SHARP ADMIN

พาสำรวจเบิ่ง คนไทย 34.5 ล้านคนเล่นพนัน เงินหมุนเวียนทะลุ 8 แสนล้าน อีสานครองแชมป์ยอดนักพนันมากสุดในประเทศ

พาสำรวจเบิ่ง คนไทย 34.5 ล้านคนเล่นพนัน เงินหมุนเวียนทะลุ 8 แสนล้าน อีสานครองแชมป์ยอดนักพนันมากสุดในประเทศ . . คนไทยกว่า 34.5 ล้านคน หรือ 63.1 % ของคนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เล่นการพนัน ผู้หญิง 17.7 ล้านคน ผู้ชาย 16.8 ล้านคน   สัดส่วนและประมาณการคนที่เล่นการพนัน ปี 2566 ภาคเหนือ 60.5% คิดเป็น 5.9 ล้านคน ภาคอีสาน 66.1% คิดเป็น 12.1 ล้านคน ภาคกลาง 57.2% คิดเป็น 6.4 ล้านคน กรุงเทพฯ และปริมณฑล คิดเป็น 68.2% 5.2 ล้านคน ภาคใต้ 62.0% คิดเป็น 4.7 ล้านคน   การขยายตัวของคนที่เล่นการพนันทั่วประเทศ 8 ปี ที่ผ่านมา คนไทยทั่วประเทศเล่นการพนันเพิ่มขึ้น 7.123 ล้านคน ประเภทการพนันที่คนไทยเล่น สลากกินแบ่งรัฐบาล 27.5 ล้านคน หวยใต้ดิน 21.9 ล้านคน ไพ่พนัน 4.7 ล้านคน สลอตแมชชีน/ตู้พนัน 4.1 ล้านคน พนันทายผลฟุตบอล 3.9  ล้านคน   วงเงินหมุนเวียนของการพนัน พนันทายผลฟุตบอล 270,415 ล้านบาท หวยใต้ดิน 164,069 ล้านบาท สลากกินแบ่งรัฐบาล 160,239 ล้านบาท พนันในบ่อนออนไลน์ 154,819 ล้านบาท หวยอื่นๆ (หวยต่างประเทศ หวยหุ้น จับยี่กี หวยปิงปอง หวยสัตว์) 97,738 ล้านบาท สถานการณ์การพนันในสังคมไทยปี 2566 โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน พบว่า คนไทยกว่า 99% มีบุคคลรอบตัวเล่นพนัน และในกลุ่มเด็ก และเยาวชนอายุ 15-25 ปี เห็นบุคคลรอบตัวเล่นพนันแล้วทำให้รู้สึกอยากเล่นตามถึง 47%  . ปี 2566 มีคนไทยมากถึง 63.1% หรือประมาณ 34.5 ล้านคน เล่นการพนัน เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พบว่า ทั้งเพศชายเพศหญิง ทุกกลุ่มอายุ […]

พาสำรวจเบิ่ง คนไทย 34.5 ล้านคนเล่นพนัน เงินหมุนเวียนทะลุ 8 แสนล้าน อีสานครองแชมป์ยอดนักพนันมากสุดในประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

ถ้าคนอีสานจะถูกรางวัลที่หนึ่งแบบเเน่นอน 100% ต้องหาเงินกี่ปี?

ถ้าคนอีสานจะถูกรางวัลที่หนึ่งแบบเเน่นอน 100% ต้องหาเงินกี่ปี? คำตอบทำเอาน้ำตาไหล . เปิดคำนวณแล้ว! คนอีสานแต่ละจังหวัดต้องหาเงินซื้อเลอตเตอรี่กี่ปีกว่าจะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 (โอกาส 1:1,000,000)โอกาสถูกรางวัลที่หนึ่งของสลากกินแบ่งรัฐบาลไทย . สลากกินแบ่งรัฐบาลไทยเป็นหนึ่งในรูปแบบการพนันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ผู้คนจำนวนมากซื้อลอตเตอรี่โดยมีความหวังว่าจะถูกรางวัลที่หนึ่งและเปลี่ยนชีวิตของตนเองไปตลอดกาล อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่ของสถิติ โอกาสในการถูกรางวัลที่หนึ่งนั้นถือว่าน้อยมาก . โอกาสถูกรางวัลที่หนึ่งมีเท่าไร? . สลากกินแบ่งรัฐบาลไทยมีหมายเลข 6 หลัก ตั้งแต่ 000000 ถึง 999999 ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้ทั้งหมด 1,000,000 หมายเลข ในแต่ละงวดจะมีเพียงหนึ่งหมายเลขเท่านั้นที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง ดังนั้นโอกาสที่ลอตเตอรี่ 1 ใบจะถูกรางวัลที่หนึ่งคือ . หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ 1 ใน 1,000,000 ซึ่งเป็นโอกาสที่ต่ำมาก บอกเลยว่า…น้ำตาจะไหล! 😭 หากต้องหาเงิน 80ล้านบาทจากรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพื่อซื้อฉลากกินเเบ่งรัฐบาลหนึ่งล้านใบ . จังหวัด ปี ขอนแก่น 345 ปี ศรีสะเกษ 336 ปี ร้อยเอ็ด 328 ปี อุบลราชธานี 328 ปี สกลนคร 323 ปี กาฬสินธุ์ 324 ปี มหาสารคาม 315 ปี อุดรธานี 314 ปี บุรีรัมย์ 304 ปี นครพนม 302 ปี สุรินทร์ 300 ปี ชัยภูมิ 293 ปี เลย 281 ปี ยโสธร 273 ปี หนองบัวลำภู 272 ปี มุกดาหาร 267 ปี บึงกาฬ 265 ปี หนองคาย 254 ปี นครราชสีมา 240 ปี อำนาจเจริญ 234 ปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 296 ปี TOP 5 จังหวัดที่ต้องรอนานที่สุด: 1️⃣ ขอนแก่น: 345 ปี  2️⃣ ศรีสะเกษ: 336 ปี  3️⃣ ร้อยเอ็ด/อุบลฯ: 328 ปี  4️⃣ กาฬสินธุ์: 324 ปี 

ถ้าคนอีสานจะถูกรางวัลที่หนึ่งแบบเเน่นอน 100% ต้องหาเงินกี่ปี? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตัวเลขการเปิด – ปิด โรงงานอุตสาหกรรม ในอีสานในปี 2567  

พามาเบิ่ง ตัวเลขการเปิด – ปิด โรงงานอุตสาหกรรม ในอีสานในปี 2567 . จังหวัด เปิดโรงงาน เงินลงทุน (ล้านบาท) ปิดโรงงาน เงินลงทุน (ล้านบาท) นครราชสีมา 40                               2,414 21                               4,064 ขอนแก่น 33                               1,412 9                                 198 อุบลราชธานี 33                                 744 12                                 177 สุรินทร์ 26          

พามาเบิ่ง ตัวเลขการเปิด – ปิด โรงงานอุตสาหกรรม ในอีสานในปี 2567   อ่านเพิ่มเติม »

กรุงเทพฯ อันดับ 1 ของโลกเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม! พาส่องเบิ่ง สถิตินักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านเที่ยวไทย ปี 67

. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ได้อันดับที่ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวมากที่สุดในโลก มีทริปเที่ยวเข้ามามากถึง 32.4 ล้านเที่ยว   จำนวนผู้เยี่ยมเยือน % การเปลี่ยนแปลง รายได้จากผู้เยี่ยมเยือน % การเปลี่ยนแปลง กรุงเทพมหานคร 27 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.9% 677,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% ภาคกลางไม่รวมกรุงเทพฯ 6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 33.1% 22,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.5% ภาคตะวันออก 13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18.6% 225,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% ภาคใต้ 26 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27.0% 679,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% ภาคเหนือ 5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.1% 55,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.0% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 31.7% 9,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.0%   ประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยว % การเปลี่ยนแปลง China 6,733,162 คน เพิ่มขึ้น 91.2% Malaysia 4,952,078 คน เพิ่มขึ้น 7.0% Laos 1,124,202 คน เพิ่มขึ้น 22.3% Vietnam 984,248 คน ลดลง 4.8% Cambodia 553,060 คน ลดลง 5.3% Myanmar 546,629 คน เพิ่มขึ้น 38.7%   หมายเหตุ: ข้อมูลจำนวนผู้เยี่ยมเยือน ปี 2567 ผู้เยี่ยมเยือน หมายถึง ผู้ที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยว และอื่น ๆ เช่น การเยี่ยมเพื่อน/ญาติ ทั้งที่พักค้างคืน และไม่พักค้างคืน โดยเป็นการพักค้างในสถานพักแรม บ้านญาติ/บ้านเพื่อน และอืน ๆ   ที่มา : กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา   กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ อันดับ 1 ของโลกเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม! พาส่องเบิ่ง สถิตินักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านเที่ยวไทย ปี 67 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตลาดออนไลน์ ไทย🇹🇭-จีน🇨🇳 ต่างกันอย่างไร? ในวันที่ ‘อีคอมเมิร์ซไทยวิกฤติ’ ทุนนอกฮุบ สินค้าจีนทะลัก

การขยายตัวที่แตกต่างของไทยและจีนในการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย   ไทย :  ไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นของการใช้โซเชียลมีเดียในการซื้อขายออนไลน์ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ การซื้อขายผ่านไลฟ์สดมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากความนิยมในปัจจุบัน จีน สัดส่วนการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นเป็น 16% จาก E-commerce ทั้งหมด ความนิยมของคนจีนที่จะซื้อของออนไลน์ผ่านช่องทางการไลฟ์สดในโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตลาด E-commerce ของจีนมีแนวโน้มที่จะเกิดการขยายตัวในรูปแบบ C2C มากขึ้น ที่มา: Euromonitor หมายเหตุ: การซื้อขายผ่านไลฟ์สด (Live Streaming E-Commerce) คือการขายสินค้าแบบเรียลไทม์ผ่านการไลฟ์สดในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Live, TikTok Live, Shopee Live, Instagram Live, การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล (Social comerce) คือการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียหรือ market place เช่น Facebook, Instagram, LINE, TikTok   ‘อีคอมเมิร์ซไทยวิกฤติ’ ทุนนอกฮุบ สินค้าจีนทะลักครองส่วนแบ่งรวมกันกว่า 79% ผู้ประกอบการไทยต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างชาติเป็นหลัก ไม่มีอำนาจต่อรอง 🇨🇳ลาซาด้า 🇨🇳+🇸🇬ช้อปปี้ 🇨🇳 TikTok [1]ตลาดซื้อขายออนไลน์ของไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการดังนี้: . การเติบโตของอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน: การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายขึ้นและการแพร่หลายของสมาร์ทโฟนทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและซื้อสินค้าออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น การแพร่ระบาดของ COVID-19: การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพื่อลดการสัมผัสและรักษาระยะห่างทางสังคม การพัฒนาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความหลากหลายของสินค้า บริการชำระเงิน และการจัดส่งสินค้า ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ที่ดีขึ้น การสนับสนุนจากภาครัฐ: ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการค้าออนไลน์และเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อขายออนไลน์มากขึ้น ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตลาดซื้อขายออนไลน์ของไทย: . [2]มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ผู้บริโภคกลุ่มหลักที่ซื้อสินค้าออนไลน์คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 20-39 ปี สินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อออนไลน์ ได้แก่ สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง อาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า . แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Shopee, Lazada แต่ล่าสุดหลังจากการกลับบ้าน ของ JD การมาของ TikTok ที่เป็น social media แต่เรามีระบบตะกร้าสินค้าเหมือน e-commerce และการผสมผสานการ live commerce กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและแจ้งส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น ผลดีคือการแข่งขันของผู้ขายทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและโปรโมชั่นที่มากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องท้าทายต่อผู้ค้าขายหรือผู้ขายในช่องทางเหล่านี้ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสินค้าจีนทะลัก ซึ่งมีราคาถูกและทำให้ผู้ประกอบการไทย ประสบปัญหาด้านการแข่งขัน . [3]แนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในอนาคต: ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI และ AR การซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Commerce) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น

พามาเบิ่ง ตลาดออนไลน์ ไทย🇹🇭-จีน🇨🇳 ต่างกันอย่างไร? ในวันที่ ‘อีคอมเมิร์ซไทยวิกฤติ’ ทุนนอกฮุบ สินค้าจีนทะลัก อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง รถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ) ในอีสาน

พามาเบิ่ง รถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ) ในอีสาน . ตุ๊กตุ๊ก เชื่อมโยงกับ วิถีชีวิตคนอีสาน รับส่งคน-ของทั่วตลาด เป็นพาหนะคู่ใจของพ่อค้าแม่ค้า  จังหวัด จํานวน(คัน) ร้อยละ % นครราชสีมา 691 52.43 ขอนแก่น 353 26.79 อุบลราชธานี 170 12.90 ชัยภูมิ 43 3.27 บุรีรัมย์ 42 3.19 นครพนม 10 0.76 สุรินทร์ 7 0.53 หนองคาย 1 0.08 ร้อยเอ็ด 1 0.08 ศรีสะเกษ สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี เลย ยโสธร หนองบัวลำภู มุกดาหาร บึงกาฬ อำนาจเจริญ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,318 ทั่วประเทศ 17,371  . คํานิยามของรถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ)   คือ ต้องมีลักษณะประทุน โดยมีที่นั่ง 2 ตอน หรือ 2 แถว ขนาดกว้าง ไม่เกิน 1.50 เมตร ยาวไม่เกิน 4 เมตร เครื่องยนต์ต้องมีความจุในกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เซนติเมตร . รถยนต์รับจ้างสามล้อหรือที่เราเรียกติดปากว่า รถตุ๊กๆ จากสถิติของกรมขนส่งทางบกรถตุ๊กๆ จดทะเบียนสะสมในอีสานอยุ่ที่  1,318 จาก 17,371  ทั่วประเทศ โดยอยู่ในกรุงเทพมหานครกว่าครึ่งหนึ่งของจํานวนรถทั้งหมด . ในอีสานมีรถตุ๊กๆอยู่เพียง 9 จาก 20 จังหวัด นครราชสีมา มีมากถึง 691 คัน (52.43%) รองลงมาคือ ขอนแก่น 353 คัน (26.79%) และ อุบลราชธานี 170 คัน (12.90%) .  แต่รู้หรือไม่? บางจังหวัดเหลือเพียง 1 คัน เช่น หนองคายและร้อยเอ็ด อีกไม่นานอาจเป็นเพียงตำนานของอีสาน!   ที่มา : กรมการขนส่งทางบก . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook

พามาเบิ่ง รถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ) ในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

 พาส่องเบิ่ง จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ภาคอีสาน ปี2567

 พาส่องเบิ่ง จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ปี2567 . จากข้อมูลประกันสังคมล่าสุด จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีผู้ประกันตนสูงสุดในภาคอีสาน รวมกว่า 1.02 ล้านคน 💼📈 นำห่างจังหวัดอื่นแบบทิ้งขาด  . จังหวัด จำนวนผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 (คน) จำนวนผู้ประกัน ตน ตามมาตรา39 (คน) จำนวนผู้ประกัน ตน ตามมาตรา40 (คน) จำนวนผู้ประกันตนทั้งหมด (คน) นครราชสีมา 259,376 40,892 726,714 1,026,982 ขอนแก่น 140,156 21,074 89,475 250,705 อุดรธานี 65,338  14,315 85,917 165,570 อุบลราชธานี 77,752 14,515 67,445 159,712 สุรินทร์ 43,646 11,175  73,063 127,884 บุรีรัมย์ 47,207 10,084 68,608 125,899 ศรีสะเกษ 34,115  9,431 74,820 118,366 สกลนคร 37,323 10,942 62,080  110,345 ชัยภูมิ 32,752 8,145 64,093 104,990 กาฬสินธุ์ 27,748 6,338 51,887 85,973 ร้อยเอ็ด 32,592 7,201 42,762 82,555 มหาสารคาม 31,660 7,435 40,998 80,093 เลย 23,177  6,245 49,097 78,519 นครพนม 20,600 5,264 36,077 61,941 มุกดาหาร 15,563 3,574 39,176 58,313 ยโสธร 15,203 3,952 38,130 57,285 หนองคาย 17,437 5,311 32,827 55,575 หนองบัวลำภู 15,781 3,810 31,097 50,688 อำนาจเจริญ 10,565 2,944 35,688 49,197 บึงกาฬ 9,998 3,204 25,709 38,911 รวม 964,450

 พาส่องเบิ่ง จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ภาคอีสาน ปี2567 อ่านเพิ่มเติม »

มาพาอัพเดต แรงงานนอกระบบอีสาน อยู่อุตสาหกรรมไหนบ้าง

มาพาอัพเดต แรงงานนอกระบบอีสาน อยู่อุตสาหกรรมไหนบ้าง . เมื่อพูดถึงแรงงานนอกระบบ หลายคนอาจนึกถึงพ่อค้าแม่ค้าริมถนน ชาวนาชาวไร่ หรือผู้ให้บริการรับจ้างทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่าในภาคอีสานของเรา แรงงานนอกระบบมีจำนวนมากถึง 7.18 ล้านคน คิดเป็น 75.16% ของแรงงานทั้งหมดในภูมิภาค นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขธรรมดา แต่เป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนโครงสร้างเศรษฐกิจของอีสานและประเทศไทยโดยรวม   อุตสาหกรรมที่มีแรงงานนอกระบบมากที่สุดในอีสานคือ ภาคเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง มีจำนวนแรงงานสูงถึง 5.03 ล้านคน หรือ 70.01% ของแรงงานนอกระบบทั้งหมด เพราะภาคอีสานยังคงพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก ชาวนา ชาวไร่ และชาวประมงส่วนใหญ่อยู่ในระบบที่ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีประกันสังคม และต้องพึ่งพาตนเองอย่างเต็มที่   ด้านภาคบริการและการค้าค้าส่งนั้น การค้าปลีก และการซ่อมยานยนต์ เป็นภาคเศรษฐกิจที่มีแรงงานนอกระบบมากเป็นอันดับสอง คิดเป็น 11.61% หรือ 834,729 คน ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านโชห่วย ตลาดสด ร้านซ่อมรถ และผู้ค้าหาบเร่แผงลอย คือตัวอย่างชัดเจนของแรงงานนอกระบบที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น   ภาคที่พักแรมและบริการด้านอาหารก็ตามมาติด ๆ ด้วยจำนวน 415,179 คน หรือ 5.77% ซึ่งรวมถึงพนักงานร้านอาหาร แม่บ้านโรงแรม และผู้ประกอบการขนาดเล็กในธุรกิจการท่องเที่ยว   เมื่อพิจารณาจากเพศ พบว่า แรงงานนอกระบบชายมีจำนวนมากกว่าหญิง โดยมี 3.96 ล้านคน (55.15%) ขณะที่แรงงานหญิงอยู่ที่ 3.22 ล้านคน (44.85%) นี่สะท้อนให้เห็นว่าแรงงานชายมีแนวโน้มที่จะอยู่ในอาชีพรับจ้างอิสระและงานใช้แรงงานมากกว่า ส่วนแรงงานหญิงส่วนใหญ่มักกระจุกตัวในอุตสาหกรรมบริการและค้าปลีก   แรงงานนอกระบบเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจอีสานและประเทศ แต่พี่น้องเหล่านั้นกลับเผชิญความท้าทายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ความไม่มั่นคงทางรายได้ การขาดสวัสดิการ และการถูกมองข้ามจากนโยบายภาครัฐ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม กลุ่มแรงงานเหล่านี้จะยังคงอยู่ในวังวนของความไม่แน่นอนต่อไป . หมายเหตุ: 1. ข้อมูลปี พ.ศ. 2567   ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ พามาเบิ่ง อีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุด แม้เกษียณก็ยังต้องทำงาน? . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #แรงงานนอกระบบ #ISANEcon #เศรษฐกิจอีสาน #แรงงานอีสาน #แรงงานนอกระบบอีสาน #เกษตรอีสาน #จำนวนแรงงาน

มาพาอัพเดต แรงงานนอกระบบอีสาน อยู่อุตสาหกรรมไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรเวียดนาม🇻🇳

.ประเทศเวียดนามมีเนื้อที่ประมาณ 331,698 ตาราง กิโลเมตร มี 63 หน่วยการปกครองระดับจังหวัดประเทศเวียดนามมีประชากรประมาณ 100.4 ล้านคน ส่วนใหญ่ พูดภาษาเวียดนาม.หากดูจากแผนที่ประชากรของเวียดนาม จะเห็นว่า ผู้คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้เพราะพื้นที่เหล่านี้มี ปัจจัยทางภูมิศาสตร์, เศรษฐกิจ, และประวัติศาสตร์ ที่เอื้อต่อการตั้งถิ่นฐานและการพัฒนาเมืองมากกว่า ในขณะที่ภาคกลางและพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกกลับมีประชากรเบาบางเนื่องด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ภาคกลางของเวียดนามเผชิญกับไต้ฝุ่นและน้ำท่วมเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน และส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูงซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการตั้งถิ่นฐานและการเพาะปลูกในด้านพีระมิดประชากรของเวียดนาม มีลักษณะเป็น “พีระมิดฐานกว้าง” โดยกลุ่มประชากรในวัยเด็กและวัยแรงงานมีจำนวนมาก ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุมีสัดส่วนที่น้อย ซึ่งภาคอีสานของไทยที่ต้องการแรงงานในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการบริการ สามารถดึงดูดแรงงานจากเวียดนามมาเสริมแรงงานไทยได้ เนื่องจากเวียดนามมีประชากรในวัยแรงงานจำนวนมาก.พื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูงสุด1. ฮานอย และ โฮจิมินห์ซิตี้ มีประชากรหนาแน่นที่สุด โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูงกว่า 2,300 คนต่อตารางไมล์2. เมืองใหญ่ เช่น ไฮฟอง (Haiphong), บิ่นห์ฮว้า (Bien Hoa), ดานัง (Da Nang) ก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีประชากรหนาแน่นเช่นกัน3. บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เช่น กันโถ (Can Tho), รัชเกีย (Rach Gia) ก็มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญ. ภาพรวมประชากร ขนาดประชากร: ประมาณ 100 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. 2566) การกระจายตัว: ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงและแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ฮานอยและนครโฮจิมินห์ อัตราการเติบโต: อัตราการเติบโตของประชากรค่อนข้างคงที่ โครงสร้างอายุ เวียดนามมีโครงสร้างประชากรที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง โดยมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม เวียดนามกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านสวัสดิการและระบบดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเวียดนามเชื้อสายกิง (Kinh) หรือเวียด (Viet) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ คิดเป็นประมาณ 86% ของประชากร นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีก 53 กลุ่ม กระจายอยู่ทั่วประเทศ ศาสนา ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือศาสนาอย่างเป็นทางการ แต่มีความเชื่อในลัทธิบรรพบุรุษและลัทธิต่างๆ ศาสนาที่มีผู้นับถือมาก ได้แก่ ศาสนาพุทธนิกายมหายาน ศาสนาคริสต์ และศาสนาพื้นเมือง ลักษณะเฉพาะของโครงสร้างประชากรเวียดนาม ประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก: เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ความเป็นสังคมเมืองที่เพิ่มขึ้น: มีการย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมืองอย่างต่อเนื่อง ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม: เวียดนามมีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ พีระมิดประชากรเวียดนามฐานกว้างและค่อย ๆ แคบลง – แสดงถึงอัตราการเกิดที่ยังสูงอยู่ แต่แนวโน้มอาจลดลงเล็กน้อยในอนาคตประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก – กลุ่มอายุ 15-64 ปี มีสัดส่วนสูงมาก ซึ่งหมายถึงแรงงานที่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผู้สูงอายุมีสัดส่วนน้อย – ระบบสวัสดิการและการดูแลผู้สูงอายุอาจยังไม่เป็นภาระหนักเท่ากับประเทศที่มีโครงสร้างประชากรสูงวัย ประชากรและโครงสร้างวัยแรงงานของเวียดนามเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้: ประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก: เวียดนามมีประชากรมากกว่า

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรเวียดนาม🇻🇳 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตัวอย่างอำเภอเด่นในอีสานที่ถนนมิตรภาพพาดผ่าน

ถนนมิตรภาพ หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 เป็นหนึ่งในทางหลวงสายหลักของประเทศไทยที่เชื่อมต่อจังหวัดสระบุรีกับจังหวัดหนองคาย โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 509 กิโลเมตร นับเป็นทางหลวงสายแรกที่ก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างทุกขั้นตอน และเป็นทางหลวงสายแรกของไทยที่มีผิวจราจรลาดยางแบบแอสฟอลต์คอนกรีต การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2498 โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในด้านงบประมาณและเทคนิคการก่อสร้าง  ถนนมิตรภาพมีความสำคัญอย่างมากในการเชื่อมโยงภาคอีสานกับภาคอื่นๆ ของประเทศไทย โดยตัดผ่านภาคอีสาน 4 จังหวัดและ 23 อำเภอ ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมา: ผ่านอำเภอปากช่อง, สีคิ้ว, สูงเนิน, เมืองนครราชสีมา, เฉลิมพระเกียรติ, โนนสูง, คง, โนนแดง, สีดา, บัวลาย จังหวัดขอนแก่น: ผ่านอำเภอพล, โนนศิลา, บ้านไผ่, บ้านแฮด, เมืองขอนแก่น, น้ำพอง, เขาสวนกวาง จังหวัดอุดรธานี: ผ่านอำเภอโนนสะอาด, กุมภวาปี, เมืองอุดรธานี, เพ็ญ จังหวัดหนองคาย: ผ่านอำเภอสระใคร, เมืองหนองคาย   หากไม่นับอำเภอเมือง อำเภอที่ถนนมิตรภาพตัดผ่านล้วนเป็นอำเภอสำคัญของจังหวัด โดยรายละเอียดของตัวอย่างอย่างอำเภอเด่นในแต่ละจังหวัด ได้แก่ 1. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นอำเภอแรกสุดของการเดินทางจากถนนมิตรภาพสู่ภาคอีสาน ทำให้มีความสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางและการค้า และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดีจากการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ  ขนาดพื้นที่: 1,825.17 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 127,557 คน  จำนวนครัวเรือน: 74,213 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 1,968ราย  2. อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นอำเภอใหญ่และเก่าแก่ในจังหวัดขอนแก่น มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม มีสถานีรถไฟซึ่งในอนาคตจะถูกพัฒนาให้รองรับรถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย ขนาดพื้นที่: 477.7 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 71,567 คน  จำนวนครัวเรือน: 24,663 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 518 ราย    3. อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่เจริญในอุดรธานี มีเครือข่ายคมนาคมอย่างถนนมิตรภาพและสถานีรถไฟ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างทะเลบัวแดง ขนาดพื้นที่: 672.6 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 80,871 คน  จำนวนครัวเรือน: 22,764 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 396 ราย    4. อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เป็น 1 ใน 2 อำเภอในหนองคายที่มีถนนมิตรภาพตัดผ่าน จากภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับเมืองเวียงจันทน์ และในอนาคตที่จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ทำให้อ.สระใคร มีโอกาสและศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต ขนาดพื้นที่: 210.9 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 26,488 คน  จำนวนครัวเรือน: 8,997 หลัง 

พามาเบิ่ง ตัวอย่างอำเภอเด่นในอีสานที่ถนนมิตรภาพพาดผ่าน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top