Article

นครพนม เปิดคลังสินค้าใหญ่สุดในจังหวัด รับโลจิสติกส์ที่ขยายตัวสู่ประตูอินโดจีน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักขึ้น

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดอาคารคลังสินค้า บริษัทแซมสยาม 99 จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 275 หมู่ 11 บ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม . ซึ่งเป็นการรวมตัวของลูกหลานชาวจังหวัดนครพนมโดยกำเนิด ที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจการค้า การลงทุน เมื่อแรกเริ่มก่อตั้งประกอบธุรกิจหลักในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนได้เล็งเห็นโอกาสในด้านการส่งขนส่งโลจิสติกส์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับการเติบโตของการนำเข้าและส่งออกในภูมิภาคอาเซียน . ด้วยความมุมานะพยายามของทีมกรรมการที่บริหาร ซึ่งมีทิศทางที่มุ่งมั่น ได้มีการบริหารจัดการทั้งในภาคขนส่ง และคลังสินค้า รวมถึงพิธีการผ่านข้ามแดนต่าง ๆ เพื่อการเติบโตทางธุรกิจจึงขยายกำลังการขนส่งและพื้นที่คลังสินค้า เพื่อรองรับปริมาณการผลิตของสินค้าที่มีความต้องการมากขึ้น ฯลฯ . นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในพื้นที่นครพนมว่า ได้มีการหยุดชะงักช่วงวิกฤต COVID-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็มีมาตรการผ่อนคลายลง . ตนในฐานะผู้บริหารสูงสุดในจังหวัดฯ ก็เดินทางไปพบมิตรประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเจรจาเปิดด่านพรมแดนระหว่างประเทศ ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งมีนักธุรกิจในพื้นที่และนอกพื้นที่เข้ามาตั้งกิจการในจังหวัดเป็นจำนวนมาก บ่งบอกถึงเศรษฐกิจในจังหวัดนครพนม จะเติบโตในระยะเวลาอันรวดเร็ว . ซึ่งการตั้งคลังสินค้าเพื่อใช้ในการส่งออกและนำเข้าผ่านประเทศลาว เวียดนาม และจีนแผ่นดินใหญ่ เส้นทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ถือว่ามีระยะทางสั้นที่สุด หลังพ้นวิกฤติ COVID-19 คาดว่า การค้า การลงทุนจะกลับมาคึกคักอีกแน่นอน เมื่อเศรษฐกิจในจังหวัดดี พี่น้องประชาชนทุกอาชีพก็มีรายได้เพิ่มขึ้น . นายสมาน ศรีสุข ประธานกรรมการบริษัทแซมสยาม 99 เปิดเผยว่า บริษัทฯ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2559 ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของหุ้นส่วนทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 1.นายสมาน ศรีสุข 2.นายอธิปพัฒน์ มิ่งเจริญพาณิชย์ 3.นายอัมพล ยุวรี 4.นายสมนาม เหล่าเกียรติ และ 5.นายพงศ์นรินทร์ ศิริวงศ์ . โดยประกอบธุรกิจหลักในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เวียดนาม สินค้าหลักของทางบริษัทที่ได้รับเป็นตัวแทนในการส่งออก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในเครือบิ๊กอาเจทั้งหมด และยังเป็นตัวแทนส่งออกสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าฮาตาริ ไปยังประเทศเวียดนามผ่านเส้นทางนครพนม ซึ่งมียอดขายเติบโตมากขึ้นในทุก ๆ ปี . บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในด้านการขนส่งโลจิสติกส์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเพื่อรองรับการเติบโตของการนำเข้าและส่งออกในภูมิภาคอาเซียน จึงร่วมกันพัฒนาพื้นที่กว่า 18 ไร่ ให้เป็นคลังสินค้าและเป็นลานจอดรถเสียบชาร์จไฟ สำหรับรองรับปริมาณรถตู้คอนเทนเนอร์ที่รอเพื่อข้ามไปส่งออกสินค้ายังประเทศต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการขนส่ง . และในปี 2565 นี้ ทางบริษัทแซมสยาม 99 ได้รับโอกาสอันดียิ่งในการร่วมลงนาม MOU เป็นคู่ธุรกิจกับทางบริษัทเอสซีจี โลจิสติกส์ แมนเนจเม้นท์ …

นครพนม เปิดคลังสินค้าใหญ่สุดในจังหวัด รับโลจิสติกส์ที่ขยายตัวสู่ประตูอินโดจีน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักขึ้น อ่านเพิ่มเติม »

ปลดล็อก พ.ร.บ.ประกันสังคม เพิ่มสิทธิกองทุนชราภาพ ขอเลือก-ขอกู้-ขอคืน พร้อมเช็กเงื่อนไข

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมีติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับใหม่ หนึ่งในนั้นเป็นการปรับปรุงแก้ไขสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพ ให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ได้ ดังนี้ . – ขอเลือก : กรณีให้ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ สามารถเลือกรับเงินบำนาญชราภาพหรือเงินบำเหน็จชราภาพ – ขอคืน : กรณีให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนมาใช้ก่อนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ – ขอกู้ : กรณีให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักค้ำประกันการกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ . โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน .. ทั้งนี้ กรณีชราภาพถึงแก่ความตายก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทน หรือผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือนนับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้หักเงินชราภาพของผู้ประกันตนซึ่งมีหน้าที่ต้องชำระอันเกิดจากการดำเนินการที่นำเงินชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินไว้เพื่อส่งใช้กองทุนก่อน ในกรณียังมีเงินชราภาพเหลืออยู่ ให้ทายาทมีสิทธิได้รับเงิน โดยต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข อัตรา และการหักส่วนลดเงินบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพที่จะได้รับตามที่กำหนดในกฎกระทรวง . นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในการดึงเงินชราภาพมาใช้ก่อนถึงอายุ 55 ปี ถือเป็นหนึ่งในแนวคิดที่จะช่วยผู้ประกันตน โดยเฉพาะลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถนำเงินที่สะสมมาใช้ก่อนได้บางส่วน โดยอาจนำมาใช้ได้ 20-30% ตามความเหมาะสม หรือใช้ในช่วงเวลาเกิดวิกฤต เหมือนตอนนี้ที่มีการระบาดของ COVID-19 . อย่างไรก็ตาม ยังมีการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีอื่นนอกเหนือกรณีชราภาพ เช่น เพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพจาก 50% เป็น 70% ของค่าจ้าง, ลาคลอด ได้เงินสงเคราะห์เหมาจ่าย 50% ของค่าจ้างจากเดิม 90 วัน เป็น 98 วัน และมาตรา 39 สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างได้เงินสงเคราะห์บุตรต่อ 6 เดือน เป็นต้น . . ที่มา : https://kku.world/9udy9 https://kku.world/csynw . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ประกันสังคม #ชราภาพ

ป้าดติโท โคราชพบฟอสซิลใบไม้ อายุกว่าแสนปี เล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ตามที่นายสุพจน์ แสนมี นายอำภอวังน้ำเขียว พร้อมด้วยนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว และผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันทำความสะอาดและสำรวจแหล่งน้ำตกหินปูนในป่า ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา . หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกผาเก้า โดยมีความยาวตั้งแต่ชั้นบนถึงชั้นล่างกว่า 150 เมตร มีชั้นน้ำตกถึง 9 ชั้น ซึ่งทางอำเภอเตรียมที่จะพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และระหว่างที่ทำความสะอาด ชาวบ้านได้พบใบไม้ที่ฝังอยู่ในหินเป็นจำนวนมาก . คาดว่าน่าจะเป็นฟอสซิลใบไม้กลายเป็นหินที่มีอายุนับล้านปี เนื่องจากจุดนี้อยู่ใกล้กับพื้นที่พบหินดึกดำบรรพ์อายุเก่าแก่กว่า 250 ล้านปี ล่าสุดนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากอุทยานธรณีวิทยา โคราชจีโอพาร์ค ลงพื้นที่สำรวจฟอสซิลใบไม้ดังกล่าว . โดยผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผอ.อุทยานฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจ พบว่า บริเวณนี้จะมีชั้นน้ำตกที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติเดิม ซึ่งจะทำให้มีใบไม้ไหลมาตามน้ำลงมาทับถมบริเวณชั้นล่างของน้ำตก และถูกดินโคลนทับถมเป็นระยะเวลานาน จนแข็งตัวกลายเป็นซากฟอสซิล . ทั้งนี้จากการใช้เครื่องมือทางธรณีวิทยาพิสูจน์อายุของซากฟอสซิลใบไม้ ก็คาดว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงยุคไพลสโตซีน (Pleistocene) ซึ่งอยู่ระหว่าง 2.6 ล้านปี ถึง 1 หมื่นปี แต่ถ้าจะระบุอายุของฟอสซิลใบไม้กลายเป็นหินที่พบให้แคบลงไปอีก ตนก็คาดว่าน่าจะมีอายุมากกว่าหลักหมื่นปี หรือน่าจะมีอายุประมาณ 1 แสนกว่าปี แต่ไม่น่าจะถึงล้านปีตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แต่อย่างใด . อย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณน้ำตกแห่งนี้ ก็ยังคงสภาพความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติแบบยุคดึกดำบรรพ์ หากได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ก็ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม น่ามาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างมาก . . อ้างอิงจาก: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ฟอสซิลใบไม้ #น้ำตกผาเก้า

4 สินค้าทางเลือกที่มีอนาคต (Future Crop) กับโอกาสสร้างรายได้ของอีสานตอนกลาง

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสินค้าเกษตรทางเลือกที่มีอนาคต (Future Crop) ที่น่าสนใจ 4 สินค้า ได้แก่ จิ้งหรีด แพะเนื้อ โคขุน และหญ้าเนเปียร์ ที่สามารถเลี้ยงหรือปลูกเสริมทดแทนข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง ในพื้นที่ไม่เหมาะสมของ (S3, N) 4 จังหวัด ภาคอีสานตอนกลาง คือ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ได้เป็นอย่างดี . สินค้าดังกล่าวมีต้นทุนและผลตอบแทนเป็นอย่างไร ? . จิ้งหรีด ต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 276 บาทต่อตารางเมตร 1 ปี สามารถเลี้ยงได้ 6-7 รุ่น ให้ผลผลิตประมาณ 7 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ย 104.06 บาทต่อกิโลกรัม ผลตอบแทนเฉลี่ย 701 บาทต่อตารางเมตร ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 426 บาทต่อตารางเมตร หรือ 63 บาทต่อกิโลกรัม . เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในพื้นที่ มีการจำหน่ายผลผลิตเอง ทั้งจิ้งหรีดสดและจิ้งหรีดต้มสุก ทั้งในประเทศและให้กับพ่อค้าคนกลาง เพื่อส่งต่อให้กับตลาด Modern Trade รวมถึงส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น . แพะเนื้อ ต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 3,537 บาทต่อตัว โดยแม่แพะ 1 ตัว ให้ผลผลิตลูกแพะ 2 ตัวต่อรุ่น เกษตรกรจำหน่ายแพะเนื้ออายุเฉลี่ย 7 เดือน ราคาจำหน่าย 3,780 บาทต่อตัว หรือ 140 บาทต่อกิโลกรัม (น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 27 กิโลกรัมต่อตัว) ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 314 บาทต่อตัว . เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตทั้งหมดให้กับพ่อค้าคนกลาง ทั้งในท้องถิ่นและต่างจังหวัดที่เข้ามารับซื้อ โดยพ่อค้าคนกลางจะมีการจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สปป.ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย . โคขุน ต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 56,687 บาทต่อตัว ราคาจำหน่าย 60,864 บาทต่อตัว หรือ 91 บาทต่อกิโลกรัม (น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 666 กิโลกรัมต่อตัว) ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 4,177 บาทต่อตัว . ปัจจุบันภาคอีสานตอนกลาง ยังผลิตโคขุนไม่เพียงพอต่อความต้องการรับซื้อ และมีพ่อค้ารายใหม่ ๆ เข้ามาติดต่อรับซื้ออย่างต่อเนื่อง เกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนมีการจำหน่ายผลผลิตให้กับพ่อค้าคนกลาง ทั้งในท้องถิ่นและต่างจังหวัด …

4 สินค้าทางเลือกที่มีอนาคต (Future Crop) กับโอกาสสร้างรายได้ของอีสานตอนกลาง อ่านเพิ่มเติม »

องค์การสวนสัตว์ ดันสวนสัตว์โคราช ผลิต ‘ดินพลังแรด’ จากมูลสัตว์และเศษวัชพืช

10 พ.ค. ที่ผ่านมา นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผอ.องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่า สวนสัตว์นครราชสีมา ได้ดำเนินโครงการผลิตดินปลูกต้นไม้และพันธุ์ไม้เพื่อการจำหน่ายภายใต้ชื่อ “ดินพลังแรด” . โดยขั้นตอนการผลิตเป็นการนำมูลสัตว์ และเศษวัชพืชต่าง ๆ ในพื้นที่สวนสัตว์นครราชสีมาที่มีจำนวนมากในแต่ละวันไปทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมภายในสวนสัตว์ และเพื่อการจำหน่าย . นายอรรถพร กล่าวอีกว่า สำหรับการผลิตดินพลังแรดของสวนสัตว์นครราชสีมา ได้ทดลองผลิตและนำมาใช้ประโยชน์ในการปลูกต้นไม้ภายในสวนสัตว์ รวมทั้งได้จัดจำหน่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งมีปริมาณการผลิตเพียงพอต่อความต้องการ โดยดินมีความเหมาะสำหรับนำไปปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผลทุกชนิด . “โครงการผลิตดินพลังแรด ถือเป็นความสำเร็จระดับหนึ่งของสวนสัตว์นครราชสีมา ที่ได้ริเริ่มในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับที่ดี มีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและสนับสนุนเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุด มีพ่อค้าต้นไม้ได้มาซื้อดินมากกว่า 1,000 ถุง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจค้าต้นไม้ของตน ซึ่งเป็นผลดีในอีกบริบทหนึ่งของสวนสัตว์นครราชสีมา ที่มีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายอรรถพร กล่าว . สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานเพาะชำ ฝ่ายพัฒนาสวนสัตว์ โทร. 085-6829791, 087-9595927, 065-7326645 . . ที่มา : https://kku.world/v2lt5 . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #องค์การสวนสัตว์ #สวนสัตว์โคราช #ดินพลังแรด

จ่อเปิดด่านเดินรถข้ามไทย-ลาว มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

ในช่วงเดือน พ.ค. 2565 ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้รายงานจำนวนบุคคลเดินทางเข้าออกประเทศระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค. 65 พบว่ามีคนไทยเดินทางเข้าออก 205 คน คนลาว 506 คน คนต่างชาติ 46 คน ทั้งนี้การเดินทางยังมีข้อจำกัด แม้ว่าจะมีการเปิดด่านสากลแล้วก็ตาม แต่การเดินทางออกนอกประเทศของคนไทยเข้าไปยัง สปป.ลาว ยังไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปได้ โดยจะสามารถเดินทางไปได้เฉพาะในลักษณะคนทำงานหรือนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น . ส่วนการเดินทางเข้าประเทศของคนลาวนั้นเมื่อเข้าระบบไทยแลนด์พาสต์ และมีเอกสารบอร์เดอร์พาส และใบรับรองวัคซีนครบโดส สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR หรือ ATK แต่หากมีผู้ประสงค์ต้องการตรวจ ATK แบบสมัครใจ ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เจ้าหน้าที่คิดค่าตรวจ 250 บาท เงินทุกบาทนำเข้ารัฐ . สำหรับการกรอกข้อมูลในระบบไทยแลนด์พาส ที่ผ่านมาพบว่าคนลาวติดขัดในการกรอกข้อมูลจากภาษาอังกฤษและภาษาไทย ทำให้เป็นช่องทางสำหรับบริษัทเอกชนรับจ้างกรอกข้อมูลให้แล้วเก็บเงินค่าดำเนินการสูงถึง 4,000 บาท/คน ทำให้คนลาวส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นเงินที่แพง จึงยังไม่ค่อยมีการเดินทางเข้าไทยมากนัก . นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รับทราบปัญหาทั้งหมด และจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมโดยด่วน โดยเฉพาะการพิจารณาอนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางเข้าออกประเทศได้เมื่อทุกฝ่ายมีความพร้อม และสปป.ลาว เองก็พร้อมที่จะให้รถยนต์ฝั่งลาวเข้าไทย และรถยนต์ไทยเข้าลาว ก็ไม่มีปัญหาติดขัด สามารถแก้ไขคำสั่งได้ . ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาอนุญาตในเร็ววัน เดิมจะอนุญาตเฉพาะรถบรรทุกสินค้า แต่หากอนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลเข้าออกได้นั้นจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะระดับภูมิภาค เพราะหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวลาวถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของภาคอีสาน อย่างช่วงปี 2562 ก่อน COVID-19 อีสานมีนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวลาวสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 14.3% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาในอีสาน . . อ้างอิงจาก : https://kku.world/gez68 https://kku.world/uxsph . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ด่านพรมแดน

ของดีแดนอีสาน ผ้าไหมสาเกต – สับปะรดศรีเชียงใหม่ ขึ้นทะเบียน GI ไทยแล้ว

ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญา มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไทยแล้ว 156 รายการ ซึ่งครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 40,000 ล้านบาท โดยความสำเร็จดังกล่าวช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่ด้วยสินค้า GI . สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนท้องถิ่น ช่วยผู้ประกอบการและเกษตรกรรายย่อยไม่ให้ถูกกดราคาสินค้าเกษตร ยกระดับกระบวนการผลิตสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นของไทยให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค . นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพิ่มอีก 2 สินค้า คือ “ผ้าไหมสาเกต” และ “สับปะรดศรีเชียงใหม่” ซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค . ผ้าไหมสาเกต มีการผลิตในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นผ้าไหมมัดหมี่ที่ทอด้วยลายพื้นบ้านโบราณ 5 ลาย ทอต่อกันในผืนเดียว เริ่มจากลายโคมเจ็ด ลายนาคน้อย ลายคองเอี้ย ลายค้ำเพา และลายหมากจับ ตามลำดับ โดยมีเอกลักษณ์สำคัญ คือ ลายนาคน้อย 12 ตัวอยู่ตรงกลาง และลายหมากจับ 3 ลำเป็นช่องไฟของลายพื้น และแต่ละลายจะทอคั่นด้วยผ้าสีชมพูอมม่วงของดอกอินทนิลบก ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด . สำหรับ สับปะรดศรีเชียงใหม่ ปลูกในเขตพื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย มีผลทรงรี ร่องตาตื้น ก้านสั้น เปลือกบาง เนื้อสับปะรดมีเส้นใยละเอียดและมีสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำผึ้ง มีกลิ่นหอม รสชาติหวานฉ่ำ แกนหวานกรอบ รับประทานแล้วไม่กัดลิ้น . โดยในปี 2565 กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายขึ้นทะเบียน GI ไทยเพิ่มอีก 18 สินค้า พร้อมผลักดันให้มีการจัดทำระบบควบคุมมาตรฐานสินค้า GI เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุคใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สินค้า GI ไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึง สร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน . . อ้างอิง: https://kku.world/2gdgm . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ผ้าไหมสาเกต #สับปะรดศรีเชียงใหม่

ข้าวโพดหวานแดงกินฝักสดพันธุ์แรกของโลก อร่อยดี มีประโยชน์ ตลาดยังกว้าง

ข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยาม (Siam Ruby Queen) เป็นข้าวโพดสายพันธุ์กินฝักสดชนิดแรกของโลก ที่มี ดร.ทวีศักดิ์ ภู่หลำ นักปรับปรุงพันธุ์พืชชั้นนำของไทยเป็นผู้คิดค้น โดยเกิดจากการนำข้าวโพดข้าวเหนียวแดงไปผสมกับข้าวโพดหวานสีเหลืองจนได้ออกมาเป็นข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยามเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นการผสมสายพันธุ์แบบดั้งเดิม (Conventional Breeding) ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม . ข้าวโพดหวานแดงสายพันธุ์นี้มีสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ที่มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง บำรุงสายตา บำรุงหัวใจ แต่จะสูญเสียไปหากนำไปต้ม จึงแนะนำให้กินเมล็ดจากฝักสด เพราะจะอร่อย (หวานกรอบในตัว) มีกลิ่นหอม และได้ประโยชน์มากกว่า ส่วนไหมกับซังที่คนนิยมทิ้งก็สามารถนำมาต้มเพื่อสกัดสารตัวนี้เก็บไว้ดื่มได้เช่นกัน . ปา ไชยปัญหา ปราชญ์เกษตรบ้านกุดปลาเข็ง ต.โนนค่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เจ้าของไร่อรหันต์ เล่าต่อไปถึงสูตรสำเร็จการปลูกข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยาม ข้าวโพดกินฝักสดที่อร่อย แถมอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ . ข้าวโพดชนิดนี้ระยะเวลาปลูกถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต 65-70 วันนับตั้งแต่หยอดเม็ด ระยะห่างระหว่างหลุม 30 ซม. ส่วนระยะห่างระหว่างแถว แล้วแต่ความสะดวกและพื้นที่ของผู้ปลูก การเตรียมหลุมปลูกเหมือนการปลูกข้าวโพดปกติทั่วไป ขุดหลุม 1 หน้าจอบ ขนาด 30×30×30 ซม. ใส่อินทรียวัตถุหรือมูลสัตว์ที่หมักแล้ว (ที่นี่ใช้มูลไส้เดือนกับแกลบดำ) คลุกเคล้ากับดิน รดน้ำให้ชุ่ม แล้วหยอดเมล็ดลงหลุมละ 2 เมล็ด ไม่เกิน 5 วัน เมล็ดจะงอก . ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไป ให้หมั่นดูแลและระมัดระวังเรื่องของหนอนที่เข้ามาเจาะข้าวโพด โดยที่นี่จะเน้นที่การเดินดูแลแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ให้ใช้ไฟส่องดูต้น ถ้ามีหนอนเมื่อหนอนเจอแสงมันจะขยับตัว ให้ใช้ไม้คีบหนอนออกจากกอต้นข้าวโพดไปทำลาย พร้อมกับใช้น้ำหมักชีวภาพบำรุงและป้องกันร่วมไปด้วย . ผ่านเข้าสัปดาห์ที่ 3 ต้นจะเริ่มสูงประมาณ 1 ฟุต เริ่มให้ปุ๋ยยูเรียหลุมละครึ่งช้อนโต๊ะ สัปดาห์ที่ 4 และ 5 เพิ่มปุ๋ยเป็นหลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ เข้าสัปดาห์ที่ 6 เปลี่ยนเป็นปุ๋ยสูตรเสมอ และพอถึงสัปดาห์ที่ 7 และ 8 เปลี่ยนเป็นปุ๋ยสูตร 8-24-24 ปริมาณเท่าเดิมเพื่อเพิ่มความหวาน จนถึงวันเก็บเกี่ยว . สำหรับเคล็ดลับการปลูกให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ ควรรดน้ำข้าวโพดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ ต้นละ 1-2 ฝักเท่านั้น เพื่อให้ต้นนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงฝักที่เก็บเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญหมั่นดูแลต้นข้าวโพดป้องกันหนอนเจาะข้าวโพดอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ไปจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต . ทั้งนี้ หากคำนวณง่าย ๆ 1 ไร่ หยอดเมล็ดหลุมละ 2 เมล็ด จะได้ต้นข้าวโพดทั้งหมด 9,600 ต้น ประมาณการเสียหายในการปลูก 10% ไว้ต้นละ …

ข้าวโพดหวานแดงกินฝักสดพันธุ์แรกของโลก อร่อยดี มีประโยชน์ ตลาดยังกว้าง อ่านเพิ่มเติม »

ฮ่วมกัน ผลักดัน “ภูพระบาท” สู่มรดกโลก แหล่งที่ 2 ของ จ.อุดรฯ ในปี 67

กรมศิลปากร(ศก.) ร่วมกับกรมป่าไม้ จ.อุดรธานี จัดพีธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรม ในการผลักดันการขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทสู่มรดกโลก . สร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในท้องถิ่น ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ พร้อมจัดการประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและแหล่งธรรมชาติทั้งจังหวัดใกล้เคียงและจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศลาวที่มีวัฒนธรรมร่วมกัน . นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรอยู่ระหว่างการแปลเอกสารภาษาอังกฤษเสนอต่อยูเนสโก ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์นำเสนอเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมแบบต่อเนื่องจำนวน 2 แหล่ง ประกอบด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และแหล่งวัฒนธรรมสีมาวัดพระพุทธบาทบัวบาน . รวมพื้นที่นำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก จำนวน 3,661 ไร่ 4 งาน 89 ตารางวา พื้นที่กันชน 3,742 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา ขอบเขตของแหล่งวัฒนธรรมทั้ง 2 แหล่ง อยู่ภายใต้เกณฑ์คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล . ในเกณฑ์ข้อที่ 3 คือ เอกลักษณ์ที่หายาก ไม่เคยพบที่ใดในไทย หรือแม้ในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ และยังปรากฎหลักฐานการใช้พื้นที่ของวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานอย่างต่อเนื่อง . และเกณฑ์ข้อที่ 5 การปรับใช้พื้นที่ทางธรรมชาติ ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ทั้งกลุ่มเพิงหิน และลานหิน การปักใบเสมาเพื่อกำหนดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางพุทธศาสนา ซึ่งทั้งหมดยังคงความครบถ้วนสมบูรณ์และความเป็นของแท้ดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม . จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญามรดกโลก ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านความเห็นชอบ เพื่อเสนอต่อยูเนสโก . เข้าสู่กระบวนการนำพิจารณารอบแรกในเดือน ก.ย. รอบที่ 2 ในเดือน ธ.ค. ปี 2566 และจะมีการพิจารณาที่กรุงปารีสในเดือน มี.ค. ปี 2567 . . อ้างอิง: https://kku.world/734t8 https://kku.world/91ovx . #ISANInsightAndOutlool #อีสาน #ภูพระบาท #มรดกโลก #อุดรธานี

กาฬสินธุ์นำร่องปลูกกระท่อม 1.5 ล้านต้น หวังสร้างรายได้ให้เกษตรกรในอนาคต

กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำเดินหน้าวาระเมืองสีเขียวอัจฉริยะ เร่งส่งเสริมปลูกต้นกระท่อมพืชสมุนไพรเศรษฐกิจใหม่ “กระท่อมพารวย” สร้างงาน สร้างอาชีพ ปลดหนี้ และสร้างรายได้ให้เกษตรกร ตั้งเป้าเปิดพื้นที่ปลูกครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ 1,500 ไร่ จำนวน 1.5 ล้านต้น . นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวในงานประชุมชี้แจง นโยบายสาธารณะวาระกาฬสินธุ์ เมืองสีเขียวอัจฉริยะ (Kalasin Smart Green City) ว่า กระท่อมเป็นพืชสมุนไพรเศรษฐกิจใหม่ เบื้องต้นในพื้นที่จะยังคงส่งเสริมเป็นรูปแบบการปลูก เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นรายได้เสริมไปก่อน ควบคู่กับการปลูกพืชหลักที่สร้างรายได้ เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และพืชชนิดต่าง ๆ . ด้านนายประภาส ยงคะวิสัย ประธานกลุ่มแปรรูปพืชกระท่อมตำบลสงเปือย กล่าวว่า ขอยืนยันและย้ำว่ากระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นรูปธรรมได้แน่นอน เพราะปัจจุบันมีการปลูกได้เพียงไม่กี่ประเทศ และยังมีการความต้องการนำเอาใบไปแปรรูปเป็นสมุนไพรใช้รักษาโรคต่าง ๆ ทั้งยังใช้แปรรูปผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง มีราคารับซื้อใบกิโลกรัมละ 500 บาท . โดย จ.กาฬสินธุ์ การขับเคลื่อนนโยบาย สาธารณะวาระกาฬสินธุ์ เมืองสีเขียวอัจฉริยะ (Kalasin Smart Green City) เป็นการปลูกกระท่อมนำร่องตัวอย่างในภาคอีสาน . โดยตั้งเป้าปูพรมทั้ง 18 อำเภอ โดยได้ตั้งเป้าไว้คลอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ ปลูกทุกหมู่บ้าน อย่างน้อย 1,500 ไร่ หรือ 1.5 ล้านต้น เป็นกระท่อมพารวย ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในอนาคตได้อย่างแน่นอน . . อ้างอิง: https://kku.world/hdjyv . . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #กระท่อม #พืชเศรษฐกิจใหม่ #กาฬสินธุ์

Scroll to Top