Infographic

พามาเบิ่ง สะพานมิตรภาพ “ไทย-ลาว” ในภาคอีสานอยู่ที่ไหนบ้าง

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์) มูลค่าการค้า 82,211 ล้านบาท เปิดใช้งาน 2537 ความยาว 1,174 เมตร ความกว้าง 12.7 เมตร สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) มูลค่าการค้า 270,093 ล้านบาท เปิดใช้งาน 2549 ความยาว 1,600 เมตร ความกว้าง 12 เมตร สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) มูลค่าการค้า 101,201 ล้านบาท เปิดใช้งาน 2554 ความยาว 780 เมตร ความกว้าง 13 เมตร สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) งบประมาณ 4,010 ล้านบาท การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 % คาดเปิดใช้งาน 2567 ความยาว 1,350 เมตร สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) งบประมาณ 5,097 ล้านบาท เตรียมเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณก่อสร้างในปี 2568 คาดเปิดใช้งาน 2571 ความยาว 1,607 เมตร สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทั้ง 6 แห่ง โดย 5 แห่งอยู่ในอีสานและ แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) อยู่ที่จังหวัดเชียงราย ภาคเหนือ อ้างอิงจาก: – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) – สำนักข่าวอิศรา – เดลินิวส์ ออนไลน์ – กระทรวงพาณิชย์ ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #สะพานมิตรภาพไทยลาว #สะพานมิตรภาพ #ไทยลาว

ข้อมูล…น่าฮู้ อีสาน กับ ลาว

ภาคอีสานของไทยและประเทศลาวเป็นภูมิภาคที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก เนื่องจากตั้งอยู่ติดกัน มีภูมิประเทศและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีความแตกต่างบางประการที่น่าสนใจ ดังนี้ **ภูมิศาสตร์** ภาคอีสานของไทยมีเนื้อที่ประมาณ 1.6 แสน ตารางกิโลเมตร อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ประกอบด้วย 20 จังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูง ภาคอีสานมีชายแดนติดกับประเทศลาวยาวประมาณ 1,600 กิโลเมตร ประเทศลาวมีเนื้อที่ประมาณ 236,800 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรอินโดจีน ประกอบด้วย 17 แขวง และ 1 เขตการปกครองพิเศษ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูง ลาวมีชายแดนติดกับภาคอีสานของไทยยาวประมาณ 1,600 กิโลเมตร **ประชากร** ภาคอีสานของไทยมีประชากรประมาณ 21.7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายลาว พูดภาษาอีสาน(กลุ่มตระกูลภาษา TAI-KADAI รากภาษา ไทย-ลาว ร่วมกันในเขตภูมิภาค) ภาคอีสานมีอัตราการเจริญเติบโตของประชากรต่ำ ประเทศลาวมีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวลาว พูดภาษาลาว ลาวมีอัตราการเจริญเติบโตของประชากรสูง **เศรษฐกิจ** ภาคอีสานของไทยเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจภาคการเกษตรเป็นพื้นฐานสำคัญ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ภาคอีสานยังมีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศลาวเป็นประเทศกำลังพัฒนา เศรษฐกิจภาคการเกษตรเป็นพื้นฐานสำคัญ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ฝ้าย ยาสูบ ลาวยังมีอุตสาหกรรมขนาดเล็ก เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ **วัฒนธรรม** ภาคอีสานของไทยและประเทศลาวมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน วัฒนธรรมหลักของทั้งสองภูมิภาคคือวัฒนธรรมแบบลาว มีลักษณะโดดเด่นคือ ประเพณีการเลี้ยงผีบรรพบุรุษ ประเพณีการแห่เทียนพรรษา ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีแข่งเรือ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความแตกต่างบางประการ เช่น ภาคอีสานของไทยมีวัฒนธรรมแบบไทยภาคกลางเข้ามาผสมผสานมากขึ้น เช่น ประเพณีลอยกระทง เป็นต้น รวมถึงยังมีวัฒนธรรมร่วม และประเพณีร่วมในเขตภูมิภาค เช่น ประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น **สรุป** ภาคอีสานของไทยและประเทศลาวเป็นภูมิภาคที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก มีภูมิประเทศและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีความแตกต่างบางประการที่น่าสนใจ ทั้งสองภูมิภาคมีศักยภาพในการพัฒนาร่วมกันในอนาคต #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ลาว #ส่วนแบ่งตลาดของลาว #GMS #เพื่อนบ้านGMS #เพื่อนบ้านอีสาน

พามาเบิ่ง 4 จังหวัดที่ 🌳ต้นไม้ประจำจังหวัด และ 💐ต้นไม้พระราชทานแตกต่างกัน

พามาเบิ่ง 4 จังหวัดที่ 🌳ต้นไม้ประจำจังหวัด และ 💐ต้นไม้พระราชทาน แตกต่างกัน . อัพเดตข้อมูลจากโพสต์ “รายชื่อไม้มงคลพระราชทาน ไม้ประจำจังหวัดในอีสาน🌼💐🪵” วันนี้เพจ Isan Insight & Outlook พามาเบิ่ง 4 จังหวัดที่ ต้นไม้ประจำจังหวัด และ ต้นไม้พระราชทาน แตกต่างกัน ได้แก่ . กาฬสินธุ์ ต้นไม้พระราชทาน คือ หาด หรือ มะหาด (1) ต้นไม้ประจำจังหวัด คือ แสมสาร (2) . นครพนม ต้นไม้พระราชทาน คือ กันเกรา (1) ต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ยางบง (2) . มุกดาหาร ต้นไม้พระราชทาน คือ ช้างน้าว (ตานเหลือง, ช้างน้าว, กำลังช้างสาร) (1) ต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ติ้ว (2) . บุรีรัมย์ ต้นไม้พระราชทาน คือ กาฬพฤกษ์ (วงศ์เดียวกันแต่คนละชนิดกับ กัลปพฤกษ์) (1) ต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ต้นแปะ (2)(3) . อ้างอิงจาก : (1) ส่วนความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านป่าไม้ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ (2) สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (3) เพจ Buriram Lifestyle . . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #IsanEcon #ต้นไม้ประจำจังหวัด #ต้นไม้ประจำจังหวัดภาคอีสาน

พาส่องเบิ่ง “โรงเรียนคาทอลิก” ในภาคอีสานมีมากแค่ไหน

ข้อมูลปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสังกัดสภาการศึกษาคาทอลิกในประเทศไทยมีจำนวนทั้งหมด 381 แห่ง แล้วรู้หรือไม่ว่าโรงเรียนสังกัดสภาการศึกษาคาทอลิกในภาคอีสานมีมากแค่ไหน? โดยในภาคอีสานของเรามีโรงเรียนสังกัดสภาการศึกษาคาทอลิกมากกว่า 79 แห่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.7% ของโรงเรียนสังกัดสภาการศึกษาคาทอลิกทั้งหมดในประเทศไทย โดยจังหวัดที่มีโรงเรียนสังกัดสภาการศึกษาคาทอลิกมากที่สุด อันดับที่ 1 นครราชสีมา มีจำนวน 12 แห่ง อันดับที่ 2 อุดรธานี และ ขอนแก่น มีจำนวน 9 แห่ง อันดับที่ 3 อุบลราชธานี มีจำนวน 7 แห่ง อ้างอิงจาก: – สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย #โรงเรียนคาทอลิก#คาทอลิก

สรุปเรื่องน่าฮู้ เกี่ยวกับ “มหาสารคาม” เมืองแห่งตักสิลานคร

จังหวัดมหาสารคาม นับเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของชาวอีสาน มีชุมชนโบราณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุมชนบ้านเชียงเหียน หมู่บ้านปั้นหม้อของชาวบ้านหม้อ ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคามแหล่งโบราณสถาน และสถานที่สำคัญทางศาสนาก็มี พระธาตุนาดูน กู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน กู่บ้านแดง อำเภอวาปีปทุม ปรางค์กู่ ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม ที่น่ามาศึกษาหาความรู้ทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง โดยจังหวัดมหาสารคามมีขนาดพื้นที่ประมาณ 5,292 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 944,605 คน ในปี 2564 มีขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด อยู่ที่ 66,024 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวของจังหวัดอยู่ที่ 85,228 บาท โครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจ SME – ภาคการบริการ คิดเป็น 51% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร อยู่ที่ 3,195 ราย – ภาคการเกษตร คิดเป็น 21% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ อยู่ที่ 588 ราย – ภาคการผลิต คิดเป็น 17% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การสีข้าว อยู่ที่ 2,276 ราย – ภาคการค้า คิดเป็น 10% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ ร้านขายของชำ อยู่ที่ 6,072 ราย สินค้า GI ของจังหวัด 1. มันแกวบรบือ 2. ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ตัวอย่างโครงการใหญ่ 1. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 นครราชสีมา-ขอนแก่น-หนองคาย (ผ่านจังหวัดมหาสารคาม) คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2573 งบประมาณ 50,000 ล้านบาท 2. โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2573 งบประมาณ 500 ล้านบาท ตัวอย่างบริษัทใหญ่ 1. บจก.มหาสารคาม เบเวอเรซ รายได้รวมปี 2565 = 1,875 ล้านบาท 2. บจก.โตโยต้ามหาสารคาม รายได้รวมปี 2565 = 1,164 ล้านบาท 3. หจก.สมบัติบริการพยัคฆ์ ธุรกิจการขายส่งผลิตภัณฑ์นม รายได้รวมปี 2565 = …

สรุปเรื่องน่าฮู้ เกี่ยวกับ “มหาสารคาม” เมืองแห่งตักสิลานคร อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตราประจำจังหวัด ภาคอีสาน

พามาเบิ่ง ตราประจำจังหวัด ภาคอีสาน   จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2490 – ปัจจุบัน รูปติณชาติ (หญ้า) กาฬสินธุ์ (บึงน้ำสีดำ) ภูเขา และเมฆ หมายถึงสัญลักษณของความชุมชื่น และอุดมสมบูรณของภูมิภาค ทิวเขาตรงสุด จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปพระเจดีย์ก่อไว้บนตอไม้ หมายถึง พระธาตุขามแก่น เป็นภาพสัญลักษณ์จากตํานาน เมืองที่กล่าวว่าในเมืองเคยมีต้นมะขามใหญ่อยู่ตนหนึ่งต่อมาถูกตัดโค่นลงเหลือแต่ตอทิ้งไว้หลายปีภายหลังตอไม้นั้นกลับงอกงามมีกิ่งกานสาขาขึ้นอีก ชาวเมืองเห็นเปนนิมิตอันดี จึงได้สร้างพระเจดียครอบทับตอไม้นั้นและถือเป็นสิ่งที่เคารพบูชาสืบมา จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปธงสามชายอันเป็นธงชัยประจำกองทัพสมัยโบราณ   จังหวัดนครพนม พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปพระธาตุพนม   จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีหน้าประตูชุมพล   จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 – ปัจจุบัน รูปภูทอก บึงโขงหลง และต้นไม้ จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปเทพยดาฟ้อนรำหน้าปราสาทหินพนมรุ้ง   จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปทุ่งนาและต้นรัง มาจากชื่อเมืองมหาสาลคาม (หมายถึงหมู่บ้านต้นรังใหญ่)  ซึ่งสะกดเพี้ยนมาเป็นมหาสารคามในปัจจุบัน   จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. 2525 – ปัจจุบัน รูปปราสาทสองนางสถิตประดิษฐานแก้วมุกดาหารตรานี้กรมศิลปากรไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ  จังหวัดยโสธร พ.ศ. 2515 – ปัจจุบัน รูปพระธาตุอานนท์ พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองในวัดมหาธาตุ มีสิงห์ขนาบสองข้าง  มาจากชื่อที่ตั้งเมืองเมื่อแรกสร้างคือบ้านสิงห์ท่า รูปดอกบัวบานหมายถึงจังหวัดยโสธรแยกมาจากจังหวัดอุบลราชธานี รัศมีบนยอดแปดแฉกหมายถึงอำเภอทั้งแปดของจังหวัด   จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. 2545 – ปัจจุบัน รูปศาลหลักเมืองบนเกาะกลางบึงพลาญชัย เบื้องหลังเป็นรูปพระมหาเจดีย์ชัยมงคล โดยมีกรอบวงกลมเป็นรูปรวงข้าวล้อมรอบ เดิมตราจังหวัดร้อยเอ็ดมีเพียงรูปศาลหลักเมืองบนเกาะกลางบึงพลาญชัยเท่านั้น ส่วนปีที่ใช้ตราปัจจุบันอ้างตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งออกแบบโดยนายรังสรรค์ ต้นทัพไทย  จังหวัดเลย พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน รูปพระธาตุศรีสองรัก เบื้องหลังเป็นทิวเขา   จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2512 – ปัจจุบัน รูปปรางค์กู่ มีดอกลำดวน 6 กลีบรองรับอยู่เบื้องล่าง ตราปราสาทพระวิหาร ตราประจำจังหวัดศรีสะเกษระหว่าง พ.ศ. 2483 – 2512 ต่อมาได้เปลี่ยนตราใหม่เพราะไทยเสียปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ พ.ศ. 2505 การจะใช้ตราเดิมต่อไปจึงเป็นการไม่สมควร  จังหวัดสกลนคร พ.ศ. 2483 – ปัจจุบัน …

พามาเบิ่ง ตราประจำจังหวัด ภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ผลไม้ GI

สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) คือ เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า . ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทย คือ ตราของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ออกให้แก่ผู้ผลิตสินค้าเพื่อรับรองว่าเป็นสินค้าที่มาจากแหล่งภูมิศาสตร์ที่ได้รับขึ้นทะเบียนไว้โดยต้องปฏิบัติตามคู่มือและแผนการควบคุมนั้นแล้ว . . นครราชสีมา – มะขามเทศเพชรโนนไทย – ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ – น้อยหน่าปากช่องเขาใหญ่ . กาฬสินธุ์ – พุทรานมบ้านโพน . นครพนม – สับปะรดท่าอุเทน – ลิ้นจี่นครพนม . สกลนคร – หมากเม่าสกลนคร . ศรีสะเกษ – ทุเรียนภูเขาไฟ . มหาสารคาม – มันแกวบรบือ . บึงกาฬ – สับปะรดบึงกาฬ . หนองคาย – สับปะรดศรีเชียงใหม่ . ชัยภูมิ – ส้มโอทองดีบ้านแท่น – กล้วยหอมทองหนองบัวแดง – มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบ้านโหล่น . . หมายเหตุ: ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 . . อ้างอิงจาก: – กรมทรัพย์สินทางปัญญา ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #GI ผลไม้GI #สินค้าGI

พาส่องเบิ่ง สถานการณ์ “หมอนวดในอีสาน”

ในปี 2565 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้จบหลักสูตรนวดแผนไทยมากที่สุดในประเทศ ซึ่งมีจำนวน 572 คน แต่สิ่งที่น่าตกใจ คือ กลับมีหมอนวดแผนไทยมืออาชีพผู้บรรจุอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 8 คนเท่านั้น นั่นหมายถึงหมอนวดมืออาชีพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือย้ายถิ่นฐานไปทำงานนอกภูมิภาคของตนเอง ซึ่งเมื่อดูจากจำนวนหมอที่เรียนจบนวดในแต่ละภูมิภาคกับจำนวนหมอนวดมืออาชีพที่บรรจุอยู่ในพื้นที่ ก็พบว่าหมอนวดมืออาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือออกไปทำงานนอกภูมิภาค มากถึง 564 คน โดยถือว่ารั่วไหลออกไปมากที่สุดเป็นลำดับที่ 1 ในระดับประเทศเลยทีเดียว แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้แรงงานหมอนวดของเรารั่วไหลออกไปนอกภูมิภาค? สาเหตุที่สำคัญอาจมาจากความพยายามดึงดูดแรงงานของต่างประเทศ หากดูค่าจ้างร้านนวดในต่างประเทศ พบว่าค่าจ้างมากกว่าประเทศไทยถึง 4-6 เท่า ในส่วนของสวัสดิการที่น่าดึงดูดของต่างประเทศ เช่น ในญี่ปุ่นสามารถทำงานโดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นระยะเวลา 1 ปี และมีที่พักให้หมอนวด สถานการณ์ร้านนวดในภาคอีสาน เป็นอย่างไร? ภาคอีสานมีจำนวนนิติบุคคลผู้ประกอบการร้านนวดและสปาน้อยที่สุด คิดเป็นลำดับที่ 5 ในระดับประเทศ อย่างไรก็ตามภาคอีสานก็มีจำนวนร้านนวดและสปาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Wellness Center จำนวน 40 ร้าน หรือมากที่สุดในประเทศ ในส่วนของรายได้จากอุตสาหกรรมนวดและสปาของภาคอีสาน อยู่ที่ 24 ล้านบาท และมีกำไร 2.7 ล้านบาท ทำให้เห็นว่าภูมิภาคเรามีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อได้ในแง่ที่ว่า สินค้าและบริการของเราเยอะกว่าภูมิภาคอื่นมาก แต่ศูนย์ Wellness ร้านนวดและสปาในภาคอีสานยังไม่มากพอที่จะรองรับสินค้าและบริการดังกล่าว ซึ่งหากมีแรงจูงใจทำให้เห็นความสำคัญในการจัดตั้งศูนย์ Wellness มากกว่านี้ ก็จะทำให้สินค้าและบริการด้านสมุนไพรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับโอกาสที่จะใช้ประกอบกับกิจกรรมการนวดและสปา ทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว ร้านนวดที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Wellness Center จะมีค่าบริการที่สูงกว่าร้านนวดทั่วไป โดยการจ่ายในราคาที่แพงกว่านี้จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการรักษาสุขภาพที่ดีกว่า ทั้งในแง่ของความสะอาดของพื้นที่ มาตรฐานอุปกรณ์รักษาสุขภาพ และคุณภาพของผู้ให้บริการ ร้านนวดและาสปาที่เป็นศูนย์ Wellness โดยมากแล้วมีบริการนวดไทยแบบดั้งเดิม นวดอโรมา นวดสปา นวดตัว นวดสครัปผิว และบริการอื่นๆ อีกมากมาย โดยใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ภายใต้การดูแลของพนักงานนวดมืออาชีพที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ร้านนวดและสปาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Wellness ในภาคอีสานนี้มีหลายแห่ง ในที่นี้ขอยกหยิบยกร้านที่มีความโดดเด่นของแต่ละจังหวัดมาเป็นตัวอย่าง 1. Me aura ขอนแก่น – ขอนแก่น ให้บริการนวดและสปา โดดเด่นเรื่องพื้นที่ที่กว้างขวางและเป็นระเบียบ 2. Siya Thai Massag – นครราชสีมา ให้บริการนวด และการแพทย์แบบกดจุด 3. Vela- D Masaage – ร้อยเอ็ด ให้บริการนวดและสปา โดดเด่นเรื่องการใช้สมุนไพรประกอบกับการบริการ 4. ร้านนวดบ้านเฮา นวดเพื่อสุขภาพ – สกลนคร ให้บริการนวดและสปาเต็มรูปแบบ โดดเด่นเรื่องการใช้สมุนไพรและการสร้างบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว เมื่อท่านได้ทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว อยากจะไปใช้บริการศูนย์ Wellness แล้วหรือยัง? อ้างอิงจาก: – กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก – กรมพัฒนาธุรกิจและการค้า, กระทรวงแรงงาน – Spa directory …

พาส่องเบิ่ง สถานการณ์ “หมอนวดในอีสาน” อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง  3 สวนสัตว์ในภาคอีสาน

พามาเบิ่ง  3 สวนสัตว์ในภาคอีสาน   อ้างอิงจาก: องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์ขอนแก่น สวนสัตว์อุบลราชธานี   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #สวนสัตว์ใหญ่ในอีสาน #สวนสัตว์  

ภาคอีสานดินแดนแห่งเกษตรกรรม ข้อมูลน่าฮู้… คนอีสานปลูกข้าวมากแค่ไหน

จากข้อมูลข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2565/66 ที่ความชื้น 15% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่เพาะปลูก อยู่ที่ 38,577,000 ไร่ และมีผลผลิต อยู่ที่ 12,974,098 ตัน ในส่วนข้อมูลข้าวนาปรัง ปี 2565 ที่ความชื้น 15% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่เพาะปลูก 1,892,820 ไร่ และมีผลผลิต 1,080,911 ตัน 5 อันดับจังหวัดที่มีผู้ประกอบการการปลูกข้าวมากที่สุด อันดับที่ 1 ร้อยเอ็ด จำนวน 475 ราย อันดับที่ 2 อุบลราชธานี จำนวน 414 ราย อันดับที่ 3 ศรีสะเกษ จำนวน 409 ราย อันดับที่ 4 ขอนแก่น จำนวน 395 ราย อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ จำนวน 363 ราย หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล และวิสาหกิจชุมชน เฉพาะประเภทธุรกิจการปลูกข้าวเจ้า (รหัสประเภทธุรกิจ 01121) และธุรกิจการปลูกข้าวเหนียว (รหัสประเภทธุรกิจ 01122) อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) – สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ธุรกิจการปลูกข้าว #ปลูกข้าว #ข้าวอีสาน #ข้าว

Scroll to Top