Nanthawan Laithong

ธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้างในภาคอีสาน

ในปี 2564 ภาคอีสานมีรายได้รวมของธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้าง อยู่ที่ 58,483 ล้านบาท และมีจำนวนบริษัท 567 แห่ง 5 อันดับจังหวัดที่มีรายได้รวมของธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้างมากที่สุด อันดับที่ 1 ร้อยเอ็ด มีรายได้รวม 35,689 ล้านบาท อันดับที่ 2 อุบลราชธานี มีรายได้รวม 3,827 ล้านบาท อันดับที่ 3 ขอนแก่น มีรายได้รวม 2,897 ล้านบาท อันดับที่ 4 นครราชสีมา มีรายได้รวม 2,701 ล้านบาท อันดับที่ 5 สุรินทร์ มีรายได้รวม 2,118 ล้านบาท อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#รายได้รวมธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้าง #ธุรกิจ #ธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้าง #ธุรกิจอีสาน #Business#ขายส่งวัสดุก่อสร้าง

ธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้างในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

อีสานสุดปัง “บีโอไอ” เผย 3 เหตุผล ดันอีสาน เป็นเมืองหลวง BCG อาเซียน ไตรมาสแรกปีนี้มียอดขอรับส่งเสริมลงทุนกว่า 3,800 ล้านบาท

นโยบายการพัฒนาเชิงพื้นที่ถือว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม โดยการขับเคลื่อน “ระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค” จะเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน รวมทั้ง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) หรือ Northeastern Economic Corridor (NeEC) กำหนดพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา อุดรธานี หนองคาย และขอนแก่น ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและโอกาสที่จะพัฒนาเป็นฐานอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bioeconomy) แห่งใหม่ของประเทศและเป็นผู้นำในระดับอาเซียน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ตลอดห่วงโซ่การผลิต รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) และมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ที่สนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรม BCG ทำให้มียอดการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.- มี.ค.) ของปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 24 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 3,800 ล้านบาท โดยการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร โดยมี 3 เหตุผลที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ได้แก่ 1.ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ภาคอีสานมีพื้นที่มากที่สุด คิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ หรือกว่า 160,000 ตารางกิโลเมตร และมีขนาดประชากรคิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ กว่า 22 ล้านคน ทั้งยังเป็นพื้นที่เพาะปลูกสูงถึง 43% ของประเทศ โดยมีการปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ มันสำปะหลัง อ้อย ข้าว และยางพารา ซึ่งวัสดุเหลือใช้จากพืชเหล่านี้ จะกลายเป็นวัตถุดิบล้ำค่าในการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ 2. มีความพร้อมพัฒนาต่อยอดงานวิจัย ภาคอีสานเป็นถิ่นกำเนิดของศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาที่มีขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และหน่วยงานวิจัยจำนวนมาก 3.ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ภาคอีสานอยู่ในจุดที่มีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเป็นประตูเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่มีศักยภาพการเติบโตสูงได้อย่างดี จุดแข็งและสินทรัพย์เหล่านี้ ทำให้ภาคอีสานจะเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุน และมีบทบาทช่วยขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปอุตสาหกรรมชีวภาพ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต รวมถึงบทบาทของภาคเอกชนในการร่วมขับเคลื่อนการลงทุน “ด้วยศักยภาพอันโดดเด่นของพื้นที่ NeEC ผนวกกับสิทธิประโยชน์บีโอไอที่มุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย และกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม” โดยบีโอไอมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงตั้งแต่วัตถุดิบต้นน้ำโดยเฉพาะวัตถุดิบการเกษตรท้องถิ่น ไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำมูลค่าสูง จะส่งผลให้ NeEC สามารถสร้างฐานการลงทุนอุตสาหกรรมชีวภาพแบบครบวงจร หรือไบโอคอมเพล็กซ์ และก้าวไปสู่การเป็นเมืองหลวง BCG (Bio-Circular-Green Industry) ของภูมิภาคอาเซียนได้ในที่สุด อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1074037 ติดตาม

อีสานสุดปัง “บีโอไอ” เผย 3 เหตุผล ดันอีสาน เป็นเมืองหลวง BCG อาเซียน ไตรมาสแรกปีนี้มียอดขอรับส่งเสริมลงทุนกว่า 3,800 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม »

สิพาเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs เดือนพฤษภาคม

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 52.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า -1.1 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือกลุ่มไหน? ภาคธุรกิจโดยเฉพาะการค้า และบริการมีกำลังซื้อที่ลดลง เนื่องจากก่อนหน้ามีการขยายตัวของกำลังชื่อที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มแรงงานที่กลับภูมิภาคในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะมาจากกรุงเทพฯ และตะวันออก ทำให้ปัจจุบันยอดขายปรับตัวลดลงโดยเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตามภาคการเกษตรและบางธุรกิจปรับตัวดีขึ้น เช่น การซ่อมบำรุงยานพาหนะขยายตัวขึ้น จากการเข้าสู่ช่วงเพาะปลูกนาปี ดัชนีความเชื่อมั่นฯ SMEs ภาคธุรกิจ เป็นอย่างไร? ภาคการค้าและการบริการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ขยายตัวจากกำลังซื้อและการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงสงกรานต์ ภาคการผลิต 51.9 ลดลง -1.0 จากเดือนเมษายน ภาคการผลิตชะลอตัวลง โดยเฉพาะกับกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่เผชิญกับราคาทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเนื้อสัตว์สด ผักและผลไม้ ในขณะที่การผลิตไม้และเฟอร์นิเจอร์จากคำสั่งชื้อของคู่ค้า โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคการค้า 50.1 ลดลง -3.9 จากเดือนเมษายน ภาคการค้าปรับตัวลดลงทั้งการค้าปลีกและค้าส่งจากกำลังซื้อที่ลดลง เนื่องจากการสิ้นสุดเทศกาลที่ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอย และการเดินทาง ซึ่งปรับลดลงในทุกภูมิภาค ภาคการบริการ 56.2 ลดลง -2.2 จากเดือนเมษายน ภาคการบริการที่ได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวปรับตัวลดลงในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบทางลบจากราคาต้นทุนที่สูงขึ้น แต่กลุ่มบริการอื่น ๆ ยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง เช่น การก่อสร้าง หรือกลุ่มบริการกีฬา ภาคการเกษตร 51.1 ลดลง -0.5 จากเดือนเมษายน ธุรกิจการเกษตรในกลุ่มของการค้าขายสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรมียอดขายที่ลดลง แต่ในหลายพื้นที่กิจกรรมการเพาะปลูกปรับตัวดีขึ้น เช่น ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากเข้าถึงช่วงเพาะปลูกข้าวนาปี หมายเหตุ: ดัชนี SMEs มีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และมีค่าฐานเท่ากับ 50 ดัชนี > 50 หมายถึง ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ “ดีขึ้น” จากเดือนก่อนหน้า ดัชนี = 50 หมายถึง ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ “ทรงตัว” จากเดือนก่อนหน้า ดัชนี < 50 หมายถึง ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ “ลดลง” จากเดือนก่อนหน้า อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #SMEs #ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการSMEs #ธุรกิจ #ดัชนีความเชื่อมั่น #ธุรกิจอีสาน

สิพาเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs เดือนพฤษภาคม อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง 6 อันดับธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แห่งภาคอีสานบ้านเฮา

อันดับที่ 1 บริษัท เคแพค อินเตอร์เทรด จำกัด รายได้รวม 970 ล้านบาท กำไรรวม 5.9 ล้านบาท จังหวัด ขอนแก่น . อันดับที่ 2 บริษัท สิรารมย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด รายได้รวม 541 ล้านบาท กำไรรวม 22 ล้านบาท จังหวัด นครราชสีมา . อันดับที่ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกรียงศักดิ์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 2003 รายได้รวม 463 ล้านบาท กำไรรวม 26 ล้านบาท จังหวัด ขอนแก่น . อันดับที่ 4 บริษัท อาณาสรา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด รายได้รวม 397 ล้านบาท กำไรรวม 11 ล้านบาท จังหวัด นครราชสีมา . อันดับที่ 5 บริษัท ที สเปซ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด รายได้รวม 385 ล้านบาท กำไรรวม 31 ล้านบาท จังหวัด ขอนแก่น . อันดับที่ 6 บริษัท วนาทิพย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด รายได้รวม 340 ล้านบาท กำไรรวม 14 ล้านบาท จังหวัด นครราชสีมา . . หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย (รหัสประเภทธุรกิจ 68101) . . อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ #ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ #ธุรกิจ #Business #ธุรกิจอีสาน

พาส่องเบิ่ง 6 อันดับธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แห่งภาคอีสานบ้านเฮา อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบายส่งเสริม SMEs ของว่าที่รัฐบาล ที่ส่งผลบวกต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับการบริโภค

อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ https://isaninsight.kku.ac.th/outlook อ้างอิงจาก: – การวิเคราะห์ข้อมูลโดย ISAN Insight & Outlook อ้างอิงข้อมูลจากพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ธุรกิจอีสาน #Business #นโยบาย #รัฐบาลชุดใหม่

พาส่องเบิ่ง นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบายส่งเสริม SMEs ของว่าที่รัฐบาล ที่ส่งผลบวกต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับการบริโภค อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง 2 นโยบายของว่าที่รัฐบาล ที่ส่งผลบวกต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับการบริโภค

อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ https://isaninsight.kku.ac.th/outlook อ้างอิงจาก: – การวิเคราะห์ข้อมูลโดย ISAN Insight & Outlook อ้างอิงข้อมูลจากพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#ธุรกิจอีสาน #Business #นโยบาย #รัฐบาลชุดใหม่

พาส่องเบิ่ง 2 นโยบายของว่าที่รัฐบาล ที่ส่งผลบวกต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับการบริโภค อ่านเพิ่มเติม »

อีสานบนเริ่ดคักหลาย เอกชนบึงกาฬ ถก “กมธ.คมนาคม” หนุนขนส่งทางราง ดันสินค้าเกษตรบุกตลาดจีน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

นายเจตน์ เกตุจำนง ประธานกลุ่มสหกรณ์การเกษตรฯจำกัด จังหวัดบึงกาฬ และที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ ในฐานะภาคเอกชนของจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า จากการได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกับ คณะกรรมาธิการ(กมธ.) คมนาคม วุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีพลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็วๆนี้ ได้รายงานข้อมูลด้านต่างๆของจังหวัดบึงกาฬ พร้อมเสนอแนะความต้องการในการสนับสนุนด้านการขนส่งโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งระบบรางให้เกิดการเชื่อมโยงต่อกับโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเส้นทางบ้านไผ่ ถึงนครนครพนม ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ให้ผ่านบึงกาฬถึงหนองคาย เพื่อให้เกิดโครงข่ายเชื่อมโยงความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางขนส่งลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจยางพาราของภาคอีสานตอนบนที่มีผลผลิตเป็นจำนวนมาก นายเจตน์ กล่าวอีกว่า จังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุดของภาคอีสาน มีผลผลิตปีละประมาณ 14,000 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยการขนส่งลงไปสู่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขนส่งไปยังตลาดยางพาราของเมืองกวางโจว หากสามารถขนส่งทางรางได้ จะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งยางพาราลดลงและใช้เวลาประมาณ 5 วันจะถึงปลายทางเร็วกว่าระบบล้อ 3 วัน ลดต้นทุนค่าขนส่งประมาณ 20% นอกจากนี้ยังจะเอื้อประโยชน์ให้กับพื้นที่อื่นๆอีกได้อย่างมากมาย จากการติดตามข่าวด้านการขนส่งทางราง พบว่า มีบริษัทขนส่งเอกชนเปิดการขนส่งสินค้าทางรางไปเชื่อมต่อเข้ากับโครงการรถไฟจีน-ลาว ล่าสุด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดบริษัทลูกคือ บริษัท พาส พลัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ PASS ได้เปิดทดลองการขนส่งสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือของ บริษัท ปตท. นอกจากนี้ยังมีตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็นสำหรับบรรจุพืชผักผลไม้ การเกษตร โดยเฉพาะทุเรียนไทย ไปยังตลาดกวางโจว ซึ่งเป็นตลาดเดียวกับยางพาราของไทย จึงมีความคิดที่จะมีการปรึกษาหารือกันในกลุ่มธุรกิจยางพาราในพื้นที่และใกล้เคียงว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ในการเปลี่ยนวิธีการขนส่งสินค้ายางพาราจากเดิม มาใช้การขนส่งทางระบบรางแทน ปัจจุบันยังไม่มีระบบรางผ่านพื้นที่บึงกาฬไปยังหนองคาย จะใช้วิธีบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ที่ต้นทางแล้ว บรรทุกรถยนต์ไปขึ้นรถไฟที่สถานีนาทา จังหวัดหนองคาย ซึ่งประหยัดเวลา ค่าขนส่งถูกกว่าระบบล้อ แล้วไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง ทั้งนี้ทางจังหวัดได้จัดเตรียมพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ในบริเวณโครงการก่อสร้างสะพาน สำหรับจัดทำเป็นพื้นที่รวมกองสินค้าส่งออก (CY) ผ่านสะพานอยู่แล้ว ซึ่งสามารถขยายพื้นที่ได้อีกด้วย ทั้งนี้ คณะ กมธ.การคมนาคม ให้ข้อเสนอแนะว่าพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดชายแดน น่าจะมีนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในพื้นที่ จึงได้เสนอข้อมูลให้ กมธ.คมนาคมว่า จังหวัดบึงกาฬได้รับการคัดเลือกจาก การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ให้เป็น 1 ใน 6 พื้นที่ที่เหมาะสมจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม ในอนาคตน่าได้รับการสนับสนุนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬ และการจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเช่นพื้นที่ชายแดนอื่นๆ พร้อมกันนี้ได้เสนอข้อมูลก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ ซึ่งทางจังหวัดบึงกาฬได้จัดเตรียมพื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำการสำรวจศึกษาความเป็นไปได้แล้ว รวมทั้งรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงสายอุดรธานี-บึงกาฬ และก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บ่อลิคำไซ) ณ เดือนมีนาคม 2566 ความก้าวหน้าอยู่ประมาณ 79% เร็วกว่ากำหนดประมาณ 1% อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/business/567472 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website

อีสานบนเริ่ดคักหลาย เอกชนบึงกาฬ ถก “กมธ.คมนาคม” หนุนขนส่งทางราง ดันสินค้าเกษตรบุกตลาดจีน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง ร้านขายยาในภาคอีสาน

ในปี 2564 ภาคอีสานมีรายได้รวมของร้านขายยา อยู่ที่ 5,210 ล้านบาท และมีจำนวนร้านขายยา 771 แห่ง 5 อันดับจังหวัดที่มีรายได้รวมของงร้านขายยามากที่สุด อันดับที่ 1 ขอนแก่น มีรายได้รวม 1,439 ล้านบาท อันดับที่ 2 นครราชสีมา มีรายได้รวม 1,278 ล้านบาท อันดับที่ 3 อุดรธานี มีรายได้รวม 678 ล้านบาท อันดับที่ 4 อุบลราชธานี มีรายได้รวม 330 ล้านบาท อันดับที่ 5 สุรินทร์ มีรายได้รวม 202 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ขอนแก่น มีรายได้รวมมากที่สุด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาเป็นศูนย์การแพทย์และศูนย์การรักษาโรคที่เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่องในระดับภูมิภาคและประเทศชาติ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นในภาคอีสาน อีกทั้งขอนแก่นยังถือว่าเป็นเมืองแห่ง Medical Hub ซึ่งมีเหตุผลหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดศักยภาพในด้านการรักษาโรค มีสถานพยาบาลและศูนย์การแพทย์ที่ครอบคลุมและมีความเชี่ยวชาญ เพื่อตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ของประชาชนในพื้นที่และภาคอีสาน หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจร้านขายปลีกสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และเวชภัณฑ์ (รหัสประเภทธุรกิจ 47721) อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปีงบการเงิน 2564 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#ร้านขายยา #ธุรกิจ #PHARMACY #ธุรกิจอีสาน#Business #ฟาร์มาซี

พาส่องเบิ่ง ร้านขายยาในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง แนวทางการสนับสนุนด้านการเงินสำหรับ SME ในภูมิภาคของประเทศไทย

ความสำคัญของการเงิน SME ในภูมิภาคของประเทศไทย? การเติบโตของธุรกิจ SME ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างมาก จนกลายเป็น Growth Engine ที่มีส่วนสำคัญที่สุดที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 มูลค่าทางเศรษฐกิจของ SME คิดเป็น 35% ต่อมูลค่า GDP ของทั้งประเทศ หรือ 5.62 ล้านล้านบาท โดยมีสัดส่วนของภาคธุรกิจเป็น ภาคการบริการ 44% ภาคการค้า 31.4% และภาคการผลิต 22.6% ซึ่งปัจจัยที่สนับสนุนให้ SME เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ การขยายตัวของการบริโภคครัวเรือนและภาคเอกชน การเติบโตของ E-commerce การเติบโตของภาคท่องเที่ยว รวมถึงนโยบายและมาตรการส่งเสริมต่าง ๆ ของภาครัฐ นอกจากนั้นในช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาพบว่าภาคธุรกิจ SME มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ในปี 2565 SME เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 13% จากปี 2564 ซึ่งมีการเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของภาคเศรษฐกิจโดยรวม นอกจาก SME จะมีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมอย่างสูง อีกทั้งการจ้างงานของธุรกิจ SME มีจำนวนประมาณ 13 ล้านคนซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 72% ของการจ้างงานทั้งประเทศนอก และหากมองในถึงภาคการส่งออกพบว่ามูลค่าการส่งออกของ SME อยู่ที่ประมาณ 684,000 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของมูลค่าการส่งออกของประเทศไทย การพัฒนาการให้บริการด้านเงินสำหรับ SME มีความสำคัญอย่างไร? 1. แก้ไขปัญหาการกีดกันทางการเงิน: ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ชนบทมักเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงบริการทางการเงิน การเงิน SME มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาการกีดกันทางการเงินโดยการให้บริการทางการเงินที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจในชนบท 2. การส่งเสริมผู้ประกอบการในชนบท: SMEs ในชนบทมักได้รับแรงผลักดันจากผู้ประกอบการท้องถิ่นและมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนในชนบท ด้วยการจัดหาเงินทุน SME ในพื้นที่ชนบท สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการในชนบทและการสร้างงาน ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในชุมชนท้องถิ่น 3. การพัฒนาวิสาหกิจการเกษตรและชนบท: SMEs จำนวนมากในพื้นที่ชนบทมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเกษตรหรือวิสาหกิจในชนบท การเงิน SME ในพื้นที่ชนบทสนับสนุนภาคส่วนเหล่านี้โดยการจัดหาเงินทุนสำหรับปัจจัยการผลิตทางการเกษตร จะช่วยเพิ่มผลผลิต ความสามารถในการแข่งขัน และความยั่งยืนของธุรกิจในชนบท 4. การสร้างรายได้และการบรรเทาความยากจน: SMEs ในชนบทมักเป็นแหล่งรายได้และการดำรงชีวิตที่สำคัญของชุมชนในชนบท การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME ช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโต สร้างโอกาสในการจ้างงาน และสร้างรายได้ให้กับประชากรในท้องถิ่น 5. การพัฒนาที่ยั่งยืน: การเงิน SME ในพื้นที่ชนบทสามารถสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้เช่นกัน สามารถมุ่งสู่ความคิดริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเงิน SME ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน 6. การพัฒนาภูมิภาคอย่างสมดุล: การส่งเสริมการเงิน SME ในพื้นที่ชนบทมีส่วนช่วยในการพัฒนาภูมิภาคอย่างสมดุล ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระดับภูมิภาคโดยนำทรัพยากรทางการเงินและโอกาสไปสู่ภูมิภาคชนบทที่ด้อยโอกาส สิ่งนี้นำไปสู่การเติบโตและการพัฒนาที่เท่าเทียมกันมากขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองและชนบท ดังนั้น การพัฒนาด้านการให้บริการด้านการเงินสำหรับ SME หรือ SME

ชวนเบิ่ง แนวทางการสนับสนุนด้านการเงินสำหรับ SME ในภูมิภาคของประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง 7 อันดับธุรกิจรักษาสัตว์ เอาใจทาสหมาทาสแมว

อันดับที่ 1 บริษัท โรงพยาบาลสัตว์ปิยะมิตร จำกัด รายได้รวม 52 ล้านบาท กำไรรวม 540,284 บาท จังหวัด ขอนแก่น อันดับที่ 2 บริษัท โรงพยาบาลสัตว์ปากช่อง จำกัด รายได้รวม 23 ล้านบาท กำไรรวม 741,781 บาท จังหวัด นครราชสีมา อันดับที่ 3 บริษัท วาริน-อุบล เพ็ทแพชชั่น จำกัด รายได้รวม 17 ล้านบาท กำไรรวม 486,424 บาท จังหวัด อุบลราชธานี อันดับที่ 4 บริษัท พยัคฆ์ แอนิมอล เซ็นเตอร์ จำกัด รายได้รวม 7,108,435 บาท กำไรรวม 439,969 ล้านบาท จังหวัด มหาสารคาม อันดับที่ 5 ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี่เสือยาสัตว์ รายได้รวม 2,083,247 บาท กำไรรวม 87,179 บาท จังหวัด ขอนแก่น อันดับที่ 6 บริษัท โรงพยาบาลสัตว์อุดรแอร์พอร์ท จำกัด รายได้รวม 1,936,540 บาท กำไรรวม -206,084 บาท จังหวัด อุดรธานี อันดับที่ 7 ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงพยาบาลสัตว์ สีวลี รายได้รวม 1,882,049 บาท กำไรรวม 71,659 บาท จังหวัด ขอนแก่น หมายเหตุ: เป็นมูลนิติบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจกิจกรรมเกี่ยวกับสัตวแพทย์ (รหัสประเภทธุรกิจ 75000) อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram: https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทในภาคอีสาน #ธุรกิจรักษาสัตว์ #ธุรกิจ #Business #ธุรกิจอีสาน

พาส่องเบิ่ง 7 อันดับธุรกิจรักษาสัตว์ เอาใจทาสหมาทาสแมว อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top