Nanthawan Laithong

พาสำรวจเบิ่ง ร้าน Studio7 มีหม่องใด๋แหน่ในภาคอีสาน

ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวที่คึกคัก ในตลาดสมาร์ตโฟนเมืองไทย หลังจากที่มีการเปิดจำหน่ายวันแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจในประเทศไทย นอกจาก Apple แล้ว ร้านค้าที่ขายสินค้าไอที ก็ได้รับอานิสงส์จาก iPhone 15 ไปด้วยไม่มากก็น้อย และหนึ่งในนั้นก็คือร้านชื่อดังอย่าง Studio7 โดยเป็นของบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือเรียกกันบ่อยๆว่า “COM7” ปัจจุบัน อาณาจักรธุรกิจของ COM7 ประกอบธุรกิจหลักๆ 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. ธุรกิจร้านค้าปลีก สินค้าไอทีและมือถือ – ร้าน BaNANA – ร้าน BKK และ Kingkong Phone – ร้าน Studio7 และ U-Store 2. ธุรกิจบริการลูกค้าทั่วไป – ร้าน iCare – ร้าน TRUE by Com7 3. ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านอุปกรณ์, ระบบ, โปรแกรมและโซลูชัน ให้กับองค์กรธุรกิจ รวมถึงสถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย และโรงเรียนต่างๆ จากการสำรวจภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า มีจำนวนร้าน Studio7 รวมทั้งสิ้น 17 แห่ง ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทฯ ปี 2564 มีรายได้ 51,154 ล้านบาท กำไร 2,630 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้ 63,025 ล้านบาท กำไร 3,037 ล้านบาท ปี 2566 (ครึ่งปี) มีรายได้ 33,351 ล้านบาท กำไร 1,577 ล้านบาท อ้างอิงจาก: – MarketThink – Studio7 Thailand ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน …

พาสำรวจเบิ่ง ร้าน Studio7 มีหม่องใด๋แหน่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง ธุรกิจที่พักนอกเขตเมือง แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน

ในปี 2565 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนธุรกิจที่พักนอกเขตเมือง อยู่ที่ 4,727 ราย โดย 5 อันดับจังหวัดที่ธุรกิจที่พักนอกเขตเมืองมากที่สุด อันดับที่ 1 นครราชสีมา 931 ราย อันดับที่ 2 อุบลราชธานี 445 ราย อันดับที่ 3 เลย 379 ราย อันดับที่ 4 ขอนแก่น 327 ราย อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 270 ราย หากดูที่อันดับจังหวัดที่มีธุรกิจที่พักนอกเขตเมืองมากที่สุด จะเห็นได้ว่าอันดับที่ 1,2 คงหนีไม่พ้นจังหวัดหัวเมืองหลักของภาคอีสาน อย่างนครราชสีมาและอุบลราชธานี แต่ที่น่าจับตามองที่สุดคือ “จังหวัดเลย” มากเป็นอันดับ 3 โดยอำเภอ “เชียงคาน” มีจำนวนที่พักแรมมากที่สุด อยู่ที่ 148 ราย โดยเชียงคานก็มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังที่หลากหลาย อีกทั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล, วิสาหกิจชุมชน และส่วนบุคคล เฉพาะประเภทที่พักแรมนอกเขตเมือง (ไม่รวมอำเภอเมือง) รหัสธุรกิจ 55 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2565 อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ธุรกิจที่พักนอกเขตเมือง

ชวนเบิ่ง ธุรกิจนมจากอีสาน และ เวียดนาม

เริ่มต้นที่ “DAIRY HOME” แบรนด์นมจากอีสานบ้านเรา ปีก่อตั้ง 2542 “แดรี่โฮม” ถือกำเนิดขึ้นด้วยการจำหน่ายนมในขวดแก้ว น้ำนมที่ใช้เป็นนมออร์แกนิก ซื้อจากฟาร์มโคนมที่รู้จักกันให้ราคาสูงกว่าท้องตลาด อีกทั้งยังเป็นนมออร์แกนิกเจ้าแรกของไทย เป็นการทำฟาร์มโคนมแบบไม่มีการใช้สารเคมี ยาปฏิชีวนะ หรือ ฮอร์โมน ในระหว่างการเลี้ยงดู เพื่อให้ได้น้ํานมที่มีคุณภาพดี คือ นมออร์แกนิก ในขณะที่ “VINAMILK” แบรนด์นมรายใหญ่จากเวียดนาม ก่อตั้งโดยบริษัท Southern Coffee-Dairy ซึ่งในปัจจุบัน VINAMILK ทำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนมกว่า 250 รายการ ตั้งแต่นมโคพร้อมดื่ม, นมถั่วเหลือง, นมผง, โยเกิร์ต และไอศกรีม เป็นผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และมีโรงงานผลิตกว่า 15 แห่ง กระจายอยู่ทั้งในเวียดนาม กัมพูชา และสหรัฐอเมริกา แถมยังมีการส่งออกกว่า 55 ประเทศทั่วโลก อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – ลงทุนแมน – ทันหุ้น – เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ธุรกิจนม #DAIRYHOME #แดรี่โฮม #VINAMILK

ชาวอีสานรอลุ้น! ฟ้าวชงครม.เคาะผลศึกษา สร้างท่าเรือบกขอนแก่น-นครราชสีมา

ความคืบหน้าดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เบื้องต้นกทท.มีแผนนำร่องโครงการฯในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และ นครราชสีมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบความเป็นไปได้ในการลงทุนของโครงการฯ โดยใช้ระยะเวลาการศึกษาประมาณ 7 เดือน คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2567 หรือภายในกลางปี 2567 ส่วนจะเสนอโครงการต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้เมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาในครั้งนี้ ซึ่งจะพิจารณาจากการลงทุนในรูปแบบการเปิดประมูล PPP หรือเชิญภาคเอกชนร่วมลงทุนโดยมีกทท.เป็นแกนนำเพื่อดำเนินการ หลังจากนั้นจะเสนอผลการศึกษาของโครงการได้ภายในปี 2567 คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2568 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572 แนวโน้มของโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) จะใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) หรือไม่นั้น ต้องพิจารณากรอบระยะเวลาด้วย เพราะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ (PPP) เบื้องต้นมีภาคเอกชนส่วนใหญ่เล็งเห็นว่าการพัฒนาท่าเรือบกควรมีความยืดหยุ่นและมีความคล่องตัว โดยกทท.อาจเป็นผู้ดำเนินการและให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ซึ่งกทท.จะต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียรูปแบบในเรื่องนี้ รวมทั้งระยะเวลาการลงทุนให้สั้นลงเพื่อให้โครงการเกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนสาเหตุที่กทท.ได้เลือกพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นมีซับพพลายและดีมานด์ที่มีสินค้าเกษตรค่อนข้างมาก อีกทั้งเป็นจังหวัดที่เป็นจุดศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าในภูมิประเทศที่สามารถเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว การลงทุนท่าเรือบก จะต้องพิจารณาระยะทางในการลงทุนโครงการฯเพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าด้วย ซึ่งควรมีระยะทางอยู่ที่ 300-500 กิโลเมตร (กม.) พบว่า ประเทศสปป.ลาวมีการพัฒนาท่าเรือบกแล้วเสร็จอยู่ที่บริเวณท่านาแร้ง มีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (กม.) ส่วนการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มีระยะทางไม่เกิน 500 กิโลเมตร (กม.) ทำให้สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดขอนแก่นสามารถยกระดับเป็นท่าเรือบกระหว่างประเทศ (International Dry Port) ได้ แต่หากพื้นที่การพัฒนาโครงการอยู่ใกล้เกินไปจะทำให้การลงทุนไม่เกิดความคุ้มค่า ขณะที่พื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมานั้น กทท.มองว่า เป็นจังหวัดใหญ่มีพื้นที่สินค้าเกษตรค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์รวมการขนส่งสินค้าในแถบภาคอีสานตอนใต้ สามารถเชื่อมต่อกับประเทศสปป.ลาวตอนใต้และเมียนมา ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีจุดแข็งที่สามารถดำเนินการโครงการฯได้ สำหรับท่าเรือบก จังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านโนนพยอม ต.ม่วงหวาน อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น ใช้พื้นที่ 1,500-2,000 ไร่ ส่วน จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ส่วนโครงการท่าเรือบก จังหวัดนครราชสีมา มีการเสนอทำเลที่ตั้งใหม่ คือ บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่นํ้า อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งติดกับสถานีรถไฟและถนน รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยประสบปัญหานํ้าท่วมด้วย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะใช้พื้นที่เดิมหรือพื้นที่ใหม่ โดยต้องพิจารณาให้เหมาะสม เนื่องจาก จ.นครราชสีมา เป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตอนล่าง มีการขนส่งสินค้าเกษตรจำนวนมาก อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/business/economy/576416 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE …

ชาวอีสานรอลุ้น! ฟ้าวชงครม.เคาะผลศึกษา สร้างท่าเรือบกขอนแก่น-นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก JPARK เจ้าของลานจอดรถร้อยล้าน ที่กำลังเข้าสู่ตลาดหุ้น มีลานจอดรถหม่องใด๋แหน่ในภาคอีสาน

จุดเริ่มต้นของ JPARK ก่อตั้งโดย คุณสันติพล เจนวัฒนไพศาล โดยในช่วงแรกให้บริการออกแบบและศึกษาความเป็นไปได้ทางวิศวกรรมในการลงทุน โครงการก่อสร้างสนามบินในพื้นที่ต่างจังหวัด ต่อมาเห็นโอกาสของผู้ขับขี่รถยนต์ที่มักมีปัญหาในการหาที่จอดรถ ทำให้เริ่มคิดโมเดลของการให้บริการที่จอดรถยนต์ครั้งแรกขึ้น JPARK เริ่มทำที่จอดรถยนต์ครั้งแรกในปี 2545 ในพื้นที่ตลาดสดสามย่าน ถนนพญาไท ที่ถือว่าเป็นแหล่งที่หาที่จอดรถยนต์ยากมากที่สุดที่หนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งการเริ่มต้นของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้บริษัทหาพื้นที่ทำที่จอดรถยนต์ใหม่ๆ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน JPARK ได้มีการขยายพื้นที่ให้บริการที่จอดรถยนต์ 42 แห่ง มีช่องจอดกว่า 13,500 คัน โดยแบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 39 แห่ง และต่างจังหวัด 3 แห่ง ในหลายพื้นที่ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น สยามสแควร์วัน, บริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5 แห่ง หรือในพื้นที่ ท่าอากาศยานขอนแก่น และ ท่าอากาศยานอุบลราชธานี อย่างไรก็ตามสำหรับการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ บริษัทจะมีการเสนอขายหุ้น 110,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.50% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยจะนำเงินไปใช้ในการลงทุนโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และใช้เป็นเงินทุนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งการเข้าตลาดหุ้นน่าจะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดดให้กับบริษัท อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – BrandCase – Thairath Money ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #JPARK #ธุรกิจลานจอดรถ #ลานจอดรถ #เจนก้องไกล

ชวนพี่น้องมาเบิ่ง ธุรกิจร้านขายของชำ อีสานมีหลายเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ

ในปี 2565 ประเทศไทยมีจำนวนธุรกิจร้านขายของชำทั้งหมด 9,893 ราย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีธุรกิจร้านขายของชำมากที่สุด อยู่ที่ 3,733 ราย รองลงมา คือ ภาคกลาง 2,112 ราย ในขณะที่อันดับที่ 3 คือ ภาคเหนือมีจำนวน 1,959 ราย ตามด้วย ภาคใต้ 1,416 และ ภาคตะวันออก 673 ราย หมายเหตุ: เป็นข้อมูลจำนวนธุรกิจ SME ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2565 อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #SMEs #ธุรกิจSME #ร้านขายของชำ

พาจอบเบิ่ง 4 อาณาจักรยักษ์ใหญ่แห่งภูธร ที่ครองสิทธิบริหาร 7-Eleven

การเข้ามาของร้าน “เซเว่น-อีเลฟเว่น” เมื่อ 34 ปีที่แล้ว นอกจากพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล “ซีพี ออลล์” ต้องการบุกตลาดต่างจังหวัดควบคู่ไปด้วย “กลุ่มซีพี” จึงให้ “Sub-Area License” กับ 4 กลุ่มทุนรายใหญ่ใน 4 พื้นที่ ได้แก่ กลุ่มตันตราภัณฑ์ กลุ่มงานทวี กลุ่มยิ่งยง และกลุ่มศรีสมัย การเติบโตของ “4 กลุ่มทุนเก่าแก่” มีต้นกำเนิดจากร้านโชห่วย-ขายของชำ ก่อนแตกไลน์ธุรกิจไปยังเซกเมนต์อื่นๆ โดยกลุ่มตันตราภัณฑ์โด่งดังจาก “ห้างตันตราภัณฑ์” กลุ่มยิ่งยงโตจาก “ยิ่งยงสรรพสินค้า” กลุ่มศรีสมัยมีรากฐานจาก “ศรีสมัยค้าส่ง” ส่วนกลุ่มงานทวีมีธุรกิจหลากหลาย จากร้านของชำพลิกไปทำเหมืองแร่-สวนยางพารา ทั้ง “4 กลุ่มทุน” มีรายได้จากการถือ “Sub-Area License” หลักพันล้านบาททุกปี หลักการ คือ หากบริษัทแม่ให้สิทธิ “Sub-Area License” แก่แฟรนไชส์ซีเจ้าใดเจ้าหนึ่งไปแล้ว จะไม่มีใครได้รับสิทธิให้เข้ามาเปิดกิจการในอาณาเขตเดียวกันได้อีก ซึ่งอำนาจในการบริหารของผู้ได้รับซับไลเซนส์ยังสามารถขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจเปิดร้านค้า “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ได้ด้วย เพื่อให้การขยายสาขาเป็นไปตามที่ผู้ถือไลเซนส์ตกลงกับบริษัทแม่ไว้ ในการเลือกผู้ที่จะมาถือสิทธิ “Sub-Area License” จึงต้องมีความเข้าใจตลาดในพื้นที่เป็นอย่างดี “ซีพี ออลล์”ปิดดีลให้สิทธิถือซับไลเซนส์กับ 4 กลุ่มทุนภูธรตั้งแต่ทศวรรษ 2530 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มตันตราภัณฑ์ กลุ่มงานทวี กลุ่มยิ่งยง และกลุ่มศรีสมัย ทั้ง 4 กลุ่มทุนมีประวัติศาสตร์ที่มาที่ไปในการดำเนินธุรกิจในพื้นที่มายาวนาน โดยนอกจากการทำธุรกิจถือสิทธิซับไลเซนส์ในพื้นที่แล้ว 4 กลุ่มทุนนี้ยังประกอบกิจการอื่นๆ ในเซกเมนต์ที่ใกล้เคียงกันด้วย อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – กรุงเทพธุรกิจ ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #7Eleven #กลุ่มตันตราภัณฑ์ #กลุ่มงานทวี #กลุ่มยิ่งยง #กลุ่มศรีสมัย

เริ่ดคักหลาย Audi ตั้งเป้าขาย 1,600 คัน ดึงกลุ่ม Car Hero เปิดตลาด “อาวดี้ โคราช”

เดินหน้ารุกตลาดรถหรูต่อเนื่อง สำหรับอาวดี้ ประเทศไทย ล่าสุดส่งดีลเลอร์เปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการ “อาวดี้ โคราช” และรับจองรถรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี RS Q3 Sportback edition 10 จำนวนจำกัด 555 คัน ราคา 5,299,000 บาท ภาพรวมตลาดรถหรูในปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายรวม 3 หมื่นคัน ในส่วนของ อาวดี้ ตั้งเป้ายอดขาย 1,600 คัน เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงปลายปีอาวดี้เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง 1-2 รุ่น พร้อมทั้งขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 9 สาขาภายในปีนี้ ล่าสุด อาวดี้ ได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการอาวดี้ โคราช จังหวัดนครราชสีมา โดยสาขานี้ใช้งบลงทุน 250 ล้านบาท (ดีลเลอร์คือกลุ่มทุน Car Hero ผู้ดำเนินธุรกิจรถมือสองรายใหญ่) ภายใต้พื้นที่ใช้สอยกว่า 1,500 ตารางเมตร จัดแสดงรถได้มากถึง 9 คัน ด้านบริการหลังการขาย ศูนย์บริการมีจำนวน 5 ช่องซ่อม และสามารถต่อขยายเพิ่มอีกกว่า 10 ช่องซ่อม ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 250 คัน/เดือน (3,000 คัน/ ปี) และอนาคตคาดว่าสามารถรองรับได้กว่า 700 คัน/เดือน เมื่อขยายเพิ่ม โดยจุดเด่นของโชว์รูมและศูนย์บริการอาวดี้ โคราช ดูแลครบวงจรตั้งแต่ขายรถใหม่ไปจนถึงการบริการหลังการขาย และด้วยทำเลที่ตั้ง อยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ รองรับลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมา และอีสานตอนล่าง ทั้ง ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/motor/motor/576153 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #Audi #อาวดี้โคราช

ชวนเบิ่ง การลงทุนในภาคอีสานของนักลงทุนจาก 2 ประเทศมหาอำนาจ

การลงทุนของนักลงทุนจากจีนในอีสานตั้งอยู่ในพื้นที่ NeEC เป็นหลัก ซึ่งเป็นเส้นเชื่อมระหว่างเขตขยาย แนวทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับจีน โดยกิจการส่วนใหญ่เป็นภาคการค้า โดยเฉพาะการขายส่งสินค้านำเข้าในกลุ่มสินค้าทุน เครื่องจักร อุตสาหกรรม และภาคการผลิตในกลุ่มสินค้านํ้าตาล และยาง ในขณะที่การลงทุนของนักลงทุนจากอเมริกันในอีสาน ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในนครราชสีมา และเป็นกาคการผลิตเป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่มีขนาดเล็กเป็นหลัก แต่มีการจดทะเบียนธุรกิจขนาคใหญ่จากบริษัทเคียวเซร่าที่ผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารและมัลติฟังก์ชั่น ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #การลงทุน #การลงทุนในภาคอีสาน #การลงทุนของจีน #การลงทุนของอเมริกัน

พามาฮู้จัก “สุกี้ตี๋น้อย” ร้านสุกี้เจ้าดังในดวงใจของชาวบุฟเฟ่ต์ เตรียมเปิดสาขาแรกของอีสาน

“สุกี้ตี๋น้อย” ธุรกิจที่ก่อตั้งในปี 2562 โดยคุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช ภายหลังมี JMART เข้ามาถือหุ้นสัดส่วน 30% คิดเป็นเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ทำให้กิจการสุกี้ตี๋น้อย มีมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท เส้นทางการสร้างธุรกิจของ คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ใช้เวลาเพียง 4 ปี สร้างแบรนด์ “สุกี้ตี๋น้อย” ให้เป็นที่รู้จักในตลาดสุกี้ สิ่งสำคัญที่เลือกทำร้านสุกี้ เพราะเห็นช่องว่างในตลาด ทั้งรูปแบบบุฟเฟ่ต์และราคา value for money 199 บาท (ปัจจุบันราคา 219 บาท) เพื่อจับตลาดแมส ทำให้ “สุกี้ตี๋น้อย” กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ลูกค้าต่อคิวใช้บริการแน่นทุกสาขา จุดเริ่มต้น ครอบครัวของคุณเฟิร์นเคยมีประสบการณ์ทำธุรกิจร้านอาหาร “เรือนปั้นหยา” มาก่อน แต่มี Pain Point ในเรื่องการรักษาคุณภาพของรสชาติอาหารให้คงที่เมื่อต้องขยายสาขาจำนวนมาก เพราะด้วยลักษณะธุรกิจที่ต้องทำอาหารเสิร์ฟจานต่อจาน คุณเฟิร์นจึงเริ่มมองหาธุรกิจร้านอาหารที่สามารถควบคุมมาตรฐานรสชาติได้ง่าย ไม่ว่าลูกค้าจะไปใช้บริการสาขาไหน รสชาติอาหารก็เหมือนกัน ซึ่งร้านสุกี้ ชาบู สไตล์บุฟเฟต์ สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จนกลายมาเป็นแบรนด์สุกี้ตี๋น้อยอย่างในปัจจุบัน ในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ “สุกี้ตี๋น้อย” พร้อมเปิดสาขา โดยเป็นสาขาแรกของภาคอีสานที่ Terminal21 นครราชสีมา แน่นอน ชาวอีสานเตรียมตัวให้พร้อม! อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, – Brand Buffet – THE BANGKOK INSIGHT ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #สุกี้ตี๋น้อย #สุกี้ตี๋น้อยสาขาแรกในอีสาน

Scroll to Top