Nanthawan Laithong

ชวนเบิ่ง 5 อันดับอาณาจักรผลิตน้ำตาลเจ้าใหญ่ในภาคอีสาน

มีบริษัทใด๋แหน่?? อ้างอิงจาก: – CredenData #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ผลิตน้ำตาล #บริษัทผลิตน้ำตาล #โรงน้ำตาล #น้ำตาล

ชวนเบิ่ง 5 อันดับอาณาจักรผลิตน้ำตาลเจ้าใหญ่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “กลุ่มบริษัทต้องบุญ” ที่อยู่ในภาคอีสาน ผลประกอบการแต่ละบริษัทเป็นจังใด๋แหน่??

บริษัทต้องบุญปิโตรเลียมจำกัด เดิมจดทะเบียนในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัดปักธงชัย ปิโตรเลียม ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา และบริการค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ต่อมาธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในนามของ หจก.ปักธงชัยปิโตรเลียม มีการขยายตัวและเติบโตในอัตราที่สูงมาก ผู้บริหารจึงมีความเห็นให้แยกธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ใน ชื่อ บริษัท ต้องบุญปิโตรเลียม จำกัด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2540 โดย บริษัทต้องบุญปิโตรเลียม ก็ได้ปรับแกนของธุรกิจหลัก โดยมีจุดมุ่งหมายดำเนินธุรกิจ บริการขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ภายใต้นโยบายที่มุ่งหวังจะเป็นเลิศด้านการให้บริการค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันแก่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นฐานเติบโตมาจากผู้รับบริการ เมื่อเป็นผู้ให้บริการทำให้เรามีจุดเด่นการให้บริการที่ใส่ใจ เข้าใจความต้องการของลูกค้า จึงมุ่งมั่นให้สิ่งที่ดีที่สุด คุณภาพที่ดีที่สุดสู่ผู้รับบริการและลูกค้า ทำให้ บริษัท ต้องบุญปิโตรเลียม จำกัด เติบโตขยายขอบเขตธุรกิจตลอดมา ในปัจจุบัน เป็นบริษัทชั้นนำในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน และน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมให้บริการด้านการขนส่งที่เป็นหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มบริษัทต้องบุญ ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้่งในราชอาณาจักรและนอกราชอาณาจักรไทย ทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ให้บริการทุกพื้นที่ทั่วไทย โดยมีรถบรรทุกน้ำมันให้บริการกว่า 200 คัน รวมถึงบริการขนส่งน้ำมันให้กับแบรนด์น้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำของไทย อีกด้วย ดังนั้น บริษัทฯจึงเป็นผู้นำในธุรกิจ ที่พร้อมก้าวและเติบโตไปกับลูกค้าในธุรกิจจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเชื้อเพลิงและขนส่งน้ำมันเชื้อพลิง ที่ลูกค้าไว้วางใจเพราะบริษัทฯบริการด้วยคุณภาพและมาตรฐานสูงสุด “เพราะบริษัทฯเป็นหนึ่งด้านการค้าส่ง และบริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม “ อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทต้องบุญ #ต้องบุญปิโตรเลียม #ต้องบุญแอทเสท #ทีบีแทงค์แอนด์เทรลเลอร์ #ทีเอสเคโลจิสติกส์ #ที9

พามาเบิ่ง “กลุ่มบริษัทต้องบุญ” ที่อยู่ในภาคอีสาน ผลประกอบการแต่ละบริษัทเป็นจังใด๋แหน่?? อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง 4 ยักษ์ใหญ่แห่งอาณาจักรรับเหมาก่อสร้าง

ผลประกอบการเป็นจังใด๋แหน่ อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ #ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ #ไทยวัฒน์วิศวการทาง #โชคชัยการโยธา #ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง #รับเหมาก่อสร้าง

ชวนมาเบิ่ง 4 ยักษ์ใหญ่แห่งอาณาจักรรับเหมาก่อสร้าง อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง 5 สินค้าสุดคราฟต์จากวัตถุดิบของดีทั่วอีสานบ้านเฮา มีอิหยังแหน่??

1.เสื่อกกทอมือลายโมเดิร์น จังหวัด : อำนาจเจริญ เสื่อกกในความทรงจำของคนที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ Thorr คงไม่พ้นภาพอุปกรณ์ปูรองนั่งสามัญประจำบ้าน แต่คุณอุ๋งอิ๋ง-ธัญญ์นภัส กิ่งสุวรรณ เจ้าของแบรนด์ พิถีพิถันผัดแป้งเสื่อกกบ้าน ๆ แปลงโฉมเป็นโฮมแวร์ที่น่ารัก เพื่อถ่ายทอดความงดงามจากถิ่นอีสาน “ของบ้าน ๆ ที่ดูถ่อมตัวแต่มีรสนิยม วูบวาบฉาบฉวยแต่ไม่รุนแรงก้าวร้าว ไม่จำเป็นต้องเหนือกว่าคนอื่นหรือดูฟุ่มเฟือยตลอดเวลา” คือ นิยามคาแรกเตอร์อันย่นย่อแต่ชัดเจนของ Thorr จากคุณอุ๋งอิ๋ง    แบรนด์นี้มีสินค้ามากมาย ยกตัวอย่างเข่น เสื่อทอลายมินิมอล เจือสีครามไว้อย่างมีจังหวะ เพียงหางตาสัมผัสก็รู้ทันทีว่านี่แหละลายเซ็นซึ่งเจ้าของแบรนด์ฝากเอาไว้ หัตถศิลป์สไตล์โมเดิร์นเกิดจากสองมือของพี่น้องชาวอำนาจเจริญ     2.เซ็ตกาน้ำชาปั้นมือ จังหวัด : สกลนคร เครื่องเคลือบรูปทรงแปลกตา ลวดลายจากดินธรรมชาติไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ คือผลิตผลจากผืนดินแห่งบ้านดอนหมู จังหวัดสกลนคร   ดอนหมูดิน เป็นแบรนด์เทเบิลแวร์เนื้อเซรามิกชั้นดี เกิดจากความดิบแท้ดั้งเดิมวัถตุดิบขึ้นชื่ออย่างดินเหนียวในนา แร่ฟันม้า ดินเหนียวสีเหลือง เปลือกหอย และครามธรรมชาติ โดยมีจินตนาการของ คุณเปิ้ล-วัลย์ริยา เพ็งสว่างนักปั้น (เซรามิก) มือทอง และเอกลักษณ์ความเป็นสกลนคร    อีกทั้งยัง มีส่วนผสมสำคัญที่ถูกนำมาทำเป็นงานปั้นฟรีฟอร์ม ไม่รับปั้นรูปทรงตามใจ ไม่ใช้สีตามสั่ง ไม่ออกบูธตามงานแฟร์ใหญ่ ๆ เพราะดอนหมูดินบรรจงทำทุกขั้นตอนด้วยมือ ขอบข่ายงานสุดจิ๋วเพียงระดับชุมชนชาวบ้านเท่านั้น เอกลักษณ์ของสโตนแวร์จากดอนหมูดินคือทุกกระบวนการผลิตล้วนเป็นธรรมชาติ วิถี งานทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ของตัวเอง     3.ดิฟฟิวเซอร์หินทราย จังหวัด : นครราชสีมา หินทรายแผ่นแบนหน้ากลมสีพาสเทล ล้อมรอบด้วยไม้โอ๊กลายสวย เรียกว่า Sandstone Diffuser หรือหินทรายกระจายกลิ่นทรงแปลกตาจากนวยนาด (Nuaynard) แบรนด์ของคู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาทำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เครื่องหอมจากวัตถุดิบอีสาน    นวยนาดเปลี่ยนหินทราย วัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นชื่อแห่ง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ที่นิยมนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป เอาเศษเหลือใช้มาทำเป็นดิฟฟิวเซอร์สุดเก๋ ผ่านการร่วมงานกับดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น โคคิเอะ อะสึชิ (Koike Atsushi) ผสานเข้ากับฝีมืออัตลักษณ์ของกลุ่มช่างหินทรายท้องถิ่นแห่งบ้านซับศรีจันทร์ ฐานที่มั่นของนวยนาดในอำเภอสีคิ้ว แห่งเมืองโคราชบ้านเอ็ง กลายมาเป็นคอลเลกชัน Isan Material     4.เก้าอี้หวาย จังหวัด : มหาสารคาม หวาย นอกจากเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อในชุมชน ยังเพียบพร้อมไปด้วยความยืดหยุ่นทนทาน บิดตัดดัดงอได้อย่างอิสระ อย่างที่วัสดุชนิดอื่น ๆ ทำไม่ได้   คุณลิตเติ้ล-สมฤทัย บุญใหญ่ แห่งแบรนด์ LITIN จึงหันมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์โดยใช้หวายเป็นหลัก ผสมกับลวดลายกราฟิกร่วมสมัย ยิ่งได้ฝีมือการจักสานของพี่น้องชาวสารคามสูผู้สูคน งานที่ได้ จึงยังมีกลิ่นอีสานแฝงอยู่กับความประณีตสวยงามอย่างแนบเนียน เป็นลายเซ็นของแบรนด์ไปโดยปริยาย   LITIN พาฝีมือท้องถิ่นไปอยู่ตามโรงแรมและห้างร้านต่าง ๆ ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ยกตัวอย่างเช่น เก้าอี้สตูลสีสด แรงบันดาลใจจากรูปทรงตะโพน เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ความเจ๋ง คือ คุณลิตเติ้ลนำวัสดุผิวหวายเหลือใช้จากขั้นตอนการผลิตอื่น

ชวนเบิ่ง 5 สินค้าสุดคราฟต์จากวัตถุดิบของดีทั่วอีสานบ้านเฮา มีอิหยังแหน่?? อ่านเพิ่มเติม »

พาจอบเบิ่ง ศึกชิงโชห่วยเดือดสมรภูมิ “อีสาน” เป็นแนวใด๋แน่

สำหรับการเปิดศึกเพื่อแย่งชิงร้านค้าโชห่วยมาเป็นเครือข่ายของบรรดาซัพพลายเออร์-ค้าปลีกรายใหญ่ที่ลั่นกลองรบกันมาเกือบ 1 ปีเต็มๆ หากย้อนกลับไปจะพบว่า ทั้ง “บัดดี้มาร์ท” (สยามแม็คโคร)-“โดนใจ” (เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) ที่พร้อมใจก้าวเข้ามาท้ารบกับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” (ทีดี ตะวันแดง) เจ้าแรกที่ประกาศตัวช่วยชุบชีวิตบรรดาโชห่วยที่ว่ากันว่ามีอยู่ไม่ต่ำกว่า 4 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ให้กลับมาเติบโตได้อย่างมืออาชีพ “บีเจซี” ประกาศพร้อมรบ ล่าสุด กลางเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บีเจซี ได้ประกาศเปิดตัว “โดนใจ” บุกตลาดอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เริ่มมีการทำโครงการแบบซอฟต์ลอนช์ ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เบื้องต้นตั้งเป้าดึงร้านโชห่วยเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจ ประมาณ 4,000 ร้านค้า จากขณะนี้ที่ร้านค้าโชห่วยที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายแล้วประมาณ 1,000 ราย และในระยะยาวคาดว่าจะมี 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 ด้วยการใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีสาขาขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ในการป้อนสินค้าเข้าสู่ร้าน นอกจากนี้ยังมีแผนว่าในต้นปี 2566 จะมีการเปิดตัวพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าที่จะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ โดนใจ โฟกัสไปที่ร้านค้าปลีกในชุมชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านั้นมีจุดอ่อนในเรื่องของการบริหารจัดการ “บัดดี้มาร์ท” บุกอีสาน จากก่อนหน้านี้ (31ตุลาคม 2565) ที่ยักษ์ธุรกิจค้าส่ง “สยามแม็คโคร” ได้ฤกษ์เปิดตัว ร้านบัดดี้มาร์ท โมเดลธุรกิจที่มุ่งปรับปรุงร้านโชห่วยให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หลังจากที่เริ่มนำร่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยโฟกัสฐานลูกค้าสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการร้านโชห่วยในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน ซึ่งมีร้านโชห่วยหนาแน่น นอกจากนี้บริษัทยังมีการผนึกพันธมิตรที่เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ อาทิ ยูนิลีเวอร์ โอสถสภา เนสท์เล่ ไทยน้ำทิพย์ พีแอนด์จี มาจัดโปรโมชั่น แชร์ข้อมูลอินไซต์ลูกค้า จัดคอร์สอบรมด้านการบริการ-บริหารสต๊อกสินค้า รวมไปถึงดึงสถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงเทพ มาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโมเดลบัดดี้มาร์ทในเงื่อนไขพิเศษ เช่น สามารถกู้เต็มวงเงินลงทุน ผ่อนนาน 5 ปี ดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องและขาดความสามารถในการขอกู้เงินเพื่อปรับปรุงร้าน ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการโชห่วยและผู้ที่สนใจลงทุนร้านบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโคร ยังลดค่าลงทุนเริ่มต้นร้านบัดดี้มาร์ท 50% ฟรีค่าปรับปรุงร้าน 2 แสนบาท จากปกติที่ต้องใช้งบฯลงทุนเริ่มต้น 400,000 บาท (เงินค่าค้ำประกัน 200,000 บาท และค่าปรับปรุงร้าน 200,000 บาท) ถึง 31 ธ.ค. 2565 (จำกัดสิทธิ 300 ร้านค้าแรก) “ยอมรับว่า ในภาคอีสานจะเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มั่นใจว่า ด้วยความที่แม็คโครนั้นอยู่คู่กับร้านโชห่วย บวกกับจุดแข็ง เช่น เรื่องของอาหารสด ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากรายอื่น ๆ จะทำให้มีความได้เปรียบและเป็นที่ต้องการของร้านค้าในชุมชน” ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโครกล่าว “ถูกดี” ออนทัวร์ดึงลูกค้าข้ามปี ด้านต้นตำรับ “ถูกดี มีมาตรฐาน”

พาจอบเบิ่ง ศึกชิงโชห่วยเดือดสมรภูมิ “อีสาน” เป็นแนวใด๋แน่ อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “แฟรี่พลาซ่า” ห้างสรรพสินค้าดังเก่าแก่ในภาคอีสาน

“ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า” ผู้บุกเบิกธุรกิจห้างสรรพสินค้าของจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลายาวนานถึง 50 ปี ความภูมิใจอันยาวนาน คู่ตำนานนครขอนแก่น คุณวรพงษ์ พัฒนพีระเดช หรือ คุณวรพงษ์ แซ่โง้ว เป็นคนจังหวัดขอนแก่นโดยกำเนิด นับตั้งแต่ปี 2504 เริ่มต้นสร้างรากฐานและความก้าวหน้าจากมรดกคุณพ่อเป็นเงินสด 315 บาท กับ บ้านเช่าและจักรเก่าอย่างละ 1 หลัง ตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า “ฮั่วหลี” เป็นห้องแถวเล็กๆ ขนาด 1 คูหาเป็นร้านค้าตัดเสื้อผ้ากับการค้าขายเบ็ดเตล็ด คุณวรพงษ์ เริ่มต้นวงการค้าตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยที่ช่วงที่เคยทำที่ร้านของเขาซึ่งเป็นร้าน “ยี่ปั๊ว” ใหญ่ที่สุดในจังหวัดขอนแก่น ขณะนั้นด้วยวัยหนุ่มจึงพยายามเรียนรู้ พยายามจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาตรงหน้า เมื่อร้านของพี่เลยถูกไฟไหม้ เมื่อคราวไฟไหม้ตลาดขอนแก่นครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งนั้นพวกเขาไม่อยากทำการค้าต่อไปอีกจึงเซ้งกิจการทั้งหมดให้กับเถ้าแก่และภายใต้เงื่อนไขที่ว่า คุณวรพงษ์จะต้องอยู่ช่วยงานเขาด้วย คุณวรพงษ์อยู่ช่วยงานเถ้าแก่กิมสูงอยู่ 4 ปี ก็ออกมารับช่วงงาน ที่บ้านของตัวเอง ต่อมาเถ้าแก่ก็คิดขยายไปที่ทำเลใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม คุณวรพงษ์จึงคิดเอาบ้านไว้เอง เมื่อเถ้าแก่ย้ายไปแล้วคุณวรพงษ์จึงไปขอเช่า โดยตั้งชื่อร้านใหม่ว่า “ห้างแฟรี่” เมื่อปลายปี 2509 ต่อมาปี 2521 ได้ซื้อตึกแถว 3 ชั้น 9 คูหา เพิ่มที่จะทำห้างสรรพสินค้า แต่มีผู้ใหญ่และเพื่อนหลายคน เตือนว่าทำมาไกลเกินไป คุณวรพงษ์จึงทำการสำรวจตลาด โดยการจัดรายการขายสินค้าลดราคา 50% ทุกชิ้น ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับจากลูกค้า จนถึงกับต้องปิดร้านขายเมื่อเห็นว่าประสบความสำเร็จ จึงได้เปิด ห้างสรรพสินค้าแฟรี่ทาวน์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่น เมื่อกิจการเริ่มใหญ่ขึ้นก็ต้องมีงานที่ต้องควบคุมมากขึ้นในตอนนี้เองที่ คุณวรพงษ์ ได้นำการบริหารงานอย่างมีระบบมาใช้ในการดำเนินกิจการในช่วงนี้ โดยให้ลูกสาวคนโตคือ คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ เข้ามาดูแลกิจการก่อนต่อจากนั้นลูกสาวคนที่ 2 คุณโฉมสุรีย์ อนุพรรณสว่าง ก็เข้ามาช่วยดูแล ประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นลูกชายคนโต คุณพีระพล พัฒนพีระเดช ก็ได้เข้ามาช่วยอีกคนหนึ่งจนกิจการ สามารถขยายออกไปได้ถึง 17 คูหา เมื่อแฟรี่ทาวน์บริหารเริ่มคล่องตัวแล้ว คุณวรพงษ์ ก็กลับมาบริหารปรับปรุงแฟรี่ เดิมทำเป็น ศูนย์กิ๊ฟช็อปจัดสินค้า เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นโดยเฉพาะใช้ชื่อว่า “ห้างจูวีไนล์” ขยายจากเดิม 2 คูหาเป็น 3 คูหา โดยให้ลูกสาวคนที่ 2 คุณโฉมสุรีย์ อนุพรรณสว่าง เป็นผู้ดูแล จูวีไนล์เปิดตัว อย่างเป็นทางการในปี 2530 หลังจากจูวีไนล์ดำเนินกิจการได้ปีเศษ คุณวรพงษ์ใต้ซื้อที่ดินบริเวณถนนศรีจันทร์ เนื้อที่กว่า 9 ไร่ โดยมีโครงการที่จะสร้างศูนย์สรรพสินค้า ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ในปี 2530 โครงการศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายโครงการ ของบริษัทบนเนื้อที่ดังกล่าวได้เปิดดำเนินการขึ้นให้ชื่อว่า “ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า” ซึ่งเป็นการเปิดตัวอย่างสง่างามในความภูมิใจของชาวขอนแก่นที่มีศูนย์สรรพสินค้าที่ใหญ่สมบูรณ์และทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน แต่เปิดดำเนินการได้ไม่นาน

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “แฟรี่พลาซ่า” ห้างสรรพสินค้าดังเก่าแก่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง 7 อันดับบริษัทที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในภาคอีสาน

เปลี่ยนไปส่ำใด๋แหน่ . . . อ้างอิงจาก: – CredenData #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุด #มูลค่าบริษัทมากที่สุด #บริษัทในภาคอีสาน

ชวนเบิ่ง 7 อันดับบริษัทที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สถิติคนไทยซื้อ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ภาคอีสานอันดับหนึ่ง

ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันประจำปี 2565 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทยปี 2564 ระบุว่า มากถึง 52.6% ของกลุ่มตัวอย่างที่ทำการสำรวจ ไม่ถือว่า การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนัน ในขณะที่ 35.2% มองว่าเข้าข่ายการพนัน ส่วนอีก 12.2% ไม่แน่ใจ นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ การขยายตัวของธุรกิจการพนันเข้าสู่สังคมออนไลน์ ทำให้กลุ่มตัวอย่างถึง 13.9% ยอมรับว่า การได้พบเห็น ดารา นักร้อง หรือเน็ตไอดอล แสดงตัวว่าเล่นการพนัน มีส่วนกระตุ้นให้รู้สึกอยากเล่นการพนันด้วย ทั้งนี้ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” คือ การพนันยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทย โดยมีประมาณการของคนไทยที่เล่นสลากกินแบ่งรัฐบาลมากถึง 24,626,233 คน โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นเพศหญิง 12.6 ล้านคน (51%) เพศชาย 11.9 ล้านคน (49%) โดยสามารถแยกออกเป็นกลุ่มอายุดังต่อไปนี้ 15-18 ปี : 342,000 คน (1.39%) 19-25 ปี : 2.2 ล้านคน (8.93%) 26-29 ปี : 2.2 ล้านคน (8.93%) 30-39 ปี : 5.2 ล้านคน (21.12%) 40-49 ปี : 5.5 ล้านคน (22.33%) 50-59 ปี : 6 ล้านคน (24.36%) 60 ปีขึ้นไป : 2.9 ล้านคน (11.78%) พื้นที่ที่มีประชากรเล่นสลากกินแบ่งรัฐบาลมากที่สุด ได้แก่ 1. ภาคอีสาน : 8.1 ล้านคน หรือ 44.6% ของจำนวนประชากรในภูมิภาค 2. ภาคกลาง : 4.8 ล้านคน หรือ 44% ของจำนวนประชากรในภูมิภาค 3. ภาคเหนือ : 4.4 ล้านคน หรือ 45.9% ของจำนวนประชากรในภูมิภาค 4. กทม.ปริมณฑล : 4.3 ล้านคน หรือ 55.8% ของจำนวนประชากรในภูมิภาค 5. ภาคใต้ : 2.8 ล้านคน หรือ

พามาเบิ่ง สถิติคนไทยซื้อ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ภาคอีสานอันดับหนึ่ง อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง งานตรุษจีนโคราชที่ผ่านมา นทท.แห่เที่ยว “จอมพลถนนหัวมังกร 108 ปี” มื้อสุดท้ายคึกคักหลาย

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ศาลหลักเมืองโคราช นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา พร้อมคณะสมาชิกสภา ฯ ร่วมพิธีไหว้สักการะศาลหลักเมือง รวมทั้งเจ้าพ่อไฉ่ซิงเอี้ย พิธีสวดมนต์ไทย-จีน ทำบุญสะเดาะเคราะห์ปีชง กราบไหว้สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งภายในงาน “เทศกาลตรุษจีนโคราช จอมพลถนนหัวมังกร 108 ปี ถนนแห่งวัฒนธรรม” ท่ามกลางบรรยากาศวัฒนธรรมไทย-จีน มีการประกวดการแต่งกาย การร้องเพลงจีนโดยองค์กรคนไทยเชื้อสายจีน ชม ชิม ช้อป อาหารระดับภัตตาคารและอาหารท้องถิ่นกว่า 180 ร้าน อีกทั้งยังมี การแสดงเชิดมังกรความยาว 55 เมตร ฉลองครบรอบ 555 ปี เมืองนครราชสีมา การแสดงสิงโต-มังกรดอกเหมย การประกวดการแต่งกายในชุด Mr.Chinese new year “เจ้าพ่อเชียงใช้” การแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากากและมหัศจรรย์มนตรามายากล ท่ามกลางอากาศเย็นสบายพบนักท่องเที่ยวหลายพันคนเดินทางมาเที่ยวชมและพากันเซลฟี่บรรยากาศย้อนยุคกันอย่างเนืองแน่น เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมธรรมเนียมประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการย้อนรอยบอกเล่าความเป็นมา 108 ปี ถนนจอมพลชื่อเดิมถนนเจริญพาณิชย์ ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญของเมืองโคราชและภาคอีสาน อดีตเคยเป็นศูนย์กลางของความเจริญเปรียบเสมือนหัวมังกรที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาครวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไทยกับคนจีนทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันที่มีความผูกพันกันมายาวนานและกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อ้างอิงจาก https://www.bangkokbiznews.com/news/1049614 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #งานตรุษจีน #โคราช #เทศกาลตรุษจีนโคราช #จอมพลถนนหัวมังกร #นครราชสีมา

ชวนเบิ่ง งานตรุษจีนโคราชที่ผ่านมา นทท.แห่เที่ยว “จอมพลถนนหัวมังกร 108 ปี” มื้อสุดท้ายคึกคักหลาย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง แม่ค้าส้มตำเมื่อยใจหลาย มะนาวแพง 1,400 บาท/กระสอบ

แม่ค้าส้มตำโอด มะนาวแพง นอกจากมะนาวจะปรับราคาสูงขึ้นแล้ว ราคามะละกอยังขยับขึ้นรายวัน ล่าสุดมะนาวกระสอบละ 1,400 บาท มะละกอถุงละ 300 บาท แต่ยังต้องแบกรับต้นทุน ขายให้ลูกค้าในราคาเดิม ไม่ลดปริมาณเหตุเห็นใจลูกค้า ที่ร้านส้มตำอาหารอีสาน ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นางอุทัยวรรณ สีธรรา แม่ค้าส้มตำ เปิดเผยว่า ร้านตนเองขายส้มตำ ไก่ย่าง และอาหารอีสาน ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ราคามะนาวมีการขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะมีผลกระทบมาจากน้ำท่วม ซึ่งปกติมะนาวจะแพงช่วงหน้าแล้ง ประมาณเดือนเมษายน แต่ปีนี้แค่เดือนมกราคมราคาก็ปรับขึ้นแล้ว ซึ่งร้านของตนจะซื้อมะนาวครั้งละครึ่งกระสอบ ตอนนี้ราคามะนาวที่ซื้อมาครึ่งกระสอบอยู่ที่ 700 บาท เต็มกระสอบก็จะอยู่ที่ 1,400 บาท นอกจากราคามะนาวที่แพงขึ้นแล้ว ซึ่งทางร้านจะใช้มะนาวแป้นจะได้รสชาตที่หอมและอร่อย วัตถุดิบหลักอีกอย่างของส้มตำก็คือ มะละกอ ก็มีการปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนช่วงปีใหม่ เคยซื้อมะละกอเกรดเอ เป็นมะละกอพันธุ์ดำเนิน ถุงละ 350 บาท ที่ผ่านมาซื้อมาราคาถุงละ 300 บาท ราคาจะปรับขึ้น ๆ ลง แล้วแต่วัน ซึ่งราคานี้ถือว่าเป็นราคาที่ยังสูงอยู่ จากเดิมที่เคยซื้อมาถุงละ 240-260 บาทเท่านั้น ทำให้ทางร้านต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน แต่ยังคงขายให้ลูกค้าในราคาเท่าเดิม และไม่ลดปริมาณ เพราะสงสารลูกค้า อยากให้ลูกค้ากินอิ่ม สำหรับส้มตำแต่ละครก ก็จะใช้มะนาวครึ่งลูกถึงหนึ่งลูก แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง หากชอบเปรี้ยว ลูกค้าก็จะแจ้งก็จำเป็นต้องเพิ่มมะนาวไปให้ โดยทางร้านจะไม่ใช้น้ำมะนาวผสม หรือใช้มะขามเปียก เพราะรสชาติมันไม่ใช่ไม่อร่อยสู้ใช้มะนาวสดไม่ได้ หากถามว่าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยยังไง สิ่งที่อยากจะขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คือ อยากให้มีการคุมเข้มจากต้นทางให้ถูกลงกว่านี้ เศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง ข้าวของปรับตัวขึ้นสูงทุกอย่าง พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1047771 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #มะนาว #มหาสารคาม #ส้มตำ #มะนาวแพง #แม่ค้าส้มตำ

พามาเบิ่ง แม่ค้าส้มตำเมื่อยใจหลาย มะนาวแพง 1,400 บาท/กระสอบ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top