Siree Jamsuwan

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย   3 ปี ANT DELIVERY ฟู้ดเดลิเวอรี่ สัญชาติไทย โตก้าวกระโดดกว่า 1,000% ขยาย 150 สาขาทั่วประเทศ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาด COVID-19 ธุรกิจ Food delivery เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันสถานการณ์โควิดทั่วโลกและประเทศไทยได้คลี่คลายไปบ้าง แต่พฤติกรรมการสั่งอาหารออนไลน์ก็เป็นพฤติกรรมที่คนไทยนิยมและมีความคุ้นชินกันมากขึ้น ประกอบกับมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Food delivery ที่หลากหลาย ทำให้คนไทยมีโอกาสตัดสินใจเลือกสั่งอาหารได้ง่ายมากขึ้น สำหรับคนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ และปริมณฑล หรือตามหัวเมื่องใหญ่ ๆ คงรู้จักเพียง LINEMAN, GRAB และ FOOD PANDA วันนี้เรา จะมาแนะนำให้รู้จัก Food Delivery สัญชาติไทย ที่ให้บริการในอำเภอเมืองรอง แต่สามารถขยายสาขาได้มากถึง 150 สาขาทั่วประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 ปีที่ผ่านมา   ANT Delivery คือ Food Delivery Platform ให้บริการ จัดส่งอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงสินค้าที่ต้องการเชื่อมโยงผู้คนในชุมชนด้วยแนวคิด “Connect the Local” ด้วยบริการที่รู้ใจกว่า ภายใต้การดูแลของบริษัท กองทัพมด จำกัด เป็นบริษัท Start up สัญชาติไทย โดยมีที่ตั้งบริษัทอยู่ที่อำภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี   ANT Delivery ก่อตั้งโดย “คุณบิ๊ก” องครักษ์ อินทร์ทองช่วย โดยก่อนที่ คุณบิ๊ก จะมาทำธุรกิจ Ant Delivery คุณบิ๊กเองก็เป็นเพียงผู้ประกอบการร้านอาหารรายหนึ่ง ในอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับผลกระทบเหมือนผู้ประกอบการอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เช่นกัน ในครั้งนั้นเอง ร้านอาหารถูกบีบให้ปรับตัว เปลี่ยนวิธีการขาย ร้านอาหารทั้งหมดเกือบ 100% ต้องซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ หรือแอปพลิเคชัน โดยไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ณ เวลานั้น ในต่างจังหวัดหรือต่างอำเภอ ไม่ได้มีผู้บริการเดลิเวอรีที่เพียงพอ ในส่วนที่มีผู้ให้บริการที่น้อยมาก ๆ ก็ไม่ได้ตอบโจทย์กับคนต่างจังหวัดเท่าที่ควร เช่น ในเรื่องของการจ่ายเงินเป็นเครดิต และค่า GP ที่สูงเกินไป    จากปัญหาดังกล่าว ทำให้คุณบิ๊กเกิดคำถามว่า ทำไมถึงมีความแตกต่างของโอกาสระหว่างคนเมืองและคนต่างจังหวัดที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการขายหรือเทคโนโลยีที่เท่าเทียมกัน คุณบิ๊กจึงอยากแก้ไขในการบริการรับ-สั่งอาหารที่ตอบโจทย์กับพื้นที่ต่างจังหวัดของไทยให้มากขึ้น จึงได้รวมตัวกับทีมนักพัฒนาแอปพลิเคชันและนักการตลาดระดับประเทศที่มีความฝันเดียวกันร่วมพัฒนาจนสามารถขึ้นมาเป็นแอปพลิเคชัน Food delivery อันดับ 4 ของประเทศ ในระยะเวลาเพียง 1 ปี …

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย อ่านเพิ่มเติม »

จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในอีสานหลายปานใด๋ ?  (มกราคม – สิงหาคม) ปี 2566  จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 163 ล้านคน

จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในอีสานหลายปานใด๋ ?  (มกราคม – สิงหาคม) ปี 2566  จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 163 ล้านคน   อ้างอิงจาก: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย #ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยในอีสาน 

ที่ผ่านมา “ข้าวไทย” ส่งออกอิหยังแหน่ ?

ที่ผ่านมา “ข้าวไทย” ส่งออกอิหยังแหน่? “ข้าว” สินค้าส่งออกหลักของไทย ที่มีพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุด ครอบคลุมครัวเรือนกว่า 4.9 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ รอบปีเพาะปลูก 2562/63 มีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด 68.54 ล้านไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ตามลำดับ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยผลิตข้าวเปลือกเฉลี่ยปีละ 31-33 ล้านตัน ซึ่งนำไปสีเป็นข้าวสารได้ประมาณ 20-22 ล้านตัน โดยใช้บริโภคภายในประเทศเฉลี่ย 11 ล้านตัน ส่วนที่เหลือมีทั้งส่งออกและสต๊อก แบ่งเป็น ข้าวเพื่อใช้บริโภคโดยตรง มีสัดส่วน 60-70% และ ข้าวเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ แป้งข้าว ขนมขบเคี้ยวจากข้าว การผลิตไฟฟ้าชีวมวล และการผลิตเอทานอล เป็นต้น มีสัดส่วน 30-40% ของความต้องการบริโภคข้าวในประเทศทั้งหมด ปริมาณการส่งออกข้าวของไทยในปี 2563 มีโครงสร้างดังนี้ – ข้าวขาว มีปริมาณการค้าสูงสุดในตลาดโลก โดยปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 2.24 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 39.1% ของปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งหมดของไทย ตลาดส่งออกหลักอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา และเอเชีย โดยส่งออกไปยังประเทศแองโกลาสูงสุดที่ 14.3% รองลงมาเป็นญี่ปุ่น (10.9%) โมซัมบิก (8.6%) แคเมอรูน (7.6%) และสหรัฐฯ (6.4%) ตามลำดับ – ข้าวนึ่ง ปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 1.45 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 25.3% ตลาดส่งออกหลักอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา โดยส่งออกไปยังประเทศแอฟริกาใต้สูงถึง 44.6% รองลงมาเป็นเบนิน (25.4%) เยเมน (8.4%) แคเมอรูน (4.9%) และโตโก (2.7%) ตามลำดับ – ข้าวหอมมะลิ ปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 1.19 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 20.7% ตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐฯ (41%) รองลงมาเป็นจีน (11.6%) ฮ่องกง (10.8%) และแคนาดา (6.8%) ตามลำดับ – ปลายข้าว เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแป้งและอาหารสัตว์ ปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 5.9 แสนตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 10.3% ตลาดส่งออกหลัก คือ เซเนกัล (18%) รองลงมาเป็นจีน (17.5%) อินโดนีเซีย (14.7%) และโกตดิวัวร์ (13.3%) ตามลำดับ – ข้าวเหนียว …

ที่ผ่านมา “ข้าวไทย” ส่งออกอิหยังแหน่ ? อ่านเพิ่มเติม »

ซอมเบิ่ง ททท.อุดรฯ เปิดแผนตลาดปี 67 ชูขายท่องเที่ยว 3 นครนาคา

ซอมเบิ่ง ททท.อุดรฯ เปิดแผนตลาดปี 67 ชูขายท่องเที่ยว 3 นครนาคา   อุดรธานี – ททท.อุดรธานีชูทิศทางท่องเที่ยว 3 นครนาคา “นคราธานี” อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ มุ่งสู่การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์อันทรงคุณค่าอย่างยั่งยืน นำเสนอทิศทางและแผนการดำเนินงานในปี 2567   นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานอุดรธานี รับผิดชอบพื้นที่ อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ ในปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการส่งมอบคุณค่าการท่องเที่ยวที่เข้มข้นขึ้นในทุกมิติ ททท.สำนักงานอุดรธานีจึงได้กำหนดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามทิศทาง คือ    โครงการ “กินแล้วได้ ไหว้แล้วปัง” มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความถี่ในการเดินทางผ่านอาหารการกิน ไปยังกลุ่ม active senioir และวัยทำงาน ภายใต้แนวคิด มากกว่าอาหารคือประสบการณ์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์อาหารเพื่อสุขภาพอาหารถิ่น อาหารรางวัลมิชลิน อาหารสดใหม่ในชุมชน ฯลฯ รวมถึงการร่วมกับกิจกรรม “รับพลังดี” ผ่านแหล่งท่องเที่ยว  โครงการ “เมืองรอง oce ต้องลอง @นคราธานี” ที่มุ่งนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ผ่านประสบการณ์ 3 ธรรม “ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม” ไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่ม silver age และ gen Y โครงการ “วันธรรมดา เที่ยวได้ไม่ธรรมดา @นคราธานี” ที่มุ่งกระจายช่วงเวลาในการเดินทาง ส่งเสริมการเดินทางในวันธรรมดา ไปยังกลุ่มประชุม สัมมนา mice และกลุ่ม coperate เพื่อส่งมอบคุณค่าของการเดินทางในวันธรรมดา พร้อมนำเสนอสิทธิพิเศษจากผู้ประกอบการในพื้นที่กระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดา และ  โครงการ “365 วัน เที่ยวได้ทุกวัน @นคราธานี” ที่มุ่งเจาะกลุ่ม Multi-gen Famliy ให้ออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ในกิจกรรม งานประเพณีที่น่าสนใจในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมเพิ่มวันพักของนักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมพิเศษหรือประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร   โครงการของ ททท.สำนักงานอุดรธานีดังกล่าว จะได้มีการร่วมบูรณาการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วนซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้และได้ขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพเข้ามายังพื้นที่ได้มากขึ้นอีกด้วย   อ้างอิงจาก :  Khon Kaen Let’s Go, Khon Kaen University   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : …

ซอมเบิ่ง ททท.อุดรฯ เปิดแผนตลาดปี 67 ชูขายท่องเที่ยว 3 นครนาคา อ่านเพิ่มเติม »

ฟ้าวมาเบิ่ง เช็คพิกัดร้านธงฟ้า “พาณิชย์” แดนอีสาน จ่อร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000

ฟ้าวมาเบิ่ง เช็คพิกัดร้านธงฟ้า “พาณิชย์”  แดนอีสาน จ่อร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000   จากกรณีที่รัฐบาลภายใต้การดำเนินงาน ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เมื่อย้อนไปดูการแถลงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet  ว่า นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet คือ นโยบายธงหลัก นโยบายหนึ่งของรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้ 2 หลักคิด ได้แก่   หลักคิดที่ 1 กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ : ยืนยันกรอบคิดนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หลักคิดสำคัญ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจไปทุกชุมชนทั่วทุกภูมิภาค ด้วยกลไกของ Blockchain ที่สามารถเขียน contract กำหนดกรอบการใช้จ่ายเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ เพราะฉะนั้น หลักคิดของนโยบายนี้ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะอยู่ในจุดใดของประเทศก็ตาม   หลักคิดที่ 2 สร้างโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย : เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน ในอนาคตจะสามารถมีกระเป๋าเงิน 2 กระเป๋า 1) กระเป๋าเงินสด 2) กระเป๋าเงินดิจิทัล   เงื่อนไข เป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร (กำลังพิจารณาเพิ่มเติม) ใช้จ่ายซื้อสินค้าทุกประเภท ไม่สามารถใช้ซื้อเหล้าหรือบุหรี่ หรือสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้   นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะผลักดันร้านค้าธงฟ้าให้เข้าในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่กังวลเรื่องการเก็บภาษี มองว่าอย่าไปกังวล เพราะไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาล เป้าหมายของรัฐบาล คือ จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ คือ ทุกคนทั่วหน้าทุกฝ่าย หวังว่า 6 เดือนที่ใช้เงินจำนวนนี้ จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและการสร้างงาน   เมื่อพลิกไปดู ร้านธงฟ้า ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผยว่า ให้ ร้านธงฟ้า …

ฟ้าวมาเบิ่ง เช็คพิกัดร้านธงฟ้า “พาณิชย์” แดนอีสาน จ่อร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก รายชื่อไม้มงคลพระราชทาน ไม้ประจำจังหวัดในอีสาน

พามาฮู้จัก รายชื่อไม้มงคลพระราชทาน ไม้ประจำจังหวัดในอีสาน   อ้างอิงจาก: Vayo.co.th   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ไม้มงคลพระราชทาน #ไม้ประจำจังหวัด #ไม้ประจำจังหวัดอีสาน  

เปรียบเทียบเมืองที่มีศักยภาพที่จะเป็น Mice ของภาคอีสาน มีอิหยังน่าสนใจแหน่ ? 

เปรียบเทียบเมืองที่มีศักยภาพที่จะเป็น Mice ของภาคอีสาน มีอิหยังน่าสนใจแหน่ ?    นอกจากปัจจุบันที่มี MICE City ในภาคอีสาน คือ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา แล้วนั้น ยังมีอีกสองจังหวัดที่มีศักยภาพที่จะเป็นเมืองไมซ์อีกด้วย   อุบลราชธานี การเดินทางมา จ. อุบลราชธานี สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน – สนามบินอุบลราชธานี ด้วยรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ หรือด้วยรถยนต์ส่วนตัว  จ.อุบลราชธานี เป็นเมืองไมซ์ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ผาชะนะได ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ส่วนของหน้าผาตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการคำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทย และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำโขง และประเทศลาวได้อีกด้วย วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือวัดเรืองแสง ที่มีจุดเด่นคือภาพเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์ บนผนังด้านหลังของอุโบสถ   นอกจากนี้ จ. อุบลราชธานี ยังมีสถานที่จัดกิจกรรมไมซ์ที่น่าสนใจ เช่น ศูนย์เรียนรู้ กลุ่มอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้านบ้านนาเยีย ที่เน้นการทำนาอินทรีย์ และมีเวิร์คช็อปการแปรรูปข้าวให้หมู่คณะหรือกลุ่มผู้สนใจเรียนรู้  หรือบ้านคันท่าเกวียน ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่รองรับการจัดกิจกรรม Team Building และให้ความรู้เรื่องการปลูกดอกฝ้าย และการทอผ้าฝ้าย   บุรีรัมย์ การเดินทางมา จ. บุรีรัมย์ สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน – สนามบินบุรีรัมย์ ด้วยรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ หรือด้วยรถยนต์ส่วนตัว  จ. บุรีรัมย์ เป็นเมืองไมซ์ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญสมัยอารยธรรมขอม เช่น ปราสาทหินพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ นอกจากนี้ยังมีช้างอารีนา สนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ความจุ 32,600 ที่นั่ง ที่นอกจากเป็นสนามกีฬาแล้ว ยังเป็นเป็นสถานที่จัดงาน Special Event และกิจกรรมไมซ์ต่างๆ ได้อีกมากมาย    นอกจากนี้ จ. บุรีรัมย์ ยังมีพื้นที่ทำกิจกรรมไมซ์ เช่น ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จ. บุรีรัมย์ ที่เปิดต้อนรับการเข้าชมและศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติ หรือ บ้านตาลอง ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัติวิถี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งเรื่องการปลูกข้าวไทย และการทอผ้าไหม ที่เปิดต้อนรับการเข้าศึกษาดูงานแบบเป็นหมู่คณะได้อีกด้วย   อ้างอิงจาก: สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง สำนักงานสถิติแห่งชาติ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : …

เปรียบเทียบเมืองที่มีศักยภาพที่จะเป็น Mice ของภาคอีสาน มีอิหยังน่าสนใจแหน่ ?  อ่านเพิ่มเติม »

Green City เมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ในแดนอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?

Green City เมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ในแดนอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?   ปัจจุบัน เทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นกระแสที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย รถรายานพาหนะ ต่างก็ต้องใส่ใจและพยายามจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะตามมา ซึ่งนอกจากที่ผู้บริโภคจะตระหนักและตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นแล้ว แนวทางหรือนโยบายการพัฒนาเมืองก็มีการพูดถึงถึงเรื่องความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน   ในหลายๆ เมืองทั่วโลกได้ดำเนินแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อนความเป็นเมืองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือ Green city มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศสิงคโปร์ ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์ น้ำสะอาด และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยการมุ่งพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งสวนและเพื่อเพิ่มคุณภาพการใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียว   Green City (เมืองสีเขียว หรือ เมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) คือ เมืองที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีประชากรที่ตระหนักและมีจิตสำนึกร่วมกันถึงระบบนิเวศและดำเนินชีวิตบนแนวคิดของความยั่งยืน เพื่อลดการพึ่งพาการใช้ทรัพยากร ทั้งพลังงาน อาหารและน้ำ รวมไปถึงลดการปลดปล่อยของเสียในระบบนิเวศ ทั้งในรูปของความร้อนและมลพิษต่างๆ ซึ่งจะทำให้เป็นเมืองที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองและไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรจากพื้นที่ภายนอก สามารถสร้างพลังงานได้เองจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ มุ่งเน้นการสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในพื้นที่เมือง   จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าองค์ประกอบทั้ง 4 มีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน จะขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไม่ได้ จึงกล่าวได้ว่า แนวคิดการพัฒนา “เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” นี้เป็นแนวคิดที่สอดรับกับนโยบายของประเทศ และมีความจำเป็นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดำเนินการ ทั้งการใช้เป็นกรอบในการกำหนดนโยบาย การพัฒนาท้องถิ่น และเป็นกรอบในการดำเนินงานพัฒนาร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)   อ้างอิงจาก :  ไทยรัฐ, โครงการสนับสนุนการออกแบบเมืองอัจฉริยะ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #greencity #greencityอีสาน 

พามาเบิ่ง ใน CLMV เก็บ VAT เท่าใด๋แหน่ ? 

พามาเบิ่ง ใน CLMV เก็บ VAT เท่าใด๋แหน่ ?    ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) หรือ VAT  เป็นการเก็บภาษีจากการขายสินค้าหรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนการผลิตและจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ   หมายเหตุ : ข้อมูลปี 2565   อ้างอิงจาก :  vatupdate.com,  taxsummaries.pwc.com, cambodia.acclime.com, globalvatcompliance.com, accrevo.com กรมสรรพากร   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ภาษี #เปรียบเทียบภาษี #CLMV

เฮ็ดเวียกกี่มื้อ สิได้ iPhone 15 IPHONE INDEX 2023

เฮ็ดเวียกกี่มื้อ สิได้ iPhone 15 IPHONE INDEX 2023   ข้อมูลจากดัชนี iPhone Index 2023 โดยนักวิเคราะห์ของ Picodi Thailand ได้เปรียบเทียบราคา iPhone 15 Pro (128 GB) ในแต่ละพื้นที่ (สำรวจทั้งหมด 47 ประเทศ) กับรายได้เฉลี่ย และคำนวณดัชนีบ่งชี้สำหรับ iPhone จากราคาของสมาร์ทโฟนที่แสดงคือค่าจ้างรายวันต่อคน สำหรับประเทศไทย iPhone 15 Pro (128 GB) มีราคาอยู่ที่ 41,900 บาท เท่ากับรุ่น 14 Pro ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยในไทยอยู่ที่ 19,540 บาท   หมายความว่า คนไทยโดยเฉลี่ยต้องใช้เวลา 45 วันทำงานสำหรับการซื้อ iPhone 15 Pro สักเครื่อง โดยมีเงื่อนไขว่าเงินที่ได้รับทั้งหมดจะถูกเก็บไว้เพื่อสิ่งนี้เท่านั้น   อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จำนวนวันทำงานที่คนไทยต้องทำโดยเฉลี่ยเพื่อซื้อ #iPhone รุ่นใหม่ นั้นลดลง 3.7 วัน จาก 48.7 วันในปี 2565 ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ เป็นผู้นำในการจัดอันดับนี้ โดยชาวสวิสโดยเฉลี่ยใช้เวลาเพียง 4.2 วันเพื่อซื้อ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด ขณะที่ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยใช้เวลา 5.3 วัน และชาวออสเตรเลียโดยเฉลี่ย 6.3 วัน   ทั้งนี้ ดัชนี iPhone Index 2023 คำนวณตามราคาอย่างเป็นทางการของ iPhone 15 Pro (128 GB) ซึ่งนำเสนอโดยสาขาในท้องถิ่นนั้น ๆ ของ Apple หรือจากผู้ขายที่ได้รับอนุญาต ส่วนค่าจ้างโดยเฉลี่ยนั้น นำมาจากเว็บไซต์ของสำนักงานสถิติอย่างเป็นทางการและเป็นข้อมูลล่าสุด ณ วันที่วางจำหน่าย iPhone ในแต่ละประเทศ และค่าจ้างสุทธิได้มาจากการคำนวณเงินเดือน โดยนำค่าจ้างรายเดือนหารด้วย 21 ซึ่งเป็นจำนวนวันทำงานโดยเฉลี่ยในหนึ่งเดือน ขณะที่ในประเทศที่สำนักงานสถิติใช้อัตรารายสัปดาห์ ค่าจ้างจะถูกหารด้วย 5   อ้างอิง:  Picodi, กรุงเทพธุรกิจ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : …

เฮ็ดเวียกกี่มื้อ สิได้ iPhone 15 IPHONE INDEX 2023 อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top