พามาเบิ่ง เปิดพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากจังหวัดนครพนม

จังหวัดนครพนม พบว่ามีพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทั้งหมด 395.22 ตร.กม. คิดเป็นร้อยละ 0.23 ของพื้นที่ภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากเป็นครั้งคราว มีน้ำท่วมขังไม่เกิน 3 ครั้งในรอบ 10 ปี จำนวน 225.77 ตร.กม. รองลงมาได้แก่พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากบ่อยครั้ง มีน้ำท่วมขัง 4-7 ครั้ง ในรอบ 10 ปี จำนวน 136.88 ตร.กม. และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำ 32.57 ตร.กม.

 

อำเภอท่วมมากเป็นอันดับ 1 คือ อำเภอ ศรีสงคราม

  • มีพื้นที่อยู่ 671,317 ตร.กม.
  • มีจำนวนหลังคาเรือนในอำเภออยู่ 24,289 หลังคาเรือน

 

อำเภอท่วมที่สุดเป็นอันดับ 2 คือ อำเภอ นาทม

  • มีพื้นที่อยู่ 398,129 ตร.กม.
  • มีจำนวนหลังคาเรือนในอำเภอยู่ 7,058 หลังคาเรือน

 

อำเภอท่วมเป็นอันดับ 3 คือ อำเภอ นาหว้า

  • มีพื้นที่อยู่ 288,448 ตร.กม.
  • มีจำนวนหลังคาเรือนในอำเภออยู่ 15,668 หลังคาเรือน

 

ย้อนเบิ่งเหตุการณ์น้ำท่วมสำคัญใน นครพนม

เหตุการณ์น้ำท่วมสำคัญแม่น้ำโขงยังคงเป็นภัยสำคัญของจังหวัดนครพนม ชาวบ้านริมฝั่งยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ในปี 2561 เคยมีการเพิ่มระดับน้ำผิดปกติ ทำให้ชุมชนริมโขงต้องจัดเวรเฝ้าน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำรอยเหตุการณ์ใหญ่ปี 2521 ซึ่งน้ำท่วมตลาดธาตุพนมเป็นเวลานานถึง 1 เดือน

🔎พาอัพเดตเบิ่ง แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอีสาน☔️🌧️🌊

อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 เหตุการณ์น้ำท่วมกลับมาอีกครั้ง แต่รุนแรงและส่งผลกระทบมากกว่าครั้งก่อน โดยมีหลายอำเภอได้รับผลกระทบหนักทั้งน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ทำให้ประชาชนกว่า 11,000 คนต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมและความเสียหายที่มากกว่าในอดีต

สาเหตุหลักยังคงเหมือนเดิม คือระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการระบายน้ำจากฝั่ง สปป.ลาวที่ส่งผลให้ลำน้ำสาขาไม่สามารถระบายน้ำลงได้ ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ต่ำริมแม่น้ำ

จากเหตุการณ์ในอดีตถึงปัจจุบัน ชาวบ้านและหน่วยงานท้องถิ่นยังคงร่วมมือกันในการเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมรับมือภัยน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เหตุการณ์น้ำท่วมที่สำคัญล่าสุดที่เพิ่งเกิดไปในจังหวัดนครพนมเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 สาเหตุหลักมาจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลำน้ำสาขา เช่น ลำน้ำสงครามและลำน้ำอูน ไม่สามารถระบายลงแม่น้ำโขงได้ ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนในหลายอำเภอของจังหวัด

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อำเภอบ้านแพง อำเภอนาหว้า และอำเภอศรีสงคราม โดยเฉพาะในอำเภอศรีสงคราม มีบางตำบลที่ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ในอำเภอบ้านแพง ระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นวันละ 10–15 เซนติเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนริมน้ำถูกน้ำท่วม ประชาชนต้องอพยพและย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่เสี่ยง พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 60,000 ไร่ ส่วนในอำเภอเมืองนครพนม มีบ้านเรือนบางส่วนถูกน้ำท่วมจากลำน้ำสาขาที่ไหลย้อนขึ้นมา เนื่องจากระดับน้ำโขงสูงกว่าปกติ

จากรายงานของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 มีประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรวม 11,638 คน ใน 4,500 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 60,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการอพยพผู้ป่วยและสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งเตรียมมาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำโขงยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ที่มาของข้อมูล

พามาเบิ่ง โขง สงคราม ชี มูล 4 แม่น้ำสำคัญของอีสานไหลผ่านจังหวัดใดบ้าง

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top