Infographic

พามาฮู้จัก ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ สินค้า GI แดนอีสาน ที่โกอินเตอร์ในต่างประเทศ

“ทุ่งกุลาร้องไห้” เป็นทุ่งใหญ่ของภาคอีสานมีพื้นที่อยู่ในเขต 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดสุรินทร์ จํานวนพื้นที่ทั้งสิ้น 2,107,690 ไร่ ทำไมถึงเรียก “ทุ่งกุลาร้องไห้” เดิมมีชื่อว่า ทุ่งหมาหลง หรือ ทุ่งป่าหลาน ที่ได้ชื่อว่า “ทุ่งกุลาร้องไห้” นั้น มีตํานานกล่าวว่ามีพ่อค้าชาวกุลาเดินเร่ขายสินค้าผ่านเข้ามาในทุ่งกว้างแห่งนี้จนเมื่อยล้ายังไม่พ้นทุ่งกว้างแห่งนี้ จึงมีชื่อว่า “ทุ่งกุลาร้องไห้” การเพาะปลูกข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ คาดว่าเริ่มมีการนําเข้ามาปลูกหลังจากทางราชการมีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมมะลิและรับรองพันธุ์ในปี 2502 ในชื่อพันธุ์ “ขาวดอกมะลิ 105” ได้เริ่มดําเนินการอย่างกว้างขวางในปี 2524 โดยโครงการแลกเปลี่ยนพันธุ์ข้าวเน้นการเปลี่ยนพันธุ์ปลูกจากข้าวเหนียวเป็นพันธุ์ข้าวเจ้า จึงทําให้ข้าวหอมมะลิมีการปลูกอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนพันธุ์ปลูกทุก 3 ปี เพื่อให้พันธุ์ข้าวมีความบริสุทธิ์ สภาพการปลูกข้าวหอมมะลิที่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ทําให้ปลูกได้เพียงปีละ 1 ครั้ง เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็นและปราศจากฝน ประกอบกับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เชื่อว่าพื้นที่ที่มีน้ำ จะต้องระบายน้ำออกก่อนเก็บเกี่ยวข้าวประมาณ 10 วัน จะทําให้ผลผลิตข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ มีคุณภาพดี ข้าวสารมีเมล็ดใส และแกร่ง ข้าวสุกมีความหอมและนุ่ม รวมทั้งขบวนการแปรรูปที่ได้มาตรฐานจึงทําให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้มีคุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากข้าวหอมมะลิที่ผลิตจากแหล่งอื่นๆ จนเป็นที่ยอมรับของผู้ค้าและผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ ได้แก่ – สหภาพยุโรป – สาธารณรัฐประชาชนจีน – อินโดนีเซีย – มาเลเซีย จุดเด่นของพันธุ์นี้คืออะไร? ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ คือ ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือกพันธุ์ข้าวหอมที่ไวต่อช่วงแสง ได้แก่ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 15 ซึ่งปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ในช่วงฤดูนาปี และมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ข้าวเปลือกมีสีฟาง เมล็ดข้าว ยาว เรียว และเมล็ดไม่มีหางข้าว เมล็ดข้าวที่ผ่านการสีแล้ว จะมีความเลื่อมมัน จมูกข้าวเล็ก อ้างอิงจาก: – กรมทรัพย์สินทางปัญญา – สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ข้าว #ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ #ข้าวหอมมะลิ #ทุ่งกุลาร้องไห้ #สินค้าGI#ข้าวGI

พามาเบิ่งแนวโน้มการเติบโตของ รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด รถยนต์สันดาปภายใน

อัตราการเติบโตการจดทะเบียนรถยนต์ในประเทศไทยในปี 2566 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 1.80% หรือประมาณ 0.93 ล้านคันต่อปี โดยรถเกือบทุกประเภทมีอัตราเพิ่มขึ้น หากพิจารณาเฉพาะจำนวนรถจดทะเบียนใหม่ในปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 4.57 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 4.51 ล้านคัน คิดเป็นอัตราการเติบโต 1.4% และหากพิจารณาจากข้อมูลลงลึก ทั้งรายจังหวัดและรายภูมิภาค เราจะพบแนวโน้มที่น่าสนใจคือ การเติบโต ของรถไฟฟ้า ที่เพิ่มขึ้นทั้งในจังหวัดที่มีฐานจดทะเบียนปีก่อนหน้าต่ำอย่าง บึงกาฬ หรือ ยโสธร ปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 92.9% และ 80.4% ตามลำดับ แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ กลุ่มจังหวัดใหญ่ที่มีฐานจดทะเบียนปีก่อนหน้าสูงอยู่แล้วอย่าง อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่องเป็น Top5 จังหวัดที่มีรถไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่มากที่สุดในอีสาน อยู่ที่ อุบลราชธานี 84.7% หรือจำนวน 1,290 คัน นครราชสีมา 80.6% หรือจำนวน 1,476 คัน ขอนแก่น 80.3% หรือจำนวน 1,820 คัน และภาคอีสาน ยังมีอัตราการเติบโตของรถไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ เติบโตที่ 334.1% สอดคล้องกับแนวโน้มการจดทะเบียนรถไฟฟ้า ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 มีจำนวนรถไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ทั้งประเทศสูงถึง 40,812 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจำนวน 9,678 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 321.7% (ยอดจดทะเบียนสะสมรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 1 แสนคัน) นอกจากนั้นการเติบโตของรถยนต์ ไฮบริด ยังเติบโตเฉลี่ยทั้งประเทศถึง 36.3% ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าอีกด้วย ส่วนการเติบโตของรถเครื่องยนต์สันดาป ที่เฉลี่ยทั้งประเทศที่ 6.5% (มียอดจดทะเบียนสะสมรถยนต์สันดาปภายในรวมประมาณ 43.2 ล้านคัน) ทำให้มองเห็นทิศทางของพฤติกรรมผู้บริโภคที่สนใจในรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตการจดทะเบียนรถยนต์ในประเทศไทยในปี 2566 ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคก่อนหน้า รวมทั้งภาวะอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ที่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชนบางส่วน ที่มา: – กลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก ปี พ.ศ.2565 และ พ.ศ.2566 – วิจัยกรุงศรี; บทวิเคราะห์: แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรม ปี 2566-2568: อุตสาหกรรมรถยนต์ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #IsanEcon #Business #Economy #ธุรกิจ#เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน#รถยนต์EV #EV #รถไฟฟ้า #รถจดทะเบียน

ชวนเบิ่งตัวอย่าง “ไนท์มาร์เก็ต” ดินแดนอีสาน

ตลาดต้นตาล – ขอนแก่น เปิดทำการทุกวัน เวลา 16:00 – 23:00 น. ตลาดต้นตาลแม้ว่าจะเปิดให้บริการมามากกว่า 10 ปีแล้ว แต่แนวคิดและการเปลี่ยนแปลงก็มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น โดยตลาดต้นตาลก่อตั้งขึ้นจากรุ่นคุณพ่อของคุณณิชกานต์ ตลาดต้นตาลกลายเป็นโซนพลาซ่าอย่างเดียว ก็คือเป็นพื้นที่ให้คนท้องถิ่นมาเช่าและขายของ ความน่าสนใจของตลาดต้นตาลก็คือ เหมือนเป็นแหล่งโอโซนอย่างดีของเมืองขอนแก่น เป็นพื้นที่กิจกรรม, ขายของ, แสดงวัฒนธรรม ดนตรี ศิลปะ ฯลฯ . ตลาดเซฟวัน – นครราชสีมา ปีก่อตั้ง 2539 เปิดทำการทุกวัน เวลา 14:00 – 22:00 น. ตลาดเซฟวันเเมื่อก่อนทำเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อห้างเซฟวัน โดยเจ้าของคลังพลาซ่า (ห้างท้องถิ่นของโคราช) ร่วมกับกลุ่มทุนเครือเซ็นทรัล แต่กิจการมีปัญหาใน ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 แล้วห้างก็ได้ปิดตัวลงไป แล้วก็มีคนเริ่มนำเอาของมือสองมาขายแบบเปิดท้ายขายของ เซฟวันจึงพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เปิดให้เช่าเป็นพื้นที่ขายของจนกลายเป็นตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ . ถนนคนเดินเชียงคาน – เลย เปิดทำการทุกวัน เวลา 17:00 – 22:00 น. คำว่า “เชียง” ซึ่งตามธรรมเนียมราชประเพณีไทยล้านนา ล้านช้าง มักใช้คำนำหน้าเมืองว่า เชียง ส่วนคำว่า “คาน” เป็นชื่อของผู้สร้างเมืองเชียงคาน คือ “ขุนคาน” กษัตริย์แห่งเมืองเชียงทอง ปัจจุบันเชียงคานมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้วแถมมีบ้านไม้เก่าๆ วิวสวยๆตามริมฝั่งโขง เงียบสงบ บรรยากาศดี แล้วก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากมาย . UD Town – อุดรธานี เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น. UD TOWN เป็นศูนย์การค้าแบบเปิดโล่งที่ใหญ่ที่สุดในอุดรธานี บริหารโดย บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด โดยมีคุณธนาโกรณ์ วีรชาติยนกูล นักธุรกิจมากประสบการณ์กว่า 15 ปี ในวงการขายและการตลาด เป็นผู้ก่อตั้ง ตัวโครงการตั้งอยู่ในอุดรธานี ซึ่งเป็นประตูสู่อินโดจีน มีศักยภาพด้านการค้า ภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และการขนส่ง โดยมีพื้นที่ 24 ไร่ และมีขนาด 13,000 ตารางเมตร . . อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา – THE PEOPLE – KORATWAY – อีสานร้อยแปด ติดตาม ISAN Insight …

ชวนเบิ่งตัวอย่าง “ไนท์มาร์เก็ต” ดินแดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง CEO บริษัทอีสานในตลาดหุ้น อยู่ GEN ไหนกันบ้าง?

Post war อายุ 79 ปี ขึ้นไป พิพัฒน์ ตั้งสืบกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. วัฒนาการแพทย์ ธุรกิจ: โรงพยาบาล ที่ตั้ง : อุดรธานี อายุ: 82 ปี Baby Boomer อายุ 60-78 ปี วิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ ธุรกิจ: วัสดุก่อสร้าง ที่ตั้ง : ร้อยเอ็ด อายุ: 66 ปี อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ดูโฮม ธุรกิจ: วัสดุก่อสร้าง ที่ตั้ง : อุบลราชธานี อายุ: 71 ปี Gen X อายุ 44-59 ปี อังกฤษ รุ่งโรจน์กิติยศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง ธุรกิจ : ชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ตั้ง : นครราชสีมา อายุ : 47 ปี ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ ธุรกิจ : แปรรูปยางพารา ที่ตั้ง : บุรีรัมย์ อายุ : 55 ปี Gen Y อายุ 28-43 ปี รัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช ธุรกิจ : แป้งมันสำปะหลัง ที่ตั้ง : มุกดาหาร อายุ : 34 ปี สุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล ธุรกิจ : เอทานอล ที่ตั้ง : อุบลราชธานี อายุ : 38 ปี อ้างอิงจาก: – รายงานประจำปี 2565 ของแต่ละบริษัท …

พามาเบิ่ง CEO บริษัทอีสานในตลาดหุ้น อยู่ GEN ไหนกันบ้าง? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง คนอีสานอายุเกิน 100 มากแค่ไหน

ในปี 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีคนที่มีอายุตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไป อยู่จำนวน 5,426 คน ซึ่งอายุคาดเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 77 ปีเท่านั้น โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไปมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ – นครราชสีมา มีจำนวน 765 คน – ขอนแก่น มีจำนวน 714 คน – บุรีรัมย์ มีจำนวน 504 คน – อุดรธานี มีจำนวน 419 คน – อุบลราชธานี มีจำนวน 382 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้สูงอายุเกิน 100 ปีน้อยที่สุดได้แก่ จังหวัดยโสธร ซึ่งมีเพียง 53 คนเท่านั้น แล้วอะไรที่ทำให้ผู้สูงอายุเหล่านี้มีอายุยืนเกิน 100 ปี? ความเจริญก้าวหน้าและความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ทั้ง ด้านการแพทย์ อาหาร สภาพแวดล้อม ฯลฯ ประกอบกับการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ จะทำให้ผู้คนมีอายุยืนมากขึ้นในยุคปัจจุบัน ปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อการมีอายุยืนเช่นเดียวกัน ได้แก่ การมีกิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนฝูง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนอย่างสม่ำเสมอ เช่น ในรูปแบบของชมรมผู้สูงอายุกิจกรรมอาสาสมัครหรือกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ การมีงานอดิเรกหรือกิจกรรมสันทนาการที่ตนเองชื่นชอบ รวมไปถึงปัจจัยความเชื่อทางจิตวิญญาณ พลังศรัทธาทางศาสนา การมีจุดหมายในชีวิตและความเข้มแข็งของ จิตใจปัจจัยทางประเพณีและวัฒนธรรมในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการมีชีวิตความเป็นอยู่และอายุที่ยืนยาวของผู้สูงอายุ การมีชีวิตอย่างมีคุณภาพครอบคลุมทั้งปัจจัยทางสุขภาพและปัจจัยทางสังคมรวมถึง มีชีวิตอย่างยืนยาวเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เคล็ดลับทั้งหมดสู่การมีอายุยืนหนึ่งร้อยปีเป็นตัวอย่างอันพึงปฏิบัติ ยังไม่ช้าเกินไปที่จะเริ่มต้นในวันนี้ หากทุกคนมีความปรารถนาและความมุ่งมั่นสู่การมีชีวิตที่ยืนยาว มีสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไป คุณอาจเป็นหนึ่งในจำนวนผู้มีอายุยืนร้อยปีในวันข้างหน้า อ้างอิงจาก: – Agenda – กรมการปกครอง – กระทรวงสาธารณสุข – ข้อมูลสถิติประชากร พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Economy #เศรษฐกิจ #เศรษฐกิจอีสาน#บ้านเมืองอีสาน #คนอีสานอายุเกิน100ปี #อายุเกิน100ปี #คนแก่อายุเกิน100ปี #คนอีสาน

พามาเบิ่ง จำนวนครู : จำนวนนักเรียน ในอีสาน

วันครู ตรงกับ วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี โดยจุดประสงค์ในการมีวันครูนี้ เพื่อให้นักเรียนได้ระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอน ทำให้เป็นคนดีรู้วิชา ครูจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างมากในวงการ การศึกษา ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ เนื่องในโอกาสดังกล่าว อีสานอินไซต์ขอพาดูจำนวนครูทั้งหมดในภาคอีสาน โดยปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 1.7 แสนคนกระจายอยู่ทั่วทั้ง 20 จังหวัดโดยคิดเป็น 35% ของจำนวนครูทั้งหมดในประเทศ 5.1 แสนคน โดยครูในอีสานมีค่าเฉลี่ยในการดูแลเด็กต่อครู 1 คน อยู่ที่เด็ก 15 คน ซึ่งยังเป็นค่าที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภาพรวมประเทศที่นักเรียน 16.8 คนต่อครู 1 คน สะท้อนถึงการดูแลเด็กที่ทั่วถึงมากขึ้น ข้อสังเกต ข้อมูลชุดนี้ยังไม่มีการแยกครูตามระดับชั้น ดังนั้นจะไม่สามารถเห็นการกระจายตัวได้ว่า ครู 1 คนในระดับชั้นใดรับภาระการสอน ต่อ จำนวนนักเรียนมากที่สุด? หมายเหตุ 1) จำนวนครูนับเฉพาะที่สังกัด โรงเรียนรัฐ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) โรงเรียนเอกชน (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน) และโรงเรียนสาธิต (สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) โดยนับรวมในทุกระดับการศึกษา 2) ปีการศึกษา 2566 ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #IsanInsight #วันครู #วันครูแห่งชาติ#นักเรียน #ครูไทย #วันครูแห่งชาติ2567 #สวัสดีวันครู #สวัสดีวันครู2567 #บ้านเมืองอีสาน

สรุปเรื่องน่าฮู้ เกี่ยวกับ “สุรินทร์เมืองช้าง”

จังหวัดสุรินทร์ มีขนาดพื้นที่ 8,124 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 1,368,569 คน และในปี 2564 จังหวัดสุรินทร์มีขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด อยู่ที่ 85,743 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวของจังหวัดอยู่ที่ 81,675 บาท โครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจ SME – ภาคการบริการ คิดเป็น 47% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร มีผู้ประกอบการอยู่ 3,972 ราย – ภาคการเกษตร คิดเป็น 26% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ มีผู้ประกอบการอยู่ 403 ราย – ภาคการผลิต คิดเป็น 14% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การทอผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ มีผู้ประกอบการอยู่ 14,426 ราย – ภาคการค้า คิดเป็น 13% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ ร้านขายของชำ มีผู้ประกอบการอยู่ 7,863 ราย ตัวอย่างสินค้าของจังหวัด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ และผ้าไหมมัดหมี่โฮล ข้อมูสะสมมกราคม – พฤศจิกายน ปี 2566 การค้าชายแดนของจังหวัดสุรินทร์กับกัมพูชา โดยมีมูลค่าการส่งออก อยู่ที่ 4,116 ล้านบาท และมีมูลค่าการนำเข้า อยู่ที่ 2,392 ล้านบาท ตัวอย่างโบราณสถานสำคัญของจังหวัดสุรินทร์ ปราสาทศีขรภูฃมิ – โบราณสถานขอมสมัยนครวัด สร้างด้วยอิฐ หินทราย และศิลาแลง ประกอบด้วยปรางค์ก่อด้วยอิฐ 5 หลัง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส โดยมีปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลาง และมีปรางค์บริวาร 4 หลัง ล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศ ปรางค์ประธานมีแผนังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสย่อมมุมไม้ยี่สิบ มีประตูทางเข้าทางด้านหน้าเพียงด้านเดียว บริเวณเหนือกรอบประตูพบทับหลังจำหลักเป็นภาพพระศิวะกำลังร่ายรำ มีหงส์แบกอยู่ 3 ตัว เหนือเกียรติมุข มีภาพพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมา ที่เสาประตูจำหลักเป็นภาพนางอัปสราและทวารบาล บริเวณหน้าบันเป็นอิฐประดับลวดลายปูนปั้น ปราสาทบ้านพลวง – ศิลปะขอมแบบบาปวน เป็นปราสาทขนาดเล็กจำนวน 1 หลัง สร้างด้วย สร้างด้วยหินทรายสีขาวบนฐานศิลาแลง ล้อมรอบด้วยคูน้ำรูปตัวยู องค์ปราสาทมีแผนผัง เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ส่วนฐานศิลาแลงมีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า …

สรุปเรื่องน่าฮู้ เกี่ยวกับ “สุรินทร์เมืองช้าง” อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 22 แหล่งท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แดนอีสาน

พามาเบิ่ง 22 แหล่งท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แดนอีสาน จากแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่รู้จักของจังหวัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ทำสื่อนี้เพื่อเชิญชวนทุกคนไปแวะชมสถานที่ประวัติศาสตร์ของภาคอีสาน “แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์” ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 อ้างอิงจาก: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#แหล่งท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ #แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์

พามาเบิ่ง 5 หอคอยแห่งอีสาน จุดชมวิวกลางเมือง

พามาเบิ่ง 5 หอคอยแห่งอีสาน จุดชมวิวกลางเมือง เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคงยังไม่รู้จักแลนมาร์คของภาคอีสานอย่าง 5 หอคอย ที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ เป็นหอคอยสูงที่สุดในภาคอีสาน ถือแลนด์มาร์คสุดโก้เก๋ทันสมัยที่ไปเที่ยวภาคอีสานแล้วต้องไปให้ได้ 1.หอชมเมืองเทอร์มินอล 21 โคราช ความสูงเท่าตึก 35 ชั้น สูงเป็นอันดับ 3 ของไทย (แต่ตัวหอคอยไม่ปรากฏจำนวนชั้น) ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช (Terminal 21 Korat) ตั้งอยู่บริเวณ 3 แยกนครราชสีมา ตรงข้ามกับบิ๊กซีโคราช ด้วยมูลค่าโครงการสูงกว่า 6,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 32 ไร่ กว่า 200,000 ตาราเมตร 2.หอโหวด ๑๐๑ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ตั้งที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด มีความสูงโดยรวม 101 ม.(หลังคาชั้น 3 – พื้นชั้นวางแท่นพระฯ) แต่หากรวมความสูงทั้งหมด 123.6 ม. (พื้น – ยอดสุดอาคาร) โดยมี ชั้นที่ 34 เป็นชั้นที่ต่อเติมใหม่ เป็นจุดชมวิวนอกอาคารแบบ 360 องศา โดยมี Highlight จุดชมวิวพื้นกระจกใส (Sky Walk) และ จุดโหนสลิงโรยตัว (Zipline) ในอนาคต/ และชั้นที่ 35 เป็นชั้นสูงสุดที่ต่อเติมใหม่ซึ่งจะเป็น ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธมิ่งเมืองมงคล พระพุทธรูปประจำจังหวัดร้อยเอ็ด การออกแบบมีลักษณะคล้ายเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ที่เรียกว่า โหวด ซึ่งสื่อให้ถึงความเป็นบ้านเกิด 3.หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ สวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของจังหวัด เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งจังหวัดศรีสะเกษ เป็นแหล่งการเรียนรู้แบบครบวงจร ได้รับความอนุเคราะห์จากกรมศิลปากรออกแบบตกแต่งภายใน เป็นเเหล่งเรียนรู้วิถีชิวิต, วัฒนธรรม, ประเพณี, ภูมิปัญญา และ ศาสนา 4.หอสุรนภา มทส. นครราชสีมา หอสุรนภา ก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2536 เป็นอาคารรูปดอกบัว เป็นสัญลักษณ์งานแสดงเกษตรและอุตสาหกรรมโลก 2538 เรียกได้ว่าเป็น Landmark of World Tech 95 เลยก็ว่าได้ ซึ่งงานนี้ได้จัดระหว่างวันที่ 3 พ.ย.-16 ธ.ค. พ.ศ. 2538 หอมีความสูงรวม 82.30 เมตร นักศึกษามักจะเรียกหอนี้ว่า “หอแห้ว” ว่ากันว่าถ้าใครได้ขึ้นไปหอสุรนภาในขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่จะเรียนไม่จบแม้ความสูงจะมี 11 ชั้น แต่ลิฟต์มีแค่ชั้น …

พามาเบิ่ง 5 หอคอยแห่งอีสาน จุดชมวิวกลางเมือง อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง  สนามบินอีสาน ปี 2566 สนามบินใด๋ คนใช้หลายสุด

พามาเบิ่ง  สนามบินอีสาน ปี 2566 สนามบินใด๋ คนใช้หลายสุด   หมายเหตุ : ข้อมูลปี 2566    อ้างอิงจาก:  กรมท่าอากาศยาน   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #กรมท่าอากาศยาน #สนามบิน  #สนามบินอีสาน 

Scroll to Top