสำคัญคือ ความเสี่ยงด้านเครดิตของธุรกิจ SME ที่ยังอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในไตรมาส 1/2568 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ   ด้านภาพรวมการให้สินเชื่อไตรมาส1/2568 ของทั้งประเทศ เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  สินเชื่ออุปโภคบริโภค ภาพรวมหดตัว 2.2% แต่ละหมวดเปลี่ยนแปลงดังนี้ สินเชื่อส่วนบุคคล ขยายตัว 0.3% สินเชื่อที่อยู่อาศัย ขยายตัว 0.2% สินเชื่อบัตรเครดิต หดตัว 1.9% สินเชื่อรถยนต์ หดตัว 10.2% สินเชื่อธุรกิจ ภาพรวมหดตัว 0.8% สินเชื่อวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท หดตัว 5.5% สินเชื่อวงเงินมากกว่า500 ล้านบาท ขยายตัว 1.5% ผลจากการที่ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น หรือที่เรียกว่า “การหดตัวของสินเชื่อ” (Credit Crunch) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในวงกว้าง ดังนี้: ผลกระทบโดยรวม: เศรษฐกิจชะลอตัว: เมื่อสินเชื่อหายากขึ้น ภาคธุรกิจจะลงทุนน้อยลง ผู้บริโภคจะลดการใช้จ่าย ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง หรืออาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย สภาพคล่องตึงตัว: ธุรกิจและครัวเรือนจะมีเงินทุนหมุนเวียนน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาในการชำระหนี้ การบริหารจัดการกระแสเงินสด และการขยายธุรกิจ การลงทุนลดลง: ธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น ทำให้ไม่สามารถลงทุนในโครงการใหม่ๆ หรือขยายกิจการได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสร้างงานและการเติบโตในระยะยาว การบริโภคหดตัว: ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน รถยนต์ หรือสินค้าอื่นๆ ได้ยากขึ้น ทำให้การบริโภคโดยรวมลดลง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น: เมื่อธุรกิจไม่สามารถขยายตัวหรือแม้แต่รักษาระดับการดำเนินงานได้ ก็อาจต้องลดขนาดองค์กรหรือเลิกจ้างพนักงาน ทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น หนี้เสีย […]

พามาเบิ่ง แบงค์พาณิชย์อีสานยังเข้มงวด! ปล่อยกู้หดวูบต่อเนื่อง กระทบเป็นลูกโซ่หลายธุรกิจ อ่านเพิ่มเติม »

“บั้งไฟลายศรีภูมิ” ลวดลายแห่งฟ้า ศิลป์แห่งแผ่นดิน ถิ่นร้อยเอ็ดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ผลักดัน เศรษฐกิจชุมชน

“บุญบั้งไฟ ถือเป็นหนึ่งในประเพณีที่สำคัญของภาคอีสานที่จะขาดไปไม่ได้เลย ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวอีสานมีความเชื่อว่า ถ้าปีใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดความแห้งแล้ง ไม่มีน้ำทำนา แต่ถ้าปีใดจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะตกต้องตามฤดูกาล เกิดความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัย งานบุญบั้งไฟจึงถือเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญของชาวอีสาน พอใกล้ถึงวันงานชาวอีสานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะกลับบ้านไปร่วมงานบุญบั้งไฟ ซึ่งเป็นงานที่สร้างความรักความสามัคคีของคนท้องถิ่นเป็นอย่างดี  ภาพโดย คุณครูประภากร กลางคาร เผยแพร่โดย เพจ สุวรรณภูมิ .   ณ จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอ สุวรรณภูมิ ที่กำเนิดหนึ่งใน บั้งไฟที่มีการเอ้บั้งไฟที่งดงามมากที่สุดได้มีการจัดงานบุญบั้งไฟลายศรีภูมิ  โดยในปีนี้ ประเพณีบุญบังไฟลายศรีภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จะถูกจัดขึ้น วันที่ 4-8 เดือน มิถุนายน ปี 2568 ในงานประเพณีในปีนี้ ก็จะมีกิจกรรมตลอดทั้งงาน ไม่ว่าจะเป็น ขบวนมเหศักดิ์ สักการะและอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน, ขบวนฟ้อน วัฒนธรรมเมืองศรีภูมิ, การแสดงวัฒนธรรม, ประกวดขบวนฟ้อนสวยงาม, ประกวด บั้งไฟเอ้สวยงาม, และ จุดบั้งไฟถวยตามประเพณี และ ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายภายในงาน ภาพจาก: Sriphume  ในงานนี้ยังเป็นหนึ่งในงานที่ได้รับ โปรดเกล้าฯ พระราชทาน ถ้วยรางวัล การแข่งขันประเภท บั้งไฟเอ้สวยงาม และนอกจากนี้ ยังมีการประกวด “ขบวนฟ้อนสวยงาม” ขิงถ้วยรางวัลพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้วย ส่งผลให้ งานประเพณีบุญบั้งไฟลายศรีภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็น งานเดียวในประเทศไทย ที่มี การประกวดชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน ของทั้งสองพระองค์   ทำไมถึงว่าบั้งไฟลายศรีภูมิเป็นหนึ่งในบั้งไฟที่มีการเอ้บั้งไฟสวยมากที่สุด จากการศึกษาวิจัย ของ ดร.อำคา แสงงาม ปราชญ์แห่งท้องทุ่งกุลา เรื่องการตกแต่งบั้งไฟของชาวอำเภอสุวรรณภูมิ ในปี 2535 นั้น ได้ให้ข้อสังเกตในเบื้องต้นว่า การ “เอ้บั้งไฟ”หรือ การประดับตกแต่งบั้งไฟ  ของชาวสุวรรณภูมิ มีลักษณะที่เป็นแบบแผนเฉพาะถิ่น ในด้านการใช้วัสดุ วิธีการสร้าง รูปทรงวิธีการการเอ้ การใช้สีจากกระดาษ เอ้ตัวบั้งไฟ ประการที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ “การเอ้บั้งไฟ” ของสุวรรณภูมิ แตกต่างจากที่อื่นโดยชัดเจน คือ ลวดลายที่นำไปใช้ประดับตกแต่งนั้น จะเป็น ลวดลายที่เกิดจากการใช้ เทคนิคการตัดกรรไกรด้วยกระดาษ เท่านั้น ซึ่ง แตกต่างจากที่อื่นโดยสิ้นเชิง โดยลวดลาย มีพัฒนาการ โดยช่างในท้องถิ่น และมีการพัฒนาลวดลาย ไม่น้อยกว่า 100 ปี ในอีกประการหนึ่ง ของเอกลักษณ์การตกแต่งเอ้บั้งไฟ ของชาวสุวรรณภูมิ คือ รูปเศียรนาค ที่ใช้เอ้ ส่วนหัวบั้งไฟ โดย เสมือนเป็นการระลึกถึง ท้าวสุวรรณภังคี ซึ่งเป็นพยานาค

“บั้งไฟลายศรีภูมิ” ลวดลายแห่งฟ้า ศิลป์แห่งแผ่นดิน ถิ่นร้อยเอ็ดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ผลักดัน เศรษฐกิจชุมชน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 2 ผ้าไหม GI ผ้าไหมดี เมืองโคราช ที่สร้างมูลค่าปีละหลายพันล้าน

สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI (Geographical Indication) คือ เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจาก แหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจงซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่บอกคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า โดยจังหวัดนครราชสีมา มีผ้าไหมที่ถูกขึ้นทะเบียน เป็นสินค้า GI ได้แก่ ผ้าไหมปักธงชัย ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย โดยมีความหมายและการนิยามดังต่อไปนี้ 1. ผ้าไหมปักธงชัย       2. ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย   #เทคนิคและวัสดุการทอที่พัฒนา: มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ รวมถึงการทำลายมัดหมี่แบบโบราณ โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น เส้นใยสับปะรดและกาบกล้วยตากแห้งในการมัดลาย ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้เชือกพลาสติกแทน เนื่องจากปัญหาสีซึมถ้ามัดไม่แน่น เทคนิคการทอได้มีการพัฒนาจากกี่แบบดั้งเดิมไปเป็นกี่กระตุกที่มีรางกระสวย ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทออย่างเห็นได้ชัด ลายหางกระรอกเป็นลายดั้งเดิมของโคราชหรือของพื้นที่นี้ และถือเป็นผ้าประจำจังหวัดนครราชสีมา . ยอดขายผ้าและเครื่องแต่งกายในรูปแบบออฟไลน์ของจังหวัดนครราชสีมา 3 ปีย้อนหลัง ปักธงชัย อำเภอที่มีมีอิทธิพลต่อยอดขายรวมของจังหวัดมากที่สุด (คิดเป็นกว่า 90% ของยอดขาย) . จากการศึกษาแหล่งข้อมูลที่ให้มา การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI – Geographical Indication) ส่งผลกระทบในทางบวกต่อผ้าไหมและชุมชน ในหลายด้าน ดังนี้: • การสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันให้ผ้าไหมปักธงชัยเป็นสินค้า GI เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น การขึ้นทะเบียน GI เป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นของไทย การขึ้นทะเบียนนี้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่อำเภอปักธงชัยกว่า 40 ล้านบาทต่อปี การสร้างมูลค่าของสินค้าที่เป็นมาตรฐานชุมชนและภูมิปัญญาของท้องถิ่นนี้มีจุดประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก • การเป็นที่รู้จักและยอมรับ การขึ้นทะเบียน GI มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผ้าไหมปักธงชัยซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง GI ทำหน้าที่เสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า โดยคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นเป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่เฉพาะเจาะจงนั้น • การสร้างงานและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ การขึ้นทะเบียน GI นำมาสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน จากการนำจุดแข็งและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่นมาสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน การสร้าง GI ช่วยดูแลผู้ประกอบการ ผู้ผลิต พี่น้องเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าไหมปักธงชัย เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง กรมทรัพย์สินทางปัญญามีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ รวมถึงให้ความคุ้มครองและปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ • การขยายช่องทางการจำหน่าย มีการเดินหน้าสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้า GI ทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ โดยสรุปแล้ว การขึ้นทะเบียน GI สำหรับผ้าไหมปักธงชัย ได้ช่วยยกสถานะของผลิตภัณฑ์ เพิ่มรายได้ให้ชุมชน สร้างการยอมรับในตลาด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น . . #ISANInsightAndOutlook #ISANEcon #เศรษฐกิจอีสาน #ธุรกิจอีสาน #สินค้าGI #ผ้าไหมGI #ผ้าไหมคึมมะอุ #ผ้าไหมปักธงชัย #ผ้าไหมแท้

พามาเบิ่ง 2 ผ้าไหม GI ผ้าไหมดี เมืองโคราช ที่สร้างมูลค่าปีละหลายพันล้าน อ่านเพิ่มเติม »

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

“ทรู” เน็ตดับ โทรไม่ได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุดในอีสาน และ ทั่วไทย ผู้ใช้งานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน และ ทีมงาน ISAN Insight พบว่าเวลาช่วงสายวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ประมาณ 9 โมงเป็นต้นไป ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ค่าย “ทรู” ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากสัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้าน “ล่ม” ในพื้นที่หลายจุด ปัญหาสัญญาณ “ล่ม” ขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ X ในขณะที่📶เว็บไซต์ Downdetector รายงานเหตุ “True” ล่มทั้งเน็ต – สัญญาณมือถือ ไม่สามารถใช้งานได้ในหลายพื้นที่ 22 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ Downdetector แพลตฟอร์มระบุข้อมูลสถานะบริการออนไลน์ รายงานเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ว่า เกิดเหตุสัญญาณอินเทอร์เน็ตของ True ล่มในหลายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ที่พบการล่มนั้นไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งบนพีซีและสมาร์ตโฟนได้ และยังพบการล่มใน DNS และ เซิร์ฟเวอร์ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงมีผู้ใช้งานหลายรายเปิดเผยบนโซเชียลมีเดียด้วยว่า สัญญาณโทรศัพท์ของ True ก็ไม่สามารถใช้งานโทรเข้า-ออกได้เช่นกัน . ทรู ชี้แจง ตอนนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขเหตุสัญญาณมือถือขัดข้องอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ใช้งานดีแทคนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว . #True #ทรู #ทรูล่ม #เน็ตทรูล่ม #สัญญาณล่ม ส่วนค่าย True แนะนำให้ รีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้ง เพื่อแก้ไขให้กลับมา โทรได้ 

ทรู สัญญาณมือถือ และ เน็ตบ้านล่ม ใช้งานไม่ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

🗨️Typhoon; โมเดล AI สัญชาติไทย รองรับ ‘เลขไทย’ เอกสาร ‘ราชการ’ ก็ไม่กลัว ดึงข้อมูลจาก-PDF OCR โปรเจคภายใต้ยานแม่ SCB-X

[เปิดให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้งานได้แล้ววันนี้ “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่บน Samba-1]   กลุ่ม SCBX นำโดย เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ AI ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI-First Organization ล่าสุด ผนึกกำลัง SambaNova Systems บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้าน Generative AI ที่รวบรวมโมเดลที่เร็วที่สุด และ Chips ที่ทันสมัยที่สุด นำ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) เปิดให้บริการบนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts (CoE) เพื่อให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้ต่อยอดและพัฒนาแอปพลิเคชันด้าน AI บนแพลตฟอร์ม Samba-1 ได้แล้ววันนี้ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะ (Large Language Model optimized for Thai) ซึ่งนับเป็นโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดในปัจจุบันและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPT-3.5 และ GPT-4 ในภาษาไทย โดยวัดจาก Benchmark ที่รวบรวมและจัดเตรียมมาจากข้อสอบภาษาไทยความยากเทียบเท่าข้อสอบมัธยมปลายและข้อสอบมาตรฐานอื่นๆ ในประเทศไทย โดย “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางภาษาที่โมเดลส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกฝึกฝนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก รวมถึงข้อจำกัดด้านทรัพยากรของภาษาไทยที่ไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ (Low Resource Language) ผู้สนใจและนักพัฒนาทดลองสามารถดาวน์โหลด Typhoon Model เพื่อต่อยอดในการพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://opentyphoon.ai/ [ทำไมไทยต้องมี AI ที่มี LLM เป็นของตนเอง?] . ประหยัดต้นทุนต่อ Token: ในเชิงเทคนิค หากใครจ่ายเงินใช้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini หรือ แบรนด์ใดๆ อยู่จะทราบว่าการใช้งานของคุณ จำกัด token ตามแพ็คเกจที่จ่ายเงิน สมมติเช่น Hi = 1 คำ 2 token, แต่พอเป็น สวัสดี อาจจะใช้มากถึง 4-5 token เพื่อให้ Ai เข้าใจคำที่มีความหมายเดียวกันในต่างภาษา เพราะ LM หรือ

🗨️Typhoon; โมเดล AI สัญชาติไทย รองรับ ‘เลขไทย’ เอกสาร ‘ราชการ’ ก็ไม่กลัว ดึงข้อมูลจาก-PDF OCR โปรเจคภายใต้ยานแม่ SCB-X อ่านเพิ่มเติม »

สำนักเลขาพระสังฆราช แถลงปม เพจเผยแพร่❌ข้อมูลเท็จ ‘แอบอ้าง’ พระดำรัส สั่งงดถวายเงินพระ

จากกรณี การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส โดยเนื้อหาที่เผยแพร่และถูกแชร์อย่างแพร่หลายใน social media ระบุว่า “สมเด็จพระสังฆราชรับสั่งให้ประชาชนงดเอาเงินถวายพระโดยเด็ดขาดแม้กระทั่งงานศพงดใส่ซองขาวถวายพระ สาธุ🙏” หรือมีการก็อปวางแพร่ข่าว อื่น ๆ   สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แถลงแจงว่าเป็นข่าวเท็จ ข้อมูลเท็จ ‘แอบอ้าง’ พระดำรัส สั่งงดถวายเงินพระ โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เพจเฟสบุ๊คของ สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส โดยมีเนื้อหา ดังต่อไปนี้ “ด้วย ปรากฏว่ามีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘”

สำนักเลขาพระสังฆราช แถลงปม เพจเผยแพร่❌ข้อมูลเท็จ ‘แอบอ้าง’ พระดำรัส สั่งงดถวายเงินพระ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง เจ้าตลาดมอเตอร์ไซค์อีสาน ใครคือเบอร์หนึ่งมอเตอร์ไซค์ในแต่ละจังหวัด

ฮู้บ่ว่า? บริษัทในเครือ เกียรติสุรนนท์ เป็นเครือบริษัทในกลุ่มธุรกิจขายมอเตอร์ไซค์ที่มีรายได้สูงที่สุดในภาคอีสาน โดยมีบริษัทรวมกันที่สิ้น 5 บริษัท 47 สาขา ใน 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร มีรายได้รวมในปี 2566 ที่ผ่านมารวมกันกว่า 4,668 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 175 ล้านบาท จังหวัด ชื่อบริษัท รายได้รวม %YoY กำไรสุทธิ %YoY จำนวนสาขา อุบลราชธานี บริษัท เกียรติสุรนนท์อุบลราชธานี จำกัด 1930 9.6% 88 357.4% 30 หนองบัวลำภู ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัฐพงษ์มอเตอร์ (1989) 1539 3.5% 19 45.9% 45 อุดรธานี ห้างหุ้นส่วนจำกัด ณัฐมอเตอร์เซลล์ 1175 5.3% 2 42.9% 34 มุกดาหาร บริษัท พรประเสริฐมอเตอร์ จำกัด 1053 -9.9% 11 -62.3% 66 สกลนคร บริษัท อึ้งกุ่ยเฮงสกลนคร จำกัด 1034 20.3% 13 32.4% 54 บุรีรัมย์ บริษัท บุรีรัมย์ยนตรการ จำกัด 888 15.2% 8 15.2% 18 ศรีสะเกษ บริษัท ศรีสะเกษกิจเจริญไทย จำกัด 870 -2.1% 19 -19.0% 22 ร้อยเอ็ด บริษัท ชัยรักษ์มอเตอร์ จำกัด 779 8.6% 20 59.7% 92 มหาสารคาม บริษัท ที.โอ.เอช.มอเตอร์ จำกัด 628 5.9% 4 -5.2% 23 ขอนแก่น บริษัท ซี.เค.เจริญยนต์ จำกัด 604 -2.4% 9 132.5% 13 กาฬสินธุ์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุพัฒน์มอเตอร์ 586 18.2% 7 156.0% 32 หนองคาย บริษัท

พามาเบิ่ง เจ้าตลาดมอเตอร์ไซค์อีสาน ใครคือเบอร์หนึ่งมอเตอร์ไซค์ในแต่ละจังหวัด อ่านเพิ่มเติม »

จากกาแฟแพง สู่ทุเรียนถูก บทเรียนเกษตรกร เมื่อเวียดนามหันมาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการหดตัวลงของการปลูกกาแฟ

จากกาแฟแพง สู่ ทุเรียนถูกเวียดนามล้มกาแฟโรบัสต้า ปลูกทุเรียนหวังส่งออก กลับต้องเผชิญกับทุเรียนล้นตลาดราคาถูก เวียดนาม กาแฟแพง ทุเรียนถูก ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกัน และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ เหตุการณ์ทั้งสองมีนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากเป็นผลพวงที่ต่อเนื่องกัน เนื่องจากแรงจูงใจในการปลูกทุเรียนที่เพิ่มขึ้น โดยได้อานิสงค์จากความนิยมอย่างมากในตลาดส่งออก โดยเฉพาะตลาดจีน ทำให้ทุเรียนเป็นที่ต้องการในตลาดส่งออก และการได้รับการยอมรับในตลาดจีนผลักดันให้ราคาทุเรียนเวียดนามอยู่คงในระดับสูงพอสมควรและมีแนวโน้มทำกำไรได้ดีกว่าการปลูกพืชอื่นๆ รวมถึงกาแฟโรบัสต้าที่ราคาอาจไม่จูงใจเท่า . จากข้อมูลของ กรมการผลิตพืช สังกัดกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ของเวียดนามพบว่า ในปี 2023 เวียดนามมีพื้นที่ปลูกทุเรียนรวมประมาณ 131,000 เฮกตาร์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 20% ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี สะท้อนถึงแนวโน้มการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกหรือแม้กระทั้งการลดการปลูกกาแฟ เพื่อหันไปปลูกทุเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ในภูมิภาค Central Highlands ที่เป็นพื้นที่หลักที่เป็นแหล่งเพาะปลุกกาแฟของเวียดนาม แต่ปัจจุบันมีการปลุกทุเรียนมากขึ้น และกลายเป็นพื้นที่หลักที่เป็นแหล่งปลูกทุเรียน ด้วยสัดส่วน 40.4% ของพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนทั้งหมดในประเทศ และการปลูกทุเรียนยังเป็นที่นิยมในพื้นที่อื่นๆ พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong River Delta) 36.4% ภาคตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast) 19.4% และชายฝั่งตอนใต้ตอนกลาง (South Central Coast) 5.6% การที่เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกกาแฟโรบัสต้ารายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ลดปริมาณการผลิตลง ส่งผลให้ปริมาณกาแฟโรบัสต้าในตลาดโลกลดน้อยลง และเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ราคากาแฟมีการปรับตัวขึ้น ผลกระทบต่อตลาดทุเรียน: การที่เกษตรกรจำนวนมากพร้อมใจกันเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนในช่วงเวลาใกล้เคียงกันทั่วประเทศเวียดนาม (และใช้เวลาหลายปีกว่าต้นทุเรียนจะให้ผลผลิตเต็มที่) ทำให้ในที่สุด ปริมาณผลผลิตทุเรียนในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่ล้นตลาดนี้มีปริมาณมากกว่าความต้องการของตลาดส่งออก (โดยเฉพาะตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลัก) และตลาดภายในประเทศ * ภาวะทุเรียนล้นตลาดและราคาตก: เมื่ออุปทานทุเรียนมีมากกว่าอุปสงค์อย่างมาก ผู้ขายจึงต้องแข่งขันกันระบายสินค้าที่เน่าเสียง่ายออกไป ทำให้ต้องลดราคาลงอย่างหนัก จนเกิดภาวะ “ทุเรียนล้นตลาดราคาถูก” อย่างที่พบเห็นในปัจจุบัน ✅สรุปคือ: การที่เกษตรกรเวียดนามจำนวนมากตัดสินใจทิ้งการปลูกกาแฟโรบัสต้าที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าในขณะนั้น เพื่อไปปลูกทุเรียนตามกระแสราคาดี คือ สาเหตุ ที่นำไปสู่ ผลลัพธ์ สองประการพร้อมๆ กันในช่วงเวลาที่ต่างกัน คือ ราคาโรบัสต้าในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น (จากอุปทานที่ลดลง) หลังจากผ่านไปหลายปี ทุเรียนที่ปลูกใหม่จำนวนมหาศาลก็ออกสู่ตลาดพร้อมกัน ทำให้อุปทานล้นเกินและราคาทุเรียนตกต่ำลงอย่างมาก มันคือวัฏจักรของพืชผลทางการเกษตรที่มักเกิดขึ้น เมื่อราคาสินค้าเกษตรชนิดใดดี เกษตรกรจำนวนมากจะหันไปปลูก ทำให้ในอีกไม่กี่ปีต่อมาผลผลิตล้นตลาดและราคาตก จากนั้นเกษตรกรอาจจะหันไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ราคากำลังดีแทน วนเวียนไปเช่นนี้       ผลจากกาแฟโรบัสต้าที่ผลิตลดลง กลับส่งผลดีต่อเกษตรกรที่เพาะปลูกกาแฟในไทย   การที่เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกกาแฟโรบัสต้ารายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ลดปริมาณการผลิตลง ส่งผลให้ปริมาณกาแฟโรบัสต้าในตลาดโลกลดน้อยลง และเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ราคากาแฟมีการปรับตัวขึ้น ประกอบกับการส่งออกของกาแฟบราซิลที่ลดลง และความต้องการในตลาดที่สูง ทำให้ราคากาแฟในช่วงต้นปี 2025 มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปี แต่เริ่มปรับตัวลงเล็กน้อยในเดือนเมษายนเนื่องจากการเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวของทั้งเวียดนามและบราซิล ผลจาก กาแฟโรบัสต้า ส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวไทยที่เพาะปลูกกาแฟเป็นอย่างมาก เพราะ ในขณะที่ผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ราคาตกต่ำ แต่กาแฟโดยเฉพาะโรบัสต้ากับมีราคาพุ่งสูงขึ้นเกือบเทียบเท่ากับสายพันธุ์อาราบิก้า ที่ก่อนหน้านี้มีราคามากกว่า

จากกาแฟแพง สู่ทุเรียนถูก บทเรียนเกษตรกร เมื่อเวียดนามหันมาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการหดตัวลงของการปลูกกาแฟ อ่านเพิ่มเติม »

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เซ็นคำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง ‘ชายชาวจีน’ เป็นที่ปรึกษา หลังถูกเพจดังแฉ

เมื่อ 29 เมษายน เพจ CSI LA แฉ ผู้ว่าฯ ปราจีนลงนามตั้ง ‘ชายชาวจีน’ เป็นที่ปรึกษา ถามแรงไม่มีคนไทยที่มีความสามารถ เหตุใดให้คนจีนนั่งใกล้ใจกลางอำนาจท้องถิ่น . เมื่อวานนี้ (29 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจดังเผยภาพหนังสือราชการของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี เรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลงวันที่ 21 เมษายน 2568 ระบุว่า ด้วยจังหวัดปราจีนบุรีได้มีคำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 1327/2568 ได้แต่งตั้ง Mr.Juncheng Zhu เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมในประเด็นต่างๆ ที่เห็นว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร และการขับเคลื่อนงานของจังหวัดปราจีนบุรี โดยมี วีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีเป็นผู้ลงนาม Mr.Juncheng Zhu เป็นใคร ทำธุรกิจอะไร? ครั้งแรกจดทะเบียน 24 กรกฎาคม 2558 ในชื่อ “ตี้ไท้ รับเบอร์ จำกัด” / ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ”ปราจีน ลาเท็กซ์ จำกัด“ เมื่อ 21 มกราคม 2561 / และปัจจุบันเปลี่ยนเป็น “ฮอตเชน เทคโนโลยี จำกัด” เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งปัจจุบันประกอบธุรกิจประเภทการผลิตและจำหน่วยชุดเครื่องนอนเพื่อสุขภาพที่ทำจากยางพาราทุกชนิด ทุนจดทะเบียนสูงถึง 125 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เลขที่ 612/19 หมู่ที่ 9 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเมื่อมาดูรายชื่อกรรมการบริษัทฮอตเชน เทคโนโลยี จำกัด คือ นางสาว ”จิ้ง เหวิน“ โดยไม่ปรากฏชื่อ Mr.Juncheng Zhu เป็นกรรมการบริษัท ส่วนประวัติของนายจู จวินเฉิง อายุ 37 ปี จบการศึกษา Central South Uhiversity Of Human (คณะวิศวกรรมศาสตร์) เมื่อปี 2016 มีการลงทุนและก่อสร้าง บริษัท ปราจีน ลาเท็กซ์ จำกัด ได้มีการเริ่มประกอบกิจการ ผลิตและจำหน่าย หมอน,ที่นอน,ชุดชั้นใน ยางพารา วัตถุดิบน้ำยาง ได้มีการนำสินค้าจัดส่งออกไปยังประเทศจีน ประกอบกิจการมาเป็นระยะเวลา 8 ปี จนถึงปี 2024 มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท ปราจีน ลาเท็ก จำกัด เป็น บริษัท ฮอตเชน เทคโนโลยี

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เซ็นคำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง ‘ชายชาวจีน’ เป็นที่ปรึกษา หลังถูกเพจดังแฉ อ่านเพิ่มเติม »

ไม่เอาแล้วทำฟันปีละ ฿900 ประกันสังคม🦷 เตรียมขยายสิทธิ “ทำฟัน รพ.รัฐและคลินิกเอกชน ฟรี!“🪥 ไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่จำกัดวงเงิน ไม่จำกัดครั้ง

#สิทธิ์ทันตกรรมใหม่ ประกันสังคม จ่อขยายสิทธิผู้ประกันตน ทำฟันใน รพ.รัฐ ฟรี! ไม่จำกัดวงเงิน วันนี้ (17 พฤษภาคม 2568) ทพ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี ประธานคณะทำงานประสานและดูแลมาตรฐานชุดสิทธิประโยชน์ทันตกรรมสำหรับผู้ประกันตน ให้สัมภาษณ์ว่า คณะทำงานชุดนี้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยมีผู้แทนจากสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมอยู่ในคณะทำงาน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนไม่ด้อยไปกว่าสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) หรือ สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ นอกจากนั้น ยังช่วยดูสิทธิประโยชน์ในภาพรวมทั้ง 3 กองทุนด้วย รมว.แรงงาน ร่วมทันตแพทยสภา ตั้งคณะทำงานประสานดูแลมาตรฐานสิทธิประโยชน์ทันตกรรม “ผู้ประกันตน” ล่าสุดมีแนวโน้มขยายบริการ “อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน” รพ.รัฐที่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่จำกัดวงเงิน นอกเหนือจาก 900 บาทต่อปีรับบริการที่คลินิกทำฟันเอกชน ยังเหมือนเดิม ทพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่าน มา ทันตแพทยสภาได้เข้าพบกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเสนอแนวทางปรับระบบดูแลผู้ประกันตน ซึ่งครั้งนั้นมีการเสนอไป 3 ทางเลือก จากนั้นมี การตั้งคณะทำงานฯ ชุดดังกล่าวขึ้นมา แล้วได้ ประชุมกันเมื่อวันที่ 25 เมษายน โดย สปส. รับ 1 ข้อเสนอที่มีความเป็นไปได้ที่สุดในตอนนี้ คือ การให้ผู้ประกันตนเข้ารับบริการทันตกรรม ดูแลช่องปาก ได้แก่ อุดฟัน ขูดหินปูน และถอน ฟันในโรงพยาบาลของรัฐที่ไหนก็ได้ไม่จำกัด จำนวนครั้ง ไม่จำกัดวงเงิน และไม่ต้องสำรอง จ่าย ซึ่งประกันสังคมจะเป็นผู้จัดการเรื่องการ เคลมเอง โดยราคาการให้บริการนั้น จะเบิกจ่าย ตามอัตราของกรมบัญชีกลาง ดังนั้น ความรู้สึก ของผู้ประกันตน คือ ไม่ด้อยกว่าสิทธิข้าราชการและสิทธิบัตรทองอย่างแน่นอน “ส่วนความกังวลว่าไปทำฟันใน รพ.ของรัฐ แล้วคิวจะยาว ถ้าทำแบบนี้คนไทยทุกคน ทุกสิทธิ จะเท่ากัน คิวจะยาวก็เท่ากัน ฉะนั้นทุกคนจะได้สิทธิเหมือนคนอื่น แต่ผู้ประกันตนจะมีวงเงินในกระเป๋า 900 บาทต่อปี ที่จะสามารถนำไปรับบริการที่คลินิกทำฟันเอกชน โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ส่วนนี้ก็ยังต้องคงมีอยู่ไม่ได้ตัดออก เพียงแต่ขยายการให้บริการไปยัง รพ.ของรัฐ ซึ่งจะเหมือนกับผู้ที่มีสิทธิบัตรทองและสิทธิข้าราชการ ทั้งนี้จะมีการประชุมคณะทำงานฯ ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อหารือ เรื่องนี้อีกครั้ง” ทพ.วีระศักดิ์กล่าว สรุป ✅ รับบริการโดยตรงที่ รพ.รัฐ ✅ ไม่ต้องสำรองจ่าย ✅ ไม่จำกัดวงเงิน ✅ เพิ่มการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น ⭐️ ยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ เตรียมเสนอเข้า ครม.เร็ว ๆ นี้ทาง ISAN

ไม่เอาแล้วทำฟันปีละ ฿900 ประกันสังคม🦷 เตรียมขยายสิทธิ “ทำฟัน รพ.รัฐและคลินิกเอกชน ฟรี!“🪥 ไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่จำกัดวงเงิน ไม่จำกัดครั้ง อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top