Siree Jamsuwan

อย่าลืมมาเด้อ เทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟนครพนม 2566 จัดยิ่งใหญ่ 11 วัน 11 คืน 20 – 30 ตุลาคมนี้ ห้ามพลาด

อย่าลืมมาเด้อ เทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟนครพนม 2566 จัดยิ่งใหญ่ 11 วัน 11 คืน 20 – 30 ตุลาคมนี้ ห้ามพลาด   เทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟนครพนมประจำปี 2566 ททท.ร่วมปลุกกระแสการท่องเที่ยว ชวนเที่ยวตามรอยละคร พนมนาคา “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” ตลอด 11 วัน 11 คืน 20-30 ตุลาคมนี้   จังหวัดนครพนม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี 2566 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-30 ตุลาคม 2566 (รวม 11 วัน 11 คืน) โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ในคืนวันออกพรรษา วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ไหลเรือไฟจาก 12 อำเภอ จำนวน 12 ลำ   ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมได้กำหนดให้มีกิจกรรมในทุกค่ำคืน ได้แก่ การไหลเรือไฟโชว์คืนละ 1-2 ลำ การปล่อยกระทงสายวันละ 25,000 ดวง การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดทำเรือไฟโบราณ การแสดงซุ้มวิถีคนทำเรือไฟของ 12 อำเภอ และมหกรรมสินค้า OTOP คาราวานสินค้า การแสดงมหรสพตามประเพณี   สำหรับงานประเพณีไหลเรือไฟนับเป็นประเพณีที่ชาวนครพนมสืบทอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ช่วงวันออกพรรษา ต่อมาได้พัฒนาสร้างสรรค์ทำเรือไฟสวยงามและยิ่งใหญ่ตระการตามากขึ้น ปัจจุบันได้ทำเรือไฟที่มีความยาวกว่า 80 เมตร ประดับไฟตะเกียงนับหมื่นดวง ส่องสว่างโดดเด่นงดงามกลางลำน้ำโขง แฝงด้วยความเชื่อว่าการบูชาด้วยประทีปโคมไฟจะนำความรุ่งโรจน์ สดใสมาสู่ชีวิต เป็นเอกลักษณ์คู่จังหวัดนครพนมในช่วงวันออกพรรษา โดยกิจกรรม Highlight ในคืนวันออกพรรษา   นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานนครพนม กล่าวว่า ททท.ปลุกกระแสท่องเที่ยวภาคอีสาน กระแสความนิยมของละครที่กำลังออนแอร์ ถ่ายทอดเรื่องราวของพญานาคอย่าง “พนมนาคา” ซึ่งตรงกับหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่มีความหมาย (Meaningful Travel) ผ่าน Solf Power 5F+1 (Food, Fashion, Film, Festival, Fight และ Faith) มิติของการท่องเที่ยวจึงถูกนำมาผนวกกับมิติความบันเทิงภายใต้แนวคิด เส้นทางตามรอยพญานาค “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว”   รวมทั้งสอดแทรกการเผยแพร่งานประเพณีของจังหวัด อย่างงานประเพณีไหลเรือไฟซึ่งเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดนครพนมในช่วงเทศกาลออกพรรษา จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวตามรอยละครพนมนาคา และชมความงดงามยิ่งใหญ่ของเรือไฟกลางแม่น้ำโขงในคืนวันออกพรรษา วันที่ 29 ตุลาคม 2566 …

อย่าลืมมาเด้อ เทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟนครพนม 2566 จัดยิ่งใหญ่ 11 วัน 11 คืน 20 – 30 ตุลาคมนี้ ห้ามพลาด อ่านเพิ่มเติม »

หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนอีสาน  4,300,000 บาท อยู่ไสแหน่ ? 

หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนอีสาน  4,300,000 บาท อยู่ไสแหน่ ?    อ้างอิงจาาก: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th  Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC4Po8uZ4nMRHJCoORyg9PTw    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #หนี้ครัวเรือนอีสาน #หนี้ครัวเรือน 

พาส่องเบิ่ง  6 จังหวัดการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2566 (ม.ค. – ส.ค.)

พาส่องเบิ่ง  6 จังหวัดการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2566 (ม.ค. – ส.ค.)   ในเดือน มกราคม – สิงหาคม 2566 ภาคอีสานมีมูลค่าการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว 169,355 ล้านบาท   จะเห็นได้ว่า หนองคายมูลค่าการส่งออกมากกว่าทุกจังหวัด เนื่องจากเป็นด่านหลักในการส่งออกสินค้าจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไปยัง สปป. ลาว โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็น ถึงแม้ว่า สปป. ลาว จะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้ออย่างหนัก แต่สินค้าที่ส่งออกจากด่านหนองคาย จะเป็นสินค้ากลุ่มสุดท้ายที่ลาวจะยังมีการนำเข้า   อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยที่ตั้งของอีสานที่เป็นด่านสำคัญในการส่งออกสินค้าไป สปป.ลาว รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจาก รถไฟจีน–ลาว จึงทําให้อีสานอยากวางตำแหน่งตัวเอง เป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย   อ้างอิงจาาก: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th  Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC4Po8uZ4nMRHJCoORyg9PTw    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การค้าชายแดน #การค้าชายแดนไทยลาว #ลาว #หนองคาย #มุกดาหาร #อุบลราชธานี#เลย #นครพนม #บึงกาฬ

พาส่องเบิ่ง  ภาพรวม เกษตรกรรมในภาคอีสาน

พาส่องเบิ่ง  ภาพรวม เกษตรกรรมในภาคอีสาน   ภาคอีสานมีจำนวนครัวเรือนเกษตรกร 3,503,763 ครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วน 47.6% ของจำนวนครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งจำนวนครัวเรือนเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากปี 2563 เพียง 0.8%    โดย 5 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรสูงสุด 1 นครราชสีมา 324,968 ครัวเรือน 2 อุบลราชธานี 324,801 ครัวเรือน 3 ศรีสะเกษ 251,498 ครัวเรือน 4 ขอนแก่น 248,717 ครัวเรือน 5 ร้อยเอ็ด 240,605 ครัวเรือน   5 อันดับผลผลิตสูงสุดทางการเกษตรของภาคอีสาน 1 อ้อย 38.5 ล้านตัน 2 มันสำปะหลัง 19.9 ล้านตัน 3 ข้าวนาปี 12.9 ล้านตัน 4 ยางพารา 1.3 ล้านตัน 5 ข้าวนาปรัง 1.1 ล้านตัน   อ้างอิงจาก: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมชาติ, สำนักงานสถิติแห่งชาติ    ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เกษตรกรอีสาน #เกษตรอีสาน

เครือซีพีส่งเสริมปลูกบักพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว

เครือซีพีส่งเสริมปลูกบักพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว   เครือซีพีช่วยเกษตรกรขอนแก่น ส่งเสริมปลูกมะพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว   นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า พื้นที่ภาคอีสานโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ราบสูง ดินปนทราย และขาดแคลนแหล่งน้ำในการเพาะปลูก เกษตรกรส่วนใหญ่จึงทำการเกษตรเชิงเดี่ยว เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งผลผลิตจะมีความผันผวนสูงขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับราคาผลผลิตที่ขึ้นอยู่กับกลไกตลาดในแต่ละปี ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนในบางปีและภาระหนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น   จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเครือซีพีในการเข้าไปร่วมพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน นำร่องที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ และภาคีอื่นๆ ในการศึกษาเชิงลึกด้านการเกษตรมูลค่าสูง ทั้งระบบชลประทาน การวิเคราะห์ดินและธาตุอาหารที่เหมาะสม การเพาะปลูก และการตลาด เพื่อที่จะให้เกษตรกรมีทางเลือกด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่มากขึ้นและมีรายได้ที่มั่นคง เพียงพอต่อรายจ่าย สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน   “มะพร้าวน้ำหอม” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งสามารถเพาะปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ภาคอีสาน เครือซีพีจึงพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมอาชีพปลูกพืชทางเลือกให้แก่เกษตรกร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน กว่า 4 ปี เครือซีพีทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการวางแผนและเทคนิคในการเพาะปลูก การดูแลบำรุงรักษา เชื่อมโยงตลาดผลักดันผลผลิตเข้าสู่แม็คโคร ตลอดจนการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมตำบลบ้านทุ่งโป่งขึ้น เพื่อให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ พร้อมก้าวสู่การเป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) อย่างยั่งยืน   ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 5 รุ่น จำนวน 90 ราย ในเนื้อที่ 242 ไร่ สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 คาดว่าสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 1,800,000 บาทต่อปี และมีปริมาณผลผลิตราว 80,000-100,000 ลูกต่อปี รวมถึงวางกลยุทธ์การตลาดขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มมูลค่ามะพร้าวน้ำหอม ต.ทุ่งโป่ง ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรกลุ่มวิสาหกิจฯ ให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พึ่งพาตนเองพร้อมก้าวสู่การเป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) อย่างยั่งยืน และในปี 2567 คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น และสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรราวๆ 2 ล้านบาทต่อปี   นายบุญหยด นาเมืองรักษ์ เกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมบ้านทุ่งโป่งรุ่นที่ 1 กล่าวว่า เดิมปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และข้าว ซึ่งใน 1 ปี มันสำปะหลังให้ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตัน/ไร่/ปี แต่เนื่องจากราคาในตลาดมีความผันผวนมาก จึงมีรายได้ไม่แน่นอน ตนจึงหันมาทดลองปลูกมะพร้าวตั้งแต่ปี 2561 ใช้ระยะเวลา 3 ปีครึ่งจึงเก็บผลผลิตในครั้งแรกได้ ให้ผลผลิตที่ดีเกินคาดและมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งในการเก็บเกี่ยว โดยให้ผลผลิตสูงสุดถึง 1,200 ลูก …

เครือซีพีส่งเสริมปลูกบักพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง พื้นที่ที่ได้รับผลโยชน์จากน้ำชลประทาน  ในอีสาน หลายปานใด๋ ? 

พามาเบิ่ง พื้นที่ที่ได้รับผลโยชน์จากน้ำชลประทาน  ในอีสาน หลายปานใด๋ ?    ISAN Insight & Outlook พามาเบิ่ง พื้นที่ที่ได้รับผลโยชน์จากน้ำชลประทาน ในอีสาน หลายปานใด๋ ? จากสถานการณ์ ภาคเกษตรอีสานท่ามกลางวิกฤตเอลนีโญ ความกังวลต่อภัยแล้งจากเอลนีโญที่ปรับตัวสูงขึ้น กำลังเป็นภัยคุกคามหลักต่อภาคการเกษตรอีสานปีการเพาะปลูก 2566/67 อย่างไรก็ตามอีสานอินไซต์คาดสินค้าเกษตรบางชนิดอาจปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณน้ำฝนสะสมก่อนหน้านี้   เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปรังปีการเพาะปลูก 66-67 มีแนวโน้มลดลงชัดเจน จากพื้นที่เพาะปลูกในภาคการกลางเป็นสำคัญ ที่เป็นพื้นที่เหมาะสมในการปลูกข้าวจากปริมาณน้ำกักเก็บที่ลดลงชัดเจน อย่างไรก็ตามอีสานอินไซต์คาดภัยเอญนีโญปีนี้ยังไม่น่ากังวลเท่าปี 2558   อีสานอินไซต์คาดผลกระทบของเอลนีโญกระทบให้ผลผลิตข้าวลดลงทั้งนาปีและนาปรัง แต่อีสานมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าภาคอื่น ในขณะที่ราคาข้าวมีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างชัดเจนทั้งนาปีและนาปรัง   อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ : https://isaninsight.kku.ac.th/wp-content/uploads/2023/09/Q3_2566-2.pdf    อ้างอิงจาก : กรมชลประทาน, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ชลประทาน #น้ำชลประทาน #เกษตรอีสาน

พามาเบิ่ง ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ ปี 2566 ในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?

พามาเบิ่ง ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ ปี 2566 ในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?   อ้างอิงจาก :  กรมธนารักษ์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ที่ดินอีสาน #ราคาที่ดิน #ราคาที่ดินอีสาน

ปังหลาย ไทวัสดุ ประเดิมขยายสาขาไตรมาส 4  สาขาศรีสะเกษ สาขาที่ 76 ปลุกตลาดก่อสร้างและกำลังซื้อชายแดน

ปังหลาย ไทวัสดุ ประเดิมขยายสาขาไตรมาส 4  สาขาศรีสะเกษ สาขาที่ 76 ปลุกตลาดก่อสร้างและกำลังซื้อชายแดน   ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินยุทธศาสตร์ขยายสาขารับไตรมาสที่ 4 ในพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ ทุ่มงบกว่า 340 ล้าน เปิดไทวัสดุ สาขาศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสาขาที่ 76 ของประเทศและสาขาแรกของจังหวัด ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 221 สาย ศรีสะเกษ – อ.กันทรลักษ์    โดยรวบรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างของตกแต่งบ้านและซ่อมแซมบ้านครบวงจรกว่า 38,000 รายการ บนพื้นที่กว่า 16,000 ตร.ม. รองรับดีมานด์การลงทุนของภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจภายในพื้นที่ การค้าชายแดนไทย – กัมพูชาที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูความโดดเด่นด้วย 3 กลยุทธ์แห่งการตอบโจทย์ ได้แก่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการเชิงลึก ตอบโจทย์ทุกกำลังซื้อ และตอบโจทย์ทุกการเข้าถึง   นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 4 ไทวัสดุได้ประเดิมการขยายสาขาไปยังจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจฮาร์ดไลน์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีสาขามากที่สุดเป็นอับดับ 2 รองจากภาคกลาง เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตเพิ่มสูงขึ้น การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ความโดดเด่นจากลักษณะภูมิศาสตร์เป็นแหล่งผลิตและกระจายสินค้า – บริการ พรมแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้เกิดธุรกิจการค้าในหลายประเภท   สำหรับไทวัสดุ สาขาศรีสะเกษ นับเป็นสาขาที่ 76 ของประเทศ และเป็นสาขาที่ 16 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีสาขาชัยภูมิ สาขาสุรินทร์ สาขาบุรีรัมย์ สาขาสกลนคร สาขาขอนแก่น สาขาอุบลราชธานี สาขาร้อยเอ็ด สาขามหาสารคาม สาขามุกดาหาร สาขาอุดรธานี สาขาหนองบัวลำภู สาขาเลย สาขานครราชสีมา สาขาปากช่อง และสาขานครราชสีมา (หัวทะเล) เปิดนำร่องไปก่อนหน้านี้    ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในทุกพื้นที่ ด้วยความครบครันของสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน เช่นเดียวกับสาขาศรีสะเกษที่ได้รวบรวมสินค้าแบรนด์ดัง คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า เพื่อคนในพื้นที่ที่มีอยู่กว่า 160,000 ครัวเรือน รองรับความต้องการทั้งในกลุ่มสร้างบ้านและต่อเติมบ้าน กลุ่มตกแต่งบ้าน กลุ่มช่าง กลุ่มผู้รับเหมาที่ให้บริการก่อสร้างอาคารประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ยังชูความแตกต่าง และความโดดเด่นของสาขาใหม่ดังนี้   ตอบโจทย์ทุกความต้องการในเชิงลึก – ด้วยความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ และทำการศึกษาพฤติกรรมตั้งแต่ก่อนเปิดบริการ เพื่อคัดสรรและส่งมอบสินค้า/บริการให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด อีกทั้งยังทั้งมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านช่างมือ 1 จากทีม vFIX คอยให้คำปรึกษา …

ปังหลาย ไทวัสดุ ประเดิมขยายสาขาไตรมาส 4  สาขาศรีสะเกษ สาขาที่ 76 ปลุกตลาดก่อสร้างและกำลังซื้อชายแดน อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก ดอกไม้ประจำจังหวัดในอีสาน

พามาฮู้จัก ดอกไม้ประจำจังหวัดในอีสาน   อ้างอิงจาก: panmai.com    ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ดอกไม้มงคล #ดอกไม้ประจำจังหวัด #ดอกไม้ประจำจังหวัดอีสาน  

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย   3 ปี ANT DELIVERY ฟู้ดเดลิเวอรี่ สัญชาติไทย โตก้าวกระโดดกว่า 1,000% ขยาย 150 สาขาทั่วประเทศ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาด COVID-19 ธุรกิจ Food delivery เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันสถานการณ์โควิดทั่วโลกและประเทศไทยได้คลี่คลายไปบ้าง แต่พฤติกรรมการสั่งอาหารออนไลน์ก็เป็นพฤติกรรมที่คนไทยนิยมและมีความคุ้นชินกันมากขึ้น ประกอบกับมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Food delivery ที่หลากหลาย ทำให้คนไทยมีโอกาสตัดสินใจเลือกสั่งอาหารได้ง่ายมากขึ้น สำหรับคนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ และปริมณฑล หรือตามหัวเมื่องใหญ่ ๆ คงรู้จักเพียง LINEMAN, GRAB และ FOOD PANDA วันนี้เรา จะมาแนะนำให้รู้จัก Food Delivery สัญชาติไทย ที่ให้บริการในอำเภอเมืองรอง แต่สามารถขยายสาขาได้มากถึง 150 สาขาทั่วประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 ปีที่ผ่านมา   ANT Delivery คือ Food Delivery Platform ให้บริการ จัดส่งอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงสินค้าที่ต้องการเชื่อมโยงผู้คนในชุมชนด้วยแนวคิด “Connect the Local” ด้วยบริการที่รู้ใจกว่า ภายใต้การดูแลของบริษัท กองทัพมด จำกัด เป็นบริษัท Start up สัญชาติไทย โดยมีที่ตั้งบริษัทอยู่ที่อำภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี   ANT Delivery ก่อตั้งโดย “คุณบิ๊ก” องครักษ์ อินทร์ทองช่วย โดยก่อนที่ คุณบิ๊ก จะมาทำธุรกิจ Ant Delivery คุณบิ๊กเองก็เป็นเพียงผู้ประกอบการร้านอาหารรายหนึ่ง ในอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับผลกระทบเหมือนผู้ประกอบการอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เช่นกัน ในครั้งนั้นเอง ร้านอาหารถูกบีบให้ปรับตัว เปลี่ยนวิธีการขาย ร้านอาหารทั้งหมดเกือบ 100% ต้องซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ หรือแอปพลิเคชัน โดยไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ณ เวลานั้น ในต่างจังหวัดหรือต่างอำเภอ ไม่ได้มีผู้บริการเดลิเวอรีที่เพียงพอ ในส่วนที่มีผู้ให้บริการที่น้อยมาก ๆ ก็ไม่ได้ตอบโจทย์กับคนต่างจังหวัดเท่าที่ควร เช่น ในเรื่องของการจ่ายเงินเป็นเครดิต และค่า GP ที่สูงเกินไป    จากปัญหาดังกล่าว ทำให้คุณบิ๊กเกิดคำถามว่า ทำไมถึงมีความแตกต่างของโอกาสระหว่างคนเมืองและคนต่างจังหวัดที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการขายหรือเทคโนโลยีที่เท่าเทียมกัน คุณบิ๊กจึงอยากแก้ไขในการบริการรับ-สั่งอาหารที่ตอบโจทย์กับพื้นที่ต่างจังหวัดของไทยให้มากขึ้น จึงได้รวมตัวกับทีมนักพัฒนาแอปพลิเคชันและนักการตลาดระดับประเทศที่มีความฝันเดียวกันร่วมพัฒนาจนสามารถขึ้นมาเป็นแอปพลิเคชัน Food delivery อันดับ 4 ของประเทศ ในระยะเวลาเพียง 1 ปี …

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top