Infographic

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย   3 ปี ANT DELIVERY ฟู้ดเดลิเวอรี่ สัญชาติไทย โตก้าวกระโดดกว่า 1,000% ขยาย 150 สาขาทั่วประเทศ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาด COVID-19 ธุรกิจ Food delivery เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันสถานการณ์โควิดทั่วโลกและประเทศไทยได้คลี่คลายไปบ้าง แต่พฤติกรรมการสั่งอาหารออนไลน์ก็เป็นพฤติกรรมที่คนไทยนิยมและมีความคุ้นชินกันมากขึ้น ประกอบกับมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Food delivery ที่หลากหลาย ทำให้คนไทยมีโอกาสตัดสินใจเลือกสั่งอาหารได้ง่ายมากขึ้น สำหรับคนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ และปริมณฑล หรือตามหัวเมื่องใหญ่ ๆ คงรู้จักเพียง LINEMAN, GRAB และ FOOD PANDA วันนี้เรา จะมาแนะนำให้รู้จัก Food Delivery สัญชาติไทย ที่ให้บริการในอำเภอเมืองรอง แต่สามารถขยายสาขาได้มากถึง 150 สาขาทั่วประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 ปีที่ผ่านมา   ANT Delivery คือ Food Delivery Platform ให้บริการ จัดส่งอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงสินค้าที่ต้องการเชื่อมโยงผู้คนในชุมชนด้วยแนวคิด “Connect the Local” ด้วยบริการที่รู้ใจกว่า ภายใต้การดูแลของบริษัท กองทัพมด จำกัด เป็นบริษัท Start up สัญชาติไทย โดยมีที่ตั้งบริษัทอยู่ที่อำภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี   ANT Delivery ก่อตั้งโดย “คุณบิ๊ก” องครักษ์ อินทร์ทองช่วย โดยก่อนที่ คุณบิ๊ก จะมาทำธุรกิจ Ant Delivery คุณบิ๊กเองก็เป็นเพียงผู้ประกอบการร้านอาหารรายหนึ่ง ในอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับผลกระทบเหมือนผู้ประกอบการอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เช่นกัน ในครั้งนั้นเอง ร้านอาหารถูกบีบให้ปรับตัว เปลี่ยนวิธีการขาย ร้านอาหารทั้งหมดเกือบ 100% ต้องซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ หรือแอปพลิเคชัน โดยไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ณ เวลานั้น ในต่างจังหวัดหรือต่างอำเภอ ไม่ได้มีผู้บริการเดลิเวอรีที่เพียงพอ ในส่วนที่มีผู้ให้บริการที่น้อยมาก ๆ ก็ไม่ได้ตอบโจทย์กับคนต่างจังหวัดเท่าที่ควร เช่น ในเรื่องของการจ่ายเงินเป็นเครดิต และค่า GP ที่สูงเกินไป    จากปัญหาดังกล่าว ทำให้คุณบิ๊กเกิดคำถามว่า ทำไมถึงมีความแตกต่างของโอกาสระหว่างคนเมืองและคนต่างจังหวัดที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการขายหรือเทคโนโลยีที่เท่าเทียมกัน คุณบิ๊กจึงอยากแก้ไขในการบริการรับ-สั่งอาหารที่ตอบโจทย์กับพื้นที่ต่างจังหวัดของไทยให้มากขึ้น จึงได้รวมตัวกับทีมนักพัฒนาแอปพลิเคชันและนักการตลาดระดับประเทศที่มีความฝันเดียวกันร่วมพัฒนาจนสามารถขึ้นมาเป็นแอปพลิเคชัน Food delivery อันดับ 4 ของประเทศ ในระยะเวลาเพียง 1 ปี …

พามาฮู้จัก ANT DELIVERY ฟู้ดดิลิเวอรีสัญชาติไทย ที่มีพื้นที่ให้บริการเยอะที่สุดในไทย อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง วิสาหกิจชุมชนในภาคอีสานที่เลี้ยงโคนมและโคเนื้อมีหลายส่ำใด๋?

ในปี 2565 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีวิสาหกิจชุมชนที่เลี้ยงโคนมและโคเนื้อมากที่สุดในประเทศ อยู่ที่ 7,762 ราย รองลงมา คือ ภาคเหนือ อยู่ที่ 1,841 ราย, ภาคใต้ 728, ภาคกลาง 625 และ ภาคตะวันออก 116 5 อันดับจังหวัดที่มีวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงโคนมและโคเนื้อมากที่สุด อันดับที่ 1 ศรีสะเกษ 1,130 ราย อันดับที่ 2 ร้อยเอ็ด 855 ราย อันดับที่ 3 อุบลราชธานี 595 ราย อันดับที่ 4 มหาสารคาม 587 ราย อันดับที่ 5 นครราชสีมา 540 ราย หมายเหตุ: เป็นข้อมูลวิสาหกิจชุมชน เฉพาะประเภทธุรกิจการเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ (รหัสประเภทธุรกิจ 01411) อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #โคนม #โคเนื้อ #วิสาหกิจชุมชน

จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในอีสานหลายปานใด๋ ?  (มกราคม – สิงหาคม) ปี 2566  จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 163 ล้านคน

จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในอีสานหลายปานใด๋ ?  (มกราคม – สิงหาคม) ปี 2566  จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 163 ล้านคน   อ้างอิงจาก: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย #ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยในอีสาน 

ที่ผ่านมา “ข้าวไทย” ส่งออกอิหยังแหน่ ?

ที่ผ่านมา “ข้าวไทย” ส่งออกอิหยังแหน่? “ข้าว” สินค้าส่งออกหลักของไทย ที่มีพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุด ครอบคลุมครัวเรือนกว่า 4.9 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ รอบปีเพาะปลูก 2562/63 มีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด 68.54 ล้านไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ตามลำดับ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยผลิตข้าวเปลือกเฉลี่ยปีละ 31-33 ล้านตัน ซึ่งนำไปสีเป็นข้าวสารได้ประมาณ 20-22 ล้านตัน โดยใช้บริโภคภายในประเทศเฉลี่ย 11 ล้านตัน ส่วนที่เหลือมีทั้งส่งออกและสต๊อก แบ่งเป็น ข้าวเพื่อใช้บริโภคโดยตรง มีสัดส่วน 60-70% และ ข้าวเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ แป้งข้าว ขนมขบเคี้ยวจากข้าว การผลิตไฟฟ้าชีวมวล และการผลิตเอทานอล เป็นต้น มีสัดส่วน 30-40% ของความต้องการบริโภคข้าวในประเทศทั้งหมด ปริมาณการส่งออกข้าวของไทยในปี 2563 มีโครงสร้างดังนี้ – ข้าวขาว มีปริมาณการค้าสูงสุดในตลาดโลก โดยปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 2.24 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 39.1% ของปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งหมดของไทย ตลาดส่งออกหลักอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา และเอเชีย โดยส่งออกไปยังประเทศแองโกลาสูงสุดที่ 14.3% รองลงมาเป็นญี่ปุ่น (10.9%) โมซัมบิก (8.6%) แคเมอรูน (7.6%) และสหรัฐฯ (6.4%) ตามลำดับ – ข้าวนึ่ง ปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 1.45 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 25.3% ตลาดส่งออกหลักอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา โดยส่งออกไปยังประเทศแอฟริกาใต้สูงถึง 44.6% รองลงมาเป็นเบนิน (25.4%) เยเมน (8.4%) แคเมอรูน (4.9%) และโตโก (2.7%) ตามลำดับ – ข้าวหอมมะลิ ปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 1.19 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 20.7% ตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐฯ (41%) รองลงมาเป็นจีน (11.6%) ฮ่องกง (10.8%) และแคนาดา (6.8%) ตามลำดับ – ปลายข้าว เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแป้งและอาหารสัตว์ ปริมาณการส่งออกของไทยอยู่ที่ 5.9 แสนตันข้าวสาร คิดเป็นสัดส่วน 10.3% ตลาดส่งออกหลัก คือ เซเนกัล (18%) รองลงมาเป็นจีน (17.5%) อินโดนีเซีย (14.7%) และโกตดิวัวร์ (13.3%) ตามลำดับ – ข้าวเหนียว …

ที่ผ่านมา “ข้าวไทย” ส่งออกอิหยังแหน่ ? อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง ธุรกิจร้านอาหารและร้านนั่งดื่ม ในภาคอีสาน

ในปี 2565 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนธุรกิจร้านอาหารและร้านนั่งดื่มทั้งหมด อยู่ที่ 75,951 ร้าน โดย 5 อันดับจังหวัดที่มีธุรกิจร้านอาหารและร้านนั่งดื่มมากที่สุด อันดับที่ 1 นครราชสีมา 8,246 ร้าน อันดับที่ 2 ขอนแก่น 8,178 ร้าน อันดับที่ 3 อุบลราชธานี 7,375 ร้าน อันดับที่ 4 ร้อยเอ็ด 5,020 ร้าน และ อุดรธานี 5,020 ร้าน อันดับที่ 5 สุรินทร์ 4,798 ร้าน หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล, วิสาหกิจชุมชน และส่วนบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร (รหัสประเภทธุรกิจ 56101), การบริการด้านเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นหลักในร้าน (รหัสประเภทธุรกิจ 56301), และการบริการด้านเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นหลักในร้าน (รหัสประเภทธุรกิจ 56302) อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ร้านนั่งดื่ม #ธุรกิจร้านนั่งดื่ม #ร้านอาหาร #ธุรกิจร้านอาหาร

ชวนเบิ่ง 8 อันดับธุรกิจยอดนิยมของวิสาหกิจชุมชนในภาคอีสาน

อันดับที่ 1 การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ 7,762 ราย อยู่ในจังหวัดศรีสะเกษมากที่สุด อันดับที่ 2 การปลูกข้าวเจ้า 2,828 ราย อยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ดมากที่สุด อันดับที่ 3 การทอผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ 2,177 ราย อยู่ในจังหวัดสกลนครมากที่สุด อันดับที่ 4 การปลูกพืชทางเภสัชภัณฑ์ 1,802 ราย อยู่ในจังหวัดสกลนครมากที่สุด อันดับที่ 5 การเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด 1,773 ราย อยู่ในจังหวัดอำนาจเจริญมากที่สุด อันดับที่ 6 การบำบัดและการกำจัดของเสียโดยวิธีชีวภาพ 1,724 ราย อยู่ในจังหวัดศรีสะเกษมากที่สุด อันดับที่ 7 การทำฟาร์มผสมผสาน 1,402 ราย อยู่ในจังหวัดมหาสารคามมากที่สุด อันดับที่ 8 การเลี้ยงกระบือนมและกระบือเนื้อ 1,362 ราย อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีมากที่สุด อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #วิสาหกิจชุมชน

ฟ้าวมาเบิ่ง เช็คพิกัดร้านธงฟ้า “พาณิชย์” แดนอีสาน จ่อร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000

ฟ้าวมาเบิ่ง เช็คพิกัดร้านธงฟ้า “พาณิชย์”  แดนอีสาน จ่อร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000   จากกรณีที่รัฐบาลภายใต้การดำเนินงาน ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เมื่อย้อนไปดูการแถลงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet  ว่า นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet คือ นโยบายธงหลัก นโยบายหนึ่งของรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้ 2 หลักคิด ได้แก่   หลักคิดที่ 1 กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ : ยืนยันกรอบคิดนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หลักคิดสำคัญ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจไปทุกชุมชนทั่วทุกภูมิภาค ด้วยกลไกของ Blockchain ที่สามารถเขียน contract กำหนดกรอบการใช้จ่ายเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ เพราะฉะนั้น หลักคิดของนโยบายนี้ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะอยู่ในจุดใดของประเทศก็ตาม   หลักคิดที่ 2 สร้างโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย : เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน ในอนาคตจะสามารถมีกระเป๋าเงิน 2 กระเป๋า 1) กระเป๋าเงินสด 2) กระเป๋าเงินดิจิทัล   เงื่อนไข เป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร (กำลังพิจารณาเพิ่มเติม) ใช้จ่ายซื้อสินค้าทุกประเภท ไม่สามารถใช้ซื้อเหล้าหรือบุหรี่ หรือสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้   นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะผลักดันร้านค้าธงฟ้าให้เข้าในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่กังวลเรื่องการเก็บภาษี มองว่าอย่าไปกังวล เพราะไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาล เป้าหมายของรัฐบาล คือ จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ คือ ทุกคนทั่วหน้าทุกฝ่าย หวังว่า 6 เดือนที่ใช้เงินจำนวนนี้ จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและการสร้างงาน   เมื่อพลิกไปดู ร้านธงฟ้า ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผยว่า ให้ ร้านธงฟ้า …

ฟ้าวมาเบิ่ง เช็คพิกัดร้านธงฟ้า “พาณิชย์” แดนอีสาน จ่อร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง ตัวอย่าง 10 สินค้าขายดีบนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ในภาคอีสาน

หมายเหตุ: เป็นจำนวนยอดขายสะสมนับตั้งแต่เริ่มมีการขายสินค้าลงบนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ จนถึงเดือนกันยายน 2566 เฉพาะร้านค้าที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #สินค้าขายดี #ขายของออนไลน์

พามาฮู้จัก รายชื่อไม้มงคลพระราชทาน ไม้ประจำจังหวัดในอีสาน

พามาฮู้จัก รายชื่อไม้มงคลพระราชทาน ไม้ประจำจังหวัดในอีสาน   อ้างอิงจาก: Vayo.co.th   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ไม้มงคลพระราชทาน #ไม้ประจำจังหวัด #ไม้ประจำจังหวัดอีสาน  

เปรียบเทียบเมืองที่มีศักยภาพที่จะเป็น Mice ของภาคอีสาน มีอิหยังน่าสนใจแหน่ ? 

เปรียบเทียบเมืองที่มีศักยภาพที่จะเป็น Mice ของภาคอีสาน มีอิหยังน่าสนใจแหน่ ?    นอกจากปัจจุบันที่มี MICE City ในภาคอีสาน คือ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา แล้วนั้น ยังมีอีกสองจังหวัดที่มีศักยภาพที่จะเป็นเมืองไมซ์อีกด้วย   อุบลราชธานี การเดินทางมา จ. อุบลราชธานี สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน – สนามบินอุบลราชธานี ด้วยรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ หรือด้วยรถยนต์ส่วนตัว  จ.อุบลราชธานี เป็นเมืองไมซ์ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ผาชะนะได ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ส่วนของหน้าผาตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการคำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทย และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำโขง และประเทศลาวได้อีกด้วย วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือวัดเรืองแสง ที่มีจุดเด่นคือภาพเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์ บนผนังด้านหลังของอุโบสถ   นอกจากนี้ จ. อุบลราชธานี ยังมีสถานที่จัดกิจกรรมไมซ์ที่น่าสนใจ เช่น ศูนย์เรียนรู้ กลุ่มอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้านบ้านนาเยีย ที่เน้นการทำนาอินทรีย์ และมีเวิร์คช็อปการแปรรูปข้าวให้หมู่คณะหรือกลุ่มผู้สนใจเรียนรู้  หรือบ้านคันท่าเกวียน ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่รองรับการจัดกิจกรรม Team Building และให้ความรู้เรื่องการปลูกดอกฝ้าย และการทอผ้าฝ้าย   บุรีรัมย์ การเดินทางมา จ. บุรีรัมย์ สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน – สนามบินบุรีรัมย์ ด้วยรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ หรือด้วยรถยนต์ส่วนตัว  จ. บุรีรัมย์ เป็นเมืองไมซ์ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญสมัยอารยธรรมขอม เช่น ปราสาทหินพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ นอกจากนี้ยังมีช้างอารีนา สนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ความจุ 32,600 ที่นั่ง ที่นอกจากเป็นสนามกีฬาแล้ว ยังเป็นเป็นสถานที่จัดงาน Special Event และกิจกรรมไมซ์ต่างๆ ได้อีกมากมาย    นอกจากนี้ จ. บุรีรัมย์ ยังมีพื้นที่ทำกิจกรรมไมซ์ เช่น ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จ. บุรีรัมย์ ที่เปิดต้อนรับการเข้าชมและศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติ หรือ บ้านตาลอง ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัติวิถี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งเรื่องการปลูกข้าวไทย และการทอผ้าไหม ที่เปิดต้อนรับการเข้าศึกษาดูงานแบบเป็นหมู่คณะได้อีกด้วย   อ้างอิงจาก: สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง สำนักงานสถิติแห่งชาติ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : …

เปรียบเทียบเมืองที่มีศักยภาพที่จะเป็น Mice ของภาคอีสาน มีอิหยังน่าสนใจแหน่ ?  อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top