เงินฝากของคนในอีสาน เป็นจังใด๋แหน่ ในเดือนพฤศจิกายน 2565
เงินฝากของคนในอีสาน เป็นจังใด๋แหน่ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 อ้างอิงจาก: ธนาคารแห่งประเทศไทย #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เงินฝากของคนในอีสาน #เงินฝาก
เงินฝากของคนในอีสาน เป็นจังใด๋แหน่ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 อ้างอิงจาก: ธนาคารแห่งประเทศไทย #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เงินฝากของคนในอีสาน #เงินฝาก
เรื่องของ “เนื้อโคขุนโพนยางคำ” 🥩🐂 พามาเบิ่งแนวทางในการพัฒนา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 จังหวัดอุดรธานี ตระหนักถึงความสำคัญของการนำระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้าอัตลักษณ์ ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตรที่ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) จึงดำเนินการแนวทางพัฒนาเกษตรอัตลักษณ์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับพื้นที่ เนื้อโคขุนโพนยางคำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้า GI จังหวัดสกลนคร และเป็นสินค้าที่มีศักยภาพด้านการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงรายได้ของจังหวัดสกลนคร โดยโครงการนี้มีวัตุประสงค์ศึกษาแนวทางการพัฒนาเนื้อโคขุนโพนยางคำของเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และมีการเปรียบเทียบต้นทุนของผลตอบแทนการผลิตเนื้อโคขุนโพนยางคำของเกษตรกรที่มีการใช้ และไม่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (การผลิตอาหารผสมครบส่วนหนืออาหาร TMR: Total Mixed Ration) ซึ่งมีกระบวนการตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง อีกทั้งยังมีข้อเสนอแนะสำหรับการศึกษาในอนาคต คือ ควรศึกษาการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้กับสินค้าอัตลักษณ์ชนิดอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรให้แก่หน่วยงาน ผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้สนใจทั่วไป อีกทั้งวางแผนบริหารจัดการสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรมีอัตลักษณ์พื้นถิ่นมากยิ่งขึ้น อ้างอิงจาก: ส่วนบริหารกองทุนภาคการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร https://www.oae.go.th/assets/portals/1/files/jounal/2566/OAE793WebOK.pdf #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เนื้อโคขุนโพนยางคำ #อุดรธานี #สกลนคร #โคเนื้อ
ผลประกอบการเป็นจังใด๋แหน่ อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ #ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ #ไทยวัฒน์วิศวการทาง #โชคชัยการโยธา #ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง #รับเหมาก่อสร้าง
1.เสื่อกกทอมือลายโมเดิร์น จังหวัด : อำนาจเจริญ เสื่อกกในความทรงจำของคนที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ Thorr คงไม่พ้นภาพอุปกรณ์ปูรองนั่งสามัญประจำบ้าน แต่คุณอุ๋งอิ๋ง-ธัญญ์นภัส กิ่งสุวรรณ เจ้าของแบรนด์ พิถีพิถันผัดแป้งเสื่อกกบ้าน ๆ แปลงโฉมเป็นโฮมแวร์ที่น่ารัก เพื่อถ่ายทอดความงดงามจากถิ่นอีสาน “ของบ้าน ๆ ที่ดูถ่อมตัวแต่มีรสนิยม วูบวาบฉาบฉวยแต่ไม่รุนแรงก้าวร้าว ไม่จำเป็นต้องเหนือกว่าคนอื่นหรือดูฟุ่มเฟือยตลอดเวลา” คือ นิยามคาแรกเตอร์อันย่นย่อแต่ชัดเจนของ Thorr จากคุณอุ๋งอิ๋ง แบรนด์นี้มีสินค้ามากมาย ยกตัวอย่างเข่น เสื่อทอลายมินิมอล เจือสีครามไว้อย่างมีจังหวะ เพียงหางตาสัมผัสก็รู้ทันทีว่านี่แหละลายเซ็นซึ่งเจ้าของแบรนด์ฝากเอาไว้ หัตถศิลป์สไตล์โมเดิร์นเกิดจากสองมือของพี่น้องชาวอำนาจเจริญ 2.เซ็ตกาน้ำชาปั้นมือ จังหวัด : สกลนคร เครื่องเคลือบรูปทรงแปลกตา ลวดลายจากดินธรรมชาติไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ คือผลิตผลจากผืนดินแห่งบ้านดอนหมู จังหวัดสกลนคร ดอนหมูดิน เป็นแบรนด์เทเบิลแวร์เนื้อเซรามิกชั้นดี เกิดจากความดิบแท้ดั้งเดิมวัถตุดิบขึ้นชื่ออย่างดินเหนียวในนา แร่ฟันม้า ดินเหนียวสีเหลือง เปลือกหอย และครามธรรมชาติ โดยมีจินตนาการของ คุณเปิ้ล-วัลย์ริยา เพ็งสว่างนักปั้น (เซรามิก) มือทอง และเอกลักษณ์ความเป็นสกลนคร อีกทั้งยัง มีส่วนผสมสำคัญที่ถูกนำมาทำเป็นงานปั้นฟรีฟอร์ม ไม่รับปั้นรูปทรงตามใจ ไม่ใช้สีตามสั่ง ไม่ออกบูธตามงานแฟร์ใหญ่ ๆ เพราะดอนหมูดินบรรจงทำทุกขั้นตอนด้วยมือ ขอบข่ายงานสุดจิ๋วเพียงระดับชุมชนชาวบ้านเท่านั้น เอกลักษณ์ของสโตนแวร์จากดอนหมูดินคือทุกกระบวนการผลิตล้วนเป็นธรรมชาติ วิถี งานทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ของตัวเอง 3.ดิฟฟิวเซอร์หินทราย จังหวัด : นครราชสีมา หินทรายแผ่นแบนหน้ากลมสีพาสเทล ล้อมรอบด้วยไม้โอ๊กลายสวย เรียกว่า Sandstone Diffuser หรือหินทรายกระจายกลิ่นทรงแปลกตาจากนวยนาด (Nuaynard) แบรนด์ของคู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาทำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เครื่องหอมจากวัตถุดิบอีสาน นวยนาดเปลี่ยนหินทราย วัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นชื่อแห่ง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ที่นิยมนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป เอาเศษเหลือใช้มาทำเป็นดิฟฟิวเซอร์สุดเก๋ ผ่านการร่วมงานกับดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น โคคิเอะ อะสึชิ (Koike Atsushi) ผสานเข้ากับฝีมืออัตลักษณ์ของกลุ่มช่างหินทรายท้องถิ่นแห่งบ้านซับศรีจันทร์ ฐานที่มั่นของนวยนาดในอำเภอสีคิ้ว แห่งเมืองโคราชบ้านเอ็ง กลายมาเป็นคอลเลกชัน Isan Material 4.เก้าอี้หวาย จังหวัด : มหาสารคาม หวาย นอกจากเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อในชุมชน ยังเพียบพร้อมไปด้วยความยืดหยุ่นทนทาน บิดตัดดัดงอได้อย่างอิสระ อย่างที่วัสดุชนิดอื่น ๆ ทำไม่ได้ คุณลิตเติ้ล-สมฤทัย บุญใหญ่ แห่งแบรนด์ LITIN จึงหันมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์โดยใช้หวายเป็นหลัก ผสมกับลวดลายกราฟิกร่วมสมัย ยิ่งได้ฝีมือการจักสานของพี่น้องชาวสารคามสูผู้สูคน งานที่ได้ จึงยังมีกลิ่นอีสานแฝงอยู่กับความประณีตสวยงามอย่างแนบเนียน เป็นลายเซ็นของแบรนด์ไปโดยปริยาย LITIN พาฝีมือท้องถิ่นไปอยู่ตามโรงแรมและห้างร้านต่าง ๆ ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ยกตัวอย่างเช่น เก้าอี้สตูลสีสด แรงบันดาลใจจากรูปทรงตะโพน เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ความเจ๋ง คือ คุณลิตเติ้ลนำวัสดุผิวหวายเหลือใช้จากขั้นตอนการผลิตอื่น …
ชวนเบิ่ง 5 สินค้าสุดคราฟต์จากวัตถุดิบของดีทั่วอีสานบ้านเฮา มีอิหยังแหน่?? อ่านเพิ่มเติม »
สำหรับการเปิดศึกเพื่อแย่งชิงร้านค้าโชห่วยมาเป็นเครือข่ายของบรรดาซัพพลายเออร์-ค้าปลีกรายใหญ่ที่ลั่นกลองรบกันมาเกือบ 1 ปีเต็มๆ หากย้อนกลับไปจะพบว่า ทั้ง “บัดดี้มาร์ท” (สยามแม็คโคร)-“โดนใจ” (เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) ที่พร้อมใจก้าวเข้ามาท้ารบกับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” (ทีดี ตะวันแดง) เจ้าแรกที่ประกาศตัวช่วยชุบชีวิตบรรดาโชห่วยที่ว่ากันว่ามีอยู่ไม่ต่ำกว่า 4 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ให้กลับมาเติบโตได้อย่างมืออาชีพ “บีเจซี” ประกาศพร้อมรบ ล่าสุด กลางเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บีเจซี ได้ประกาศเปิดตัว “โดนใจ” บุกตลาดอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เริ่มมีการทำโครงการแบบซอฟต์ลอนช์ ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เบื้องต้นตั้งเป้าดึงร้านโชห่วยเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจ ประมาณ 4,000 ร้านค้า จากขณะนี้ที่ร้านค้าโชห่วยที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายแล้วประมาณ 1,000 ราย และในระยะยาวคาดว่าจะมี 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 ด้วยการใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีสาขาขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ในการป้อนสินค้าเข้าสู่ร้าน นอกจากนี้ยังมีแผนว่าในต้นปี 2566 จะมีการเปิดตัวพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าที่จะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ โดนใจ โฟกัสไปที่ร้านค้าปลีกในชุมชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านั้นมีจุดอ่อนในเรื่องของการบริหารจัดการ “บัดดี้มาร์ท” บุกอีสาน จากก่อนหน้านี้ (31ตุลาคม 2565) ที่ยักษ์ธุรกิจค้าส่ง “สยามแม็คโคร” ได้ฤกษ์เปิดตัว ร้านบัดดี้มาร์ท โมเดลธุรกิจที่มุ่งปรับปรุงร้านโชห่วยให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หลังจากที่เริ่มนำร่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยโฟกัสฐานลูกค้าสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการร้านโชห่วยในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน ซึ่งมีร้านโชห่วยหนาแน่น นอกจากนี้บริษัทยังมีการผนึกพันธมิตรที่เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ อาทิ ยูนิลีเวอร์ โอสถสภา เนสท์เล่ ไทยน้ำทิพย์ พีแอนด์จี มาจัดโปรโมชั่น แชร์ข้อมูลอินไซต์ลูกค้า จัดคอร์สอบรมด้านการบริการ-บริหารสต๊อกสินค้า รวมไปถึงดึงสถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงเทพ มาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโมเดลบัดดี้มาร์ทในเงื่อนไขพิเศษ เช่น สามารถกู้เต็มวงเงินลงทุน ผ่อนนาน 5 ปี ดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องและขาดความสามารถในการขอกู้เงินเพื่อปรับปรุงร้าน ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการโชห่วยและผู้ที่สนใจลงทุนร้านบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโคร ยังลดค่าลงทุนเริ่มต้นร้านบัดดี้มาร์ท 50% ฟรีค่าปรับปรุงร้าน 2 แสนบาท จากปกติที่ต้องใช้งบฯลงทุนเริ่มต้น 400,000 บาท (เงินค่าค้ำประกัน 200,000 บาท และค่าปรับปรุงร้าน 200,000 บาท) ถึง 31 ธ.ค. 2565 (จำกัดสิทธิ 300 ร้านค้าแรก) “ยอมรับว่า ในภาคอีสานจะเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มั่นใจว่า ด้วยความที่แม็คโครนั้นอยู่คู่กับร้านโชห่วย บวกกับจุดแข็ง เช่น เรื่องของอาหารสด ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากรายอื่น ๆ จะทำให้มีความได้เปรียบและเป็นที่ต้องการของร้านค้าในชุมชน” ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโครกล่าว “ถูกดี” ออนทัวร์ดึงลูกค้าข้ามปี ด้านต้นตำรับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” …
พาจอบเบิ่ง ศึกชิงโชห่วยเดือดสมรภูมิ “อีสาน” เป็นแนวใด๋แน่ อ่านเพิ่มเติม »
ฮือฮาหลาย ! พบรอยเท้าไดโนเสาร์แห่งใหม่ในไทย อายุกว่า 140 ล้านปีที่กาฬสินธุ์ พบรอยเท้าของไดโนเสาร์พันธุ์กินเนื้อขนาดเล็กแห่งใหม่ของประเทศไทย ที่บ๋าชาด ในวนอุทยานภูแฝก ต.ภูแลนช้าง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ คาดอายุกว่า 140 ล้านปี คาดอนาคตพัฒนาเพื่อท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 พร้อมด้วย นายดำรงศักดิ์ ชูศรีทอง หัวหน้าวนอุทยานภูแฝกเข้าตรวจสอบบริเวณบ๋าชาด ในพื้นที่ วนอุทยานภูแฝก ตำบลภูแลนช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีการแจ้งพบร่องรอยที่คาดว่าเป็นรอยตีนไดโนเสาร์ จากนายทองดี สุปิรัยทร ชาวบ้านน้ำคำ หมู่ 6 ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ เบื้องต้น จากการสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าว ลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่ พบรอยตีนไดโนเสาร์มากกว่า 10 รอย กระจายตัวอยู่บนลานหินทราย หมวดหินพระวิหาร ซึ่งมีอายุประมาณ 140 ล้านปี โดยรอยตีนไดโนเสาร์ที่พบ มีความยาวประมาณ 21-30 เซนติเมตร และกว้าง 17-31 เซนติเมตร คาดว่าน่าจะเป็นรอยตีนของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 เมตร และยาวประมาณ 5 เมตร “ถือเป็นการค้นพบรอยตีนไดโนเสาร์แห่งใหม่ของประเทศไทย” รอยตีนไดโนเสาร์แห่งใหม่นี้ อยู่ในพื้นที่วนอุทยานภูแฝก ห่างจากบริเวณที่เคยมีการค้นพบรอยทางเดินไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในอนาคตคาดว่าจะมีการพัฒนาแหล่งรอยตีนไดโนเสาร์บ๋าชาดแห่งนี้ ให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ศึกษา เรียนรู้ ที่สำคัญทางธรณีวิทยาต่อไป อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ #ISANInsightAndOutlook #รอยเท้าไดโนเสาร์ #ไดโนเสาร์กินเนื้อ #วนอุทยานภูแฝก #ตำบลภูแล่นช้าง #อำเภอนาคู #กาฬสินธุ์
“ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า” ผู้บุกเบิกธุรกิจห้างสรรพสินค้าของจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลายาวนานถึง 50 ปี ความภูมิใจอันยาวนาน คู่ตำนานนครขอนแก่น คุณวรพงษ์ พัฒนพีระเดช หรือ คุณวรพงษ์ แซ่โง้ว เป็นคนจังหวัดขอนแก่นโดยกำเนิด นับตั้งแต่ปี 2504 เริ่มต้นสร้างรากฐานและความก้าวหน้าจากมรดกคุณพ่อเป็นเงินสด 315 บาท กับ บ้านเช่าและจักรเก่าอย่างละ 1 หลัง ตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า “ฮั่วหลี” เป็นห้องแถวเล็กๆ ขนาด 1 คูหาเป็นร้านค้าตัดเสื้อผ้ากับการค้าขายเบ็ดเตล็ด คุณวรพงษ์ เริ่มต้นวงการค้าตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยที่ช่วงที่เคยทำที่ร้านของเขาซึ่งเป็นร้าน “ยี่ปั๊ว” ใหญ่ที่สุดในจังหวัดขอนแก่น ขณะนั้นด้วยวัยหนุ่มจึงพยายามเรียนรู้ พยายามจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาตรงหน้า เมื่อร้านของพี่เลยถูกไฟไหม้ เมื่อคราวไฟไหม้ตลาดขอนแก่นครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งนั้นพวกเขาไม่อยากทำการค้าต่อไปอีกจึงเซ้งกิจการทั้งหมดให้กับเถ้าแก่และภายใต้เงื่อนไขที่ว่า คุณวรพงษ์จะต้องอยู่ช่วยงานเขาด้วย คุณวรพงษ์อยู่ช่วยงานเถ้าแก่กิมสูงอยู่ 4 ปี ก็ออกมารับช่วงงาน ที่บ้านของตัวเอง ต่อมาเถ้าแก่ก็คิดขยายไปที่ทำเลใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม คุณวรพงษ์จึงคิดเอาบ้านไว้เอง เมื่อเถ้าแก่ย้ายไปแล้วคุณวรพงษ์จึงไปขอเช่า โดยตั้งชื่อร้านใหม่ว่า “ห้างแฟรี่” เมื่อปลายปี 2509 ต่อมาปี 2521 ได้ซื้อตึกแถว 3 ชั้น 9 คูหา เพิ่มที่จะทำห้างสรรพสินค้า แต่มีผู้ใหญ่และเพื่อนหลายคน เตือนว่าทำมาไกลเกินไป คุณวรพงษ์จึงทำการสำรวจตลาด โดยการจัดรายการขายสินค้าลดราคา 50% ทุกชิ้น ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับจากลูกค้า จนถึงกับต้องปิดร้านขายเมื่อเห็นว่าประสบความสำเร็จ จึงได้เปิด ห้างสรรพสินค้าแฟรี่ทาวน์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่น เมื่อกิจการเริ่มใหญ่ขึ้นก็ต้องมีงานที่ต้องควบคุมมากขึ้นในตอนนี้เองที่ คุณวรพงษ์ ได้นำการบริหารงานอย่างมีระบบมาใช้ในการดำเนินกิจการในช่วงนี้ โดยให้ลูกสาวคนโตคือ คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ เข้ามาดูแลกิจการก่อนต่อจากนั้นลูกสาวคนที่ 2 คุณโฉมสุรีย์ อนุพรรณสว่าง ก็เข้ามาช่วยดูแล ประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นลูกชายคนโต คุณพีระพล พัฒนพีระเดช ก็ได้เข้ามาช่วยอีกคนหนึ่งจนกิจการ สามารถขยายออกไปได้ถึง 17 คูหา เมื่อแฟรี่ทาวน์บริหารเริ่มคล่องตัวแล้ว คุณวรพงษ์ ก็กลับมาบริหารปรับปรุงแฟรี่ เดิมทำเป็น ศูนย์กิ๊ฟช็อปจัดสินค้า เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นโดยเฉพาะใช้ชื่อว่า “ห้างจูวีไนล์” ขยายจากเดิม 2 คูหาเป็น 3 คูหา โดยให้ลูกสาวคนที่ 2 คุณโฉมสุรีย์ อนุพรรณสว่าง เป็นผู้ดูแล จูวีไนล์เปิดตัว อย่างเป็นทางการในปี 2530 หลังจากจูวีไนล์ดำเนินกิจการได้ปีเศษ คุณวรพงษ์ใต้ซื้อที่ดินบริเวณถนนศรีจันทร์ เนื้อที่กว่า 9 ไร่ โดยมีโครงการที่จะสร้างศูนย์สรรพสินค้า ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ในปี 2530 โครงการศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายโครงการ ของบริษัทบนเนื้อที่ดังกล่าวได้เปิดดำเนินการขึ้นให้ชื่อว่า “ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า” ซึ่งเป็นการเปิดตัวอย่างสง่างามในความภูมิใจของชาวขอนแก่นที่มีศูนย์สรรพสินค้าที่ใหญ่สมบูรณ์และทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน แต่เปิดดำเนินการได้ไม่นาน …
ชวนเบิ่ง เส้นทาง “แฟรี่พลาซ่า” ห้างสรรพสินค้าดังเก่าแก่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »