September 2022

พาส่องเบิ่ง เส้นทาง Class Café

“สตาร์บัคส์แห่งภาคอีสาน” จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจาก “ร้านกาแฟสัญชาติไทย Class Café” ขวัญใจชาวอีสาน จากร้านกาแฟที่มีขนาดพื้นที่เล็ก ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ทำยอดขายได้วันละไม่กี่สิบแก้ว ผ่านมากว่า 8 ปี Class Café ประสบความสำเร็จอย่างมาก พร้อมขึ้นแท่นร้านกาแฟขวัญใจ Youth Generation ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว เรียบง่าย ทันสมัย และมีความเป็น Co-working Space ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา และคนทำงานฟรีแลนซ์ จุดเริ่มต้น Class Café คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด เจ้าของร้านกาแฟ Class Café เคยทำงานในสายเทคโนโลยีมาตลอด แต่เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ธุรกิจร้านกาแฟยังไม่เป็นที่นิยมมากในเมืองไทย ทำให้เริ่มมองเห็นช่องว่างทางการตลาดเลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำในบริษัท แล้วชักชวนญาติอีก 2 ท่าน มาทำร้านกาแฟด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ สร้างคาแรกเตอร์ของร้านกาแฟที่สมบูรณ์แบบและแตกต่างจากร้านอื่น โดยผมรับหน้าที่ดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้ง ส่วนผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 ท่าน ดูแลเรื่องอาหาร และวัตถุดิบ ปัจจุบันผมและร่วมผู้ก่อตั้งบริษัทถือหุ้นรวมกันประมาณ 75% คุณกอล์ฟ เล่าว่า ในช่วงปีแรกที่มียอดขายเยอะ มีการวางแผนเปิดสาขาใหม่ สัปดาห์ละ 1 สาขา เพราะอยากมีสาขาให้มากที่สุด เคยวางเป้าหมายไว้ว่า จะต้องมีสาขา 50-100 สาขา ภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2562-2564) พร้อมกับวางแผนระยะยาวว่า จะต้องสร้างเชนร้านกาแฟใหญ่ ๆ แต่เมื่อเกิด Covid-19 ทำให้ต้องกลับมาทบทวนโมเดลธุรกิจกันใหม่ เพราะธุรกิจทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่ ในช่วงเกิด Covid-19 ในเมื่อ Class Café ทำธุรกิจแบบ Open Coffee Platform ฉะนั้นอาจไม่จำเป็นต้องขยายสาขาใหม่ถี่ ๆ เหมือนแต่ก่อน แต่ควรจะหันมาใช้ประโยชน์จากการมี Platform ของตัวเองมากกว่า เช่น ไม่จำกัดตัวอยู่เพียงเครื่องดื่มกาแฟ แต่กระจายตัวไปสู่สินค้าประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้, โยเกิร์ต, เบเกอรี่, หูฟัง, ลูวิ่ง, โลชั่นทาผิวที่ทำมาจากชาเขียว รวมถึงการเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นคู่ค้า ด้วยการขายโปรดักส์ของเราให้กับคู่แข่ง เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น เป็นต้น ปัจจุบัน Class Café มีทั้งหมด 21 สาขา กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ตามต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ในส่วนของต่างจังหวัดจะเน้นเปิดสาขาตามแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง เช่น นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, …

พาส่องเบิ่ง เส้นทาง Class Café อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง  แพทย์ แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน  รับภาระ มาก – น้อย แค่ไหน ? 

พามาเบิ่ง  แพทย์ แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน  รับภาระ มาก – น้อย แค่ไหน ?    ตามรายงานทรัพยากรสาธารณสุข ที่มีการรวบรวมข้อมูลจำนวนแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศในปี 2564 พบว่า ไทยมีจำนวนแพทย์ทั้งสิ้น 38,820 ราย  ในปี 2563 มีจำนวนแพทย์ทั้งสิ้น 36,472  รายจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มีจำนวนแพทย์ที่มากขึ้น และ ในปี 2564 ขณะที่ประชากรไทยมีจำนวน 66 ล้านคน ทำให้ไทยมีสัดส่วนประชากร 1,680  คน ต่อแพทย์ 1 คน    โดยหากดูเฉพาะในภาคอีสาน จะพบว่า 3 จังหวัดที่แพทย์มีภาระต้องแบกรับมากที่สุดนั้น คือ  บึงกาฬ (ประชากร 6,018 คน ต่อแพทย์ 1 คน)  หนองบัวลำภู (ประชากร 4,710 คน ต่อแพทย์ 1 คน) กาฬสินธุ์ (ประชากร 4,081 คน ต่อแพทย์ 1 คน) ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับจังหวัดที่แพทย์มีภาระต้องแบกรับน้อยที่สุดอย่าง ขอนแก่น (ประชากร 1,157 คน ต่อแพทย์ 1 คน) จะพบว่าห่างกันถึง 5 เท่าตัว   อ้างอิงจาก : รายงานข้อมูลทรัพยากรสาธารณสุข ประจำปี 2564  กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #จำนวนแพทย์ #แพทย์อีสาน   

ชวนเบิ่ง อาณาจักร Mongni Cafe ชานมไข่มุกรายใหญ่ในภาคอีสาน

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่ฮิตและปังที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น “ชานมไข่มุก” โดยวันนี้เราจะพามาที่ร้าน “Mongni Cafe” ร้านชานมไข่มุกขอนแก่น ที่ฮอตฮิตจนขยายแฟรนไชส์ไปแล้วหลายจังหวัด ! Mongni cafe เดิมทีเป็นร้านคาเฟ่ธรรมดา ๆ ในย่านกังสดาล ม.ขอนแก่น Mongni Cafe ชื่อภาษาอังกฤษ อ่านว่า “หม่อง-นี่ คาเฟ่” ร้านชานมขนาดเล็ก โดยชื่อออกเสียงเข้ากับสไตล์คาเฟ่ดูเป็นญี่ปุ่น แต่ที่แท้เป็นภาษาอีสาน บ่งบอกที่มา ก่อตั้งขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยชาวอีสาน ก่อนจะขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ราว ๆ 60 แห่งแล้ว รวมทั้งที่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ต่อมาชานมไข่มุกกำลังดังในช่วงนั้นพอดี ทางร้านจึงได้เดินทางไปไต้หวัน เพื่อไปลองชิมไข่มุกลาวา และได้นำมาดัดแปลงสูตร จนได้นำไปออกบูธของทางร้าน แถมได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ลูกค้าต่างชื่นชอบและติดใจ จึงมีการเรียกร้องให้นำมาขายที่ Mongni Cafe ทำให้ชานมไข่มุกลาวา ถือกำเนิดขึ้นในชื่อติดปากว่า “ชานมหม่องนี่” Mongni Cafe มีสไตล์การตกแต่งแบบโทนสีเหลืองสดใส มีโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์และจำง่าย ความพิเศษไม่เหมือนใครอยู่ที่ตัวไข่มุกหวานอุ่น กับน้ำที่รสจืดทั้งหมด โดยไข่มุกลาวาที่เป็นไข่มุกสูตรเฉพาะของทางร้าน Mongni Cafe ที่นำมาเคี่ยวกับน้ำตาล ทำให้มีรสชาติหอมหวานและมีกลิ่นไหม้นิด ๆ อันเป็นเสน่ห์ของไข่มุกลาวา แล้วนำมาใส่ในเครื่องดื่มเพื่อชูรสหวาน อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0413562002358 https://data.creden.co/company/general/0405562005260 https://food.trueid.net/detail/yGQgayk1QdN7 https://marketeeronline.co/archives/209512 https://www.wongnai.com/articles/mongni-cafe-khonkaen #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ชานมไข่มุก #MongniCafe #Mongni #หม่องนี่ #ขอนแก่น

นำร่องแล้ว!  โลตัส ร่วม ม.ขอนแก่น เพิ่มมูลค่าอาหารค้างสต็อค  บริจาคให้เกษตรกรใช้เลี้ยงแมลงโปรตีน

นำร่องแล้ว!  โลตัส ร่วม ม.ขอนแก่น เพิ่มมูลค่าอาหารค้างสต็อค  บริจาคให้เกษตรกรใช้เลี้ยงแมลงโปรตีน   นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย ได้เริ่มบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ภายใต้โครงการ กินได้ไม่ทิ้งกัน โดยเริ่มนำร่องจากโลตัสในกรุงเทพและปริมณฑล โดยร่วมมือกับมูลนิธิ SOS ในการนำอาหารส่วนเกินที่ยังรับประทานได้ ส่งมอบให้ผู้ที่ยากไร้ แทนการทิ้งให้กลายเป็นขยะอาหารซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม   ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โลตัส เดินหน้าขยายโครงการไปสู่พื้นที่อื่น ๆ รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรในการหาทางออกในการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินที่ไม่สามารถรับประทานได้แล้ว อาทิ โครงการบริจาคอาหารส่วนเกินให้กับสวนสัตว์ โครงการทำปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหาร   เมื่อไม่นานนี้ โลตัส ร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลงนามข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ต่อยอดโครงการกินได้ไม่ทิ้งกันของโลตัส เพื่อลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2030 (Zero food waste to landfill by 2030)   โดยการบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมดจากโลตัส 30 สาขาในจังหวัดขอนแก่นและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงแมลงโปรตีน (Black Soldier Fly – BSF) ซึ่งเป็นแมลงที่ปลอดภัยต่อพืชและชุมชน ไม่เป็นพาหะนำโรค และตัวหนอนยังมีคุณค่าทางอาหารสูง นำร่องสนับสนุนเครือข่ายเกษตรกรภาคอีสาน 24 ราย ช่วยลดต้นทุนอาหารสัตว์ทางการเกษตรกว่าครึ่ง เตรียมขยายผลสู่การสนับสนุนเกษตรกรทั่วไทย   ซึ่งเกษตรกรสามารถนำหนอนเหล่านี้เสริมในอาหารสัตว์ ช่วยลดต้นทุนอาหารสัตว์ไปได้กว่า 50% นอกจากนี้ยังได้ปุ๋ยจากมูลหนอนอีกกว่า 2,200 กิโลกรัม และซากแมลงโปรตีน อีกทั้งยังสร้างผู้ประกอบการให้เกิดธุรกิจใหม่ภายใต้ BCG Economy Model    ความตั้งใจของเราคือการขยายผลโครงการแมลงโปรตีนไปสู่กลุ่มเกษตรกรอื่น ๆ เพื่อนำแมลงโปรตีนและผลพลอยได้ไปใช้ในการเกษตร รวมถึงศึกษาแนวทางต่อยอดการใช้ประโยชน์จากแมลงโปรตีนทางการเกษตรเพิ่มเติมต่อไป   อ้างอิงจาก :  https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9650000084280   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #มข  #โลตัส #เกษตรอีสาน

CPN ประกาศความสำเร็จ “ เซ็นทรัล โคราช ” Mixed-Use ศูนย์การค้า-คอนโดฯ-โรงแรม กระตุ้นเศรษฐกิจ

CPN ประกาศความสำเร็จ “ เซ็นทรัล โคราช ” Mixed-Use ศูนย์การค้า-คอนโดฯ-โรงแรม กระตุ้นเศรษฐกิจ     Mixed-Use คือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ผนวกรวมโครงการที่อยู่อาศัยแบบอาคารชุดและโครงการเพื่อการพาณิชยกรรมเข้าไว้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางของการอยู่อาศัย จับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่ที่ครบครัน ทำให้เกิดความสะดวกสบาย ดึงดูดผู้คนมาอยู่อาศัย มาทำงานและทำธุรกิจภายในพื้นที่โครงการ   CPN ประกาศความสำเร็จ “เซ็นทรัล โคราช” โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดยผนึกกำลังศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช, คอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ โคราช และโรงแรม Centara Korat ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 13 ก.ย. 2565    ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Head of Marketing บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า การพัฒนาโครงการนี้เป็นความตั้งใจตั้งแต่ในปี 2560 เพื่อมอบความเป็นที่สุดให้กับจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพในทุกๆ ด้าน ยกระดับทั้งเศรษฐกิจและการเดินทางท่องเที่ยวทั้งระบบ โดยมีกลยุทธ์สำคัญ   Develop New District สร้างเมือง เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต, เขตเศรษฐกิจใหม่ (New CBD of Korat) และการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด  ให้การสนับสนุน MICE Events ของภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเตรียมรองรับเครือข่ายคมนาคมในอนาคต กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรองด้วยโรงแรม Centara Korat ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง    Strong Synergy & Ecosystem เชื่อมโยงธุรกิจภายในมิกซ์ยูส ทั้งศูนย์การค้า-คอนโดมิเนียม-โรงแรม โดย Privilege ของการมีที่อยู่อาศัยหรือมาพักในโรงแรมที่อยู่ติดศูนย์การค้า คือความสะดวกสบาย    Community at Heart ความภูมิใจของชาวโคราช เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตและดูแลชุมชน พร้อมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัด โดยล่าสุดเปิด Cen’za Sport Stadium ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช เพื่อเป็น Sport Community ให้กับชาวโคราช นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่จัด MICE Events ร่วมมือกับเมืองจัดงานประชุมและสังสรรค์ของหน่วยงานราชการต่างๆ เป็นแลนด์มาร์กของงานเทศกาลตลอดปีทั้ง ด้านสิ่งแวดล้อม ติด Solar Rooftop และเป็นอาคารประหยัดพลังงานที่ได้รางวัล ASEAN Energy Awards 2020 จากกระทรวงพลังงานอีกด้วย   อ้างอิงจาก :  ผู้จัดการออนไลน์ REIC ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์   …

CPN ประกาศความสำเร็จ “ เซ็นทรัล โคราช ” Mixed-Use ศูนย์การค้า-คอนโดฯ-โรงแรม กระตุ้นเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง ศึกธุรกิจน้ำปลาร้า ของเหล่าคนดังในภาคอีสาน

หากมองเข้ามาที่ตลาดน้ำปลาร้าของบ้านเราที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทแล้ว จะพบว่า การเข้าตลาดนี้มีอุปสรรคในการเข้าค่อนข้างต่ำ เพราะนอกจากจะมีโรงงานที่ผลิตสินค้าทำ OEM เพื่อนำไปติดแบรนด์ของตัวเองกระจายอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว หากคนที่จะเข้ามาทำตลาดเป็นคนที่มีชื่อเสียง หรือเป็นดารา นักร้อง ที่สามารถเอา Personal Brand ของตัวเองไป Endorse เพื่อทำแบรนด์น้ำปลาร้าของตัวเองเข้าทำตลาด ก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทำให้ตลาดน้ำปลาร้าในปัจจุบัน มีแบรนด์อยู่ในตลาดถึง 200 – 300 แบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือเหล่าบรรดาคนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ต่างก็เข้ามาทำแบรนด์ของตัวเองเพื่อลุยตลาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลาร้าแบรนด์แซ่บไมค์ ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ไมค์ ภิรมย์พร” น้ำปลาร้าแบรนด์หม่ำ จ๊กม๊ก หรือแม้แต่น้ำปลาร้าสุนารี ไม่เว้นแม้แต่นักมวยดังอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ก็มีน้ำปลาร้า แบรนด์บัญชาเมฆ กับเขาด้วย อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าตลาดนี้จะทำได้ค่อนข้างง่าย แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่าย แต่ทำออกมาค่อนข้างยาก เพราะแม้จะมีชื่อเสียงของตัวเองเข้ามา Endorse ไปกับแบรนด์ แต่หากไม่มีกลยุทธ์การตลาดที่ดีเข้ามาประกอบ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดจำหน่าย โอกาสที่จะสามารถสร้างสเกลให้เป็นแมสตามคุณสมบัติของสินค้าตัวนี้ก็มียากขึ้นตามไปด้วย อ้างอิงจาก: https://www.brandage.com/article/20910/ZAB-MIKE https://data.creden.co/company/general/0125562012391 https://data.creden.co/company/general/0105562115165 https://data.creden.co/company/general/0105560011401 https://data.creden.co/company/general/0405560004169 https://www.nationtv.tv/entertainment/378862786 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจน้ำปลาร้า #น้ำปลาร้า #น้ำปลาร้าแซ่บไมค์ #น้ำปลาร้าสุนารี #น้ำปลาร้าเอ็มยูเอ็มรสชาตินัว #น้ำปลาร้าบัญชาเมฆ

พามาฮู้จัก Medical Hub  แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย 

พามาฮู้จัก Medical Hub  แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย    การระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง แนวคิดการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ดีนั้นจึงกำลังเป็นที่สนใจของประชากรทั่วโลก การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub เป็นหนึ่งในเป้าหมายของภาครัฐ ที่ต้องการให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จึงมีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ.2560-2569)   อีกทั้งมีการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทย แพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาในการดูแลรักษาสุขภาพแบบไทย ทั้งยังสนับสนุนความร่วมมือและเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ของไทยกับผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพทั่วโลกอีกด้วย   อย่างไรก็ดี การจะผลักดันให้อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยขึ้นแท่นผู้นำในอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรจนกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) อย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่เอื้อให้เกิดการลงทุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและ พัฒนาด้านการแพทย์ควบคู่กับการลงทุนจากภาคเอกชนที่มีความพร้อมท้ังด้านองค์ความรู้ ทรัพยากร และเงินลงทุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและการลงทุนอย่างบูรณาการ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันท้ัง Ecosystem   อ้างอิงจาก :  https://www.khonkaenuniversity.in.th/95518/  https://rmuti.ac.th/main/news180365-2/  https://hss.moph.go.th/fileupload/2560-102.pdf https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_467Medical_Hub.pdf  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #MedicalHub #แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย #ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

พามาเบิ่ง ศึกอาณาจักรโรงน้ำแข็ง รายใหญ่ในภาคอีสาน

อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0453544000187 https://data.creden.co/company/general/0335547000105 https://www.facebook.com/ejan2016/videos/370209933581379/ https://www.youtube.com/watch?v=VnqHL47TQVU #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #โรงน้ำแข็ง #กรเดช #วารีเทพ

คนอีสาน มีหนี้ต่อครัวเรือน จากอิหยังบ้าง ?

คนอีสาน มีหนี้ต่อครัวเรือน จากอิหยังบ้าง ?   อ้างอิงจาก :  สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คนอีสาน #หนี้ครัวเรือน #หนี้ครัวเรือนอีสาน

พาซอมเบิ่ง เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือนสิงหาคมเป็นจั่งใด๋ ? เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงขึ้น 7.34% (YoY)

สถานการณ์ “เงินเฟ้อ” ประจำเดือน สิงหาคม 2565 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข้อมูลการปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อถึง 7.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ส.ค. 64) ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (CPI) เดือนสิงหาคม 2565 เท่ากับ 107.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้อยู่ที่ 7.86% (YoY) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในทุกภาคเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขยายตัวในอัตราเพิ่มขึ้น โดยในเดือนนี้อัตราเงินเฟ้อของภาคเหนือสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ โดยสูงขึ้น 8.24% รองลงมาได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง และภาคใต้ สูงขึ้น 7.98% 7.94% และ 7.88% ตามลำดับ ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงขึ้นในอัตราท่ีต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ที่ 7.34% เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กับข้าว สำเร็จรูป และอาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาค ได้แก่ ค่าส่งพัสดุไปรษณีย์ ผักและผลไม้ อาทิ ขิง มะนาว และสับปะรด อัตราการเปลี่ยนแปลงสำคัญของภาคอีสานที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าภูมิภาคอื่น 1. กลุ่มอาหารสดและพลังงาน สูงขึ้น 14.9% โดยเฉพาะพลังงานสูงขึ้นถึง 28.4% เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าจากการอ่อนค่าของเงินบาท และความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 8.5% โดยเฉพาะน้ำมันและไขมันสูงขึ้นถึง 29% 3. หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้น 8.4% โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นถึง 21.4% ปรับสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก 4. หมวดเคหสถาน สูงขึ้น 7.7% โดยเฉพาะค่ากระแสไฟฟ้าสูงขึ้น 62.7% ตามการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที (FT) ประจำเดือน กันยายน-ธันวาคม 2565 แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกันยายน ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มขยายตัวแต่ในอัตราท่ีชะลอลง จากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน อาหาร และสินค้าและบริการอื่น ๆ ที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุน ซึ่งยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากการท่องเที่ยวในประเทศ และการส่งออก ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลต่อต้นทุนการน้าเข้าสินค้า อย่างไรก็ตาม ฐานราคาที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนเดียวกันปีก่อน จะเป็นปัจจัยทอนต่อการสูงขึ้นของเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันดิบท่ีมีความผันผวน จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ท้าให้ทิศทางของอัตราเงินเฟ้อมีความไม่แน่นอน นอกจากนั้น มาตรการลดค่าไฟฟ้าของรัฐ ที่คาดว่าจะออกมาในช่วงที่เหลือของปีจะมีส่วนชะลอการสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อยู่ท่ีระหว่างร้อยละ 5.5 – …

พาซอมเบิ่ง เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือนสิงหาคมเป็นจั่งใด๋ ? เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงขึ้น 7.34% (YoY) อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top