พามาเบิ่ง ส่งออกสะดุด ทุเรียนเวียดนามเบนเข็มเข้าตลาดไทย หวั่นใช้เป็นฐานการส่งออก

ฮู้บ่ว่า❓ เวียดนาม การส่งออกทุเรียนเวียดนามในไตรมาสที่ 1 เพิ่มสัดส่วนการส่งออกมายังไทยเพิ่มขึ้น ทดแทนการพึ่งพาจากตลาดจีนเพียงที่เดียว สร้างขอสังเกตุเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกทุเรียนโดดเด่นอยู่แล้ว หวั่นเวียดนามต้องการใช้ไทยเป็นทางผ่านก่อนส่งออกเข้าไปจีน

ในไตรมาสแรกของปี 2025 เวียดนามส่งออกทุเรียนได้ประมาณ 26,900 ตัน คิดเป็นมูลค่า 98.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 53% ในด้านปริมาณ และ 61% ในด้านมูลค่า ขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 3,655 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สาเหตุหลักของการหดตัวดังกล่าวมาจาก การเข้มงวดด้านมาตรฐานและความปลอดภัยของจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่รองรับทุเรียนเวียดนามมากกว่า 90% โดยเฉพาะหลังจากมีรายงานพบสาร “สีเหลือง O” ในทุเรียนบางล็อตที่นำเข้าจากไทยช่วงต้นปี ทำให้จีนเข้มงวดกับทุเรียนจากทุกประเทศมากขึ้น

เวียดนามก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดทุเรียนจีนอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากจีนอนุมัติให้นำเข้าทุเรียนจากเวียดนามอย่างเป็นทางการในปี 2565 โดยเวียดนามได้เปรียบทั้งด้าน ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า, ระยะทางขนส่งที่ใกล้กว่า, และ ฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่ต่างจากไทย ทำให้สามารถกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดจีนได้ต่อเนื่อง

ทุเรียนเวียดนามบุกตลาดจีน คู่แข่งสำคัญของไทยในเวลาเพียง 3 ปี

แม้ว่าการนำเข้าทุเรียนจากไทยจะยังคงมีอยู่ในระดับสูง แต่สัดส่วนของเวียดนามในตลาดจีนก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จาก 5% ในปี 2022 เป็น 32% และล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 42% ส่งผลให้ไทยซึ่งเคยครองตลาดเพียงรายเดียวต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากข้อจำกัดด้านมาตรการนำเข้าของจีน ทำให้เวียดนามต้องกระจายตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะ ประเทศไทย ซึ่งกลายเป็นปลายทางใหม่ที่มีสัดส่วนการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนาม สูงถึง 26% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเวียดนามในไตรมาสแรกของปี 2025

 

 

🇻🇳ทุเรียนเวียดนามส่งออกไปไทยมากถึง 26% ของส่งออกรวม

🚚ยอดส่งออกทุเรียนของเวียดนามไตรมาสแรกปีนี้ลดลงจากปีก่อนถึง 53% ในแง่ปริมาณน้ำหนัก เนื่องจากจีนลดการซื้อลงแต่กระนั่นตัวเลขการส่งออกหลักของเวียดนามยังเป็นประเทศจีน ถึง 51% ของภาพรวม ลำดับสองทุเรียนเวียดนามส่งไปไทย 26% และลำดับสามส่งไปฮ่องกง 11% ราคาเฉลี่ยสามเดือนแรกปีนี้ 3,655 USD/ตัน, ต่ำกว่าปีก่อน 18%

อาจเป็นกราฟิกรูป ข้อความพูดว่า "Tỷ trọng thị trường xuất khẩu sầu riêng của Việt Nam Q1/2025 (vòng ngoài) vs Q1/2024 (vòng trong) Trung Quốc (51%) Thái TháiLan(26%) Lan (26%) Thị trường Khác (12%) Hong HongKong(11%) Kong (11%)"

🤔เป็นที่น่าแปลกใจว่าไทยและเวียดนามต่างเป็นผู้ผลิตทุเรียนเหมือนกันแต่มีทุเรียนเวียดนามส่งไปไทยแล้วถึง 26% ของการส่งออกรวม

ประเด็นนี้สร้างข้อสังเกตสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยเองเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายหลักของโลก การนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามในระดับสูงเช่นนี้จึงก่อให้เกิดความกังวลว่า เวียดนามอาจใช้ไทยเป็นทางผ่าน (transit point) เพื่อส่งต่อไปยังจีนในลักษณะ re-export โดยอาศัยต้นทุนที่ต่ำกว่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาและภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในตลาดโลก

สถานการณ์ดังกล่าวจึงสะท้อนถึงความจำเป็นที่ไทยต้อง ตรวจสอบแหล่งที่มาของทุเรียนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าและการใช้ไทยเป็นฐานการส่งออกโดยมิชอบ พร้อมทั้งรักษาความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ส่งออกทุเรียนคุณภาพของภูมิภาคต่อไป

จากกาแฟแพง สู่ทุเรียนถูก บทเรียนเกษตรกร เมื่อเวียดนามหันมาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการหดตัวลงของการปลูกกาแฟ

ทุเรียน 3 ชาติสวมสิทธิ์ทุเรียนไทย ส่งออก สารพัดปัญหา-กดราคาต่ำสุดในรอบ 5 ปี

ราคาทุเรียนต่ำกว่า 100 บาท/กก. ดิ่ง 90-95 บาท/กก. เหตุจีนเจอ “ทุเรียนอ่อน” เพียบ ผู้นำเข้าจีนชะลอซื้อ บางแผงหยุดรับซื้อเคลียร์ 1-2 วัน ล่าสุดจับ “ทุเรียนเวียดนาม” ขนส่งทางเรือ เตรียมส่งห้องเย็นแช่แข็ง หวัง “สวมสิทธิ” เป็นทุเรียนไทย หวั่นเจอ “สารแคดเมียม” ขณะที่จีนเพิ่งผ่อนปรนตรวจเข้มสารย้อมสี BY2 ของทุเรียนไทยเหลือ 30%

แหล่งข่าวจากวงการส่งออกทุเรียนเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 68 ทางการไทยได้จับกุมทุเรียนเวียดนามขนส่งทางเรือเข้ามายังประเทศไทย แม้จะมีหลักฐานชัดเจนว่ามีการขออนุญาตถูกต้องในการนำเข้าเนื้อทุเรียนแกะมาทางท่าเรือแหลมฉบัง แจ้งว่าจะนำเข้าโรงงานแช่แข็งที่ จ.ระยองแต่มาฝากแช่ไว้ที่โกดังไม้ยางพารา อ.แกลง จ.ระยอง ที่เจ้าของเป็นคนจีนก่อน แต่ไม่มีเอกสารแสดงการเคลื่อนย้ายมาสำแดง

 

ทางด้านเพจ เรื่องเล่า ข่าวเกษตร ได้โพสต์ สส.ระยอง ตั้งคำถาม นำเข้าทุเรียนแกะเนื้อจากเวียดนาม มาเพื่ออะไร ทั้งที่ราคาทุเรียนไทยขณะนี้ลดลง !!

 

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน และ ข้อความพูดว่า "เรื่องเล่า a ข่าวเกษตร E 1 7 โย พงศช レア สส สส.ระยอง ตั้ง ตั้งคำถาม คำ ถาม นำเข้าทุเรียนแกะเนื้อ ทุ่เ นำเ เนื้อ จากเวียดนาม จาก มาเพื่ออะไร ทั้งที่ราคากุเรียนทยขณะนี้ลดลง!! ทั้ง 23 พ.ค. 2568 www.agrinewsthai.com"

พงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง เขต 3 ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีตรวจพบรถตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัย 2 คัน บรรทุกสิ่งของภายใน และรถตู้คอนเทนเนอร์ 1 คัน เป็นรถเปล่า จอดอยู่ในโกดังไม้ยางพารา อ.แกลง จ.ระยอง ที่อ้างว่าเป็นสถานที่สำหรับจอดพักชั่วคราว ก่อนนำสินค้าในตู้ไปส่ง และเมื่อตรวจในตู้คอนเทนเนอร์พบเป็นทุเรียนแกะเนื้อนำเข้าจากเวียดนาม 2 คัน เมื่อถามหาเอกสารการครอบครองกลับไม่ปรากฎ

เช้าวันนี้ (23 พฤษภาคม 2568) ได้เข้าไปตรวจสอบที่โกดัง ดังกล่าว ไม่พบรถตู้คอนเทนเนอร์ที่จอดอยู่ด้านใน ทางเจ้าของซึ่งเป็นชาวจีน แจ้งว่า รถดังกล่าวที่บรรทุกทุเรียน 2 คัน ไปที่โรงงานทุเรียนแช่แข็ง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าว ใน อ.แกลง พบ เป็นชื่อภาษาจีนและมีชาวจีนเป็นเจ้าของ เนื้อที่ราว 50 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 200 เมตร และมีสวนทุเรียนล้อมรอบ มีรั้วรอบขอบชิด

ตรวจพบว่า รถตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 2 คัน ถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ เจ้าของได้นำเอกสารการนำเข้ามาแสดงให้ดู พบมีการขออนุญาตการนำเข้าอย่างถูกต้อง แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในโกดังแรก อุปกรณ์ เช่น ลัง ถุงแปะสติ๊กเกอร์ ระบุแหล่งกำเนิด คือ ประเทศไทย ที่เป็นภาษาจีนและอุปกรณ์อื่นๆหายไป

พงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง เขต 3 เปิดเผยว่า เป็นที่น่าสังเกตุ เพราะหากการนำเข้าทุเรียนแกะเนื้อเวียดนามเข้าไทย เหตุใดจึงไม่นำเข้ามาอย่างปลายทางทันที และที่ยิ่งสงสัยกว่าเหตุใด ทำไมภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปล่อยให้มีการนำเข้าทุเรียนเพื่อนบ้านมาในไทย ทั้งที่ราคาซื้อขายทุเรียนในไทยลดลงอย่างมาก พร้อมได้ประสานงานไปยัง ผกก.สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ตรวจสอบรถตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่หายไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้ว่า มาทำอะไร และขอให้เกษตรจังหวัดระยอง ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังการขอนำเข้าทุเรียน ที่อ้างว่า นำมาแช่แข็งทั้งหมด เพื่อให้เป็นข้อมูลพิจารณาหาความผิดปกติหรือไม่
สส.จ.ระยอง ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ไม่ได้นิ่งนอนใจ กับเรื่องดังกล่าว ได้ประสานมาและแจ้งว่า ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างรอบครอบ หากเข้าข่ายผิดเรื่องใด ให้บังคับใช้กฎหมายจริงจัง

ทั้งนี้ สส.ระยอง เรียกร้องไปยังรัฐบาลให้หามาตรการแก้ปัญหาการนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศไทยทุกประเภท เพราะเริ่มมีสินค้าหลายชนิดจากเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายในไทยจำนวนมาก จนทำให้สินค้าไทยขายไม่ได้

ที่มา:

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top