Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

พามาเบิ่ง ตลาดออนไลน์ ไทย🇹🇭-จีน🇨🇳 ต่างกันอย่างไร? ในวันที่ ‘อีคอมเมิร์ซไทยวิกฤติ’ ทุนนอกฮุบ สินค้าจีนทะลัก

การขยายตัวที่แตกต่างของไทยและจีนในการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย   ไทย :  ไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นของการใช้โซเชียลมีเดียในการซื้อขายออนไลน์ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ การซื้อขายผ่านไลฟ์สดมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากความนิยมในปัจจุบัน จีน สัดส่วนการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นเป็น 16% จาก E-commerce ทั้งหมด ความนิยมของคนจีนที่จะซื้อของออนไลน์ผ่านช่องทางการไลฟ์สดในโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตลาด E-commerce ของจีนมีแนวโน้มที่จะเกิดการขยายตัวในรูปแบบ C2C มากขึ้น ที่มา: Euromonitor หมายเหตุ: การซื้อขายผ่านไลฟ์สด (Live Streaming E-Commerce) คือการขายสินค้าแบบเรียลไทม์ผ่านการไลฟ์สดในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Live, TikTok Live, Shopee Live, Instagram Live, การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล (Social comerce) คือการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียหรือ market place เช่น Facebook, Instagram, LINE, TikTok   ‘อีคอมเมิร์ซไทยวิกฤติ’ ทุนนอกฮุบ สินค้าจีนทะลักครองส่วนแบ่งรวมกันกว่า 79% ผู้ประกอบการไทยต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างชาติเป็นหลัก ไม่มีอำนาจต่อรอง 🇨🇳ลาซาด้า 🇨🇳+🇸🇬ช้อปปี้ 🇨🇳 TikTok [1]ตลาดซื้อขายออนไลน์ของไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการดังนี้: . การเติบโตของอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน: การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายขึ้นและการแพร่หลายของสมาร์ทโฟนทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและซื้อสินค้าออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น การแพร่ระบาดของ COVID-19: การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพื่อลดการสัมผัสและรักษาระยะห่างทางสังคม การพัฒนาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความหลากหลายของสินค้า บริการชำระเงิน และการจัดส่งสินค้า ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ที่ดีขึ้น การสนับสนุนจากภาครัฐ: ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการค้าออนไลน์และเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อขายออนไลน์มากขึ้น ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตลาดซื้อขายออนไลน์ของไทย: . [2]มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ผู้บริโภคกลุ่มหลักที่ซื้อสินค้าออนไลน์คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 20-39 ปี สินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อออนไลน์ ได้แก่ สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง อาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า . แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Shopee, Lazada แต่ล่าสุดหลังจากการกลับบ้าน ของ JD การมาของ TikTok ที่เป็น social media แต่เรามีระบบตะกร้าสินค้าเหมือน e-commerce และการผสมผสานการ live commerce กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและแจ้งส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น ผลดีคือการแข่งขันของผู้ขายทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและโปรโมชั่นที่มากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องท้าทายต่อผู้ค้าขายหรือผู้ขายในช่องทางเหล่านี้ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสินค้าจีนทะลัก ซึ่งมีราคาถูกและทำให้ผู้ประกอบการไทย ประสบปัญหาด้านการแข่งขัน . [3]แนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในอนาคต: ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI และ AR การซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Commerce) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น […]

พามาเบิ่ง ตลาดออนไลน์ ไทย🇹🇭-จีน🇨🇳 ต่างกันอย่างไร? ในวันที่ ‘อีคอมเมิร์ซไทยวิกฤติ’ ทุนนอกฮุบ สินค้าจีนทะลัก อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง รถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ) ในอีสาน

พามาเบิ่ง รถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ) ในอีสาน . ตุ๊กตุ๊ก เชื่อมโยงกับ วิถีชีวิตคนอีสาน รับส่งคน-ของทั่วตลาด เป็นพาหนะคู่ใจของพ่อค้าแม่ค้า  จังหวัด จํานวน(คัน) ร้อยละ % นครราชสีมา 691 52.43 ขอนแก่น 353 26.79 อุบลราชธานี 170 12.90 ชัยภูมิ 43 3.27 บุรีรัมย์ 42 3.19 นครพนม 10 0.76 สุรินทร์ 7 0.53 หนองคาย 1 0.08 ร้อยเอ็ด 1 0.08 ศรีสะเกษ สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี เลย ยโสธร หนองบัวลำภู มุกดาหาร บึงกาฬ อำนาจเจริญ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,318 ทั่วประเทศ 17,371  . คํานิยามของรถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ)   คือ ต้องมีลักษณะประทุน โดยมีที่นั่ง 2 ตอน หรือ 2 แถว ขนาดกว้าง ไม่เกิน 1.50 เมตร ยาวไม่เกิน 4 เมตร เครื่องยนต์ต้องมีความจุในกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เซนติเมตร . รถยนต์รับจ้างสามล้อหรือที่เราเรียกติดปากว่า รถตุ๊กๆ จากสถิติของกรมขนส่งทางบกรถตุ๊กๆ จดทะเบียนสะสมในอีสานอยุ่ที่  1,318 จาก 17,371  ทั่วประเทศ โดยอยู่ในกรุงเทพมหานครกว่าครึ่งหนึ่งของจํานวนรถทั้งหมด . ในอีสานมีรถตุ๊กๆอยู่เพียง 9 จาก 20 จังหวัด นครราชสีมา มีมากถึง 691 คัน (52.43%) รองลงมาคือ ขอนแก่น 353 คัน (26.79%) และ อุบลราชธานี 170 คัน (12.90%) .  แต่รู้หรือไม่? บางจังหวัดเหลือเพียง 1 คัน เช่น หนองคายและร้อยเอ็ด อีกไม่นานอาจเป็นเพียงตำนานของอีสาน!   ที่มา : กรมการขนส่งทางบก . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook

พามาเบิ่ง รถรับจ้างสามล้อ(รถตุ๊ก ๆ) ในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

 พาส่องเบิ่ง จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ภาคอีสาน ปี2567

 พาส่องเบิ่ง จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ปี2567 . จากข้อมูลประกันสังคมล่าสุด จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีผู้ประกันตนสูงสุดในภาคอีสาน รวมกว่า 1.02 ล้านคน 💼📈 นำห่างจังหวัดอื่นแบบทิ้งขาด  . จังหวัด จำนวนผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 (คน) จำนวนผู้ประกัน ตน ตามมาตรา39 (คน) จำนวนผู้ประกัน ตน ตามมาตรา40 (คน) จำนวนผู้ประกันตนทั้งหมด (คน) นครราชสีมา 259,376 40,892 726,714 1,026,982 ขอนแก่น 140,156 21,074 89,475 250,705 อุดรธานี 65,338  14,315 85,917 165,570 อุบลราชธานี 77,752 14,515 67,445 159,712 สุรินทร์ 43,646 11,175  73,063 127,884 บุรีรัมย์ 47,207 10,084 68,608 125,899 ศรีสะเกษ 34,115  9,431 74,820 118,366 สกลนคร 37,323 10,942 62,080  110,345 ชัยภูมิ 32,752 8,145 64,093 104,990 กาฬสินธุ์ 27,748 6,338 51,887 85,973 ร้อยเอ็ด 32,592 7,201 42,762 82,555 มหาสารคาม 31,660 7,435 40,998 80,093 เลย 23,177  6,245 49,097 78,519 นครพนม 20,600 5,264 36,077 61,941 มุกดาหาร 15,563 3,574 39,176 58,313 ยโสธร 15,203 3,952 38,130 57,285 หนองคาย 17,437 5,311 32,827 55,575 หนองบัวลำภู 15,781 3,810 31,097 50,688 อำนาจเจริญ 10,565 2,944 35,688 49,197 บึงกาฬ 9,998 3,204 25,709 38,911 รวม 964,450

 พาส่องเบิ่ง จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ภาคอีสาน ปี2567 อ่านเพิ่มเติม »

มาพาอัพเดต แรงงานนอกระบบอีสาน อยู่อุตสาหกรรมไหนบ้าง

มาพาอัพเดต แรงงานนอกระบบอีสาน อยู่อุตสาหกรรมไหนบ้าง . เมื่อพูดถึงแรงงานนอกระบบ หลายคนอาจนึกถึงพ่อค้าแม่ค้าริมถนน ชาวนาชาวไร่ หรือผู้ให้บริการรับจ้างทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่าในภาคอีสานของเรา แรงงานนอกระบบมีจำนวนมากถึง 7.18 ล้านคน คิดเป็น 75.16% ของแรงงานทั้งหมดในภูมิภาค นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขธรรมดา แต่เป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนโครงสร้างเศรษฐกิจของอีสานและประเทศไทยโดยรวม   อุตสาหกรรมที่มีแรงงานนอกระบบมากที่สุดในอีสานคือ ภาคเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง มีจำนวนแรงงานสูงถึง 5.03 ล้านคน หรือ 70.01% ของแรงงานนอกระบบทั้งหมด เพราะภาคอีสานยังคงพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก ชาวนา ชาวไร่ และชาวประมงส่วนใหญ่อยู่ในระบบที่ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีประกันสังคม และต้องพึ่งพาตนเองอย่างเต็มที่   ด้านภาคบริการและการค้าค้าส่งนั้น การค้าปลีก และการซ่อมยานยนต์ เป็นภาคเศรษฐกิจที่มีแรงงานนอกระบบมากเป็นอันดับสอง คิดเป็น 11.61% หรือ 834,729 คน ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านโชห่วย ตลาดสด ร้านซ่อมรถ และผู้ค้าหาบเร่แผงลอย คือตัวอย่างชัดเจนของแรงงานนอกระบบที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น   ภาคที่พักแรมและบริการด้านอาหารก็ตามมาติด ๆ ด้วยจำนวน 415,179 คน หรือ 5.77% ซึ่งรวมถึงพนักงานร้านอาหาร แม่บ้านโรงแรม และผู้ประกอบการขนาดเล็กในธุรกิจการท่องเที่ยว   เมื่อพิจารณาจากเพศ พบว่า แรงงานนอกระบบชายมีจำนวนมากกว่าหญิง โดยมี 3.96 ล้านคน (55.15%) ขณะที่แรงงานหญิงอยู่ที่ 3.22 ล้านคน (44.85%) นี่สะท้อนให้เห็นว่าแรงงานชายมีแนวโน้มที่จะอยู่ในอาชีพรับจ้างอิสระและงานใช้แรงงานมากกว่า ส่วนแรงงานหญิงส่วนใหญ่มักกระจุกตัวในอุตสาหกรรมบริการและค้าปลีก   แรงงานนอกระบบเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจอีสานและประเทศ แต่พี่น้องเหล่านั้นกลับเผชิญความท้าทายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ความไม่มั่นคงทางรายได้ การขาดสวัสดิการ และการถูกมองข้ามจากนโยบายภาครัฐ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม กลุ่มแรงงานเหล่านี้จะยังคงอยู่ในวังวนของความไม่แน่นอนต่อไป . หมายเหตุ: 1. ข้อมูลปี พ.ศ. 2567   ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ พามาเบิ่ง อีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุด แม้เกษียณก็ยังต้องทำงาน? . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #แรงงานนอกระบบ #ISANEcon #เศรษฐกิจอีสาน #แรงงานอีสาน #แรงงานนอกระบบอีสาน #เกษตรอีสาน #จำนวนแรงงาน

มาพาอัพเดต แรงงานนอกระบบอีสาน อยู่อุตสาหกรรมไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

อีสานบ่ธรรมดา! ต่างชาติทุ่มทุนมหาศาล พาส่อง ต่างชาติแห่ลงทุน มูลค่ารวมทะลุสองหมื่นล้าน

ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในภาคอีสาน สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญของภูมิภาคนี้ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งผลิตสินค้าเกษตรอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็นหมุดหมายใหม่ของการลงทุนจากทั่วโลก ด้วยมูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท จาก 22 ประเทศทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป และโอเชียเนีย   (1) อีสาน…ไม่ใช่แค่แหล่งข้าว: เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ชี้ชัดศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ ข้อมูลการลงทุนจากต่างประเทศในภาคอีสาน สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจุกตัวของการลงทุนในบางจังหวัด ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ และโอกาสในการเติบโตที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่   5 อันดับจังหวัดที่มีนักลงทุนต่างชาตินิยมลงทุนมากสุด นครราชสีมา มูลค่าการลงทุน 17,267 ล้านบาท ​​อุดรธานี มูลค่าการลงทุน 983 ล้านบาท ขอนแก่น มูลค่าการลงทุน 595 ล้านบาท สกลนคร มูลค่าการลงทุน 559 ล้านบาท บุรีรัมย์ มูลค่าการลงทุน 406 ล้านบาท. นครราชสีมา: แม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินลงทุน นครราชสีมาครองแชมป์จังหวัดที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดอย่างทิ้งห่าง คิดเป็นสัดส่วนถึง 81% ของการลงทุนทั้งหมดในภาคอีสาน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 17,267 ล้านบาท นครราชสีมาเป็นประตูสู่ภาคอีสาน มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มีตลาดแรงงานขนาดใหญ่ และมีศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง อีกทั้งยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ และนิคมอุตสาหกรรม ทำให้จังหวัดนี้มีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น ที่สำคัญนครราชสีมามีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม การค้า และบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว     กลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพ อย่างอุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร และบุรีรัมย์  กลุ่มจังหวัดเหล่านี้มีมูลค่าการลงทุนรองลงมา โดยแต่ละจังหวัดมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน อุดรธานี: เป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ขอนแก่น: เป็นศูนย์กลางการศึกษา การแพทย์ และการบริการของภาคอีสาน สกลนคร: มีศักยภาพในภาคเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตยางพารา บุรีรัมย์: เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และมีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว   (2) ภาคอุตสาหกรรม ถือหัวใจหลักของการลงทุน ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมสำหรับยานยนต์ มูลค่า 5,639 ล้านบาท และ การผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 913 ล้านบาท ครองอันดับต้นๆ ของการลงทุน สิ่งนี้บ่งชี้ว่าภาคอีสานกำลังก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในระดับโลก การลงทุนนี้จะช่วยสร้างงานและพัฒนาทักษะแรงงานในท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี อุตสาหกรรมแปรรูป การผลิตสตาร์ชมันสำปะหลัง มูลค่า 2,095 ล้านบาท และ การผลิตผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 717 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาคเกษตรแปรรูปในภาคอีสาน การลงทุนนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรในท้องถิ่น และส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในภาคเกษตร อุตสาหกรรมเครื่องจักร การผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ในทางการแพทย์ มูลค่า

อีสานบ่ธรรมดา! ต่างชาติทุ่มทุนมหาศาล พาส่อง ต่างชาติแห่ลงทุน มูลค่ารวมทะลุสองหมื่นล้าน อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก ..  เปิดตัว “Sip Song” สูตรลับข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ โดย ‘เปียโน THE SIS’ ผู้เนรมิตสาโทไทยบินไกลเวียนนา! 

ในนามวง THE SIS หลายคนรู้จักเธอในฐานะศิลปินกลุ่มทรีโอ ที่ประกอบไปด้วย 3 พี่น้อง แต่ปัจจุบัน เธอคือผู้ประกอบการไทย เจ้าของร้านอาหาร Mamamon Thai Eatery และ Sip Song Bar ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ที่พาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นข้าว GI ไปสู่สายตาชาวโลก ด้วยการแปรรูปเป็น ‘สาโท’ หมักด้วยน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ เสิร์ฟให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลองความเป็นไทย     จาก ‘เสียงเพลง’ สู่ ‘รสชาติไทย’ ในเวียนนา   “คุณเปียโน” ได้พลิกผันชีวิตหลังแต่งงานกับชาวสวีเดน ย้ายถิ่นฐานสู่เวียนนาในปี 2010 แม้จะเผชิญกับความท้าทายด้านภาษาและวัฒนธรรม แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านอาหารที่ซึมซับมาจากคุณแม่ตั้งแต่เด็ก เธอได้เริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารไทยรถเข็น “Mamamon Thai Eatery” ในปี 2011 โดยมีคุณแม่เป็นผู้รังสรรค์สูตรอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ ความสำเร็จของ Mamamon นำไปสู่การขยายธุรกิจในปี 2016 ด้วยร้านอาหารไทยเต็มรูปแบบ และในปี 2022 เธอได้เปิด “Sip Song Bar” บาร์ยาดองไทยสุดฮิปใจกลางกรุงเวียนนา ที่นำเสนอเครื่องดื่มไทยโบราณในรูปแบบค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ พร้อมดนตรีไทยสดๆ สร้างสีสันให้ค่ำคืน ล่าสุด เธอได้เปิด “Sip Song Bar” สาขาใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ตอกย้ำความสำเร็จในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านรสชาติและเสียงเพลงสู่สายตาชาวโลก   เรื่องราวของเปียโน THE SIS ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงไทยทั่วโลก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้     จากสาเกสู่สาโท ของ ‘เปียโน THE SIS’ สร้างสรรค์เครื่องดื่มไทยโกอินเตอร์   จากความหลงใหลในรสชาติสาเก สู่แรงบันดาลใจจากข้าวหมาก เปียโน THE SIS หันมาศึกษาและทดลองทำสาโทที่เวียนนา ด้วยความมุ่งมั่นและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เธอสามารถรังสรรค์ “Sip Song Sato” สาโทข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยความร่วมมือจากอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงเวียนนา เธอได้นำข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฯ GI มาเป็นวัตถุดิบหลัก สร้างสรรค์สาโท 3 รูปแบบ: ดราฟต์, สุก, และ Pet Nat เสิร์ฟในร้าน “Sip Song Bar” และร้านอาหารชั้นนำในเวียนนา ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์เครื่องดื่มรสเลิศ เปียโนยังนำกากสาโทมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างมูลค่าเพิ่ม และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ด้วยรสชาติที่ถูกปากชาวต่างชาติ และความภาคภูมิใจในความเป็นไทย เปียโน THE SIS ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเครื่องดื่มในยุโรป    

พามาฮู้จัก ..  เปิดตัว “Sip Song” สูตรลับข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ โดย ‘เปียโน THE SIS’ ผู้เนรมิตสาโทไทยบินไกลเวียนนา!  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรเวียดนาม🇻🇳

.ประเทศเวียดนามมีเนื้อที่ประมาณ 331,698 ตาราง กิโลเมตร มี 63 หน่วยการปกครองระดับจังหวัดประเทศเวียดนามมีประชากรประมาณ 100.4 ล้านคน ส่วนใหญ่ พูดภาษาเวียดนาม.หากดูจากแผนที่ประชากรของเวียดนาม จะเห็นว่า ผู้คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้เพราะพื้นที่เหล่านี้มี ปัจจัยทางภูมิศาสตร์, เศรษฐกิจ, และประวัติศาสตร์ ที่เอื้อต่อการตั้งถิ่นฐานและการพัฒนาเมืองมากกว่า ในขณะที่ภาคกลางและพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกกลับมีประชากรเบาบางเนื่องด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ภาคกลางของเวียดนามเผชิญกับไต้ฝุ่นและน้ำท่วมเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน และส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูงซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการตั้งถิ่นฐานและการเพาะปลูกในด้านพีระมิดประชากรของเวียดนาม มีลักษณะเป็น “พีระมิดฐานกว้าง” โดยกลุ่มประชากรในวัยเด็กและวัยแรงงานมีจำนวนมาก ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุมีสัดส่วนที่น้อย ซึ่งภาคอีสานของไทยที่ต้องการแรงงานในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการบริการ สามารถดึงดูดแรงงานจากเวียดนามมาเสริมแรงงานไทยได้ เนื่องจากเวียดนามมีประชากรในวัยแรงงานจำนวนมาก.พื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูงสุด1. ฮานอย และ โฮจิมินห์ซิตี้ มีประชากรหนาแน่นที่สุด โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูงกว่า 2,300 คนต่อตารางไมล์2. เมืองใหญ่ เช่น ไฮฟอง (Haiphong), บิ่นห์ฮว้า (Bien Hoa), ดานัง (Da Nang) ก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีประชากรหนาแน่นเช่นกัน3. บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เช่น กันโถ (Can Tho), รัชเกีย (Rach Gia) ก็มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญ. ภาพรวมประชากร ขนาดประชากร: ประมาณ 100 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. 2566) การกระจายตัว: ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงและแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ฮานอยและนครโฮจิมินห์ อัตราการเติบโต: อัตราการเติบโตของประชากรค่อนข้างคงที่ โครงสร้างอายุ เวียดนามมีโครงสร้างประชากรที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง โดยมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม เวียดนามกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านสวัสดิการและระบบดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเวียดนามเชื้อสายกิง (Kinh) หรือเวียด (Viet) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ คิดเป็นประมาณ 86% ของประชากร นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีก 53 กลุ่ม กระจายอยู่ทั่วประเทศ ศาสนา ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือศาสนาอย่างเป็นทางการ แต่มีความเชื่อในลัทธิบรรพบุรุษและลัทธิต่างๆ ศาสนาที่มีผู้นับถือมาก ได้แก่ ศาสนาพุทธนิกายมหายาน ศาสนาคริสต์ และศาสนาพื้นเมือง ลักษณะเฉพาะของโครงสร้างประชากรเวียดนาม ประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก: เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ความเป็นสังคมเมืองที่เพิ่มขึ้น: มีการย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมืองอย่างต่อเนื่อง ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม: เวียดนามมีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ พีระมิดประชากรเวียดนามฐานกว้างและค่อย ๆ แคบลง – แสดงถึงอัตราการเกิดที่ยังสูงอยู่ แต่แนวโน้มอาจลดลงเล็กน้อยในอนาคตประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก – กลุ่มอายุ 15-64 ปี มีสัดส่วนสูงมาก ซึ่งหมายถึงแรงงานที่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผู้สูงอายุมีสัดส่วนน้อย – ระบบสวัสดิการและการดูแลผู้สูงอายุอาจยังไม่เป็นภาระหนักเท่ากับประเทศที่มีโครงสร้างประชากรสูงวัย ประชากรและโครงสร้างวัยแรงงานของเวียดนามเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้: ประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก: เวียดนามมีประชากรมากกว่า

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรเวียดนาม🇻🇳 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตัวอย่างอำเภอเด่นในอีสานที่ถนนมิตรภาพพาดผ่าน

ถนนมิตรภาพ หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 เป็นหนึ่งในทางหลวงสายหลักของประเทศไทยที่เชื่อมต่อจังหวัดสระบุรีกับจังหวัดหนองคาย โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 509 กิโลเมตร นับเป็นทางหลวงสายแรกที่ก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างทุกขั้นตอน และเป็นทางหลวงสายแรกของไทยที่มีผิวจราจรลาดยางแบบแอสฟอลต์คอนกรีต การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2498 โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในด้านงบประมาณและเทคนิคการก่อสร้าง  ถนนมิตรภาพมีความสำคัญอย่างมากในการเชื่อมโยงภาคอีสานกับภาคอื่นๆ ของประเทศไทย โดยตัดผ่านภาคอีสาน 4 จังหวัดและ 23 อำเภอ ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมา: ผ่านอำเภอปากช่อง, สีคิ้ว, สูงเนิน, เมืองนครราชสีมา, เฉลิมพระเกียรติ, โนนสูง, คง, โนนแดง, สีดา, บัวลาย จังหวัดขอนแก่น: ผ่านอำเภอพล, โนนศิลา, บ้านไผ่, บ้านแฮด, เมืองขอนแก่น, น้ำพอง, เขาสวนกวาง จังหวัดอุดรธานี: ผ่านอำเภอโนนสะอาด, กุมภวาปี, เมืองอุดรธานี, เพ็ญ จังหวัดหนองคาย: ผ่านอำเภอสระใคร, เมืองหนองคาย   หากไม่นับอำเภอเมือง อำเภอที่ถนนมิตรภาพตัดผ่านล้วนเป็นอำเภอสำคัญของจังหวัด โดยรายละเอียดของตัวอย่างอย่างอำเภอเด่นในแต่ละจังหวัด ได้แก่ 1. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นอำเภอแรกสุดของการเดินทางจากถนนมิตรภาพสู่ภาคอีสาน ทำให้มีความสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางและการค้า และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดีจากการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ  ขนาดพื้นที่: 1,825.17 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 127,557 คน  จำนวนครัวเรือน: 74,213 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 1,968ราย  2. อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นอำเภอใหญ่และเก่าแก่ในจังหวัดขอนแก่น มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม มีสถานีรถไฟซึ่งในอนาคตจะถูกพัฒนาให้รองรับรถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย ขนาดพื้นที่: 477.7 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 71,567 คน  จำนวนครัวเรือน: 24,663 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 518 ราย    3. อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่เจริญในอุดรธานี มีเครือข่ายคมนาคมอย่างถนนมิตรภาพและสถานีรถไฟ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างทะเลบัวแดง ขนาดพื้นที่: 672.6 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 80,871 คน  จำนวนครัวเรือน: 22,764 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 396 ราย    4. อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เป็น 1 ใน 2 อำเภอในหนองคายที่มีถนนมิตรภาพตัดผ่าน จากภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับเมืองเวียงจันทน์ และในอนาคตที่จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ทำให้อ.สระใคร มีโอกาสและศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต ขนาดพื้นที่: 210.9 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 26,488 คน  จำนวนครัวเรือน: 8,997 หลัง 

พามาเบิ่ง ตัวอย่างอำเภอเด่นในอีสานที่ถนนมิตรภาพพาดผ่าน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่างสนามบินใหญ่ใน GMS

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่างสนามบินใหญ่ใน GMS . . (1) การเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยที่มีศูนย์จัดงาน MICE ขนาดต่างๆ รองรับอยู่มากมาย นอกจากในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ก็ยังมีสถานที่จัดงาน MICE กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในทุกการเดินทางเพื่อไปร่วมงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วจากการโดยสารเครื่องบินจึงเป็นสิ่งสำคัญ  . (2) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการมาเกือบ 20 ปี ให้บริการมาแล้วกว่า 5 ล้านเที่ยวบิน พร้อมทั้งต้อนรับผู้โดยสารจากทั่วโลกมากกว่า 815 ล้านคน และปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศ รวมกว่า 22 ล้านตัน เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งตั้งเป้าที่จะผลักดันไทยเป็นฮับการบินของภูมิภาค โดยตั้งเป้าให้สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดติด 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งนอกจากการเพิ่มการลงทุนในสนามบิน ยังมีการวางแผนพัฒนาการให้บริการสนามบิน และจับมือกับพันธมิตรระดับโลก . ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เร่งรัดแผนการพัฒนาสนามบินเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารให้ได้ถึง 150 ล้านคนต่อปีในปี 2573 โดยปัจจุบัน ทอท.ได้เปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 เพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ควบคู่ไปกับโครงการขยายขีดความสามารถของสนามบินอย่างต่อเนื่อง . (3) ส่วนในภาคอีสานของเรา ปัจจุบันมีสนามบินอยู่ 9 แห่งด้วยกัน และมีสนามบินที่มีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3.5 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 1,962 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 301,987 คน . ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 1,521 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 241,921 คน   ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2.9 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 1,262 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 200,760 คน . ท่าอากาศยานสกลนคร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1.7 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 384 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 59,233

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่างสนามบินใหญ่ใน GMS อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ ปี 68 ภาคอีสานมีผู้ป่วยเกือบ 40,000 ราย

จังหวัด ผู้ป่วยสะสม สัดส่วนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ต่อประชากรแสนคนในจังหวัด นครราชสีมา 7,428 ราย 284 อุบลราชธานี 5,907 ราย 316 สุรินทร์ 3,312 ราย 244 ขอนแก่น 3,185 ราย 180 ร้อยเอ็ด 2,937 ราย 230 ชัยภูมิ 2,263 ราย 205 บุรีรัมย์ 1,831 ราย 117 ศรีสะเกษ 1,818 ราย 126 อุดรธานี 1,623 ราย 105 มหาสารคาม 1,572 ราย 169 นครพนม 1,430 ราย 201 กาฬสินธุ์ 1,285 ราย 134 สกลนคร 1,136 ราย 100 ยโสธร 957 ราย 182 หนองบัวลำภู 891 ราย 177 หนองคาย 614 ราย 120 อำนาจเจริญ 613 ราย 165 มุกดาหาร 558 ราย 159 บึงกาฬ 418 ราย 100 เลย 340 ราย 54 . ในประเทศไทยได้พบจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในหน้าฝน เนื่องจากเชื้อไวรัสมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายได้ดีในประเทศเขตร้อนที่มีความชื้นสูง นอกจากนี้ตามธรรมชาติของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ทำให้การระบาดของโรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี . แต่ในปี 2568 นี้พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ด้วยจำนวนผู้ป่วยมากถึง 135,790 ราย (ณ วันที่ 24 ก.พ. 68) และมีผู้เสียชีวิต 9 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา (4 ราย) จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉะเชิงเทรา ลำปาง สงขลา และสุรินทร์ จังหวัดละ 1 ราย พบเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A ทั้ง 9 ราย . ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อมูลเดิม เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 มีผู้ติดเชื้อเพียง 7,819 ราย

พาสำรวจเบิ่ง สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ ปี 68 ภาคอีสานมีผู้ป่วยเกือบ 40,000 ราย อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top