Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

มาทำความฮู้จัก  เหล้าอุ สุราแช่พื้นเมืองอีสาน 

มาทำความฮู้จัก  เหล้าอุ สุราแช่พื้นเมืองอีสาน  จังหวัดนครพนม พื้นที่ที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมพื้นถิ่น จึงไม่แปลกนักหากจะมีประเพณีการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอันแตกต่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือเมนูเครื่องดื่มพื้นเมือง ที่ภายหลังถูกยกให้เป็นของฝากของดีและมีการจดทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ประจำอำเภอเรณูนคร อ้างอิงจาก : http://www2.nakhonphanom.go.th/otop/detail/4 https://www.silpa-mag.com/culture/article_36143 https://craftnroll.net/craft-insight/ . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เหล้าอุ #นครพนม #เรณูนคร #เหล้าสาโท #เหล้าโท

ศึกธุรกิจเครื่องดื่มวิตามินซีรายใหญ่

ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา หนึ่งในตลาดที่ถือว่าร้อนแรง และมีผู้เล่นหลายราย ต่างเข้ามาลงเล่นในตลาด เพื่อหวังชิงเม็ดเงินจากกระเป๋าของผู้บริโภคมากที่สุด คือ ตลาดเครื่องดื่มประเภทวิตามิน ไม่ว่าจะเป็นน้ำวิตามินซี, น้ำวิตามินรวม รวมไปถึงน้ำดื่มผสมวิตามิน ด้วยเทรนด์รักสุขภาพของผู้คน ที่อยากรูปร่างดี ผิวสวย และสุขภาพแข็งแรง อาจสงสัยว่าตลาดนี้ มีใครเป็นผู้เล่นหลัก ๆ บ้าง ? โดยในปี 2563 สำหรับแบรนด์ ที่ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีมากที่สุด ได้แก่ – C-vitt ของโอสถสภา 70.7% – Double C ของหนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ 19.0% – Vit A Day ของเจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ 7.8% – Woody C+ Lock ของคาราบาวกรุ๊ป 1.5% – อื่น ๆ 1.0% ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่า อันดับที่ 1, 3 และ 4 ล้วนเป็นแบรนด์จากบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของประเทศ ที่มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มหลายประเภท อยู่ในพอร์ตสินค้าของบริษัท เช่น น้ำดื่ม, เครื่องดื่มบำรุงกำลัง, เกลือแร่, กาแฟ อยู่แล้ว ก่อนจะเข้ามาลงเล่นในตลาดนี้ แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้เล่นที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์อันดับ 2 อย่าง Double C กลับไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศแต่อย่างใด เป็นบริษัทที่คนส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นหู และมีจุดเริ่มต้นมาจากจังหวัดหนองคาย แต่สามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ที่เป็นบริษัทเครื่องดื่มแนวหน้าของประเทศ และคว้าส่วนแบ่งการตลาดอันดับต้น ๆ มาได้ บริษัท หนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ที่จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มวิตามินซี ภายใต้แบรนด์ “Double C” โดยจุดเริ่มต้นของ Double C เกิดจากสองพี่น้องผู้บริหารหนุ่มไฟแรง คุณชนินทร์ เฮ้งเจริญสุข และคุณสรวิศ เฮ้งเจริญสุข สองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ จำกัด ได้เล่าว่า เดิมทีบริษัทก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง ภายใต้แบรนด์ “ช้างแดง” แต่ด้วยสภาพการแข่งขันที่สูง และมีผู้เล่นเจ้าตลาดอยู่แล้ว ทำให้บริษัทเจาะตลาดไม่สำเร็จ และกิจการประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง คุณชนินทร์ และคุณสรวิศ จึงตัดสินใจมองหาธุรกิจใหม่ แล้วพบว่า ตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กำลังเติบโตได้ดี และมีแนวโน้มโตอย่างต่อเนื่อง จากเทรนด์รักษาสุขภาพที่เริ่มเข้มข้นขึ้น แถมตอนนั้นคู่แข่งยังมีไม่มาก เลยมีพื้นที่ให้ทำตลาดอีกเยอะ ประกอบกับบริษัทมีทรัพยากรเดิมอยู่แล้ว เช่น เครื่องจักร ที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจใหม่ได้ จึงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง เพื่อผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่รวมวิตามินซีจากผลไม้ 2 …

ศึกธุรกิจเครื่องดื่มวิตามินซีรายใหญ่ อ่านเพิ่มเติม »

ฉุดบ่อยู่ ! นวยนาด แบรนด์เครื่องหอม งาน Craft แดนอีสาน ดังไกลถึงต่างประเทศ 

ฉุดบ่อยู่ ! นวยนาด แบรนด์เครื่องหอม  งาน Craft แดนอีสาน ดังไกลถึงต่างประเทศ  . งานหัตถศิลป์ หรือ งานคราฟต์ คือ งานฝีมือ ที่มีกระบวนการในการสร้างสรรค์ผลงาน จัดเป็นผลงานศิลป์อย่างหนึ่ง เหมาะที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย อาศัยความปราณีตพิถีพิถัน และแรงบันดาลใจจากผู้สร้างงาน แถมยังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป . เส้นทางของแบรนด์ที่ใส่ใจรายละเอียด การหยิบยกของท้องถิ่นมาต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นใบย่านางเป็นผักที่สะท้อนวิถีชีวิตคนอีสานได้เป็นอย่างดี, เนื้อครามอินทรีย์จาก จ.สกลนคร และไวน์หมากเม่า โดยครูคณพ วรรณวงค์ ผู้ก่อตั้งและผู้ที่ทำไวน์หมากเม่าคนแรกของอำเภอภูพาน จ.สกลนคร . อีกทั้งแบรนด์นวยนาดได้รับรางวัลดีไซน์จาก DEmark (Design Excellence Award) จากตัวเทียนหอมและร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำให้สามารถนำสิ่งที่ทำกับชุมชน ออกสู่นอกประเทศให้คนอื่นได้เห็นฝีมือของคนโคราชในรูปแบบใหม่ นอกจากเเค่ดินด่านเกวียนที่มักจะใช้ปั้นเป็นตุ๊กตาดิน กระถางต้นไม้สีน้ำตาล หินทรายที่เอาไว้แค่เเกะสลักองค์พระ หรือนำหินไปทำเป็นกระเบื้องประดับตกแต่งบ้าน ซึ่งความจริงสามารถต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้ ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน . นอกจากจะสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์แล้ว ยังเพิ่มโอกาสทำให้คนในชุมชนได้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานฝีมือในแต่ละชิ้น ทำให้ต่างประเทศได้เห็นว่างานฝีมือของคนอีสาน ของคนโคราชมีดีและมีเอกลักษณ์ที่สวยงาม . . อ้างอิงจาก: https://urbancreature.co/nuaynard-korat/ https://www.nuaynardhandcraft.com/our-story https://adaybulletin.com/life-spaceandtime-nuaynard/52656 . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #นวยนาด #Craftอีสาน #คราฟต์อีสาน #nuaynard #nuaynardhandcraft

2 จังหวัดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ในปี 2565 (ม.ค. – ก.ค.)

ในเดือน มกราคม – กรกฎาคม 2565 ภาคอีสานมีมูลค่าการค้าชายแดนกับ กัมพูชา 7,922 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 6.8% ของการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมดในประเทศ โดยมีการส่งออกมูลค่ากว่า 5,245 ล้านบาท ลดลงจากในช่วงเดือนเดียวของปีก่อนหน้า -27% และมีมูลค่าการนำเข้ากว่า 2,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.8% สินค้าส่งออกหลัก 1.รถยนต์ อุปกรณ์ 2.เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 3.รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ สินค้านำเข้าหลัก 1.ผักและของปรุงแต่งจากผัก 2.อลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์ 3.ลวดและสายเคเบิลฯ แนวโน้มการค้าชายแดนไทยหลังจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าปัจจัยสนับสนุนการค้าชายแดนและผ่านแดน คือ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่สามารถเดินทางเข้าไทยทางจุดผ่านแดนถาวร (ทางบก) ได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ขณะที่กัมพูชาก็ผ่อนคลายมาตรการโดยเปิดให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบเกณฑ์สามารถเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าในพื้นที่ชายแดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวต้องขึ้นกับความพร้อมของแต่ละจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้านด้วย ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น รวมถึงการผลักดันเปิดจุดผ่านแดนเพื่อขนส่งสินค้าภายใต้มาตรการควบคุมสถานการณ์ COVID-19 อ้างอิงจาาก: http://btsstat.dft.go.th/มูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน/การค้าชายแดนไทย-สปปลาว/มูลค่าการค้าชายแดนไทย-สปปลาว-รายจังหวัด https://www.dft.go.th/Portals/3/2.1.1%20Info%20มค-เมย.%202565.pdf https://www.thansettakij.com/economy/531292 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การค้าชายแดน #การค้าชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชา #สุรินทร์ #บุรีรัมย์

5 จังหวัด 5 งานฝีมือ ผ้าไทยอีสาน

5 จังหวัด 5 งานฝีมือ ผ้าไทยอีสาน 🧵🤎  งานฝีมือที่ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย มีความละมุนและสวยงามมากยิ่งขึ้น 🥰   อ้างอิงจาก https://readthecloud.co/isan-craft-products/  https://readthecloud.co/la-orr-thai-silk/  https://www.soimilk.com/fashion/news/bhukram-collection    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ผ้าไหมอีสาน #ผ้าภูอัคนี #กลุ่มทอผ้าบ้านเจริญสุข #ผ้าไหมปักธงชัย #LaOrr #ผ้าไหมมัดหมี่ #แต้มหมี่ #สุภาณีไหมไทย #ผ้าขาวม้าโคลนพันปี #ดารานาคี #ผ้าคราม #ภูคราม

พามาเบิ่ง BCG Model: นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี อีสานบ้านเฮา

พามาเบิ่ง BCG Model: นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี อีสานบ้านเฮา   นิคมอุตสาหกรรม หมายถึง เขตพื้นที่ดินซึ่งจัดสรรไว้สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเข้าไปอยู่รวมกันอย่างเป็นสัดส่วน ประกอบด้วย พื้นที่อุตสาหกรรม สิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภค และสาธารณูปการ เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ โรงกำจัดน้ำเสียส่วนกลาง ระบบป้องกันน้ำท่วม ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์    นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วย บริการอื่นที่จำเป็น เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคาร ศูนย์การค้า ที่พักอาศัยสำหรับคนงาน สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น    ในด้านภาคอีสาน มีจุดแข็งในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ความพร้อมของแรงงาน และพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น อีกทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว . ดังนั้นแล้ว ภาคอีสานจึงมีความสำคัญในฐานะที่มีความหลากหลายของทรัพยากรและเป็นที่ตั้งของแหล่งอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงได้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในภาคอีสาน และนิคมกรีนแห่งแรกของอีสาน คือ นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี   การพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบ BCG Economy Model นี้ จะเห็นได้ว่ามีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของภาคอีสานและประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน มีการพัฒนาโดยอาศัยจุดแข็งของภาคอีสานในด้านต่าง ๆ เช่น เกษตรกรรม การท่องเที่ยว เป็นต้น และดำเนินการตามแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว  ซึ่งพบว่าภาคอีสานมีความเหมาะสมต่อรูปแบบการพัฒนานี้เป็นอย่างมาก และจะช่วยให้อีสานเป็นภูมิภาคที่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย   อ้างอิงจาก:  สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #BCGModel #นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี #นิคมกรีนอุดร #นิคมกรีนแห่งแรกของอีสาน

ชวนเบิ่ง 10 จังหวัดที่มีการใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงหลายคักกว่าหมู่

ช่วงนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนมากขึ้น วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาดูการใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงในภาคอีสานว่าเป็นอย่างไร? ในปี 2564 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง 6,690,015 พันลิตร หรือคิดเป็นสัดส่วน 16.8% ของการใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดในประเทศ ลดลงจากปีก่อนหน้า -2.3% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมาสู่ระดับรุนแรงในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ภาครัฐจึงมีมาตรการจำกัดการเดินทางและปิดสถานประกอบการบางประเภทในช่วงกลางปี ส่งผลให้การใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง โดย 3 อันดับน้ำมันเชื้อเพลิงที่นิยมใช้สูงสุด 1. น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 ปริมาณการใช้ 3,015,338 พันลิตร 2. น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ปริมาณการใช้ 1,231,051 พันลิตร 3. น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ปริมาณการใช้ 766,548 พันลิตร แนวโน้มการใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงหลังจากนี้ การใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากราคาตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย – ยูเครน โดยการใช้น้ำมันคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.9% จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดส่งผลให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะที่การใช้ก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะลดลง -9.5% เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง . ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จึงมีการใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้า เพื่อทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยรัฐบาลได้มีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลที่ใช้ผลิตไฟฟ้าเหลือศูนย์จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2565 เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ อ้างอิงจาก: – สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน – สำนักงานสถิติแห่งชาติ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง #การใช้น้ำมัน #น้ำมัน #ดีเซล #แก๊สโซฮอล์95

2 ธุรกิจไวน์อีสาน สินค้า GI ที่เป็นเอกลักษณ์

2 ธุรกิจไวน์อีสาน  สินค้า GI ที่เป็นเอกลักษณ์  GI หรือ Geographical indication เป็นเครื่องหมายรับรองสินค้า ว่าพิเศษเป็นเอกลักษณ์จากแหล่งผลิตในท้องถิ่น ที่แหล่งผลิตอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ ปัจจุบันสินค้าที่ผ่านมาตรฐาน GI ไทย มีมากกว่า 170 รายการ แบ่งเป็นข้าว ผัก/ผลไม้ อาหาร ผ้า (ไหม/ฝ้าย) และหัตถกรรม/อุตสาหกรรม อ้างอิงจาก : กรมทรัพย์สินทางปัญญา https://travelintrend.com/marketing/khao-yai-wine.html http://www.ipthailand.go.th/images/2284/GI61100113.pdf http://new.research.doae.go.th/…/%E0%B8%AA%E0%B8… #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจอีสาน #สินค้าGI #ไวน์อีสาน #ไวน์เขาใหญ่ #ไวน์ที่ราบสูงภูเรือ #สินค้าGI

พาส่องเบิ่ง เกษตรกรรมในภาคอีสาน

ภาคการเกษตรนับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศ แต่กำลังเผชิญกับปัญหาผลิตภาพการผลิตของแรงงานที่อยู่ในระดับต่ำและเพิ่มขึ้นในอัตราท่ีช้า เมื่อเทียบกับภาคเศรษฐกิจอื่น ISAN Insight & Outlook วันนี้จะพามาดูเกษตรกรรมในภาคอีสานว่าเป็นอย่างไร? ภาคอีสานมีจำนวนครัวเรือนเกษตรกร 3,503,763 ครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วน 47.6% ของจำนวนครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งจำนวนครัวเรือนเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากปี 2563 เพียง 0.8% และ GRP ภาคเกษตรกรรม อยู่ที่ 311,615 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19.6% ของ GRP ทั้งหมดในภาคอีสาน ซึ่งลดลง -0.3% จากปี 2562 โดย 5 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรสูงสุด 1 นครราชสีมา 324,968 ครัวเรือน 2 อุบลราชธานี 324,801 ครัวเรือน 3 ศรีสะเกษ 251,498 ครัวเรือน 4 ขอนแก่น 248,717 ครัวเรือน 5 ร้อยเอ็ด 240,605 ครัวเรือน 5 อันดับผลผลิตสูงสุดทางการเกษตรของภาคอีสาน 1 อ้อย 38.5 ล้านตัน 2 มันสำปะหลัง 19.9 ล้านตัน 3 ข้าวนาปี 12.9 ล้านตัน 4 ยางพารา 1.3 ล้านตัน 5 ข้าวนาปรัง 1.1 ล้านตัน จะเห็นได้ว่า อ้อยเป็นผลผลิตสูงสุดของภาคอีสาน เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูกจากปริมาณน้ำฝนท่ีเพิ่มข้ึน ประกอบกับการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการประกันราคารับซื้ออ้อยให้แก่ชาวไร่อ้อย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเพาะปลูก นอกจากน้ี มาตรการส่งเสริมของภาครัฐท่ีให้ความสำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อตัดอ้อยสด ทำให้ ชาวไร่อ้อยมีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยเพื่อส่งมอบให้แก่โรงงาน รองรับความต้องการบริโภคน้ำตาลท่ีคาดว่าจะฟื้นตัวดีข้ึนหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อ้างอิงจาก: https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=gross_regional http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/11.aspx https://www.oae.go.th/…/ebook…/68_yearbookedited2564/… https://www.oae.go.th/…/trendstat2565-Final-Download.pdf https://esd.kps.ku.ac.th/kuk…/docs_general/3_spec_oral.pdf #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เกษตรกรรมในภาคอีสาน #เกษตรกรรม #ภาคเกษตร #ผลผลิต #GRP #นครราชสีมา #อุบลราชธานี #ศรีสะเกษ #ขอนแก่น #ร้อยเอ็ด

พามาเบิ่ง จำนวนห้องพักแต่ละจังหวัด ในปี 2563

พามาเบิ่ง  จำนวนห้องพักแต่ละจังหวัด ในปี 2563    แนวโน้มและปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในระยะถัดไป แนวโน้มธุรกิจหลังจากนี้ คาดว่า การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมในปี 2565 มีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้นแต่ยังต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก   จำนวนผู้เข้าพักและอัตราการเข้าพักมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวไทยมีความมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น แต่กำลังซื้อที่ลดลงกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทยเลือกเดินทางไปยังจังหวัดใกล้เคียง หรือจังหวัดเมืองรองเพื่อลดค่าใช้จ่าย  ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเร่งตัวจาก Pent-up demand ของการท่องเที่ยวแต่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวให้กลับไปเท่าช่วงก่อนโควิด เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก อย่างจีนยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันใกล้ ราคาที่พักโดยเฉลี่ยมีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ธุรกิจโรงแรมใช้กลยุทธ์ด้านราคาในการแข่งขัน มีการจัดโปรโมชั่น และกำหนดราคาที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อย่างไรก็ดีปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบ คือ ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น และปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคบริการ อาจทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางลงมาขาดสภาพคล่อง ส่งผลต่อการอยู่รอดของธุรกิจ ด้านนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อบางส่วนเริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่าการท่องเที่ยวในประเทศ มีภาวะห้องพักล้นตลาด มีการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจโรงแรมจากการลดราคาห้องพักของโรงแรมในระดับ 4-5 ดาว รวมถึงการแข่งขันจากโรงแรมที่เคยปิดบริการชั่วคราวที่เริ่มกลับมาให้บริการมากขึ้น   อ้างอิงจาก: สำนักงานสถิติแห่งชาติ http://www.nso.go.th/sites/2014en/Survey/economics/Tourism%20and%20Sports/2020/fullreport.pdf https://www.gsbresearch.or.th/wp-content/uploads/2022/01/IN_hotel_inter_12_64_ppt.pdf  https://www.bangkokbiznews.com/business/1019343    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #จำนวนห้องพัก #เข้าพักโรงแรม

Scroll to Top