SHARP ADMIN

ม.ขอนแก่น สร้าง KKU IntelSphere ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหว🆘 รัศมีรอบ มข. 2000 กม. ผ่าน Google Chat นศ. บุคลากร ศิษย์เก่าใช้ได้🆓

ฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินหน้าใช้ระบบอัจฉริยะ KKU IntelSphere ออกแบบ KKU Emergency Alert แจ้งเตือนแผ่นดินไหวพิกัดไม่เกิน 2,000 กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นผ่าน Google Chat  จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดในประเทศเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนบางส่วนรับรู้ได้ถึงประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะภายในอาคารสูงของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้นำเทคโนโลยี KKU IntelSphere มาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหว KKU Emergency Alert โดยดึงข้อมูลจาก U.S. Geological Survey (USGS) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ในการส่งการแจ้งเตือนผ่านระบบ KKU Google Chat สำหรับ KKU Emergency Alert ตั้งค่าระยะห่างรัศมีการแจ้งเตือนไว้ที่ 2,000 กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมกำหนดระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ต้องการให้มีการแจ้งเตือน เบื้องต้นตั้งไว้ที่ 4.5 แมกนิจูด และอาจปรับเพิ่มเป็น 6.5 แมกนิจูดในอนาคต โดยระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลทุก ๆ 1 นาที เพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ผศ.ดร.เด่นพงษ์ เน้นย้ำว่า เนื่องจาก LINE ถูกใช้สำหรับการสื่อสารทั่วไป และอาจทำให้เกิดความสับสนได้หากส่งแจ้งเตือนไป จึงเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ เช่น Google Chat หรือ Telegram เพื่อแยกแยะการสื่อสารทั่วไปและสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างชัดเจน สำหรับบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ต้องการเข้าร่วมระบบแจ้งเตือนนี้ สามารถเข้าไปที่หน้าอีเมล KKU จากนั้นเลือก “Chat” และคลิก “Browse Spaces” แล้วพิมพ์ค้นหาด้วยคำว่า “Emergency” เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Chat ผ่านลิงก์นี้ KKU Staff: https://kku.world/emergency และ KKU Student: https://kku.world/stdemergency ลงในโทรศัพท์มือถือเพื่อความสะดวกในการรับการแจ้งเตือน  

ม.ขอนแก่น สร้าง KKU IntelSphere ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหว🆘 รัศมีรอบ มข. 2000 กม. ผ่าน Google Chat นศ. บุคลากร ศิษย์เก่าใช้ได้🆓 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 👀☕️ สถานการณ์การปลูกกาแฟในอีสาน ปี 2567

พามาเบิ่ง สถานการณ์การปลูกกาแฟในอีสาน . การปลูกกาแฟในภาคอีสานของประเทศไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าภาคนี้จะไม่ได้เป็นแหล่งปลูกกาแฟหลักของประเทศเหมือนภาคเหนือและภาคใต้ แต่ก็มีความพยายามในการส่งเสริมและพัฒนาการปลูกกาแฟในพื้นที่นี้ เนื่องจากมีบางพื้นที่ที่มีสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศเหมาะสมต่อการปลูกกาแฟ เช่น พื้นที่ภูเขาในจังหวัดเลย ชัยภูมิ ปัจจัยที่สนับสนุนการปลูกกาแฟในภาคอีสาน ได้แก่: 1.สภาพอากาศ: พื้นที่สูงในบางจังหวัดของภาคอีสานมีอากาศเย็นในฤดูหนาว ซึ่งเหมาะสมกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ที่ต้องการอุณหภูมิไม่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ต้องมีอากาศเย็น 2.การพัฒนาสายพันธุ์และวิธีการปลูก: การสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานเกษตรในพื้นที่เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กาแฟให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเพาะปลูก ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตกาแฟที่มีคุณภาพได้ 3.การส่งเสริมจากรัฐบาลและชุมชนท้องถิ่น: มีโครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ในภาคอีสาน ซึ่งกาแฟเป็นหนึ่งในพืชที่ได้รับการส่งเสริม เนื่องจากเป็นพืชที่มีตลาดรองรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4.การปลูกแบบผสมผสาน: เกษตรกรในภาคอีสานบางส่วนใช้การปลูกกาแฟร่วมกับพืชชนิดอื่น ๆ เช่น ไม้ผลหรือพืชสมุนไพร ทำให้เกิดการเกษตรที่ยั่งยืนและมีรายได้เสริมจากหลายแหล่ง . ถึงแม้ว่าการปลูกกาแฟในภาคอีสานยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น แต่ก็มีศักยภาพที่จะเติบโตและกลายเป็นแหล่งผลิตกาแฟใหม่ของประเทศไทยในอนาคต . . หมายเหตุ : ข้อมูลปี 2567 . อ้างอิงจาก: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พาส่องเบิ่ง ราคาเมล็ดกาแฟโลกทำลายสถิติ! “ไทย-เวียดนาม” ส่งออกพุ่งทะยาน ในขณะที่เวียดนามที่เป็นผู้ส่งออกกาแฟอันดับที่ 2 ของโลก โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่เวียดนามขึ้นชื่อ พาส่องเบิ่ง ตลาดกาแฟประเทศเวียดนามเป็นจั่งใด๋แหน่ . . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #กาแฟอีสาน #ปลูกกาแฟอีสาน #กาแฟดงมะไฟ #ธุรกิจกาแฟอีสาน  

พามาเบิ่ง 👀☕️ สถานการณ์การปลูกกาแฟในอีสาน ปี 2567 อ่านเพิ่มเติม »

🇹🇭ไทย ถูกจัดเป็นประเทศ “Dirty 15” ที่ทรัมป์เล็งจ่อขึ้นภาษี เหตุไทยติดTop10 ส่งออกเกินดุลสหรัฐฯ🇺🇸 และมี🇨🇳ทุนจีนย้ายมาตั้งฐานส่งออกในโควต้าไทย

แนวโน้ม ‘ไทย’ ถูกดึงเข้าเกมภาษีทรัมป์ 2 [สหรัฐฯ จัดไทยเข้ากลุ่ม ’15 สกปรก’ ไทยเกินดุลสหรัฐฯ Top10] .รมว.คลังสหรัฐฯ นิยามกลุ่มประเทศที่ได้ดุลการค้าสหรัฐฯ มหาศาลว่า คือกลุ่ม 15 สกปรก คือ ‘Dirty 15’ โดยอธิบายว่า เป็นประเทศที่คิดเป็น 15% ของชาติคู่ค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับประเทศเหล่านี้เป็นจำนวนมหาศาล โดยน่าจะมีอยู่ราว 10-15 ประเทศ.ในเวลาต่อมามีการเปิดเผยรายชื่อของ Dirty 15 ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป เม็กซิโก เวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา อินเดีย ไทย สวิตเซอร์แลนด์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา แอฟริกาใต้.จะเห็นได้ว่า มีหลายประเทศในอาเซียนที่เข้าข่ายกลุ่มประเทศ 15 สกปรกของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย.ถ้าดูเฉพาะประเทศไทย สถิติเมื่อปีที่แล้วพบว่า ไทยเกินดุลการค้าอเมริกาด้วยตัวเลขถึง 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดท็อปเท็น โดยอยู่ในอันดับ 10 เทียบกับชาติอาเซียนด้วยกัน อาจน้อยกว่าเวียดนาม ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 แต่ไทยก็เกินดุลสหรัฐฯ ในปริมาณที่มากกว่ามาเลเซียกับอินโดนีเซียพอสมควร.นี่เป็นอันดับที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เราอยู่ในอันดับที่ 12 ซึ่งยิ่งอันดับสูง ก็ยิ่งไม่ใช่ผลดี เพราะมีความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐฯ จับตาไทยมากขึ้น. [ความเห็นผู้แทนการค้า ตอกย้ำ ‘ไทย’ อยู่ในเรดาร์อเมริกาขึ้นภาษี] .แต่นอกจากสถิติตัวเลขการค้า ที่สะท้อนข้อเท็จจริงว่าไทยตกอยู่ในความเสี่ยง 10 อันดับแรกอยู่แล้ว ยิ่งตอกย้ำด้วยความเห็นของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่ระบุถึงประเทศไทยโดยตรง.เอกสารความเห็นของสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกา (USTR) เป็นความเห็นที่ลงวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา อธิบายถึงนโยบายการค้า ‘America First’ ที่เน้นไปถึงการดำเนินการกับประเทศที่อเมริกามองว่า ดำเนินการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมกับประเทศนั้นๆ ต่อไป.สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อรวบรวมข้อมูลแบบรายประเทศ และอาจเป็นการค้าที่ทำร้ายหรือสร้างความเสียหายทั้ง ความเสียหายที่แท้จริงหรือความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อแรงงานอเมริกัน โรงงาน เกษตรกร ฟาร์มปศุสัตว์ ผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจของอเมริกา.จากการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ สรุปว่า จะให้ความสนใจกับกลุ่มประเทศ เช่นกลุ่ม G20 รวมถึงประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า โดยยกตัวอย่างประเทศดังต่อไปนี้ ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน สหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน

🇹🇭ไทย ถูกจัดเป็นประเทศ “Dirty 15” ที่ทรัมป์เล็งจ่อขึ้นภาษี เหตุไทยติดTop10 ส่งออกเกินดุลสหรัฐฯ🇺🇸 และมี🇨🇳ทุนจีนย้ายมาตั้งฐานส่งออกในโควต้าไทย อ่านเพิ่มเติม »

พาเปิดโผ 15 มหาวิทยาลัยอีสานที่รับน้องศึกษาใหม่มากที่สุด ปี 67

  . จากข้อมูลการยื่นเข้าปีการศึกษา 2567 ของ #dek67 ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั้ง 4 รอบ (TCAS) ISAN Insight ได้รวบรวมข้อมูลทั้ง 15 มหาวิทยาลัยมาให้ทุกท่าน ทั้งนี้จำนวนที่นักศึกษาปี 1 ที่เข้าศึกษาทึกระดับการศึกษาทั้ง ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ระดับปริญญาเอก ที่ปรากฏอยู่นี้ ไม่ได้การันตีถึงคุณภาพ หรือ ความนิยม เพราะจำนวนนักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้ง โควต้าจำนวนที่เปิดรับของแต่ละคณะ  คะแนนของแต่ละคณะในแต่ละรอบที่นักศึกษายื่น  จำนวนนักศึกษาที่ยื่นในแต่ละคณะที่อาจมียื่นเกินโควต้าที่รับ หรือน้อยกว่าโควต้าที่รับ  คณะ สาขา หรือ หลักสูตรเปิดรับ อาจมีจำกัดในเพียงมหาวิทยาลัยเท่านั้น .   จังหวัด มหาวิทยาลัย จำนวนนักศึกษาเข้าใหม่ มหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 14,435 คน ขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น 9,299 คน อุบลราชธานี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 5,013 คน นครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 4,917 คน นครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา 4,608 คน อุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 4,507 คน นครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 4,111 คน อุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 4,015 คน นครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม 2,875 คน สกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร 2,638 คน บุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 2,554 คน ขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน  วิทยาเขตขอนแก่น 2,259 คน สกลนคร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ สกลนคร 2,112 คน มหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 2,078 คน เลย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย 1,881 คน หมายเหตุ: เป็นข้อมูลจำนวนนักศึกษาใหม่ ปี 2567 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ “อีสาน” เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการศึกษา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะและศักยภาพรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต ล่าสุดจากข้อมูลของปี 2567 พบว่า 15 มหาวิทยาลัยในภาคอีสานมีจำนวนนักศึกษาใหม่เข้าศึกษาเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทางการศึกษาและการพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับเศรษฐกิจที่ขยายตัว มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีสาน จากข้อมูลจำนวนนักศึกษาใหม่ ปี 2567 พบว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษาใหม่มากที่สุดในอีสานถึง 14,435 คน

พาเปิดโผ 15 มหาวิทยาลัยอีสานที่รับน้องศึกษาใหม่มากที่สุด ปี 67 อ่านเพิ่มเติม »

12 ตัวอย่าง ธุรกิจสุดฮิตในอดีต ที่เลือนหายตามกาลเวลา

หากจะกล่าวถึงอาชีพหรือธุรกิจสุดฮิตในอดีต ที่เลือนหายตามกาลเวลา ก็คงมีหลากหลายให้หลายคนนึกถึง ซึ่งอาชีพและธุรกิจในอดีตหลายอย่างได้สูญหายไปตามกาลเวลาด้วยสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้: ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี: เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่วิธีการทำงานแบบเดิม ๆ เช่น การเกิดขึ้นของเครื่องจักรในโรงงาน ทำให้แรงงานคนลดลง หรือการมาของอินเทอร์เน็ตทำให้ธุรกิจร้านเช่าวิดีโอหายไป ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม ทำให้งานบางประเภทถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักร การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม: วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการบางอย่างลดลง เช่น การที่คนหันมาดูหนังออนไลน์ ทำให้โรงภาพยนตร์แบบสแตนด์อโลนน้อยลง ค่านิยมและความสนใจของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจบางประเภทไม่ได้รับความนิยมเหมือนในอดีต การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ: การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจแบบดั้งเดิมไม่สามารถแข่งขันได้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจบางประเภทต้องปิดตัวลง การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายและนโยบาย: กฎหมายและนโยบายใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สุขภาพ หรือความปลอดภัย อาจทำให้ธุรกิจบางประเภทไม่สามารถดำเนินงานได้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายแรงงานอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพบางประเภท การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคมีความต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ธุรกิจแบบดั้งเดิมปรับตัวไม่ทัน ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าและบริการที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่จำกัดตัวเลือกไม่สามารถอยู่รอดได้   อาชีพทำนาเกลือ/บ่อเกลือ หรือ การทำเกลือสินเธาว์ อาชีพทำบ่อเกลือในภาคอีสาน หรือที่เรียกกันว่า “การทำเกลือสินเธาว์” เป็นอาชีพเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากการทำนาเกลือทะเล ลักษณะการทำบ่อเกลือสินเธาว์: แหล่งที่มาของเกลือ: เกลือสินเธาว์ได้มาจากน้ำเกลือใต้ดิน ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในภาคอีสาน ชาวบ้านจะขุดบ่อลงไปในดิน เพื่อเอาน้ำเกลือขึ้นมา กระบวนการผลิต: น้ำเกลือที่ได้จะถูกนำมาต้มในกระทะใบบัวขนาดใหญ่ โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง เมื่อน้ำระเหยออกไป เกลือจะตกผลึกและจับตัวเป็นก้อน จากนั้นชาวบ้านจะตักเกลือขึ้นมาใส่ใน “บาก” ซึ่งเป็นภาชนะสานจากไม้ไผ่ เพื่อให้เกลือสะเด็ดน้ำและแห้ง ช่วงเวลาการผลิต: การทำเกลือสินเธาว์มักทำในช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำในบ่อเกลือมีความเข้มข้นสูงสุด ความสำคัญทางวัฒนธรรม: การทำเกลือสินเธาว์เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนอีสาน เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน และมีการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น สถานการณ์ปัจจุบัน: แม้ว่าการทำเกลือสินเธาว์จะยังคงมีอยู่ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม คนรุ่นใหม่จำนวนมากหันไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ทำให้แรงงานในภาคเกษตรกรรมลดลง ในปัจจุบันได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในบริเวณบ่อเกลือ ทำให้มีรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวอีกด้วย ตัวอย่างพื้นที่ทำบ่อเกลือสินเธาว์: อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ การทำบ่อเกลือสินเธาว์จึงเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภาคอีสาน และยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับชุมชนในบางพื้นที่ 🔎พาเปิดเบิ่ง เกลือหิน (rock salt)🧂🪨ขุมสมบัติล้านปีแห่งแดนอีสาน หมาแลกคุ “ธุรกิจหมาแลกคุถัง” หมายถึง การค้าสุนัขในอดีตที่พ่อค้าจะขับรถเร่ไปตามหมู่บ้านในแถบภาคอีสานของประเทศไทย เพื่อแลกสุนัขกับสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ถังน้ำพลาสติก (คุถัง) กะละมัง หรือสิ่งของอื่น ๆ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจดังกล่าว: ที่มา: ธุรกิจนี้มีมานานหลายสิบปี โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่ชาวบ้านในชนบทบางส่วนมองว่าการค้าสุนัขเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ สุนัขที่ถูกนำมาแลกส่วนใหญ่มักเป็นสุนัขที่มีปัญหา เช่น สุนัขจรจัด สุนัขดุร้าย หรือสุนัขที่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของ กระบวนการ: พ่อค้าจะขับรถตระเวนไปตามหมู่บ้านเพื่อแลกสุนัขกับสิ่งของ เมื่อได้สุนัขจำนวนหนึ่งแล้ว จะนำไปขายต่อให้กับพ่อค้าคนกลาง หรือส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์เพื่อนำเนื้อไปจำหน่าย ปลายทางส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ผลกระทบ: ธุรกิจนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับคนรักสัตว์จำนวนมาก เนื่องจากมองว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของนานาชาติ ปัจจุบันการค้าสุนัขได้ถูกต่อต้านและมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อหยุดการกระทำดังกล่าว แม้ว่าในปัจจุบันธุรกิจนี้จะลดน้อยลงไปมาก

12 ตัวอย่าง ธุรกิจสุดฮิตในอดีต ที่เลือนหายตามกาลเวลา อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง เกลือหิน (rock salt)🧂🪨ขุมสมบัติล้านปีแห่งแดนอีสาน

พาเปิดเบิ่งเกลือหิน (rock salt)ขุมสมบัติล้านปีแห่งแดนอีสาน..ลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ.เมื่อ 300-250 ล้านปีก่อน ช่วงตอนปลายของมหายุคเมโสโซอิก อีสานเคยเป็นทะเลมาก่อน ที่ราบสูงแห่งนี้เป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ของทวีปเป็นแอ่งทีมีการทับถมของตะกอน บางช่วงได้ยุบจมลง เป็นทะเลตื้น ๆ และเมื่อน้ำทะเลระเหย จึงตกตะกอนเป็นชั้นของเกลือหินแทรกอยู่ทั่วทั้งบริเวณที่ราบ.ต่อมาในมหายุคซีโนโซอิก เกิดการบีบตัวของเปลือกโลกทำให้เกิดรอยเลื่อนของเปลือกโลกขึ้นทางด้านตะวันตกและด้านใต้ของภาค แผ่นดินอีสานจะถูกยกตัวสูงขึ้นจากการชนของแผ่นทวีปอินเดียและยูเรเซีย เป็นที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์ ในขณะที่ภาคกลางยังเป็นทะเลอยู่.เกิดการเปลี่ยนสันฐานทางธรณี ระดับน้ำทะเลลด และภูมิประเทศเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่แร่ธาตุ น้ำทะเล เกลือ ไหลไปกองที่ก้นแอ่งโคราช และ แอ่งสกลนคร เป็น เกลือหิน นั้นเอง..เกลือหิน (อังกฤษ: rock salt) คือ ทรัพยากรแร่ตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการตกตะกอนของน้ำทะเล เกลือหินที่พบในประเทศ ไทยแบ่งตามส่วนประกอบทางเคมีออกเป็น 2 ประเภทคือ.ส่วนที่เป็นเกลือแกง หรือที่รู้จักกันว่าเกลือสินเธาว์ เรียกว่าแร่ เฮไลต์ (Halite) มีองค์ประกอบทางเคมีคือ โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ประกอบด้วย คลอรีน (Chlorien) ร้อยละ 60.7 และ โซเดียม (Sodium) ร้อยละ 39.3 เกลือมีน้ำหนักโมเลกุลเท่ากับ 58.4 มีรูปผลึกแบบสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ใสไม่มีสีเมื่อบริสุทธิ์ แต่เมื่อมีมลทินจะมีสีขาว สีเทา สีน้ำตาล และสีส้ม มีความถ่วงจำเพาะ 2.165 ความแข็งตามสเกลของมอร์ (Moh’s Scale) 2.5 มีจุดหลอมตัวที่ 800.8 องศาเซลเซียส และน้ำเกลือจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งที่อุณหภูมิลบ 21.12 องศาเซลเซียส เกลือชนิดนี้มีประโยชน์ที่สำคัญนอกจากใช้ในการปรุงอาหารและถนอมอาหารแล้ว ยังมีประโยชน์อย่างมากในการใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหรรมหลายชนิดเช่นการทำโซดาไฟ (NaOH) โซดาแอช (Na2CO3).ส่วนที่มีส่วนประกอบของธาตุโปแตสเซียม อยู่ด้วยเรียกว่า เกลือโปแตส มีหลายชนิดด้วยกันเช่นแร่ ซิลไวท์ (Sylvite : KCl) แร่คาร์นัลไลท์ (Carnallite : KCl.MgCl2.6H2O) แร่เคนไนท์ (Kainite : MgSO4.KCl.3H2O) และแร่ แลงบิไนท์ (Langbenite : K2SO4.2MgSO4) เป็นต้น เกลือโปแตสมีประโยชน์ในการใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยเคมีโดยเนื่องจากมีธาตุ โปแตสเซียม (K) เป็นส่วนประกอบสำคัญ.เกลือหินพบมากในภาคอีสาน ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่า น้ำทะเลที่เคยไหลท่วมภาคอีสานและได้ถูกปิดกั้นด้วยเทือกเขาจากการยกตัวของเทือกเขาภูพานทางตอนกลางของภาคอิสาน ซึ่งได้ทำให้เกิดการแบ่งดินแดนอีสานเป็น 2 ส่วน ทำให้พบแร่เกลือหิน และแร่โปแตชชนิดคาร์นัลไลท์ จำนวนมาก บริเวณที่พบแร่เกลือหินและแร่โปแตช มีลักษณะเป็นแอ่งคล้าย ๆ ก้นกระทะ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แอ่ง คือ.แอ่งเหนือ หรือ แอ่งสกลนคร (Sakonnakhon Basin) อยู่ทางตอนเหนือ ของ ที่ราบสูงโคราช คลุมพื้นที่ของ จังหวัดอุดรธานี

🔎พาเปิดเบิ่ง เกลือหิน (rock salt)🧂🪨ขุมสมบัติล้านปีแห่งแดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง บริษัทสร้างบ้านโครงการใหญ่ในอีสาน

อสังหาริมทรัพย์ในหมวดบ้านพักอาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คน ทั้งในแง่ของที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตประจำวัน และในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว ตลาดบ้านพักอาศัยมีความหลากหลาย ตั้งแต่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ไปจนถึงบ้านพักตากอากาศ ซึ่งแต่ละประเภทตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกซื้อบ้านพักอาศัย ได้แก่ ทำเลที่ตั้ง ราคา สิ่งอำนวยความสะดวก และแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และนโยบายภาครัฐยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในการเลือกซื้อบ้าน วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพาไปเบิ่งบริษัทสร้างบ้านโครงการเข้าใหญ่ในอีสาน แนวโน้มในปัจจุบันของการแข่งขัน และความท้าทายในตลาดนี้ การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มบ้านพักอาศัยมีความแตกต่างกันในแต่ละจังหวัด ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น กำลังซื้อของประชากร ขนาดประชากร ระดับรายได้ ทำเลที่ดิน และสภาพแวดล้อมโดยรอบ โดยทั่วไป จังหวัดที่มีขนาดใหญ่และมีเศรษฐกิจเติบโตสูงมักจะมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าจังหวัดขนาดเล็ก จากข้อมูลของบริษัทที่นำมาแสดง จะพบว่าทุกบริษัทล้วนตั้งอยู่ในจังหวัดใหญ่ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงสามารถกำหนดราคาของโครงการให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและแนวโน้มการเติบโตของตลาดในพื้นที่ดังกล่าว บริษัท บ้านสาริน จำกัด เจ้าใหญ่รายได้สูงสุดในอีสานจากจังหวัดอุบลราชธานี Big 4 ของอีสาน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจำนวนประชากรมากและมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี บ้านสารินก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดนี้จากความไว้วางใจของลูกค้า ประสบการณ์อันยาวนาน และชื่อเสียงที่สั่งสมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยเริ่มต้นจากธุรกิจซื้อขายที่ดิน ก่อนจะขยายเข้าสู่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปี พ.ศ. 2540 จากนั้นจึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ด้วยประสบการณ์กว่า 28 ปี บ้านสารินได้พัฒนาโครงการไปแล้วถึง 29 โครงการ ส่งผลให้บริษัทมีความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำตลาด คู่แข่งในจังหวัดจึงเผชิญกับความท้าทายในการแย่งส่วนแบ่งตลาดจากบริษัทที่มีฐานลูกค้ามั่นคงและทรัพยากรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การแข่งขันยังคงเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของผู้เล่นรายอื่นในตลาด ชวนเบิ่ง “บ้านสาริน” อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เมืองอุบล จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจด้านการศึกษาและการทำงานของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้มีการแข่งขันสูงควบคู่ไปกับกำลังซื้อของลูกค้าที่แข็งแกร่งหนึ่งในผู้นำตลาดท้องถิ่นคือ บริษัท เกรียงศักดิ์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 2003 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฉัตรเพชร ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี และมียอดขายติดอันดับ 1 ใน 5 ของแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น บริษัทมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม รวมกว่า 15 โครงการ แม้ว่าขอนแก่นจะมีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย เช่น ฉัตรเพชร และ พิมานกรุ๊ป แต่โอกาสสำหรับผู้เล่นรายใหม่ยังคงมีอยู่เสมอ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ บริษัท ที สเปซ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2560 แต่สามารถเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาคอีสาน การเติบโตของ ที สเปซ แสดงให้เห็นว่า หากสามารถสร้างจุดเด่นและมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ก็ยังมีโอกาสในการแข่งขันและเติบโตได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง สุดท้าย จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งยังเป็น “ประตูสู่ภาคอีสาน” และเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค รวมถึงมีประชากรมากเป็นอันดับ 2

พามาเบิ่ง บริษัทสร้างบ้านโครงการใหญ่ในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

นักศึกษาสาขาผู้ประกอบการดิจิทัล มข. เตรียมโชว์ไอเดียธุรกิจสตาร์ตอัพดิจิทัล จากแนวคิดต่อยอดสู่ธุรกิจจริง

✨เตรียมพบกับ “𝐃𝐄 𝐎𝐮𝐭𝐛𝐨𝐱 – 𝐃𝐢𝐠𝐢𝐭𝐚𝐥 𝐄𝐧𝐭𝐫𝐞𝐩𝐫𝐞𝐧𝐞𝐮𝐫: 𝐓𝐡𝐞 𝐂𝐨𝐧𝐜𝐞𝐩𝐭 𝐭𝐨 𝐂𝐨𝐧𝐜𝐫𝐞𝐭𝐞 𝐒𝐡𝐨𝐰𝐜𝐚𝐬𝐞 𝟐𝟎𝟐𝟓” เวทีที่ให้นักศึกษา อนาคตผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากสาขาผู้ประกอบการดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น โชว์ศักยภาพธุรกิจสุดสร้างสรรค์ที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้นจากแนวคิดต่อยอดสู่ธุรกิจจริง 🎯𝐇𝐢𝐠𝐡𝐥𝐢𝐠𝐡𝐭 กิจกรรมในงาน • 𝐎𝐮𝐭𝐛𝐨𝐱 𝐏𝐢𝐭𝐜𝐡𝐢𝐧𝐠 : เวทีโชว์ไอเดียธุรกิจจากนักศึกษา พบกับการนำเสนอแนวคิดธุรกิจจากนักศึกษาต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นักลงทุน และผู้ร่วมงาน • 𝐎𝐮𝐭𝐛𝐨𝐱 𝐄𝐱𝐡𝐢𝐛𝐢𝐭𝐢𝐨𝐧 : พื้นที่โชว์ไอเดียธุรกิจสุดสร้างสรรค์ พบกับการแสดงผลงานธุรกิจของนักศึกษาตลอดทั้งวัน ที่รวมสุดยอดนวัตกรรมแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มออนไลน์ เครื่องสำอาง และนวัตกรรมอาหาร ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่   งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษาได้โชว์ทักษะด้านการเป็นผู้ประกอบการ พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการต่อยอดไอเดีย สร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต 📅31 มีนาคม – 1 เมษายน 2568 | ⏰11:00 – 20:00 น. 📍ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น ✅ งานนี้เปิดให้เข้าชมฟรี! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวสารล่าสุด ได้ที่ Facebook Page : https://www.facebook.com/DigitalEntrepreneurShowcase/ หรือโทร : 061-546-2965 (ป๋อมแป๋ม) #DEOutbox #DEShowcase2025 #DEKKU    

นักศึกษาสาขาผู้ประกอบการดิจิทัล มข. เตรียมโชว์ไอเดียธุรกิจสตาร์ตอัพดิจิทัล จากแนวคิดต่อยอดสู่ธุรกิจจริง อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรกัมพูชา🇰🇭

พามาเบิ่งความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรกัมพูชา . กัมพูชามีประชากรรวมประมาณ 16.3 ล้านคน คนกัมพูชาส่วนใหญ่พูด ภาษาเขมร (Khmer) ซึ่งเป็นภาษาราชการและภาษาหลักของประเทศ . มีเนื้อที่ประมาณ 181,035 ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย เส้นเขตแดนโดยรอบประเทศยาวประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยมีเส้นเขตแดนติดต่อกับประเทศไทยยาว 798 กิโลเมตร . #ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระจุกตัวของประชากร เศรษฐกิจและโอกาสการจ้างงาน – เมืองใหญ่ เช่น พนมเปญ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การศึกษา และอุตสาหกรรม ทำให้มีประชากรอพยพเข้ามาทำงาน โครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม – พื้นที่ที่มีถนนและเส้นทางคมนาคมที่ดีจะดึงดูดผู้คนให้มาตั้งรกราก เช่น จังหวัดรอบ ๆ ทะเลสาบโตนเลสาบ (Tonle Sap) สภาพภูมิประเทศ – พื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือป่าไม้ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีประชากรเบาบาง . #วิเคราะห์พีระมิดประชากรกัมพูชา โครงสร้างเป็นพีระมิดฐานกว้าง– มีประชากรวัยเด็ก (0-14 ปี) และวัยแรงงานตอนต้น (15-29 ปี) จำนวนมาก แสดงถึงอัตราการเกิดที่ยังสูง แม้จะเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับอดีต อัตราการลดลงของประชากรเมื่ออายุสูงขึ้น– เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังวัย 50 ปีขึ้นไป สัดส่วนประชากรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงอายุขัยเฉลี่ยที่ยังไม่สูงมาก จำนวนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในวัยสูงอายุ– หลังอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเป็นแนวโน้มปกติในหลายประเทศ เนื่องจากอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงมักสูงกว่าผู้ชาย กัมพูชามีโครงสร้างประชากรที่ค่อนข้างหนุ่มสาว และมีกำลังแรงงานที่กำลังเติบโต ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ต่อไปนี้เป็นภาพรวมของประชากรและโครงสร้างวัยแรงงานของกัมพูชา: ภาพรวมประชากร ขนาดประชากร: ประมาณ 17 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. 2566) อัตราการเติบโต: อัตราการเติบโตของประชากรค่อนข้างสูง การกระจายตัว: ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท แต่การย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เมืองกำลังเพิ่มขึ้น โครงสร้างอายุ กัมพูชามีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก โดยมีสัดส่วนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานสูง สัดส่วนประชากรวัยแรงงานที่สูงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โครงสร้างวัยแรงงาน กำลังแรงงานส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมสิ่งทอ ภาคบริการ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว กำลังเติบโตและสร้างโอกาสการจ้างงานเพิ่มขึ้น รัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป ลักษณะเฉพาะของโครงสร้างประชากรและวัยแรงงาน ประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก: ก่อให้เกิดโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ก็มีความท้าทายในการสร้างงานและให้การศึกษาแก่เยาวชน การเปลี่ยนแปลงจากภาคเกษตรกรรมสู่ภาคอุตสาหกรรมและบริการ: ส่งผลต่อความต้องการแรงงานที่มีทักษะที่แตกต่างกัน การย้ายถิ่นฐาน: การย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมืองก่อให้เกิดความท้าทายในการจัดการกับการเติบโตของเมืองและสร้างโอกาสในการจ้างงานในเมือง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ประชากรวัยแรงงานที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การพัฒนาทักษะแรงงานเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกัมพูชาในเศรษฐกิจโลก การจัดการกับการเติบโตของเมืองและการสร้างโอกาสการจ้างงานในเมืองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีประชากรและโครงสร้างวัยแรงงานที่สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาทักษะแรงงานและการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต “กัมพูชาเข้ามาทำงานที่คนไทยไม่ทำ และอุตสากรรมก่อสร้างและอสังหาฯ ใช้แรงงานต่างด้าวเป็นหลัก” แรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาทำงานในประเทศไทยด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้: โอกาสในการหารายได้ที่สูงกว่า: ค่าแรงในประเทศไทยโดยทั่วไปสูงกว่าในกัมพูชา ทำให้แรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องการเข้ามาทำงานในไทยเพื่อหารายได้ที่มากขึ้น เพื่อส่งกลับไปจุนเจือครอบครัว ความต้องการแรงงานในประเทศไทย: ประเทศไทยมีความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรกัมพูชา🇰🇭 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง! ปริมาณการจราจรผ่านสะพานมิตรภาพ

  รถยนต์(คัน) รถโดยสาร(คัน) รถบรรทุก(คัน) สะพาน1   91503 51130 387692 % 17% 10% 73%   สะพาน 2 17251 5431 33141 % 31% 10% 59%   สะพาน 3 27323 6581 160689 % 14% 3% 83%   สะพาน 4  12202 792 88090 % 12% 1% 87%   ในยุคที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจและการคมนาคมมีความสำคัญ ข้อมูลปริมาณการจราจรทางถนนผ่านสะพานระหว่างประเทศที่มีด่านเก็บค่าธรรมเนียม  จึงเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินการเคลื่อนย้ายและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ . 1.ค่าธรรมเนียม หมายถึง ค่าบริการที่เรียกเก็บในการผ่านทางสะพานมิตรภาพที่กรมทางหลวงรับผิดชอบ 2.ปริมาณการจราจร หมายถึง ปริมาณยานพาหนะที่ใช้งานสะพานมิตรภาพ ทั้งขาเข้าและขาออก . ประเภทของรถที่ผ่านสะพานประเทศ รถยนต์ ได้เเก่  รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง, รถโดยยสาร ได้เเก่ รถโดยสารขนาดเล็ก 7 ที่นั่งแต่ไม่เกิน 12 ที่นั่ง,รถโดยสารขนาดเล็ก 7 ที่นั่งแต่ไม่เกิน 20 ที่นั่ง,รถโดยสารขนาดกลาง 12 ที่นั่ง แต่ไม่เกิน 24 ที่นั่ง,รถโดยสารขนาดใหญ่เกิน 20 ที่นั่ง,รถโดยสารขนาดใหญ่เกิน 24 ที่นั่ง รถบรรทุก ได้เเก่ รถบรรทุก 4 ล้อ,รถบรรทุก 6 ล้อ ,รถบรรทุก 10 ล้อ,รถบรรทุกเกิน 10 ล้อ . . ปริมาณการจราจรทางถนนผ่านสะพานระหว่างประเทศที่มีด่านเก็บค่าธรรมเนียม . สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์)     530,325 คัน  สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต)     55,823 คัน สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)         194,593 คัน  สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) 

พามาเบิ่ง! ปริมาณการจราจรผ่านสะพานมิตรภาพ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top