Nanthawan Laithong

ชวนมาเบิ่ง ผลประกอบการ “โรงพยาบาลเอกชน” ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์

ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาจากโครงสร้างประชากรและอัตราการเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงข้อบังคับทางกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตน ส่งผลให้โรงพยาบาลมีรายได้เพิ่มจากระบบประกันสังคมโดยผู้ประกันตนที่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลสูงถึง 13.7 ล้านคน รวมถึงสวัสดิการประกันกลุ่มที่บริษัทเอกชนมอบให้แก่พนักงานจำนวนกว่า 2.6 ล้านกรมธรรม์   โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนรวมกว่า 14,300 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์มีมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนรวมกว่า 4,471 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 31.3% ของมูลมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตที่มีข้อจำกัดมากขึ้นกว่าในอดีต จำนวนประชากรเริ่มลดลงประกอบกับกระแสการตื่นตัวในการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยจากการที่ตระหนักถึงค่ารักษาพยาบาลที่สูงเมื่อเทียบกับรายได้ ที่แม้จะมีสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลจากประกันสุขภาพแต่ก็ยังพบว่า หลายครั้งผู้ใช้บริการยังต้องชำระเงินส่วนเกินของค่ารักษา ทำให้อัตราการเข้าโรงพยาบาลในอนาคตอาจมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในภาพรวมเริ่มประสบความท้าทาย     อ้างอิงจาก:  – ttb analyticsc – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – เว็บไซต์ของบริษัท   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #โรงพยาบาลเอกชน #โรงพยาบาลเอกชนในอีสาน #โรงพยาบาลราชพฤกษ์ #โรงพยาบาลจุรีเวชร้อยเอ็ด #โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ธนบุรี #โรงพยาบาลมหาสารคามอินเตอร์เนชั่นแนล

ชวนมาเบิ่ง ผลประกอบการ “โรงพยาบาลเอกชน” ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง “ฟาร์มหมู” รายใหญ่แห่งแดนอีสาน🐷

ภาคอีสานมีธุรกิจฟาร์มหมูธุรกิจฟาร์มหมูที่จดทะเบียนในกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามากที่สุดในประเทศ อยู่ที่ 247 แห่ง คิดเป็นสัดส่วน 34.1% โดยธุรกิจฟาร์มหมู่รายใหญ่ส่วนมากจะอยู่ในภาคอีสานตอนล่าง อย่างจังหวัดบุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครราชสีมา และอุบลราชธานี เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขทางธรรมชาติที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงหมูและการผลิตเนื้อหมูในพื้นที่นี้ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมในการทำธุรกิจฟาร์มหมูและยังมีการพัฒนาฐานพื้นที่สำหรับฟาร์มและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีฟาร์มหมูจำนวนมากในพื้นที่นี้   ซึ่งฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานนั่นก็คือ บริษัท ทองอุไรพัฒนา จำกัด ทุนจดทะเบียนกว่า 880 ล้านบาท และรองลงมา คือ บริษัท อาร์.เอ็ม.ซี.ฟาร์ม จำกัด มีทุนจดทะเบียนกว่า 700 ล้านบาทนั่นเอง   ในประเทศไทยมีหมูทั้งหมดกว่า 12 ล้านตัว แล้วรู้หรือไม่ว่าหมูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมากแค่ไหน?   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีหมูมากกว่า 2.7 ล้านตัว หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.1% ของจำนวนหมูทั้งหมดในประเทศ และมีเกษตรกรที่เลี้ยงหมูอยู่ทั้งหมด 68,617 คน หรือคิดเป็น 45.7% ของจำนวนเกษตรกรที่เลี้ยงหมูในประเทศ         5 อันดับจังหวัดที่หมูมากที่สุดในภาคอีสาน อันดับที่ 1 จังหวัดนครราชสีมา มีจำนวน 466,088 ตัว อันดับที่ 2 จังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวน 241,951 ตัว อันดับที่ 3 จังหวัดอุดรธานี มีจำนวน 227,451 ตัว อันดับที่ 4 จังหวัดชัยภูมิ มีจำนวน 186,673 ตัว อันดับที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวน 158,899 ตัว   ปัจจุบันจำนวนสุกรเลี้ยงในไทยยังคงไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของ ASF โดยคิดเป็นเพียง 86% ของภาวะปกติก่อนเกิดโรคระบาด โดยผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยบางส่วนยังเผชิญภาวะขาดทุนสะสมจากผลของ ASF จนต้องเลิกกิจการ ทำให้อุปทานสุกรส่วนใหญ่จะมาจากผู้เลี้ยงรายกลาง-ใหญ่มากขึ้น โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จาก 72% ของผลผลิตสุกรในปี 2564 มาเป็น 74% ในปี 2566     ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมเนื้อสุกรในระยะข้างหน้า   จำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มลดลง โดยประชากรไทยได้ลดจำนวนลงตั้งแต่ปี 2563 มาอยู่ที่ 66.2 ล้านคน และลดต่อเนื่องมาในปี 2566 อยู่ที่ 66.1 ล้านคน ซึ่งระยะข้างหน้า คาดว่าจำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก กระทบต่อการบริโภคเนื้อสุกร โดยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การบริโภคเนื้อสุกรของไทยอาจโตได้ต่ำเฉลี่ยราว 0.6% ต่อปี   จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ปัจจุบันไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) และคาดว่าในปี

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง “ฟาร์มหมู” รายใหญ่แห่งแดนอีสาน🐷 อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาอัพเดตเบิ่ง แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอีสาน☔️🌧️🌊

จังหวัดเชียงราย และหนองคาย รวมไปถึงจังหวัดในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ที่มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อตรวจสอบพบว่าต้นตอ มาจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ที่พัดเข้าประเทศจีน พม่า และลาว โดยตรง น้ำท่วมหนัก ใน 3 ประเทศดังกล่าว ว่ากันว่า หนักสุดในรอบมากกว่า 30 ปี   🌧️โดยมีฝนตกในพื้นที่พม่า จีน และ สปป.ลาว ในปริมาณมาก โดย สปป.ลาวนั้น มีพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำโขงมากที่สุด รองลงมาคือ ประเทศไทย และจีน 10% แต่ที่ท่วมที่เชียงราย คือ น้ำโขงที่มาจากประเทศพม่า ส่วนที่หนองคายนั้น มาจาก สปป.ลาว ซึ่งมีจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกัน น้ำดังกล่าวนี้ ค่อยๆ ไหลเข้ามายังประเทศไทย เรียกน้ำนี้ว่า น้ำท่า   สาเหตุ “น้ำโขงล้น” มีสาเหตุมาจากอะไร?   การสร้างเขื่อนขวางโขงของจีนนั้นส่งผลในแทบทุกมิติตลอดทั้งพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม ระบบนิเวศ ซึ่งเขื่อนขวางโขงอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนและหลายอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิม น้ำโขงก็จะค่อยๆ ไหลมาเรื่อยๆ ด้วยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามหาศาล ทั้งที่ลงในแม่น้ำโดยตรง และไหลลงมาหลังจากมีการตกลงข้างทาง น้ำโขงผ่าน หนองคาย น้ำก็เอ่อล้นเมือง จนเกิดน้ำท่วมหนัก เมื่อผ่านหนองคายไปแล้ว ก็จะไปยังบึงกาฬ นครพนม อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และค่อยๆ ลดลงตามระยะทาง   🌳สาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมหนักคราวนี้ นั้นคือ ปริมาณป่าไม้ในประเทศไทย ที่ทางมูลนิธิสืบออกมาเปิดเผยว่า 1 ปี ที่ผ่านมา ป่าไม้ในประเทศไทย ลดลง กว่า 3 แสนไร่ ถือเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 30-40 ปี     ⚠️แจ้งเตือน!! ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 12 – 18 กันยายน 2567   📍เชียงราย บริเวณสถานีเชียงแสน อ.เชียงแสน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 0.50 – 0.70 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 3.40 เมตร 📍เลย บริเวณสถานีเชียงคาน อ.เชียงคาน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00 – 3.60 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50 – 1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13 – 16 ก.ย. 67 📍หนองคาย บริเวณสถานีหนองคาย

🔎พาอัพเดตเบิ่ง แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอีสาน☔️🌧️🌊 อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง ภาคอีสานใช้ไฟฟ้ากว่า 23,241 ล้านกิโลวัตต์ กระจายอยู่ไหนบ้าง

ในปี 2565 ประเทศไทยมีพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายและใช้จำนวน 141,001 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง แล้วรู้หรือไม่ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายและใช้อยู่จำนวนเท่าไหร่?   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายและใช้อยู่จำนวน 23,241 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 16.5% ของพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายและใช้ทั้งหมดในประเทศ ถือว่ามากเป็นอับดับที่ 2 ของประเทศเลยทีเดียว โดยเป็นรองเพียงภาคกลางเท่านั้นที่ มีพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายและใช้อยู่ที่ 84,028 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง    เมื่อลงลึกไปดูการใช้ไฟฟ้าเป็นประเภทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็พบว่า การใช้ไฟฟ้าในบ้านอยู่อาศัยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 90.8% รองลงมา คือ ใช้ในธุรกิจ 7.2% และใช้ไฟฟ้าสูบน้ำเพื่อการเกษตร 0.04%    แต่เมื่อไปดูการใช้ไฟฟ้าสูบน้ำเพื่อการเกษตร พบว่า ภาคอีสานใช้ไฟฟ้าสูบน้ำเพื่อการเกษตรมากกว่า 45.5% ของการใช้ไฟฟ้าสูบน้ำเพื่อการเกษตรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งสาเหตุนั่นก็คือภาคอีสานเป็นแหล่งภาคการเกษตรที่สำคัญของประเทศนั่นเอง     5 อันดับจังหวัดที่มีการใช้ไฟฟ้ามากที่สุด   อันดับที่ 1 นครราชสีมา 6,263 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง อันดับที่ 2 ขอนแก่น 2,579 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง อันดับที่ 3 อุบลราชธานี 1,712 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง อันดับที่ 4 อุดรธานี 1,622 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 1,313 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง   จะเห็นได้ว่า นครราชสีมามีการใช้ไฟฟ้ามากที่สุด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่และยังเป็นแหล่งศูนย์กลางความเจริญของภาคอีสาน อีกทั้งยังมีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นมากมายในช่วง 10 ปีหลัง และนครราชสีมายังเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และวังน้ำเขียว จึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการบริการเกิดขึ้นใหม่มากมาย ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าจึงมากกว่าทุกจังหวัด    อีกทั้งการใช้ไฟฟ้าที่มากทั้ง 5 จังหวัด ซึ่งอาจสะท้อนว่ามีครัวเรือนรายได้สูงอาศัยอยู่มากเนื่องจากความเจริญทางเศรษฐกิจและความสะดวกในการคมนาคม   ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าสามารถใช้เป็นตัวแทนที่บ่งบอกการกระจายตัวของรายได้ครัวเรือนได้ ดังนั้น ความเหลื่อมล้ำในการใช้ไฟฟ้าจึงสามารถใช้เป็นตัวแทนเพื่อบ่งบอกความเหลื่อมล้ำของรายได้ครัวเรือนได้เช่นกัน ความเหลื่อมล้ำมีการเคลื่อนไหวตามฤดูกาล    โดยความเหลื่อมล้ำจะสูงที่สุดในฤดูร้อน และต่ำที่สุดในฤดูหนาว ซึ่งความมีฤดูกาล (seasonality) ของความเหลื่อมล้ำนี้เอง สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนถึงความเหลื่อมล้ำในการถือครองเครื่องใช้ไฟฟ้าของครัวเรือน เพราะครัวเรือนรายได้สูงมักถือครองเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องปรับอากาศ มากกว่า และจะมีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้สูงขึ้นในฤดูร้อน จึงทำให้ระดับการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนรายได้สูงแตกต่างจากครัวเรือนรายได้ต่ำอย่างชัดเจนในฤดูร้อนของทุกปี นอกจากความเหลื่อมล้ำในการใช้ไฟฟ้าจะแสดงความเป็นฤดูกาลภายในแต่ละปีแล้ว ยังมีแนวโน้มระยะยาวที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเหลื่อมล้ำของรายได้ที่สูงขึ้นตามไปด้วย     อ้างอิงจาก:  – สำนักงานสถิติแห่งชาติ – การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค – สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ – Drdancando   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook

ชวนมาเบิ่ง ภาคอีสานใช้ไฟฟ้ากว่า 23,241 ล้านกิโลวัตต์ กระจายอยู่ไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “แรมซาร์ไซต์”  พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศในภาคอีสาน🏔️🌳🍃

“พื้นที่ชุ่มน้ำ” ว่าคืออะไร? มื้อนี้ ISAN Insight & Outlook สิมาเว้าสู่ฟัง …    แรมซาร์ไซต์หรือพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศนี้ ถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นตัวแทนหายากหรือมีลักษณะพิเศษเฉพาะ ซึ่งพบในเขตชีวภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม มีความสำคัญระหว่างประเทศสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่เกี่ยวข้องกับชนิดพันธุ์และชุมชนประชากรทางนิเวศของนกน้ำและปลา ภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) หรืออนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นอนุสัญญาที่จัดขึ้นที่เมืองแรมซาร์ ประเทศอิหร่านในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2514    อนุสัญญาฯ นับเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเพื่อกำหนดกรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2518 และเพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำ มีการกำหนดให้ทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (World Wetlands Day)   ในประเทศไทยมีพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 15 พื้นที่ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Sites) โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอยู่ทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่   พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง📍จังหวัดบึงกาฬ ขึ้นทะเบียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2544 ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นลำดับที่ 1,098 ของโลก เป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีขนาดพื้นที่รวมกว่า 13,837.5 ไร่ ตั้งแต่ตำบลบ้านต้อง, ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา และ ตำบลบึงโขงหลง, ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง มีลักษณะแคบยาวเกิดจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกันน้ำมีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตร ความกว้าง 2 กิโลเมตร ในบึงมีความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 0.5 – 1 เมตร โดยส่วนที่ลึกสุดประมาณ 6 เมตร บึงโขงหลงเป็นส่วนที่ราบน้ำท่วมถึงของแม่น้ำสงคราม น้ำจากบึงไหลลงสู่แม่น้ำสงครามก่อนออกแม่น้ำโขง   ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรโดยรอบมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสวนยางพารา ไร่ยาสูบ และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 3.12 ล้านบาท/ปี โดยจำแนกเป็นมูลค่าจากการประมง 1.73 ล้านบาท/ปี การท่องเที่ยว 0.19 ล้านบาท/ปี และการบริการ 1.20 บาท/ปี     พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง📍จังหวัดบึงกาฬ ขึ้นทะเบียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2552 ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นลำดับที่ 1,926 ของโลก ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ที่มีขนาดพื้นที่รวม 13,750 ไร่ เป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความสำคัญมีคุณค่าการใช้ประโยชน์ด้านเป็นแหล่งประกอบอาชีพและการท่องเที่ยว ได้แก่ ด้านการประมง จัดเป็นแหล่งประมงปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของชาวบึงกาฬ สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนปีละจำนวนมาก ด้านการปศุสัตว์ เนื่องจากเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ของพืชอาหารและน้ำเหมาะสำหรับการเลี้ยงโคและกระบือด้วยวิธีธรรมชาติ ด้านการเกษตร พื้นที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดต่างๆ ปัจจุบันพื้นที่โดยรอบบางส่วนมีการทำสวนยางพารามากขึ้น และด้านการท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบ ได้แก่ หลวงพ่อใหญ่ วัดโพธาราม ศาลเจ้าแม่สองนาง หาดทรายตามริมน้ำโขง หนองกุดทิง และหนองบึงกาฬ

พามาเบิ่ง “แรมซาร์ไซต์”  พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศในภาคอีสาน🏔️🌳🍃 อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาฮู้จัก ตัวอย่าง “ศิลปิน” จากแดนอีสาน

อ้างอิงจาก: – TrueID – ที่นี่ลูกทุ่ง – waymagazine – THE CONCERT – MGR Online ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #อีสานม่วน #เศรษฐกิจอีสาน #ศิลปินจากแดนอีสาน #ศิลปินอีสาน #TREX #AnatomyRabbit #โจอี้ภูวศิษฐ์ #คณะขวัญใจ #ไปส่งกูบขสดู๊

ชวนมาฮู้จัก ตัวอย่าง “ศิลปิน” จากแดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ภาคอีสานเกี่ยวข้าวนาปีหลายปานใด๋ ?

ปีการเพาะปลูกที่ผ่านมา (ปีการผลิต 2566/67) อีสานเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้วจากเอลนีโญ ฝนมา ล่าช้า ฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้้าฝนน้อยกว่าปีที่แล้ว ทำให้ประสบภาวะแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำสำหรับ ทำการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรในบางพื้นที่ปล่อยที่นา ให้ว่าง และบางพื้นที่ปลูกข้าวนาปีได้เพียงรอบเดียว อีสาน อินไซต์ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวนาปีปรับลดลงตามปัจจัยเสี่ยงข้างต้น โดยภาพรวม ถึงแม้การเพาะปลูกนาปีในปีนี้อีสานจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากปริมาณน้ำส่วนใหญ่ยังเพียงพอต่อการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว แต่ผลผลิตมีแนวโน้มปรับลดลงจากปีก่อน โดยอีสานอินไซต์คาดการณ์ว่ามีผลผลิตปรับลดลงกว่า 500,000 ตัน ซึ่งจะส่งผลอย่างแน่นอนต่อปริมาณข้าวในตลาด รวมถึงราคาข้าวในอนาคต ฮู้บ่ว่า? เอลนีโญ ทำให้ฝนมาล่าช้า ฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้้าฝนน้อยกว่าปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรในบางพื้นที่ปล่อยที่นาให้ว่าง และบางพื้นที่ปลูกข้าวนาปีได้เพียงรอบเดียว กระทบต่อปริมาณการผลิตที่ลดลง ที่มา การคาดการณ์โดยอีสานอินไซต์ อ้างอิงข้อมูลผลผลิตปี 2565/66 จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #คาดการณ์ผลผลิตข้าว #ข้าวอีสาน #ข้าวไทย#ผลผลิตข้าว #ชาวนา #ชาวนาอีสาน #ข้าวนาปี #ข้าวนาปรัง

พามาเบิ่ง ภาคอีสานเกี่ยวข้าวนาปีหลายปานใด๋ ? อ่านเพิ่มเติม »

สรุปเรื่องน่าฮู้ เกี่ยวกับ “จังหวัดเลย” เมืองแห่งทะเลภูเขา

จังหวัดเลยมีขนาดพื้นที่ 11,424 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 635,249 คน และในปี 2564 จังหวัดเลยขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด อยู่ที่ 56,584 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวของจังหวัดอยู่ที่ 105,205 บาท ซึ่งเป็นอันดับที่ 3 ของภาคอีสาน โครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจ SME – ภาคการบริการ คิดเป็น 43% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร มีผู้ประกอบการอยู่ 1,947 ราย – ภาคการเกษตร คิดเป็น 26% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ มีผู้ประกอบการอยู่ 75 ราย – ภาคการผลิต คิดเป็น 20% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การสีข้าว มีผู้ประกอบการอยู่ 535 ราย – ภาคการค้า คิดเป็น 12% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ ร้านขายของชำ มีผู้ประกอบการอยู่ 4,025 ราย ตัวอย่างสินค้าสำคัญของจังหวัด ได้แก่ ไวน์ที่ราบสูงภูเรือ ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย ข้าวเหนียวซิวเกลี้ยงเมืองเลย และผ้าลายดอกฝ้ายเมืองเลย อุทยานแห่งชาติของจังหวัดเลย อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ในปีงบการเงิน 2566 (ต.ค.65 – ก.ย.66) มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 57,110 คน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ ป่าต้นเมเปิ้ล พันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม กุหลาบป่า เอื้องคำหิน น้ำตก และหน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือ เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด ภายในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ ผาหมากดูก ผาแดง ผาเหยียบเมฆ น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบน้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น อุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นภูกระดึง ตั้งแต่เวลา 07.00 – 14.00 น. และจะปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ของทุกปี อุทยานแห่งชาติภูเรือ ในปีงบการเงิน 2566 (ต.ค.65 – ก.ย.66) มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 87,438 คน

สรุปเรื่องน่าฮู้ เกี่ยวกับ “จังหวัดเลย” เมืองแห่งทะเลภูเขา อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่งไก่บ้านในอีสานหลายปานได๋

ไก่ย่างเขาสวนกวางหนึ่งใน Soft power ภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักในระดับในระดับนานาชาติ เพราะถ้าหากพูดถึงอาหารอีสาน ก็คงปฏิเสธได้ยาก หากไม่คิดถึงไก่ย่าง และส้มตำ อีสาน อินไซต์ พาดูจำนวนไก่บ้านหรือไก่พื้นเมืองในอีสาน วัตถุดิบสำคัญของเมนูไก่บ้านย่าง อาหารอีสานชื่อดัง แต่นอกจากจะใช้เพื่อแปรรูปเป็นอาหารแล้ว ไก่บ้านยังเป็นอีกหนึ่งสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการใช้ชีวิตของชาวอีสานมาเป็นระยะเวลานาน เช่น การเพาะเลี้ยงเป็นไก่ชนเพื่อการแข่งขัน ภาคอีสานมีจำนวนไก่บ้านมากที่สุดในประเทศ โดยคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนไก่บ้านทั้งหมดในประเทศ โดยการเลี้ยงมีการกระจายตัวอยู่ในทุกจังหวัด นับเป็นหนึ่งในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวอีสาน #ประวัติศาสตร์การเลี้ยงไก่ เก่าแก่ที่สุดในโลก ทีมนักโบราณคดีจากหลายสถาบันวิจัยในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส เผยการค้นพบหลักฐานเก่าแก่ที่สุดที่บ่งชี้ว่า ไก่ป่าอาจถูกมนุษย์นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นไก่บ้านครั้งแรก ในช่วงรอยต่อระหว่างปลายยุคหินใหม่กับยุคสำริด ระหว่าง 1,650 – 1,250 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งล่าช้ากว่าที่เคยคิดกันไว้หลายพันปี หลักฐานดังกล่าวคือกระดูกไก่บ้านอายุเก่าแก่ 3,670 ปี ที่พบในหลุมฝังศพของแหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยหลักฐานนี้สอดคล้องกับข้อมูลที่ทราบกันอยู่เดิมแล้วว่า ไก่ป่าสีแดง (Red junglefowl) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบรรพบุรุษของไก่บ้านหลากสายพันธุ์ที่ผู้คนทั่วโลกเลี้ยงกันอยู่ทุกวันนี้ ที่มา กรมปศุสัตว์ ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2566 BBC News -ไทย : นักโบราณคดีชี้ต้นกำเนิดไก่บ้านทั่วโลก มาจากแหล่งอารยธรรมยุคหินใหม่ของไทย ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ไก่บ้าน #ไก่ไทย #ฟาร์มไก่ #เลี้ยงไก่ #ไก่ย่าง#ไก่ย่างเขาสวนกวาง #ไก่ปิ้ง

พามาเบิ่งไก่บ้านในอีสานหลายปานได๋ อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคอีสาน

ในปี 2565 ประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดกว่า 27,346 ราย แล้วรู้หรือไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคอีสานมีมากแค่ไหน? โดยในภาคอีสานของเรามีผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อยู่ที่ 943 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.4% ของผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในประเทศไทย โดย 5 อันดับจังหวัดที่มีผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด อันดับที่ 1 นครราชสีมา 253 ราย อันดับที่ 2 ขอนแก่น 186 ราย อันดับที่ 3 อุดรธานี 109 ราย อันดับที่ 4 อุบลราชธานี 72 ราย อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 66 ราย หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล วิสาหกิจชุมชน และส่วนบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองเพื่อการพักอาศัย (รหัสประเภทธุรกิจ 68101), และการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย (รหัสประเภทธุรกิจ 68101) อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์#อสังหาริมทรัพย์ #ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีสาน#อสังหาริมทรัพย์อีสาน

พาส่องเบิ่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top