Siree Jamsuwan

อยู่หม่องใด๋ จะแข่งขันอิหยัง ? สำรวจดัชนีโอกาสทางธุรกิจที่สูงสุดในแต่ละจังหวัด ภาคอีสาน

อยู่หม่องใด๋ จะแข่งขันอิหยัง ? สำรวจดัชนีโอกาสทางธุรกิจที่สูงสุดในแต่ละจังหวัด ภาคอีสาน เว็บไซต์ DBD DataWarehouse+ ซึ่งรวบรวมข้อมูลนิติบุคคลที่มีการจดทะเบียนตามกฎหมายกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดเผยดัชนีโอกาสหรือคะแนนที่บ่งบอกถึงโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมย่อย 5 อันดับ จังหวัดในภาคอีสานที่มีดัชนีโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมย่อยสูงสุด 1. เลย ค่าดัชนี 0.94 กลุ่มยานยนต์ 2. หนองบัวลำภู ค่าดัชนี 0.88 กลุ่มส่วนประกอบของยานยนต์ 3. มหาสารคาม ค่าดัชนี 0.87 กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรม และเครื่องจักร 4. หนองคาย ค่าดัชนี 0.87 กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 5. อำนาจเจริญ ค่าดัชนี 0.85 กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ น่าสนใจว่า 4 จาก 20 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่ หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และอุดรธานี มีโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมย่อยประเภท ‘ส่วนประกอบของยานยนต์’ สูงที่สุด เช่นเดียวกับอีก 4 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม มุกดาหาร ชัยภูมิ และสุรินทร์ ที่มีโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมย่อยประเภท ‘วัสดุอุตสาหกรรม และเครื่องจักร’ สูงที่สุด อ้างอิงจาก : DBD DataWarehouse+ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ดัชนีโอกาส #โอกาสทางธุรกิจ #เลย #หนองบัวลำภู #หนองคาย #มหาสารคาม #อำนาจเจริญ

พามาเบิ่ง 👀 เจาะมุมมอง Isan 2030 ✨ ผลักดัน BCG Model ยกระดับ “อีสาน” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใน 8 ปี

พามาเบิ่ง เจาะมุมมอง Isan 2030 ✨ ผลักดัน BCG Model ยกระดับ “อีสาน” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใน 8 ปี   ปัจจุบันโลกกำลังให้ความสำคัญกับเรื่อง Climate Change ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยมีการศึกษาว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในแต่ละองศามีผลกระทบต่อ GDP ซึ่งการปล่อยก๊าซมีเทนในภาคการเกษตรก็มีผลต่อสภาพภูมิอากาศ  ดังนั้นโมเดล BCG ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งประเทศไทยได้นำยุทธศาสตร์ BCG มาใช้ เพื่อพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งใช้ประโยชน์จากความเข้มแข็งของ “ความหลากหลายทางชีวภาพ” และ “ความหลากหลายทางวัฒนธรรม” มาต่อยอดและยกระดับมูลค่าให้ ecosystem ของการผลิตสินค้าและบริการมีมูลค่าสูงขึ้น Khon Kaen Innovation Centre (KKIC) และกลุ่มมิตรผล ร่วมกับอีก 50 เครือข่ายพันธมิตร ภาครัฐและเอกชน มองเห็นถึงโอกาสสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคอีสาน จึงร่วมกันผลักดันโมเดล BCG โดยมีเป้าหมายให้ “อีสาน” เป็นศูนย์กลางการยกระดับอุตสาหกรรม BCG ของไทยและเอเชีย ในปี 2030 โดยจัดงาน Isan BCG Expo 2022 สุดยอดมหกรรมนวัตกรรมยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสาน ภายใต้แนวคิด Collaboration | ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ พร้อมชู 3 จุดแข็ง “สร้างสรรค์ ต่อยอด ยั่งยืน” สานต่อวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของภาคอีสาน พร้อมเปิดโอกาสและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านธุรกิจและวิชาการกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักลงทุน และผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั้งในประเทศและประเทศ CLMVT ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “Isan BCG ภายใต้แนวคิด Collaboration | ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ เป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพัฒนาภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงใน 8 ปีข้างหน้าหรือในปี 2030 โดยมีเรื่องระบบบริหารจัดการน้ำจากส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ที่ต้องบูรณาการและมองเป้าหมายร่วมกัน ระบบบริหารขนาดใหญ่โดยเขื่อน หรือระบบบริหารขนาดเล็กโดยแก้มลิง ต้องดูภาพรวมทั้งหมดว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับภาคการเกษตรได้อย่างไร และยังมีสุดยอดนวัตกรรมและการท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังมีของดีของอีสานมีมากมาย รวมถึง Multimodal Transport & Logistic Hub ที่มีทั้งสะพานเชื่อมสปป.ลาว สนามบิน 9 แห่งใน 20 จังหวัด และ Local Train สายใหญ่ ๆ อย่างน้อย 2 สาย รวมถึงรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน …

พามาเบิ่ง 👀 เจาะมุมมอง Isan 2030 ✨ ผลักดัน BCG Model ยกระดับ “อีสาน” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใน 8 ปี อ่านเพิ่มเติม »

ปังหลาย ! 🎉 กระทรวงวัฒนธรรม จัดใหญ่มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ มหาสารคาม ช็อปของดีถิ่นอีสาน 🛍️🏺

ปังหลาย ! กระทรวงวัฒนธรรม จัดใหญ่มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ  ณ มหาสารคาม ช็อปของดีถิ่นอีสาน   มหาสารคาม – กระทรวงวัฒนธรรม ประเดิมจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน ชวนเที่ยวมหาสารคาม กราบบูชาสักการะพระบรมธาตุนาดูน ช้อปของดีถิ่นอีสานตลาดวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจไทย สนองโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล ดัน “ Soft Power ” เป็นจุดขาย   เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ณ พระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย “หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน” ประจำปี 2565 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ผู้บริหาร วธ. วัฒนธรรมจังหวัด 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุนาดูน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาวัฒนธรรม เครือข่ายวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน   กระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ในระดับชุมชนและท้องถิ่น สนับสนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล รวมทั้งผลักดัน “Soft Power” เพื่อส่งเสริมความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กระทรวงฯ จึงจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขึ้น ในพื้นที่ 4 ภูมิภาค โดยครั้งแรกจัดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน” ระหว่างวันที่ 23 – 27 ธันวาคม 2565 ณ พระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ยกระดับพระบรมธาตุนาดูน เป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และตามรอยอารยธรรมนครจำปาศรี เปิดพื้นที่ให้ ชาวภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม การกราบบูชาสักการะพระบรมธาตุนาดูน ชมการฟ้อนรำจำปาศรี จำนวน 1,000 คน จัดนิทรรศการมหกรรมหุ่นกระติบและหุ่นฟางอย่างยิ่งใหญ่ นิทรรศการแสดงศิลปะ พิธียกอ้อ ยอครู บายศรีสูตรขวัญครูศิลปินอีสาน การเสวนาทางวิชาการ ตลาดวัฒนธรรม การสาธิตผลิตภัณฑ์ และบริการทางวัฒนธรรม …

ปังหลาย ! 🎉 กระทรวงวัฒนธรรม จัดใหญ่มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ มหาสารคาม ช็อปของดีถิ่นอีสาน 🛍️🏺 อ่านเพิ่มเติม »

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน เป็นจั่งใด๋ ?

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน ✈️ เป็นจั่งใด๋ ? 🌟 ปี 2565 (มกราคม – พฤศจิกายน) ภาคอีสานมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 10 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 49,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 192.97% จากปี 2564 (มกราคม – พฤศจิกายน) ที่มีรายได้ 16,822 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากคนในประเทศ 5 จังหวัดภาคอีสาน ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด ปี 2565 เทียบกับ ปี 2564 อันดับ 1. นครราชสีมา 8,714 ล้านบาท | 4,923 ล้านบาท อันดับ 2. ขอนแก่น 8,438 ล้านบาท | 2,252 ล้านบาท อันดับ 3. อุดรธานี 5,417 ล้านบาท | 1,687 ล้านบาท อันดับ 4. บุรีรัมย์ 5,311 ล้านบาท | 1,237 ล้านบาท อันดับ 5. หนองคาย 2,950 ล้านบาท | 641 ล้านบาท จะเห็นว่า ปี 2565 การท่องเที่ยวในภาคอีสานมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่แนวโน้มดีขึ้น ทำให้ทุกๆจังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยหลังจากนี้ ในปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะมีจำนวนประมาณ 20.0 – 24.0 ล้านคน หรือกลับมาคิดเป็นสัดส่วน 50.0%-60.0% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2562 นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นในภาพรวมน่าจะฟื้นตัวได้ดี แต่ยังต้องใช้เวลากว่าที่จะกลับไปสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด สำหรับการใช้จ่ายของชาวต่างชาติเที่ยวไทยสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 0.84 – 1.01 ล้านล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริปยังต่ำกว่าปี 2562 จากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะใกล้ กลุ่ม Younger Travelers กลุ่มที่เดินทางแบบ Backpacker และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งมีผลต่องบประมาณในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ในปี 2566 แม้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจะมากขึ้น แต่ยังอยู่ระดับต่ำกว่าก่อนการระบาดของโควิด และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ทั่วถึง ด้วยสภาพแวดล้อมของตลาดยังมีปัจจัยท้าทายหลากหลาย โดยเฉพาะปัจจัยความเสี่ยงจากแนวโน้มเศรษฐกิจหลักของโลกอย่างในสหรัฐฯและยุโรปหลายประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของรายได้และการมีงานทำ สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออก รวมถึงปัญหาค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูง …

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน เป็นจั่งใด๋ ? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 3 อันดับชาวต่างชาติ ที่มาลงทุนในจังหวัดชายแดนอีสาน

พามาเบิ่ง 3 อันดับชาวต่างชาติ  ที่มาลงทุนในจังหวัดชายแดนอีสาน   อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงทุนแมน https://www.longtunman.com/41671  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ลงทุนในไทย #ลงทุนชายแดน #ชายแดนอีสาน 

มข.จับมือ สสส. กระตุ้นคนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบนักสูบหน้าใหม่เพิ่มหลายคัก

มข.จับมือ สสส. 🚭 กระตุ้นคนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบนักสูบหน้าใหม่เพิ่มหลายคัก ศูนย์ข่าวขอนแก่น – เผยอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าขยายตัวอย่างรวดเร็วในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่นทั้งระดับมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย เฉพาะปี 64 คนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าร่วม 78,742 คน คณะมนุษยศาสตร์ฯ มข.จับมือ สสส.เปิดเสวนากระตุ้นคนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า ให้ความรู้เพื่อควบคุมไม่ให้นักสูบหน้าใหม่ตกเป็นเหยื่อไปมากกว่าที่เป็นอยู่ คณะมนุษยศาสตร์ฯ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ จัดประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพคนอีสาน ครั้งที่ 6 ประจำปี 2565 ในหัวข้อ “คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” โดยมี นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุม มีนักวิชาการ เครือข่ายองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่มานานกว่า 20 ปี แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลต่างๆ ในปัจจุบันทำให้บริษัทและผู้ค้าบุหรี่ได้อาศัยช่องทางออนไลน์โปรโมตขายบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลให้ขอนแก่นมีผู้สูบหน้าใหม่ในกลุ่มเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงเพิ่มขึ้น ซึ่งการประชุมวันนี้เป็นการกำหนดทิศทางและการรับฟังข้อเสนอแนะที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างจริงจังที่จะต่อต้านและปฏิเสธว่าคนขอนแก่นและคนอีสานพวกเราไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด เพื่อเป้าหมายของการมีสุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรในประเทศ ด้าน ผศ.ดร.ธนพฤกษ์ ชามะรัตน์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระบุถึงสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้า กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นในสถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าในปี 2564 ประชากรไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 78,742 คน ในจำนวนนี้มีคนที่สูบทุกวัน 40,724 คน และสูบแบบไม่ทุกวัน 38,018 คน ซึ่งกลุ่มที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า อายุระหว่าง 15-24 ปี เป็นกลุ่มวัยรุ่นตอนต้นถึงตอนปลายมากถึง 24,050 คน นอกจากนี้ยังพบการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กระดับประถมศึกษาในหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่สูบเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ไม่เป็นอันตรายและไม่เสพติด สามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย เพราะวางขายในตลาดนัด ทางออนไลน์ ขณะเดียวกันก็มีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะก่อให้เกิดปัญหานำไปสู่การใช้สารเสพติดต่างๆ แล้วยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสารเสพติดจะส่งผลโดยตรงต่อสมองและระบบประสาท พิษของนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าจะส่งผลให้เด็กที่สูบมีอาการหงุดหงิดง่าย เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ความจำแย่ลง อารมณ์แปรปรวน สมาธิสั้น จึงขอแนะนำการป้องกันไม่ให้เยาวชนยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งเสพติดอื่นๆ “การเปิดพื้นที่ในการประชุมที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในครั้งนี้จึงเป็นทั้งการสร้างการรับรู้ให้นักศึกษา และ ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดในการที่จะต่อต้านและปฏิเสธบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาดเช่นกัน” ผศ.ดร.ธนพฤกษ์กล่าว อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ สยามรัฐออนไลน์ https://mgronline.com/local/detail/9650000122166 https://siamrath.co.th/n/409628 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #มข #สสส #ขอนแก่น #บุหรี่ไฟฟ้า

ของขวัญปีใหม่ “กรมประมง” เปิดให้เข้า เบิ่งฟรี ! อควาเรียม 10 แห่งทั่วไทย

ของขวัญปีใหม่  “กรมประมง” เปิดให้เข้า เบิ่งฟรี !  อควาเรียม 10 แห่งทั่วไทย   กรมประมงชวนเที่ยวศูนย์ประมง 43 แห่ง และอควาเรียม 10 แห่งฟรีรับปีใหม่ ในวันที่ 30 ธ.ค. 2565 – 3 ม.ค. 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมประมง มอบของขวัญปีใหม่ 2566 เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จำนวน 43 แห่ง และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (อควาเรียม) ในความดูแลของกรมประมง จำนวน 10 แห่ง ให้ประชาชนได้เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2565 – 3 มกราคม 2566 นอกจากนี้ ที่ศูนย์วิจัยฯ ยังมีกิจกรรมเยี่ยมชมนิทรรศการด้านการประมง การเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำ ตลอดจนตัวอย่างสัตว์น้ำประจำถิ่นที่พบในจังหวัดที่จัดแสดงภายในศูนย์วิจัยฯ และกิจกรรมมอบพันธุ์ปลาน้ำจืดให้แก่เกษตรกรและประชาชนเพื่อนำไปเลี้ยง จำนวน 100 ถุงต่อศูนย์ด้วย สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (อควาเรียม) ในความดูแลของกรมประมง จำนวน 10 แห่ง ที่เปิดให้เข้าชมฟรี โดยมีที่ภาคอีสานคือ  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสกลนคร (สถานแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดภาคอีสาน) ตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสกลนคร ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร  โทร. 0 4271 1447  และจังหวัดอื่นๆ ดังนี้ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ตั้งอยู่ ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลระยอง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง โทร. 0 3865 3741  สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ  ตั้งอยู่ ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพิจิตร ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร โทร. 0 5661 1309  ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูล  ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล โทร. 0 7477 5455 สถานแสดงพันธุ์เต่าบกและเต่าน้ำจืดของไทยจังหวัดสตูล  ตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยและประมงน้ำจืดสตูล หมู่ที่ 7 บ้านโกตา ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล โทร. 0 7477 5455  ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพิษณุโลก ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก โทร. 0 5536 9066 พิพิธภัณฑ์ปลาบึกจังหวัดพะเยา ตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา   โทร. …

ของขวัญปีใหม่ “กรมประมง” เปิดให้เข้า เบิ่งฟรี ! อควาเรียม 10 แห่งทั่วไทย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 5 อันดับ จุดชมวิวหน้าหนาว ภาคอีสาน  ยิ่งสูง! ยิ่งสวย!

พามาเบิ่ง 5 อันดับ จุดชมวิวหน้าหนาว ภาคอีสาน  ยิ่งสูง! ยิ่งสวย! ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งที่ราบสูง ภาคอีสานเลยอุดมไปด้วยภูผาและเทือกเขาน้อยใหญ่ หนาวนี้หากใครกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวรับลมหนาว ISAN Insight ขอพาทุกท่านไปพบกัน 5 อันดับ จุดชมวิวฤดูหนาวภาคอีสาน   1. ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาพรรณ สัตว์ป่านานาชนิด หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก  อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย   2. ภูเรือ อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเถียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง  ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 3. ภูป่าเปาะ เป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูค้อ-ภูกระแต และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแตถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร จนสภาพป่าบริเวณนั้นอยู่ในขั้นเสื่อมโทรม แต่หลังจากมีการคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านเข้ามาก็มีการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนอุดมสมบูรณ์จน กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นโดยเฉพาะภูหอที่มีคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ มีจุดชมวิวของภูป่าเปาะมีทั้งหมด 3 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะห่างกันประมาณ 200 เมตร  ลดหลั่นตามความสูง จุดแรกเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ไม่มีอะไรบังสายตาสามารถมองเห็นวิวของภูหอได้ใกล้ที่สุดในมุมที่คล้ายกับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด ตรงจุดนี้มีระเบียงยื่นออกไปสำหรับ ให้นักท่องเที่ยวได้มายืนชมวิวขอภูหอได้อย่างใกล้ชิด ส่วนจุดที่สองก็จะเห็นวิวของภูหอในอีกมุมแบบกว้างไกลที่แตกต่างจากจุดแรก จุดนี้มีระเบียงชมวิวเช่นกัน  ส่วนจุดสุดท้ายต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 200 เมตร เป็นจุดสูงสุดสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา จุดสูงสุดสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้ที่จุดเดียวกัน  นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็น อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อำเภอภูผาม่านจังหวัดขอนแก่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ …

พามาเบิ่ง 5 อันดับ จุดชมวิวหน้าหนาว ภาคอีสาน  ยิ่งสูง! ยิ่งสวย! อ่านเพิ่มเติม »

ฮู้บ่ว่า?  ปลายปี 2565 จังหวัดใด๋ในอีสานที่มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หลายที่สุด  รวมถึงรถใหม่ป้ายแดงยี่ห้อใด๋ที่คนอีสานมัก!

ฮู้บ่ว่า?  ปลายปี 2565 จังหวัดใด๋ในอีสานที่มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หลายที่สุด  รวมถึงรถใหม่ป้ายแดงยี่ห้อใด๋ที่คนอีสานมัก!   อ้างอิงจาก:  กลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #รถจดทะเบียน #รถใหม่   

ปังหลาย! ชาวนากาฬสินธุ์ปราดเปรื่องผลิตข้าวเหนียวเขาวง  ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ 

ปังหลาย! ชาวนากาฬสินธุ์ปราดเปรื่องผลิตข้าวเหนียวเขาวง  ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ    กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุข จ.กาฬสินธุ์ ปลูกข้าวเหนียวไม่ใช้สารอินทรีย์ ได้มาตรฐาน GI GAP และ Organic Thailand เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 นายบุญถม ทะเสนฮด เกษตรกรปราดเปรื่อง ประธานกลุ่มข้าว GI ต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีการรวมกลุ่ม ภายใต้ชื่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุข พื้นที่รวมมากกว่า 2,000 ไร่ มีสมาชิก 300 คน  ซึ่งเกษตรกรมีการปลูกข้าวเหนียวเขาวง หรือ ข้าว กข6 ซึ่งเป็นข้าวที่ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์มาจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ กรมการข้าว เนื่องจากเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ไม่กลายพันธุ์ การลด ละ เลิก ในการใช้สารเคมี ด้วยการใช้ และแหนแดง ในการควบคุมวัชพืช การใช้สารชีวภัณฑ์ ไตรโคเดอร์มา เป็นต้น  ซึ่งนอกจากจะไม่ปล่อยมลภาวะทางดิน น้ำ และอากาศแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรมีกำไรเหลือเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย พร้อมทั้งยังถือคติการทำนาที่ “ครอบครัวสนับสนุน สมาชิกรวมใจ ร่วมมือ ร่วมพัฒนา มีเป้าหมาย” อีกด้วย นางวิจิตร แสงทอง เกษตรปราดเปรื่อง ผู้ผลิตข้าวเหนียวเขาวง กล่าวว่า นอกจากนี้ทุกกระบวนการผลิตยังได้มาตรฐาน GI GAP และ Organic Thailand ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับของผู้บริโภค ภายใต้แบรนด์ ข้าวเล่าชีวิต และแบรนด์นาโก โดยผลิตภัณฑ์ข้าวที่ทำก็มีอย่างหลากหลาย คือ ประเภทข้าวสุญญากาศ (ข้าวกล้องมะลิเป็นสุขนาโก ข้าวเหนียวเขาวงเป็นสุข ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวดัชนีต่ำ ข้าวไทนาโก จำหน่ายราคา 70 บาท ), ขนมข้าวสินเหล็กป๊อบ รสนมเนย, เครื่องดื่มข้าวหมัก รสข้าวเหนียวเขาวง ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำตาล เป็นต้น ทั้งนี้การพัฒนาการผลิตและจำหน่ายข้าวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวเป็นสุข ยังคงพัฒนาการผลิตข้าวให้ออกมาป็นผลิตภัณฑ์จากข้าวทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้าวของกลุ่มฯ เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และสามารถรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่างหลากหลายรูปแบบ สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน และช่วยส่งเสริมให้ข้าวมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอีกด้วย   อ้างอิงจาก:  ไทยรัฐ  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ข้าวเหนียวเขาวง #ข้าวกข6 #กาฬสินธุ์

Scroll to Top