Article

บทความ จากบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอีสาน ทั้ง ISAN Outlook และข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ รวบรวมให้คุณรู้ทันทุกข้อมูล เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อีสาน

ฉุดบ้อยู่ ! “พาณิชย์” ร่วมมือเชฟมิชลิน  โปรโมตอาหารใช้วัตถุดิบ GI จากอีสาน

ฉุดบ้อยู่ ! “พาณิชย์” ร่วมมือเชฟมิชลิน  โปรโมตอาหารใช้วัตถุดิบ GI จากอีสาน   นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เตรียมร่วมมือกับมิชลินไกด์ประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำการเปิดตัวอาหารที่ใช้วัตถุดิบได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากแหล่งผลิตในภาคอีสาน 4 สินค้า ใน 3 จังหวัด ได้แก่  – ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์  – หอมแดงศรีสะเกษ  – กระเทียมศรีสะเกษ – เนื้อโคขุนโพนยางคำ จังหวัดสกลนคร  ที่ได้เชฟระดับมิชลิน เชฟชาลี กาเดอร์ จากร้าน 100 Mahaseth (100 มหาเศรษฐ์) ร้านอาหารอีสานที่ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ประเทศไทย และเชฟเดวิด ฮาร์ตวิก จากร้าน IGNIV Bangkok ที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน ประจำปี 2565 ได้ไปลงพื้นที่ไปคัดเลือกวัตถุดิบก่อนหน้านี้ ทำการคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ทำอาหาร และจะทำการเปิดตัวให้ทดลองชิมในวันที่ 14 ธ.ค. 2565 นี้ โดยมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้สินค้า GI ที่เป็นวัตถุดิบทำอาหารเป็นที่รู้จักได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิตได้มากขึ้น และยังจะส่งผลดีต่อสินค้า GI อื่นๆ ที่จะเป็นที่ต้องการมาใช้เพื่อเป็นวัตถุดิบทำอาหารมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสินค้า GI ไทย 136 รายการ จากทั้งหมด 171 รายการ เป็นสินค้าประเภทอาหารและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นซอฟต์เพาเวอร์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ เป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนในแต่ละท้องถิ่น เมื่อนำมาผนวกกับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ นายวุฒิไกรกล่าวว่า สินค้า GI ประเภทอาหารและผลผลิตทางการเกษตร ล้วนเป็นสินค้าคุณภาพที่ขึ้นชื่อของจังหวัด มีกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ก่อนส่งขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ หากนำมาต่อยอดโดยเฉพาะด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย จะยิ่งช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มมากขึ้น สำหรับข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์มีปริมาณการผลิต 437,468 ตันต่อปี มูลค่า 6,343 ล้านบาท หอมแดงศรีสะเกษ มีปริมาณการผลิต 63,000 ตันต่อปี มูลค่า 2,292 ล้านบาท กระเทียมศรีสะเกษ มีปริมาณการผลิต 2,180 ตันต่อปี มูลค่า 218 ล้านบาท และเนื้อโคขุนโพนยางคำ มีปริมาณการผลิต 123 ตันต่อปี มูลค่า 30 ล้านบาท รวมสินค้าสินค้า GI ทั้ง 4 รายการ สร้างรายได้รวมกว่า 8,880 ล้านบาทเลยทีเดียว   อ้างอิงจาก:  ผู้จัดการออนไลน์ มติชน …

ฉุดบ้อยู่ ! “พาณิชย์” ร่วมมือเชฟมิชลิน  โปรโมตอาหารใช้วัตถุดิบ GI จากอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชาวอุดรฯ ปลื้มแฮง หนุน “อุทยานฯภูพระบาท” ขึ้นทะเบียนมรดกโลก

ชาวอุดรฯ ปลื้มแฮง หนุน “อุทยานฯภูพระบาท”  ขึ้นทะเบียนมรดกโลก   นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการแห่งชาติ เรื่อง อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก (กอม.) ได้ทราบความคืบหน้าการดำเนินการขอขึ้นทะเบียน เมืองโบราณศรีเทพ แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน และได้พิจารณาเห็นชอบ เสนอให้ “อุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท” ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก (Nomination Dossier)  ซึ่งเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมแบบต่อเนื่อง มีจำนวน 2 พื้นที่ ประกอบด้วยอุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท และแหล่งวัฒนธรรมสีมา วัดพระพุทธบาทบัวบาน ครอบคลุมพื้นที่ 3,661 ไร่เศษ ในพื้นที่ อ. บ้านผือ จ.อุดรธานี ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงความก้าวหน้าการอนุรักษ์พื้นที่ กลุ่มป่าแก่งกระจาน รวมทั้งแหล่งอื่น ๆ ด้วย ให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อยืนยันความทุ่มเท และความจริงใจ คุ้มครองแหล่งมรดกโลก ทุกแห่งของประเทศไทย ให้คงคุณค่าตามหลักสากล และเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานคนไทย สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท มีที่มาจากรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนเทือกเขา และภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทยังมีเสาหิน และเพิงหินขนาดใหญ่กระจายตัวอยู่ทั่วไป เพิงหินเหล่านี้เป็นหินทรายของหมวดหินภูพาน มีอายุราว 130 ล้านปีมาแล้ว ที่ถูกกระบวนการทางธรรมชาติกัดเซาะ โดยน้ำและลมมาเป็นเวลาหลายล้านปีจึงทำให้สภาพภูมิประเทศแปรเปลี่ยนเป็นเสาหิน และเพิงหินรูปร่างสวยงามแปลกตาเช่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ในปี พ.ศ.2535 กรมศิลปากร ดำเนินการก่อตั้ง “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” ขึ้นเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาในส่วนที่เป็นหลักฐานทางโบราณคดี และโบราณสถานอีกมากมาย ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของภูพระบาท  โบราณที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่าง คือ หอนางอุสา ถือเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท มีลักษณะเป็นเพิงหินธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ มีความสูง 10 เมตร รูปร่างคล้ายดอกเห็ด ตั้งอยู่กลางลานหินโล่งกว้างทำให้ดูโดดเด่นกว่าโบราณสถานจุดอื่น ๆ จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบทำให้สันนิษฐานได้ว่า หอนางอุสามีอายุเก่าแก่ถึงสมัยทวารวดีราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 โดยถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางพุทธศาสนาอีกด้วย   อ้างอิงจาก:  ฐานเศรษฐกิจ   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ภาคอีสาน #อุดรธานี #อุทยานภูพระบาท #หอนางอุสา #มรดกโลก #บ้านผือ

ปังหลาย “ผ้าไหมปักธงชัย เนื้อโคราชวากิว” สินค้าโคราชต้อนรับผู้นำ APEC 2022

โคราชสุดภูมิใจ 2 สินค้า “ผ้าไหมปักธงชัย เนื้อโคราชวากิว” ต้อนรับผู้นำ APEC 2022   APEC (Asia-Pacific Economic Cooperation) เป็นเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกโลก มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน ความร่วมมือในด้านมิติสังคมและการพัฒนาด้านอื่น ๆ    ซึ่งในปี 2022 นี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคตลอดทั้งปี รวมถึงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ของ จ.นครราชสีมา ได้รับการคัดเลือกเพื่อจัดทำ “ของที่ระลึก APEC 2022”  โดยถูกบรรจุเป็น 1  ในรายการของที่ระลึก ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไทยที่โดดเด่นร่วมสมัย สะท้อนถึง “Soft Power” ให้นานาชาติประชาสัมพันธ์ขยายผลต่อยอด และเผยแพร่ได้รับรู้อย่างกว้างขวาง ซึ่งของที่ระลึก คือ ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอมือ ย้อมสีธรรมชาติ จากเปลือกมะพร้าว ภูมิปัญญาท้องถิ่น อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พิมพ์ลายตราสัญลักษณ์ชะลอม ประกอบด้วย เนคไท ผ้าคลุมไหล่ ผ้าเช็ดหน้า หน้ากากผ้า ของขวัญและของที่ระลึกนี้ บรรจุในกล่องไม้ยางพาราฆ่าเชื้อ ประดับตราสัญลักษณ์ APEC 2022 ด้านหน้าบรรจุภัณฑ์   ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC (Gala Dinner) เมื่อค่ำวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เมนูอาหารทุกจานเป็นไปตามแนวคิดหลักของการประชุม Open. Connect. Balance. Open. หมายถึง เปิดประสบการณ์สู่อาหารไทย อาหารทุกจานเป็นอาหารเมนูฟิวชัน มีความหลากหลายของสี กลิ่น และสัมผัส สร้างความพึงพอใจให้กับผู้นํา APEC คู่สมรส และผู้เข้าร่วมการประชุม   โดยเนื้อวัวโคราชวากิวเสิร์ฟเป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย จากการคัดของดีจาก 4 ภาค  ออกมาเป็นเมนูโคราชวากิวย่างถ่านสมุนไพรจิ้มแจ่ว ดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเนื้อวัวโคราชวากิวออกมาได้อย่างโดดเด่น ซึ่งเนื้อวัวโคราชวากิว ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ โดย รศ. ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย จากสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เนื้อวัวโคราชวากิวมีจุดเด่น คือ คล้ายกับเนื้อของออสเตรเลีย เป็นวากิวลูกผสมเหมือนกัน  มีการเลี้ยงที่บ้านของเกษตรกรรายย่อย ขุนประณีตแบบญี่ปุ่น มีการดูแลอย่างทั่วถึง และข้อได้เปรียบคือ อาหารธัญพืชใช้สำหรับขุน ตั้งแต่รำข้าว ปลายข้าว ข้าวโพด หรือแม้แต่มันสำปะหลัง เป็นแหล่งอาหารที่จะช่วยทำให้มีไขมันแทรกดี ซึ่งเกษตรกรมีพร้อมทั้งต้นทุนและวิธีการเลี้ยงดู การประชุม APEC ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสนับสนุนสินค้าไทย โปรโมทของดีเมืองโคราช ทําให้ทั่วโลกรู้จักและสร้างโอกาสจะทําให้เกิดอาชีพ เกิดรายได้ สําคัญที่สุดจะทําให้โคราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป เพราะคนอยากจะมากินเนื้อวากิวโคราช อยากมาซื้อผ้าไหมปักธงชัยเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่การเจริญเติบโตการกระตุ้นเศรษฐกิจ  …

ปังหลาย “ผ้าไหมปักธงชัย เนื้อโคราชวากิว” สินค้าโคราชต้อนรับผู้นำ APEC 2022 อ่านเพิ่มเติม »

ม่วนคัก ! ใหญ่สุดในอีสาน “เฉียงเหนือเฟส” เทศกาลดนตรี

ม่วนคัก ! ใหญ่สุดในอีสาน “เฉียงเหนือเฟส” เทศกาลดนตรี   เทศกาลดนตรีใหม่และใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน โดย ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น และจัดโดยทีมผู้จัดงานที่มีไอเดียสุดสร้างสรรค์อย่าง ‘All Area’ ภายใต้หน่วยงาน ‘GMM SHOW’ ในเครือ ‘GMM GRAMMY’  สร้างประสบการณ์ใหม่และความประทับใจให้กับชาวภาคอีสาน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อทำให้งานแตกต่างและตอบโจทย์แฟน ๆ มากที่สุด โดยจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บขส.3 ขอนแก่น   ‘GMM SHOW’ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ด้วยสุดยอดเทศกาลดนตรีที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวภาคอีสานมากที่สุด จากประสบการณ์ในการจัดคอนเสิร์ตและมิวสิกเฟสติวัลมาอย่างยาวนาน จึงเกิดเป็นเทศกาลดนตรีใหม่และใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน โดยมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย   อีกทั้งเล็งเห็นศักยภาพของจังหวัดขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางความเจริญ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน การบริการและการท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีความพร้อมทั้งในด้านทำเลที่เชื่อมกับ 9 จังหวัดรอบข้าง ได้แก่ นครราชสีมา, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, บุรีรัมย์, ชัยภูมิ และเพชรบูรณ์ ขอนแก่นจึงเป็นจังหวัดที่มีโอกาสทางธุรกิจอย่างสูง   สำหรับจุดแข็งแรกของงานเฉียงเหนือเฟส คือ Line-Up ศิลปิน ที่มีทั้งศิลปินสายเลือดอีสาน และศิลปินที่ชาวอีสานอยากดูมากที่สุดกว่า 19 ศิลปิน บน 2 เวทีใหญ่ ‘เวทีเฉียง’ และ ‘เวทีเหนือ’ นำโดย Palmy, Cocktail, Three Man Down, Tilly Birds, Tattoo Colour, Polycat, Safeplanet, Taitosmith, Anatomy Rabbit, Whal & Dolph, ไปส่งกู บขส.ดู๊, UrboyTJ, Slapkiss, Sarah Salola, Asia7, โจอี้ ภูวศิษฐ์, Dept, Mirrr (เมอร์) และ Television Off    ซึ่งมีทั้งศิลปินที่สร้างแรงบันดาลใจ และความภาคภูมิใจให้ชาวอีสานอย่าง Tattoo Colour จากจังหวัดขอนแก่น, โจอี้ ภูวศิษฐ์ จากจังหวัดร้อยเอ็ด, Anatomy Rabbit จากจังหวัดอุดรธานี, ไปส่งกู บขส. ดู๊ จากจังหวัดขอนแก่น, SLAPKISS ที่มีสมาชิกในวงจากจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสกลนคร   ด้วยปัจจัยดังกล่าว ‘GMM …

ม่วนคัก ! ใหญ่สุดในอีสาน “เฉียงเหนือเฟส” เทศกาลดนตรี อ่านเพิ่มเติม »

เทื่อแรก ! ในอาเซียน นักวิจัย มข. ผลิตแบตเตอรี่โซเดียมไอออนจากแร่เกลือหิน ต่อยอดอุตสาหกรรม

เทื่อแรก ! ในอาเซียน  นักวิจัย มข. ผลิตแบตเตอรี่โซเดียมไอออนจากแร่เกลือหิน ต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า     มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ร่วมกับ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม (กพร.) จัดงานแถลงข่าวโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ   รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า  ปัจจุบันการประชุมทั่วโลกได้กล่าวถึงการใช้พลังงานสะอาด หรือพลังงานทางเลือก โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหินเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ นับเป็นความสำเร็จของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำทีมโดย รศ.ดร.นงลักษณ์ มีทอง   โดยแบตเตอรี่ตัวนี้ สามารถกักเก็บพลังงานทั้งจากแสงอาทิตย์ หรือจากกังหันลม แปลงมาเป็นกระแสไฟฟ้า แล้วเก็บในรูปแบบแบตเตอรี่ สิ่งนี้จะมาช่วยในชีวิตประจำวัน ซึ่งในอนาคตพลังงานแบตเตอรี่เหล่านี้จะถูกลง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน   ดร. ธีรวุธ  ตันนุกิจ ผู้แทนอธิบดี กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม  กล่าวว่า าประเทศไทยมีแหล่งแร่โปแตช หรือกลุ่มแร่ชนิดโซเดียมมักเกิดคู่กัน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณมากที่สุด และมีปริมาณสำรองแหล่งแร่เกลือหินในประเทศไทยมี 18 ล้านล้านตัน ซึ่งแร่ชนิดดังกล่าวเป็นสารตั้งต้นในการผลิตแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจากแหล่งแร่เกลือหิน   โครงการนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกในอาเซียน กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ส่งเสริมเป้าหมายต่อไปคือ สร้างอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ครบวงจร  นำเกลือหินมาทำเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตแบตเตอรี่ อาจจะไปใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ใช้เป็นตัวพลังงานเพื่อทำสมาร์ทฟาร์มให้กับอุตสาหกรรมเกษตรต่อไป   เป้าหมายของกระทรวงคือผลักดันอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ครบวงจร สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศ ความสำเร็จเหล่านี้ส่งผลให้อุตสาหกรรมไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักคืออุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่แห่งอนาคต   เมื่อนำไปใช้กับ E – Bike หรือจักรยานยนต์ต้นแบบที่ใช้พลังงานจากโซเดียมไอออน ซึ่งเป็นความสำเร็จจากโครงการครั้งนี้ ในส่วนตัวเกลือหินหรือเกลือสินเธาว์กิโลกรัมละไม่กี่บาท แต่พอมาทำเป็นตัววัตถุดิบตั้งต้นแบตเตอรี่โซเดียมไอออนตัวนี้จะยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจแร่ตัวนี้อย่างมากในอนาคต และจะทำการต่อยอดให้เป็นอุตสาหกรรมต่อไป   อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ มติชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #มข #มหาวิทยาลัยขอนแก่น #ขอนแก่น #แบตเตอรี่โซเดียมไอออนจากแร่เกลือหิน

ฮ่วมมือ ! อุบลฯ ลาว-กัมพูชา จัดอบรม ปลุกเศรษฐกิจอีสานใต้

ฮ่วมมือ ! อุบลฯ ลาว-กัมพูชา  จัดอบรม ปลุกเศรษฐกิจอีสานใต้   ม.อุบลราชธานี นำทีมวิทยากรจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติพระตะบอง ต่อจากการไปอบรมหลักสูตรการประมงพื้นที่ดินเค็มที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว ขับเคลื่อนฟื้นเศรษฐกิจอีสานใต้ต่อประเทศเพื่อนบ้าน   โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา พยุหะ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ พร้อมทีมวิทยากร ไปจัดอบรมหลัก สูตรระยะสั้น ด้าน “Food Technology, Animal Science and Aquaculture” ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติพระตะบอง ประเทศกัมพูชา   ภายใต้โครงการ “Higher Education Improvement Project-HEIP กับ Faculty of Agriculture and Food Processing Technology” ผศ.ดร.กาญจนา กล่าวว่า  ความร่วมมือทางวิชาการโครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินงานจากธนาคารโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 ได้ให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สำหรับอาจารย์และนักวิชาการมหาวิทยาลัยแห่งชาติพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เพื่อศึกษาต่อ ณ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปัจจุบันมีนักศึกษาระดับปริญญาเอก จำนวน 3 คน และระดับปริญญาโท จำนวน 6 คน   ในปีงบประมาณ 2565 ทางคณะเกษตรศาสตร์ได้จัดอบรมระยะสั้นนานาชาติ จำนวน 6 หลักสูตร ได้แก่ Animal Science, Food Processing Technology, Aquaculture, Animal Nutrition, Post Harvest Technology and Agribusiness ในช่วงเดือนพ.ค. และส.ค. 2565 ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว และผลการตอบรับจากผู้เข้าร่วมการอบรมดีมาก เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างมหาวิทยาลัยและประเทศในกลุ่มอาเซียนร่วมกันต่อไป   นอกจากนี้ที่วิทยาลัยเทคนิคการอาชีพ แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้าในพื้นที่ดินเค็ม” อีกด้วย โดยมีพันธกิจพัฒนาพื้นที่และชุมชนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจ ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคการวิชาชีพ ศูนย์ผลิตกสิกรรม เมืองเซบั้งไฟ แขนงการศึกษานอกระบบ   เพื่อตอบสนองทางเศรษฐกิจร่วมกัน ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานทรัพยากรชีวภาพสัตว์นํ้าให้เข้มแข็งและยั่งยืน บริเวณพื้นที่ราบลุ่มที่มีชั้นของเกลือหินและนํ้าเค็มใต้ดิน สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งยั่งยืนของพื้นที่เศรษฐกิจอนุภูมิภาค ลุ่มนํ้าโขง   ทั้งนี้ อุบลราชธานี มีพรมแดนติดต่อทั้งกับสปป.ลาว และกัมพูชา จึงใช้เป็นจุดแข็งผนึกความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นเศรษฐกิจร่วมกันหลังโควิด-19 คลี่ คลาย ทั้งฟื้นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถาบันการศึกษา ความร่วมมือของภาคเอกชน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงระหว่างกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วการค้าการลงทุนในอนาคต     อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/business/546697    #ISANInsightAndOutlook …

ฮ่วมมือ ! อุบลฯ ลาว-กัมพูชา จัดอบรม ปลุกเศรษฐกิจอีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม »

คักหลาย ! ” MEGA HOME ” รุกหนักทุ่ม 400 ล้านบาท เปิดสาขาขอนแก่น

คักหลาย !  ” MEGA HOME ” รุกหนักทุ่ม 400 ล้านบาท เปิดสาขาขอนแก่น   ร่วมกับโฮมโปร ตอบโจทย์ครบที่เดียว เรื่องบ้าน และงานช่าง รับตลาดสินค้าบ้านในภาคอีสาน โดย นายวิเชียร เจียมวิจิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด  เปิดเผยว่า เมกาโฮม เปิดสาขาใหม่ “เมกาโฮม ขอนแก่น” เป็นอีกจุดหมายใหม่ที่เข้ามารองรับกับการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์    โดยเฉพาะกับความต้องการด้านที่อยู่อาศัย และสินค้าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะหัวเมืองภาคอีสาน ทั้งกลุ่มหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม รวมไปถึงโครงการพัฒนาพื้นที่โรงแรม ร้านค้า อาคารสำนักงาน หรือโครงการของหน่วยงานราชการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว    อีกทั้ง เมกาโฮมสาขานี้ เป็นสาขาแรกที่ เมกาโฮม และ โฮมโปร ผนึกกำลังตอบโจทย์ให้กับลูกค้า ครบครัน ทั้งวัสดุก่อสร้าง และสินค้าเรื่องบ้านที่มีคุณภาพ สร้างความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า และบริการๆ มอบประสบการณ์ที่ดีในการช้อปได้อย่างสะดวกสบายพร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดขอนแก่น และภาคอีสาน ด้วยงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท บนพื้นที่ขาย 5,880 ตารางเมตร    โดยมีกลยุทธ์การบริการครอบคลุมพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตร ในอำเภอพระยืน เวียงเก่า บ้านฝาง หนองหาน และอำเภอเมืองขอนแก่น รวมถึง 6 จังหวัดภาคอีสาน ทั้งชัยภูมิ หนองบัวลำพู มหาสารคาม นครราชสีมา อุดรธานี และกาฬสินธุ์ เข้าถึงทุกความต้องการวัสดุก่อสร้าง      อ้างอิงจาก: https://www.thaipost.net/economy-news/256293/  https://www.ryt9.com/s/prg/3371530  https://www.khaosod.co.th/economics/house-condo/news_7350043    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #MEGAHOME #เมกาโฮม #โฮมโปร #ขอนแก่น

จัดอีกเทื่อ “ถ้ำนาคาฮาล์ฟมาราธอน”  ชูเส้นทางวิ่งสวยที่สุด-กระตุ้นเศรษฐกิจบึงกาฬ

จัดอีกเทื่อ 👍 “ถ้ำนาคาฮาล์ฟมาราธอน”  ชูเส้นทางวิ่งสวยที่สุด-กระตุ้นเศรษฐกิจบึงกาฬ   นายวิทยา ภารจรัส นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า สมาคมฯ เตรียมจัดวิ่ง ถ้ำนาคาฮาล์ฟมาราธอน ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565    เนื่องจากการจัดวิ่งถ้ำนาคามินิมาราธอน ที่จัดขึ้นครั้งแรกหลังผ่านพ้นช่วงการระบาดโควิด-19 คลี่คลาย เมื่อ 12 มิถุนายนที่ผ่านมานั้นประสบผลสำเร็จสูง ได้รับการตอบรับจากนักวิ่งทั่วประเทศสนใจสมัครวิ่งเกินเป้าหมาย มีนักวิ่งร่วมวิ่งกว่า 500 คน จากเป้าที่วางไว้แค่ 300 คน   การจัดวิ่งถ้ำนาคาฮาล์ฟมาราธอนนั้นตรงกับช่วงฤดูหนาว ด้วยสภาพอากาศเย็นสบาย ผนวกกับธรรมชาติสภาพแวดล้อมที่มีรวงข้าวที่ออกรวงสุกเหลืองอร่าม ทำให้ตลอดเส้นทางวิ่งไปยังถ้ำนาคามีความสวยงามเป็นพิเศษ    โดยการจัดวิ่งครั้งล่าสุดนี้ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวบึงโขงหลง ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาสมัครวิ่งไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ล่าสุดมีนักวิ่งจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ สนใจสมัครเข้ามาแล้วมากกว่า 700 คน   นายวิทยากล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ หลังเสร็จสิ้นรายการวิ่งถ้ำนาคาฮาล์ฟมาราธอนแล้ว ทางสมาคมธุรกิจส่งการท่องเที่ยวบึงโขงหลง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เปิดถนนคนเดินบึงโขงหลง บริเวณสวนขนาบบึงโขงหลง ในวันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ มีแหล่งชอปปิ้ง เดินเลือกซื้อสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ อ.บึงโขงหลง และจะเปิดถนนคนเดินในทุกวันศุกร์ และวันเสาร์อีกด้วย   ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจใน อ.บึงโขงหลง และทั้งจังหวัดบึงกาฬกลับมาคึกคัก รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เพราะจะมีนักวิ่งและผู้ติดตามเดินทางเข้ามาใน อ.บึงโขงหลง มากกว่า 2,000 คน ทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬขยายตัวในทางที่ดีขึ้น เกิดการใช้จ่ายในพื้นที่ ทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั้งจังหวัด      อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/local/detail/9650000102722    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บึงกาฬ #ถ้ำนาคา #ถ้ำนาคาฮาล์ฟมาราธอน 

คักอิหลี ! งานสมโภชน์ปึงเถ่ากง-ม่า soft power ของจังหวัดขอนแก่น

คักอิหลี ! งานสมโภชน์ปึงเถ่ากง-ม่า soft power ของจังหวัดขอนแก่น   ระหว่างวันที่ 24 ต.ค.-4 พ.ย. 2565 จ.ขอนแก่น กำหนดจัดงาน งานสมโภชศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ขอนแก่น ประจำปี 2565 เป็นงานประเพณีที่ชาวขอนแก่นเชื้อสายจีนสืบทอดกันหลายชั่วอายุคน แต่ละครอบครัวจะพากันไปยังศาลเจ้าเพื่อไหว้เจ้า และบูชากราบไหว้สิ่งของมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอด 12 วัน 12 คืน   นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าเป็นประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมานานกว่า 60 ปี นอกจากการไหว้เจ้าขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นอีกทางหนึ่งด้วย งานสมโภชศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ถือเป็นอีกซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดขอนแก่นที่ทางจังหวัดพร้อมสนับสนุน   นายบวร เสรีโยธิน นายกสมาคมปึงเถ่ากง – ม่า ขอนแก่น กล่าวว่า สามารถดึงชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาใช้จ่ายในระหว่างที่มาร่วมชมกิจกรรมต่างๆได้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท    และด้านนายประกิต ทองแท่งไทย ประธานกรรมการจัดงาน กล่าวว่า ในปีนี้ขบวนแห่จะสวยงามอลังการมาก โดยแห่เจ้ารอบเมืองในวันที่ 28 ต.ค. ช่วงกลางคืน และในวันที่ 29 ตุลาคม แห่เจ้าชมเมือง (กลางวัน) ให้ชาวขอนแก่น ได้ตั้งโต๊ะไหว้ และแลกธูป นำความเป็นสิริมงคลเข้าบ้าน ซึ่งในวันสุดท้าย จะมีการประมูลส้มมงคล ตะเกียงเทวดาฟ้าดิน ตี่จู่เอี๊ยะ กระถางธูป และของมงคลอื่นๆ อีกมากมาย   อีกทั้งรูปแบบการจัดงานในปีนี้มีความพิเศษคือนำประเพณีวัฒนธรรมอีสานผสมผสานกับวัฒนธรรมชาวจีน โดยนำหมอลำมาแสดงในงานสมโภชตลอด 3 วัน พร้อมทั้งการแสดงอุปรากรจีนตลอดทั้งวัน ในวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ชมการแสดงคณะวงหมอลำระเบียบวาทะศิลป์ วันที่ 30 ตุลาคม 2565 การแสดงวงหมอลำรัตนศิลป์และวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ชมการแสดงวงหมอลำประถมบันเทิงศิลป์   อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/local/detail/9650000102703     #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ขอนแก่น #ปึงเถ่ากง-ม่า #งานสมโภชน์ปึงเถ่ากง-ม่า 

PTT ผุดโครงการ ‘ไทยเด็ด’ พื้นที่ของเด็ดของคนไทย ช่วยให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน

พามาเบิ่ง PTT ผุดโครงการ ‘ไทยเด็ด’  พื้นที่ของเด็ดของคนไทย ช่วยให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน   ปัจจุบันหน้าที่ของ ปั๊มน้ำมัน สถานที่ที่เหล่านักเดินทางต่างคุ้นเคย กลับเป็นมากกว่าสถานบริการแจกจ่ายเชื้อเพลิงให้ทุกคนไปถึงจุดหมาย เป็นแหล่งสัญจรชั้นดีของการแวะพักผ่อนจากการเดินทาง การพักทานอาหาร และการจับจ่ายซื้อสินค้าอีกด้วย   เมื่อปี พ.ศ.2561 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมกับอีก 6 หน่วยงานจัดตั้งโครงการ ‘ไทยเด็ด’ ที่มีเป้าหมายในการสร้างงาน สร้างอาชีพ เติมเต็มคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจที่ดีให้แก่ชาวบ้าน ชุมชน เกษตรกร และสังคมไทย   โดย OR ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ดีและเด็ดประจำท้องถิ่นทั่วประเทศไทย จากกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนกว่า 238 ชุมชน มาสนับสนุนด้านการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย และนำมาวางขายในร้านค้าและมุมสินค้า ‘ไทยเด็ด’ ภายในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ทั่วประเทศกว่า 83 สถานีที่ร่วมรายการ   โดยสินค้าที่มีอยู่กว่า 254 รายการ มีความหลากหลายครอบคลุมตั้งแต่ อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ มีสินค้าครบทุกภาคทั่วประเทศไทย ซึ่งมีสินค้าจากภาคอีสานมากมาย   ยกตัวอย่างเช่น ผัดไทยภูเขาไฟ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งหลังจากที่เข้าโครงการทำให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น จาก 10,000 ซองต่อปี เป็น 480,000 ซองต่อปี และมีการขยายเครือข่ายชุมชนผัดไทยภูเขาไฟที่ส่งวัตถุดิบให้ทางโรงงานเพิ่มขึ้น จากเดิม 8 ชุมชน เป็น 20 ชุมชน      ซึ่งมีอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์คือการผสานรวมของทั้งเอกลักษณ์และคุณภาพจากวัตถุดิบประจำท้องถิ่น เมื่อได้รับการปรับปรุงวิธีการนำเสนอและเสริมจุดแข็งด้านสถานที่จำหน่าย ซึ่งก็คือ สถานีบริการ PTT station ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและมียอดขายที่สูงขึ้น เพราะสามารถส่งต่อสินค้าสู่มือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง   ผลลัพธ์จากการดำเนินงานมาตลอด 4 ปี คือนอกจากจะเป็นการช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐานและก้าวไกลสู่ระดับสากลแล้ว โครงการไทยเด็ดยังช่วยสร้างโอกาส สร้างรายได้ และความภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น   อ้างอิงจาก: เว็บไซต์บริษัท workpointtoday thestandard    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ไทยเด็ด #Thaidet #ปตท #PTT #OR

Scroll to Top