Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

พาสำรวจเบิ่ง 4 ยักษ์ใหญ่แห่งแดนภูธรที่ครองสิทธิบริหาร 7-Eleven

การเข้ามาของร้าน “เซเว่น-อีเลฟเว่น” มากกว่า 35 ปีที่ นอกจากพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล “ซีพี ออลล์” ต้องการบุกตลาดต่างจังหวัดควบคู่ไปด้วย “กลุ่มซีพี” จึงให้ “Sub-Area License” กับ 4 กลุ่มทุนรายใหญ่ใน 4 พื้นที่ ได้แก่ กลุ่มตันตราภัณฑ์ กลุ่มงานทวี กลุ่มยิ่งยง และกลุ่มศรีสมัย   การเติบโตของ “4 กลุ่มทุนเก่าแก่” มีต้นกำเนิดจากร้านโชห่วย-ขายของชำ ก่อนแตกไลน์ธุรกิจไปยังเซกเมนต์อื่นๆ โดยกลุ่มตันตราภัณฑ์โด่งดังจาก “ห้างตันตราภัณฑ์” กลุ่มยิ่งยงโตจาก “ยิ่งยงสรรพสินค้า” กลุ่มศรีสมัยมีรากฐานจาก “ศรีสมัยค้าส่ง” ส่วนกลุ่มงานทวีมีธุรกิจหลากหลาย จากร้านของชำพลิกไปทำเหมืองแร่-สวนยางพารา   ทั้ง “4 กลุ่มทุน” มีรายได้จากการถือ “Sub-Area License” หลักพันล้านบาททุกปี     ภาคเหนือ – กลุ่มตันตราภัณฑ์ กลุ่มตันตราภัณฑ์ของตระกูล “ตันตรานนท์” มีต้นตระกูลเป็นชาวจีนชื่อว่า “เถ้าแก่ง่วนชุน” เริ่มต้นจากการเปิดร้านขายของชำเรือนไม้ 2 ชั้น ริมถนนวิชยานนท์ ใกล้กับตลาดต้นลำไยและตลาดวโรรสหรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า “กาดหลวง” เมื่อธุรกิจร้านโชห่วยเติบโตมากขึ้น ลูกชายอย่าง “ธวัช ตันตรานนท์” จึงคิดหาลู่ทางขยายกิจการ-ขยับสู่การทำห้างสรรพสินค้า “ตันตราภัณฑ์”   จุดเปลี่ยนสำคัญของ “กลุ่มตันตราภัณฑ์” เกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 2530 “กลุ่มเซ็นทรัล” และบรรดา “ดิสเคาต์สโตร์” เริ่มขยายตลาดมายังภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น เมื่อดำเนินกิจการไปสักระยะก็พบว่า ศูนย์การค้าไม่ใช่เกมที่ตนถนัดประกอบกับห้างตันตราภัณฑ์เริ่มถูก “ดิสรัปต์” จากค้าปลีกเซ็นทรัลมากขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจขายศูนย์การค้า “แอร์พอร์ตพลาซ่า” ให้กับกลุ่มเซ็นทรัล เหลือไว้เพียง “ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต” ที่เป็นจุดแข็งมาจนถึงปัจจุบัน   นอกจากธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้ว “กลุ่มตันตราภัณฑ์” ยังมีรายได้หลักจาก “บริษัท ชอยส์ มินิ สโตร์ จำกัด” บริษัทที่ประกอบกิจการร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน และ จ.แม่ฮ่องสอน ผลประกอบการย้อนหลังตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2565 พบว่า บริษัทฯ มีรายได้หลัก “พันล้านบาท” ทุกปี และ ในปี 2566 ทำรายได้ “หลักหมื่นล้าน” เลยทีเดียว และยังเป็นกิจการที่สร้างเม็ดเงินให้กับ “กลุ่มตันตราภัณฑ์” สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในเครือด้วย     ภาคอีสาน – กลุ่มยิ่งยง ย้อนกลับไป 30 …

พาสำรวจเบิ่ง 4 ยักษ์ใหญ่แห่งแดนภูธรที่ครองสิทธิบริหาร 7-Eleven อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาส่องเบิ่ง ตัวอย่าง “โรงน้ำตาล” เจ้าใหญ่แห่งภูธรอีสาน🏭

📈📊ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลก โดยในปี 2566 ไทยครองตำแหน่งผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่าการส่งออกสูงถึง 4,506 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรองเพียงบราซิลที่เป็นผู้นำด้านการส่งออกน้ำตาลของโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 15,982 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับคู่แข่งที่สำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกน้ำตาลใกล้เคียงกับไทย ได้แก่ อินเดียและเยอรมนี ซึ่งมูลค่าการส่งออกของทั้งสองประเทศมีการเปลี่ยนแปลงลำดับกันในแต่ละปีขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและการส่งออกในช่วงเวลานั้น ๆ    ภาคอีสานถือเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลจากอ้อยที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย โดยในฤดูกาลผลิตปี 2567/2568 ประเทศไทยมีปริมาณอ้อยรวมทั้งหมด 93.2 ล้านตัน ซึ่งภาคอีสานมีปริมาณอ้อยถึง 45.9 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของปริมาณอ้อยทั้งประเทศเลยทีเดียว ภายในภาคอีสานมีโรงงานน้ำตาลทั้งหมด 23 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มธุรกิจน้ำตาลรายใหญ่ในประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางโรงงานที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มทุนใหญ่ เช่น บริษัท โรงงานน้ำตาลทรายขาวเริ่มอุดม จำกัด, บริษัท โรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน), และบริษัท น้ำตาลเอราวัณ จำกัด เป็นต้น   กลุ่มธุรกิจน้ำตาลที่เลือกตั้งโรงงานในภาคอีสานส่วนใหญ่นั้นเป็นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี อย่างกลุ่มมิตรผล, กลุ่มวังขนาย, กลุ่มไทยรุ่งเรือง, กลุ่ม Thai Sugar Mill หรือ รู้จักกันในนาม GOOD SUGAAAR, กลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBS) และน้ำตาลขอนแก่น (KSL) ซึ่งการเลือกตั้งโรงงานในภาคอีสานก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาคอีสานในฐานะพื้นที่ผลิตที่มีบทบาทสำคัญต่อกลยุทธ์ของบริษัท การตั้งโรงงานในพื้นที่ผลิตอ้อยช่วยลดต้นทุนการขนส่งวัตถุดิบ ซึ่งเป็นต้นทุนส่วนสำคัญในการผลิตน้ำตาล     🏬จากข้อมูลอันดับข้างต้นก็จะพบว่า บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด มีมูลค่ารายได้รวมมากที่สุดในอีสาน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทน้ําตาลมิตรผล ที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ําตาลรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง “มิตรผล” ได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จํากัด ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 490 ลานบาท และเป็นเจาของโรงงานน้ําตาล 2 แห่ง คือ  – โรงงานน้ําตาลมิตรภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ มีอัตราการผลิตอ้อย 25,000 ตัน/วัน และสามารถผลิตน้ําตาลทรายขาวบริสุทธิ์ได้ 1,500 ตัน/วัน โรงงานผลิตน้ําตาล 4 ประเภท คือ น้ําตาลทรายดิบ น้ําตาลทรายดิบคุณภาพสูง (VHP) น้ําตาลทรายขาว และน้ําตาลทรายขาวบริสุทธิ์    – โรงงานน้ําตาลมิตรภูเวียง จังหวัดขอนแกน มีอัตราการผลิตอ้อย 24,000 ตัน/วัน และสามารถผลิตน้ําตาลทรายขาวบริสุทธิ์ได้ 700 ตัน/วัน โรงงานผลิตน้ําตาล 5 ประเภท คือ น้ําตาลทรายดิบ น้ําตาลทรายดิบคุณภาพสูง (VHP) น้ําตาลทรายขาว น้ําตาลปี๊บ และน้ําตาลทรายแดง นอกจากนี้โรงงานสามารถผลิตกระแสไฟฟา และจําหน่ายให้แก่การไฟฟาแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราการผลิต …

🔎พาส่องเบิ่ง ตัวอย่าง “โรงน้ำตาล” เจ้าใหญ่แห่งภูธรอีสาน🏭 อ่านเพิ่มเติม »

3 วัดชื่อดังของแต่ละประเทศเพื่อนบ้าน สายบุญห้ามพลาด!

วันนี้เราจะพามาแนะนำวัดชื่อดังที่สายบุญห้ามพลาด ต้องได้ลองไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต   ไทย(อีสาน) – วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา  วัดเก่าแก่ในตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด เป็นวัดสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตของ พระเทพวิทยาคม หรือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” พระเกจิชื่อดังซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างสำคัญ ๆ อยู่หลายอาคาร ได้แก่ พระอุโบสถ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ หอแก้ว หอระฆัง อาคารประชาสัมพันธ์ ศูนย์โอทอป (OTOP) และที่โดดเด่นสวยงามอย่างมากคือ หอเทพวิทยาคม เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (อาคารปริสุทธปัญญา) ซึ่งเป็นอุทยานธรรม 5 ชั้น กลางบึงน้ำขนาดใหญ่    -วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ที่ถนนประจักษ์ศิลปาคม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วิจิตรตระการตา และเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปสำคัญคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย ในสมัยล้านช้าง หล่อด้วยทองสีสุก หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ซึ่งในช่วงวันสงกรานต์ของทุกปี จะมีการจัดงานสมโภชและขบวนแห่ให้ชาวหนองคายได้สรงน้ำหลวงพ่อพระใสเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอีกด้วย   -วัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองยโสธร ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองยโสธร อำเภอเมืองยโสธร ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญคือ “พระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์” หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยเชียงแสน เป็นพระบูชาคู่บ้านคู่เมืองของยโสธรและเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำเมืองที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย และพระธาตุอานนท์ พระธาตุเก่าแก่ที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน   ลาว –วัดเชียงทอง สร้างขึ้นใน พ.ศ.2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เป็นวัดสวยของหลวงพระบางที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ที่นี่ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ และสวยที่สุดในหลวงพระบาง จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็น “อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง” เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนือที่งดงามมาก  จุดเด่นที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือ วิหารพระม่าน และหอพระพุทธไสยาสน์ ผนังด้านนอกทาพื้นเป็นสีชมพูกุหลาบ ตกแต่งดอกลวดลายสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลวงพระบาง ถ้าใครได้มาเที่ยวหลวงพระบางแล้ว ไม่ได้แวะมาเยือนวัดเชียงทอง แทบเหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบางเลยทีเดียว   –พระธาตุพูสี ตั้งอยู่บนยอดเขากลางเมืองหลวงพระบาง ที่มีความสูงถึง 150 เมตรเลยทีเดียว สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ประมาณปี พ.ศ.2337 และเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของชาวหลวงพระบาง มีพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ การขึ้นพระธาตุพูสี ต้องเดินขึ้นบันไดจำนวน 328 ขั้น ทางขึ้นพระธาตุมี 2 ทาง คือทางฝั่งแม่น้ำคาน กับฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งมีความสวยงามต่างกันไป อีกทั้งด้านบนยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของหลวงพระบาง สามารถมองเห็นวิวหลวงพระบางได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว   –วัดโพนไซ วัดโพนไซ หรือ วัดโพนชัยชนะสงคราม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2344 โดยพระเจ้าอนุรุทธราช กษัตริย์แห่งหลวงพระบาง พระอุโบสถเป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ในอดีตมีความเชื่อกันว่า …

3 วัดชื่อดังของแต่ละประเทศเพื่อนบ้าน สายบุญห้ามพลาด! อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “เถ้าแก่น้อยร้อยล้าน” แห่งภูธรอีสาน

คุณณิชกานต์ พัฒนพีระเดช📍สาวขอนแก่น เจ้าของ “แฟรี่พลาซ่า” , “ตลาดต้นตาล” และ “ศูนย์ค้าส่ง อู้ฟู่ ขอนแก่น” “ตลาดต้นตาล” แลนด์มาร์คเมืองของแก่น ที่มีทายาทรุ่นสาม เข้ามาร่วมพลิกโฉมจังหวัดขอนแก่นให้มีสีสันทั้งกลางวันและกลางคืน จากครอบครัวที่ทำธุรกิจเปิด “ห้างแฟรี่พลาซ่า” เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 50 ปี จนกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของขอนแก่น แต่ต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงและธุรกิจห้างไม่ได้อยู่ในช่วงขาขึ้น จึงนำไปสู่การทำไนท์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในจังหวัด   ซึ่งกลยุทธ์ของตลาดต้นตาลจะมุ่งจัดกิจกรรมทางด้านบันเทิงอย่างเข้มข้น เพื่อทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องมาเยือน และร่วมกระตุ้นค้าปลีก จากการดึงผู้ประกอบการท้องถิ่นเข้ามาเปิดร้านค้า ร่วมสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจของจังหวัด   นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาธุรกิจค้าปลีกกับ “ห้างแฟรี่พลาซ่า” ที่อยู่ในตลาดมากกว่า 50 ปี โดยเป็นห้างบุกเบิกของจังหวัดขอนแก่น ได้มีการวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดและอีเว้นท์อย่างเข้มข้นเช่นกัน ร่วมเพิ่มยอดทราฟฟิกของห้างให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางตลาดค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว!      คุณจิรเดช เนตรวงค์📍หนุ่มร้อยเอ็ด เจ้าของ “ร้านตำกระเทย” ที่เริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยหนี้สินก้อนโต ทำให้ประสบปัญหาทางด้านการเงินในชีวิต จนต้องหาที่พึ่งพิงสุดท้ายจากครอบครัว ยืมเงินจากบัตรเครดิตของน้องชายมา 400,000 บาท และมาเริ่มต้นใหม่ในการทำธุรกิจร้านอาหาร โดยใช้ปลาร้าสูตรของคุณแม่ที่ทำกินเองที่บ้าน นำมาต่อยอดปรับสูตร ทำให้ได้รสชาติที่คิดว่าคนส่วนใหญ่ชอบทาน แม้ว่าในช่วงแรกที่เริ่มต้นจะขาดทุนกว่า 6 เดือน แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ด้วยการขายสร้อยทองชิ้นสุดท้ายของคุณแม่ในการพัฒนาธุรกิจ   จากร้านส้มตำเล็กๆ คุณจิรเดชได้พัฒนาร้านโดยใช้สื่อโซเชียลในการโปรโมทร้านจนเริ่มเป็นที่รู้จัก จนทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยใช้เวลา 10 ปี ในการพาร้านอาหารขยายสาขาไปทั่วอีสาน 11 สาขาทั่วอีสาน เปิดในกรุงเทพฯ 1 สาขา และเปิดในกัมพูชาอีก 1 สาขา สร้างยอดขาย 300 ล้านบาท   ในปัจจุบัน ตำกระเทย สาเกต ได้ขยายธุรกิจจากแดนอีสานเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ย่านสีลม และขยายไปต่างประเทศที่กัมพูชา โดยเป็นฝีมือการทำอาหารจากชาว LGBTQ ที่ไม่ได้รับโอกาส แต่ที่ร้านตำกระเทยเป็นผู้ให้โอกาสได้โชว์ฝีมือการทำอาหาร และเมนูที่ขายดี คือ ส้มตำ ที่ใช้น้ำปลาร้าในการปรุงอาหารทำให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น ที่ทำรายได้กว่า 50% ของยอดขาย ซึ่งในปีที่ผ่านมาตำไปแล้วว่า 1 ล้านครก   คุณภูดิศ ประดับโชติ📍หนุ่มบุรีรัมย์ หนุ่มบุรีรัมย์ที่เรียนจบเลือกมาทำงานในกรุงเทพ ฯ ทำงานมาหลายอาชีพ ตั้งแต่เป็นคนจัดตารางวิทยุ พนักงานออฟฟิศ ขายไก่ย่างห้าดาว และเป็นตัวแทนจำหน่ายไอศกรีม จนในที่สุดเลือกที่จะมาทำธุรกิจของตัวเอง ใช้เงินลงทุนเพียงหลักพัน ขายเฉาก๊วยริมถนนในจังหวัดหนองคาย    จนกระทั่งมีคนมาเหมาไปเป็นของว่างงานประชุมตามบริษัทต่าง ๆ ทำให้คุณภูดิศเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจแฟรนไชส์ หลังจากนั้นคุณภูดิศได้มีไปออกงานแสดงสินค้าประจำปี งานบุญพระธาตุหลวงเวียงจันทร์ที่ สปป.ลาว ขายทั้งหมด 7 วัน ได้วันละ 2,000 แก้ว ทำให้มีคนสนใจธุรกิจแฟรนไชส์ โดยใช้เวลากว่า 5 …

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “เถ้าแก่น้อยร้อยล้าน” แห่งภูธรอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พลิกโฉมนครพนม กับสุดยอดโครงการคมนาคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย โดยเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งด้านประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจ ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP) เท่ากับ 50,217,015 บาท นครพนมยังมีบทบาทสำคัญในฐานะประตูเชื่อมต่อไทย ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 สะพานมิตรภาพแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 โดยเชื่อมต่อจังหวัดนครพนมกับแขวงคำม่วนของประเทศลาว ด้วยความยาว 780 เมตร และทัศนียภาพที่สวยงามของแนวเขา สะพานแห่งนี้กลายเป็นเส้นทางสำคัญทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการค้า ระหว่างประเทศไทย เวียดนาม และจีนตอนใต้ ข้อมูลเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-ลาวแสดงให้เห็นถึงมูลค่าการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังลาวที่ 6,705 ล้านบาท และการนำเข้าสินค้าจากลาวที่ 64,302 ล้านบาท สะพานแห่งนี้จึงเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนย้ายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค โครงการพัฒนาด้านคมนาคมสำคัญในอนาคต เพื่อยกระดับศักยภาพของจังหวัดนครพนม ภาครัฐได้ผลักดันหลากหลายโครงการคมนาคมที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและการขนส่งในพื้นที่ 1. รถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม เส้นทาง: บ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด – มุกดาหาร – นครพนม (สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3) ระยะทาง: 355 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ: 66,848 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ: พ.ศ. 2571 ศักยภาพ: เชื่อมต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับพื้นที่เศรษฐกิจทางตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) รองรับผู้โดยสารได้ถึง 3.8 ล้านคนต่อปี เพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์เกษตร ซีเมนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค มากถึง 700,000 ตันต่อปี 2. ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม พิกัด: ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม มูลค่าโครงการ: 1,300 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ: พ.ศ. 2568 ศักยภาพ: เป็นศูนย์รวมการรวบรวม คัดแยก และกระจายสินค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ สนับสนุนการเชื่อมโยงกับรถไฟทางคู่และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ 3. ถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน พิกัด: สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 – ทล.212 อำเภอท่าอุเทน (ระยะทาง 23.1 กิโลเมตร) มูลค่าโครงการ: 949 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ: พ.ศ. 2568 ศักยภาพ: เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมระหว่างไทยและลาว สนับสนุนการขนส่งสินค้าด้วยระบบโลจิสติกส์ที่ครบวงจร เพิ่มโอกาสด้านการค้าและการลงทุน ด้วยศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังจะเกิดขึ้น นครพนมจึงเป็นพื้นที่ที่มีอนาคตสดใสในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการคมนาคม นอกจากจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของจังหวัด ยังส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน.   ที่มา: ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางบก, สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม, การรถไฟแห่งประเทศไทย, สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

พามาเบิ่ง คนอีสานยังดูโทรทัศน์/ฟังวิทยุกันอยู่บ่ เเละคนเเต่ละจังหวัดมักช่องไหนมากสุด

. การสื่อสารถือได้ว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ สามารถทำให้สังคมดำรงอยู่ได้และเกิดการผลักดันสังคม ให้พัฒนาไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งสังคมและประเทศจะพัฒนาได้นั้น ประชาชนจะต้องได้รับความรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติความเชื่อ พฤติกรรม และวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เกิดขึ้น การสื่อสารจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าในทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองให้แก่ชุมชนและประเทศชาติ . เเม้ในยุคปัจจุบันผู้คนจะใช้โทรศัพย์มือถือมากขึ้น เเต่ประชาชนร้อยละ 80.7 ระบุว่ารับรู้ข้อมูลข่าวสารจากโทรทัศน์มากที่สุด มากกว่า สื่อสังคมออนไลน์เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ ติ๊กต็อก รองลงมาคือพูดคุยกับคนรอบตัว เเละวิทยุก็ยังเป็นอีกช่องทางสื่อสารที่สําคัญ . ในภาคอีสานจากการสำรวจการรับฟัง/รับชมรายการ ของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ . พบว่า ร้อยละของประชาชนที่รับชมรายการจากสถานีโทรทัศน์ มากที่สุดอยู่จังหวัดศรีสะเกษ 97.1 % รองลงมาคือบึงกาฬเเละขอนเเก่น โดยสถานีโทรทัศน์ที่รับชมมากที่สุดจะมีอยู่ 2 ช่องคือ ช่อง 7 HD เเละ ช่อง 3 HD . ส่วนวิทยุนั้นร้อยละของประชาชนที่รับฟังรายการจากสถานีวิทยุมากสุดอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด 72.9 % ส่วนน้อยสุดอยู่ที่หนองคาย 16.3 % สถานีวิทยุที่รับฟังมากที่สุด จะเป็นวิทยุชุมชนไม่ก็ สวท.   โดยช่วงเวลาที่คนอีสานรับฟังวิทยุมากสุด คือช่วง  5.00-09.00 น. เเต่รับชมโทรทัศน์มากสุดในช่วง 18.01-21.00 น. . อาชีพข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้าง ของรัฐ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ รับฟังวิทยุมากสุดเป็นร้อยละ 39.2  ส่วนอาชีพอื่น ๆ เช่น พ่อบ้าน/แม่บ้าน ข้าราชการบำนาญ ชรา ว่างงาน/ไม่มีงานทำรับชมโทรทัศน์มากสุดถึงร้อยละ 90.6 . เเละจากการสํารวจ รายการที่ต้องการฟัง  ร้อยละของประชาชนที่รับฟังรายการจากสถานีวิทยุ จำแนกตามรายการวิทยุที่ต้องการรับฟัง 5 อันดับแรก 1.รายการข่าวสาร 73.7% 2.รายการเพลง 60.9% 3.รายการข่าวสารและบันเทิง 26.7% 4.รายการบันเทิง 18.7% 5.รายการท้องถิ่น 13.1% . รายการโทรทัศน์ที่ต้องการรับชม ร้อยละของประชาชนที่รับชมรายการจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ จำแนกตามรายการโทรทัศน์ที่ต้องการ รับชม 5 อันดับแรก 1.รายการข่าวสาร 68.5% 2.รายการละคร 53.2% 3.รายการข่าวสารและบันเทิง  41.8% 4.รายการบันเทิง 40.3% 5.รายการกีฬา 28.5% . ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ,กรมประชาสัมพันธ์ หมายเหตุ : เป็นร้อยละของกลุ่มตัวอย่างประชาชนผู้ตอบสัมภาษณ์ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ …

พามาเบิ่ง คนอีสานยังดูโทรทัศน์/ฟังวิทยุกันอยู่บ่ เเละคนเเต่ละจังหวัดมักช่องไหนมากสุด อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง “ป่า” แต่ละจังหวัดในอีสานมีมากแค่ไหน

ภาคอีสานของเรามีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมดเกือบ 105 ล้านไร่ แล้วเคยรู้หรือไม่ว่าพื้นที่ป่าในภาคอีสานมีมากแค่ไหน?   โดยในภาคอีสานของเรามีพื้นที่ป่าเกือบ 16 ล้านไร่ หรือคิดเป็นสัดส่วน 14.9% ของขนาดพื้นที่ทั้งหมดในภาคอีสาน ซึ่งลดลงจากปี 2565 เท่ากับ 87,576 ไร่ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use Change) จากพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ชุมชนหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือเกิดจากปัญหาไฟป่าที่มีความรุนแรงขึ้น (Forest Fire)   การตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่ายังคงเกิดขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา   การขยายตัวทางการเกษตรยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของป่า และทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพของป่าไม้ การเกษตรเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (โดยเฉพาะการเลี้ยงปศุสัตว์) และเกษตรกรรมเพื่อการยังชีพในท้องถิ่น     5 จังหวัดที่มีสัดส่วนพื้นที่ป่ามากที่สุด อันดับที่ 1 มุกดาหาร คิดเป็น 32.%% หรือ 8.5 แสนไร่ อันดับที่ 2 เลย คิดเป็น 32.2% หรือ 21.1 แสนไร่ อันดับที่ 3 ชัยภูมิ คิดเป็น 31.5%  หรือ 25.0 แสนไร่ อันดับที่ 4 อุบลราชธานี คิดเป็น 17.7% หรือ 17.3 แสนไร่ อันดับที่ 5 สกลนคร คิดเป็น 16.9% หรือ 10.1 แสนไร่   หากดูสัดส่วนของพื้นที่ป่าต่อพื้นที่จังหวัดจะเห็นได้ว่า มุกดาหาร มีสัดส่วนป่ามากสุดในอีสาน ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเป็นภูเขาสูง ติดต่อมาจากเทือกเขาภูพาน อีกทั้งในจังหวัดยังให้ความสำคัญในการปลูกป่าโดยมีการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการปลูกฟื้นฟูสภาพป่าในทุกๆปี     หมายเหตุ: พื้นที่ป่าไม้ คือ “พื้นที่ปกคลุมของพืชพรรณที่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นไม้ยืนต้น ปกคลุมเป็นผืนต่อเนื่องขนาดไม่น้อยกว่า 3.125 ไร่ และรวมถึงทุ่งหญ้า และลานหินที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่ปรากฏล้อมรอบด้วยพื้นที่ที่จำแนกได้ว่าเป็นพื้นที่ป่าไม้ โดยไม่รวมสวนยูคาลิปตัส พื้นที่วนเกษตร สวนผลไม้ สวนยางพารา และสวนปาล์ม”     อ้างอิงจาก:  – กรมสารสนเทศ กรมป่าไม้ – มูลนิธิสืบนาคะเสถียร – Salika.co – กรุงเทพธุรกิจ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ …

พาสำรวจเบิ่ง “ป่า” แต่ละจังหวัดในอีสานมีมากแค่ไหน อ่านเพิ่มเติม »

พาเลาะเบิ่ง “โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น” ในอีสาน

ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา จ.นครราชสีมา โดยมีลักษณะงานก่อสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 6 ชั้น และห้อง LINAC จำนวน 2 ห้อง รวมถึงลานจอดรถ และทางเชื่อมระหว่างอาคาร ประกอบด้วย งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานระบบไฟฟ้า-สื่อสาร งานระบบสุขาภิบาล งานป้องกันอัคคีภัย งานปรับอากาศและระบายอากาศ งานระบบก๊าซทางการแพทย์ งานระบบขนส่งแนวดิ่ง(ลิฟต์) งานตกแต่งภายใน และงานครุภัณฑ์ทางการแพทย์ มูลค่ารวม 900 ล้านบาท  ระยะเวลาก่อสร้าง 990 วัน   ศูนย์ฝึกกีฬาคนพิการแห่งชาติ จ.นครราชสีมา งบประมาณในการก่อสร้าง 344 ล้านบาท โดยในตอนนี้ศูนย์ฝึกกีฬาคนพิการหลักอยู่ที่ จ.นครราชสีมา, สุพรรณบุรี และมีบางส่วนที่ จ.ชลบุรีด้วย เป็นการสร้างศูนย์ใหญ่ที่ครบวงจรเลยที่นครราชสีมา เพราะมีความพร้อมที่้ครบครั่น เช่น วีลแชร์เรซซิ่งก็จะมีลู่ที่ได้มาตรฐสากล รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาคนพิการโดยเฉพาะ   สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำลำปาว จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณในการก่อสร้าง 950 ล้านบาท มีจุดเริ่มต้นบริเวณบ้านดงน้อย ต.ภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ ข้ามอ่างเก็บน้ำลำปาว ไปยังจุดสิ้นสุดสะพานบริเวณบ้านโนนทัน ต.สำราญใต้ อ.สามชัย ความยาวประมาณ 1,325 เมตร และเมื่อโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้น จะทำให้การคมนาคมทางรถยนต์เชื่อมระหว่าง อ.สหัสขันธ์ กับ อ.สามชัย และอีกหลายๆ อำเภอใน จ.กาฬสินธุ์ รวมถึงการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด จะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนผู้ที่ใช้เส้นทางสายดังกล่าว   ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2169 สายยโสธร – อ.กุดชุม ตอน 1 และก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2169 สายยโสธร – อ.กุดชุม ตอน 2 จ.ยโสธร งบประมาณในการก่อสร้างรวมกว่า 1,134 ล้านบาท โดยมีระยะทางกว่า 28 กม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย AH121 เชื่อมเวียดนาม – สปป.ลาว – ไทย – กัมพูชา มายังเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC ของไทย คาดแล้วเสร็จปี 70   จากสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ที่มีฝนตกหนักในพื้นที่พม่า จีน และ สปป.ลาว ในปริมาณมาก ทำให้น้ำจำนวนมหาศาลไหลเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดริมน้ำโขงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้อย่างมาก จึงเกิดแผนโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและซ่อมแซ่มตลิ่งในพื้นที่จังหวัดที่ได้ผบกระทบ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 790 ล้านบาท ได้แก่  – สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมห้วยบางทราย จ.มุกดาหาร  – สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมหนองค้า จ.มุกดาหาร – …

พาเลาะเบิ่ง “โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น” ในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 10 สถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสานที่ควรไปเยือนสักครั้ง

. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (จังหวัดอุบลราชธานี) . หาดดอกเกด (จังหวัดกาฬสินธุ์) . สามพันโบก (จังหวัดอุบลราชธานี) . หินสามวาฬ (จังหวัดบึงกาฬ) . วัดป่าภูก้อน (จังหวัดอุดรธานี) . ภูทอก (จังหวัดบึงกาฬ) . ปราสาทหินพนมรุ้ง (จังหวัดบุรีรัมย์) . Blue Lagoon ภูผาม่าน (จังหวัดขอนแก่น) . หมู่บ้านช้าง (จังหวัดสุรินทร์) . เมืองเชียงคาน (จังหวัดเลย) . สถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสานนั้นช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในหลายด้าน เช่น รายได้จากค่าธรรมเนียมเข้าชม การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และยังมีธุรกิจผุดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น  ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และการขนส่ง ที่ช่วยให้เกิดการจ้างงานคนในชุมชนต่างๆ ทำให้เกิดการกระจายรายได้ในชุมชน . รายได้จากการท่องเที่ยวภาคอีสานปี พ.ศ 2567 นั้นสูงถึง 75,366 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 19.4% เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว รัฐบาลและเอกชนจึงต้องมีการลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ทางเดิน และสาธารณูปโภค สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลให้คนในชุมชนได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น และผลกระทบที่ตามมาแน่นอนคือเรื่องการรักษาสิ่งแวดหากไม่การควบคุมที่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหาขยะมากมายตามสถานที่ท่องเที่ยว  . เราจึงควรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อไม่แออัดเกินไปและเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว อีกอย่างการส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิลยังช่วยลดปัญหาขยะ และยังสามารถส่งเสริมให้คนในชุมชนผลิตบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาห่อสินค้าผลิตภัณฑ์ชองชุมชน แถมเป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้อีกด้วย . ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์#สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน#ท่องเที่ยว#เที่ยวอีสาน  

Seagate โคราช หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลก

ชื่อบริษัท: บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ปีที่ก่อตั้ง (โรงงานผลิตในไทย): โรงงานเทพารักษ์ พ.ศ. 2531 โรงงานโคราช พ.ศ. 2539 โรงงานโคราช 2 พ.ศ. 2558 ทุนจดทะเบียน: 30,829 ล้านบาท ประเภทธุรกิจ: การผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วง (26209) ส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ: 36.36%* สำนักงานใหญ่: ฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา HDD ของ Seagate มีรุ่นอะไรบ้าง: IronWolf / Pro Exos SkyHawk BarraCuda Portable Hard Drive   ปี รายได้รวม (ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลง 2565 180,663 8.34 2566 146,451 -24.79 2567 125,073 -14.59   ปี กำไรสุทธิ (ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลง 2565 5,318 7.56 2566 4,345 -18.3 2567 3,712 -14.57   ขนาดโรงงานการผลิตของ Seagate ทั่วโลก ประเทศ พื้นที่โดยประมาณ (ตร.ม.)** โคราช 251,000 สิงคโปร์ 140,000 มินนิโซตา 101,000 จีน (อู๋ซี) 65,000 มาเลเซีย (ยะโฮร์) 58,000 ไอร์แลนด์เหนือ 44,000 เทพารักษ์ 42,000 หมายเหตุ:  เป็นการเปรียบเทียบรายได้รวมของบริษัทกับธุรกิจทุกขนาดที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันทั้งประเทศ พื้นที่ของโรงงานเป็นการแปลงหน่อยจาก ตร.ฟุต เป็น ตร.ม. ทำให้อาจมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ฮู้บ่ว่า? ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกฮาร์ดดิสก์รายใหญ่อันดับสองของโลก เป็นรองเพียงประเทศจีนเท่านั้น โดยในปี 2566 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 8,151 ล้านดอลลาร์ สรอ. ปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 11,537 ล้านดอลลาร์ สรอ. (-29.35%) เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีน และประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk Drive: HDD) รายใหญ่ของโลก แต่ว่าการส่งออกนั้นไม่ใช่ในนามของแบรนด์สินค้าภายในประเทศตนเอง กล่าวคือประเทศเหล่านี้เป็นฐานการผลิตให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มาตั้งโรงงานการผลิตภายในประเทศ ดังนั้นหากเรามองดูการครองส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ผู้ขาย HDD ทั่วโลกนั้นจะพบว่าแบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกมากที่สุดอันดับ 3 อันดับแรก …

Seagate โคราช หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลก อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top