Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

ชวนเบิ่ง อุบลราชธานี 1 ใน 4 จังหวัดนำร่องแคมเปญ “เที่ยวไทยถึงถิ่น เที่ยวได้ทั้งปี” กระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดงานแคมเปญ “เที่ยวไทยถึงถิ่น เที่ยวได้ทั้งปี” GO LOCAL, LOVE LOCAL โดยมี ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมของแผนงาน ปั้นเมืองรอง กระตุ้นท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ชูจุดแข็งศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ภายใต้ 3 แนวคิด ได้แก่ 1.Retail-Led Tourism ชูศูนย์การค้าเป็นเดสติเนชั่นสร้างเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชน 2. Cross-Region Mode! ส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามถิ่นข้ามภาค และ 3. National Soft Power ดึง DNA เมืองรอง จับมือท้องถิ่นสร้างอีเว้นท์ดึงดูดตลอดปี แคมเปญ “เที่ยวไทยถึงถิ่น เที่ยวได้ทั้งปี” GO LOCAL, LOVE LOCAL นำร่องเฟสแรก 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช – ดื่มด่ำเสน่ห์แห่ง “ธรรมะ-ธรรมชาติ-วัฒนธรรม” ที่ไม่ธรรมดา โปรโมท ธรรมะแลนด์มาร์กที่สายมูต้องไม่พลาด , “ธรรมชาติ” สุดอันซีน เห็นแล้วต้องอยากแชร์ให้ลูกรู้, และ “วัฒนธรรม” สัมผัสไลฟ์สไตล์ของคนท้องถิ่นแบบอินไซด์ อยุธยา – ท่องเที่ยวกรุงเก่าด้วยมุมมองใหม่ได้อรรถรส สัมผัสเมืองมรดกโลก, ไหว้พระทำบุญชมโบราณสถาน, สายคาเฟ่-สายกิน ฟินของอร่อย และท่องเที่ยวสไตล์วิถีชุมซน อุบลราชธานี – สัมผัสสน่ห์กับ 4 แสงแห่งดินแดนอีสานใต้ ได้แก่ แสงแรกยามรุ่งอรุณ, แสงธรรมจากเกจิอาจารย์ดัง, แสงเทียนแห่งประเพณีสุดงดงาม, และแสงอาทิตย์สุดล้ำเพื่อพลังงานสะอาด จันทบุรี – อินและฟินกับเมืองท่องเที่ยวเนื้อหอมแห่งภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นดื่มต่ำความงดูงามแห่งธรรมชาติสุดหลากหลาย, เต็มอิ่มกับผลไม้เลื่องชื่อเมืองจันท์ และมนต์เสน่ห์ชุมชนริมน้ำสุดคลาสสิก แคมเปญ ดังกล่าวฯ ที่เป็นต้นแบบที่ดีการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบได้ประโยชน์ทั้ง ห่วงโซ่อุปทาน ช่วย ททท. ไม่ว่าจะด้วยเรื่อง Dive Demand , Shape Supply หรือแม้แต่การThieve for Excellence ททท.จะเดินคู่ไปกับหน่วยงาน พันธมิตร แบบ 360 องศา ร่วมกันพัฒนา ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ กับแผนยุทธศาสตร์ ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ผลักดัน การท่องเที่ยวชุมชน “เที่ยวไทยถึงถิ่น เที่ยวได้ทั้งปี” (Go Local , […]

ชวนเบิ่ง อุบลราชธานี 1 ใน 4 จังหวัดนำร่องแคมเปญ “เที่ยวไทยถึงถิ่น เที่ยวได้ทั้งปี” กระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง สถิติที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ SMEs

อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ผู้ประกอบการ #SMEs

พาส่องเบิ่ง สถิติที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ SMEs อ่านเพิ่มเติม »

มาฮู้จัก “ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม”  ผ้าซิ่นที่ “ลิซ่า BLACKPINK” เลือกใส่

มาฮู้จัก “ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม”  ผ้าซิ่นที่ “ลิซ่า BLACKPINK” เลือกใส่ ปลุกกระแสผ้าไทยจากจ.อุดรธานี ขายหมดแล้ว ! ร้านเผยช่วยกระจายรายได้ให้ชาวบ้าน   หลังจาก “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ ลลิษา มโนบาล เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โพสต์อินสตาแกรม สวมผ้าไทย “ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม” ไปเที่ยววัดที่ จ.อยุธยา กับกลุ่มเพื่อน เป็นการปลุกกระแสผ้าไทยโด่งดังรู้จักไปทั่วโลก ทำให้ยอดขายขายดีมียอดสั่งจองจำนวนมาก ต้องรออีก 1 เดือน ถือเป็นการกระจายรายได้ให้กลุ่มทอผ้าเพราะมีแฟนคลับหันมาใส่ผ้าซิ่นไทยไปเที่ยววัดอยุธยาตามรอยลิซ่า   ผ้าซิ่น หรือ ผ้าถุง ผืนนี้มาจากร้าน @ชานเรือน นาข่า ‘Chanruen Nakha’ ซึ่งเป็นร้านของ เดียร์น่า ฟลีโป เพื่อนสนิทของลิซ่า ตั้งอยู่ที่ จ.อุดรธานี เป็นผ้ามัดหมี่ย้อมคราม งานหัตถกรรมผ้าทอที่ทางร้านให้ชาวบ้านในตำบลนาข่าและพื้นที่โดยรอบผลิตขึ้นมา โดยผ้าผืนนี้มีหลายขั้นตอน คนมัด คนทอ แยกกันทำ ทีละส่วน เป็นการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน หลังลิซ่าโพสต์ลงในอินสตราแกรม มีคนสนใจและติดต่อทางร้านมาจำนวนมาก แต่ทางร้านต้องขออภัย ตอนนี้ผ้าถุงลายเดียวกับลิซ่าหมดสต็อก เพราะทางร้านไม่คาดคิดว่า ลิซ่าจะถ่ายรูปลงในอินสตราแกรม จนมีคนสนใจขนาดนี้ ทำให้ตอนนี้ต้องรอชาวบ้านผลิตขึ้นมาใหม่ สำหรับชุดที่ ลิซ่า BLACKPINK สวมใส่ ทั้งเสื้อและผ้าถุง เป็นผ้าฝ้ายทั้งหมด ใส่สบายในวันที่อากาศร้อน ตอนนี้ในอินสตราแกรมของร้าน มีคนเข้าไปคอมเมนต์ถามราคาจำนวนมาก อยากได้ทั้งชุดตามลิซ่า ซึ่งทางร้านได้แจ้งราคาอยู่ที่ 1,200 บาท แฟนคลับต่างประเทศ ก็เข้ามาคอมเมนต์ ว่ามีให้กดสั่งออนไลน์ ส่งต่างประเทศไหม อยากจะใส่ตามลิซ่า ด้านเพจเฟซบุ๊ก สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย ให้ข้อมูลไว้ว่า  ผ้าฝ้ายหมักโคลนเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่นุ่งผ้าออกไปทำงาน ทำไร่ ทำนา เปื้อนดินโคลน เมื่อกลับมาบ้านนำผ้าไปซัก พบว่าผ้ามีความนุ่ม และเงา ใส่แล้วดูดี สีน้ำเงินได้มาจากสีของต้นครามธรรมชาติ นำมาย้อมด้วยทักษะฝีมือของชาวบ้าน จนกลายมาเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน   ทางด้านนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ออกมาขอขอบคุณน้องลิซ่า นางสาวลลิษา มโนบาล ที่ทำให้ผ้าย้อมครามหมักโคลนจากร้านชานเรือนนาข่า ตลาดผ้าบ้านนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เป็นที่รู้จักแก่สายตาชาวโลก ทำให้เกิดกระแสมีคนมาติดตามซื้อผ้าที่น้องลิซ่าสวมใส่เป็นจำนวนมาก ด้านนางสุวิมล ไชยวงศ์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านชานเรือน นาข่า คุณแม่ นางเอกสาว เดียร์น่า ฟลีโป นักแสดงสังกัดช่อง 3 เล่าว่า มียอดสั่งซื้อเข้าเป็นจำนวนมาก ผ้าลาย “ขอนาค”ไม่มีในสต็อก ตอนนี้เร่งทอตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า ซึ่งลูกค้าต้องรออย่างน้อย 1 เดือน ตามคิวสั่งจอง เพราะเป็นงานทอมือ ซึ่งคนที่จะตามรอยน้องลิซ่าต้องเป็นผ้าทอมือเท่านั้น

มาฮู้จัก “ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม”  ผ้าซิ่นที่ “ลิซ่า BLACKPINK” เลือกใส่ อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง 5 อันดับธุรกิจปลาน้ำจืด

หมายเหตุ: เป็นมูลนิติบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด (รหัสประเภทธุรกิจ 3221) ปลาช่อน ปลาทับทิม ปลาแรด ปลานิล ปลาไน ปลาตะเพียน ปลาสลิด ฯลฯ การเพาะฟักและอนุบาลลูกพันธุ์ปลาน้ำจืด รวมถึงการเลี้ยงพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ปลาน้ำจืดเพื่อการเพาะพันธุ์ อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#Business #ธุรกิจ #ธุรกิจปลาน้ำจืด #ธุรกิจอีสาน

ชวนเบิ่ง 5 อันดับธุรกิจปลาน้ำจืด อ่านเพิ่มเติม »

สัตว์น้ำจืดอีสาน จังหวัดใด๋มีหลายที่สุด ? 

สัตว์น้ำจืดอีสาน จังหวัดใด๋มีหลายที่สุด ?    ที่มา: กองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th  . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #สัตว์น้ำจืด #สัตว์น้ำจืดอีสาน

สัตว์น้ำจืดอีสาน จังหวัดใด๋มีหลายที่สุด ?  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 5 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ในอีสาน

จากกระแสเงือกน้อยเมอร์เมด  มื้อนี่ ISAN Insight & Outlook สิพามาเบิ่ง 5 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในอีสาน   พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย จ.หนองคาย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่ในตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย เป็นส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ตื่นตาไปกับอุโมงค์ใต้น้ำยาวหลายสิบเมตร เหมือนกับการจำลองโลกใต้บาดาลลงไปสู่ชั้นล่าง ซึ่งเป็นโซนแสดงปลาน้ำจืด และปลาโบราณพื้นบ้าน ปลาลุ่มน้ำโขง ที่จัดแสดงไว้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือภายในอุโมงค์ใต้น้ำ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับฝูงปลานานาชนิด มีทั้งปลาบึก ปลาตะเพียนสีสันสวยงาม และปลาอื่น ๆ อีกมากมาย การแสดงโชว์ดำน้ำ – วันอังคาร-ศุกร์ รอบ 14.00-14.30 น. – วันเสาร์-อาทิตย์ รอบ 11.00-11.30 น. และ 14.00-14.30 น.  วันและเวลาทำการ : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-17.00 น. ที่ตั้ง : เลขที่ 112 หมู่ 7 ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย https://goo.gl/maps/AJnFHBcRK1tdxVVZ7  ค่าเข้าชม เด็ก นักเรียน นักศึกษา 30 บาท, ผู้ใหญ่ 50 บาท ยกเว้นค่าเข้าชม ผู้สูงอายุแสดงบัตรประจำตัวประชาชน และเด็กที่มีความสูงน้อยกว่า 90 เซนติเมตร   สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด  จัดแสดงปลาและสัตว์น้ำจืด พร้อมทั้งนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับปลาและสัตว์น้ำจืดชนิดต่างๆ มีส่วนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำประกอบด้วย ตู้ปลาขนาดเล็กที่ฝังอยู่ในผนังรอบๆ อาคาร จำนวน 24 ตู้ ช่วงตรงกลางของอาคาร เป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ 1 ตู้ กว้าง 8 เมตร ยาว 16 เมตร พร้อมอุโมงค์แก้วผ่านกลางตู้สำหรับให้ผู้เข้าชมเดินชมได้อย่างใกล้ชิดและรอบทิศทาง ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ : ถนนสุนทรเทพ (หน้าวัดบึงพระลานชัย) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 45000 โทรศัพท์ : 043-511-286 https://goo.gl/maps/iUxed16UvtqWwLAf7  วันและเวลาทำการ : เปิดให้เข้าชม วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 08.30 – 16.30 น. ค่าเข้าชม ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม (แต่มีตู้สำหรับให้บริจาคค่าอาหารสัตว์น้ำแทน)   สถานแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืด จ.สกลนคร ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสกลนคร มีพื้นที่ทั้งหมด 157 ไร่

พามาเบิ่ง 5 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง 2 บริษัทผลิตไฟฟ้าในภาคอีสาน

ความเป็นมาของ “บริษัท โรงไฟฟ้าน้ำตาลขอนแก่น จำกัด” เป็นอย่างไร? โรงไฟฟ้าน้ำตาลขอนแก่น เป็นบริษัทในเครือกลุ่มบริษัทเคเอสแอล (KSL Group) 2546 สร้างบริษัท โรงไฟฟ้าน้ำตาลขอนแก่น จำกัด ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าและผลิตไอน้ำโดยใช้กากอ้อยเป็นเชื้อเพลิงหลัก 2550 สร้างโรงงานแห่งใหม่ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ตามแนวคิด Bio-Refinery Complex ซึ่งเป็นการจัดระบบการสร้างและการจัดการโรงงานน้ำตาลและผลิตภัณท์ต่อเนื่อง คือ โรงงานเอทานอล, โรงงานไฟฟ้า, และโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ ไว้ในที่เดียวกัน 2554 บริษัทได้ลงทุนเพิ่ม 1 โครงการ คือ โครงการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าที่จังหวัดเลย 2555 บริษัทได้ลงทุนโครงการขยายกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า และปรับปรุงโรงงานน้ำตาลเพื่อเพิ่มความสามารถในการหีบอ้อย ที่จังหวัดขอนแก่น ในขณะที่ ความเป็นมาของ “บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด” เป็นอย่างไร? บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด เป็นเครือในกลุ่มบริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำตาลทรายที่มีประสบการณ์มากกว่า 45 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2508 โดยคุณถวิล ถวิลเติมทรัพย์ จัดตั้งบริษัท อุตสาหกรรมหนองใหญ่ จำกัด ปี 2539 บริษัทได้ย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด และหลังจากนั้นได้ก่อตั้ง บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด ปี 2558 บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด เริ่มขายไฟให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยตามสัญญา ชนิด Firm 22 เมกะวัตต์ ปี 2561 บริษัทได้เปิดโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้า ที่อำเภอสีคิ้ว มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท ปี 2563 โรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ชื่อย่อที่ใช้ใน การซื้อขายหน่วยลงทุน คือ “KBSPIF” เพื่อเสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่บุคคลทั่วไป อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ผลิตไฟฟ้าครบุรี #ธุรกิจ #โรงไฟฟ้าน้ำตาลขอนแก่น #โรงไฟฟ้า #Business

ชวนเบิ่ง 2 บริษัทผลิตไฟฟ้าในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง  6 จังหวัดการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2566 (ม.ค. – เม.ย.)

พาส่องเบิ่ง  6 จังหวัดการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2566 (ม.ค. – เม.ย.)   ในเดือน มกราคม – เมษายน 2566 ภาคอีสานมีมูลค่าการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว 74,160 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า หนองคายมูลค่าการส่งออกมากกว่าทุกจังหวัด เนื่องจากเป็นด่านหลักในการส่งออกสินค้าจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไปยัง สปป. ลาว โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็น ถึงแม้ว่า สปป. ลาว จะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้ออย่างหนัก แต่สินค้าที่ส่งออกจากด่านหนองคาย จะเป็นสินค้ากลุ่มสุดท้ายที่ลาวจะยังมีการนำเข้า   อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยที่ตั้งของอีสานที่เป็นด่านสำคัญในการส่งออกสินค้าไป สปป.ลาว รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจาก รถไฟจีน–ลาว จึงทําให้อีสานอยากวางตำแหน่งตัวเอง เป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง แต่ปัจจุบันจากหลายๆปัจจัยเสี่ยง อาจทําให้แผนในการพัฒนาอีสานเป็น Gate ของภูมิภาคชะงัก   อ้างอิงจาาก: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #การค้าชายแดน #การค้าชายแดนไทยลาว #ลาว #หนองคาย #มุกดาหาร #อุบลราชธานี#เลย #นครพนม #บึงกาฬ

พาส่องเบิ่ง  6 จังหวัดการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในปี 2566 (ม.ค. – เม.ย.) อ่านเพิ่มเติม »

พฤติกรรมผู้ชมของธุรกิจหมอลำ และ การออกแบบบริการสำหรับผู้ชมหมอลำ (Service Design)

มื้อนี่ ISAN Insight จะพามาเบิ่ง โครงการวิจัยหมอลำกับเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของคนอีสาน ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม แผนงานคนไทย 4.0   พฤติกรรมผู้ชมของธุรกิจหมอลำ และ การออกแบบบริการสำหรับผู้ชมหมอลำ (Service Design)   สนับสนุนโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผศ.ดร.ศิวาพร ฟองทอง  คณะเศรษฐศาสตร์  รศ.ดร.วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์  คณะเศรษฐศาสตร์  ผศ.ประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์  คณะเศรษฐศาสตร์  ผศ.ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม   วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น  นางสาวรพีพรรณ แคนลาด  ผู้ช่วยนักวิจัย  นางสาวอัจฉราภรณ์ มงคลคำ  ผู้ช่วยนักวิจัย  นายอัษฎาวุฒิ ศรีทน   ผู้ช่วยนักวิจัย  นายศุภชัย เสถียรหมั่น   ผู้ช่วยนักวิจัย   📌 สามารถอ่านวิจัยฉบับเต็ม ได้ที่ https://www.khonthai4-0.net/content_detail.php?id=362&fbclid=IwAR11ktt2ff5LKbh1UlB5-3LY79Eq-DNH2otxXAeE55_CdTuFB_MYVP7j9AA     ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/   Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #หมอลำ #สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ #มข #คณะเศรษฐศาสตร์   

พฤติกรรมผู้ชมของธุรกิจหมอลำ และ การออกแบบบริการสำหรับผู้ชมหมอลำ (Service Design) อ่านเพิ่มเติม »

ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ธุรกิจหมอลำในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ? 

ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ธุรกิจหมอลำในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?    มื้อนี่ ISAN Insight จะพามาเบิ่ง โครงการวิจัยหมอลำกับเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของคนอีสาน ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม แผนงานคนไทย 4.0   สนับสนุนโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผศ.ดร.ศิวาพร ฟองทอง  คณะเศรษฐศาสตร์  รศ.ดร.วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์  คณะเศรษฐศาสตร์  ผศ.ประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์  คณะเศรษฐศาสตร์  ผศ.ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม   วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น  นางสาวรพีพรรณ แคนลาด  ผู้ช่วยนักวิจัย  นางสาวอัจฉราภรณ์ มงคลคำ  ผู้ช่วยนักวิจัย  นายอัษฎาวุฒิ ศรีทน   ผู้ช่วยนักวิจัย  นายศุภชัย เสถียรหมั่น   ผู้ช่วยนักวิจัย   การแสดงหมอลำเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านดั้งเดิมของอีสานและเป็นการแสดงวัฒนธรรมทางดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ฤดูกาลแสดงในรอบหนึ่งปีจะเริ่มต้นหลังจากเทศกาลออกพรรษา และทำการแสดงต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 8 เดือน (ตุลาคม – พฤษภาคม) ก่อนที่จะปิดฤดูกาลหรือพักวงเป็นเวลา 4 เดือนในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน – กันยายน)  หากพิจารณาธุรกิจหมอลำตามการลงทุนและการจ้างงาน สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ได้แก่ ขนาดใหญ่ราคาจ้างงาน 240,000-300,000 บาท ขนาดกลางราคาค่าจ้าง 200,000-240,000 บาท และขนาดเล็กราคาค่าจ้าง 150,000-200,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ต้องเดินทางไปจัดการแสดง การแสดงหมอลำเป็นธุรกิจบันเทิงที่ทำให้เกิดการจ้างแรงงานในหลายรูปแบบ อาทิ นักแสดงหมอลำ นักดนตรี แดนเซอร์ พนักงานประกอบเวที คนขับรถ เป็นต้น ในภาพรวมของธุรกิจหมอลำมีการจ้างงานไม่น้อยกว่า 2,000 คนต่อปี แสดงให้เห็นว่าความอยู่รอดและการเติบโตของธุรกิจหมอลำส่งผลต่อการพัฒนาหรือกระตุ้นเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกันไปด้วย  ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงศึกษาอุตสาหกรรมหมอลำมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอีสานมากน้อยเพียงใด ? มีผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจอีสานมากน้อยเพียงใด ? โดยเปรียบเทียบสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ COVID-19 นั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผลกระทบทางด้านอุตสาหกรรมหมอลำบันเทิง เมื่อสถานการณ์ปกติ ผลผลิตรวมมูลค่า 6,615.2 ล้านบาท แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 มีผลผลิตรวมน้อยลงอย่างมากซึ่งเหลือเพียง 1,153.4 ล้านบาท และทางด้านงผลกระทบต่อการจ้างงาน เมื่อสถานการณ์ปกติ การจ้างแรงงานเฉพาะในส่วนของการจัดแสดงหมอลำประมาณ 4,811 คน เมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 มีการจ้างงานที่น้อยลงเหลือเพียงประมาณ 1,399 คน เท่านั้น   📌 สามารถอ่านวิจัยฉบับเต็ม ได้ที่ https://www.khonthai4-0.net/content_detail.php?id=362&fbclid=IwAR11ktt2ff5LKbh1UlB5-3LY79Eq-DNH2otxXAeE55_CdTuFB_MYVP7j9AA    ติดตาม ISAN Insight &

ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ธุรกิจหมอลำในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?  อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top