Siree Jamsuwan

เกษตรกรขอบคุณหลายๆ  “รมว.เกษตรฯ-กรมปศุสัตว์” ปราบหมูเถื่อนต่อเนื่อง

เกษตรกรขอบคุณหลายๆ  “รมว.เกษตรฯ-กรมปศุสัตว์” ปราบหมูเถื่อนต่อเนื่อง    ผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศขอบคุณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ หลังเดินหน้าปราบปราม “หมูเถื่อน” อย่างจริงจัง ล่าสุดสามารถฝังทำลายหมูเถื่อนของกลางกว่า 7 แสนกิโลกรัม ตัดตอนวงจรหมูเถื่อนที่เกาะกินทำร้ายทำลายเกษตรกรไทยมานาน ส่งผลให้เกษตรกรมั่นใจ เร่งเพิ่มผลผลิตหมูปลอดภัยเพื่อคนไทย พร้อมฝากความหวังเดินหน้าจับ “ผู้บงการ” ล้างบางขบวนการนำเข้าหมูผิดกฎหมายให้สิ้น     ปราบปรามได้ถึงกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ช่วยป้องกันไม่ให้หมูอันตรายปะปนเข้าสู่ตลาด ทำลายกลไกราคาสุกรในประเทศ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาด ASF ลงได้อย่างมาก รวมถึงเป็นการปกป้องผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากสารปนเปื้อนอันตรายในหมูเถื่อนด้วย ในนามของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ขอชื่นชมและขอบคุณท่านรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค    ผลงานในปี 2565 ที่กรมปศุสัตว์ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกรมศุลกากร ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกรณีหมูเถื่อน มีจำนวนรวม 42 คดี ปริมาณน้ำหนักรวม 1,089,514 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 219 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการกับซากสุกรของกลางเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.) เป็นส่วนที่ทำลายไปแล้ว จำนวน 179,612 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 71 ล้านบาท 2.) อยู่ในระหว่างดำเนินคดี จำนวน 186,116 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 25 ล้านบาท เมื่อคดีสิ้นสุดจะได้ดำเนินการทำลายต่อไป และ 3.) เป็นหมูเถื่อนที่เพิ่งทำลายไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566 จำนวน 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท   ด้าน นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การกำจัดขบวนการหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ดำเนินการอย่างเข้มข้น ส่งผลให้ราคาสุกรในประเทศเริ่มคงที่ นับเป็นภารกิจที่ทำได้สำเร็จ สิ่งนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรในภาคอีสาน กล้าที่จะลงหมูเข้าเลี้ยง ลดความกังวลเกี่ยวกับราคาที่ตกต่ำลงในช่วงที่มีหมูเถื่อนระบาดอย่างหนัก รวมถึงความกังวลด้านโรคระบาดที่อาจติดมากับหมูเถื่อน   โดยขณะนี้สถานการณ์การเลี้ยงหมูในภาคอีสานมีผลผลิตแม่พันธุ์อยู่ในระดับ 70% แล้ว เมื่อมีแนวโน้มการจัดการที่ดีเช่นนี้คาดว่าปริมาณแม่พันธุ์จะเพิ่มเป็น 90% ได้ภายในสิ้นปีนี้ การกำจัดอุปสรรคด้านหมูเถื่อนที่เข้ามาเบียดเบียนตลาดหมูของเกษตรกรไทย นับว่าช่วยให้เกษตรกรเกิดกำลังใจในการเลี้ยงหมู แม้จะมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นก็ตาม   อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/local/detail/9660000003908    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ปราบหมูเถื่อน #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  #กรมปศุสัตว์   

เปิดสัดส่วนเงินเฟ้อของภาคอีสานล่าสุด เป็นจั้งใด๋ 🧐 เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือน ธ.ค. 65 ขยายตัว 5.6% (YoY)

เปิดสัดส่วนเงินเฟ้อของภาคอีสานล่าสุด เป็นจั้งใด๋ 🧐 เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือน ธ.ค. 65 ขยายตัว 5.6% (YoY) . . อ้างอิงจาก: กระทรวงพาณิชย์ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดือน ธันวาคม 2565 และปี 2565 . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เงินเฟ้ออีสาน

สถานการณ์ตลาดแรงงาน ในไตรมาส 4/2565 เป็นจั้งใด๋ ?

สถานการณ์ตลาดแรงงาน ในไตรมาส 4/2565 เป็นจั้งใด๋ ?   ปี 2565 มีผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานจำนวนทั้งสิ้น 9.55 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 9.32 ล้านคน (ลดลง 1.5% จากปี 2564) ผู้ว่างงาน 93,800 คน (ลดลง 27.2%) และผู้รอฤดูกาล 16,584 คน ส่วนผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน 5.1 ล้านคน อัตราการว่างงานอีสาน ปรับสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการว่างงานตามฤดูกาลของแรงงานภาคเกษตร แต่ก็ยังมีค่าต่ำกว่าปีก่อนหน้าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทางด้านจำนวนผู้มีงานทำปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปกติก่อน COVID-19   อ้างอิงจาก:  ศูนย์บริหารข้อมูลตลาดแรงงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานสถิติแห่งชาติ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #สถานการณ์ตลาดแรงงาน #อัตราการว่างงาน #ว่างงานอีสาน

ตลาดคึกคักหลาย ! “กรมการค้าภายใน”  กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ชุมชน ต้อนรับปีกระต่าย

ตลาดคึกคักหลาย ! “กรมการค้าภายใน”  กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ชุมชน ต้อนรับปีกระต่าย   กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิด 180 ตลาดต้องชมทั่วประเทศไทย รับเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา กระตุ้นการสร้างรายได้ และฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 กรมการค้าภายในได้เปิดตลาดต้องชม 180 ตลาด คัดเลือกจากทั้งหมด 238 แห่งทั่วประเทศที่มีศักยภาพ ได้แก่ ภาคเหนือ 41 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 44 แห่ง ภาคกลาง 61 แห่ง ภาคใต้ 28 แห่ง และกรุงเทพฯ 6 แห่ง ซึ่งกิจกรรมมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2565-8 ม.ค. 2566 นี้ เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก เป็นการรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว โดยตลาดต้องชมแต่ละแห่งมีกิจกรรมกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมากมาย ให้ได้ชม ชอป ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการจากฝีมือคนไทยเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมากรมการค้าภายในได้จัดกิจกรรมเชิญชวนให้ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่แวะท่องเที่ยว หรือพักรถที่ตลาดต้องชมของแต่ละจังหวัดตามเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทาง ในทุกภาคของประเทศไทย ทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ อีกทั้งเชิญชวนให้ประชาชนท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยซื้อหาสินค้า พร้อมไหว้พระทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล เริ่มต้นปีใหม่ ในตลาดต้องชมที่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือใกล้เคียงกับวัดดัง ตลอดจนสถานที่ทำบุญขอพร ซึ่งเป็นที่นิยมศรัทธาของประชาชนในแต่ละภาค  โดยภาคอีสาน ได้แก่ ตลาดพันปีจัมปีศรีนคร, ตลาดศูนย์วัฒนธรรมเรณูนคร, ตลาดร้อยปีเมืองย่า, ตลาดเทศบาลตำบลกมลาไสย, ตลาดต้องชมบึงโขงหลง, ตลาดต้นตาล สำหรับตลาดต้องชมแต่ละแห่งล้วนมีอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ของชุมชนที่แตกต่างกันออกไป มีความสวยงามของสถานที่ ประเพณี วิถีชีวิต ดนตรีที่ไพเราะเพลิดเพลิน ของกินน่าอร่อย สินค้าจากชุมชนที่หลากหลาย ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้จับจ่ายใช้สอยหรือเป็นของฝากของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และกรมการค้าภายในยังจะมีกิจกรรมดีๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในแต่ละท้องถิ่นอยู่เสมอ   อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000001358    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ตลาดอีสาน #กรมการค้าภายใน #ตลาดพันปีจัมปีศรีนคร #ตลาดศูนย์วัฒนธรรมเรณูนคร #ตลาดร้อยปีเมืองย่า #ตลาดเทศบาลตำบลกมลาไสย #ตลาดต้องชมบึงโขงหลง #ตลาดต้นตาล  

กาฬสินธุ์จัดใหญ่หลาย  “โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท” รวมชาติพันธุ์ผู้ไทหนึ่งเดียวในโลก

กาฬสินธุ์จัดใหญ่หลาย  “โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท” รวมชาติพันธุ์ผู้ไทหนึ่งเดียวในโลก   กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมผู้ไทนานาชาติ “โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท” เนรมิตสวนเฉลิมพระเกียรติ เป็นจุดรวมชนเผ่าผู้ไททั่วภาคอีสาน รวมถึง สปป.ลาว และเวียดนาม เพื่อแสดงอัตลักษณ์ความเป็นหนึ่งเดียวและรวมชาติพันธุ์ผู้ไทหนึ่งเดียวในโลก เพิ่มความรวยเล็กๆ ไม่ใหญ่ๆ ผู้ไททำ สอดคล้องแนวทางการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 66 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ อ่างเก็บน้ำห้วยสายนาเวียง ต.คุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานแถลงข่าวจัดมหกรรมผู้ไทนานาชาติ “โฮมรากเหง้าเหล่าผู้ไท” ประจำปี 2566 (ผู้ไทอินเตอร์เนชั่นแนล เฟสติวัล 2023) นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า งานมหกรรมผู้ไทนานาชาติ อำเภอเขาวง ประจำปี 2566 กำหนดจัดขึ้นวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของชาวผู้ไท รวมทั้งฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ผู้ไท อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ภายในงานจะได้พบกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมชาวผู้ไท ความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมชมวิถีชีวิตชาวผู้ไทใน จ.กาฬสินธุ์ และใกล้เคียง เช่น ชาวผู้ไทกาฬสินธุ์ ชาวผู้ไทสกลนคร ชาวผู้ไทนครพนม ชาวผู้ไทโสธร ชาวผู้ไทมุกดาหาร ชาวผู้ไทอุดรธานี รวมทั้งชาวผู้ไทจาก สปป.ลาว และชาวผู้ไทเวียดนาม การจัดงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความร่ำรวยเพื่อความสุขในปีกระต่ายทอง ตามหลักการทำงาน 3 รวย คือ ร่ำรวยวัฒนธรรม ร่ำรวยน้ำใจ ร่ำรวยสุขภาพ และ 3 ใจ คือ เข้าใจ ไว้ใจ และร่วมใจ เพื่อพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ไปสู่เมืองแห่งความร่ำรวย และเมืองแห่งความสุข ชาวผู้ไทมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นอย่างเหนียวแน่น ทั้งด้านอาหาร การแต่งกาย ภาษา การแสดงดนตรีพื้นบ้าน พิธีกรรมและความเชื่อ ภายในงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติครั้งนี้จะได้ชมขบวนแห่รากเหง้าผู้ไทกาฬสินธุ์ จาก อ.เขาวง อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง อ.คำม่วง การแสดงพิธีกรรมเหยา เอาบุญเลาะตูบ กินข้าวฮ่วมพา (พาแลง) การแสดงศิลปวัฒนธรรมผู้ไท จำหน่ายสินค้าโอทอป  “ชาวกาฬสินธุ์และชาติพันธุ์ชาวผู้ไทจากหลายอำเภอเป็นเจ้าบ้านที่ดี และเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาร่วมงานมหกรรมผู้ไทนานาชาติด้วยความยินดียิ่ง” ขอเชิญมาเที่ยวงานมหกรรมผู้ไทนานานาชาติโดยพร้อมเพรียงกัน ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ อ่างเก็บน้ำห้วยสายนาเวียง ซึ่งทางฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง การันตีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวตลอดการจัดงาน   อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/local/detail/9660000003276  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #กาฬสินธุ์ #ผู้ไท #โฮมรากเหง้าเผ่าผู้ไท 

พามาเบิ่ง สัดส่วนอาชีพใด๋ ? ที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ หลายที่สุด

พามาเบิ่ง สัดส่วนอาชีพใด๋ ? ที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ หลายที่สุด   หมายเหตุ: ค่าเฉลี่ยผลิตภาพแรงงานเป็นการคำนวณโดยตัดฤดูกาลแล้ว (seasonally adjusted) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ค่าจ้างขั้นต่ำปรับค่าเพิ่มขึ้นน้อยกว่าผลิตภาพแรงงาน แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่เกิดการระบาด COVID-19 ผลิตภาพแรงงานมีแนวโน้มลดลง กำลังแรงงานที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจการเกษตร การก่อสร้าง และโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้ผลกระทบมากที่สุดจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ   อ้างอิงจาก:  ธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงแรงงาน และสำนักงานสถิติแห่งชาติ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ค่าจ้างขั้นต่ำ #ค่าแรงขั้นต่ำ #อาชีพ 

10 อันดับ ประเภทของนิติบุคคลจดทะเบียนใหม่ มีอิหยังแหน่ ?

10 อันดับ ประเภทของนิติบุคคลจดทะเบียนใหม่ มีอิหยังแหน่ ?   ประเภทการขายส่งและขายปลีก มีจำนวนนิติบุคคลจดทะเบียนใหม่มากที่สุด โดยมีการขายปลีกทางอินเตอร์เน็ตเป็นประเภทนิติบุคคลที่มีการจดทะเบียนมากที่สุดในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งในปีที่แล้วการขายปลีกทางอินเตอร์เน็ตยังมีการจดทะเบียนเป็นรองเมื่อเทียบกับการขายปลีกสินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการในปัจจุบันมุ่งสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น และเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น    อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #นิติบุคคล #นิติบุคคลจดใหม่ #ธุรกิจอีสาน   

ฮู้จัก “สต็อกโฮล์ม” 🐐✨ SME ฟาร์มแพะมหาสารคาม ผู้บุกเบิกฟาร์มแพะครบวงจรภาคอีสานรายแรกๆ ของไทย

ฮู้จัก “สต็อกโฮล์ม” 🐐✨ SME ฟาร์มแพะมหาสารคาม ผู้บุกเบิกฟาร์มแพะครบวงจรภาคอีสานรายแรกๆ ของไทย ทำความรู้จักกับธุรกิจฟาร์มแพะครบวงจรภาคอีสานรายแรกๆ ของไทยอย่าง “สต็อกโฮล์ม” (Stockholm) SME จาก จ.มหาสารคาม ที่เริ่มต้นด้วยการเปิดร้านอาหารสัตว์และต่อยอดจนเกิดเป็นฟาร์มแพะครบวงจรในที่สุด พร้อมกับมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจฟาร์มแพะในอนาคต เนื่องจากผลิตภัณฑ์จาก “แพะ” มีทิศทางตลาดเติบโตสูง จากความนิยมรับประทานเนื้อและนม รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้มีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาลงทุนทำธุรกิจฟาร์มเลี้ยงแพะ จำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บุกเบิกธุรกิจฟาร์มเลี้ยงแพะเป็นรายแรกๆ ของเมืองไทย และพัฒนาจนยืนหนึ่งด้วยการเป็นฟาร์มเลี้ยงแพะครบวงจร ต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแห่งเดียวในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะการเป็นศูนย์ผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งแพะ และต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง มีส่วนสำคัญ ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนท้องถิ่น โดย SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย เป็นเพื่อนร่วมทาง สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง เยาวลักษณ์ แดนพันธ์ หรือ “เจี๊ยบ” เจ้าของกิจการ เผยเส้นทางธุรกิจ “สต็อกโฮล์ม” เริ่มจากเปิดร้านขายสินค้าการเกษตร โดยเฉพาะ “อาหารสัตว์” อยู่ที่ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ประกอบกับส่วนตัว เรียนจบด้าน “สัตวศาสตร์” จึงนำมารู้ มาขยายธุรกิจ ช่วยเสริมเกื้อหนุนกับธุรกิจเดิม ด้วยการทำฟาร์มเลี้ยง “แพะขุน” อยู่ที่ ต.หนองเรือ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม เพราะมองแนวโน้มสินค้าจากแพะยังเป็นตลาดใหม่ในเมืองไทย โอกาสยังเปิดอีกกว้าง รวมถึง ข้อดีของการเลี้ยงแพะ มีวงจรตั้งท้องเพียง 5 เดือน ทำให้สามารถขายแพะได้ถึง 2 รอบต่อปี   ทั้งนี้เธอได้นำความรู้ด้าน “สัตวศาสตร์” มายกระดับฟาร์มเลี้ยงสู่ศูนย์ผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งแพะ ที่ได้มาตรฐานกรมปศุสัตว์ ซึ่งถือเป็นรายแรกของภาคอีสาน และเป็นรายที่สองของประเทศไทยจากทั้งหมดสามราย เปิดจำหน่ายน้ำเชื้อแพะให้แก่ผู้สนใจที่จะทำธุรกิจฟาร์มแพะ นำ “น้ำเชื้อ” ไปผสมเทียมเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป โดยพ่อพันธุ์นำเข้ามาจากต่างประเทศ มีพระเอก คือ “แซมมี่ บอย” พันธุ์ Chammy America Bore Goat สุดยอดพ่อพันธุ์ สายแชมป์ นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนอายุ 8 เดือน ในราคา 5 แสนบาท ปัจจุบันอายุประมาณ 3 ปี ถ้าจะขาย ราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท   นอกจากนี้เธอยังอธิบายถึงจุดเด่นด้านบริการของ “สต็อกโฮล์ม” ที่นอกจากการจำหน่ายน้ำเชื้อแล้ว ยังสอนกระบวนการผสมเทียมแบบวิธีฉีดน้ำเชื้อผ่านช่องคลองให้ด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ใครๆ ก็ทำได้ เหมาะแก่เกษตรกรหน้าใหม่หรือผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพนี้ สามารถนำไปต่อยอด ขยายพันธุ์แพะได้ด้วยตัวเองในอนาคต   ไอเดียธุรกิจยังไม่หยุดนิ่งเท่านั้น เธอได้เนรมิตพื้นที่ภายในฟาร์มให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงแพะครบวงจร เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้ และเมื่อมีคนเข้ามาจำนวนมาก ต่อยอดเปิดโซนคาเฟ่ไว้รองรับ …

ฮู้จัก “สต็อกโฮล์ม” 🐐✨ SME ฟาร์มแพะมหาสารคาม ผู้บุกเบิกฟาร์มแพะครบวงจรภาคอีสานรายแรกๆ ของไทย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง หลากหลายวิถีเกษตร ฝ่าวิกฤติโควิด-19

พามาเบิ่ง หลากหลายวิถีเกษตร ฝ่าวิกฤติโควิด-19   ในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดได้สร้างรอยแผลให้กับพี่น้องเกษตรกรไม่น้อย ทั้งปัญหาผู้คนมีกำลังซื้อน้อย ห้าง ร้าน ตลาด แหล่งทำมาค้าขาย การเดินทาง การขนส่งสินค้าถูกปิด แต่ในภาวะวิกฤติช่วงอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ยังมีเกษตรกรจำนวนหนึ่งสามารถยืนหยัดฝ่าวิกฤตินี้มาได้ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรอินทรีย์ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ที่ฉวยจังหวะวิกฤติเป็นโอกาส ปลูกฟ้าทะลายโจรอบแห้งส่งให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรปีละ 1,000-2,000 กก. สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านปีละ 160,000-320,000 บาท นอกจากจะมีรายได้จากฟ้าทะลายโจร ยังมีพืชผัก ผลไม้ตามฤดูกาล ทำให้เกิดการค้าขายกันเองในหมู่บ้าน และยังทำให้ผู้คนแถบนี้แทบไม่เคยพบเชื้อโควิดเลย   อีกทั้งยังมีไม้ประดับเป็นอีกตัวหนึ่งที่ยามผู้คนว่างอยู่กับบ้านมักใช้เวลาไปกับกิจกรรมเหล่านี้ อย่างแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับ บ้านแก่งไฮ ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ปรับตัว ปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตและจำหน่าย หันมาผลิตไม้ใบสวย ไม้ประดับ และไม้มงคล ขายผ่านเฟซบุ๊ก 3 เพจ ได้แก่ เพจ “สวนต้นไม้มงคล ต้นไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้จิ๋ว ต้นไม้ฟอกอากาศ BY nmco, เพจ “ไร่ภูซำเตย สวนปูไม้ดอกไม้ประดับ” และเพจ “จำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับไม้มงคล ไร่ภูซำเตย”   รวมถึงอีกหลายกลุ่มที่กล้าคิดนอกกรอบ อย่างกิมจิหอมแดง-กบแปรรูป ของกลุ่มเกษตรกรใน จ.ศรีสะเกษ, อีกทั้งยังมีอีกหลายจังหวัดในประเทศไทย เช่น การแปรรูปผักตบชวาเป็นสินค้าแฟชั่นของชาวบ้าน จ.ปทุมธานี, สมาร์ทฟาร์มเมอร์ ข้าวออร์แกนิกมาตรฐานยูเอสดีเอมาผสมผสานกับพืชสมุนไพรของแมคนีน่าฟาร์ม จ.เชียงราย, สวนมะนาววโรชา จ.อ่างทอง ปลูกผักสวนครัวทั้งบนดินและภาชนะที่หาได้   นอกจากนั้น สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้ออกโมเดลการปลูกผักที่ทำให้มีกินได้ตลอด ซึ่งประสบความสำเร็จใช้ได้จริง เริ่มจากปลูกผักที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ไว ในช่วง 3 วันแรก อาทิ ถั่วงอก ถัดมาเป็นทานตะวันอ่อน ผักบุ้งอ่อน ที่เก็บเกี่ยวได้ตอนอายุ 7-10 วัน ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง แต่หากขายก็ได้ราคาแพงถึง กก.ละ 200-250 บาท ถ้าต้องการบริโภคต้นแก่ก็ปล่อยไว้ 14-24 วัน ส่วนผักที่เก็บกินในช่วง 30-45 วัน จะเป็นกลุ่มผักกินใบอย่างคะน้า กวางตุ้งฮ่องเต้ กรีนโอ๊ก และผักที่มีอายุให้บริโภคได้ในช่วง 45-60 วัน จะเป็นกลุ่มพริก แตงกวา มะเขือเปราะ ต่อมาคือมะเขือเทศใช้เวลาปลูก 70-90 วัน หรือจะเลือกปลูกดอกชมจันทร์ ที่ช่วยในเรื่องการขับถ่าย หรือข้าวโพดหวานที่ใช้เวลา 90 วันเท่ากัน แค่วางแผนผลิตให้ดี ก็มีผักให้เก็บกินทุกวัน ทำให้หลายคนนำไปใช้ทั้งปลูกไว้กินเอง และขายในเชิงพาณิชย์อีกด้วย   อ้างอิงจาก: …

พามาเบิ่ง หลากหลายวิถีเกษตร ฝ่าวิกฤติโควิด-19 อ่านเพิ่มเติม »

ภาคอีสาน 5 อันดับ ผลผลิตทางการเกษตร อิหยังหลายที่สุด ?

ภาคอีสาน 5 อันดับ ผลผลิตทางการเกษตร อิหยังหลายที่สุด ? ผลผลิตสินค้าทางการเกษตรรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ปี 2564 คือ 1. มันสำปะหลังโรงงาน โดยจังหวัดที่ทำผลผลิตมากที่สุดคือ จ.นครราชสีมา 5,507,286 ตัน 2. ข้าวนาปี โดยจังหวัดที่ทำผลผลิตมากที่สุดคือ จ.อุบลราชธานี 1,436,095 ตัน 3. ยางพารา โดยจังหวัดที่ทำผลผลิตมากที่สุดคือ จ.บึงกาฬ 208,058 ตัน 4. ข้าวนาปรัง โดยจังหวัดที่ทำผลผลิตมากที่สุดคือ จ.กาฬสินธุ์ 171,382 ตัน 5. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยจังหวัดที่ทำผลผลิตมากที่สุดคือ จ.นครราชสีมา 501,133 ตัน อ้างอิงจาก: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ผลผลิตอีสาน #นครราชสีมา #อุบลราชธานี #บึงกาฬ #กาฬสินธุ์

Scroll to Top