- ภูหมันขาว ที่จังหวัดเลยและเพชรบูรณ์ มีความสูง 1,820 เมตร
- ภูลมโล ที่จังหวัดเลย, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ มีความสูง 1,664 เมตร
- ภูหลวง ที่จังหวัดเลย มีความสูง 1,571 เมตร
- เนิน 1408 ที่จังหวัดเลย มีความสูง 1,408 เมตร
- ภูเรือ ที่จังหวัดเลย มีความสูง 1,365 เมตร
- ภูกระดึง ที่จังหวัดเลย มีความสูง 1,316 เมตร
- ภูผาจิต ที่จังหวัดเลย มีความสูง 1,271 เมตร
- ภูบักได ที่จังหวัดเลย มีความสูง 1,200 เมตร
เขาแถบอีสาน ตั้งแต่สันเขาของเลยถึงแนวเพชรบูรณ์ ไม่ได้เป็นเพียงภูมิทัศน์งดงามเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นสินทรัพย์เศรษฐกิจเชิงนิเวศที่สามารถสร้างมูลค่าหลายอย่าง ทั้งรายได้ท่องเที่ยวตรง บริการระบบนิเวศ และทุนทางวัฒนธรรม หากมองเชิงธุรกิจ ภูกระดึง ภูเรือ ภูลมโล และภูสูงอื่นๆ คือ “คลัสเตอร์ท่องเที่ยวอากาศเย็น” ที่ดึงดูดผู้คนตามฤดูกาลนั่นเอง โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปกว่า 2,500-3,500 บาท จากผู้มาเยือนหลักแสนต่อปี ก่อให้เกิดเงินสะพัดหลายร้อยล้านบาท และกระจายสู่โฮมสเตย์ ร้านอาหาร รถท้องถิ่น และสินค้า OTOP นั่นเอง
รายได้จากการท่องเที่ยวภูเขาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้ประกอบการโฮมสเตย์หรืออุทยานเท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมโยงไปถึงเกษตรกรที่ขายผลผลิตให้ร้านอาหาร ร้านค้าเล็กๆ ที่จำหน่ายอุปกรณ์เดินป่า รถรับจ้างท้องถิ่น ไปจนถึงกลุ่มแม่บ้านที่ผลิตผ้าทอและงานหัตถกรรม การไหลเวียนของเงินเหล่านี้สร้างตัวคูณทางเศรษฐกิจที่ทำให้เงิน 1 บาทจากนักท่องเที่ยว ขยายผลเป็นรายได้ 1.5–2 บาทในระบบเศรษฐกิจของชุมชน ถือเป็นพลังที่ช่วยหล่อเลี้ยงคนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริงนั่นเอง
อีกหนึ่งจุดแข็งของการท่องเที่ยวภูเขาในอีสานคือความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กัน อย่างเช่น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเชื่อมต่อจากภูกระดึงไปภูเรือ หรือจากภูหลวงไปภูลมโลได้ในเวลาไม่นาน หากมีการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเป็น “วงแหวนภูเขา” นักท่องเที่ยวจะอยู่ค้างคืนยาวขึ้น รายได้ก็จะกระจายไปยังหลายหมู่บ้าน และช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากธรรมชาติแล้ว วัฒนธรรมท้องถิ่นยังเป็นมูลค่าเพิ่มที่ทำให้ภูเขาเหล่านี้แตกต่างจากภูเขาในภาคอื่น นักท่องเที่ยวไม่ได้เพียงมาดูวิว แต่ยังได้สัมผัสอาหารอีสาน งานหัตถกรรม ผ้าทอ และประเพณีพื้นถิ่น ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยให้การท่องเที่ยวมีราคาสูงขึ้น นักท่องเที่ยวยินดีใช้จ่ายมากขึ้น และสร้างรายได้เสริมแก่ชุมชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุทยานนั่นเอง
ในปัจจุบัน “การเดินป่า-ท่องเที่ยวภูเขา” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของคนรุ่นใหม่และคนเมือง เพราะผู้คนเริ่มโหยหาความสงบและธรรมชาติ หลังจากใช้ชีวิตท่ามกลางความเร่งรีบและตึกสูงในเมืองใหญ่ การขึ้นภูเขาจึงไม่ใช่เพียงการท่องเที่ยว แต่เป็นการพักผ่อนเชิงสุขภาพ ทั้งกายและใจ บางคนมองว่าเป็นการ ชาร์จพลังชีวิต ขณะที่บางกลุ่มเห็นเป็นโอกาสในการออกกำลังกายแบบผจญภัย ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่กำลังเติบโตทั่วโลก
เทรนด์นี้ช่วยเปิดตลาดใหม่ให้กับการท่องเที่ยวภูเขา นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินป่า มักต้องการประสบการณ์มากกว่าที่พักหรูหรา แต่จะใช้จ่ายกับอุปกรณ์เดินป่า ไกด์ท้องถิ่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และสินค้าพื้นถิ่นที่สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่ ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการรายเล็ก อย่างเช่น ร้านเช่าเต็นท์ ร้านขายอุปกรณ์เดินป่า ร้านกาแฟชุมชน และกลุ่มชาวบ้านที่จัดกิจกรรมเชิงเรียนรู้
ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่
https://linktr.ee/isan.insight
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ภูเขาสูงในอีสาน #UnseenThailand #ท่องเที่ยวภูเขา #เดินป่า

