สรุปผลกระทบเศรษฐกิจข้อพิพาทชายแดน🇹🇭ไทย-🇰🇭กัมพูชา การชายแดนไทยทรุดตัวลงอย่างรุนแรงถึง 23% หรือกว่า 3 พันล้าน
🧐การค้าระหว่างไทย–กัมพูชาพึ่งพาการค้าผ่านชายแดนด่านบกมูลค่ากว่า 46.8% จากการค้า ไทย-กัมพูชาของด่านทั้งหมด (บก-น้ำ-อากาศ)
⚔️ทำให้ข้อพิพาทชายแดนที่ปะทุปลายเดือนพฤษภาคม ตลอดจนเหตุปะทะรุนแรงในเดือนกรกฎาคม เสี่ยงฉุดการค้ารวมให้ชะลอตัวอย่างหนัก เนื่องจากการปิดทำการของด่านชายแดน และความต้องการสินค้าจากไทยในตลาดกัมพูชาที่อาจหดตัวลงจากกระแสการแบนสินค้าไทย
ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนทรุดตัวลงอย่างรุนแรงถึง 23%
จากการจำกัดการทำการ ของด่านการค้าชายแดนกัมพูชาที่สำคัญหลายจุดในช่วงเดือนมิถุนายน ส่งผลให้มูลค่าการค้าที่มีอัตราการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง หดตัวลงอย่างรุนแรง ซึ่งอาจมีการทรุดตัวหนักขึ้นเนื่องจากเหตุปะทะชายแดนที่รุนแรงในเดือนกรกฎาคม
🚛เส้นทางโลจิสติกส์เชื่อมไทย-เวียดนามผ่านกัมพูชา: โอกาสและความท้าทายบนระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้🇻🇳🇹🇭
การค้าทางบกระหว่างไทยและเวียดนาม โดยมีกัมพูชาเป็นประเทศทางผ่าน นับเป็นเส้นทางโลจิสติกส์ที่สำคัญภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน ระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสามประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
เส้นทางคมนาคมหลัก
เส้นทางการค้าทางบกที่สำคัญซึ่งเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ประกอบด้วย 2 เส้นทางหลัก ดังนี้:
🛣️เส้นทาง R1 (Central Sub-Corridor): เป็นเส้นทางสายหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการขนส่งสินค้า มีระยะทางประมาณ 900 กิโลเมตร เริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสระแก้ว เข้าสู่ประเทศกัมพูชาที่ด่านคลองลึก-ปอยเปต ผ่านกรุงพนมเปญ และสิ้นสุดที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เส้นทางนี้มีข้อได้เปรียบในด้านระยะทางที่สั้นกว่าและโครงสร้างพื้นฐานที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้สามารถลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากไทยไปเวียดนามตอนใต้เหลือเพียง 23-31 ชั่วโมง
🛣️เส้นทาง R10 (Southern Coastal Sub-Corridor): เป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเล เริ่มต้นจากจังหวัดตราดของไทย ผ่านเข้าสู่จังหวัดเกาะกงของกัมพูชา และเชื่อมต่อไปยังจังหวัดฮาเตียนของเวียดนาม แม้จะยังมีการใช้งานน้อยกว่าเส้นทาง R1 แต่ก็มีศักยภาพในการเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเกษตรและสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกของไทยไปยังเวียดนามตอนใต้
- 🚧ด่านการค้าและพิธีการศุลกากร
- การขนส่งสินค้าผ่านแดนจะต้องผ่านพิธีการศุลกากรที่ด่านชายแดนของแต่ละประเทศ โดยมี ด่านอรัญประเทศ-ปอยเปต เป็นด่านที่มีความสำคัญและมีมูลค่าการค้าสูงสุด ปัจจุบันมีการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดนผ่านระบบ ASEAN Single Window ซึ่งช่วยให้การยื่นเอกสารศุลกากรเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
- สินค้าหลักและโอกาสทางการค้า
- สินค้าที่ขนส่งผ่านเส้นทางนี้มีความหลากหลาย โดยสินค้าส่งออกจากไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องจักรกล และชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่สินค้าจากเวียดนามที่ส่งมายังไทยมักเป็นสินค้าเกษตรและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาเส้นทางคมนาคมที่สะดวกและรวดเร็วขึ้นนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายตลาดไปยังเวียดนามตอนใต้ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงได้ง่ายขึ้น
- 🤝ข้อตกลงทางการค้าที่เกี่ยวข้อง
- แม้จะยังไม่มีข้อตกลงทางการค้าสามฝ่ายโดยตรง แต่การค้าบนเส้นทางนี้ได้รับอานิสงส์จากข้อตกลงทวิภาคีระหว่างประเทศต่างๆ เช่น ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) และข้อตกลงทวิภาคีเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งช่วยลดอุปสรรคทางภาษีและอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ
ดังนั้น การค้าทางบกไทย-เวียดนามผ่านกัมพูชาเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสูงในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสามประเทศ และมีแนวโน้มที่จะทวีความสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต หากมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
เหตุการปะทะ ไทย-กัมพูชา จึงไม่ได้กระทบเพียง การค้าแค่ 2 ประเทศ แต่ยังกระทบคู่ค้าสำคัญของไทยที่บริโภคสินค้าไทยอย่าง เวียดนาม ด้วยนั่นเอง
.
#การค้าชายแดน #เศรษฐกิจชายแดน #ไทยกัมพูชา #ISANInsightAndOutlook