ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา โลกได้เผชิญกับความเปราะบางของระบบการเงินที่แสดงให้เห็นว่า แม้ธนาคารจะมีขนาดใหญ่และเก่าแก่แค่ไหน ก็ไม่สามารถรับประกันความมั่นคงได้ตลอดไป
และล่าสุดกระแสการอายัดบัญชีในไทยเมื่อไม่นานมานี้ ที่ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยต่างเร่งถอนเงินสดออกจากธนาคาร เป็นภาพสะท้อนความไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นในทุกประเทศเมื่อระบบการเงินสั่นคลอน และเมื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เราก็อาจจะเห็นบทเรียนสำคัญว่าความเชื่อมั่นเป็นตัวแปรหลักที่กำหนดชะตาของธนาคารนั่นเอง
หากย้อนกลับไปดูตัวอย่างในโซนยุโรป ก็จะพบกรณี Banco Popular ของสเปนในปี 2017 ที่มีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวนมากจนต้องขายกิจการให้ Santander ในราคาเพียง 1 ยูโร
ส่วนในเอเชีย PMC Bank ของอินเดียก็ประสบปัญหาหนี้เสียมากถึง 73% จนผู้ฝากเงินไม่สามารถเข้าถึงเงินของตัวเองได้
ขณะที่ Yes Bank ก็ต้องเผชิญการแห่ถอนเงินของประชาชน รัฐบาลจึงต้องเข้ามาอุ้มเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤติการเงินนั่นเอง
ข้ามไปเวียดนาม Saigon Commercial Bank กลายเป็นบทเรียนสำคัญเรื่องการกำกับดูแลที่หละหลวม เมื่อปัญหาทุจริตและหนี้เสียก่อให้เกิดการสูญเสียศรัทธาของผู้ฝากเงินอย่างรุนแรง
ในระดับโลก ชื่อที่สะเทือนใจมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Credit Suisse หนึ่งในธนาคารเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ต้องถูก UBS ซื้อกิจการในปี 2023 เพื่อหยุดยั้งการล้มละลายนั่นเอง
ขณะที่สหรัฐอเมริกาเองก็เผชิญวิกฤติครั้งใหญ่จาก Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งสะท้อนการเกิด “Bank Run ยุคดิจิทัล” ที่การถอนเงินพร้อมกันเพียง 48 ชั่วโมงสามารถล้มธนาคารได้ทันที และเมื่อ SVB ล้มลง ความเชื่อมั่นก็สั่นคลอนไปยัง First Republic Bank และ Signature Bank ที่ต้องปิดกิจการตามมาอีกด้วย
การล้มละลายของธนาคารเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องการจัดการภายในหรือความผิดพลาดเชิงธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา ซึ่งเมื่อความเชื่อมั่นหายไป ผู้ฝากเงินเลือกที่จะถอนเงินโดยไม่สนใจว่าในเชิงบัญชีธนาคารยังมีสินทรัพย์อยู่หรือไม่ ผลลัพธ์คือระบบการเงินทั้งหมดอาจล้มพังได้ในเวลาอันสั้นนั่นเอง
ผลกระทบจากการล้มละลายของธนาคารมีหลากหลายมิติ ตั้งแต่ระดับมหภาคที่ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก การลงทุนหดหาย และตลาดเงินผันผวน ไปจนถึงระดับจุลภาคที่ผู้ประกอบการ SME ขาดเงินทุนหมุนเวียน และประชาชนสูญเสียความมั่นใจต่อการออมในระบบธนาคาร เม็ดเงินจำนวนมากจึงไหลไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่น ทองคำหรือพันธบัตรรัฐบาล สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินและตลาดทุนโลก
บทเรียนจากต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า การล้มของธนาคารไม่ใช่แค่ปัญหาของสถาบันใดสถาบันหนึ่ง แต่คือ “ความเสี่ยงเชิงระบบ” ที่พร้อมจะกระทบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม หากปล่อยให้ความไว้วางใจพังทลายลงนั่นเอง
อ้างอิงจาก:
– FDIC
– RBI
– Reuters
– Bloomberg
– MONEY LAB
ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่
https://linktr.ee/isan.insight
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ธนาคาร #เงินฝาก #ธนาคารล่ม