Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

อีสานบ่ธรรมดา! ต่างชาติทุ่มทุนมหาศาล พาส่อง ต่างชาติแห่ลงทุน มูลค่ารวมทะลุสองหมื่นล้าน

ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในภาคอีสาน สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญของภูมิภาคนี้ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งผลิตสินค้าเกษตรอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็นหมุดหมายใหม่ของการลงทุนจากทั่วโลก ด้วยมูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท จาก 22 ประเทศทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป และโอเชียเนีย   (1) อีสาน…ไม่ใช่แค่แหล่งข้าว: เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ชี้ชัดศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ ข้อมูลการลงทุนจากต่างประเทศในภาคอีสาน สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจุกตัวของการลงทุนในบางจังหวัด ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ และโอกาสในการเติบโตที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่   5 อันดับจังหวัดที่มีนักลงทุนต่างชาตินิยมลงทุนมากสุด นครราชสีมา มูลค่าการลงทุน 17,267 ล้านบาท ​​อุดรธานี มูลค่าการลงทุน 983 ล้านบาท ขอนแก่น มูลค่าการลงทุน 595 ล้านบาท สกลนคร มูลค่าการลงทุน 559 ล้านบาท บุรีรัมย์ มูลค่าการลงทุน 406 ล้านบาท. นครราชสีมา: แม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินลงทุน นครราชสีมาครองแชมป์จังหวัดที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดอย่างทิ้งห่าง คิดเป็นสัดส่วนถึง 81% ของการลงทุนทั้งหมดในภาคอีสาน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 17,267 ล้านบาท นครราชสีมาเป็นประตูสู่ภาคอีสาน มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มีตลาดแรงงานขนาดใหญ่ และมีศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง อีกทั้งยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ และนิคมอุตสาหกรรม ทำให้จังหวัดนี้มีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น ที่สำคัญนครราชสีมามีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม การค้า และบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว     กลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพ อย่างอุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร และบุรีรัมย์  กลุ่มจังหวัดเหล่านี้มีมูลค่าการลงทุนรองลงมา โดยแต่ละจังหวัดมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน อุดรธานี: เป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ขอนแก่น: เป็นศูนย์กลางการศึกษา การแพทย์ และการบริการของภาคอีสาน สกลนคร: มีศักยภาพในภาคเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตยางพารา บุรีรัมย์: เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และมีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว   (2) ภาคอุตสาหกรรม ถือหัวใจหลักของการลงทุน ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมสำหรับยานยนต์ มูลค่า 5,639 ล้านบาท และ การผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 913 ล้านบาท ครองอันดับต้นๆ ของการลงทุน สิ่งนี้บ่งชี้ว่าภาคอีสานกำลังก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในระดับโลก การลงทุนนี้จะช่วยสร้างงานและพัฒนาทักษะแรงงานในท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี อุตสาหกรรมแปรรูป การผลิตสตาร์ชมันสำปะหลัง มูลค่า 2,095 ล้านบาท และ การผลิตผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 717 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาคเกษตรแปรรูปในภาคอีสาน การลงทุนนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรในท้องถิ่น และส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในภาคเกษตร อุตสาหกรรมเครื่องจักร การผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ในทางการแพทย์ มูลค่า […]

อีสานบ่ธรรมดา! ต่างชาติทุ่มทุนมหาศาล พาส่อง ต่างชาติแห่ลงทุน มูลค่ารวมทะลุสองหมื่นล้าน อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก ..  เปิดตัว “Sip Song” สูตรลับข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ โดย ‘เปียโน THE SIS’ ผู้เนรมิตสาโทไทยบินไกลเวียนนา! 

ในนามวง THE SIS หลายคนรู้จักเธอในฐานะศิลปินกลุ่มทรีโอ ที่ประกอบไปด้วย 3 พี่น้อง แต่ปัจจุบัน เธอคือผู้ประกอบการไทย เจ้าของร้านอาหาร Mamamon Thai Eatery และ Sip Song Bar ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ที่พาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นข้าว GI ไปสู่สายตาชาวโลก ด้วยการแปรรูปเป็น ‘สาโท’ หมักด้วยน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ เสิร์ฟให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลองความเป็นไทย     จาก ‘เสียงเพลง’ สู่ ‘รสชาติไทย’ ในเวียนนา   “คุณเปียโน” ได้พลิกผันชีวิตหลังแต่งงานกับชาวสวีเดน ย้ายถิ่นฐานสู่เวียนนาในปี 2010 แม้จะเผชิญกับความท้าทายด้านภาษาและวัฒนธรรม แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านอาหารที่ซึมซับมาจากคุณแม่ตั้งแต่เด็ก เธอได้เริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารไทยรถเข็น “Mamamon Thai Eatery” ในปี 2011 โดยมีคุณแม่เป็นผู้รังสรรค์สูตรอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ ความสำเร็จของ Mamamon นำไปสู่การขยายธุรกิจในปี 2016 ด้วยร้านอาหารไทยเต็มรูปแบบ และในปี 2022 เธอได้เปิด “Sip Song Bar” บาร์ยาดองไทยสุดฮิปใจกลางกรุงเวียนนา ที่นำเสนอเครื่องดื่มไทยโบราณในรูปแบบค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ พร้อมดนตรีไทยสดๆ สร้างสีสันให้ค่ำคืน ล่าสุด เธอได้เปิด “Sip Song Bar” สาขาใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ตอกย้ำความสำเร็จในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านรสชาติและเสียงเพลงสู่สายตาชาวโลก   เรื่องราวของเปียโน THE SIS ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงไทยทั่วโลก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้     จากสาเกสู่สาโท ของ ‘เปียโน THE SIS’ สร้างสรรค์เครื่องดื่มไทยโกอินเตอร์   จากความหลงใหลในรสชาติสาเก สู่แรงบันดาลใจจากข้าวหมาก เปียโน THE SIS หันมาศึกษาและทดลองทำสาโทที่เวียนนา ด้วยความมุ่งมั่นและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เธอสามารถรังสรรค์ “Sip Song Sato” สาโทข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยความร่วมมือจากอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงเวียนนา เธอได้นำข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฯ GI มาเป็นวัตถุดิบหลัก สร้างสรรค์สาโท 3 รูปแบบ: ดราฟต์, สุก, และ Pet Nat เสิร์ฟในร้าน “Sip Song Bar” และร้านอาหารชั้นนำในเวียนนา ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์เครื่องดื่มรสเลิศ เปียโนยังนำกากสาโทมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างมูลค่าเพิ่ม และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ด้วยรสชาติที่ถูกปากชาวต่างชาติ และความภาคภูมิใจในความเป็นไทย เปียโน THE SIS ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเครื่องดื่มในยุโรป    

พามาฮู้จัก ..  เปิดตัว “Sip Song” สูตรลับข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ โดย ‘เปียโน THE SIS’ ผู้เนรมิตสาโทไทยบินไกลเวียนนา!  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรเวียดนาม🇻🇳

.ประเทศเวียดนามมีเนื้อที่ประมาณ 331,698 ตาราง กิโลเมตร มี 63 หน่วยการปกครองระดับจังหวัดประเทศเวียดนามมีประชากรประมาณ 100.4 ล้านคน ส่วนใหญ่ พูดภาษาเวียดนาม.หากดูจากแผนที่ประชากรของเวียดนาม จะเห็นว่า ผู้คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้เพราะพื้นที่เหล่านี้มี ปัจจัยทางภูมิศาสตร์, เศรษฐกิจ, และประวัติศาสตร์ ที่เอื้อต่อการตั้งถิ่นฐานและการพัฒนาเมืองมากกว่า ในขณะที่ภาคกลางและพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกกลับมีประชากรเบาบางเนื่องด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ภาคกลางของเวียดนามเผชิญกับไต้ฝุ่นและน้ำท่วมเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน และส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูงซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการตั้งถิ่นฐานและการเพาะปลูกในด้านพีระมิดประชากรของเวียดนาม มีลักษณะเป็น “พีระมิดฐานกว้าง” โดยกลุ่มประชากรในวัยเด็กและวัยแรงงานมีจำนวนมาก ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุมีสัดส่วนที่น้อย ซึ่งภาคอีสานของไทยที่ต้องการแรงงานในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการบริการ สามารถดึงดูดแรงงานจากเวียดนามมาเสริมแรงงานไทยได้ เนื่องจากเวียดนามมีประชากรในวัยแรงงานจำนวนมาก.พื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูงสุด1. ฮานอย และ โฮจิมินห์ซิตี้ มีประชากรหนาแน่นที่สุด โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูงกว่า 2,300 คนต่อตารางไมล์2. เมืองใหญ่ เช่น ไฮฟอง (Haiphong), บิ่นห์ฮว้า (Bien Hoa), ดานัง (Da Nang) ก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีประชากรหนาแน่นเช่นกัน3. บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เช่น กันโถ (Can Tho), รัชเกีย (Rach Gia) ก็มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญ. ภาพรวมประชากร ขนาดประชากร: ประมาณ 100 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. 2566) การกระจายตัว: ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงและแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ฮานอยและนครโฮจิมินห์ อัตราการเติบโต: อัตราการเติบโตของประชากรค่อนข้างคงที่ โครงสร้างอายุ เวียดนามมีโครงสร้างประชากรที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง โดยมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม เวียดนามกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านสวัสดิการและระบบดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเวียดนามเชื้อสายกิง (Kinh) หรือเวียด (Viet) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ คิดเป็นประมาณ 86% ของประชากร นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีก 53 กลุ่ม กระจายอยู่ทั่วประเทศ ศาสนา ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือศาสนาอย่างเป็นทางการ แต่มีความเชื่อในลัทธิบรรพบุรุษและลัทธิต่างๆ ศาสนาที่มีผู้นับถือมาก ได้แก่ ศาสนาพุทธนิกายมหายาน ศาสนาคริสต์ และศาสนาพื้นเมือง ลักษณะเฉพาะของโครงสร้างประชากรเวียดนาม ประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก: เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ความเป็นสังคมเมืองที่เพิ่มขึ้น: มีการย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมืองอย่างต่อเนื่อง ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม: เวียดนามมีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ พีระมิดประชากรเวียดนามฐานกว้างและค่อย ๆ แคบลง – แสดงถึงอัตราการเกิดที่ยังสูงอยู่ แต่แนวโน้มอาจลดลงเล็กน้อยในอนาคตประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก – กลุ่มอายุ 15-64 ปี มีสัดส่วนสูงมาก ซึ่งหมายถึงแรงงานที่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผู้สูงอายุมีสัดส่วนน้อย – ระบบสวัสดิการและการดูแลผู้สูงอายุอาจยังไม่เป็นภาระหนักเท่ากับประเทศที่มีโครงสร้างประชากรสูงวัย ประชากรและโครงสร้างวัยแรงงานของเวียดนามเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้: ประชากรวัยแรงงานจำนวนมาก: เวียดนามมีประชากรมากกว่า

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรเวียดนาม🇻🇳 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง ตัวอย่างอำเภอเด่นในอีสานที่ถนนมิตรภาพพาดผ่าน

ถนนมิตรภาพ หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 เป็นหนึ่งในทางหลวงสายหลักของประเทศไทยที่เชื่อมต่อจังหวัดสระบุรีกับจังหวัดหนองคาย โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 509 กิโลเมตร นับเป็นทางหลวงสายแรกที่ก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างทุกขั้นตอน และเป็นทางหลวงสายแรกของไทยที่มีผิวจราจรลาดยางแบบแอสฟอลต์คอนกรีต การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2498 โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในด้านงบประมาณและเทคนิคการก่อสร้าง  ถนนมิตรภาพมีความสำคัญอย่างมากในการเชื่อมโยงภาคอีสานกับภาคอื่นๆ ของประเทศไทย โดยตัดผ่านภาคอีสาน 4 จังหวัดและ 23 อำเภอ ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมา: ผ่านอำเภอปากช่อง, สีคิ้ว, สูงเนิน, เมืองนครราชสีมา, เฉลิมพระเกียรติ, โนนสูง, คง, โนนแดง, สีดา, บัวลาย จังหวัดขอนแก่น: ผ่านอำเภอพล, โนนศิลา, บ้านไผ่, บ้านแฮด, เมืองขอนแก่น, น้ำพอง, เขาสวนกวาง จังหวัดอุดรธานี: ผ่านอำเภอโนนสะอาด, กุมภวาปี, เมืองอุดรธานี, เพ็ญ จังหวัดหนองคาย: ผ่านอำเภอสระใคร, เมืองหนองคาย   หากไม่นับอำเภอเมือง อำเภอที่ถนนมิตรภาพตัดผ่านล้วนเป็นอำเภอสำคัญของจังหวัด โดยรายละเอียดของตัวอย่างอย่างอำเภอเด่นในแต่ละจังหวัด ได้แก่ 1. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นอำเภอแรกสุดของการเดินทางจากถนนมิตรภาพสู่ภาคอีสาน ทำให้มีความสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางและการค้า และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดีจากการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ  ขนาดพื้นที่: 1,825.17 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 127,557 คน  จำนวนครัวเรือน: 74,213 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 1,968ราย  2. อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นอำเภอใหญ่และเก่าแก่ในจังหวัดขอนแก่น มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม มีสถานีรถไฟซึ่งในอนาคตจะถูกพัฒนาให้รองรับรถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย ขนาดพื้นที่: 477.7 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 71,567 คน  จำนวนครัวเรือน: 24,663 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 518 ราย    3. อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่เจริญในอุดรธานี มีเครือข่ายคมนาคมอย่างถนนมิตรภาพและสถานีรถไฟ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างทะเลบัวแดง ขนาดพื้นที่: 672.6 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 80,871 คน  จำนวนครัวเรือน: 22,764 หลัง  จำนวนนิติบุคคล: 396 ราย    4. อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เป็น 1 ใน 2 อำเภอในหนองคายที่มีถนนมิตรภาพตัดผ่าน จากภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับเมืองเวียงจันทน์ และในอนาคตที่จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ทำให้อ.สระใคร มีโอกาสและศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต ขนาดพื้นที่: 210.9 ตร.กม.  จำนวนประชากร: 26,488 คน  จำนวนครัวเรือน: 8,997 หลัง 

พามาเบิ่ง ตัวอย่างอำเภอเด่นในอีสานที่ถนนมิตรภาพพาดผ่าน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่างสนามบินใหญ่ใน GMS

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่างสนามบินใหญ่ใน GMS . . (1) การเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยที่มีศูนย์จัดงาน MICE ขนาดต่างๆ รองรับอยู่มากมาย นอกจากในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ก็ยังมีสถานที่จัดงาน MICE กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในทุกการเดินทางเพื่อไปร่วมงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วจากการโดยสารเครื่องบินจึงเป็นสิ่งสำคัญ  . (2) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการมาเกือบ 20 ปี ให้บริการมาแล้วกว่า 5 ล้านเที่ยวบิน พร้อมทั้งต้อนรับผู้โดยสารจากทั่วโลกมากกว่า 815 ล้านคน และปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศ รวมกว่า 22 ล้านตัน เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งตั้งเป้าที่จะผลักดันไทยเป็นฮับการบินของภูมิภาค โดยตั้งเป้าให้สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดติด 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งนอกจากการเพิ่มการลงทุนในสนามบิน ยังมีการวางแผนพัฒนาการให้บริการสนามบิน และจับมือกับพันธมิตรระดับโลก . ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เร่งรัดแผนการพัฒนาสนามบินเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารให้ได้ถึง 150 ล้านคนต่อปีในปี 2573 โดยปัจจุบัน ทอท.ได้เปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 เพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ควบคู่ไปกับโครงการขยายขีดความสามารถของสนามบินอย่างต่อเนื่อง . (3) ส่วนในภาคอีสานของเรา ปัจจุบันมีสนามบินอยู่ 9 แห่งด้วยกัน และมีสนามบินที่มีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3.5 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 1,962 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 301,987 คน . ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 1,521 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 241,921 คน   ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2.9 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 1,262 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 200,760 คน . ท่าอากาศยานสกลนคร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1.7 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2568 (ม.ค. – ก.พ.) มีเที่ยวบิน 384 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 59,233

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่างสนามบินใหญ่ใน GMS อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ ปี 68 ภาคอีสานมีผู้ป่วยเกือบ 40,000 ราย

จังหวัด ผู้ป่วยสะสม สัดส่วนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ต่อประชากรแสนคนในจังหวัด นครราชสีมา 7,428 ราย 284 อุบลราชธานี 5,907 ราย 316 สุรินทร์ 3,312 ราย 244 ขอนแก่น 3,185 ราย 180 ร้อยเอ็ด 2,937 ราย 230 ชัยภูมิ 2,263 ราย 205 บุรีรัมย์ 1,831 ราย 117 ศรีสะเกษ 1,818 ราย 126 อุดรธานี 1,623 ราย 105 มหาสารคาม 1,572 ราย 169 นครพนม 1,430 ราย 201 กาฬสินธุ์ 1,285 ราย 134 สกลนคร 1,136 ราย 100 ยโสธร 957 ราย 182 หนองบัวลำภู 891 ราย 177 หนองคาย 614 ราย 120 อำนาจเจริญ 613 ราย 165 มุกดาหาร 558 ราย 159 บึงกาฬ 418 ราย 100 เลย 340 ราย 54 . ในประเทศไทยได้พบจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในหน้าฝน เนื่องจากเชื้อไวรัสมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายได้ดีในประเทศเขตร้อนที่มีความชื้นสูง นอกจากนี้ตามธรรมชาติของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ทำให้การระบาดของโรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี . แต่ในปี 2568 นี้พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ด้วยจำนวนผู้ป่วยมากถึง 135,790 ราย (ณ วันที่ 24 ก.พ. 68) และมีผู้เสียชีวิต 9 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา (4 ราย) จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉะเชิงเทรา ลำปาง สงขลา และสุรินทร์ จังหวัดละ 1 ราย พบเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A ทั้ง 9 ราย . ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อมูลเดิม เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 มีผู้ติดเชื้อเพียง 7,819 ราย

พาสำรวจเบิ่ง สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ ปี 68 ภาคอีสานมีผู้ป่วยเกือบ 40,000 ราย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง จำนวนโรงเรียนที่สังกัดอยู่ใน อบจ ของแต่ละจังหวัดในภูมิภาค

การกระจายงบประมาณด้านการศึกษา อบจ. ในภาคอีสาน: โอกาสหรือความเหลื่อมล้ำ? จังหวัด งบประมาณ อบจ. ภาคการศึกษา (บาท) จำนวนของโรงเรียน(แห่ง) นครราชสีมา 1,646,793,700 29 ศรีสะเกษ 872,546,100 39 ชัยภูมิ 582,302,200 31 ขอนแก่น 572,160,400 20 อุบลราชธานี 436,819,800 11 มหาสารคาม 404,461,500 20 กาฬสินธุ์ 398,174,900 12 อุดรธานี 176,783,200 3 สกลนคร 134,448,300 7 ร้อยเอ็ด 79,505,700 4 เลย 69,957,300 3 ยโสธร 39,112,800 1 บุรีรัมย์ 16,558,200 1 นครพนม 16,230,200 1 หนองบัวลำภู 12,932,000 4 หนองคาย 6,229,700 1 สุรินทร์ 788,600 1 บึงกาฬ 326,600 1 มุกดาหาร 0 1 อำนาจเจริญ 0 0 รวม 5,466,131,200 190 งบประมาณด้านการศึกษาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคอีสานซึ่งมีโรงเรียนจำนวนมากที่อยู่ภายใต้การดูแลของ อบจ. ข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยในปี 2568 แสดงให้เห็นถึงการกระจายงบประมาณที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละจังหวัด ซึ่งสะท้อนถึงปัจจัยหลายประการทั้งด้านขนาดของโรงเรียน จำนวนโรงเรียน และนโยบายการจัดสรรงบประมาณของแต่ละ อบจ.   นครราชสีมา: ผู้นำด้านงบประมาณการศึกษา   จากข้อมูลพบว่า จังหวัดนครราชสีมาได้รับงบประมาณ อบจ. ด้านการศึกษาสูงสุดที่ 1,646.79 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าจังหวัดอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีจำนวนโรงเรียนในสังกัด 39 แห่ง นี่อาจสะท้อนถึงขนาดของจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และมีจำนวนนักเรียนมาก ทำให้ต้องการงบประมาณสูงเพื่อรองรับการพัฒนาโรงเรียนและคุณภาพการเรียนการสอน   ศรีสะเกษ และขอนแก่น: อันดับรองที่มีบทบาทสำคัญ   รองลงมาคือ ศรีสะเกษ ที่ได้รับงบประมาณ 872.54 ล้านบาท และ ขอนแก่น ที่ได้รับ 572.16 ล้านบาท โดยขอนแก่นมีจำนวนโรงเรียนในสังกัด 20 แห่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับมหาสารคาม แต่ได้รับงบประมาณสูงกว่าเกือบเท่าตัว การกระจายงบประมาณในสองจังหวัดนี้อาจมาจากความต้องการในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการศึกษา รวมถึงแผนการยกระดับคุณภาพโรงเรียนในเขต อบจ.  

พามาเบิ่ง จำนวนโรงเรียนที่สังกัดอยู่ใน อบจ ของแต่ละจังหวัดในภูมิภาค อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรลาว🇱🇦

ภาพรวมประชากรลาว ขนาดประชากร: ประมาณ 7.5 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ. 2566) อัตราการเติบโต: ประมาณ 1.5% ต่อปี การกระจายตัว: ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะบริเวณนครหลวงเวียงจันทน์ ความหนาแน่น: ประมาณ 32 คนต่อตารางกิโลเมตร โครงสร้างอายุ วัยเด็ก (0-14 ปี): ประมาณ 30% ของประชากรทั้งหมด วัยแรงงาน (15-64 ปี): ประมาณ 65% ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): ประมาณ 5% ของประชากรทั้งหมด กลุ่มชาติพันธุ์ ลาวลุ่ม: เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ คิดเป็นประมาณ 68% ของประชากร ลาวเทิง: เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง คิดเป็นประมาณ 22% ของประชากร ลาวสูง: เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงกว่าลาวเทิง เช่น ชาวม้งและเย้า คิดเป็นประมาณ 9% ของประชากร กลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ: มีอีกประมาณ 40 กว่ากลุ่มชาติพันธุ์ คิดเป็นส่วนที่เหลือของประชากร ศาสนา ศาสนาพุทธ: เป็นศาสนาหลักของประเทศ คิดเป็นประมาณ 66.8% ของประชากร ศาสนาผี: ยังคงมีการนับถือในหลายพื้นที่ คิดเป็นประมาณ 30.7% ของประชากร ศาสนาคริสต์และอิสลาม: มีผู้นับถือจำนวนน้อย คิดเป็นประมาณ 2.5% ของประชากร ภาษา ภาษาลาว: เป็นภาษาทางการและใช้ในการสื่อสารทั่วไป ภาษาอื่นๆ: มีการใช้ภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ลักษณะเฉพาะของโครงสร้างประชากรลาว สังคมเยาว์วัย: ลาวมีสัดส่วนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศ ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม: ลาวมีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดแข็งของประเทศ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร: ลาวกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เช่น การลดลงของอัตราการเกิดและการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ   พื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นสูง เวียงจันทน์ (Vientiane): เมืองหลวงของลาวและศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเมือง และการศึกษา เป็นที่ตั้งของรัฐบาล สถาบันการศึกษา และธุรกิจสำคัญ สะหวันนะเขต (Savannakhét): เมืองเศรษฐกิจสำคัญทางภาคกลาง ติดกับประเทศไทย และมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปากเซ (Paksé): ศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ เป็นจุดเชื่อมโยงกับไทยและกัมพูชา ภาพที่ 1 : ภูมิประเทศสามมิติ (3D topography) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ลาว: ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ, อักษรย่อ: ສປປ ລາວ) หากดูจากแผนที่ความหนาแน่นของประชากรลาว จะเห็นได้ว่าประชากร กระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่

พามาเบิ่ง🧐ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรลาว🇱🇦 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง GDP ย้อนหลัง 35 ปี ของอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS

. จะเห็นได้ว่า GDP ของไทยและเวียดนามค่อนข้างดีดตัวสูงกว่าประเทศอื่นในGMS เป็นอย่างมากอันเนื่องมาจากมีความโดดเด่นด้านขนาดเศรษฐกิจ ความหลากหลายของภาคเศรษฐกิจ และศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานและตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ทำให้ GDP ของทั้งสองประเทศสูงกว่าเพื่อนบ้านใน GMS อย่างชัดเจน   วิกฤตทางเศรษฐกิจที่ทำให้GDPหดตัวลง -การระบาดของcovid-19 ปี 2019 เนื่องจากเกิดวิกฤตเชื้อไวรัส โควิด-19 แพร่ระบาดทำให้ภาคเศรษฐกิจต่างๆในประเทศเกิดการหดตัวลงไม่ว่าจะเป็น ภาคการท่องเที่ยว,การค้าระหว่างประเทศ ทำให้GDP ของแต่ละประเทศเกิดการหดตัวลงเพราะต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโลก   –วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2008 ส่งผลต่อ GMS โดยเฉพาะในประเทศที่พึ่งพาการส่งออก (ไทย กัมพูชา และเวียดนาม) ในขณะที่ประเทศที่พึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศและจีน (ลาวและเมียนมา) ได้รับผลกระทบน้อยกว่า ความพยายามของจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของ GMS หลังวิกฤต   –วิกฤตต้มยํากุ้ง ปี 1997 ส่งผลต่อประเทศใน GMS ในระดับที่แตกต่างกัน ประเทศที่เปิดเศรษฐกิจและพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศอย่างไทยและกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในขณะที่ประเทศที่เศรษฐกิจปิดตัว เช่น เมียนมา และลาว ได้รับผลกระทบทางอ้อมเท่านั้น วิกฤตครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในภูมิภาค GMS ที่มา เว็ปไซต์ :maccrotrends,trading economics พามาเบิ่งหนี้สาธารณะแต่ละประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง GMS

พามาเบิ่ง GDP ย้อนหลัง 35 ปี ของอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง อุตสาหกรรมเหล็กไทยเสี่ยงจากผลกระทบ 3 ด้าน

ฮู้บ่ว่าปี 67 โรงงานเหล็กของไทย ปิดตัวลงกว่า 38 แห่ง  อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เหล็กเป็นวัสดุสำคัญที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และบรรจุภัณฑ์ สถานการณ์ปัจจุบัน การผลิต: ประเทศไทยมีกำลังการผลิตเหล็กดิบประมาณ 7.5 ล้านตันต่อปี ส่วนใหญ่เป็นเหล็กทรงยาวที่ใช้ในการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตจริงยังต่ำกว่ากำลังการผลิต เนื่องจากมีการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะจากประเทศจีน การบริโภค: ความต้องการใช้เหล็กในประเทศอยู่ที่ประมาณ 18 ล้านตันต่อปี ซึ่งสูงกว่าปริมาณการผลิตภายในประเทศ ทำให้ต้องนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการ การนำเข้า: ประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ของโลก โดยมีมูลค่าการนำเข้าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เหล็กนำเข้าส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ซึ่งมีราคาถูกกว่าเหล็กที่ผลิตในประเทศ ผู้ประกอบการ: อุตสาหกรรมเหล็กในไทยประกอบด้วยผู้ประกอบการหลายราย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ผู้ประกอบการรายใหญ่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ ในขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยส่วนใหญ่เป็นบริษัทของไทย ความท้าทาย: อุตสาหกรรมเหล็กในไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การแข่งขันกับเหล็กนำเข้า ราคาเหล็กผันผวน และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น 3 ปัจจัย ตลาดเหล็กในไทยหดตัว ความต้องการใช้เหล็กที่หดตัวลง ตามภาวะอุตสาหกรรมปลายน้ำ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ที่ลดกำลังการผลิตลง รวมถึงภาคก่อสร้างที่ได้รับผลจากตลาดอสังหาริมทรัยพ์ในประเทศชะลอตัวลง เช่นกัน เหล็กนำเข้ามีสัดส่วนเพิ่มแตะระดับเกือบ 70% ของการบริโภคเหล็กในไทย ราคาเหล็กขาลงจากปัญหาในภาคอสังหาฯ จีน ที่หดตัวต่อเนื่องหลายปีติด ทำให้ตลาดจีนมีที่ Oversupplied หรือกำลังการผลิตภายในจีนล้นกับตลาดความต้องการในประเทศ และทะลักส่งออกและเกิดการถล่มราคาในไทย แนวโน้มในอนาคต คาดว่าการแข่งขันในตลาดเหล็กไทยจะยังคงรุนแรงต่อไปในอนาคต ผู้ประกอบการเหล็กไทยจะต้องปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอดในระยะยาว ส่วนในแต่ละปี มีการประเมินจาก Krungthai COMPASS ว่าปี 2567 ไทยจะมีปริมาณการใช้เหล็กโดยรวม 15.7 ล้านตัน ลดลง -3.8% รวมไปถึง 3 ปัจจัยใหม่ที่ต้องจับตาเฝ้าระวัง ได้แก่ สัดส่วนการใช้เหล็กต่อรถยนต์ 1 คัน มีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ ในอนาคต จากสัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV ที่มากขึ้นแทน รถยนต์สันดาป ICE โครงการ Mega Project ภาครัฐใหม่ๆ จะสนับสนุนใช้เหล็กทรงยาว และยังเป็นความต้องการภายในประเทศต่อไปได้ ประเด็น ESG ที่กดดันผู้ประกอบการทั้งด้านต้นทุน และการแข่งขัน เพื่อทำให้การผลิตเหล็ก ลดการก่อมลพิษและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น เรียกได้ว่าไทยต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายด้านทั้ง อุตสาหกรรมเหล็กไทยเสี่ยงจากผลกระทบ 3 ด้าน ด้านที่ 1 การทะลักของเหล็กจีน จีนย้ายฐานการผลิตเหล็ก กดดันผู้ผลิตเหล็กไทย อุตสาหกรรมเหล็กไทยยังอยู่ในอาการที่น่าห่วง จากต้องต่อสู้กับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากเหล็กนำเข้าที่โหมกระหนํ่าเข้ามาตีตลาดอย่างไม่ขาดสาย มีทั้งเหล็กคุณภาพดีและเหล็กไม่ได้มาตรฐานปะปนมาขายในราคาตํ่า อุตสาหกรรมเหล็กไทยต้องเผชิญกับความท้ายทายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันกับเหล็กจีนที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด และกดดันให้ราคาเหล็กอยู่ในเทรนด์ขาลง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีผู้ประกอบการจะมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากปัญหา Stock Loss ได้   ด้านที่ 2 การตั้งโรงงานจีนแข่งขันกับผู้ผลิตไทย ปี 2567 โรงงานผลิตเหล็กที่มีการลงทุนจากจีนคิดเป็น 16%

พามาเบิ่ง อุตสาหกรรมเหล็กไทยเสี่ยงจากผลกระทบ 3 ด้าน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top