Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

👫พามาเบิ่ง ความหนาแน่นของประชากรแต่ละจังหวัดในอีสานบ้านเฮา‼️

https://isaninsight.kku.ac.th/archives/1348โดยจากข้อมูลตัวเลขทางสถิติที่ไปรวบรวมมาของแต่ละจังหวัดในภาคอีสานนั้นเอง . อย่างที่ทราบกันว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีประชากร 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรไทยและรู้หรือไม่ว่าแค่ภาคอีสานภาคเดียวก็มีประชากรเกือบเทียบเท่า กัมพูชา และ ลาว รวมกันเสียอีก แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าภาคอีสานจะมีความหนาแน่นของประชากรเยอะที่สุด เนื่องจากกภาคอีสานนั้นมีพื้นที่ที่กว้างขวางระดับต้นๆของประเทศ ทำให้ความหนาแน่นนั้นกระจายตัวนั้นเอง . จังหวัด ประชากร เนื้อที่(ตร.กม.) ความหนาแน่นต่อ ตร.กม. มหาสารคาม 937,915 5,291.683 177.24 หนองคาย 514,021 3,026.534 169.84 สุรินทร์ 1,367,842 8,124.056 168.37 ศรีสะเกษ 1,450,333 8,839.976 164.07 ขอนแก่น 1,779,373 10,885.991 163.46 ร้อยเอ็ด 1,284,836 8,299.449 154.81 บุรีรัมย์ 1,573,230 10,322.885 152.4 กาฬสินธุ์ 968,065 6,946.746 139.36 อุดรธานี 1,558,528 11,730.302 132.86 หนองบัวลำภู 506,872 3,859.086 131.34 นครพนม 714,284 5,512.668 129.57 นครราชสีมา 2,625,794 20,493.964 128.13 ยโสธร 528,878 4,161.664 127.08 สกลนคร 1,142,657 9,605.764 118.96 อุบลราชธานี 1,869,608 15,744.85 118.74 อำนาจเจริญ 374,137 3,161.248 118.35 บึงกาฬ 420,487 4,305.746 97.66 ชัยภูมิ 1,113,378 12,778.287 87.13 มุกดาหาร 351,595 4,339.83 81.02 เลย 635,142 11,424.612 55.59 ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงแค่บอกให้รู้ถึงความหนาแน่นของประชากรของจังหวัดนั้นๆได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถช่วยให้เห็นการกระจายตัวของประชากรในภาคอีสาน เข้าใจสังคมรอบข้าง และสามารถต่อยอดการใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ทรัพยากรและวางแผนการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์ตัวเราและรอบข้างในอนาคตได้อีกด้วย . ที่มา: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย . หมายเหตุ: สถิติประชากรและเนื้อที่ที่เอามาหาความหนาแน่นมาจากปี 2566 . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #Politics #Social #สังคมอีสาน #สังคม #ประชากรอีสาน เจาะลึก แต่ละ Gen เป็นจั้งใด๋ ? …

👫พามาเบิ่ง ความหนาแน่นของประชากรแต่ละจังหวัดในอีสานบ้านเฮา‼️ อ่านเพิ่มเติม »

การกระจายรายได้ยโสธร จังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำสูงสุดในอีสาน?

ความเหลื่อมล้ำทางรายได้คือความแตกต่างในการกระจายรายได้ระหว่างบุคคลหรือกลุ่มประชากรในสังคม โดยแสดงให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างกลุ่มผู้มีรายได้สูงและผู้มีรายได้ต่ำ ซึ่งอาจสะท้อนถึงการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกัน โดยความเหลื่อมล้ำทางรายได้สามารถประเมินได้โดยใช้สัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค หรือ Gini Coefficient คือ ตัวชี้วัดระดับความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม โดยมีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง 1 ซึ่งหากค่าใกล้1 แสดงว่ามีความเหลื่อมล้ำทางรายได้สูง   ในปี 2566 สัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคของไทยมีค่าเท่ากับ 0.382 เมื่อพิจารณาภาคอีสาน พบว่ามีค่าสัมประสิทธิ์ 0.377 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากภาคใต้ที่เท่ากับ 0.395 โดยจังหวัดในภาคอีสานที่มีค่าสัมประสิทธิ์มากที่สุดคือ ‘ยโสธร’ ที่มีครัวเรือน 1.4 แสนครัวเรือน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคเท่ากับ 0.440 บ่งบอกถึงระดับความเหลื่อมล้ำที่สูงเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสานและสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศ   เมื่อพิจารณาการกระจายรายได้ของครัวเรือนจังหวัดยโสธร โดยการแบ่งกลุ่มครัวเรือนเรียงตามระดับรายได้ออกเป็น 5 กลุ่มเท่ากัน กลุ่มละ 20% หรือเรียกว่ากลุ่มควินไทล์ (Quintile) พบกว่ากลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด 20% แรก  หรือกลุ่มควินไทล์ที่ 5 มีส่วนแบ่งรายได้กว่า 47% มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเท่ากับ 57,179 บาท ซึ่งส่วนแบ่งรายได้ของกลุ่มรวยสุดในยโสธรเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่เท่ากับ 40% แสดงให้เห็นถึงรายได้ที่กระจุกตัวเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มคนรวยในยโสธร    กลุ่มรายได้ระดับ 2 (ควินไทล์ที่ 4) ด้านของกลุ่มรายได้ระดับ 3 (ควินไทล์ที่ 3) และกลุ่มรายได้ระดับ 4 (ควินไทล์ที่ 2) ซึ่งอุปมานว่าเป็นกลุ่มที่มีรายได้กลางๆ มีส่วนแบ่งของรายได้เท่ากับ 13% 14% และ 16% ตามลำดับ ซึ่งมีสัดส่วนไม่แตกต่างกันมาก   ในด้านของกลุ่มครัวเรือนที่จนที่จนที่สุด หรือ กลุ่มควินไทล์ที่ 1 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่ากับ 12,430 บาท ต่ำกว่ากลุ่มที่รวยที่สุดถึง 4.7 เท่า และมีส่วนแบ่งของรายได้เพียง 10% นอกจากนั้นยังพบว่ามีส่วนแบ่งที่ลดลงจากปี 2564 ที่มีส่วนแบ่ง 14% สวนทางกับกลุ่มครัวเรือนที่รวยที่สุด แสดงให้เห็นชัดถึงการกระจายรายได้ในสังคมมีความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นในจังหวัดยโสธร  ปัญหาความเหลื่อมล้ำในยโสธรจึงเป็นกรณีศึกษาสำคัญที่สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในระดับภูมิภาค และความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้อย่างยั่งยืน   หมายเหตุ: กลุ่มรายได้อ้างอิงจากการแบ่งครัวเรือนเรียงตามระดับรายได้ออกเป็น 5 กลุ่มเท่ากัน หรือกลุ่มควินไทล์, ข้อมูลเชิงสถิติอาจคลาดเคลื่อนจากค่าจริง   ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ, สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยโสธรเมืองพญาแถน แดนบั้งไฟ ผลักดันเทศกาลไทย ไปนานาชาติ

พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองต่อคนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้างในภาคอีสาน

จากข้อมูลพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของประเทศไทยจำนวน 7,540 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 4.7 ล้านไร่ พบว่าเป็นพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของภาคอีสานกว่า 581 ตารางกิโลเมตร หรือ 363,125 ไร่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 7.7% ของขนาดพื้นที่สีเขียวทั้งหมดในประเทศเท่านั้น   5 อันดับจังหวัดที่มีพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองมากที่สุดในอีสาน   อันดับที่ 1 ขอนแก่น 134.6 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 2 บุรีรัมย์ 69.0 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 3 นครราชสีมา 47.1 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 4 สกลนคร 38.3 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 5 อุบลราชธานี 37.8 ตารางกิโลเมตร   แล้วพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากรในอีสานเป็นเท่าไร?   องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุค่าเฉลี่ยพื้นที่สีเขียวของเมืองว่าอย่างน้อยควรอยู่ที่  9 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งภาคอีสานมีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ย 76 ตารางเมตรต่อคน หรือหากดูเป็นรายจังหวัด พื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากร 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ขอนแก่น 155 ตารางเมตรต่อคน เลย 153 ตารางเมตรต่อคน มุกดาหาร 133 ตารางเมตรต่อคน ศรีสะเกษ 128 ตารางเมตรต่อคน บุรีรัมย์ 125 ตารางเมตรต่อคน   อย่างไรก็ตาม พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองยังคงเป็นเสมือนของหายากอยู่ เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยตรง รวมไปถึงราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้การพัฒนาพื้นที่ถูกเน้นไปในเชิงพาณิชย์มากกว่า ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องอาจต้องมีการวางแผนร่วมกันเพื่อจะพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้สอดรับกับการขยายตัวของเมืองในอนาคตมากขึ้น  . อีกทั้งเรายังควรอนุรักษ์รักษ์สิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวให้คงอยู่และมีมากขึ้นต่อไปในอนาคต โดยเกิดเทรนด์ “การท่องเที่ยวสีเขียว” หนึ่งในรูปแบบการท่องเที่ยวสีเขียว คือ “การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism)”   การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Tourism เป็นการท่องเที่ยวที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและรบกวนสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำสามารถเป็นการท่องเที่ยวแบบง่ายๆ ตามความชอบของนักท่องเที่ยว เพียงแต่กิจกรรมการท่องเที่ยวนั้นต้องให้ความสำคัญรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการลดก๊าซคาร์บอน   ยกตัวอย่างเช่น การเลือกยานพาหนะในการเดินทาง การรับประทานอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น การทำกิจกรรมท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กิจกรรมปลูกป่า ปลูกปะการัง การเก็บขยะ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากกว่าการท่องเที่ยวแบบทั่วไป อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้กับกิจการที่เกี่ยวข้องกับการรักษ์โลกและเพื่อเพิ่มไอเดียในการพัฒนาธุรกิจของตนเองให้เข้ากับเทรนด์ในตอนนี้อีกด้วย     อ้างอิงจาก:  – สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)    ติดตาม ISAN Insight & Outlook …

พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองต่อคนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้างในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง “อำเภอเมือง” ของจังหวัดใน Big 5 of ISAN

📍อำเภอเมืองขอนแก่น มีขนาดพื้นที่ 953 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 416,849 คน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น 437 คน/ตารางกิโลเมตร โดยอำเภอเมืองขอนแก่นมีเงินฝากกว่า 92,014 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีเงินฝากมากเป็นอับดับที่ 2 ของภาคอีสาน ส่วนราคาที่ดินแพงสุดในอำเภอ คือ ถนนศรีจันทร์ ราคามากสุด คือ 200,000 บาท/ตารางวา   ตัวอย่างโครงการใหญ่ภายในอำเภอ คือ Medical hub ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 5,300 ล้านบาท เป็นหนึ่งในเป้าหมายของภาครัฐ ที่ต้องการให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งมีการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทย แพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาในการดูแลรักษาสุขภาพแบบไทย ทั้งยังสนับสนุนความร่วมมือและเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ของไทยกับผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพทั่วโลกอีกด้วย     📍อำเภอเมืองนครราชสีมา มีขนาดพื้นที่ 756 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 452,830 คน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น 599 คน/ตารางกิโลเมตร โดยอำเภอเมืองขอนแก่นมีเงินฝากกว่า 117,322 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีเงินฝากมากเป็นอับดับที่ 1 ของภาคอีสาน ส่วนราคาที่ดินแพงสุดในอำเภอ คือ ถนนชุมพล ราคามากสุด คือ 130,000 บาท/ตารางวา   ตัวอย่างโครงการใหญ่ภายในอำเภอ คือ ก่อสร้างทางลอดแยกประโดก ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 849 ล้านบาท โครงการนี้จะช่วยรองรับรถที่เดินทางมาตามถนนมิตรภาพ จาก จ.ขอนแก่น เข้าใช้อุโมงค์ทางแยกนครราชสีมาเลี้ยวขวาทิศทางมุ่งหน้าไป จ.สระบุรี และกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องติดสัญญาณไฟจราจร นอกจากนี้มีระบบระบายน้ำ งานป้องกันอัคคีภัย งานก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้าม งานติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง งานป้ายจราจรและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย   และก่อสร้างทางลอดแยกนครราชสีมา มูลค่าโครงการ 373 ล้านบาท โครงการนี้จะคอยช่วยแก้ปัญหาจราจรในเขตเมือง เพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนตัวของการจราจรบนทางหลวงสายหลัก ช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ ลดต้นทุนทางด้านการคมนาคมขนส่ง และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันประเทศยั่งยืน     📍อำเภอเมืองอุดรธานี มีขนาดพื้นที่ 1,095 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 408,566 คน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น 373 คน/ตารางกิโลเมตร โดยอำเภอเมืองขอนแก่นมีเงินฝากกว่า 82,680 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีเงินฝากมากเป็นอับดับที่ 3 ของภาคอีสาน ส่วนราคาที่ดินแพงสุดในอำเภอ คือ ถนนโพศรี ราคามากสุด คือ 180,000 บาท/ตารางวา   ตัวอย่างโครงการใหญ่ภายในอำเภอ คือ นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวอุดรธานี ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 65,000 ล้านบาท การเกิดขึ้นของนิคมฯ จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเจริญเติบโตให้คนอีสานทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ …

พาส่องเบิ่ง “อำเภอเมือง” ของจังหวัดใน Big 5 of ISAN อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง เงินฝากในอีสานกว่า 9.5 แสนล้านบาท แต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนในช่วง 10 ปี

🏦💳ข้อมูลสถิติจากธนาคารแห่งประเทศไทย คนไทยมียอดเงินฝากรวมในสถาบันการเงินภายในประเทศสูงถึง 17,399,541 ล้านบาท แล้วรู้หรือไม่ว่า ภาคอีสานมียอดเงินฝากรวมเท่าไหร่?   💸ยอดเงินฝากรวมในสถาบันการเงินของคนอีสาน มียอดรวมทั้งสิ้น 948,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 โดยส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในรูปบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 688,652 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 72.6% เลยทีเดียว   5 อันดับจังหวัดที่มียอดเงินฝากรวมมากที่สุดในภาคอีสาน อันดับที่ 1 นครราชสีมา 183,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ที่ผ่านมา อันดับที่ 2 ขอนแก่น 135,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อันดับที่ 3 อุดรธานี 102,927 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อันดับที่ 4 อุบลราชธานี 83,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 50,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557   จะเห็นได้ว่าโดยถือว่ายอดเงินฝากเกือบ 60% กระจุกอยู่ใน 5 จังหวัดหลักของภาคอีสาน เนื่องจาก จังหวัดเหล่านี้เป็นเมืองใหญ่ที่มีภาคอุตสาหกรรม การค้า การบริการ และการเกษตร ทำให้มีรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูง และยังเป็นเป้าหมายของกลุ่มบริษัทข้ามชาติและบริษัทไทยขนาดใหญ่มาลงทุนในพื้นที่ ทำให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน อีกทั้งเป็นจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูง ก็มักจะมีกำลังซื้อสูง เป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยสูง ซึ่งเงินส่วนหนึ่งก็ถูกนำมาฝากไว้ในธนาคาร และยังมีการเติบโตของเมืองและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินจำนวนมากอีกด้วย     อ้างอิงจาก: – ธนาคารแห่งประเทศไทย   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #บัญชีเงินฝาก #บัญชีธนาคาร #เงินฝาก

พามาเบิ่ง สะพานมิตรภาพ “ไทย-ลาว” ในภาคอีสานอยู่ที่ไหนบ้าง

พามาเบิ่ง สะพานมิตรภาพ “ไทย-ลาว” ในภาคอีสานอยู่ที่ไหนบ้าง . . สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์) มูลค่าการค้า 82,211 ล้านบาท เปิดใช้งาน 2537 ความยาว 1,174 เมตร  ความกว้าง 12.7 เมตร . สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต)  มูลค่าการค้า 270,093 ล้านบาท เปิดใช้งาน 2549 ความยาว 1,600 เมตร ความกว้าง 12 เมตร . สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) มูลค่าการค้า 101,201 ล้านบาท เปิดใช้งาน 2554 ความยาว 780 เมตร  ความกว้าง 13 เมตร . สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) งบประมาณ 4,010 ล้านบาท การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 % คาดเปิดใช้งาน 2567 ความยาว  1,350 เมตร . สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) งบประมาณ 5,097 ล้านบาท เตรียมเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณก่อสร้างในปี 2568 คาดเปิดใช้งาน 2571 ความยาว 1,607 เมตร . . อ้างอิงจาก: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักข่าวอิสรา และเดลินิวส์ ออนไลน์ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #สะพานมิตรภาพไทยลาว #สะพานมิตรภาพ #ไทยลาว

🔎พามาเบิ่ง “มันสำปะหลัง” กว่า 16.6 ล้านตัน🥔🥔 มาจากไหนบ้างในภาคอีสาน

ในปี 2566 ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลัง อยู่ที่ 10.5 ล้านไร่ และมีผลผลิต 30.6 ล้านตัน แล้วรู้หรือไหมว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตมันสำปะหลังมากแค่ไหน? . โดยในภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเรามีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังมากกว่า 5.6 ล้านไร่ หรือคิดเป็นสัดส่วน 54% ของขนาดพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั้งหมดในประเทศ และมีผลผลิตมากกว่า 16.6 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 55% ของผลผลิตมันสำปะหลังทั้งหมดในประเทศ  . หากพิจารณารายจังหวัด จะพบว่าผลผลิตมันสำปะหลังในภาคอีสานกระจุกตัวในจังหวัดนครราชสีมามากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 23.82% รองลงมาเป็นชัยภูมิ (11.5%) อุบลราชธานี (9.65%) อุดรธานี (9.07%) และกาฬสินธุ์  (6.56%) . . แนวโน้มอุตสาหกรรมมันสำปะหลังจะเป็นอย่างไร? . คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังจะหดตัว เป็นผลจากประเทศไทยเผชิญสภาพอากาศแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยส่งผลต่อเนื่องราว 1-2 ปี (2567-2569) ประกอบกับการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง และการขาดแคลนท่อนพันธุ์เพาะปลูก ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตมีทิศทางหดตัว . อย่างไรก็ตาม อุปทานมัน สำปะหลังยังมีแรงหนุน เช่น (1) ราคาที่คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีจูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก (2) ปริมาณน้ำในเขื่อนที่ยังเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในเขตพื้นที่ใกล้ระบบชลประทาน และ (3) แนวโน้มความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่จะขยายตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ประกอบกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น ทำให้หลายประเทศมีอุปสงค์เพื่อความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) เพิ่มขึ้น . . อ้างอิงจาก:  สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, วิจัยกรุงศรี . ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #มันสำปะหลัง #อุตสาหกรรมมันสำปะหลัง #อุตสาหกรรมมันสำปะหลังในอีสาน #มันสำปะหลังในอีสาน

2 ตระกูลเศรษฐีธุรกิจค้าปลีกวัสดุ 🏗 ตระกูล ”สุริยวนากุล” และ “ตั้งมิตรประชา” มูลค่ารวมกว่า 36,424 ล้านบาท

พามาเปิดพอร์ต 2 ตระกูลเศรษฐีหุ้น ค้าปลีกวัสดุของอีสาน มูลค่ารวม 36,424 ล้านบาท . . ธุรกิจวัสดุก่อสร้างถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สำคัญ และมีตลาดขนาดใหญ่ เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับที่อยู่อาศัย ซึ่งก็คือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง โดยในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเราจะมี 2 บริษัทนั่นคือ “ดูโฮม” และ “โกลบอลเฮ้าส์” ที่เรามักจะหุ้นตากันดี เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของธุรกิจนี้ด้วยเช่นกัน . ธุรกิจของ GLOBAL ของตระกูล “สุริยวนากุล” ที่เติบโตมาจากต่างจังหวัด ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี “วิทูร สุริยวนากุล” เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ ส่วนทางด้าน DOHOME มาจาก ตระกูล “ตั้งมิตรประชา” โดย อดิศักดิ์ และนาตยา ตั้งมิตรประชา สองสามี – ภรรยา เป็นผู้ก่อตั้ง โดยกิจการดังกล่าวเติบโตมาจากจังหวัดอุบลราชนี ทางอีสานอินไซต์จะพาทุกท่านมาดูมูลค่าสินทรัพย์(หุ้น) ของทั้งสองตระกูลกันค่ะ . บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 1.น.ส. กนกวล สุริยวนากุล: 568,021,887 หุ้น (11.36%) มูลค่า 8,917 ล้านบาท 2.นาย เกรียงไกร สุริยวนากุล: 557,246,411 หุ้น (11.14%) มูลค่า 8,748 ล้านบาท 3.ด.ต. กอเดชา สุริยวนากุล: 193,798,827 หุ้น (3.87%) มูลค่า 3,042 ล้านบาท 4.นาย ก้องภพ สุริยวนากุล: 187,981,078 หุ้น (3.76%) มูลค่า 2,951 ล้านบาท 5.น.ส. ซานนา สุริยวนากุล: 184,817,705 หุ้น (3.70%) มูลค่า 2,901 ล้านบาท 6.นาย วิษฐ์ สุริยวนากุล: 30,656,492 หุ้น (0.61%) มูลค่า 481 ล้านบาท . บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) 1.นาย อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา: 348,075,000 หุ้น (11.27%) มูลค่า 3,411 ล้านบาท 2.นาง นาตยา ตั้งมิตรประชา: 261,056,247 หุ้น (8.45%) มูลค่า 2,558 ล้านบาท …

2 ตระกูลเศรษฐีธุรกิจค้าปลีกวัสดุ 🏗 ตระกูล ”สุริยวนากุล” และ “ตั้งมิตรประชา” มูลค่ารวมกว่า 36,424 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง กีฬาประจำชาติของแต่ละประเทศในเพื่อนบ้าน GMS

วันนี้จะพามารู้จักกีฬาประจำชาติของเฮาและเพื่อนบ้านเฮาเด้อ   ไทย : มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้และกีฬาประจำชาติของประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี เป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่โดดเด่นด้วยการใช้อวัยวะทั้ง 8 ได้แก่ หมัด ศอก เข่า และเท้า ซึ่งเรียกกันว่า “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด”   2.ลาว : ลูกข่าง เป็นกีฬาพื้นบ้านดั้งเดิมของประเทศลาวที่มีลักษณะการละเล่นสนุกสนาน นิยมเล่นกันในหมู่เด็กและผู้ใหญ่ในชนบทของลาว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือเวลาว่าง ถือเป็นกิจกรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนและสะท้อนถึงความเรียบง่ายและความผูกพันกับวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวลาว   3.เวียดนาม : โววีนัม เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของประเทศเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษ 1930 โดยอาจารย์เหงียน ลก ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมการป้องกันตัวและความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจของคนเวียดนาม มีจุดมุ่งหมายเพื่อผสมผสานทักษะการต่อสู้กับคุณธรรมความเป็นมนุษย์   4.เมียนมาร์ : ชินลง หรือ “ชินโลน” เป็นศิลปะแบบดั่งเดิมหรือกีฬาโบราณ ที่มีมานานกว่า 1,500 ปี ของประเทศพม่า เป็นการผสมผสานกันระหว่างกีฬากับการเต้นรำ เล่นกันเป็นทีมไม่มีคู่ต่อสู้ แต่ละท่าในการเล่นต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักเพราะเป็นลีลาที่ยากมาก โดยมีตัวแกนอยู่ในวงคอยเป็นคนกำหนดทิศทางและท่ายากง่ายซึ่งทำให้คะแนนมากคล้าย ๆ ตะกร้อวงของบ้านเรา   5.กัมพูชา : กุนขแมร์ เป็นศิลปะการต่อสู้มือเปล่าดั้งเดิมของประเทศกัมพูชา มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะเด่นคือการใช้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น หมัด ศอก เข่า และเท้า เพื่อโจมตีและป้องกันตัว คล้ายคลึงกับมวยไทยในประเทศไทย แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันในจังหวะการเคลื่อนไหวและเทคนิค

ก้าวหน้าไก่สด จากฟาร์มคุณภาพ สู่ธุรกิจไก่เนื้ออันดับ 5 ของไทย

“ก้าวหน้าไก่สด” เป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกเนื้อไก่อย่างครบวงจรในภาคอีสาน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้วยกระบวนการที่ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ ฟาร์มไก่เนื้อ โรงเชือด และโรงงานผลิตไก่ปรุงสุกแช่แข็งเพื่อการส่งออก ไก่ที่เลี้ยงโดยบริษัทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของจำนวนไก่ทั้งหมดในระบบ ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทก้าวหน้าไก่สดยังสนับสนุนเกษตรกรด้วย โครงการไก่ประกันราคา โดยบริษัทจัดหาลูกไก่ให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงจนโต และซื้อคืนเพื่อส่งเข้าสู่กระบวนการผลิต ทั้งนี้ เพื่อให้คุณภาพการเลี้ยงเป็นไปตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ บริษัทให้การสนับสนุนด้านอาหาร เครื่องมือและอุปกรณ์การเลี้ยง อีกทั้งยังมีทีมสัตวแพทย์คอยให้คำปรึกษา ตรวจสุขภาพไก่ และเยี่ยมเยียนฟาร์มของเกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ ด้วยแนวทางนี้ บริษัทไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพสินค้า แต่ยังส่งเสริมความยั่งยืนให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ สร้างผลประโยชน์ร่วมกันทั้งต่อชุมชนและองค์กรอย่างยั่งยืน ก้าวหน้าไก่สด ดำเนินธุรกิจทั้งในตลาดภายในประเทศและการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยในส่วนของการส่งออก ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น, อังกฤษ, และประเทศต่าง ๆ ใน สหภาพยุโรป ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าตามสั่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว ช่วยสร้างความโดดเด่นและแตกต่างในตลาดโลก อีกทั้งยังจัดอยู่ในหมวด สินค้าพรีเมียม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าระดับสูงได้เป็นอย่างดี สำหรับตลาดภายในประเทศ บริษัทมุ่งเน้นการจำหน่ายชิ้นส่วนไก่สด เครื่องในไก่สด รวมถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ของไก่ที่ไม่สามารถรับประทานได้ เช่น ขนไก่ ผ่าน เทคนิคพิเศษในการผลิต ซึ่งทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากไก่ได้ทุกชิ้นส่วนอย่างคุ้มค่าและครบถ้วน   ในปี 2566 ที่ผ่านมา แม้ว่ารายได้รวมของบริษัทก้าวหน้าไก่สดจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากราคาของไก่ในตลาดที่ลดลง เนื่องจากปริมาณไก่ในท้องตลาดมีมาก ส่งผลให้ราคาตลาดปรับตัวลดลงตามกลไกอุปสงค์และอุปทาน อีกทั้งเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าส่งออกลดลง เนื่องจากประเทศผู้ผลิตหลักหลายประเทศในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชีย ประสบปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ทำ ให้มีความต้องการนำ เข้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์จากไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน ขณะที่ราคาไก่เนื้อในประเทศปรับตัวลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยลดลง อย่างไรก็ตาม ในด้านการบริหารจัดการภายใน บริษัทสามารถปรับปรุงการจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยการควบคุมต้นทุนในกระบวนการผลิตและการจัดการทรัพยากรที่ดี ส่งผลให้ต้นทุนรวมลดลงอย่างชัดเจน แม้ว่ารายได้จะลดลง แต่กำไรสุทธิกับปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการปรับตัวและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถรักษาความสามารถสร้างกำไรได้ แม้ราคาไก่ในตลาดจะมีการปรับตัวลดลงก็ตาม ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่มากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมและวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร โดยจังหวัดที่มีจำนวนไก่เนื้อมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา 15 ล้านตัว บุรีรัมย์ 6.4 ล้านตัว ชัยภูมิ 5.3 ล้านตัว อุบลราชธานี 5.3 ล้านตัว ขอนแก่น 1.8 ล้านตัว จะเห็นได้ว่าจังหวัดอุบลราชธานีเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงไก่เนื้อในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท “ก้าวหน้าไก่สด” บริษัทไม่เพียงแต่เลี้ยงไก่เอง แต่ยังมีการร่วมมือกับเกษตรกรในพื้นที่ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการไก่ประกันราคา ส่งผลให้เกษตรกรได้รับโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคง ขณะเดียวกันบริษัทก็สามารถจัดการคุณภาพของไก่ได้ตามมาตรฐาน ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น แต่ยังเป็นประโยชน์ทั้งต่อเกษตรกรและบริษัทในระยะยาว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาภาคการเกษตรและสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมไก่เนื้อ เมื่อพิจารณาถึงคู่แข่งสำคัญของบริษัทก้าวหน้าไก่สด พบว่า 4 อันดับแรกของบริษัทคู่แข่งที่มีรายได้สูงกว่ามักตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยหากพิจารณาสัดส่วนการครองตลาดผ่านรายได้รวม บริษัทก้าวหน้าไก่สดครองส่วนแบ่งตลาดทั่วประเทศอยู่ที่ 3.33% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความเข้าถึงง่าย และไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้เล่นรายใหญ่ แต่ยังมีผู้ประกอบการรายเล็กจำนวนมากที่เป็นคู่แข่งซึ่งไม่อาจมองข้ามได้ สำหรับรายชื่อ 5 อันดับแรกของบริษัทที่มีรายได้สูงสุดในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อ …

ก้าวหน้าไก่สด จากฟาร์มคุณภาพ สู่ธุรกิจไก่เนื้ออันดับ 5 ของไทย อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top